Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sit: ) ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 11:55:08

หัวข้อ: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 11:55:08
รถผมเพิ่งซ่อมเครื่องมาทำไปหลายรายการ อู่บอกช่วงพันโลแรกค่อยๆขับ ไม่เกิน 2-3 พัน speed. ซัก 90-100 พอ

ผมพบว่าการขับช้าลง มันก็ไม่ได้ไปถึงจุดหมายช้าลงเท่าไร ใครเบียดใครดันผมหลบหมดเพราะเรากำลังพยายามใช้แค่ครึ่งคันเร่งไม่เกินนั้น ขึ้นทางด่วนก็อยู่ซ้ายหรือกลาง วิ่งขวาเพื่อแซงเท่านั้น ถูกระเบียบถูกมารยาทเวอร์ๆ.

มันก็ดีนะครับ ประหยัดน้ำมันขึ้น ขับรถไปแบบไม่มีปัญหากับใครเลย สนใจแต่เส้นทาง คันเร่งของเรา ฟังเพลงก็เพราะขึ้น

เผื่อใครอยากลองประสบการณ์ใหม่แบบนี้บ้าง
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 13:00:42
ถือเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับผม เพราะขับไม่เกิน 100 อยู่แล้ว (ยกเว้นเดินทางไกลมี 120)
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 13:02:24
 อย่านิ่งอยู่ที่รอบเดียวนานๆ   ให้รอบขึ้นบ้าง ลง บ้าง เกิน 3000 ไปบ้างก็ไม่เป็นไร

 ถ้า 10 ล้อไล่บี้ก็กดหนี อย่าไปห่วงว่าเครื่องจะพัง ห่วงชีวิตตัวเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 13:29:08
ในเมืองผมมองว่าใช้อัตราเร่งมากกว่าครับ 

100 ก็ไปถึงไม่ต่างกันเลย  ส่วนใหญ่รถติดมากกว่า
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 14:16:25
เวลาผมไปคุยงานต่างจังหวัด ติดรถคนที่นั่นไปไหนมาไหน เขาก็ขับกันแค่ 80-90 คับถ้าไม่ใช่ถนนพวก highway
แต่ไม่ช้านะ วิ่งข้ามอำเภอใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

ความเร็วระดับนี้ก็เหมาะสมกับพื้นที่ต่างจังหวัดดี เพราะประหยัดน้ำมันและได้ระยะทางเยอะ อีกทั้งยังระวังพวกรถออกจากซอยหรือขับตัดหน้าได้ง่าย
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: #อินเดียหน้าโจร ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 14:47:09
ปัจจัยที่ทำให้ถึงที่หมายช้า อันดับหนึ่งผมยกให้ปริมาณจราจรนะครับ ในเมืองคงเห็นๆกันอยู่แล้ว ต่อให้ขับช้าๆหวานเย็น แต่ถ้าขับหลังตี 2 ยังไงก็ถึงไวมากเว่อร์ครับเทียบกับขับตอนกลางวันที่ขับเร่งรีบแทบตายยังไปไม่มัน

แต่ความแตกต่างมันจะเกิดตอนที่ขับออก ตจว ครับ สมมติขับขึ้นไปเชียงใหม่ ถ้าเดินทางวันหยุดที่รถเยอะ ขับ 160 ถึงเร็วกว่าขับ 120 แค่นิดหน่อย อาจจะแค่ 0.5-1 ชม. ครับ แต่ถ้าขับในวันธรรมดาหรือวันที่ทางโล่งเวลาที่ได้ก็ต่างกันพอสมควรนะครับ

แต่ข้อดีของการขับแบบชิวๆคือ ทำให้อารมณ์ดี ถึงที่หมายแล้วไม่ค่อยเพลีย สามารถเที่ยวต่อได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 15:47:00
ที่นำมาเล่าคือจะ share ว่ามันก็ใช้เวลาต่างกันไม่มาก ความรู้สึกในการขับมันเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะ โดยเฉพาะผมซึ่งเป็นคนใจร้อน กดคันเร่งลึก เบรคลึก พอขับช้าลงมันก็เออแฮะ เพลินไปอีกแบบ แต่ก็มองหน้ามองหลังนะครับ กลัวโดนรถชนท้าย
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ พฤศจิกายน 05, 2020, 16:03:03
เดินทางไกลที่จะช้ามีคือจอดบ่อยและรถติดครับนอกนั้น 1000 กม จะอยู่เฉลี่ย 12-13 ชม สำหรับวิ่ง 100 กม/ชม รวมจอด รวมอย่างอื่น
คนขับเร็วแต่จอดบ่อยจะอยู่ที่ประมาณ 11-12 ชม ซึ่งจะไม่ค่อยต่างกับคนขับ 100 นึงแต่จอดเท่าที่จำเป็น แต่ค่าน้ำมันจะต่างมาก

อีกแบบเร็วและจอดแค่เติมน้ำมันจะวิ่งประมาณ 8-10 ชม กับระยะทาง 1000 กม ส่วนต่างเวลาเยอะอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: Firzen ที่ พฤศจิกายน 06, 2020, 06:45:40
ขับไม่เร็วมากแต่แวะน้อย กับขับเร็วแต่แวะพักนาน เช่น จอดกินข้าว สำหรับผมใช้เวลาพอๆกันเลยครับ แต่ค่าน้ำมันต่างกันพอสมควร ตอนนี้ขับทางไกลผมออกแต่เช้ามืด ใช้ Cruise ล็อกที่ 100 อยู่เลนซ้ายหรือกลางเป็นหลัก ออกขวาบ้างเวลาแซง ถ้าเดินทางกัน 2 คน จะแวะซื้อพวกข้าวเหนียวหมูทอด/ปิ้ง ไก่ทอด/ย่าง ให้เพียงพอสำหรับ 2 มื้อ แล้วใส่กล่องเก็บอุณหภูมิไว้ครับ เมื่อถึงเวลาทานก็ให้คนข้างๆป้อนเอา มันลดการเสียเวลาระหว่างทางได้พอควรเลย ส่วนมื้อเย็นก็ค่อยไปทานที่ปลายทางเอาครับ  ::)
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: 20TRF ที่ พฤศจิกายน 06, 2020, 08:53:07
ปรกติผมขับรถลงใต้ ถึงบ้านก็ประมาณ1200โล คุมรอบอยู่ประมาณ2พันรอบ ความเร็วประมาณ110+/- ยกเว้น18ล้อหรือรถบัสจี้ตูด
  ประหยัดน้ำมันด้วยปลอดภัยด้วย และไม่โดนดีดหูด้วยครับ
    ปล.แทบจะใช้ครูสน้อยมาก เพราะมันคุมรอบไม่อยู่
หัวข้อ: Re: เมื่อเราต้องคุมรอบ ความเร็วสัก 1000โล
เริ่มหัวข้อโดย: the kit ที่ พฤศจิกายน 06, 2020, 09:15:47
ถ้า "ไม่รีบ" หรือเผื่อเวลาไว้แล้ว
การขับรถไม่เร็วย่อม "สบายกว่า"
ไม่เกร็งไม่เครียด โดยเฉพาะการวิ่งเลนซ้ายหรือ "สายกลาง"
ไม่ต้องคอยมองกระจกหลัง ไม่ต้องคอยระวังมากมาย ประคองพวงมาลัยไปเรื่อยๆ
นี่ยิ่ง "ชิลล์..." ยิ่งขึ้น