Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Starscream ที่ กันยายน 02, 2020, 09:27:18

หัวข้อ: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Starscream ที่ กันยายน 02, 2020, 09:27:18
พอดีอยู่ในวงสนทนาเรื่องรถ มีรุ่นพี่ท่านนึงแย้งมาว่าม้ายุโรปตัวโตกว่าของฝั่งญี่ปุ่น ผมฟังดูไม่ค่อยจะเข้าใจ
(นับเฉพาะเครื่องเทอร์โบ)
ผมเข้าใจว่าอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆมันก็คล้ายๆกันอาจแตกต่างกันบ้างตรงระบบส่งกำลังระบบขับเคลื่อน
คำว่าม้าฝั่งไหนตัวใหญ่ตัวเล็กกว่ามันคืออะไรครับ ญี่ปุ่น Vs ยุโรปในกรณีแรงม้าเท่ากันเอาแบบแรงม้าที่ล้อนะครับไม่ใช่ที่เครื่อง
มันต่างกันหรอครับ

ยกตัวอย่างรถ Bmw F30 G20 v Is 250 เครื่อง2.0เทอร์โบ หรือ Bmw M2 v Sti Evo (ในกรณีแรงม้าที่ล้อเท่ากันครับ)

ขอบคุณครับผม
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กันยายน 02, 2020, 09:41:09
คำว่าแรงม้า ก็คือ แรงม้า จะเป็น HP หรือ PS ก็คือ แรงม้า

แรงม้า จะส่วนไหนของโลก หน่วยแรงม้า มันก็เท่ากันครับ

ไม่งั้นต้องแยก Dyno Test เป็นสำหรับ รถญี่ปุ่น กับ รถยุโรป ละมั้ง เพราะถ้าม้าเล็ก ม้าใหญ่ ม้าลำพอง ม้าตะวันออก ม้าแอฟริกา ไม่เหมือนนะ

แต่....การที่จะมาวัดแรงม้าลงล้อ หรือ แรงม้าสุดท้าย อย่างเดียวที่รู้ได้ คือ Dyno Test ครับ

เพราะ...แรงม้าเครื่องยนต์ตาม spec จะวัดกันที่ flywheel ทั้งนั้น(แทบจะ 100% ของทุกค่าย ที่บอกใน spec sheet หรือ tech sheet) แต่จะไปประกบกับเกียร์อะไรนั้น อยู่บนบอดี้อะไรนั้น เฟืองท้ายเท่าไหร่นั้น มันก็เป็นเรื่องของตัวรถละ ซึ่งผลลัพธ์สุดท้าย แรงม้าที่ล้อ ก็ก็ต่างกันออก ขนาดเครื่องยนต์บล็อคเดียวกัน อยู่คนละ body มันก็ยังให้แรงม้าที่ล้อ ไม่เท่ากัน

ตัวอย่างง่ายๆ 2.8 บน Revo, Futuner, Commuter, Innova Crysta ยังแรงม้าลงล้อไม่เท่ากัน ดังนั้น ไม่ต้องเทียบคนละยี่ห้อ คนละรุ่น เกียร์คนละแบบ ให้เหนื่อยครับ

ถ้าอยากรู้จริงๆ จับขึ้น Dyno Test ถ้าต้องการวัดแรงม้ากันจริงๆ ผมเชื่อวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เชื่อแรงโม้ จะมาขิงกัน จะมาเกทับ จะมาความรู้สึก ไสยศาสตร์ เพราะมันใช้ไม่ได้ ยกเว้นคำคุย อวด ไปงั้นๆ

สุดท้าย แรงม้า ก็ไม่ได้บอกว่า อัตราเร่งใครจะดีกว่ากัน (กรณีที่ไกล้เคียงกันนะ) หรือ ความเร็ว หรือ 0-402 เมตร ใครจะเร็วกว่ากัน เพราะมันก็ต้องดู body style ของรถ น้ำหนักรถ ยาง การเอาแรงม้าลงล้อ และองค์ประกอบหลายๆ อย่างอีก
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: turbo lover ที่ กันยายน 02, 2020, 09:55:26
อดีตใช่แต่ปัจจุบัน ผมว่าไม่ค่อยต่างกันมากเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
รถญี่ปุ่นเครื่อง1.5t โรงงานเคลม
173แรงม้า แรงบิด220
วัดจริงที่ไดโน่ ม้ามากกว่า ที่โรงงานเคลมไว้อีกครับ ทั้งแรงม้า และ แรงบิดเลยครับ
วันก่อน ผมขับ civic rs อยู่
เจอBmw f30 320d
วิ่งขวามาประมาณ150-160
เลยอยากลองดูว่า จะสู้เค้าไหวไหม
เจ้า civic rsมันก็สามารถ ดูดตูด Bmw ได้สบายๆเลยครับ ปมดูดตูดจนความเร็วประมาณ200เค้าก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหนีรถผมได้เลย
ถ้าจะหนีได้คงต้องหลัง207ไปแล้ว
แต่หลังจากที่เค้าหนีไม่ออก คงหัวร้อนมั้งครับ เค้าพยายามวางมิดผมทุกซ็อตเลย
ผมก็เลยหลบซ้าย ปล่อยเค้าแซงไป
ผมจึงได้รู้ว่า ตาราง เปรียบเทียบ อัตราเร่ง ของเว็ปHeadlight mag ใช้อ้างอิงได้จริงครับ ถ้าตัวเลขที่จับเวลามันพอๆกัน มันก็วิ่งพอๆกันอะครับ
อีกเคส นึง ผมเคย ลองกันสนุกๆกับ86
ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ คือ พอๆกันครับ
ผมขอสรุปอีกทีว่า ปัจจุบัน
ม้ายุโรป ม้า ญี่ปุ่นไม่ต่างกันมากเท่าสมัยก่อนแล้วครับ


หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ กันยายน 02, 2020, 10:00:44
มันก้คือรถแต่ล่ะยี่ห้อสามารถทำแรงม้าที่ออกมาจากเครื่อง สูญเสียพลังงานไประหว่างนั้นจนไปถึงล้อขนาดไหน

ครับ ไม่เกี่ยวหรอกครับว่าแรงม้าประเทศไหนๆ  ยกตัวอย่างถ้าเป็น eu hybrid Mercedes ก้ทำได้แรงกว่า

ใครๆ bmw แรงม้าน้อยกว่าอยู่แล้วจะจามหลังไม่แปลก ส่วน Volvo นั้นแรงม้า แรงบิดเพียบแต่วิ่งตาม

Mercedes hybrid ไกลครับ ส่วนถ้าเป็นเครื่องเบนซินปกติ bmw จะค่อนข้างทำให้ lost ในระบบขับเคลื่อน

หายน้อยกว่า Mercedes ครับ รถแรงม้าพอกันถ้าเป็นเบนซิน ไม่ไฮบริด bmw จะมีอัตราเร่งที่ดีกว่าหน่อย

รถญี่ปุ่นหลายรุ่นอาจจะมีlostในระบบส่งกำลังเยอะก้เลยม้าที่ล้อหายเยอะครับ แต่ถ้ารุ่นใหม่ๆผมเห็นไปขึ้น

Dyno หายจากแรงม้าที่เครื่อง 20-30 ตัวก้ปกตินะครับ รถยุโรปก้แบบนั้น จะมีก้ bmw ที่หายน้อยหน่อย

เวลาขึ้นdyno อย่าไปหลงกล สายปรับdyno นะครับ 555

*ไม่มีหรอกครับ ม้าตัวโต ตัวเล็ก 55555
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ กันยายน 02, 2020, 10:07:59
สมัยก่อน มันมีหลายหน่วยไง

PS (JIS) .. มาตรฐานการวัดแบบญี่ปุ่น
HP (DIN) .. มาตรฐานการวัดแบบเยอรมัน

ซึ่งมันก็จะมี detail ย่อยลงไปอีกว่า วัดที่ล้อ หรือ วัดที่ฟลายวีล สารพัด เลยเป็นที่มาว่า ม้าญี่ปุ่น / ม้าเยอรมัน ครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nin122 ที่ กันยายน 02, 2020, 10:14:57
ผมขอเดาว่า ที่ไม่เท่ากันนั่น (ใหญ่กว่า เล็กกว่า) พูดถึง Brake Horse Power(BHP) และ Horse Power(HP) รึเปล่าครับ

1 HP  = 0.986 BHP หรือ 1 BHP = 1.0139 HP

ในยุโรป เช่น อังกฤษ จะใช้ BHP มากกว่า ตัวเลขที่อยู่ในเอกสาร อาจจะโชว์น้อยกว่า ประเทศอื่นๆ 
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bmmac ที่ กันยายน 02, 2020, 10:41:39
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Peet Sayumpoo ที่ กันยายน 02, 2020, 10:50:31
อดีตใช่แต่ปัจจุบัน ผมว่าไม่ค่อยต่างกันมากเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
รถญี่ปุ่นเครื่อง1.5t โรงงานเคลม
173แรงม้า แรงบิด220
วัดจริงที่ไดโน่ ม้ามากกว่า ที่โรงงานเคลมไว้อีกครับ ทั้งแรงม้า และ แรงบิดเลยครับ
วันก่อน ผมขับ civic rs อยู่
เจอBmw f30 320d
วิ่งขวามาประมาณ150-160
เลยอยากลองดูว่า จะสู้เค้าไหวไหม
เจ้า civic rsมันก็สามารถ ดูดตูด Bmw ได้สบายๆเลยครับ ปมดูดตูดจนความเร็วประมาณ200เค้าก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหนีรถผมได้เลย
ถ้าจะหนีได้คงต้องหลัง207ไปแล้ว
แต่หลังจากที่เค้าหนีไม่ออก คงหัวร้อนมั้งครับ เค้าพยายามวางมิดผมทุกซ็อตเลย
ผมก็เลยหลบซ้าย ปล่อยเค้าแซงไป
ผมจึงได้รู้ว่า ตาราง เปรียบเทียบ อัตราเร่ง ของเว็ปHeadlight mag ใช้อ้างอิงได้จริงครับ ถ้าตัวเลขที่จับเวลามันพอๆกัน มันก็วิ่งพอๆกันอะครับ
อีกเคส นึง ผมเคย ลองกันสนุกๆกับ86
ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ คือ พอๆกันครับ
ผมขอสรุปอีกทีว่า ปัจจุบัน
ม้ายุโรป ม้า ญี่ปุ่นไม่ต่างกันมากเท่าสมัยก่อนแล้วครับ

ถ้าดูดตูดแล้วยังสูสี ผมว่าอย่างนั้นยิ่งน่าแปลกเลยครับ เพราะถ้า Civic วัดม้าจริงที่ล้อแรงกว่าสเป็คจริง แสดงว่าแรงม้าลงล้อจริงต้องแรงมากกว่า 320d
เพราะ 320d เคยเห็นคนในกลุ่มเฟซบุ๊คไปขึ้นไดโนมา ม้าที่ลงล้อแค่ 170 กว่าแรงเองครับโดยประมาณ (ผมก็ไม่เคยเทสเอง ไม่รู้จริงเท็จประการใดน่ะครับ)
บวกกับน้ำหนักตัว Civic ที่น้อยกว่า 320d f30 อยู่ 200 กว่ากิโล ด้วย 2 ตัวแปรนี้ ผมคิดแบบชาวบ้านน่ะครับ คือ Civic มันต้องแซงได้แบบไม่ต้องดูดท้ายเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ กันยายน 02, 2020, 11:03:19
เป็นความเชื่อมาจากในอดีต ที่วัดค่ากำลังงานด้วยมาตรฐานที่ต่างกันครับ
รวมไปถึงการวัดค่าการใช้เชื้อเพลิงด้วย
แต่ในความเป็นจริง ลงถนนแล้วอาจต่างกันไป
ระบบส่งกำลัง อากาศพลศาสตร์ ฯลฯ เป็นตัวแปรที่สำคัญครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ กันยายน 02, 2020, 11:23:36
อดีตใช่แต่ปัจจุบัน ผมว่าไม่ค่อยต่างกันมากเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
รถญี่ปุ่นเครื่อง1.5t โรงงานเคลม
173แรงม้า แรงบิด220
วัดจริงที่ไดโน่ ม้ามากกว่า ที่โรงงานเคลมไว้อีกครับ ทั้งแรงม้า และ แรงบิดเลยครับ
วันก่อน ผมขับ civic rs อยู่
เจอBmw f30 320d
วิ่งขวามาประมาณ150-160
เลยอยากลองดูว่า จะสู้เค้าไหวไหม
เจ้า civic rsมันก็สามารถ ดูดตูด Bmw ได้สบายๆเลยครับ ปมดูดตูดจนความเร็วประมาณ200เค้าก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหนีรถผมได้เลย
ถ้าจะหนีได้คงต้องหลัง207ไปแล้ว
แต่หลังจากที่เค้าหนีไม่ออก คงหัวร้อนมั้งครับ เค้าพยายามวางมิดผมทุกซ็อตเลย
ผมก็เลยหลบซ้าย ปล่อยเค้าแซงไป
ผมจึงได้รู้ว่า ตาราง เปรียบเทียบ อัตราเร่ง ของเว็ปHeadlight mag ใช้อ้างอิงได้จริงครับ ถ้าตัวเลขที่จับเวลามันพอๆกัน มันก็วิ่งพอๆกันอะครับ
อีกเคส นึง ผมเคย ลองกันสนุกๆกับ86
ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ คือ พอๆกันครับ
ผมขอสรุปอีกทีว่า ปัจจุบัน
ม้ายุโรป ม้า ญี่ปุ่นไม่ต่างกันมากเท่าสมัยก่อนแล้วครับ

ถ้าดูดตูดแล้วยังสูสี ผมว่าอย่างนั้นยิ่งน่าแปลกเลยครับ เพราะถ้า Civic วัดม้าจริงที่ล้อแรงกว่าสเป็คจริง แสดงว่าแรงม้าลงล้อจริงต้องแรงมากกว่า 320d
เพราะ 320d เคยเห็นคนในกลุ่มเฟซบุ๊คไปขึ้นไดโนมา ม้าที่ลงล้อแค่ 170 กว่าแรงเองครับโดยประมาณ (ผมก็ไม่เคยเทสเอง ไม่รู้จริงเท็จประการใดน่ะครับ)
บวกกับน้ำหนักตัว Civic ที่น้อยกว่า 320d f30 อยู่ 200 กว่ากิโล ด้วย 2 ตัวแปรนี้ ผมคิดแบบชาวบ้านน่ะครับ คือ Civic มันต้องแซงได้แบบไม่ต้องดูดท้ายเลยนะครับ

ซีวิคตัวนี้มันแรงจริงๆครับ ของผม R60 S Remap วัดมา 190ม้า ยังโดนเลยครับ
รถเค้า เบากว่า Aerodynamic ก็ดีพอตัว ผมไม่แปลกใจเลย
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: basterias ที่ กันยายน 02, 2020, 11:25:17
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้

+1 ครับ ดีเซลเร่งสนุกรอบต้น อยากวัดที่ความเร็วปลายเอาเบนซินเทอโบมาวัดกันดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tom sawyer ที่ กันยายน 02, 2020, 11:32:09
สมัยก่อนที่ไม่เท่ากันเพราะมันม้าคนละหน่วย ถ้าหน่วยเดียวกันก็เท่ากัน
เครื่องเสียงก็เหมือนกัน 8000 วัตต์อะไรของมัน บอร์ดเท่ากล่องไม้ขีด
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ กันยายน 02, 2020, 11:33:46
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้

+1 ครับ ดีเซลเร่งสนุกรอบต้น อยากวัดที่ความเร็วปลายเอาเบนซินเทอโบมาวัดกันดีกว่าครับ
ช่ายน่าเบื่อโคดครับ ขับไปจะหลับครึ่งคันเร่งกับกดเต็มดึงไม่ต่าง เบนซินturbo มันกว่าเยอะ

528i f10 ยุคนี้นี่ถ้าไม่remap มาจะโดนไม่ยากครับ ถ้าremap ถึงจะยังสบายเครื่อง BMW Honda Audi

ยุคนี้ทำต่อได้เยอะ แต่ถ้าแรงตั้งแต่จากโรงงานต้อง AMG ครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ กันยายน 02, 2020, 11:54:00
เขาน่าจะหมายถึงเทอร์โบฝรั่งลูกใหญ่กว่าเทอร์โบหยุ่นหรือเปล่า?
เราไม่เคยได้ยินใครพูดถึงม้าลงล้อรถฝรั่งหย่ายโตกว่าหยุ่นมาก่อนเลยครับ
ปล. เดี๋ยวนี้รถหยุ่นแรงขึ้นถ้าจะซื้อรถข่มกันขริงความแรงกันกดเร่งแซงรถหยุ่นขาดๆไปPluginHBฝรั่งครับ  8)
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ กันยายน 02, 2020, 12:20:12
จะว่าไปม้ายุโรปเองยังไม่เท่ากันเลย

audiเป็นต้น ม้าจริงอาจจะมากกว่าที่เคลมอีก
หรือvolvo t8 เคลม400ม้า แต่วิ่งจริงก็เท่าๆรถ300ม้า

การบลัฟกันมันอยู่ที่mildsetของแต่ละคน ข่มกันไปข่มกันมา แต่หาประโยชน์ไม่ได้ เหมือนมีปมด้อยชอบเอาชนะคนอื่น
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ กันยายน 02, 2020, 13:25:42
มันเป็นคำพูดในสมัยก่อนที่รถบ้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นเครื่อง NA กับรถยุโรปที่เป็น Turbo ซะส่วนใหญ่มั้งครับ

เพราะพวกรถ Turbo ยุโรปแรงบิดรอบต่ำมาไวแถมเป็น flat torque อีก เหยียบแล้วออกตัวเร็วไม่ต้องคั้นคันเร่งมาก
ส่วนรถบ้าน NA ต้องลากรอบกว่าจะได้ม้ามา แรงบิดรอบต้นน้อยช่วงออกตัวก็ช้ากว่า

ขับรถในช่วงรอบต่ำปกติทั่วไปยังไงก็รู้สึกว่ารถยุโรปแรงกว่าคับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: turbo lover ที่ กันยายน 02, 2020, 13:56:12
อดีตใช่แต่ปัจจุบัน ผมว่าไม่ค่อยต่างกันมากเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
รถญี่ปุ่นเครื่อง1.5t โรงงานเคลม
173แรงม้า แรงบิด220
วัดจริงที่ไดโน่ ม้ามากกว่า ที่โรงงานเคลมไว้อีกครับ ทั้งแรงม้า และ แรงบิดเลยครับ
วันก่อน ผมขับ civic rs อยู่
เจอBmw f30 320d
วิ่งขวามาประมาณ150-160
เลยอยากลองดูว่า จะสู้เค้าไหวไหม
เจ้า civic rsมันก็สามารถ ดูดตูด Bmw ได้สบายๆเลยครับ ปมดูดตูดจนความเร็วประมาณ200เค้าก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหนีรถผมได้เลย
ถ้าจะหนีได้คงต้องหลัง207ไปแล้ว
แต่หลังจากที่เค้าหนีไม่ออก คงหัวร้อนมั้งครับ เค้าพยายามวางมิดผมทุกซ็อตเลย
ผมก็เลยหลบซ้าย ปล่อยเค้าแซงไป
ผมจึงได้รู้ว่า ตาราง เปรียบเทียบ อัตราเร่ง ของเว็ปHeadlight mag ใช้อ้างอิงได้จริงครับ ถ้าตัวเลขที่จับเวลามันพอๆกัน มันก็วิ่งพอๆกันอะครับ
อีกเคส นึง ผมเคย ลองกันสนุกๆกับ86
ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ คือ พอๆกันครับ
ผมขอสรุปอีกทีว่า ปัจจุบัน
ม้ายุโรป ม้า ญี่ปุ่นไม่ต่างกันมากเท่าสมัยก่อนแล้วครับ

ถ้าดูดตูดแล้วยังสูสี ผมว่าอย่างนั้นยิ่งน่าแปลกเลยครับ เพราะถ้า Civic วัดม้าจริงที่ล้อแรงกว่าสเป็คจริง แสดงว่าแรงม้าลงล้อจริงต้องแรงมากกว่า 320d
เพราะ 320d เคยเห็นคนในกลุ่มเฟซบุ๊คไปขึ้นไดโนมา ม้าที่ลงล้อแค่ 170 กว่าแรงเองครับโดยประมาณ (ผมก็ไม่เคยเทสเอง ไม่รู้จริงเท็จประการใดน่ะครับ)
บวกกับน้ำหนักตัว Civic ที่น้อยกว่า 320d f30 อยู่ 200 กว่ากิโล ด้วย 2 ตัวแปรนี้ ผมคิดแบบชาวบ้านน่ะครับ คือ Civic มันต้องแซงได้แบบไม่ต้องดูดท้ายเลยนะครับ
ผมตั้งใจดูดครับไม่ได้ตั้งใจแซงครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 02, 2020, 14:03:19
เท่าที่ผมเข้าใจ   

สมัยก่อน  ยุ่น  200  ม้า   ได้ม้าไม่เต็ม  ถ้ายุโรป 200 ม้า  มันวัดได้เกินเล็กน้อย

จึงเป็นที่มาของ  ม้าผอม  กับม้าอ้วน...
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: toffyearn ที่ กันยายน 02, 2020, 14:17:36
ม้าต่างกัน เพราะหน่วยวัดที่ไม่เหมือนกัน วิธีวัดที่แตกต่างกันคับ
แต่แรงม้าเท่ากัน อัตราเร่งก็อาจต่างกันได้ เพราะมีปัจจัยอื่นอีกเยอะ เช่น แรงบิดที่ต่างกัน แรงม้าที่รอบต่ำรอบกลาง น้ำหนักรถ น้ำหนักข้อเหวี่ยง จำนวนลูกสูบ ขนาด x ช่วงชัก กระบอกสูบ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ACE ที่ กันยายน 02, 2020, 14:43:23
เท่าที่ผมเข้าใจ   

สมัยก่อน  ยุ่น  200  ม้า   ได้ม้าไม่เต็ม  ถ้ายุโรป 200 ม้า  มันวัดได้เกินเล็กน้อย

จึงเป็นที่มาของ  ม้าผอม  กับม้าอ้วน...

ม้าผอม กับ ม้าอ้วน ตัวไหนวิ่งเร็วกว่ากันครับผม  ::)
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ กันยายน 02, 2020, 14:57:33
ผมเชื่อว่าคนเข้าใจผิดเพราะแบบนี้

รถยุโรปส่วนใหญ่มีหลายเครื่องในแพลทฟอร์มเดียวกัน

แต่

รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีเครื่องแบบเดียวในแต่ละรุ่น



หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ กันยายน 02, 2020, 14:58:45
ที่แรงม้า แรงบิด เท่ากัน รอบเครื่องเท่ากัน แต่ตัวแปรมีอยู่หลายอย่างครับ ทั้งน้ำหนักรถ ทั้งอัตราทดเกียร์และระบบขับเคลื่อน ระบบ ECU ควบคุมเครื่องยนต์และเกียร์

หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ กันยายน 02, 2020, 15:45:24
รถยุโรปโดยเฉพาะรถเยอรมันหลายค่ายแชร์เครื่องยนต์ตัวเดียวกันในรถหลายรุ่นครับ แล้วมาใส่สเป็คตามเซ็คเม้นที่รถอยู่ เพราะฉะนั้นแรงม้าไม่จำเป็นจะต้องตรงสเป็คบนกระดาษเสมอครับ และอย่างค่าย BMW หรือ Audi ตัวเลขแรงม้าสมมุติว่าให้มาที่ 200 ม้านั่นหมายถึงเครื่องยนต์ตัวนี้จะมีแรงม้าไม่ต่ำกว่า 200 ตัวไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือเอารถไปขับในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเยอะๆ พอลองไปเทสบนไดโนในสภาพปกติจึงมีแรงม้าเกินคาดกว่าที่สเป็คระบุ ผมเคยไปอ่านบทความนึงเกี่ยวกับรถค่าย Porsche เค้าก็ใช้วิธีแบบนี้เวลาใส่สเป็คของรถแต่ละรุ่นเหมือนกัน
ส่วนรถญี่ปุ่นส่วนมากจะวัดแรงม้าตรงๆจากเครื่องก็จะได้แรงม้าจริงตามสเป็ค ผมเองเคยมี Nissan 370z ที่วัดแรงม้าที่ล้อได้ 26x ตัวบนไดโนเจ็ทซึ่งบวกลบแล้วก็ตรงตามสเป็ค 332 แรงม้าจากโรงงานและเคยมี BMW 335i ที่ม้าลงพื้นได้เท่าๆกันกับ 370z แต่ในสเป็คระบุว่า BmW มี 306 แรงม้าครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: voyager ที่ กันยายน 02, 2020, 16:16:32
อดีตใช่แต่ปัจจุบัน ผมว่าไม่ค่อยต่างกันมากเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
รถญี่ปุ่นเครื่อง1.5t โรงงานเคลม
173แรงม้า แรงบิด220
วัดจริงที่ไดโน่ ม้ามากกว่า ที่โรงงานเคลมไว้อีกครับ ทั้งแรงม้า และ แรงบิดเลยครับ
วันก่อน ผมขับ civic rs อยู่
เจอBmw f30 320d
วิ่งขวามาประมาณ150-160
เลยอยากลองดูว่า จะสู้เค้าไหวไหม
เจ้า civic rsมันก็สามารถ ดูดตูด Bmw ได้สบายๆเลยครับ ปมดูดตูดจนความเร็วประมาณ200เค้าก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหนีรถผมได้เลย
ถ้าจะหนีได้คงต้องหลัง207ไปแล้ว
แต่หลังจากที่เค้าหนีไม่ออก คงหัวร้อนมั้งครับ เค้าพยายามวางมิดผมทุกซ็อตเลย
ผมก็เลยหลบซ้าย ปล่อยเค้าแซงไป
ผมจึงได้รู้ว่า ตาราง เปรียบเทียบ อัตราเร่ง ของเว็ปHeadlight mag ใช้อ้างอิงได้จริงครับ ถ้าตัวเลขที่จับเวลามันพอๆกัน มันก็วิ่งพอๆกันอะครับ
อีกเคส นึง ผมเคย ลองกันสนุกๆกับ86
ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ คือ พอๆกันครับ
ผมขอสรุปอีกทีว่า ปัจจุบัน
ม้ายุโรป ม้า ญี่ปุ่นไม่ต่างกันมากเท่าสมัยก่อนแล้วครับ

ถ้าดูดตูดแล้วยังสูสี ผมว่าอย่างนั้นยิ่งน่าแปลกเลยครับ เพราะถ้า Civic วัดม้าจริงที่ล้อแรงกว่าสเป็คจริง แสดงว่าแรงม้าลงล้อจริงต้องแรงมากกว่า 320d
เพราะ 320d เคยเห็นคนในกลุ่มเฟซบุ๊คไปขึ้นไดโนมา ม้าที่ลงล้อแค่ 170 กว่าแรงเองครับโดยประมาณ (ผมก็ไม่เคยเทสเอง ไม่รู้จริงเท็จประการใดน่ะครับ)
บวกกับน้ำหนักตัว Civic ที่น้อยกว่า 320d f30 อยู่ 200 กว่ากิโล ด้วย 2 ตัวแปรนี้ ผมคิดแบบชาวบ้านน่ะครับ คือ Civic มันต้องแซงได้แบบไม่ต้องดูดท้ายเลยนะครับ

ซีวิคตัวนี้มันแรงจริงๆครับ ของผม R60 S Remap วัดมา 190ม้า ยังโดนเลยครับ
รถเค้า เบากว่า Aerodynamic ก็ดีพอตัว ผมไม่แปลกใจเลย

การดูดตูดอาศัยคันหน้าช่วยแหวกอากาศให้ ไม่ได้พิสูจน์อะไรว่าแรงกว่า หรือแม้แต่แรงทัดเทียม
แน่จริงต้องแซงให้ได้ครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rapee001 ที่ กันยายน 02, 2020, 16:39:03
หลักๆมันต่างกันที่วิธีวัดครับว่าวัดที่ไหน เช่นข้อเหวี่ยงเครื่อง,เพลาขับ หรือวัดล้อรถ (ยิ่งจุดวัดห่างจากเครื่องเท่าไหร่ ม้ายิ่งน้อยลงเท่านั้น)

เช่นรถญี่ปุ่น ปรกติจะวัดที่ข้อเหวี่ยงเครื่อง เพราะได้ม้าเต็มหน่วย ยกเว้นรถสปอร์ต skyline gtr 280 ม้า ใช้วิธีวัดที่ล้อเหมือนกับรถยุโรปเพื่อฆ่าม้าส่วนเกินออก (ม้าหายตาม % สูญเสียของระบบส่งกำลัง)
ตามข้อตกลงตอนม้าที่ผู้ผลิตตกลงกันเอง

บางครั้ง รถยุโรปเล่นวัดม้าที่ล้อ+เปิดแอร์+วิทยุ เต็มที่เพื่อตอนม้าลงแบบสุดๆ หรือแจ้งแรงม้าต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างที่ usa ทำในยุค muscle car เพื่อลดภาษี และค่าเบี้ยประกัน

อีกส่วนที่ทำให้ม้าเยอรมันหรือม้าเมกาตัวโตกว่าม้าญี่ปุ่นมาจากแรงบิดรอบต่ำที่มากกว่าทำให้เหยียบแล้วรู้สึกพุ่งกว่า
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 02, 2020, 16:59:18
แล้ว ม้า จีน  ล่ะครับ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYouToo ที่ กันยายน 02, 2020, 17:59:41
ถ้าพูดตามหลักการ ตอบว่าไม่จริง เพราะหน่วยวัดเดียวกัน ย่อมเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน

แต่สาเหตุที่ทำให้มีข้อสงสัย "ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ" ขึ้นมา เนื่องจากวิธีการเคลมแรงม้าของแต่ละแบรนด์ ไม่เหมือนกัน อย่างที่หลายท่านได้ตอบไว้ในความเห็นก่อนหน้านี้ ที่รถญี่ปุ่นมักแจ้งแรงม้าที่เครื่องทำออกมาได้สูงสุดในสภาวะการผลิต แต่รถยุโรปอาจจะแจ้ง แรงม้าที่เครื่องยนต์สามารถทำได้ในสภาวะที่แย่ที่สุด(อุณหภูมิสูง/ความดันอากาศน้อย)

อีกเหตุผล ก็คือ รถยุโรป ใช้เครื่องเทอร์โบมาก่อนรถญี่ปุ่น เครื่องเทอร์โบจะมีทอร์คมาในรอบต่ำกว่าเครื่อง NA แถมมาในลักษณะ flat นอกจากนั้น ด้วยแรงม้าที่เท่ากัน รถเทอร์โบจะให้ ทอร์คสูงกว่าเครื่อง NA พอสมควร

กรณี FC/FK 1.5T ผมตามข้อมูลการเทสไดโนในหลายๆประเทศ พบว่าแรงม้าที่เครื่องของ FC/FK 1.5T อยู่ที่ประมาณ 190 ps(อยากรู้มากว่า G10 1.5T จะลงล้อหรือที่เครื่องเท่าไหร่ ดีไม่ดีแรงเท่ากับ FC/FK 1.5T >> spec เครื่องเหมือนกัน ??) ส่วนแรงม้าลงล้อจะอยู่ที่ 165-170 ps ใกล้เคียงกับที่ Honda เคลมไว้ที่ 173 ps ไม่ต้องแปลกใจที่วิ่งสูสีกับ Dig 1.6T และวิ่งดีกว่า MK3.5 ที่เคลมแรงม้าไว้มากกว่าที่ 190/180 เพราะ FC/FK มีแรงม้าที่ล้อพอๆกับ Dig และมากกว่า MK3.5(ลงล้อประมาณ 155ps แถมหนักกว่า FK/FC)

นอกจากประเด็นแรงม้าลงล้อแล้ว ยังมีอัตราส่วนแรงม้าลงล้อต่อน้ำหนักตัวด้วย ข้อมูลที่ผมมี F30 2.0d แรงม้าลงล้อพอๆหรือมากกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ FK/FC 1.5T (165-175 ps) แต่ F30 หนักกว่า FC/FK ประมาณ 170 kg แสดงว่าม้า F30 แบกน้ำหนักมากกว่า FC/FK แต่ F30 ได้ทอร์คมาช่วย เลยพอชดเชยกันไป ผลที่ออกมาเลยวิ่งสูสีกัน ความเร็วปลายก็ออกมาสูสีกันด้วย (หาก FC/FK ไม่ล็อคความเร็วปลาย)ที่ประมาณ 230+ เป็นอัตรส่วนตามตัวเลขแรงม้า

ฝั่ง BM ไม่ต้องตกใจหากเห็นว่า FC/FK เขาวิ่งมาเบียดได้เพราะตัวเลขด้านบนสามารถยืนยันได้ ยิ่งปัจจุบัน FC/FK พ่วงกล่อง(ไม่ปลดปลาย) หรือ remap(ปลดปลาย) มากันเยอะ หากฝั่ง BM ไม่โมมา สามารถโดน FC/FK ที่โมมา ได้ในทุกช่วงนะครับ(ขั้นต่ำลงล้อ 200 พวกทำเยอะ 300) ที่ผมมีตัวเลขของ FC/FK ไม่ใช่เพราะผมใช้อยู่นะครับ ของผมสาย EU แต่โดนเหล่า FC/FK เล่นด้วยบ่อย(เลยมาศึกษาเก็บข้อมูลไว้) แต่อยากจะเตือนฝั่ง FK/FC ว่าขนาดรถเดิมๆไม่โม ช่วงล่างท่านยังเอาความแรงรถไม่ค่อยจะอยู่เลย อย่าลืมไปอัพเกรดถ้ารักจะขับเร็วหรือชอบไปเล่นกับรถฝั่ง EU

มีอีกประเด็นที่ผมสงสัยอยากถามเป็นความรู้เพิ่มเติม เมื่อพิจารณาที่แรงม้าลงล้อเท่ากัน ค่า cd เท่ากัน น้ำหนักรถพอๆกัน ทำไม Top speed รถ EU ถึงมีแนวโน้มไปได้มากกว่ารถญี่ปุ่น (ผมยังไม่มีตัวเลขเปรียบเทียบที่ชัดเจนแน่นอน แค่สังเกตและรีวิวตัวเลขโดยคร่าวๆ)

หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ กันยายน 02, 2020, 18:06:06
.
.
อ่านมาทั้งหมด ผมสงสัยอย่างเดียว
คนขับ Civic เทอร์โบนี่
ส่วนใหญ่เค้ามีปมอะไรกับรถยุโรปหรอครับ?

เจอบนถนนผมขับธรรมดา ต้องมาจี้ตูดตลอด
เป็นไรมากเปล่า
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ กันยายน 02, 2020, 18:07:47
ประลองความเร็วบนถนนหลวงตามดูดท้ายกันแนะนำให้หาคนรู้จักลองจะดีกว่านะครับ  ;D เคยมีมาแล้วตอนซีวิคFDออกใหม่ๆก็ไปไล่ดูดBMWแบบนี้และแต่BMWเค้าไม่เล่นด้วยแต่ซีวิคตามตอแยต่อ BMWเค้ากลับรถซีวิคดันไปกลับรถตามเลยโดนBMWเค้ายิงใส่ประตูหลัง เจ้าของรถมาถามในกลุ่มจะซ่อมยังไงดีเป็นนัดรียนมหาลัยกลัวโดนที่บ้านด่า  :-\ รถบ้านๆให้มีเทอร์โบยังไงเจอขาแรงของจริงอย่างอิมเพรซ่า/อีโวลูชั่นเข้าไปก็คนละชั้นกันอยู่ดี  ::)
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ กันยายน 02, 2020, 18:16:15
.
.
อ่านมาทั้งหมด ผมสงสัยอย่างเดียว
คนขับ Civic เทอร์โบนี่
ส่วนใหญ่เค้ามีปมอะไรกับรถยุโรปหรอครับ?

เจอบนถนนผมขับธรรมดา ต้องมาจี้ตูดตลอด
เป็นไรมากเปล่า

อัตตาของคนบางประเภทครับที่เอาของราคาน้อยกว่ามาเทียบกับของราคาสูงกว่าถ้าแพ้ก็อ้างว่ารถราคาถูกกว่าแพ้ไม่แปลกชนะขึ้นมาก็คุยไปไปทั่วว่าชนะมาแล้วยังงี้ๆๆนะ มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว :-\ มีกรณีนึงมีคนเอาซีวิคแต่งมาแล่นเทียบกับซีรอคโคไม่ได้ทำอะไรแล้วพอเร่งได้พอๆกันก็ลงในเพจอวยซีวิคว่าดีแรง พอทักไปว่าไม่ให้ซีรอคโคเค้าแต่งเต็มมาลองใหม่บ้างล่ะ? พวกซีรอคโค/กอล์ฟเค้าฟาดได้ระดับ400-500แรงม้าง่ายๆไม่มีขีดจำกัดเรื่องเกียร์ด้วยเปลี่ยนคลัทให้รองรับแรงม้าที่เพิ่มมหาศาลก็ได้โดยเกียร์ไม่พัง พวกก็อ้างว่าเพื่อนกันเทียบสนุกๆไม่ได้จริงจัง......ตอนเทียบบอกเอาแค่สนุกๆไม่ได้จริงจังแต่พอชนะขึ้นมาเอาวีดีโอลงคุยโม้ไปทั่วเลย  :-\ ถ้าผมเป็นเจ้าของซีรอคโคผมจะไม่คบหาเพื่อนแบบนี้ล่ะครับ  :-X
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: InBkk ที่ กันยายน 02, 2020, 18:36:44
- หน่วยวัดแรงม้าที่ต่างกันเล็กน้อย เช่น 200 PS = 197 HP
- แรงม้าเท่ากัน แต่แรงบิดเยอะกว่า
- Power Band กว้างกว่า

ฯลฯ
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: I_AM_M ที่ กันยายน 02, 2020, 18:50:00
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ถ้า528 เจอtype R ละครับ อันไหนกิน
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bmmac ที่ กันยายน 02, 2020, 20:26:55
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ถ้า528 เจอtype R ละครับ อันไหนกิน
528 เดิมๆ นะ  ก็ต้องโดน type R สิ
น่าจะมี f20 135i นะ น่าจะมันส์ ไล่กับ type R
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: turbo lover ที่ กันยายน 02, 2020, 20:59:07
อดีตใช่แต่ปัจจุบัน ผมว่าไม่ค่อยต่างกันมากเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
รถญี่ปุ่นเครื่อง1.5t โรงงานเคลม
173แรงม้า แรงบิด220
วัดจริงที่ไดโน่ ม้ามากกว่า ที่โรงงานเคลมไว้อีกครับ ทั้งแรงม้า และ แรงบิดเลยครับ
วันก่อน ผมขับ civic rs อยู่
เจอBmw f30 320d
วิ่งขวามาประมาณ150-160
เลยอยากลองดูว่า จะสู้เค้าไหวไหม
เจ้า civic rsมันก็สามารถ ดูดตูด Bmw ได้สบายๆเลยครับ ปมดูดตูดจนความเร็วประมาณ200เค้าก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหนีรถผมได้เลย
ถ้าจะหนีได้คงต้องหลัง207ไปแล้ว
แต่หลังจากที่เค้าหนีไม่ออก คงหัวร้อนมั้งครับ เค้าพยายามวางมิดผมทุกซ็อตเลย
ผมก็เลยหลบซ้าย ปล่อยเค้าแซงไป
ผมจึงได้รู้ว่า ตาราง เปรียบเทียบ อัตราเร่ง ของเว็ปHeadlight mag ใช้อ้างอิงได้จริงครับ ถ้าตัวเลขที่จับเวลามันพอๆกัน มันก็วิ่งพอๆกันอะครับ
อีกเคส นึง ผมเคย ลองกันสนุกๆกับ86
ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ คือ พอๆกันครับ
ผมขอสรุปอีกทีว่า ปัจจุบัน
ม้ายุโรป ม้า ญี่ปุ่นไม่ต่างกันมากเท่าสมัยก่อนแล้วครับ

ถ้าดูดตูดแล้วยังสูสี ผมว่าอย่างนั้นยิ่งน่าแปลกเลยครับ เพราะถ้า Civic วัดม้าจริงที่ล้อแรงกว่าสเป็คจริง แสดงว่าแรงม้าลงล้อจริงต้องแรงมากกว่า 320d
เพราะ 320d เคยเห็นคนในกลุ่มเฟซบุ๊คไปขึ้นไดโนมา ม้าที่ลงล้อแค่ 170 กว่าแรงเองครับโดยประมาณ (ผมก็ไม่เคยเทสเอง ไม่รู้จริงเท็จประการใดน่ะครับ)
บวกกับน้ำหนักตัว Civic ที่น้อยกว่า 320d f30 อยู่ 200 กว่ากิโล ด้วย 2 ตัวแปรนี้ ผมคิดแบบชาวบ้านน่ะครับ คือ Civic มันต้องแซงได้แบบไม่ต้องดูดท้ายเลยนะครับ

ซีวิคตัวนี้มันแรงจริงๆครับ ของผม R60 S Remap วัดมา 190ม้า ยังโดนเลยครับ
รถเค้า เบากว่า Aerodynamic ก็ดีพอตัว ผมไม่แปลกใจเลย

การดูดตูดอาศัยคันหน้าช่วยแหวกอากาศให้ ไม่ได้พิสูจน์อะไรว่าแรงกว่า หรือแม้แต่แรงทัดเทียม
แน่จริงต้องแซงให้ได้ครับ
โอเครคับ ผมตอบแบบนี้แล้วกันครับผมเห็นว่าความแรงมันสูสีกัน  แล้วBmคันนั้นเค้าก็อยากลองนะครับ แต่พอผม มาเล่าสู่กันฟังสนุกๆดันมายุให้ไปเจอ528iบ้างหล่ะ
Civic 1.5tเดิมๆมันสู้528iไม่ได้อยู่แล้วนิครับ
ผมตอบแบบนี้แล้วกันครับ
ซีรี่ย3 320d ตัวก่อน ผมว่าถ้าคุณ ติดตามดูคลิปHeadlight mag อยู่ตลอด คุณก็จะรู้ว่า320dมันไม่ได้แรงกว่าเลยครับ ไม่ว่าช่วงไหน


หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: turbo lover ที่ กันยายน 02, 2020, 21:03:06
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ลองดูครับ
https://youtu.be/mPDgTau3uME
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mochalatte ที่ กันยายน 02, 2020, 23:21:16
โลกเปลี่ยนไปตามเวลา
ค่า emission เลยเป็นปัจจัยสำคัญ
รถเคยแรงด้วยปริมาตรกระบอกสูบ
ถูกลดลงด้วยการอัดอากาศ
รถบ้านฯ อย่าง VW golf Bmw 528i หรือ Civic fk
เลยเอามาแต่งสมรรถนะกันง่ายๆ แรงจิง
ก้อต้องดูกันไปในเรื่องความคงทน ความปลอดภัย
หวังว่าผู้ผลิตจะเผื่อมาให้ upgradeในทุกอย่าง เพื่อจะให้เทียบเคียงรถแรงที่เค้าตั้งใจทําให้แรงงง
ผมก่อเป็นคนนึงที่ไม่แคร์เรื่องประกันตัวรถถ้าราคารถไม่ได้แพงมาก แต่งจัดเต็ม
แต่แอบกังวลถ้าต้องซ่อมแองในราคารถที่สูงขึ้น อาจต้องรอหมดประกัน
แรงม้าที่โฆษณาในทุกรุ่น มาจากความประสงค์ของการตลาด บางเจ้าเพื่อส่วนลด บางเจ้าเพื่อใกล้เคียงหรือเหนือกว่า ปัจจัยอีกหลายอย่างเช่นเกียร์ ecu และ ระบบเบรค ก้อมีความสำคัญ ไม่แพ้กัน
อันนี้แค่เรื่อง performance นะครับ ไม่รวม กลิ่น เสียง และ อื่นๆ
รถญี่ปุ่นไม่ได้ด้อยกว่ารถยุโรปเลย แค่เรามีเทส แบบไหน


หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TrippleA ที่ กันยายน 03, 2020, 09:37:58
เคยไปค้นๆ ดูในเว็ปที่เขาทำสอบรถหลายๆ รุ่นรวบรวมเอาไว้มันมีข้อนึงที่น่าสังเกต อย่างทดสอบความเร็ว 0-60 MPH  สมมติรถฝรั่งเคลมที่ 10 วินาที เขาทดสอบทั่วๆ ไปก็จะได้ 9.7-10  แต่รถญี่ปุ่นจะได้ 10-10.4 อะไรแบบนั้น

จะทำให้ได้ 10 เลยก็จะมีเงื่อนไขพิเศษหน่อยตามประสาคนเอซีย


แรงม้าก็คงแบบเดียวกัน 
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: spitfire ที่ กันยายน 03, 2020, 09:57:59
หลายท่านพูดถึงแล้ว
ผมคิดว่าม้าตัวใหญ่กับม้าตัวเล็กมันมีที่มาจากบนกระดาษครับ
รถยุโรปเคลมเท่านี้ รถญี่ปุ่นเคลมเท่านั้น
พอวิ่งจริงๆ อ้าว พลิกล๊อค (อาจจะโม้ อาจจะระบบส่งกำลัง บลาๆ)

แต่ถ้าเป็นม้าลงพื้น วัดไดโน่เดียวกัน มันคือมาตรฐานแล้ว ไม่มีแล้วล่ะครับ ตัวเล็กตัวใหญ่
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bmmac ที่ กันยายน 03, 2020, 10:41:11
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ลองดูครับ
https://youtu.be/mPDgTau3uME
135i เดิมๆ กับ type R ก็น่าสนุกแล้ว
แต่ถ้าโมมาเต็มทั้งคู่ ยิ่งสนุกมากครับ
https://youtu.be/sUmUe3B9cjA
หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Starscream ที่ กันยายน 04, 2020, 12:49:30
ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับคำตอบครับ จริงๆคำตอบของผมที่แย้งเขาไว้ว่า จริงๆแรงม้าวัดกันที่ล้อดีกว่า ไม่ใช่บอกว่าม้าใหญ่ม้าเล็กมาจากไหน

เอาตรงๆผมก็เข้าใจพี่ท่านนั้นนะครับ เนื่องจากเขาอายุมากกว่าผม  การขิงกันไปมาแทบไม่มีประโยชน์ครับ มันหลายตัวแปลหลายปัจจัยมากๆ




หัวข้อ: Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ynot9x ที่ กันยายน 04, 2020, 22:33:08
ถ้าพูดตามหลักการ ตอบว่าไม่จริง เพราะหน่วยวัดเดียวกัน ย่อมเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน

แต่สาเหตุที่ทำให้มีข้อสงสัย "ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ" ขึ้นมา เนื่องจากวิธีการเคลมแรงม้าของแต่ละแบรนด์ ไม่เหมือนกัน อย่างที่หลายท่านได้ตอบไว้ในความเห็นก่อนหน้านี้ ที่รถญี่ปุ่นมักแจ้งแรงม้าที่เครื่องทำออกมาได้สูงสุดในสภาวะการผลิต แต่รถยุโรปอาจจะแจ้ง แรงม้าที่เครื่องยนต์สามารถทำได้ในสภาวะที่แย่ที่สุด(อุณหภูมิสูง/ความดันอากาศน้อย)

อีกเหตุผล ก็คือ รถยุโรป ใช้เครื่องเทอร์โบมาก่อนรถญี่ปุ่น เครื่องเทอร์โบจะมีทอร์คมาในรอบต่ำกว่าเครื่อง NA แถมมาในลักษณะ flat นอกจากนั้น ด้วยแรงม้าที่เท่ากัน รถเทอร์โบจะให้ ทอร์คสูงกว่าเครื่อง NA พอสมควร

กรณี FC/FK 1.5T ผมตามข้อมูลการเทสไดโนในหลายๆประเทศ พบว่าแรงม้าที่เครื่องของ FC/FK 1.5T อยู่ที่ประมาณ 190 ps(อยากรู้มากว่า G10 1.5T จะลงล้อหรือที่เครื่องเท่าไหร่ ดีไม่ดีแรงเท่ากับ FC/FK 1.5T >> spec เครื่องเหมือนกัน ??) ส่วนแรงม้าลงล้อจะอยู่ที่ 165-170 ps ใกล้เคียงกับที่ Honda เคลมไว้ที่ 173 ps ไม่ต้องแปลกใจที่วิ่งสูสีกับ Dig 1.6T และวิ่งดีกว่า MK3.5 ที่เคลมแรงม้าไว้มากกว่าที่ 190/180 เพราะ FC/FK มีแรงม้าที่ล้อพอๆกับ Dig และมากกว่า MK3.5(ลงล้อประมาณ 155ps แถมหนักกว่า FK/FC)

นอกจากประเด็นแรงม้าลงล้อแล้ว ยังมีอัตราส่วนแรงม้าลงล้อต่อน้ำหนักตัวด้วย ข้อมูลที่ผมมี F30 2.0d แรงม้าลงล้อพอๆหรือมากกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ FK/FC 1.5T (165-175 ps) แต่ F30 หนักกว่า FC/FK ประมาณ 170 kg แสดงว่าม้า F30 แบกน้ำหนักมากกว่า FC/FK แต่ F30 ได้ทอร์คมาช่วย เลยพอชดเชยกันไป ผลที่ออกมาเลยวิ่งสูสีกัน ความเร็วปลายก็ออกมาสูสีกันด้วย (หาก FC/FK ไม่ล็อคความเร็วปลาย)ที่ประมาณ 230+ เป็นอัตรส่วนตามตัวเลขแรงม้า

ฝั่ง BM ไม่ต้องตกใจหากเห็นว่า FC/FK เขาวิ่งมาเบียดได้เพราะตัวเลขด้านบนสามารถยืนยันได้ ยิ่งปัจจุบัน FC/FK พ่วงกล่อง(ไม่ปลดปลาย) หรือ remap(ปลดปลาย) มากันเยอะ หากฝั่ง BM ไม่โมมา สามารถโดน FC/FK ที่โมมา ได้ในทุกช่วงนะครับ(ขั้นต่ำลงล้อ 200 พวกทำเยอะ 300) ที่ผมมีตัวเลขของ FC/FK ไม่ใช่เพราะผมใช้อยู่นะครับ ของผมสาย EU แต่โดนเหล่า FC/FK เล่นด้วยบ่อย(เลยมาศึกษาเก็บข้อมูลไว้) แต่อยากจะเตือนฝั่ง FK/FC ว่าขนาดรถเดิมๆไม่โม ช่วงล่างท่านยังเอาความแรงรถไม่ค่อยจะอยู่เลย อย่าลืมไปอัพเกรดถ้ารักจะขับเร็วหรือชอบไปเล่นกับรถฝั่ง EU

มีอีกประเด็นที่ผมสงสัยอยากถามเป็นความรู้เพิ่มเติม เมื่อพิจารณาที่แรงม้าลงล้อเท่ากัน ค่า cd เท่ากัน น้ำหนักรถพอๆกัน ทำไม Top speed รถ EU ถึงมีแนวโน้มไปได้มากกว่ารถญี่ปุ่น (ผมยังไม่มีตัวเลขเปรียบเทียบที่ชัดเจนแน่นอน แค่สังเกตและรีวิวตัวเลขโดยคร่าวๆ)

เห็นพูดถึง f30 และ MK3.5 เลยขอแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ
รถผมจูน stage 1 แล้วทั้ง 2 คัน
ตอนเจอ fc/fk ถ้าขับ f30 ไม่ค่อยเจอ fc/fk มาเล่นด้วยเลยครับ ยกเว้นคันที่แต่งและ remap แล้วแต่ก็น้อยมากนานๆที
ส่วนใหญ่ผมเจอแต่ขับเรียบร้อย เลยคิดว่าคงเป็นเพราะเกียร์ cvt ทำให้ลักษณ์การขับรถไม่ค่อยดุดันรึเปล่า
ถ้าเทียบรถผมก่อน ติดกล่อง คงหนีออกยาก ถ้าเจอ fc/fk ที่จูนมา แต่ f30 เบนซิน หลังติดกล่องแล้ว เหมือนเป็นรถคนละคัน ความแรงพอๆกับ 328i ที่ไม่โดนตอนม้าเลยครับ + ได้เกียร์ zf8 อีก อันนี้ key หลักเลยครับทำให้ม้าลงพื้นไม่ loss เยอะ อีกหนึ่งตัวแปลที่ว่าทำไมม้า bm ไม่หนีจากใน spec มาก
ส่วนใหญ่ผมจะเจอพวกแต่ civic gen เก่าลงเครื่อง k มาไล่ครับ

ส่วน MK3.5 คนใช้น้อยมากขับไปนี่ไม่ซ้ำใครเลยครับ คันนี้เจอท้าทายบ่อยครับเพราะแรกๆไม่แต่งแต่อัตราเร่งดีเลยมักเจอขาซิ่งมาดันครับ
ถ้ามาเดิมๆ ช่วงแรกที่ไม่เข้าใจรถ รู้สึกผิดหวังกับอัตราเร่ง แต่ก็แซงรถทั่วๆไปกระบะสายแว้นพอได้อยู่ครับ
หลังจากใช้ได้ซักระยะเริ่มจับอาการรถได้ เทียบ e20 กับ e85 น้ำมัน e85 อัตราเร่งดีกว่า และ ตอนขับแบบบู้ ถ้าเข้าเกียร์ D ปล่อยให้ สมองกลเกียร์เปลี่ยนเกียร์ให้เอง จะตอบสนองช้ากว่า แบบ เข้าเกียร์ S และ shift เกียร์เอง มากพอสมควรครับ เลยไปดูตารางความเร็วแต่ละเกียร์ที่ web headligth เคยทดสอบและมาฝึก shift เกียร์เองจนคล่อง ผลที่ได้คือดึงประสิทธิภาพของเครื่อง ecoboot ออกมาได้มากขึ้นทำให้ขับมันส์กว่าเดิมมาก อันนี้เป็นที่มาว่าเครื่อง ecoboot 180ps ทำไม loss ในระบบเยอะ เลยเข้าใจว่าถึง ford จะถอดเกียร์ power shift ออกแต่ 6 speed at ที่ได้แป้น paddle มาด้วยถ้าใช้คล่องแล้วอัตราเร่งไม่ขี้เหร่ครับ ส่วนตอนนี้ ติดกล่อง DTE แล้วมั่นใจกว่าเดิมมากครับ เคยไปลองรถกดได้มากกว่าที่ headlight เทน 215 ผมกดไป 220 แต่รถด้านหน้าเยอะเลยถอนก่อนครับ

ส่วนประสบการณ์เจอ fc/fk เคยเจอกันช่วงสั้นๆ บนทางด่วนรถมาก ถ้าต้องอาศัยการมุดให้คล่อง ส่วนใหญ่เอาตัวรอดได้ครับ รู้สึกเลยว่า fc/fk ถ้าต้องมุดเจอรถหนาแน่นหน่อยเขาเสียเปรียบครับ ส่วนตอนโล่งๆ เคยเจออยู่ครั้งนึง แต่เขาถอนที่ 190 ครับ