Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: รักเธอเสมอ ที่ กันยายน 02, 2020, 22:53:38
-
ใครเคยลองแล้วบ้างครับ แต่ราคาก็น่าสนใจอยู่ต่างกันตั้ง 3 บาท
-
ใครเคยลองแล้วบ้างครับ แต่ราคาก็น่าสนใจอยู่ต่างกันตั้ง 3 บาท
ไม่ต่างเลยครับ เคยลองเพราะตอนนั้นปั๊มที่เข้าไม่มี B7 ขายแล้ว ต่อไปเลยคิดว่าจะเติม B10 ตลอดแล้วเพราะถูกกว่าเยอะเลย
-
การใช้งานไม่ต่างกันครับ แต่มันจะต่างกันตรงที่หัวฉีดดีเซลจะพังไว ยิ่งเป็นรถยุโรปหรือ Toyota Landcruiser สเปกUK ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับไบโอดีเซล บ้านเรา หัวฉีดพังไวมาก ในคลับ 3-4 หมื่นไมล์มีคนพังไปแล้ว เพราะเติม B
-
ถ้ารถตลาด ออกมาตอนหลัง 2014 ส่วนใหญ่เติมได้ ไม่มีปัญหาครับ
รถผมออก 2019 เติม B20(แย่กว่าB10อีก) ตั้งแต่ป้ายแดง พึ่งมาเติม B10ถังที่2เอง วิ่งมาจะ 4 หมื่นโลแล้วครับ ไม่มีปัญหา
ส่วนรถยุโรป รถนำเข้า เล่นพรีเมี่ยมเท่านั้นครับ
-
ดูที่ยี่ห้อรถด้วย ว่ารองรับ ดีเซลB10 ด้วยไม
การใช้งานไม่แตกต่างกัน เปลี่ยนกรองดีเซลก่อนเติมดีเซลB10
เมื่อเติมดีเซลB10แล้ว แนะนำเปลี่ยนกรองดีเซล ทุกๆ 10,000 โล เพราะกรองดีเซลจะดำมาก ช่วงแรกๆ จนครบวงรอบระยะเปลี่ยนกรองดีเซล
หลังจากนั้นเปลี่ยนกรองดีเซลตามระยะปกติ
เคยลองเอาดีเซลB10 ไปจุดไฟ ไม่ควันดำเลยครับ
-
ลองมาตั้งแต่ "B10" เปิดตัว
อัตราเร่งไม่ต่างกัน แต่ประหยัดขึ้นพอควร
ใช้มา 7-8 พันโลแล้ว ทุกอย่างยังปกติดี ในรถ DMAX2012, PJS2015
-
ราคาน่าสนใจจริงครับ แต่ต้องดูรุ่นรถก่อนครับว่าเขารองรับไหม คือใช้น่ะมันใช้ได้แหล่ะ แต่ประเด็นคือ ถ้าจะดีต้องเป็นรุ่นที่ได้รับการรองรับด้วย เผื่อมีปัญหาครับ
ส่วนที่บอกว่าหลายปั๊มมีขายแค่ B7 ส่วนตัวเท่าที่สังเกตปั๊ม ปตท. หลายๆ ปั๊ม ยังมีทั้ง B7 และ B10 ให้เลือกเติมนะครับ
-
รถกระบะไม่มีปัญหา ผมเติม B10 ตั้งแต่เปิดตัวแล้วไม่กลับไปเติม B7 อีกเลย (ปั้มไหนไม่มีขับออก) ซึ่งปกติเปลี่ยนกรองโซล่าทุก 2หมื่นโลหรือไม่ถึง 1ปี ความดำหรือปริมาณน้ำค้างในกรองก็ไม่ต่างกับสมัยใช้ B7
แต่รถเก๋งทั้งญี่ปุ่นฝรั่งเติม B7 หรือ B7 Premium เท่านั้น
-
ผมเพิ่งมาใช้รถดีเซลคันแรก
เคยเติม B7 แค่ถังแรกถังเดียวครับ
หลังจากนั้น B10 มาตลอด
รู้สึกว่า อัตราสิ้นเปลือง/อัตราเร่ง ไม่ได้ต่างกันเยอะจนสังเกตุได้
แต่ B10 ราคาถูกกว่าถึงลิตรละ 3 บาท
เลยเติมยาวๆครับ
-
ณ. ปัจจุบัน ต่างกันที่ราคา ครับ ส่วนเรื่องความแรงผมว่าไม่ต่างกันกันเลย
เรื่องที่ต่างอีกเรื่องคือ ลดมลพิษทางอาการได้ครับ ลดฝุ่น PM2.5
อย่างที่ ปตท. ออกมาเปิดตัว น้ำมันดีเซลB10 ในชื่อ PTT UltraForce Diesel B10
แต่ก่อน จะหาใช้ยากครับเพราะยังไม่มีคนใช้ แต่ปัจจุบันนี้ คงมีหลายๆปั๊มแล้ว
แต่ถ้าเอาสะดวกหาง่าย ก็ เข้าปั๊มครับ
ปล. ฝากไว้หน่อยครับ ไม่ว่าจะรถเก่ารถใหม่ แนะนำให้ตรวจสอบว่ารถของท่านสามารถเติมได้ ในเว็บกรมธุรกิจพลังงานก่อนครับ
หรือจะโทรไปสอบถามศูนย์รถของท่านก็ได้ เคยมีช่างหลายๆท่านบอกมาว่าเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าสามารถที่จะเติมได้น่ะครับ
แต่อาจจะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ บ้างอย่างก่อนกำหนดครับ
-
ถ้าเป็นรถประกอบในประเทศ ไม่ว่าจะเก๋งหรือกระบะ แล้วอายุรถยังไม่เกิน 5 ปี ผมว่าเติมได้หมดละ
เพราะแววนโยบายเน้นให้พึ่งพาไบโอดีเซล มันออก/ส่อมานานระยะนึงก่อนหน้านั้นแล้วครับ
เพียงแต่ ปริมาณไบโอดีเซลที่ผลิตในประเทศ มันยังไม่มากพอ ก็เลยมีแต่ B5 ขายมาก่อน
แต่วันนี้ ขนาด B20 ก็มีขาย .. แล้ว ดีเซลธรรมดา เป็น B7 ต่างกันกับ B10 3% มันก็ดูเหมือนเยอะนะ
( ถ้าดูจาก ปริมาณไบโอดีเซลใน B10 มากเป็น 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับใน B7 )
แต่ .. พอมีมองอีกด้านนึง B7 มีดีเซลปิโตรเลี่ยม 93 vs B10 มีดีเซลปิโตรเลียม 90 ...
มันต่างกันแค่ 3% เองครับ ผมว่าน้อยมาก ..
ผมถึงตอบว่า รถประกอบในประเทศ อายุไม่เกิน 5 ปี น่าจะใช้ได้หมดแล้วครับ
เพราะขนาด Toyota , Isuzu ยังทำ แล้วเจ้าอื่นๆ ใครไม่ทำ .. เสียเปรียบเค้าหมด
-
เมื่อเช้าผมจัดมาแล้วครับ เต็มถัง ความรู้สึกไม่ต่างกับ B7 เลยครับ แต่ประหยัดดี
-
ตอบแบบไม่รู้ "ไม่ต่าง" ครับ ::) ::) ::) ::)
เพราะ B7 -> B10 แค่ 3% เองนะ แทบไม่มีผลอะไรเลยมั้งครับ
รถผมเติมพรีเมียม(B7) ดีเซลธรรมดา(B7) ดีเซล B10 และ ดีเซล B20 ได้
หลักๆ จะยืนที่ ดีเซลธรรมดา(B7) และ B10 จะมีพรีเมี่ยมบ้าง และ B20 บ้าง(หาปั้มเติมยาก) สลับกันไปๆ มาๆ
การใช้งาน ผมขับรถปีละ 5-6 หมื่น กิโลเมตร
เอาความต่างจริงๆ ผมก็หาแทบไม่เจอ มันอาจจะดีกับชิ้นส่วนภายในรถ เช่น หัวฉีด ปั้มติ๊ก หรือ อื่นๆ ก็ไม่ทราบได้
แต่กลิ่นท่อไอเสีย ต่างกันนะ
-
ถ้า Mazda Skyactiv ออกมาประกาศว่ารองรับ B10 เมื่อไหร่ ผมเติมทันทีครับ
ทุกวันนี้หาปั๊ม B7 ละแวกในเมืองชลบุตลอดเส้นบางนาตราดคือยากขึ้นชัดเจนจริงๆ
แต่ตราบใดที่ผู้ผลิตยังไม่ออกมาบอกแบบนี้
ต่อให้ต่างกัน 20 บาท ส่วนผสมน้ำมันต่างแค่ 3% ผมก็ไม่กล้าเติมครับ ผู้ผลิตเค้าทำตัวพร้อมปัดรับผิดชอบง่ายๆ เลยหากเกิดปัญหาขึ้นมา