Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: punn ที่ ตุลาคม 23, 2020, 00:59:37

หัวข้อ: -- ต่อจากกระทู้ CHR ไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ -- อัพเดทอัตราสิ้นเปลือง
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ ตุลาคม 23, 2020, 00:59:37
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=77420 (https://community.headlightmag.com/index.php?topic=77420)
(กระทู้เดิมที่เอา CHR ไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์)

เมื่อก่อนที่ไม่ได้ใช้รถที่มันประหยัดก็จะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่
ในการที่เครื่องลื่นขึ้นเกียร์นุ่มขึ้นจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์

แต่พอเป็นรถเล็กที่เน้นประหยัดมันเห็นตัวเลขที่เปลี่ยนไป
เลยขอซ้ำอีกกระทู้เพื่อให้เห็นความสำคัญของการเปลี่ยนของเหลวพวกนี้นะครับ  8)

จากกระทู้เดิมที่เคยลงเรื่องการขับประหยัดของคันนี้ไว้
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=76808 (https://community.headlightmag.com/index.php?topic=76808)

ซึ่งตัวเลขเดิมก็ประทับใจอยู่แล้ว ที่ +- 25 km/l

แต่พอหลังจากเปลี่ยนของเหลวแล้ว ตัวเลขมันยิ่งสะดุดตา
เลยคิดว่ามันสำคัญสุดๆกันเลย เหมือนที่หลายท่านยอมเปลี่ยนที่ 20,000 โลเลยด้วยซ้ำ
เพื่อแลกกับความรู้สึกที่ดีในการขับและเป็นการถนอมอายุรถที่นำพาชีวิตเราไปยังที่ต่างๆให้อยู่กับเราได้นานขึ้นครับ  :-*

ซึ่งรอบนี้มันขึ้นไปแถว +- 27 km/l กันเลยครับ  :-* :-* :-*

//และเช่นเคยครั้งไหนไม่ประหยัดเราก็ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ ฮา
(เพราะจอดรอบ้างแวะเยอะบ้าง พึ่งได้วิ่งปกติก็ 2 ครั้งนี้ครับ)
หัวข้อ: Re: -- ต่อจากกระทู้ CHR ไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ -- อัพเดทอัตราสิ้นเปลือง
เริ่มหัวข้อโดย: flybigbear ที่ ตุลาคม 23, 2020, 08:08:06
ได้เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นใหม่รึยังครับ
หัวข้อ: Re: -- ต่อจากกระทู้ CHR ไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ -- อัพเดทอัตราสิ้นเปลือง
เริ่มหัวข้อโดย: Ohmmypp ที่ ตุลาคม 23, 2020, 10:34:58
ผมใช้ yaris ช่วงแรกๆเปลี่ยนทุก 30,000 กม.
แต่ช่วง 7-80,000 มีเสียงหอนเวลาคิกดาวน์เฉพาะช่วง 80-120 ตอนนั้นทำใจไปแล้ว (เพราะ swift หอนทุกช่วง 5555)
มีที่บ้านเอารถไปเขาค้อ ประกอบกับหมดวารันตีพอดี หลังทริปเลยเอามาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่อู่ทั่วไป หลังจากนั้นอีก 10,000 กม. ก็ถ่ายน้ำมันเกียร์อีก (เพราะจำรอบผิด)
แต่จำได้ว่ารอบนั้นออกมาจากอู่คือรถเงียบขึ้นจนงง เกียร์หายเย่อช่วงรถติด เสียงหอนที่เคยมีก็หายไปเลย

หลังจากนั้นถ้าไม่ได้ไปขึ้นเขาที่ไหนผมจะถ่ายที่ 20,000 กม.ตลอดครับ เงียบ
หัวข้อ: Re: -- ต่อจากกระทู้ CHR ไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ -- อัพเดทอัตราสิ้นเปลือง
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ ตุลาคม 24, 2020, 09:14:57
ยินดีด้วยครับ  ยอมรับว่าประหยัดจริง

  รถผม kick นอกเมืองทำไม่ได้    อยู่ที่  17-19 เอง

  แต่ในเมือง  รับว่าเยี่ยม    วิ่งในเมืองรถติด ๆ  ได้ประมาณนี้ 

  ที่ทำได้ดี ๆ  วิ่งได้เรื่อย ๆ เป็นชั่วโมง ๆ  ส่วนที่ติดแหงก  หรือระยะสั้น ๆ  ก็ได้แถว ๆ 20   หนักที่สุด  จากบ้าน 07.15 -สนามบินน้ำ 9.45  อัตราสิ้นเปลือง 19.6 

  รวม ๆ  ผมพอใจมากครับ  แม้ไม่ได้เท่า  chr  ก็เภอะ...
หัวข้อ: Re: -- ต่อจากกระทู้ CHR ไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ -- อัพเดทอัตราสิ้นเปลือง
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ ตุลาคม 28, 2020, 00:58:03
ยุ่งกับสถานะการณ์ในข่าวเลยไม่ได้มาเข้าบอร์ดเลยครับ  ::)


ได้เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นใหม่รึยังครับ

เพิ่ง 2 ปี ต้องเปลี่ยนแล้วหรือครับ
ของโตน่าจะแสนโลนะครับถึงให้เปลี่ยน  ::)

ผมใช้ yaris ช่วงแรกๆเปลี่ยนทุก 30,000 กม.
แต่ช่วง 7-80,000 มีเสียงหอนเวลาคิกดาวน์เฉพาะช่วง 80-120 ตอนนั้นทำใจไปแล้ว (เพราะ swift หอนทุกช่วง 5555)
มีที่บ้านเอารถไปเขาค้อ ประกอบกับหมดวารันตีพอดี หลังทริปเลยเอามาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่อู่ทั่วไป หลังจากนั้นอีก 10,000 กม. ก็ถ่ายน้ำมันเกียร์อีก (เพราะจำรอบผิด)
แต่จำได้ว่ารอบนั้นออกมาจากอู่คือรถเงียบขึ้นจนงง เกียร์หายเย่อช่วงรถติด เสียงหอนที่เคยมีก็หายไปเลย

หลังจากนั้นถ้าไม่ได้ไปขึ้นเขาที่ไหนผมจะถ่ายที่ 20,000 กม.ตลอดครับ เงียบ

มันช่วยกว่าที่คิดเลยนะครับ พอได้ฟีลลิ่งแล้วดูแลรถดีมากเลยครับ  ::)

ยินดีด้วยครับ  ยอมรับว่าประหยัดจริง

  รถผม kick นอกเมืองทำไม่ได้    อยู่ที่  17-19 เอง

  แต่ในเมือง  รับว่าเยี่ยม    วิ่งในเมืองรถติด ๆ  ได้ประมาณนี้ 

  ที่ทำได้ดี ๆ  วิ่งได้เรื่อย ๆ เป็นชั่วโมง ๆ  ส่วนที่ติดแหงก  หรือระยะสั้น ๆ  ก็ได้แถว ๆ 20   หนักที่สุด  จากบ้าน 07.15 -สนามบินน้ำ 9.45  อัตราสิ้นเปลือง 19.6 

  รวม ๆ  ผมพอใจมากครับ  แม้ไม่ได้เท่า  chr  ก็เภอะ...

มันเปลี่ยนยุคไปแล้วจริงๆนะครับ พอมีมอเตอร์มาช่วยแล้วทำให้ยุคสมัยรถเริ่มเปลี่ยนไป  ::)

ผมเคยใช้รถที่ติดแก๊สมาก่อน เพื่อให้ประหยัดต้องยอมหาข้อมูล ต้องดูแลรถที่มากขึ้น
ต้องโดนขั้นตอนการตรวจการต่อทะเบียนทางกฎหมายเพิ่มขึ้น มีผลข้างเคียงเรื่องความร้อน
เลยเริ่มชอบพวกรถไฮบริดพวกนี้แล้ว สะดวกและเป็นมิตรต่อเจ้าของมากกว่ารูปแบบอื่นเยอะครับ

ความแรงรถใช้บ้าง ไม่ได้ใช้บ้างเวลาขับ แต่ความประหยัดต้องใช้ทุกครั้งที่สตาร์ทมันสบายใจเวลาเติมน้ำมันดีนะครับ  ;D