Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: spn ที่ ตุลาคม 20, 2020, 02:57:59
-
อยากความเห็นผู้ใช้งานจริง ทั้งมือ 1 และ ผู้ที่ซื้อมือสองมาใช้
1.ทำไมถึงตัดสินใจซื้อ bmw hybrid
2.อัตราการสิ้นเปลือง ปัญหา ค่าใช้จ่าย การบำรุงรักษาระบบ hybrid bmw
3.ได้ยินมาว่า bmw ซ่อมยาก เช่น ใช้ประแจรถทั่วไปไม่ได้ ต้องหาของเฉพาะ จริงหรือไม่
4.ช่วงล่างบุคลิกเป็นยังไง ความสบายของเบาะหลัง ใช้งานขับทางไกล และโซนชานเมือง
5.330e มีรุ่นย่อยแค่ M sport ใช่ไหม
6.รถมือสองที่เราสนใจ ถ้าไม่มีคนรู้จักใช้อยู่ เราขอเต้นท์ลองขับได้ไหม
วางแผนซื้อรถปีหน้าครับ สนใจ 330e Camry hybrid (Benz hybrid ขอบาย)
ขอบคุณมากๆครับ
-
ใช้อยู่มือ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน
1. อยากลอง เพราะมี benz hybrid แล้ว
2. วิ่งทางไกล ถ้าเท้าหนักและแซงตลอด กินประมาณ 13 km/l ขับชิวๆ 15 - 17km/l+ แต่ส่วนมากวิ่งในเมือง บ้าน-ไปกลับ office ประมาณ 22-24 กิโล น้ำมัน 1 ถัง ได้ประมาณ 1,600km เพราะชาร์จไฟตลอด ตอนนี้วิ่งมา 29,000km อัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย(เก็บสถิติเอง) 23.8km/l จากหน้าจอ 24.7 km/l
3. ยังไม่หมด BSI ขอข้ามครับ
5. มีหลายรุ่นย่อย m-sport CBU, luxury CBU พอประกอบใน m-sport กับ sport ตัว m sport และท้ายตลาดมีติดตั้งระบบ connected drive และ apple car play เพิ่ม ตัวนำเข้ากับประกอบในของ m sport ต่างกันหลักๆ ตรงเครื่องเสียง harman, ไฟหน้า adaptive ระบบ connected drive
4. การขับขี่ผมใช้แต่ตัว m sport ถือว่าช่วงล่างเดิมๆ ดีมาก เข้าโค้งไม่โยน ซับแรงกระแทกดี (ขนาดใช้ยาง runflat ติดรถ) แน่นๆ แต่ไม่เด้ง ออกแนว นุ่มหนึบ ขับในเมืองสบาย พวงมาลัยเบา ออกตัวดีมาก เบรคดี รวมๆ ถือว่าดีกว่าขับดีเซลของเบนซ์มาก ขับทางไกลช่วงแรกอาจจะมีปัญหาเวลาใช้คงามเร็วสูง เพราะพวงมาลัยคม ระยะฟรีน้อย ยิ่งเวลาเจอถนนไม่เรียบรู้สึกต้องใช้สมาธิคุมพวงมาลัยมาก แต่ใช้ๆ ไปก็ปรับตัวได้ ส่วนเบรคผมว่าที่ความเร็วที่ 120 ขึ้นไป เหมือนเบรคไม่ค่อยมั่นใจ
ตัวรถเดิมๆ ใบชัวเขียนประมาณ 250 ม้า แต่เห็นคนไปขึ้นไดโนเทส ปรากฎว่ามี 270 ม้า และหลายคนเอาไปจูนโดยเสียบแค่กล่อง ม้าก็ขึ้นมาอีก 20 กว่าตัว
6. แล้วแต่เต้นเลยครับ จากประสบการณ์ส่วนมากจะไม่ให้ลอง เพราะส่วนมากตัวรถจะไม่มีประกันภัยแล้ว
ปล. ไม่กล้าแนะนำว่าควรเล่นหรือไม่ แต่ถ้าอยากลองใช้ 2-3 ปี ผมก็เชียร์นะครับ เพราะผมก่ะหมด bsi 6 ปี คงเทริน
edit เพิ่มเรื่องการใช้ไฟฟ้า
แบตถ้าชาร์จเต็ม ในกรณีวิ่งชานเมือง และรถไม่ติดทำความเร็วคงที่ที่ประมาณ 70-90 จะวิ่งได้ประมาณ 25km วิ่งรถติดๆ แบบผม 10km ใช้เวลา 1 ชม จะได้ประมาณ 10-12km วิ่งในเมืองแบบการจราจรทั่วไป ติดไฟแดงตามปกติ จะได้ประมาณ 16km ทุกสภาพการขับขี่ ถ้าปิดแอร์จะได้ระยะทางเพิ่มอีก 2-4km
ผมชาร์จไฟทุกวัน มีแค่เสาร์-อาทิตย์ ชาร์จประมาณ 2-3 ครั้ง ค่าไฟเพิ่มจากปกติ เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท
-
ลองดูครับ ทำไว้ให้แล้ว
https://youtu.be/c46Op5y1hJQ
ความรู็สึกส่วนตัว ความสบายในการนั่ง ขับทางไกล เบาะหลัง การขับขี่ที่ความเร็วทั่วๆไป 100 - 120 แคมรี่ดีกว่าครับ แต่ถ้าความเร็วสูงๆ ขับซิ่งๆ สายมุด สายสาด F30 ดีกว่าครับ ดังนั้นต้องถามตัวเองว่าเน้นอะไร สบาย หรือสนุก
-
อยากความเห็นผู้ใช้งานจริง ทั้งมือ 1 และ ผู้ที่ซื้อมือสองมาใช้
1.ทำไมถึงตัดสินใจซื้อ bmw hybrid
2.อัตราการสิ้นเปลือง ปัญหา ค่าใช้จ่าย การบำรุงรักษาระบบ hybrid bmw
3.ได้ยินมาว่า bmw ซ่อมยาก เช่น ใช้ประแจรถทั่วไปไม่ได้ ต้องหาของเฉพาะ จริงหรือไม่
4.ช่วงล่างบุคลิกเป็นยังไง ความสบายของเบาะหลัง ใช้งานขับทางไกล และโซนชานเมือง
5.330e มีรุ่นย่อยแค่ M sport ใช่ไหม
6.รถมือสองที่เราสนใจ ถ้าไม่มีคนรู้จักใช้อยู่ เราขอเต้นท์ลองขับได้ไหม
วางแผนซื้อรถปีหน้าครับ สนใจ 330e Camry hybrid (Benz hybrid ขอบาย)
ขอบคุณมากๆครับ
ผมใช้ g20 นะ แต่ก็เคยเกือบเปลี่ยนเป็น f30 330e มาทีเพราะชอบที่มันแรง
1. bsi + warranty ครอบคลุมทุกอย่างครับ รวมถึงคนบ่นน้อยกว่า 350e ของเบนซ์
2. ไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย แต่เสียเวลา อัตราสิ้นเปลือง 30km/l ++ แต่มันเสียค่าไฟครับ รวมๆพอๆกับรถน้ำมันแหละ แค่ไม่ต้องแวะปั้ม
3. ได้ยินมาจากไหนอะครับ ถ้าเข้าอู่เฉพาะทางเค้าจะหาประแจไม่ได้เลยหรอ
4. ข้ามเพราะไม่ได้ใช้ 330e f30
5. มีหลาย trim ครับ เคยไปลอง ไปเลือกแต่ตอนนั้นใช้ 320d f30 อยู่เลยไม่ได้เปลี่ยน
6. ส่วนใหญ่ไม่ให้ครับ ประกันอาจจะหมดแล้ว หรือกลัวเรื่องความเสื่อมใดๆเพิ่มเติมที่อาจจะพบเจอตอนขับ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนขับมากกว่าครับว่า สริระร่างกายเป็นยังไง ต้องไปลองเองจริงๆ อย่าง camry teana ที่ผมเคยใช้เวลาเป็นรถสำรองมาให้ มีแต่คนบอกว่ามันคือสุดยอดความสบายในการขับแล้ว ผมมองว่าไม่สบายเลยครับ ผมตัวเล็กเข้าโค้งทีตัวโยกไปซ้ายไปขวาต้องเกร็งตลอด ตำแหน่งเท้าก็แอบสูงถ้าเทียบกับรถ sedan อื่นๆ หรือตอนนั้นอาจจะปรับเบาะไม่ดีไม่รู้
-
อาจตอบไม่ตรงประเด็นเท่าไรนะครับ เป็นผมหา 328i หรือ 320i จูนสเตท2 ก็สนุกแล้วครับทำตัวเลขได้ดีกว่าด้วยซ้ำไม่ต้องยุ่งระบบไฟ ตัดความจุกจิกกวนใจอนาคตลงไปบ้าง เพื่อนในคลับจูนมา 220-250ม้า อัตราเร่ง6วินาทีนิดๆ ซึ่งดีกว่า 330e เดิมแล้วครับ
ไม่ต้องมาชาร์จไฟบ้านบ่อยๆเป็นภาระเปล่า แบตอ่อนก็อืดกินน้ำมันหนักกว่าเดิมเพราะต้องแบกน้ำหนักส่วนเกิน 2-300กิโลไปตลอด การบาลานซ์การทรงตัวก็ลดลงจากเดิมความพริ้วหายไป ่และที่สำคัญคือถ้าเป็นไฮบริดต้องพึ่งแต่ศูนย์ครับ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษหาอู่ทำยาก เสียที่ไหนก็ต้องลากกลับพึ่งอู่ข้างทางไมไ่ด้เลย
เรื่องช่วงล่างก็เป็น bmw ที่นุ่มที่สุดรุ่นนึงจูนมาสไตล์คอมฟอร์ทไม่ดิบแบบรุ่นก่อนๆหรือในปัจจุบัน พวงมาลัยคม เบา ไว ช่วงล่าง นุ่ม โยน กระเด้งกระดอน ในช่วงความเร็วสูงๆ ขับในเมืองปกติทั่วไปไม่ค่อยเห็นเท่าไร เบาะหลังชัน แข็ง แคบ นั่งลำบากครับ ลูกผมอ้วกทุกครั้งที่มานั่ง การเก็บเสียงถือว่ายังไม่ดีพอครับ เสียงพื้นดังมากครับดังกว่าพวกดีเซกเมนต์ญี่ปุ่น เสียงลมดีกว่ารถญี่ปุ่นเล็กน้อย
เรื่องประแจไม่จริงครับ ที่ได้ยินมาก็คงมีแต่พวกศูนย์บริการ บีเร็ว คอก.. ที่ชอบอ้างว่าไม่มีประแจ ไม่มีท้อก ไม่มีบล๊อคขัน
ส่วนตัวรอหมด bsi หนีไปแคมรี่ดีกว่าครับ ชีวิตสบายขึั้น นุ่ม เงียบกว่า กว้าง ขับดีไม่ได้หนีกันเท่าไรเลย ไม่ต้องเสียเวลาจองคิว รอคิวนานๆ ตัวอย่างเซนเซอร์ล้อที่เจ้งกันทุกคัน เคลมแล้วก็ยังเสียซ้ำได้ในหลายคัน เซนเซอร์เส้นไม่กี่ร้อยแต่เคลมทีนึงวิ่งไปกลับเป็นร้อยกิโล 2-3เที่ยว จอดรถทิ้งไว้ ทำเรื่องส่ง bmth รอ approved รอคิวใส่ แบบนี้ก็เซ็งครับ ยังไม่รวมจุกจิกที่ต้องวิ่งไปเคลมเช่น คอนโซลเกียร์ มือจับ ลอก หลังคาร่วง
-
จากข้อ4 มีคนนั่งหลังเล่นcamry ป้ายแดงดีกว่าครับ
-
ปล. ไม่กล้าแนะนำว่าควรเล่นหรือไม่ แต่ถ้าอยากลองใช้ 2-3 ปี ผมก็เชียร์นะครับ เพราะผมก่ะหมด bsi 6 ปี คงเทริน
edit เพิ่มเรื่องการใช้ไฟฟ้า
แบตถ้าชาร์จเต็ม ในกรณีวิ่งชานเมือง และรถไม่ติดทำความเร็วคงที่ที่ประมาณ 70-90 จะวิ่งได้ประมาณ 25km วิ่งรถติดๆ แบบผม 10km ใช้เวลา 1 ชม จะได้ประมาณ 10-12km วิ่งในเมืองแบบการจราจรทั่วไป ติดไฟแดงตามปกติ จะได้ประมาณ 16km ทุกสภาพการขับขี่ ถ้าปิดแอร์จะได้ระยะทางเพิ่มอีก 2-4km
ผมชาร์จไฟทุกวัน มีแค่เสาร์-อาทิตย์ ชาร์จประมาณ 2-3 ครั้ง ค่าไฟเพิ่มจากปกติ เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท
เห็นอัตราสิ้นเปลืองแล้วดูน่าใช้เลย ตอนแรกเห็น M sport แล้วคิดว่าช่วงล่างน่าจะแข็ง
แต่น่าคิดเรื่อง bsi ครับ ตอนนี้ในเห็นเหลือกัน 2-3 ปี หลังจากนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ซื้อจริงอาจต้องรีบขายก่อน
ปล. คุณ chaiwtawat เซ็นเซอร์ล้อมีไว้ทำอะไรหรอครับ
-
ผมใช้ g20 นะ แต่ก็เคยเกือบเปลี่ยนเป็น f30 330e มาทีเพราะชอบที่มันแรง
1. bsi + warranty ครอบคลุมทุกอย่างครับ รวมถึงคนบ่นน้อยกว่า 350e ของเบนซ์
2. ไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย แต่เสียเวลา อัตราสิ้นเปลือง 30km/l ++ แต่มันเสียค่าไฟครับ รวมๆพอๆกับรถน้ำมันแหละ แค่ไม่ต้องแวะปั้ม
3. ได้ยินมาจากไหนอะครับ ถ้าเข้าอู่เฉพาะทางเค้าจะหาประแจไม่ได้เลยหรอ
4. ข้ามเพราะไม่ได้ใช้ 330e f30
5. มีหลาย trim ครับ เคยไปลอง ไปเลือกแต่ตอนนั้นใช้ 320d f30 อยู่เลยไม่ได้เปลี่ยน
6. ส่วนใหญ่ไม่ให้ครับ ประกันอาจจะหมดแล้ว หรือกลัวเรื่องความเสื่อมใดๆเพิ่มเติมที่อาจจะพบเจอตอนขับ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนขับมากกว่าครับว่า สริระร่างกายเป็นยังไง ต้องไปลองเองจริงๆ อย่าง camry teana ที่ผมเคยใช้เวลาเป็นรถสำรองมาให้ มีแต่คนบอกว่ามันคือสุดยอดความสบายในการขับแล้ว ผมมองว่าไม่สบายเลยครับ ผมตัวเล็กเข้าโค้งทีตัวโยกไปซ้ายไปขวาต้องเกร็งตลอด ตำแหน่งเท้าก็แอบสูงถ้าเทียบกับรถ sedan อื่นๆ หรือตอนนั้นอาจจะปรับเบาะไม่ดีไม่รู้
จังหวัดผมอยู่ มีแค่ cockpit tyre plus กับอู่ท้องถิ่น ที่บอกว่าไม่มีประแจ ไม่มีบล็อด พอดีพอรู้จักกันครับ ซ่อมทีคงต้องไป กทม อย่างเดียว เรื่องสรีระ ผมตัวเล็กเช่นกัน เลยลอง camry แล้วรู้สึกเบาะแอบใหญ่แหะ ต้องปรับเลื่อนมาด้านหน้ามากๆ
-
ลองดูครับ ทำไว้ให้แล้ว
https://youtu.be/c46Op5y1hJQ
ความรู็สึกส่วนตัว ความสบายในการนั่ง ขับทางไกล เบาะหลัง การขับขี่ที่ความเร็วทั่วๆไป 100 - 120 แคมรี่ดีกว่าครับ แต่ถ้าความเร็วสูงๆ ขับซิ่งๆ สายมุด สายสาด F30 ดีกว่าครับ ดังนั้นต้องถามตัวเองว่าเน้นอะไร สบาย หรือสนุก
จริงๆชอบขับสนุก คล่องตัว และดีไซน์ F30 แต่มีผู้ใหญ่คนนั่งหลัง คงต้องมองเรื่องความสบายมาก่อน
ปล.เพิ่งรู้ว่าคุณหมอเล่นเว็บนี้ด้วย ผมติดตามอยู่ครับ
-
ใช้อยู่มือ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน
1. อยากลอง เพราะมี benz hybrid แล้ว
2. วิ่งทางไกล ถ้าเท้าหนักและแซงตลอด กินประมาณ 13 km/l ขับชิวๆ 15 - 17km/l+ แต่ส่วนมากวิ่งในเมือง บ้าน-ไปกลับ office ประมาณ 22-24 กิโล น้ำมัน 1 ถัง ได้ประมาณ 1,600km เพราะชาร์จไฟตลอด ตอนนี้วิ่งมา 29,000km อัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย(เก็บสถิติเอง) 23.8km/l จากหน้าจอ 24.7 km/l
3. ยังไม่หมด BSI ขอข้ามครับ
5. มีหลายรุ่นย่อย m-sport CBU, luxury CBU พอประกอบใน m-sport กับ sport ตัว m sport และท้ายตลาดมีติดตั้งระบบ connected drive และ apple car play เพิ่ม ตัวนำเข้ากับประกอบในของ m sport ต่างกันหลักๆ ตรงเครื่องเสียง harman, ไฟหน้า adaptive ระบบ connected drive
4. การขับขี่ผมใช้แต่ตัว m sport ถือว่าช่วงล่างเดิมๆ ดีมาก เข้าโค้งไม่โยน ซับแรงกระแทกดี (ขนาดใช้ยาง runflat ติดรถ) แน่นๆ แต่ไม่เด้ง ออกแนว นุ่มหนึบ ขับในเมืองสบาย พวงมาลัยเบา ออกตัวดีมาก เบรคดี รวมๆ ถือว่าดีกว่าขับดีเซลของเบนซ์มาก ขับทางไกลช่วงแรกอาจจะมีปัญหาเวลาใช้คงามเร็วสูง เพราะพวงมาลัยคม ระยะฟรีน้อย ยิ่งเวลาเจอถนนไม่เรียบรู้สึกต้องใช้สมาธิคุมพวงมาลัยมาก แต่ใช้ๆ ไปก็ปรับตัวได้ ส่วนเบรคผมว่าที่ความเร็วที่ 120 ขึ้นไป เหมือนเบรคไม่ค่อยมั่นใจ
ตัวรถเดิมๆ ใบชัวเขียนประมาณ 250 ม้า แต่เห็นคนไปขึ้นไดโนเทส ปรากฎว่ามี 270 ม้า และหลายคนเอาไปจูนโดยเสียบแค่กล่อง ม้าก็ขึ้นมาอีก 20 กว่าตัว
6. แล้วแต่เต้นเลยครับ จากประสบการณ์ส่วนมากจะไม่ให้ลอง เพราะส่วนมากตัวรถจะไม่มีประกันภัยแล้ว
ปล. ไม่กล้าแนะนำว่าควรเล่นหรือไม่ แต่ถ้าอยากลองใช้ 2-3 ปี ผมก็เชียร์นะครับ เพราะผมก่ะหมด bsi 6 ปี คงเทริน
edit เพิ่มเรื่องการใช้ไฟฟ้า
แบตถ้าชาร์จเต็ม ในกรณีวิ่งชานเมือง และรถไม่ติดทำความเร็วคงที่ที่ประมาณ 70-90 จะวิ่งได้ประมาณ 25km วิ่งรถติดๆ แบบผม 10km ใช้เวลา 1 ชม จะได้ประมาณ 10-12km วิ่งในเมืองแบบการจราจรทั่วไป ติดไฟแดงตามปกติ จะได้ประมาณ 16km ทุกสภาพการขับขี่ ถ้าปิดแอร์จะได้ระยะทางเพิ่มอีก 2-4km
ผมชาร์จไฟทุกวัน มีแค่เสาร์-อาทิตย์ ชาร์จประมาณ 2-3 ครั้ง ค่าไฟเพิ่มจากปกติ เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท
ตัว Luxury จะเป็นประกอบในประเทศ (CKD) ครับ
ตอนประกอบนอกจะเอาเข้ามาแค่ M Sport ที่ไม่มี Sunroof
ในเวบมีลงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวประกอบในไว้อยู่ครับ http://www.headlightmag.com/spec-bmw-330e-iconic-luxury-m-sport-ckd/
-
ใช้อยู่มือ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน
1. อยากลอง เพราะมี benz hybrid แล้ว
2. วิ่งทางไกล ถ้าเท้าหนักและแซงตลอด กินประมาณ 13 km/l ขับชิวๆ 15 - 17km/l+ แต่ส่วนมากวิ่งในเมือง บ้าน-ไปกลับ office ประมาณ 22-24 กิโล น้ำมัน 1 ถัง ได้ประมาณ 1,600km เพราะชาร์จไฟตลอด ตอนนี้วิ่งมา 29,000km อัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย(เก็บสถิติเอง) 23.8km/l จากหน้าจอ 24.7 km/l
3. ยังไม่หมด BSI ขอข้ามครับ
5. มีหลายรุ่นย่อย m-sport CBU, luxury CBU พอประกอบใน m-sport กับ sport ตัว m sport และท้ายตลาดมีติดตั้งระบบ connected drive และ apple car play เพิ่ม ตัวนำเข้ากับประกอบในของ m sport ต่างกันหลักๆ ตรงเครื่องเสียง harman, ไฟหน้า adaptive ระบบ connected drive
4. การขับขี่ผมใช้แต่ตัว m sport ถือว่าช่วงล่างเดิมๆ ดีมาก เข้าโค้งไม่โยน ซับแรงกระแทกดี (ขนาดใช้ยาง runflat ติดรถ) แน่นๆ แต่ไม่เด้ง ออกแนว นุ่มหนึบ ขับในเมืองสบาย พวงมาลัยเบา ออกตัวดีมาก เบรคดี รวมๆ ถือว่าดีกว่าขับดีเซลของเบนซ์มาก ขับทางไกลช่วงแรกอาจจะมีปัญหาเวลาใช้คงามเร็วสูง เพราะพวงมาลัยคม ระยะฟรีน้อย ยิ่งเวลาเจอถนนไม่เรียบรู้สึกต้องใช้สมาธิคุมพวงมาลัยมาก แต่ใช้ๆ ไปก็ปรับตัวได้ ส่วนเบรคผมว่าที่ความเร็วที่ 120 ขึ้นไป เหมือนเบรคไม่ค่อยมั่นใจ
ตัวรถเดิมๆ ใบชัวเขียนประมาณ 250 ม้า แต่เห็นคนไปขึ้นไดโนเทส ปรากฎว่ามี 270 ม้า และหลายคนเอาไปจูนโดยเสียบแค่กล่อง ม้าก็ขึ้นมาอีก 20 กว่าตัว
6. แล้วแต่เต้นเลยครับ จากประสบการณ์ส่วนมากจะไม่ให้ลอง เพราะส่วนมากตัวรถจะไม่มีประกันภัยแล้ว
ปล. ไม่กล้าแนะนำว่าควรเล่นหรือไม่ แต่ถ้าอยากลองใช้ 2-3 ปี ผมก็เชียร์นะครับ เพราะผมก่ะหมด bsi 6 ปี คงเทริน
edit เพิ่มเรื่องการใช้ไฟฟ้า
แบตถ้าชาร์จเต็ม ในกรณีวิ่งชานเมือง และรถไม่ติดทำความเร็วคงที่ที่ประมาณ 70-90 จะวิ่งได้ประมาณ 25km วิ่งรถติดๆ แบบผม 10km ใช้เวลา 1 ชม จะได้ประมาณ 10-12km วิ่งในเมืองแบบการจราจรทั่วไป ติดไฟแดงตามปกติ จะได้ประมาณ 16km ทุกสภาพการขับขี่ ถ้าปิดแอร์จะได้ระยะทางเพิ่มอีก 2-4km
ผมชาร์จไฟทุกวัน มีแค่เสาร์-อาทิตย์ ชาร์จประมาณ 2-3 ครั้ง ค่าไฟเพิ่มจากปกติ เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท
ตัว Luxury จะเป็นประกอบในประเทศ (CKD) ครับ
ตอนประกอบนอกจะเอาเข้ามาแค่ M Sport ที่ไม่มี Sunroof
ในเวบมีลงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวประกอบในไว้อยู่ครับ http://www.headlightmag.com/spec-bmw-330e-iconic-luxury-m-sport-ckd/
ขอยคุณครับ และขออภัยข้อมูลผิดพลาด เพิ่งทราบว่ามี iconic ด้วย
-
ขอตอบแบบรวมๆนะครับ สำหรับรถ Hybrid มือสองถ้าเป็นไปได้อยากจะให้มอง Toyota ก่อนเป็นอันดับแรกครับ
ส่วนรถยุโรป แนะนำให้หาตัวที่เป็นเบนซินหรือดีเซลล้วนดีกว่าครับ เพื่อจะได้ตัดปัญหากวนใจที่ไม่รู้ว่าจะเจอหรือไม่ในอนาคตดีกว่า
ถ้าใครมาขอคำแนะนำเรื่องรถยุโรปมือสอง ผมเชียร์เฉพาะเครื่องเบนซินหรือดีเซลล้วนอย่างเดียวครับ
-
ปล. ไม่กล้าแนะนำว่าควรเล่นหรือไม่ แต่ถ้าอยากลองใช้ 2-3 ปี ผมก็เชียร์นะครับ เพราะผมก่ะหมด bsi 6 ปี คงเทริน
edit เพิ่มเรื่องการใช้ไฟฟ้า
แบตถ้าชาร์จเต็ม ในกรณีวิ่งชานเมือง และรถไม่ติดทำความเร็วคงที่ที่ประมาณ 70-90 จะวิ่งได้ประมาณ 25km วิ่งรถติดๆ แบบผม 10km ใช้เวลา 1 ชม จะได้ประมาณ 10-12km วิ่งในเมืองแบบการจราจรทั่วไป ติดไฟแดงตามปกติ จะได้ประมาณ 16km ทุกสภาพการขับขี่ ถ้าปิดแอร์จะได้ระยะทางเพิ่มอีก 2-4km
ผมชาร์จไฟทุกวัน มีแค่เสาร์-อาทิตย์ ชาร์จประมาณ 2-3 ครั้ง ค่าไฟเพิ่มจากปกติ เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท
เห็นอัตราสิ้นเปลืองแล้วดูน่าใช้เลย ตอนแรกเห็น M sport แล้วคิดว่าช่วงล่างน่าจะแข็ง
แต่น่าคิดเรื่อง bsi ครับ ตอนนี้ในเห็นเหลือกัน 2-3 ปี หลังจากนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ซื้อจริงอาจต้องรีบขายก่อน
ปล. คุณ chaiwtawat เซ็นเซอร์ล้อมีไว้ทำอะไรหรอครับ
จับความเร็วล้อครับ เท่าที่เคยสังเกตุจากรุ่นก่อนๆ ที่ล้อจะมีฟันเฟืองถ้ามันเจอหมุนไม่บาลานซ์กันจะสั่งเบรคให้บาลานซ์กัน abs ประมาณนั้นเวลารวนจะฟ้องไปทั่วว่า ลมยางอ่อน ไฟเบรค ไฟabs dsc มีปัญหาครับ ราคาไม่แพงครับลาซาด้าสองสามร้อยแต่ถ้ารถยังมี bsi มันน่ารำคาญครับคือเสียเวลามากมายที่จะเข้าไปทำเรื่องเคลมหลายรอบ รถผมวิ่งสี่หมื่นโลเปลี่ยนไปสามเส้นแล้ว รถในคลับหลายคันวิ่ง 1-2หมื่นโลก็เจ้งกันแล้ว