Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: น้ำเขียว ที่ สิงหาคม 17, 2020, 11:12:50

หัวข้อ: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำเขียว ที่ สิงหาคม 17, 2020, 11:12:50
กำลังสนใจ accord 1.5T แต่ติตรง option น้อย เลยอยากสอบถามมีความเป็นไปได้มั้ยว่าจะมีการปรับเพิ่ม option ภายในสิ้นปีหรือต้นปีหน้า
หรือต้องไปเล่นตัว hybrid รองท็อปดี ปกติใช้รถน้อยเฉลี่ยปีละ 10,000โล 90%ใช้รถในเมือง ใจอยากได้ตัว 1.5T คิดว่าระยะยาวค่าบำรุง
รักษาน่าจะประหยัดกว่า ใจยังกลัว Hybrid อยู่แต่ชอบ option ที่ได้
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: MisterDante ที่ สิงหาคม 17, 2020, 11:23:11
ผมว่ารอดูก็ดีนะ น่าจะมีปรับอ้อพชั่นเล็กน้อย
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: Tpol ที่ สิงหาคม 17, 2020, 13:17:02
ผมก็รอเหมือนกัน สงสัยถ้าใส่options เอากำไรเท่าเดิม. ราคาคงไปไกล
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ สิงหาคม 17, 2020, 13:57:11
 
 น่าจะต้องรอ minorchange
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ สิงหาคม 17, 2020, 14:10:03
ยังไงก็ต้องใส่ option เพิ่มมาให้ครับ ส่วนจะเพิ่มเงินด้วยไหม ถ้าเพิ่ม แล้วจะเพิ่มเท่าไหร่ ค่อยว่ากันอีกที
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ สิงหาคม 17, 2020, 16:57:43
ตอบให้หมดเลยครับ 555

-สิ้นปีนี้ ต้นปีหน้าไม่มีครับขายตัวนี้ไปปกติแน่นอน ส่วนจะมีปรับออปชั่นก่อนจะ mc มั้ยโดยปกติ Honda ไม่
ค่อยทำ ไม่รู้กรณีนี้จะยังไงนะครับ ส่วน mc ก้ปี 2022 ครับอย่างเร็วมีนาอย่างช้า พย. ครับ ถึงรอ mc ผมเชื่อว่า 1.5t จะมีoption เท่าตัวhybrid ธรรมดามั้ยผมว่ามีโอกาสค่อนข้างน้อยครับแต่ก้ไม่แน่นะ แต่ของ hybrid tech ลืมไปได้เลยครับ ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนครับเครื่อง L15BG ราคาสูงครับแทบไม่ได้ถูกกว่าระบบ hybridเลยแถมมาโดนภาษีแพงกว่าไฮบริดหน่อยนึงด้วย ถ้าจะรอให้มีโอกาสเพิ่มเยอะหน่อยแต่ผมไม่ชัวร์นะ คงต้อง mc เลย

-ถ้าไม่แต่งรถซื้อมาใช้งานเลยผมเชียร์ HYBRID ตัว 1.639 นะส่วนลดก้มีไม่น้อย option ก้ถือว่าดีงามอยู่ได้ในราคา 1.5 ล้านกลางๆแน่นอน Accord ตัวนี้เปิดตัว+ส่งมอบ Q2-Q3 ปี 2019 ถ้า จขกท.ซื้อตอนนี้-ปลายปี รถจะใหม่ไปอีกหลายปีนะครับ ไม่ตกรุ่น จะไปตกรุ่นอีกทีก้ปี 2024 ครับ (mc ไม่นับเพราะมันคือbodyเดียวกัน) ตรงนี้มีมูลค่านะครับรอไปรอมา ถึงเวลาได้แบบที่ต้องการบ้าง ไม่ได้บ้าง แต่แน่ๆคือซื้อมา 1.5-2 ปีตกรุ่นแล้ว มูลค่าหายเยอะนะครับ ทั้งด้านการเงินและความรู้สึก

-เรื่องค่าบำรุงรักษาระยะยาว จขกท. ลองคำนวณดูละกันครับ ผมเอาของ turbo ก่อน (ผมใช้เอง Accord 1.5t) รถturbo ของ Honda (ยี่ห้ออื่นก้คล้ายๆกัน) จะมีการเข้าเช็คระยะถี่นะครับ รถจะมีการเตือนให้เช็คระยะ Service A (น้ำมันเครื่อง)& Service B (น้ำมันเครื่อง+กรอง)ทั้งคู่ไม่เกี่ยวข้องกับการเช็คระยะทุกๆ 10,000 km นะครับ ถ้าจะเอา performance ที่ดีที่สุดของรถ รถในคลับมีเตือนให้ถ่ายน้ำมันเครื่องตั้งแต่ 4,500km-10,000km+ ขึ้นอยู่กับการขับ รูปแบบพื้นที่ๆเราใช้ประจำ อากาศ ความชื้น ปัจจัยค่อนข้างเยอะ แต่ของ จขกท. บอกว่าใช้ในเมืองซะเยอะแล้วใช้น้อยด้วยผมค่อนข้างชัวว่าวิ่งไม่ถึง5,000km ก้เตือนให้ถ่ายแล้วครับผมเห็นคนที่ใช้น้อยประมาณนี้ทั้งนั้น ถึงอีกกรณีนึงสมมติว่ารถจขกท. เตือนให้เข้าถ่ายน้ำมันเครื่อง10,000km+ เลยบางคนเอาง่ายก้เข้าไปทีเดียวพร้อมเช็คระบบอื่นๆ10,000kmเลย ผมบอกได้ว่าถ้าเป็นคนใช้รถไม่เกิน 3-4 ปีไม่ต้องคิดอะไรมากมันไม่พังในระยะเวลานี้แน่ครับแต่ถ้าจะใช้เกิน5ปีรถturbo ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 7000-8500km อันนี้ผมหมายถึงใช้น้ำมันเครื่องเกรดtopเลยนะครับ ของศูนย์ผมยิ่งไม่มั่นใจ ผมเคยลองดูถ่ายออกมา ตอน 8500km สภาพก้ไม่น่าใช้ต่อเท่าไหร่แล้วครับ ประเทศไทยอากาศร้อนและชื้นอย่าไปทำตามบริษัทรถยนต์บอกเป้ะๆทั้งหมด อะไรไม่แพงเปลี่ยนก่อนได้จะดีครับเพราะเวลามันพังมันจะพังหลังรถหมดอายุรับประกันแน่นอนครับ ผมถึงบอกว่าที่ผมเล่าผมใช้รถ 5-7 ปีเลยดูแลดี ถ้าใช้ 3-4 ปีเอาเลยครับยังไงก้ได้ มันขายก่อนพังแน่นอน 5555

ส่วนกรณีไฮบริดซึ่งจริงๆแล้วเหมาะกับการใช้งานในเมืองของ จขกท. มากกว่า ประหยัดมากนะครับขับไม่เกิน 140 ไฮบริดของ honda ตัวนี้ที่บ้านผมมี G10 hbt อีกคัน 1 ปีพอดีวิ่งไป 40,000 นิดก้ปกติดีครับ เข้าเช็คระยะทุกๆ 10,000km ปกติ ถ้าเป็นกรณี จขกท. คงเป็น 6 เดือนเข้าทีมากกว่าเพราะใช้รถน้อย ไฮบริดถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000km/6เดือน ไม่มี service a&b ใดๆและมาตรฐานการใช้น้ำมันเครื่องก้ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวที่แพงๆแบบturbo เพราะอุณหภูมิเครื่องต่ำกว่าพอสมควร การดูแลเรื่องระบบไฮบริดพวกน้ำยาต่างๆก้เปลี่ยนตามระยะหรือก่อนระยะนิดหน่อยจะดี เดี๋ยวนี้ราคาไม่ได้แพงอะไรครับ เรื่องความทนทานผมเล่า ปสก. ให้ฟังละกันครับ ผมเคยมี G9 hybrid (ระบบไฮบริดตัวเดียวกับตัวใหม่แค่จูนนิดหน่อยกับย้ายตำแหน่งแบต) ที่บ้านขายไปสิงหา 2019 ใช้ไป 4 ปีนิดๆวิ่ง 220,000 km ระบบไฮบริดปกติทุกอย่างครับ เช็คระยะตามกำหนดไม่มีก่อน มีว่าช่วง6 เดือนสุดท้ายการเก็บไฟของแบตเริ่มเสื่อมลง 15-20% ผมมีเพื่อนอีกคันตัวเดียวกัน 4ปีครึ่งตอนขายวิ่งไป 350000km ก้ไม่มีปัญหาเรื่องไฮบริดครับ ที่เล่าคือจะบอกว่าระบบไฮบริดของ Toyota & Honda ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับแต่ถ้าใช้รถนานๆเกิน 8 ปีผมก้ไม่แน่ใจอะนะ 5555

*ลองดูครับสำหรับการใช้ของ จขกท. จริงๆเหมาะกับไฮบริดมากกว่านะผมว่า
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำเขียว ที่ สิงหาคม 18, 2020, 11:11:52
ตอบให้หมดเลยครับ 555

-สิ้นปีนี้ ต้นปีหน้าไม่มีครับขายตัวนี้ไปปกติแน่นอน ส่วนจะมีปรับออปชั่นก่อนจะ mc มั้ยโดยปกติ Honda ไม่
ค่อยทำ ไม่รู้กรณีนี้จะยังไงนะครับ ส่วน mc ก้ปี 2022 ครับอย่างเร็วมีนาอย่างช้า พย. ครับ ถึงรอ mc ผมเชื่อว่า 1.5t จะมีoption เท่าตัวhybrid ธรรมดามั้ยผมว่ามีโอกาสค่อนข้างน้อยครับแต่ก้ไม่แน่นะ แต่ของ hybrid tech ลืมไปได้เลยครับ ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนครับเครื่อง L15BG ราคาสูงครับแทบไม่ได้ถูกกว่าระบบ hybridเลยแถมมาโดนภาษีแพงกว่าไฮบริดหน่อยนึงด้วย ถ้าจะรอให้มีโอกาสเพิ่มเยอะหน่อยแต่ผมไม่ชัวร์นะ คงต้อง mc เลย

-ถ้าไม่แต่งรถซื้อมาใช้งานเลยผมเชียร์ HYBRID ตัว 1.639 นะส่วนลดก้มีไม่น้อย option ก้ถือว่าดีงามอยู่ได้ในราคา 1.5 ล้านกลางๆแน่นอน Accord ตัวนี้เปิดตัว+ส่งมอบ Q2-Q3 ปี 2019 ถ้า จขกท.ซื้อตอนนี้-ปลายปี รถจะใหม่ไปอีกหลายปีนะครับ ไม่ตกรุ่น จะไปตกรุ่นอีกทีก้ปี 2024 ครับ (mc ไม่นับเพราะมันคือbodyเดียวกัน) ตรงนี้มีมูลค่านะครับรอไปรอมา ถึงเวลาได้แบบที่ต้องการบ้าง ไม่ได้บ้าง แต่แน่ๆคือซื้อมา 1.5-2 ปีตกรุ่นแล้ว มูลค่าหายเยอะนะครับ ทั้งด้านการเงินและความรู้สึก

-เรื่องค่าบำรุงรักษาระยะยาว จขกท. ลองคำนวณดูละกันครับ ผมเอาของ turbo ก่อน (ผมใช้เอง Accord 1.5t) รถturbo ของ Honda (ยี่ห้ออื่นก้คล้ายๆกัน) จะมีการเข้าเช็คระยะถี่นะครับ รถจะมีการเตือนให้เช็คระยะ Service A (น้ำมันเครื่อง)& Service B (น้ำมันเครื่อง+กรอง)ทั้งคู่ไม่เกี่ยวข้องกับการเช็คระยะทุกๆ 10,000 km นะครับ ถ้าจะเอา performance ที่ดีที่สุดของรถ รถในคลับมีเตือนให้ถ่ายน้ำมันเครื่องตั้งแต่ 4,500km-10,000km+ ขึ้นอยู่กับการขับ รูปแบบพื้นที่ๆเราใช้ประจำ อากาศ ความชื้น ปัจจัยค่อนข้างเยอะ แต่ของ จขกท. บอกว่าใช้ในเมืองซะเยอะแล้วใช้น้อยด้วยผมค่อนข้างชัวว่าวิ่งไม่ถึง5,000km ก้เตือนให้ถ่ายแล้วครับผมเห็นคนที่ใช้น้อยประมาณนี้ทั้งนั้น ถึงอีกกรณีนึงสมมติว่ารถจขกท. เตือนให้เข้าถ่ายน้ำมันเครื่อง10,000km+ เลยบางคนเอาง่ายก้เข้าไปทีเดียวพร้อมเช็คระบบอื่นๆ10,000kmเลย ผมบอกได้ว่าถ้าเป็นคนใช้รถไม่เกิน 3-4 ปีไม่ต้องคิดอะไรมากมันไม่พังในระยะเวลานี้แน่ครับแต่ถ้าจะใช้เกิน5ปีรถturbo ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 7000-8500km อันนี้ผมหมายถึงใช้น้ำมันเครื่องเกรดtopเลยนะครับ ของศูนย์ผมยิ่งไม่มั่นใจ ผมเคยลองดูถ่ายออกมา ตอน 8500km สภาพก้ไม่น่าใช้ต่อเท่าไหร่แล้วครับ ประเทศไทยอากาศร้อนและชื้นอย่าไปทำตามบริษัทรถยนต์บอกเป้ะๆทั้งหมด อะไรไม่แพงเปลี่ยนก่อนได้จะดีครับเพราะเวลามันพังมันจะพังหลังรถหมดอายุรับประกันแน่นอนครับ ผมถึงบอกว่าที่ผมเล่าผมใช้รถ 5-7 ปีเลยดูแลดี ถ้าใช้ 3-4 ปีเอาเลยครับยังไงก้ได้ มันขายก่อนพังแน่นอน 5555

ส่วนกรณีไฮบริดซึ่งจริงๆแล้วเหมาะกับการใช้งานในเมืองของ จขกท. มากกว่า ประหยัดมากนะครับขับไม่เกิน 140 ไฮบริดของ honda ตัวนี้ที่บ้านผมมี G10 hbt อีกคัน 1 ปีพอดีวิ่งไป 40,000 นิดก้ปกติดีครับ เข้าเช็คระยะทุกๆ 10,000km ปกติ ถ้าเป็นกรณี จขกท. คงเป็น 6 เดือนเข้าทีมากกว่าเพราะใช้รถน้อย ไฮบริดถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000km/6เดือน ไม่มี service a&b ใดๆและมาตรฐานการใช้น้ำมันเครื่องก้ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวที่แพงๆแบบturbo เพราะอุณหภูมิเครื่องต่ำกว่าพอสมควร การดูแลเรื่องระบบไฮบริดพวกน้ำยาต่างๆก้เปลี่ยนตามระยะหรือก่อนระยะนิดหน่อยจะดี เดี๋ยวนี้ราคาไม่ได้แพงอะไรครับ เรื่องความทนทานผมเล่า ปสก. ให้ฟังละกันครับ ผมเคยมี G9 hybrid (ระบบไฮบริดตัวเดียวกับตัวใหม่แค่จูนนิดหน่อยกับย้ายตำแหน่งแบต) ที่บ้านขายไปสิงหา 2019 ใช้ไป 4 ปีนิดๆวิ่ง 220,000 km ระบบไฮบริดปกติทุกอย่างครับ เช็คระยะตามกำหนดไม่มีก่อน มีว่าช่วง6 เดือนสุดท้ายการเก็บไฟของแบตเริ่มเสื่อมลง 15-20% ผมมีเพื่อนอีกคันตัวเดียวกัน 4ปีครึ่งตอนขายวิ่งไป 350000km ก้ไม่มีปัญหาเรื่องไฮบริดครับ ที่เล่าคือจะบอกว่าระบบไฮบริดของ Toyota & Honda ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับแต่ถ้าใช้รถนานๆเกิน 8 ปีผมก้ไม่แน่ใจอะนะ 5555

*ลองดูครับสำหรับการใช้ของ จขกท. จริงๆเหมาะกับไฮบริดมากกว่านะผมว่า



ขอบคุณมากๆครับ เขียนละเอียดมากให้ข้อมูลเยอะอ่านแล้วประกอบการตัดสินใจได้เลยแบบนี้ เยี่ยมเลยครับ
คงต้องเปิดใจลองใช้ไฮบริดดูซะครั้ง เอาตัวรองท๊อปพอน่าสนใจเดี๋ยวไปลองขับหาข้อมูลเห็นว่ามีส่วนลดพอควร
ปล. ส่วนใหญ่ใช้รถ 10ปีขึ้นถึงขายครับ
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: 3RP4T ที่ สิงหาคม 29, 2021, 09:49:17
ตอบให้หมดเลยครับ 555

-สิ้นปีนี้ ต้นปีหน้าไม่มีครับขายตัวนี้ไปปกติแน่นอน ส่วนจะมีปรับออปชั่นก่อนจะ mc มั้ยโดยปกติ Honda ไม่
ค่อยทำ ไม่รู้กรณีนี้จะยังไงนะครับ ส่วน mc ก้ปี 2022 ครับอย่างเร็วมีนาอย่างช้า พย. ครับ ถึงรอ mc ผมเชื่อว่า 1.5t จะมีoption เท่าตัวhybrid ธรรมดามั้ยผมว่ามีโอกาสค่อนข้างน้อยครับแต่ก้ไม่แน่นะ แต่ของ hybrid tech ลืมไปได้เลยครับ ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนครับเครื่อง L15BG ราคาสูงครับแทบไม่ได้ถูกกว่าระบบ hybridเลยแถมมาโดนภาษีแพงกว่าไฮบริดหน่อยนึงด้วย ถ้าจะรอให้มีโอกาสเพิ่มเยอะหน่อยแต่ผมไม่ชัวร์นะ คงต้อง mc เลย

-ถ้าไม่แต่งรถซื้อมาใช้งานเลยผมเชียร์ HYBRID ตัว 1.639 นะส่วนลดก้มีไม่น้อย option ก้ถือว่าดีงามอยู่ได้ในราคา 1.5 ล้านกลางๆแน่นอน Accord ตัวนี้เปิดตัว+ส่งมอบ Q2-Q3 ปี 2019 ถ้า จขกท.ซื้อตอนนี้-ปลายปี รถจะใหม่ไปอีกหลายปีนะครับ ไม่ตกรุ่น จะไปตกรุ่นอีกทีก้ปี 2024 ครับ (mc ไม่นับเพราะมันคือbodyเดียวกัน) ตรงนี้มีมูลค่านะครับรอไปรอมา ถึงเวลาได้แบบที่ต้องการบ้าง ไม่ได้บ้าง แต่แน่ๆคือซื้อมา 1.5-2 ปีตกรุ่นแล้ว มูลค่าหายเยอะนะครับ ทั้งด้านการเงินและความรู้สึก

-เรื่องค่าบำรุงรักษาระยะยาว จขกท. ลองคำนวณดูละกันครับ ผมเอาของ turbo ก่อน (ผมใช้เอง Accord 1.5t) รถturbo ของ Honda (ยี่ห้ออื่นก้คล้ายๆกัน) จะมีการเข้าเช็คระยะถี่นะครับ รถจะมีการเตือนให้เช็คระยะ Service A (น้ำมันเครื่อง)& Service B (น้ำมันเครื่อง+กรอง)ทั้งคู่ไม่เกี่ยวข้องกับการเช็คระยะทุกๆ 10,000 km นะครับ ถ้าจะเอา performance ที่ดีที่สุดของรถ รถในคลับมีเตือนให้ถ่ายน้ำมันเครื่องตั้งแต่ 4,500km-10,000km+ ขึ้นอยู่กับการขับ รูปแบบพื้นที่ๆเราใช้ประจำ อากาศ ความชื้น ปัจจัยค่อนข้างเยอะ แต่ของ จขกท. บอกว่าใช้ในเมืองซะเยอะแล้วใช้น้อยด้วยผมค่อนข้างชัวว่าวิ่งไม่ถึง5,000km ก้เตือนให้ถ่ายแล้วครับผมเห็นคนที่ใช้น้อยประมาณนี้ทั้งนั้น ถึงอีกกรณีนึงสมมติว่ารถจขกท. เตือนให้เข้าถ่ายน้ำมันเครื่อง10,000km+ เลยบางคนเอาง่ายก้เข้าไปทีเดียวพร้อมเช็คระบบอื่นๆ10,000kmเลย ผมบอกได้ว่าถ้าเป็นคนใช้รถไม่เกิน 3-4 ปีไม่ต้องคิดอะไรมากมันไม่พังในระยะเวลานี้แน่ครับแต่ถ้าจะใช้เกิน5ปีรถturbo ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 7000-8500km อันนี้ผมหมายถึงใช้น้ำมันเครื่องเกรดtopเลยนะครับ ของศูนย์ผมยิ่งไม่มั่นใจ ผมเคยลองดูถ่ายออกมา ตอน 8500km สภาพก้ไม่น่าใช้ต่อเท่าไหร่แล้วครับ ประเทศไทยอากาศร้อนและชื้นอย่าไปทำตามบริษัทรถยนต์บอกเป้ะๆทั้งหมด อะไรไม่แพงเปลี่ยนก่อนได้จะดีครับเพราะเวลามันพังมันจะพังหลังรถหมดอายุรับประกันแน่นอนครับ ผมถึงบอกว่าที่ผมเล่าผมใช้รถ 5-7 ปีเลยดูแลดี ถ้าใช้ 3-4 ปีเอาเลยครับยังไงก้ได้ มันขายก่อนพังแน่นอน 5555

ส่วนกรณีไฮบริดซึ่งจริงๆแล้วเหมาะกับการใช้งานในเมืองของ จขกท. มากกว่า ประหยัดมากนะครับขับไม่เกิน 140 ไฮบริดของ honda ตัวนี้ที่บ้านผมมี G10 hbt อีกคัน 1 ปีพอดีวิ่งไป 40,000 นิดก้ปกติดีครับ เข้าเช็คระยะทุกๆ 10,000km ปกติ ถ้าเป็นกรณี จขกท. คงเป็น 6 เดือนเข้าทีมากกว่าเพราะใช้รถน้อย ไฮบริดถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000km/6เดือน ไม่มี service a&b ใดๆและมาตรฐานการใช้น้ำมันเครื่องก้ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวที่แพงๆแบบturbo เพราะอุณหภูมิเครื่องต่ำกว่าพอสมควร การดูแลเรื่องระบบไฮบริดพวกน้ำยาต่างๆก้เปลี่ยนตามระยะหรือก่อนระยะนิดหน่อยจะดี เดี๋ยวนี้ราคาไม่ได้แพงอะไรครับ เรื่องความทนทานผมเล่า ปสก. ให้ฟังละกันครับ ผมเคยมี G9 hybrid (ระบบไฮบริดตัวเดียวกับตัวใหม่แค่จูนนิดหน่อยกับย้ายตำแหน่งแบต) ที่บ้านขายไปสิงหา 2019 ใช้ไป 4 ปีนิดๆวิ่ง 220,000 km ระบบไฮบริดปกติทุกอย่างครับ เช็คระยะตามกำหนดไม่มีก่อน มีว่าช่วง6 เดือนสุดท้ายการเก็บไฟของแบตเริ่มเสื่อมลง 15-20% ผมมีเพื่อนอีกคันตัวเดียวกัน 4ปีครึ่งตอนขายวิ่งไป 350000km ก้ไม่มีปัญหาเรื่องไฮบริดครับ ที่เล่าคือจะบอกว่าระบบไฮบริดของ Toyota & Honda ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับแต่ถ้าใช้รถนานๆเกิน 8 ปีผมก้ไม่แน่ใจอะนะ 5555

*ลองดูครับสำหรับการใช้ของ จขกท. จริงๆเหมาะกับไฮบริดมากกว่านะผมว่า

เดาใจ H ผิดไปหลายอย่างเลยนะครับ เขาเป็นค่ายติสต์
หัวข้อ: Re: สอบถาม honda accord 1.5 T
เริ่มหัวข้อโดย: Automotive Innovations ที่ สิงหาคม 29, 2021, 10:42:52
10ปีขาย เทอร์โบเหอะครับ ถึงแม้ว่าไฮบริดจะรับประกัน 10ปี แต่ผมว่า ยังไงก็เสี่ยงกว่าอยู่ดี อีกอย่าง 1.5T ก็ของค่อนข้างครบแล้วนะครับ เซ็นซิ่งก็มี ไปแต่งล้อ ผมว่าจบ