Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Chitta_P ที่ พฤศจิกายน 13, 2020, 19:29:29
-
หากจะให้พูดถึงรถยนต์นั่งขนาดกลางหรือ C-segment ยอดนิยมในบ้านเรา หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น Toyota Corolla ซึ่งเป็นรถรุ่นหนึ่งที่ได้สร้างตำนานมาอย่างยาวนานจนมาถึงปัจจุบัน จนล่วงมาถึง Generation ล่าสุด อันเป็น Generation ที่ 12 ของรถยนต์รุ่นดังกล่าว
และถ้าให้พูดว่า Corolla เป็นรถยนต์ที่มีบุคลิกแบบไหน หลายๆคนก็คงจะตอบว่ามันคือรถยนต์ที่เน้นใช้งาน ถึก ทน แต่ไม่เน้นการขับขี่ที่สนุกสนานและมั่นใจเท่าไหร่นัก จนกระทั่งการมาถึงของช่วงล่าง TNGA (Toyota New Global Architecture) อันเลื่องชื่อ ส่งผลให้รถรุ่นดังกล่าวนั้นมีการขับขี่ที่แทบเรียกว่า พลิกจากฝ่าเท้าเป็นหน้ามือเลยทีเดียว
สิ่งที่ผมเกริ่นมาจะจริงหรือไม่นั้น มารับชมกันใน Mini Review ข้างล่างนี้กันเลยครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597093197_e36d8a9927_c.jpg)
ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเช่าเจ้า Corolla Altis คันนี้จากผู้ให้บริการแห่งหนึ่งในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน เลยได้ถือโอกาสนำรถมาทำรีวิวสั้นๆให้สมาชิกทุกท่านได้ชมกันครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597093177_d94ea88f2a_c.jpg)
สำหรับ Corolla Altis โฉมนี้ ถือว่าเป็น Corolla generation ที่ 12 ของโลก มีรหัสตัวถังว่า E210 เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 โดยมีความพิเศษคือ Altis รุ่นนี้ได้ใช้ช่วงล่างแบบ TNGA-C เป็นรุ่นแรกในบ้านเรา
โดยรุ่นที่จะได้นำมารีวิวนี้ เป็นรุ่นย่อย 1.6 G หรือนับว่าเป็นตัวรองของเครื่องเบนซินสันดาปเพียวๆ (รองจาก 1.8 GR Sport) และถือว่าเป็นตัวบนสุดของเครื่อง 1600cc (เหนือกว่า 1.6 Limo) ในรถรุ่นนี้ครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596226788_e4c3917cd1_c.jpg)
-
Exterior
เรามาเริ่มจากภายนอกกันเลยดีกว่าครับ ด้านหน้ารถได้ถูกดีไซน์ใหม่ตามสไตล์ DNA ของโตโยต้า ซึ่งมีกระจังด้านล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ และมีเขี้ยวตรงบริเวณด้านข้างซ้าย-ขวา ซึ่งคล้ายคลึงกับหน้าพรีเดเตอร์ อย่างที่ใครหลายๆคนได้กล่าวไว้นั่นเองครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969766_771ee46138_c.jpg)
ไฟหน้าของรุ่น 1.6 G จะเป็นไฟหน้าแบบหลอดฮาโลเจนในโคม Projector พร้อมด้วยไฟ DRL (Daytime Running Light) แบบ LED และไฟเลี้ยวแบบหลอดไส้ครับ ทั้งนี้ ในรุ่นท็อป 1.8 Hybrid High และ 1.8 GR Sport จะได้ไฟตัดหมอกแบบ LED โดยในตัว 1.8 HV High จะได้เขี้ยวแบบโครเมียมมาด้วย
แต่ในรุ่น 1.6 G นี้ ออพชั่นดังกล่าวก็ได้ถูกตัดออกไป (อย่างน่าเสียดาย) ครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969701_fe20be7a47_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596227953_ed32616632_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596227838_3060dbe354_c.jpg)
มิติของตัวรถนั้น Corolla Altis 1.6 G มีความยาว 4,630 มิลลิเมตร กว้าง 1,780 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อเท่ากับ 2,700 มิลลิเมตร ความสูงจากส่วนต่ำสุดใต้ท้องรถถึงพื้น 135 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร เส้นสายด้านข้างมีแถบโครเมียมคาดบริเวณขอบด้านบนของกระจก โดยจากความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า รถคันนี้ได้อิทธิพลมาจาก Lexus อยู่เบาๆ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969681_a2e0e84ed4_c.jpg)
กระจกมองข้างนั้นเป็นแบบปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยไฟเลี้ยว แต่ก็ไม่สามารถพับแบบอัตโนมัติเมื่อทำการล๊อครถได้ครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092952_ebc3af5557_c.jpg)
ด้านท้ายของรถจะประกอบไปด้วยไฟท้ายแบบ LED แต่ไม่เต็มระบบ (ไฟเลี้ยวและไฟถอยยังเป็นหลอดไส้อยู่) คาดแถบโครเมียมแบบรูปทรงกึ่งๆตัว C คว่ำ ขอบด้านล่างจะถูกตกแต่งด้วยแผงทับทิมสะท้อนแสง เล่นกับเส้นสายที่ดูคล้ายๆเขี้ยวแบบด้านหน้าของตัวรถ ทั้งนี้เสาอากาศของตัวรถจะเป็นแบบฝังในกระจกหลัง คล้ายๆกับรุ่นพี่ของมันก่อนหน้านี้ครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596227618_76b6606073_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092627_4edb4281c0_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969356_3356388c9c_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596227488_78f5c89108_c.jpg)
-
Interior
มือเปิดประตูจะเป็นแบบโครเมียม พร้อมด้วยการปลดล๊อครถแบบระบบ Smart Entry นั่นคือการที่เราพกกุญแจติดตัวไว้ แล้วจับมือเปิดประตู รถก็จะทำการปลดล๊อคประตูให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อเวลาออกจากรถ ก็ให้จับบริเวณมือเปิดประตูอีกครั้ง รถก็จะทำการล๊อคให้โดยอัตโนมัตินั่นเองครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092007_ddc02bc846_c.jpg)
หน้าตาของกุญแจ Smart Key จะเป็นแบบสหกรณ์ของโตโยต้าในยุคหลัง ประกอบไปด้วยปุ่ม 4 ปุ่มได้แก่ ปุ่มล็อค ปลดล็อค ปุ่มเปิดฝาท้าย และปุ่มที่ผมเรียกว่า ปุ่มโวยวาย เหมือนเด็กเวลาหลงห้างแล้วไม่เจอพ่อแม่นั่นเองครับ
ด้านหลังจะเป็น โลโก้โตโยต้า และ Batch 'Corolla Altis' ซึ่งส่วนตัวมองว่าสวยงามใช้ได้ครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969036_c7d4e36a9e_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969081_0758ff921e_c.jpg)
แผงประตูข้างจะบุนุุ่มบริเวณที่เท้าแขน นอกนั้นก็จะเป็นวัสดุแบบ Hard Touch เดินตะเข็บหลอก
สวิตซ์ควบคุมกระจกจะอยู่บริเวณแผงประตูด้านคนขับทั้งหมด ประกอบด้วยปุ่มพับกระจกไฟฟ้า ปุ่มปรับกระจกไฟฟ้า ปุ่ม Central Lock และปุ่มเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน (เป็น One Touch (ที่ไม่ใช่ถุงยาง) ด้านคนขับเพียงด้านเดียว)
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092162_82248d54b9_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596226983_92f59d14be_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092127_b881a2feb6_c.jpg)
แผงคอนโซลหน้าจะเป็นแบบสีทูโทน ดำ-เบจ (ทั้งนี้สามารถเลือกออพชั่นภายในสีดำได้) ที่มีการออกแบบดูโมเดิร์นและลงตัวกว่ารุ่นก่อน (มากกกกก) มีช่องแอร์ขนาดใหญ่ 4 ช่องตามมาตรฐานรถญี่ปุ่น การจัดวางสวิตช์ควบคุมต่างๆ นั้นเข้าใจง่าย ทำให้ดูเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ วัสดุจะเป็นวัสดุ Hard touch เดินตะเข็บหลอก (อีกแล้วครับท่าน) เสมือนว่าเพิ่มความหรูหราให้กับตัวรถ และเบรคมือยังเป็นแบบอัตโนมือนะครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092572_9354cffcb3_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596226908_4064006bea_c.jpg)
พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านหุ้มหนัง ปรับทิศทางได้ 4 ทิศทาง (สูง-ต่ำ / ใกล้-ไกล) จับกระชับมือพอประมาณ ก้านไฟเลี้ยวและไฟหน้าจะอยู่ด้านขวาของพวงมาลัย ก้านที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาจะอยู่ด้านซ้ายแบบรถญี่ปุ่นนิยมทั่วไป
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969196_788850547e_c.jpg)
ก้านพวงมาลัยด้านซ้ายจะเป็นแผงควบคุมเครื่องเสียง จอแสดงผลข้อมูล MID และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092297_191647a225_c.jpg)
ก้านพวงมาลัยด้านขวานั้นจะเป็นที่ให้เคาะเวลาเพลงมันส์ๆครับ (ฮา)
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092267_c36b4f001e_c.jpg)
หน้าปัดจะเป็นแบบอนาล็อคแบบรถทั่วไป ด้านซ้ายเป็นที่วัดรอบ ตรงกลางจะเป็นเข็มวัดความเร็ว ด้านล่างจะเป็นเข็มวัดปริมาณน้ำมัน และขวาสุดจะเป็นจอแสดงผล MID ครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596227123_d6b1778def_c.jpg)
ปุ่ม Push Start จะอยู่บริเวณด้านหลังซ้ายของพวงมาลัย
(https://live.staticflickr.com/65535/50596227248_186dac7f47_c.jpg)
เครื่องเสียงติดรถจะเป็นเครื่องเสียงวิทยุ AM/FM CD แบบตั้งตามสมัยนิยม พร้อมด้วยลำโพง 6 ตำแหน่ง สามารถรองรับ Bluetooth และ USB ได้
ระบบปรับอากาศเป็นเป็นแบบอัตโนมัติ 1 โซน (เย็นทันใจสไตล์ Denso) และมีช่องแอร์หลังมาให้ครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969091_5900e0318f_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596228068_16885ce7f9_c.jpg)
เบาะนั่งคู่หน้าจะเป็นแบบอัตโนมือ ปรับสูง-ต่ำได้ หุ้มด้วยหนังสีทูโทน เบจ-น้ำตาล ที่ผมมองว่าไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ แต่ตัวเบาะโอบกระชับมากๆ ทำให้เกิดความสบายเวลาขับขี่ได้พอสมควร
(https://live.staticflickr.com/65535/50596228208_dca7117528_c.jpg)
เบาะหลังหุ้มด้วยหนังสีทูโทนเช่นกัน ไม่มีที่เท้าแขนตรงกลาง และพนักพิงศีรษะเป็นแบบ fix ตายตัว ซึ่งผมมองว่าแอบลดต้นทุนไปนิดนึงครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597093287_d5f7fbba86_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596228063_434d79c4a4_c.jpg)
สิ่งที่ผมลืมถ่ายมาคือ คอนโซลกลางบุนุ่ม ภายในมีช่องเก็บของและช่องเสียบ USB พร้อมด้วยช่อง DC outlet อย่างละ 1 ตำแหน่งครับ
ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีขนาดความจุ 470 ลิตร สามารถเปิดได้ 3 วิธีได้แก่ สวิตซ์ตรงกุญแจรีโมท ปุ่มบริเวณฝาท้าย (ใต้แถบโครเมียมทางขวา) และปุ่มเปิดจากภายในรถ
เอาเป็นว่าลึกแค่ไหน ลองดูกันนะครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597093237_fe3205e62f_c.jpg)
(https://live.staticflickr.com/65535/50596228038_11d0e0e70c_c.jpg)
-
Performance
สำหรับ Corolla Altis 1.6G คันนี้ จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 1ZR-FBE 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร 1,598 ซีซี. Dual VVT-i 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุดคือ E85
จากการทดสองอัตราเร่ง 0-100 พบว่าใช้เวลาทั้งสิ้น 11 วินาทีครับ
(https://bl6pap003files.storage.live.com/y4m6yhY2Ajrz51wt_4LYLPIBG_wtC4CKkKEfef2T9O4sgWTuTSmdXQVg0VGwMeHKzHb5fpUdOWaXCPONSgj3sU2F6BY4ogl8FiM37pvac9iArBaTIwCquUzlmQ63PYYJoDjgghgR9V-QBhUUe6U5n7QUVenq1aO967IG2cCy1-oDdfDdt7c9HsEkD7K9MdM82G0?width=800&height=538&cropmode=none)
**อ้างอิงภาพจาก toyota.co.th**
ระบบส่งกำลังจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift (โหมด M) ที่จะมีการเซ็ตรอบแบบหลอกๆไว้เวลาเปลี่ยนเกียร์ ทำให้เกิดฟีลลิ่งที่สนุกสนานเวลาขับขี่มากขึ้น
(https://live.staticflickr.com/65535/50597091862_9a382f66fa_c.jpg)
พวงมาลัยถูกเซ็ตมาให้ตอบสนองต่อการควบคุมมากขึ้น โดยจะแอบมีความเบาเล็กน้อยตอนย่านความเร็วต่ำ และจะคมมากขึ้นในช่วงความเร็วตั้งแต่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092027_7ba7ed5b60_c.jpg)
จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ โครงสร้างแพลทฟอร์ม TNGA-C ที่ส่งผลให้ตัวรถมีความหนึบ เกาะถนน และขับสนุกมาขึ้น โดยจากการขับจริง ผมสามารถสาดโค้งรูปตัว C ได้ในความเร็ว 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ตัวรถยังมีความนิ่งและไม่ปัด (ไม่แนะนำให้ทำตามนะครับ)
(https://bl6pap003files.storage.live.com/y4mu7Vxur1LadA1Y2iyP5bPD3zcNKR-jONPkvPmStZ8gg4EsiBL65aJigTMpEri_Nbkq0_O1m9ecUhqC-Nd3z9S0zDD-jROT7vr0a5LELr8smZFGVEpMCusV2G4zu1QElKrgHZiGbmX86drHiP1uTleIOk7cFUSkzYnXdSuNVvkQ5UxpJHABOZS3zZbs91Fk9KO?width=800&height=500&cropmode=none)
**อ้างอิงภาพจาก toyota.co.th**
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ ดับเบิลวิชโบนส์ พร้อมเหล็กกันโคลง ส่งผลต่อการขับขี่ที่มั่นใจขึ้นเช่นกัน ซึ่งในการขับขี่ เวลาเจอลูกระนาดหรือหลังเต่า ตัวรถจะมีการซับแรงกระแทกได้ดีพอสมควร แต่ก็ยังคงมีอาการสะเทือนมาบ้างประปรายครับ
ล้อติดรถจะเป็นล้อขนาด 16 นิ้ว 10 ก้าน สวมยาง Michelin Primacy 4 สเปคยาง 205/55/R16 ซึ่งเป็นยางที่เน้นความนุ่มนวลและเงียบ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092917_2c57ccfe14_c.jpg)
อีกสิ่งหนึ่งที่เซอร์ไพรส์ผมเป็นอย่างมากคือระบบเบรค จากเดิมเบรคของโตโยต้าที่บ้าน (วีออสเห็บหมา) จะถูกเซตมาแบบบางๆเบาๆ เฟดๆ แต่ไม่ใช่สำหรับ Altis คันนี้
เบรคสั่งได้เหมือนกับน้ำตาของ กบ สุวนันท์ เหยียบเท่าไหร่ ได้เท่านั้น จนไม่อยากเชื่อว่านี่คือรถซีดานจากค่ายสามห่วงจริงๆ
โดย 1.6G คันนี้จะได้ระบบเบรคเป็นดิสก์เบรค 4 ล้อครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969376_32d70c9f9a_c.jpg)
การเก็บเสียงยังอยู่ในระดับกลางๆ เมื่อวิ่งด้วยความเร็วตั้งแต่ 90 ขึ้นไป จะมีเสียงลมเข้ามาให้ได้ยินเรื่อยๆครับ
**ด้านอัตราการสิ้นเปลือง เนื่องจากเป็นทริปสั้นๆ จึงไม่ได้วัดมานะครับ**
-
Safety & Security
ด้านระบบความปลอดภัยใน Corolla Altis โฉมนี้ โตโยต้าได้จัดเต็มมาตั้งแต่รุ่นล่าง อันประกอบไปด้วย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- และระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer
(https://live.staticflickr.com/65535/50597091972_53aaf5edac_c.jpg)
-
สรุป
'ขับสนุก เน้นใช้งาน ออพชั่นไม่หวือหวา'
ในรุ่นที่ผ่านๆมา ถ้าจะให้นิยามสำหรับ Corolla Altis สำหรับตัวผมก็คงจะเปรียบมันเหมือนกับชายกลาง ที่กลางๆไปทุกสรรพสิ่ง ทั้งออพชั่น เครื่องยนต์ การขับขี่
แต่ใน พ.ศ. นี้ ชายกลางคนเดิมเหมือนกลับจากทำหน้าที่คลินิค ฝึกบุคลิกภาพกับครูเงาะ เสริมด้วยความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น
(https://live.staticflickr.com/65535/50596969481_9843b42a9e_c.jpg)
และสำหรับเจ้า 1.6G คันนี้ ผมคิดว่าเหมาะกับการใช้งาน การขับขี่ที่สนุกสนานระดับนึง ที่จะพาคุณหักหลบกรวยซ่อมท่อประปา หรือสุนัขที่ไล่กัดกันออกจากซอยได้สบายๆ
ถึงแม้จะแลกด้วยออพชั่นที่ยังคงเป็น 'ชายกลาง' อยู่ดีครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597092617_46f31ffb30_c.jpg)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกการรับชมและทุกความคิดเห็นนะครับ
(https://live.staticflickr.com/65535/50597091812_b83c50d3c7_c.jpg)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สงวนลิขสิทธิ์รีวิว และลิขสิทธิ์ภาพถ่าย ทั้งหมดเป็นผลงานของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
ห้ามคัดลอก หรือดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
-
8 วินาทีนี่ผมว่าน่าจะไม่ใช่นะครับ ไม่แน่ใจช่วงทดสอบเป็นช่วงลงเนินรึเปล่า
ส่วนตัวแฟนขับ Altis 1.8 Esport โฉมที่แล้ว
ถ้าไม่รับพวงมาลัยที่แย่มาก ช่วงล่าง คันเร่ง ผมว่าดีกว่า Civic FC อีกครับ FC เวลาขับถนนเป็นลอน เหมือนรถมันจะบิดตัวได้ในแนวระนาบ รู้สึกเหมือนรถมันเต้นพริ้วๆ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
แต่เหมือน Toyota ต้องการทำแท้งรุ่นนี้เลยครับ ไฟ LED หลัง มาตรวัด วิทยุกลาง มันคือสิ่งที่รถ C segment ปี 2020 ไม่ควรจะมีแล้ว
จริงๆ Toyota มีบทเรียนจาก C-HR แล้ว เข้าใจว่านโยบายทำตลาดรถ Hybrid ต้อง 50% แต่ดูความต้องการของคนไทย ถ้าผมเป็นผู้บริหาร เห็น Honda civic กับ C-HR แล้ว ผมคงไม่จัดสเป๊กและอ๊อปชั่นแบบนี้แน่ๆ
-
8 วินาทีนี่ผมว่าน่าจะไม่ใช่นะครับ ไม่แน่ใจช่วงทดสอบเป็นช่วงลงเนินรึเปล่า
ส่วนตัวแฟนขับ Altis 1.8 Esport โฉมที่แล้ว
ถ้าไม่รับพวงมาลัยที่แย่มาก ช่วงล่าง คันเร่ง ผมว่าดีกว่า Civic FC อีกครับ FC เวลาขับถนนเป็นลอน เหมือนรถมันจะบิดตัวได้ในแนวระนาบ รู้สึกเหมือนรถมันเต้นพริ้วๆ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
แต่เหมือน Toyota ต้องการทำแท้งรุ่นนี้เลยครับ ไฟ LED หลัง มาตรวัด วิทยุกลาง มันคือสิ่งที่รถ C segment ปี 2020 ไม่ควรจะมีแล้ว
จริงๆ Toyota มีบทเรียนจาก C-HR แล้ว เข้าใจว่านโยบายทำตลาดรถ Hybrid ต้อง 50% แต่ดูความต้องการของคนไทย ถ้าผมเป็นผู้บริหาร เห็น Honda civic กับ C-HR แล้ว ผมคงไม่จัดสเป๊กและอ๊อปชั่นแบบนี้แน่ๆ
ขออนุญาตแก้ไขเป็น 11 วิครับ ส่วน 8 วินาทีคือ 80-120 ครับ :-X
รุ่นนี้ผมว่าเขาเน้นขายเป็นรถฟลีท ประเภทรถเช่าหรือไม่ก็รถบริษัท องค์กรเป็นส่วนมากครับ ออพชั่นเลยออกมาแห้งแล้งแบบนี้
ก็หวังว่ารุ่น MC จะมีอะไรเพิ่มเติมมาให้พอชื่นใจบ้างครับ
-
โลถ่ายที่ไหนครับ
-
ออฟชั่นดูแล้งจริงครับตัวนี้
8 วินาทีนี่ผมว่าน่าจะไม่ใช่นะครับ ไม่แน่ใจช่วงทดสอบเป็นช่วงลงเนินรึเปล่า
ส่วนตัวแฟนขับ Altis 1.8 Esport โฉมที่แล้ว
ถ้าไม่รับพวงมาลัยที่แย่มาก ช่วงล่าง คันเร่ง ผมว่าดีกว่า Civic FC อีกครับ FC เวลาขับถนนเป็นลอน เหมือนรถมันจะบิดตัวได้ในแนวระนาบ รู้สึกเหมือนรถมันเต้นพริ้วๆ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
แต่เหมือน Toyota ต้องการทำแท้งรุ่นนี้เลยครับ ไฟ LED หลัง มาตรวัด วิทยุกลาง มันคือสิ่งที่รถ C segment ปี 2020 ไม่ควรจะมีแล้ว
จริงๆ Toyota มีบทเรียนจาก C-HR แล้ว เข้าใจว่านโยบายทำตลาดรถ Hybrid ต้อง 50% แต่ดูความต้องการของคนไทย ถ้าผมเป็นผู้บริหาร เห็น Honda civic กับ C-HR แล้ว ผมคงไม่จัดสเป๊กและอ๊อปชั่นแบบนี้แน่ๆ
ขออนุญาตแก้ไขเป็น 11 วิครับ ส่วน 8 วินาทีคือ 80-120 ครับ :-X
รุ่นนี้ผมว่าเขาเน้นขายเป็นรถฟลีท ประเภทรถเช่าหรือไม่ก็รถบริษัท องค์กรเป็นส่วนมากครับ ออพชั่นเลยออกมาแห้งแล้งแบบนี้
ก็หวังว่ารุ่น MC จะมีอะไรเพิ่มเติมมาให้พอชื่นใจบ้างครับ
-
โลถ่ายที่ไหนครับ
คณะอุตสาหกรรมเกษตร มช. ครับ
-
จากที่ผมขับมา ผมคิดว่าเป็นรถที่การขับขี่เป๊ะมาก (บอกเลยว่าดีกว่า Civic FC 1.8 เยอะ) พละกำลังพอได้ แต่สิ่งที่ทำลายความน่าซื้อไปหมดคือออพชั่นนี่แหละ ผมคิดว่ามันควรจะเยอะกว่านี้นะ
-
จากที่ผมขับมา ผมคิดว่าเป็นรถที่การขับขี่เป๊ะมาก (บอกเลยว่าดีกว่า Civic FC 1.8 เยอะ) พละกำลังพอได้ แต่สิ่งที่ทำลายความน่าซื้อไปหมดคือออพชั่นนี่แหละ ผมคิดว่ามันควรจะเยอะกว่านี้นะ
เรื่อง Handling กับการขับขี่นี่ยกให้เขาจริงๆครับ
ไม่เคยเจอซีดานของพี่โตที่ขับสนุกขนาดนี้มาก่อนครับ
-
ขอบคุณครับ
โลถ่ายที่ไหนครับ
คณะอุตสาหกรรมเกษตร มช. ครับ
-
ขอบคุณครับ
โลถ่ายที่ไหนครับ
คณะอุตสาหกรรมเกษตร มช. ครับ
ด้วยความยินดีครับ :)
-
รถสวยน่าใช้มากครับ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆเลยครับ ติดที่ออปชั่นนี่หละ ขออีกนิดนึง กะกาบพลาสติกข้างตัวเบาะ เพราะมันทำให้รุ่นเก่านี่ดีกว่าเลยในด้านภายใน ขับดีแน่นอนครับ tnga ต้องไม่เสียชื่อ 5555
-
รถสวยน่าใช้มากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆเลยครับ ติดที่ออปชั่นนี่หละ ขออีกนิดนึง กะกาบพลาสติกข้างตัวเบาะ เพราะมันทำให้รุ่นเก่านี่ดีกว่าเลยในด้านภายใน ขับดีแน่นอนครับ tnga ต้องไม่เสียชื่อ 5555
ขอบคุณครับ
คงจัดออพชั่นแบบ 'อีกนิดเถอะน่า' ตามสไตล์พี่โตเค้าครับ 55555
-
รถสวยน่าใช้มากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆเลยครับ ติดที่ออปชั่นนี่หละ ขออีกนิดนึง กะกาบพลาสติกข้างตัวเบาะ เพราะมันทำให้รุ่นเก่านี่ดีกว่าเลยในด้านภายใน ขับดีแน่นอนครับ tnga ต้องไม่เสียชื่อ 5555
ขอบคุณครับ
คงจัดออพชั่นแบบ 'อีกนิดเถอะน่า' ตามสไตล์พี่โตเค้าครับ 55555
ขอที่พักแขนด้านหลังเพิ่มละกัน 55555
-
รถสวยน่าใช้มากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆเลยครับ ติดที่ออปชั่นนี่หละ ขออีกนิดนึง กะกาบพลาสติกข้างตัวเบาะ เพราะมันทำให้รุ่นเก่านี่ดีกว่าเลยในด้านภายใน ขับดีแน่นอนครับ tnga ต้องไม่เสียชื่อ 5555
ขอบคุณครับ
คงจัดออพชั่นแบบ 'อีกนิดเถอะน่า' ตามสไตล์พี่โตเค้าครับ 55555
ขอที่พักแขนด้านหลังเพิ่มละกัน 55555
ขอหัวหมอนแยกกับเบรคมือไฟฟ้าด้วยครับ 55555
-
ยินดีกับรถใหม่ด้วยนะครับ
-
ยินดีกับรถใหม่ด้วยนะครับ
รถเช่าครับ
-
เข้ามาดูเพราะ "ขับสนุก"
-
อยากให้เพิ่มเบนซินรุ่นย่อยจัง
-
ยินดีกับรถใหม่ด้วยนะครับ
รถเช่าครับ
ใช่ครับ เช่าขับครับผม :-X
-
รุ่นนี้ที่ตายสนิทจริงๆ ผมว่าเรื่องของขนาดภายในห้องโดยสารเป็นหลักครับ แคบกว่าเดิมชัดเจนมาก
องค์กรที่ผมทำงานอยู่ก็เช่ารถใช้ครับ 5 ปี เช่าคันใหม่ แผนกผมเองยังตัว 2017 อยู่ กว้างกว่าตัวใหม่ชัดเจนมากครับ
ออพชั่นบ้างอย่างก็ดันมากกว่า เช่นไฟส่องหน้าตรงที่บังแดดที่เคยมีก็ดันหายไป กระจกมองข้างพับเวลาล็อคก็หายไป
เบาะแถวสอง Headroom หายไปเยอะมาก เบาะแถวหน้า คอนโซลก็เบียดเข่า - -
แต่ก็แน่นอนครับ การขับขีดีขึ้นชัดเจน ช่วงล่างใหม่สร้างผลที่แตกต่างจริงๆครับ
-
รุ่นนี้ที่ตายสนิทจริงๆ ผมว่าเรื่องของขนาดภายในห้องโดยสารเป็นหลักครับ แคบกว่าเดิมชัดเจนมาก
องค์กรที่ผมทำงานอยู่ก็เช่ารถใช้ครับ 5 ปี เช่าคันใหม่ แผนกผมเองยังตัว 2017 อยู่ กว้างกว่าตัวใหม่ชัดเจนมากครับ
ออพชั่นบ้างอย่างก็ดันมากกว่า เช่นไฟส่องหน้าตรงที่บังแดดที่เคยมีก็ดันหายไป กระจกมองข้างพับเวลาล็อคก็หายไป
เบาะแถวสอง Headroom หายไปเยอะมาก เบาะแถวหน้า คอนโซลก็เบียดเข่า - -
แต่ก็แน่นอนครับ การขับขีดีขึ้นชัดเจน ช่วงล่างใหม่สร้างผลที่แตกต่างจริงๆครับ
ใช่ครับ ตัวรถหมดความน่าสนใจส่วนนึงเพราะกั๊กออพชั่นไปเยอะมาก ความสบายของเบาะหลังลดลงจริงๆครับถ้าเทียบกับตัวก่อน
แต่ก็ได้ชดเชยมากับความที่มันขับดีขึ้นนี่แหละครับ
-
รุ่นนี้ที่ตายสนิทจริงๆ ผมว่าเรื่องของขนาดภายในห้องโดยสารเป็นหลักครับ แคบกว่าเดิมชัดเจนมาก
องค์กรที่ผมทำงานอยู่ก็เช่ารถใช้ครับ 5 ปี เช่าคันใหม่ แผนกผมเองยังตัว 2017 อยู่ กว้างกว่าตัวใหม่ชัดเจนมากครับ
ออพชั่นบ้างอย่างก็ดันมากกว่า เช่นไฟส่องหน้าตรงที่บังแดดที่เคยมีก็ดันหายไป กระจกมองข้างพับเวลาล็อคก็หายไป
เบาะแถวสอง Headroom หายไปเยอะมาก เบาะแถวหน้า คอนโซลก็เบียดเข่า - -
แต่ก็แน่นอนครับ การขับขีดีขึ้นชัดเจน ช่วงล่างใหม่สร้างผลที่แตกต่างจริงๆครับ
จากยอดขายนี้ค่อนข้างฟันธงได้เลยนะครับ ว่าตลาดบ้านเราต้องเน้นความสบายห้องโดยสาร+ความอเนกประสงค์+ความแรงอีกเรื่อง(ซึ่งฮอนด้ายุคนี้ตอบโจทย์หมดเลย 555)
พอห้องโดยสารแคบ(หรือทัศนวิสัยไม่โปร่ง)+ออฟชั่นขาดๆกั๊กๆ(เน้นไฮบริดแรงง่อยๆเกินไป)อีก ก็ตายสนิทไปอย่าง chr หรือ altis โฉมนี้ที่มีแววร่วงตาม chr (ต่อให้ขับขี่ดีแค่ไหนก้ตาม)
ผมละไม่เข้าใจการตลาดของพี่โตเขาจริงๆ
-
รุ่นนี้ที่ตายสนิทจริงๆ ผมว่าเรื่องของขนาดภายในห้องโดยสารเป็นหลักครับ แคบกว่าเดิมชัดเจนมาก
องค์กรที่ผมทำงานอยู่ก็เช่ารถใช้ครับ 5 ปี เช่าคันใหม่ แผนกผมเองยังตัว 2017 อยู่ กว้างกว่าตัวใหม่ชัดเจนมากครับ
ออพชั่นบ้างอย่างก็ดันมากกว่า เช่นไฟส่องหน้าตรงที่บังแดดที่เคยมีก็ดันหายไป กระจกมองข้างพับเวลาล็อคก็หายไป
เบาะแถวสอง Headroom หายไปเยอะมาก เบาะแถวหน้า คอนโซลก็เบียดเข่า - -
แต่ก็แน่นอนครับ การขับขีดีขึ้นชัดเจน ช่วงล่างใหม่สร้างผลที่แตกต่างจริงๆครับ
จากยอดขายนี้ค่อนข้างฟันธงได้เลยนะครับ ว่าตลาดบ้านเราต้องเน้นความสบายห้องโดยสาร+ความอเนกประสงค์+ความแรงอีกเรื่อง(ซึ่งฮอนด้ายุคนี้ตอบโจทย์หมดเลย 555)
พอห้องโดยสารแคบ(หรือทัศนวิสัยไม่โปร่ง)+ออฟชั่นขาดๆกั๊กๆ(เน้นไฮบริดแรงง่อยๆเกินไป)อีก ก็ตายสนิทไปอย่าง chr หรือ altis โฉมนี้ที่มีแววร่วงตาม chr (ต่อให้ขับขี่ดีแค่ไหนก้ตาม)
ผมละไม่เข้าใจการตลาดของพี่โตเขาจริงๆ
รุ่นนี้เขาไม่ได้ออกแบบมาสำหรับตลาดเมืองไทยครับ
-
จากที่ผมขับมา ผมคิดว่าเป็นรถที่การขับขี่เป๊ะมาก (บอกเลยว่าดีกว่า Civic FC 1.8 เยอะ) :-* :-*
-
รถดี ช่วงล่างนิ่ง แฮนด์ลิ่งเกินราคา หลังแคบกว่าเดิม ท้ายกว้างมากกกกก
เทียบกับตัวเก่าไม่ติดเลย ดีกว่าเยอะมาก ถ้าไม่คิดว่าจะนั่งหลังเกิน 2 คน และไม่เครียดเรื่องผิวสัมผัสภายในรถ สมดุลสุดในตลาดละครับ
-
รถดี ช่วงล่างนิ่ง แฮนด์ลิ่งเกินราคา หลังแคบกว่าเดิม ท้ายกว้างมากกกกก
เทียบกับตัวเก่าไม่ติดเลย ดีกว่าเยอะมาก ถ้าไม่คิดว่าจะนั่งหลังเกิน 2 คน และไม่เครียดเรื่องผิวสัมผัสภายในรถ สมดุลสุดในตลาดละครับ
ถ้าขับขี่ตัวใหม่ดีกว่าเยอะเลยหรอครับ
-
รถดี ช่วงล่างนิ่ง แฮนด์ลิ่งเกินราคา หลังแคบกว่าเดิม ท้ายกว้างมากกกกก
เทียบกับตัวเก่าไม่ติดเลย ดีกว่าเยอะมาก ถ้าไม่คิดว่าจะนั่งหลังเกิน 2 คน และไม่เครียดเรื่องผิวสัมผัสภายในรถ สมดุลสุดในตลาดละครับ
ถ้าขับขี่ตัวใหม่ดีกว่าเยอะเลยหรอครับ
ช่วงล่างคนละเรื่องครับ ไปลองขับได้เลย
เครื่องเกียร์อาจจะไม่หวือหวา ตามสไตล์โตโยต้า ชาตินึงอัพเกรดที แต่ช่วงล่าง มันคือรถคนละคัน คนละคลาส