Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: XXX ที่ พฤศจิกายน 12, 2020, 14:41:06
-
Jazz GE ขับมุดโหดๆตลอด
ตอนนี้ไมล์ 120,000 ครับ
ปกติผมใช้ Wakos Pro stage S เบอร์ 5W 30 มาประมาณ 3-4 ครั้งแล้วครับ ถือว่าพอใจ
แต่ผมไม่เคยลอง นมค. ยี่ห้ออื่นเลย อยากลองดูว่าต่างยังไง
อยากให้ช่วยแนะนำยี่ห้ออื่นที่เกรดเดียวกันหรือดีกว่าตัวนี้ให้หน่อยครับ
งบ 4ลิตร 2,500 ครับ
-
เอาดีกว่านี้ ไป voltronic 5W-30 ครับ แถวๆ 3 พัน ครับ
ความลื่น เป็นรองนิดนึง (แต่ดีกว่า Mobil1)
ที่เด่นคือ แรงบิด เวลาขึ้นสะพาน เกียร์ไม่ทวนลงต่ำ นิสัยจะเหมือน Mobil1 (เพราะถ้า Wako's เกียร์จะทวนลงต่ำ)
อีกอย่างก็คือ มันทนครับ
ผมลากมา 1 ปี 1 เดือน ไมล์ 11,000 กม. น้ำมันยังลื่นเท่ากับ Mobil1 ตอนเปลี่ยนใหม่ๆเลยครับ เพราะ Mobil1 นี่ พ้น 6 เดือน 5 พันกม. มันอืด จนคิดว่า รถเบรคติด น่ะครับ วิ่งไม่ออกเลย
-
Voltronic C+ Blue
Redline ฟ้า
Sunoco Svelt
Miller EE
Moty's M110
Motul 8100
-
Mobile 1 แกลลอนทอง 0w40 made in France
-
แนะนำที่เป็นพวก กรุ้ป4 ที่เป็น PAO แหละครับ
-
ผมใช้ mobil1 0w-40 มานานแล้วดีตลอดนะครับ เคยสลับไปใช้moty m110 5w-40 อยู่ 2-3 ครั้ง
ตอนถ่ายใหม่ๆ รู้สึกดีพอกับmobil1 นะครับ แต่พอเกินครึ่งอายุการใช้งานไปแล้ว ไม่ลื่นเท่าmobil1 แบบ
ชัดอยู่ครับ ก้ถือว่าใช้ได้ครับ
-
แนะนำให้ลอง PERFORMA SUPER SYNTHETIC SP 0W-30/40 ตัวใหม่EVOTEC ที่ปตท.ออกมาครับ
รีวิวจากช่อง MAXTV
https://www.youtube.com/watch?v=J4Pi6DM1vTs
รีวิวจากช่อง XO Autosport
https://www.youtube.com/watch?v=n6NbaZoIKRY
-
แนะนำที่เป็นพวก กรุ้ป4 ที่เป็น PAO แหละครับ
เช่น นมค. ยี่ห้อไหน รุ่นไหน เบอร์อะไรครับ ??
-
เปลี่ยนเดือนละครั้ง ดีขึ้นแน่
-
มาเก็บข้อมูลเผื่อครั้งต่อไป :-X
-
ขอบคุณพี่ๆที่แนะนำครับ
ตอนนี้ผมลองศึกษาดูบ้างแล้วครับ
สนใจน้ำมันจำพวก Group 5 Ester base
ตอนนี้รู้จักแค่ 2 รุ่น ที่เป็น Ester base แท้ๆ
- Sunoco brill ราคาประมาณ 2,400 (สนใจตัวนี้ครับ) เบอร์ 12.5w40
- Redline ตัวนี้ราคาโหดไปหน่อยครับ
ขอคำแนะนำเพิ่ม
ไม่ทราบว่ามียี่ห้อและรุ่นที่เป็น group5 แนะนำไหมครับ
group5 โดยรวมดีกว่า group4 ชัวร์ๆใช่ไหมครับ แต่ราคาสูงกว่า
-
พวก ester เคยใช้อยู่สองยี่ห้อ ทั้งสองยี่ห้อใช้อยู่ประมาณ 2-3 รอบการเปลี่ยนถ่าย ก็โอเคดีครับ
ตัว 300V ทำแรงม้ามาได้ในรอบที่ต่ำลงกว่าเดิม (วัดบนไดโนนะครับ) ตัว sunoco ก็ดีนะครับราคาไม่แรงดี ความรู้สึกผมเหมือนๆกันกับ 300v อยู่ แต่เสียเงินในราคาที่ถูกกว่าเยอะ
แต่ ester เห็นว่ามีข้อเสียด้วยนะครับ ผมก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน คงต้องลองหาข้อมูลดูครับ
-
แต่หลังๆเรื่องน้ำมันเครื่อง กับรถใช้งานปกติอย่างของผมเอง รอบผมสุดอยู่แค่ 6800 ผมหันมาใช้น้ำมันเครื่องทั่วๆไปอย่างเชลล์ อัลตร้า โมบิล1 พวกนี้แต่อาศัยเปลี่ยนถ่ายเร็วหน่อย ก็ใช้งานได้เหมือนกันครับ
ส่วนตัวว่า น้ำมันเครื่อง ถ้าเล่นรอบสูงบ่อยๆ ลองหาข้อมูลเรื่องเบอร์น้ำมันใช้ด้วยน่าจะดีกว่าครับ เท่าที่สังเกตุดู พวกเครื่องยนต์รอบสูงต่างๆ น้ำมันเครื่องมักจะเบอร์ เยอะๆ อย่างเครื่อง s54 ของ m3 เขาวิ่ง 8500 รอบ ของโรงงานเขาจะระบุมาให้ใช้เป็นเบอร์ 60 กันเลย
เลยไม่รู้ว่าน้ำมันเครื่อง ที่เบอร์สูงๆ เขาจะมีเรื่องความคงทนคงที่กว่าในรอบสูงๆด้วยหรือเปล่า อันนี้น่าลองหาข้อมูลดูครับ
-
คนเคยใช้ของแพงสุดแค่ Shell Helix Power อย่างผม เข้ามาเก็บข้อมูลครับ
-
คนเคยใช้ของแพงสุดแค่ Shell Helix Power อย่างผม เข้ามาเก็บข้อมูลครับ
Shell Helix Power แกลลอนสีแดง ใช้แล้ว = รู้สึกอย่างไรบ้างครับ ??
-
Liquid moli อีกตัวครับ
-
พวก ester เคยใช้อยู่สองยี่ห้อ ทั้งสองยี่ห้อใช้อยู่ประมาณ 2-3 รอบการเปลี่ยนถ่าย ก็โอเคดีครับ
ตัว 300V ทำแรงม้ามาได้ในรอบที่ต่ำลงกว่าเดิม (วัดบนไดโนนะครับ) ตัว sunoco ก็ดีนะครับราคาไม่แรงดี ความรู้สึกผมเหมือนๆกันกับ 300v อยู่ แต่เสียเงินในราคาที่ถูกกว่าเยอะ
แต่ ester เห็นว่ามีข้อเสียด้วยนะครับ ผมก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน คงต้องลองหาข้อมูลดูครับ
ตัว 300v เท่าที่อ่านผ่านๆ จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน เห็นแจ้งข้อมูลว่าไม่ใช่ ester แท้ เห็นบอกผสมอื่นๆ 50% จริงเท็จตรงนี้ข้อมูลผมไม่ชัวร์นะครับ ถ้าผิดขออภัย ทำให้ผมมองข้ามตัวนี้ไป
ส่วน sunoco ตอนนี้สนใจสุดเลยครับ ราคาจับต้องได้ อาจจะได้ลองตัวนี้ ถ้าไม่มีตัวอื่นขึ้นมาเทียบในราคาใกล้กันครับ
ขอตอบเรื่องเบอร์น้ำมันเครื่องเลยนะครับ พอดีผมโทรถามเจ้าของร้านทีซื้อ Wakos เขาแนะนำเป็น Motys M110 แต่ดู feedback ไม่ค่อยประทับใจ ส่วนเรื่องเบอร์ผมแจ้งสไตล์การขับและข้อมูลรถไปแล้ว เจ้าของร้านบอกว่า ถ้าใช้น้ำมันเครื่องที่ดีอยู่แล้ว ไม่อยากให้เปลี่ยนเบอร์ ซึ่งตรงนี้ผมเองก็คิดว่าอยากเปลี่ยนเป็นเบอร์ 40 เหมือนกันครับ เพราะลากรอบประมาณ 4000 - 5000 ตลอด แต่คิดว่าคงมีผลเสียมากกว่าเบอร์ 30 ในรอบต่ำๆครับ ส่วนเบอร์ 50+ ผมยังไม่กล้าเล่นครับ คิดว่าเครื่องไม่ถึง
ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลนะครับพี่
-
ตอนนี้มีอีกร้าน แนะนำ Motul 300v บอกสุดแล้วในงบไม่เกิน 3,000
เบอร์ 5w30 ราคา 4ลิตร 2,700 แต่เป็นน้ำมันเก่าปี 16-17 ผมเห็นราคาน่าลอง
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเก่า จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?
-
ตอนนี้มีอีกร้าน แนะนำ Motul 300v บอกสุดแล้วในงบไม่เกิน 3,000
เบอร์ 5w30 ราคา 4ลิตร 2,700 แต่เป็นน้ำมันเก่าปี 16-17 ผมเห็นราคาน่าลอง
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเก่า จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?
1. ที่เคยอ่านมา นมค. = มีอายุ 5 ปี นับจากวันผลิต
2. นมค. ดี = ลอง Voltronic Touring NA ไหม ??
-
ตอนนี้มีอีกร้าน แนะนำ Motul 300v บอกสุดแล้วในงบไม่เกิน 3,000
เบอร์ 5w30 ราคา 4ลิตร 2,700 แต่เป็นน้ำมันเก่าปี 16-17 ผมเห็นราคาน่าลอง
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเก่า จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?
300V ตอนผมซื้อก็ลิตรละ พันนิดๆ แล้วนะครับ แล้วของเขารู้สึกกระป๋องเขาจะเป็นกระป๋อง 2 ลิตร ไม่แน่ใจว่ากระป๋อง 4 ลิตรเขามีไหม รถผมใช้ 6-7 ลิตร ผมเลยต้องซื้อเขา 4 กระป๋องแบบในรูปละครับ
ส่วนของโมตุลเคยอ่านเขาแนะนำแค่ว่า 2 ปีน้บจากวันผลิตใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่ยาวกว่านั้นเขาไม่ได้บอกไว้เหมือนกันครับ
เพิ่มเติมนะครับ
300V อายุการเปลี่ยนถ่ายเร็วนะครับ ไม่ได้เป็นน้ำมันแบบที่เปลี่ยนกันที หมื่นโล เคยอ่านในเวปของแต่งรถปอร์ช เขาแนะนำให้เปลี่ยนที่ 5-8000 กิโลครับ
-
ตอนนี้มีอีกร้าน แนะนำ Motul 300v บอกสุดแล้วในงบไม่เกิน 3,000
เบอร์ 5w30 ราคา 4ลิตร 2,700 แต่เป็นน้ำมันเก่าปี 16-17 ผมเห็นราคาน่าลอง
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเก่า จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?
1. ที่เคยอ่านมา นมค. = มีอายุ 5 ปี นับจากวันผลิต
2. นมค. ดี = ลอง Voltronic Touring NA ไหม ??
ขอบคุณครับ
Voltronic ผมกำลังมองเป็นตัว C+ ป๋องฟ้าอยู่ครับ แต่คิดว่าราคาแรงไปหน่อย ลิตรละ 800 เลย
-
ตอนนี้มีอีกร้าน แนะนำ Motul 300v บอกสุดแล้วในงบไม่เกิน 3,000
เบอร์ 5w30 ราคา 4ลิตร 2,700 แต่เป็นน้ำมันเก่าปี 16-17 ผมเห็นราคาน่าลอง
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเก่า จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?
300V ตอนผมซื้อก็ลิตรละ พันนิดๆ แล้วนะครับ แล้วของเขารู้สึกกระป๋องเขาจะเป็นกระป๋อง 2 ลิตร ไม่แน่ใจว่ากระป๋อง 4 ลิตรเขามีไหม รถผมใช้ 6-7 ลิตร ผมเลยต้องซื้อเขา 4 กระป๋องแบบในรูปละครับ
ส่วนของโมตุลเคยอ่านเขาแนะนำแค่ว่า 2 ปีน้บจากวันผลิตใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่ยาวกว่านั้นเขาไม่ได้บอกไว้เหมือนกันครับ
เพิ่มเติมนะครับ
300V อายุการเปลี่ยนถ่ายเร็วนะครับ ไม่ได้เป็นน้ำมันแบบที่เปลี่ยนกันที หมื่นโล เคยอ่านในเวปของแต่งรถปอร์ช เขาแนะนำให้เปลี่ยนที่ 5-8000 กิโลครับ
ขอบคุณครับ ตอนนี้เหมือนเป็นของค้างสต็อก ทางร้านแจ้งว่าเป็นสินค้านำเข้า จะไม่มีปีใหม่ๆเลย เห็นเขาเสนอมา 4ลิตร 2,700 ผมไม่ทราบเหมือนกันว่ากระป๋อง 2+2 หรือเปล่า
รถผมใช้ 3.6 ลิตรครับ คิดว่าถ้าใช้จริงๆ คงใช้ 10,000-15,000 โล เลยครับ
เพราะของปัจจุบัน Wakos Pro S ผมใช้มาน่าจะ 22,000-25,000 โลแล้ว (เพราะไม่มีตังค์เปลี่ยน) ก็เสื่อมลงไปบ้าง ยังไม่มีอาการหนักๆ แต่ก็เสียวอยู่เหมือนกันครับ
ผมลากมายาวขนาดนี้ คิดว่าจะฟรัชชิ่งออยด้วยครับ คิดอยู่ว่าจะฟรัชยังไงดี พอจะมีวิธีแนะนำไหมครับ บางคนบอกใช้น้ำยาฟรัชแล้วดี บางคนบอกทำลายเครื่อง
อีกใจก็คิดว่าจะใช้น้ำมันถูกๆ เข้าไปล้างแล้วถ่ายออกเลยดีไหม
-
ตอนนี้มีอีกร้าน แนะนำ Motul 300v บอกสุดแล้วในงบไม่เกิน 3,000
เบอร์ 5w30 ราคา 4ลิตร 2,700 แต่เป็นน้ำมันเก่าปี 16-17 ผมเห็นราคาน่าลอง
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเก่า จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?
300V ตอนผมซื้อก็ลิตรละ พันนิดๆ แล้วนะครับ แล้วของเขารู้สึกกระป๋องเขาจะเป็นกระป๋อง 2 ลิตร ไม่แน่ใจว่ากระป๋อง 4 ลิตรเขามีไหม รถผมใช้ 6-7 ลิตร ผมเลยต้องซื้อเขา 4 กระป๋องแบบในรูปละครับ
ส่วนของโมตุลเคยอ่านเขาแนะนำแค่ว่า 2 ปีน้บจากวันผลิตใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่ยาวกว่านั้นเขาไม่ได้บอกไว้เหมือนกันครับ
เพิ่มเติมนะครับ
300V อายุการเปลี่ยนถ่ายเร็วนะครับ ไม่ได้เป็นน้ำมันแบบที่เปลี่ยนกันที หมื่นโล เคยอ่านในเวปของแต่งรถปอร์ช เขาแนะนำให้เปลี่ยนที่ 5-8000 กิโลครับ
ขอบคุณครับ ตอนนี้เหมือนเป็นของค้างสต็อก ทางร้านแจ้งว่าเป็นสินค้านำเข้า จะไม่มีปีใหม่ๆเลย เห็นเขาเสนอมา 4ลิตร 2,700 ผมไม่ทราบเหมือนกันว่ากระป๋อง 2+2 หรือเปล่า
รถผมใช้ 3.6 ลิตรครับ คิดว่าถ้าใช้จริงๆ คงใช้ 10,000-15,000 โล เลยครับ
เพราะของปัจจุบัน Wakos Pro S ผมใช้มาน่าจะ 22,000-25,000 โลแล้ว (เพราะไม่มีตังค์เปลี่ยน) ก็เสื่อมลงไปบ้าง ยังไม่มีอาการหนักๆ แต่ก็เสียวอยู่เหมือนกันครับ
ผมลากมายาวขนาดนี้ คิดว่าจะฟรัชชิ่งออยด้วยครับ คิดอยู่ว่าจะฟรัชยังไงดี พอจะมีวิธีแนะนำไหมครับ บางคนบอกใช้น้ำยาฟรัชแล้วดี บางคนบอกทำลายเครื่อง
อีกใจก็คิดว่าจะใช้น้ำมันถูกๆ เข้าไปล้างแล้วถ่ายออกเลยดีไหม
1. นมค. หลากหลายยี่ห้อที่ซื้อมา
ขนาดแกลลอน 4 ลิตร แต่พอเปลี่ยนถ่ายแล้ว
เหลือติดก้นแกลลอนนิดหน่อยเอง (รถผมใช้ 3.6 ลิตร+ กรอง นมค. )
ผมกะคร่าวๆ น้ำ 1 ลิตร = หนัก 1 กิโลกรัม
นมค. แกลลอน 4 ลิตร = ลองชั่งดู มันหนักไม่ถึง 4 กิโลกรัมอ่ะ (เป็นการทดลองหยาบๆ เพราะไม่มีถ้วยลิตรสำหรับตวง)
2. เคยอ่านเจอ มีบางท่านไม่ฟลัชชิ่ง
แต่ใช้ นมค. ตัวถูก เช่น บางจาก Furio F2 10W-40
เปลี่ยนถ่าย 1 รอบ เอารถไปขับเล่นรอบนึง
แล้วค่อยเปลี่ยน นมค. รุ่นที่ต้องการใช้
-
Shell Helix Power
สมราคา ผมไม่แน่ใจเรื่องเบอร์ความหนืด ถ้าฮอนด้าอย่าใส่ข้นเกิน30จะขับสนุกกว่าคับ
ลองมาหลายคันล่ะ เครื่องฮอนด้ากับเครื่องbmwรุ่นใหม่ๆใส่เบอร์40 หน่วงๆชอบกล ใส่20ก็เสียงเครื่องครางดังเกิ้น
-
เครดิต จากสมาชิกใน HLM (ผมจำชื่อไม่ได้)
(http://image.free.in.th/v/2013/iz/201113123126.jpg) (http://picture.in.th/id/2b268df451f135521459965a02e833b8)
ข้อดีของ PAO = โครงสร้างเป็นระเบียบ ทนต่อความเป็นกรดได้ดี
ข้อเสีย PAO = ที่อุณหภูมิสูง จะเกาะผิวโลหะไม่เก่งเพราะบางมาก
(http://image.free.in.th/v/2013/ih/201113123341.jpg) (http://picture.in.th/id/c652adf53341af3c7f94af328b240bb1)
ข้อดีของ Ester = เกาะผิวโลหะได้ดี & ทนความร้อนได้ดี
ข้อเสียของ Ester = มีปัญหาความชื้น เปลี่ยนเป็นกรดได้อย่างรวดเร็ว
-
Shell Helix Power
สมราคา ผมไม่แน่ใจเรื่องเบอร์ความหนืด ถ้าฮอนด้าอย่าใส่ข้นเกิน30จะขับสนุกกว่าคับ
ลองมาหลายคันล่ะ เครื่องฮอนด้ากับเครื่องbmwรุ่นใหม่ๆใส่เบอร์40 หน่วงๆชอบกล ใส่20ก็เสียงเครื่องครางดังเกิ้น
Shell Helix Power = เบอร์ 0W-40 นะครับ ไม่ใช่เบอร์ 30
(http://image.free.in.th/v/2013/ii/201113123928.jpg) (http://picture.in.th/id/5b44c64ee0cd9477e59f63362954766f)
-
ตอนนี้มีอีกร้าน แนะนำ Motul 300v บอกสุดแล้วในงบไม่เกิน 3,000
เบอร์ 5w30 ราคา 4ลิตร 2,700 แต่เป็นน้ำมันเก่าปี 16-17 ผมเห็นราคาน่าลอง
แต่ถ้าเป็นน้ำมันเก่า จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?
300V ตอนผมซื้อก็ลิตรละ พันนิดๆ แล้วนะครับ แล้วของเขารู้สึกกระป๋องเขาจะเป็นกระป๋อง 2 ลิตร ไม่แน่ใจว่ากระป๋อง 4 ลิตรเขามีไหม รถผมใช้ 6-7 ลิตร ผมเลยต้องซื้อเขา 4 กระป๋องแบบในรูปละครับ
ส่วนของโมตุลเคยอ่านเขาแนะนำแค่ว่า 2 ปีน้บจากวันผลิตใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่ยาวกว่านั้นเขาไม่ได้บอกไว้เหมือนกันครับ
เพิ่มเติมนะครับ
300V อายุการเปลี่ยนถ่ายเร็วนะครับ ไม่ได้เป็นน้ำมันแบบที่เปลี่ยนกันที หมื่นโล เคยอ่านในเวปของแต่งรถปอร์ช เขาแนะนำให้เปลี่ยนที่ 5-8000 กิโลครับ
ขอบคุณครับ ตอนนี้เหมือนเป็นของค้างสต็อก ทางร้านแจ้งว่าเป็นสินค้านำเข้า จะไม่มีปีใหม่ๆเลย เห็นเขาเสนอมา 4ลิตร 2,700 ผมไม่ทราบเหมือนกันว่ากระป๋อง 2+2 หรือเปล่า
รถผมใช้ 3.6 ลิตรครับ คิดว่าถ้าใช้จริงๆ คงใช้ 10,000-15,000 โล เลยครับ
เพราะของปัจจุบัน Wakos Pro S ผมใช้มาน่าจะ 22,000-25,000 โลแล้ว (เพราะไม่มีตังค์เปลี่ยน) ก็เสื่อมลงไปบ้าง ยังไม่มีอาการหนักๆ แต่ก็เสียวอยู่เหมือนกันครับ
ผมลากมายาวขนาดนี้ คิดว่าจะฟรัชชิ่งออยด้วยครับ คิดอยู่ว่าจะฟรัชยังไงดี พอจะมีวิธีแนะนำไหมครับ บางคนบอกใช้น้ำยาฟรัชแล้วดี บางคนบอกทำลายเครื่อง
อีกใจก็คิดว่าจะใช้น้ำมันถูกๆ เข้าไปล้างแล้วถ่ายออกเลยดีไหม
น้ำยา พวกนี้ผมไม่เคยลองใช้เหมือนกันครับ ส่วนตัวว่า เปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยๆหน่อย ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ
-
เครดิต : คุณ แจ้(Jae) :) :) :)
Re: น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ กับแบบธรรมดาต่างกันอย่างไรครับ??
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 01, 2014, 12:56:20 »
อ้างถึง
นิยามน้ำมันเครืื่องสังเคราะห์ แต่ละประเทศมันไม่เหมือนกันครับ
ทาง EUROPE น้ำมัน Group I ถึง III ไม่เรียกว่า สังเคราะห์
ทางอเมริกา Group II - V เรียกว่า สังเคราะห์
เมืองไทย ผมไม่รู้แฮะ เพราะงง ๆ กับ การเรียกมาก ๆ เอา Caltex เป็นตัวอย่าง ขออนุญาติใช้ยี่ห้อนี้เพราะผลิตภัณฑ์หลากหลายให้เปรียบเทียบ และ ยังเป็น Supplier ให้กับ อีกหลายๆ ยี่ห้อในบ้านเรา
Caltex Formula ตัวนี้ใคร ๆ ก็เรียกว่า น้ำมันธรรมดา แม้แต่บริษัทเองก็ยังขายแบบน้ำมันธรรมดา ทั้ง ๆ ที่ดูสูตรน้ำมันก็ใส่ Group II ไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเรียกกึ่งสังเคราะห์
Caltex Synthetic Blend อันนี้ใคร ๆ ก็เรียกว่า กึ่งสังเคราะห์ ทั้ง ๆ ที่ดูสูตรน้ำมันก็มีตั้งแต่ Group II ไปยัน Group III ในขณะที่บางยีห้อเรียกแบบนี้ว่า สังเคราะห์แท้
ไปหา MSDS ดูกันเองนะครับ เคยแปะแล้ว ขีเกียจละ
ถ้าเอาแบบ กลาง ๆ Group III ขึ้นไปเป็นสังเคราะห์ ก็จะกลายเป็นว่า น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ที่ขายในตลาดไทยเนีี่ย คือน้ำมันธรรมดาเกินกว่าครึ่ง
ถ้าเอาแบบ Group IV เป็นต้นไปเรียกว่า สังเคราะห์ จะมีน้ำมันสังเคราะห์แท้ในตลาดจะถูกเปลี่ยนเป็นกึ่งสังเคราะห์ 80% ของยี่ห้อทั้งหมดที่เห็น ๆ กัน
ต่างกันยังงัย ?
Group I, II ก็เป็นพวกน้ำมันเครื่องที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ ผ่านกระบวนการทางเคมีเป็นหลักเพื่อลดสภาพความเป็นขีี้ผึ้งให้น้อยลง เพราะพวกขี้ผึ้งมันจะเหนียวตอนอุณหภูมิต่ำ และ ใสหรือบางเกินที่อุณหภูมิสูง สร้างความเสียหายให้กับเครือ่งยนต์มาก ก็เลยต้องทำการ De-Wax ที่นิยมใช้ก็คือการเอา Chorine ชนิดนึงไปทำการแปรรูป แล้วแยกเอาของที่ไม่ต้องการออก กลุ่มนี้ อายุสั้น ราคาถูก ปกป้องดีไม่แพ้Group อื่น ๆ แน่นอน ผสมกับเคมีชนิดอื่น ๆได้ดีด้วยเหมาะกับการเติมสารปรุงแต่ง ผลิตง่าย แต่สำคัญเน้น ๆ คือ อายุมันสั้นที่สุดเทียบกับกลุ่มBase oil ที่สูงกว่าเมื่อเจอความร้อนสูง (150 ขึ้นไป) เพราะมันก็จะกลับมากลายเป็น พาราฟินอีกโดยกระบวนการภายในเครื่องยนต์ ที่เทียบกับ Pyrolysis ของไฮโดรคาร์บอน คุณสมบัติที่มักเห็นของสองกลุ่มนี้คือ VI อย่างน้อย 80 และมักจะไม่เกิน 120 Group I พบได้ตามร้านขายน้้ำมันที่บอกว่า "หัวเชื้อ" นั่นแหละครับเนื่องจากมันหนืดมาก ทำให้สามารถยกเบอร์น้ำมันขึ้นได้แม้ใส่ลงไปเพียงเล็กน้อย
Group III ต่างกับกลุ่ม I, II ตรงที่กระบวนการ ที่ใช้การนึ่งน้ำมันโดยตรง ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Hydrocrack คือ ความร้อนและความดันสูง ทำให้เกิดการเรียงโมเลกุลใหม่ กลุ่ม Hydrocrack มีหลายวิธีแล้วแต่บริษัทจะถนัด ดีกว่าgroup II, I ตรงที่มันจะมีความสามารถในการต้าน Oxidation ได้ดีขึ้นนิดนึง VI มากกว่า 120 โดยไม่ต้องปรุงแต่ง กลันออกมาก็เป็น 0W-20, 0W-30 ได้เลย
I-III เป็นพวกที่มาจากน้ำมันพื้นฐานทั้งหมด ราคาก็เลยถูก โรงกลั่นไม่ต้อง Hightech ก็สามารถทำใช้เองได้
Group IV คือ PAO เท่านั้น จะกลั่นมาจาก Ethylene ซึ่งได้มาจากไอที่เกิดขึ้นของการกลั่นน้ำมัน โดยเจ้าไอนี้มันจะถูกแปรรูปเป็นของเหลวด้วยการบวนการสังเคราะห์ทางเคมีและฟิสิกส์ ผลที่ได้คือน้ำมันที่มีโครงสร้างเป็นระเบียบ ให้ความฝืดน้อย ทนทานต่อสภาวะความเป็นกรดได้ดี ไม่แตกตัวไปกับความชื้น แต่ก็มีข้อเสียคือ มันไม่ค่อยผสมกับใคร เกาะกับผิวโลหะได้ไม่เก่งนักที่อุณหภูมิสูงเพราะมันบางมาก ไหลได้แม้อุณหภูมิต่ำ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ผลิตยากและแพงไม่ต่างกับ Group V
Group V คือ พวกที่ยังไม่เข้ากับกลุ่มไหนเลย ที่พบมากที่สุดตอนนี้คือ Phosphate Esterที่มักเรียกกันสั้น ๆว่า Ester ซึ่งผลิตจากแอลกอฮอล ที่ผ่านกระบวนการทางเคมีและฟิสิกส์เช่นกัน มีคุณสมบัติการเกาะผิวโลหะได้ดี โมเลกุลเล็กมากแทรกไปยังส่วนต่าง ๆ ได้ดี ทนความร้อนได้ดีหากผสมเป็นเบอร์หนา ตัว Ester เองมีปัญหาเรื่องความชื้น เพราะมันทำปฏิกิริยากับน้ำได้ดีในความร้อนสูง เพราะโดยพื้นฐานมันคือแอลกอฮอลเป็นหลัก เอาน้ำใส่ เอาความร้อนใส่ มีอากาศ ก็จะเปลี่ยนตัวเองเป็นกรดได้อย่างรวดเร็ว แต่เพราะมันเกาะกับโลหะได้นานจึงถูกนำไปใช้เติมในน้ำมันสังเคราะห์ตัวอื่น ๆ นอกจากนี้ก็ยังมี Silicone, Biolubes, PAG ที่จัดในกลุ่มหล่อลื่น Group V ด้วย
จะเห็นว่าไม่มีตัวไหนที่เป็นน้ำมันที่สมบูรณ์แบบ เพียงแต่การใช้งานทั่วไปเพียงพอทุกกลุ่มเพราะต้องการ Additive เพื่อเปลี่ยนคุณสมบัติทั้งนั้น ESTER มีมากก็ทนชื้นไม่เก่งกลายเป็นกรดเร็ว , PAO ถึงจะใช้มากดีแต่ช่วงสตาร์ทก็เกาะโลหะไม่เท่า Ester, GroupIII, II, I ก็ไม่ได้มี VI สูงพอกับสภาพอากาศหลากหลาย ก็ต้องอาศัย Viscosity Index Improver (VII)
น้ำมันอีกตัวที่ไม่ได้กล่าวถึงคือ น้ำมันเครื่องที่ทำจากน้ำมันดิบตรง ๆที่เป็น By-product กลิ่นแรง เหม็น พวกนี้จะพบได้ในกลุ่มที่เป็นเกรดเดียว เช่น SAE40 หรือไม่มันก็ถูกนำไปผลิตอย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันเครื่องซะมากกว่าครับ
-
1. MSDS ของ นมค. Caltex กึ่งสังเคราะห์ เบอร์ 10W-40
(http://image.free.in.th/v/2013/ii/201114042318.jpg) (http://picture.in.th/id/0f2dd9cf0fe3969df618a5077ef3b05d)
2. แต่จากความเห็นของคุณ Jae เมื่อ 29 ก.ค. 2557
(http://image.free.in.th/v/2013/il/201114041346.jpg) (http://picture.in.th/id/0bf5f55e3fda601396ec88729c968b03)
บริษัทน้ำมัน Chevron หัวใส ผลิตน้ำมันพื้นฐาน SN500 ได้ และใส่ Friction modifier, VI Improver,
และหยอด Group II Synthetic ลงไป 5% เพื่อยืดอายุการใช้งานน้ำมันเครื่องพื้นฐานเกิน 5 พันกิโลเมตร
(โฆษณาว่า 8 พัน กิโลเมตรเลยทีเดียว)
ตัวนี้ Caltex (Chevron) กลับโฆษณาว่าเป็นน้ำมันสูตรธรรมดา เพราะเขามีจรรยาบรรณดี = น่าจะเป็น Caltex Formula
(http://image.free.in.th/v/2013/ib/201114041528.jpg) (http://picture.in.th/id/0b2774f5bcea78e7a2931c244f56b303)
ส่วน Caltex ตัวกึ่งสังเคราะห์ เขาจะใส่นํ้ามัน Group III+ 20%
แต่จาก MSDS ของข้อ 1 ผมเข้าใจว่าเป็นน้ำมันแร่ธรรมดา ที่ผ่านการจัดเรียงโมเลกุล = น่าจะ Caltex ซินเธติก เบลนด์ ตัวนี้
(http://image.free.in.th/v/2013/ie/201114041659.jpg) (http://picture.in.th/id/45d18b77777d21feb817a19c17ca7167)
3. ข้อด้อยของ นมค. เบอร์ 30 โดยคุณ Jae
(http://image.free.in.th/v/2013/iy/201114041800.jpg) (http://picture.in.th/id/6fcbf51e50d3f603959cec648e042efa)
3.1 สภาพเครื่องยนต์ของผม ตอนใช้ Caltex Havoline 5W-30
อ้างอิงกระทู้นี้ https://community.headlightmag.com/index.php?topic=64130.0
(http://image.free.in.th/v/2013/iw/201114042009.jpg) (http://picture.in.th/id/f12f056b913e418673878926993ac80b)
-
ใน MSDS ของ Caltex ที่ ระบุ
COMPONENTS CAS NUMBER AMOUNT
Highly refined mineral oil (C15 - C50) Mixture 40 - 99 %weight
เป็นไปได้ ตั้งแต่ [กรุ๊ป 2(VI 80 < 120)/2+(VI 110-115 minimum)] ,3(VHVI:VI > 120) ,3+(XHVI:VI 130-140 minimum) ขึ้นอยู่กับ Finish product ผ่านการกลั่นด้วยกระบวนการลิขสิทธิ์ของ Chevron ISODEWAXING®
https://www.chevronlummus.com/Premium-Base-Oils/ISODEWAXING
ผิด ถูก อย่างไร ช่วยทักท้วงแก้ไข ให้ด้วย ครับ โปรดอย่าเกรงใจ :) :) :)