Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ พฤศจิกายน 27, 2020, 08:03:48
-
พอดีเห็นว่ารถปกตืราคาแพงกว่าประเทศไทยมากมาย
-
มหัศจรรย์ของตัวเลข
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เวียตนามภาษีถูกสุด
แต่ดูแยกรุ่นแล้วไม่ได้ถูกแบบมีนัยยะสำคัญ
มาเลเซียนี่สิ ภาษี 200% แต่แยกแต่ละรุ่น ราคาสวยมาก
ราคาที่น่าเกลียดที่สุด คือ ม้ากับกะทิง แมค ส่วนต่างของราคา ดูเด็กไปเลย
-
คือสิงคโปร์มันแพงตรงต้องมีใบอนุญาตซื้อรถก่อนถึงจะซื้อได้ ซึ่งใบเนี้ยเขาเรียกว่า COE การจะได้มาต้องประมูล และใบนี้มีอายุ 10 ปี ซึ่งในแต่ละเดือน quota เขามีจำกัด เหตุผลเพื่อกำหนดประชากรรถบนถนนไม่ให้เยอะเกินไป โดยใบนี้มันแบ่งเป็น class รถเล็ก รถใหญ่ รถแทกซี่ รถเพื่อการพาณิช รถ classic และมอเตอไซด์ โดยบางช่วงเศรษฐกิจเขาดีมากๆ COE สำหรับรถส่วนบุคคล ราคาเคยขึ้นไปเกิน SGD100,000 ถ้าคิดอัตรแลกเปลี่ยนที่ 25 บาท/SGD เท่ากับ ไปปประมูลใบนี้มาก็ 2.5 ล้านบาทแล้ว แล้วสมมุติเอาไปซื้อ vios ขับ ซึ่งที่นั่นอาจจะราคา 700,000 บาท เมื่อรวมกับ COE แล้ว จะทำให้ มูลค่า vios คันนั้น สูงถึง 3.2 ล้านบาท นั่นเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้รถในสิงคโปร์แพงมาก และจำเป็นต้องประมูล COE ทุกๆ 10 ปี ไม่งั้นก็ต้อขายซากรถไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป
-
ระบบภาษีที่จัดเก็บในแต่ละประเทศต่างกัน
ทำให้ในบางประเทศ รถจึงราคาไม่แพง แต่จะไปเสียค่าอื่นๆ (ประกัน, ภาษีประจำปี, ค่าซ่อม ฯลฯ) ที่สูงกว่าแทน
ถ้ามองเฉพาะรถ supercar แล้ว ประเทศไทยค่อนข้างแพงมากกว่าทุกอย่าง ยิ่งเทียบกับค่าครองชีพจะเห็นชัดเจน
แต่ก็ยังขายดี มีรถเทพๆอยู่เยอะนะครับ 555
-
ภาษีไม่เท่าไหร่ แต่เห็นงี้ ราคา mclaren 720s บ้านเรามันไปไกลกว่าชาวบ้านชาวช่องจัง
ทั้งที่ยี่ห้ออื่นๆกลับต่างกันในจำนวนที่เท่าๆกัน
-
ถามว่าทำไมรถปกติแพงกว่า แต่รถราคาแพงถูกกว่า เพราะว่ารถปกติในไทยมันได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเนื่องจากผลิตในประเทศไงครับ บางประเทศไม่ได้ผลิตรถเองซักรุ่น อัตราภาษีนำเข้านี่ก็ต้องคิดกับรถทุกรุ่น แต่ถ้าหากเทียบต้องนำเข้าเหมือนกัน ไทยก็จะแพงกว่าชาวบ้านเขา
-
กว่าจะได้ครอบครองขับกะบะ 4 ประตูใน SG และใช้งานได้ตลอด ค่าต่างๆเท่ากับหรือมากกว่าสปอร์ตคาร์ในเมืองไทยอีกครับ ส่วนมากเน้นจอด
-
ดูจากตัวเลข
ไทย รถโครตถูกเลย
ทำไมเหรอ
เพราะภาษีนำเข้า เยอะกว่าประเทศเพื่อนบ้าน 2-3 เท่า
แต่ราคาขายตัวรถ เพิ่งกว่าเขาบางรุ่นไม่ถึง 10% บางรุ่นเกือบพอๆ กันซะด้วยซ้ำ
-
เห็นแบบนี้แล้ว แสดงว่าประเทศไทยเก็บภาษีรถนำเข้า SUPERCAR น่าเกลียดเกินไป แพงเกินหน้าตาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนไปเยอะเลย คือแพงแบบไม่มีเหตุผล ทั้งที่มาเลเซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม ต่างก็มีโรงงานประกอบรถยนต์เข้าไปตั้ง ประเทศเหล่านี้ก็มีการคุ้มครองอุตสาหกรรมประกอบรถในประเทศเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแบบบ้าเลือดเช่นนี้ ยังไงคนซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้ารุ่นอื่น มันก็คนละกลุ่มกับคนซื้อรถตลาดประกอบในประเทศอยู่ดี ถึงแม้รถนำเข้าจะลดภาษีนำเข้าลงมา กลุ่มคนเล่นรถตลาดก็ไม่ข้ามไปซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้าราคาแพง ๆ อยู่ดี
-
เห็นแบบนี้แล้ว แสดงว่าประเทศไทยเก็บภาษีรถนำเข้า SUPERCAR น่าเกลียดเกินไป แพงเกินหน้าตาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนไปเยอะเลย คือแพงแบบไม่มีเหตุผล ทั้งที่มาเลเซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม ต่างก็มีโรงงานประกอบรถยนต์เข้าไปตั้ง ประเทศเหล่านี้ก็มีการคุ้มครองอุตสาหกรรมประกอบรถในประเทศเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแบบบ้าเลือดเช่นนี้ ยังไงคนซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้ารุ่นอื่น มันก็คนละกลุ่มกับคนซื้อรถตลาดประกอบในประเทศอยู่ดี ถึงแม้รถนำเข้าจะลดภาษีนำเข้าลงมา กลุ่มคนเล่นรถตลาดก็ไม่ข้ามไปซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้าราคาแพง ๆ อยู่ดี
อาจจะเอื้อมถึงได้ แต่ บำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ไม่พร้อมก็ไม่รอด
-
เห็นแบบนี้แล้ว แสดงว่าประเทศไทยเก็บภาษีรถนำเข้า SUPERCAR น่าเกลียดเกินไป แพงเกินหน้าตาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนไปเยอะเลย คือแพงแบบไม่มีเหตุผล ทั้งที่มาเลเซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม ต่างก็มีโรงงานประกอบรถยนต์เข้าไปตั้ง ประเทศเหล่านี้ก็มีการคุ้มครองอุตสาหกรรมประกอบรถในประเทศเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแบบบ้าเลือดเช่นนี้ ยังไงคนซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้ารุ่นอื่น มันก็คนละกลุ่มกับคนซื้อรถตลาดประกอบในประเทศอยู่ดี ถึงแม้รถนำเข้าจะลดภาษีนำเข้าลงมา กลุ่มคนเล่นรถตลาดก็ไม่ข้ามไปซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้าราคาแพง ๆ อยู่ดี
อาจจะเอื้อมถึงได้ แต่ บำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ไม่พร้อมก็ไม่รอด
ใช่ครับ ผมถึงบอกยังไงตลาดก็คนละกลุ่ม เพราะต่อให้ลดกำแพงภาษีลงมา สมมุติราคาเฟอรรารี่เหลือ 17 ล้านบาท เท่ามาเลเซีย มันก็ไม่ได้แปลว่าคนทั่วไป ที่ซื้อรถประกอบในประเทศใช้ จะมีความสามารถข้ามไปซื้อ Super car เพราะราคา ค่าดูแล อื่น ๆ ของรถมันเกินความสามารถของคนที่จะซื้อ
-
เห็นแบบนี้แล้ว แสดงว่าประเทศไทยเก็บภาษีรถนำเข้า SUPERCAR น่าเกลียดเกินไป แพงเกินหน้าตาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนไปเยอะเลย คือแพงแบบไม่มีเหตุผล ทั้งที่มาเลเซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม ต่างก็มีโรงงานประกอบรถยนต์เข้าไปตั้ง ประเทศเหล่านี้ก็มีการคุ้มครองอุตสาหกรรมประกอบรถในประเทศเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแบบบ้าเลือดเช่นนี้ ยังไงคนซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้ารุ่นอื่น มันก็คนละกลุ่มกับคนซื้อรถตลาดประกอบในประเทศอยู่ดี ถึงแม้รถนำเข้าจะลดภาษีนำเข้าลงมา กลุ่มคนเล่นรถตลาดก็ไม่ข้ามไปซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้าราคาแพง ๆ อยู่ดี
อาจจะเอื้อมถึงได้ แต่ บำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ไม่พร้อมก็ไม่รอด
คนที่จะซื้อรถระดับนี้ ก่อนซื้อเค้ารู้อยู่แล้วแหละครับว่าค่าดูแล ค่าบำรุงรักษามันประมาณไหนก่อนจะซื้อ ไม่น่ามีคนที่กำเงิน 20 ล้านไปซื้อรถแล้วหมดเงินค่าดูแล หรือค่าน้ำมันมั้งครับ
-
เห็นแบบนี้แล้ว แสดงว่าประเทศไทยเก็บภาษีรถนำเข้า SUPERCAR น่าเกลียดเกินไป แพงเกินหน้าตาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนไปเยอะเลย คือแพงแบบไม่มีเหตุผล ทั้งที่มาเลเซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม ต่างก็มีโรงงานประกอบรถยนต์เข้าไปตั้ง ประเทศเหล่านี้ก็มีการคุ้มครองอุตสาหกรรมประกอบรถในประเทศเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแบบบ้าเลือดเช่นนี้ ยังไงคนซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้ารุ่นอื่น มันก็คนละกลุ่มกับคนซื้อรถตลาดประกอบในประเทศอยู่ดี ถึงแม้รถนำเข้าจะลดภาษีนำเข้าลงมา กลุ่มคนเล่นรถตลาดก็ไม่ข้ามไปซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้าราคาแพง ๆ อยู่ดี
อาจจะเอื้อมถึงได้ แต่ บำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ไม่พร้อมก็ไม่รอด
เขาเปรียบให้ฟังนั่นแหละครับ เหมือนคนคิดว่าตัวเองซื้อ เบ้น bm ไหว ผ่อนได้สบาย พอซื้อมาจริง หมด bsi หรือประกันแล้ว เจอค่าซ่อม ค่าเซอวิสไป มันผิดจากรถญี่ปุ่นไปหลายเท่าก็ช็อคกันไป หรือจะค่าประกันที่ผิดกันเป็นเท่าตัวเทียบกับแคมรี่
คนที่จะซื้อรถระดับนี้ ก่อนซื้อเค้ารู้อยู่แล้วแหละครับว่าค่าดูแล ค่าบำรุงรักษามันประมาณไหนก่อนจะซื้อ ไม่น่ามีคนที่กำเงิน 20 ล้านไปซื้อรถแล้วหมดเงินค่าดูแล หรือค่าน้ำมันมั้งครับ
-
แต่สิงคโปร์รถทั่วไปก็ราคาสูงมาก
-
คือสิงคโปร์มันแพงตรงต้องมีใบอนุญาตซื้อรถก่อนถึงจะซื้อได้ ซึ่งใบเนี้ยเขาเรียกว่า COE การจะได้มาต้องประมูล และใบนี้มีอายุ 10 ปี ซึ่งในแต่ละเดือน quota เขามีจำกัด เหตุผลเพื่อกำหนดประชากรรถบนถนนไม่ให้เยอะเกินไป โดยใบนี้มันแบ่งเป็น class รถเล็ก รถใหญ่ รถแทกซี่ รถเพื่อการพาณิช รถ classic และมอเตอไซด์ โดยบางช่วงเศรษฐกิจเขาดีมากๆ COE สำหรับรถส่วนบุคคล ราคาเคยขึ้นไปเกิน SGD100,000 ถ้าคิดอัตรแลกเปลี่ยนที่ 25 บาท/SGD เท่ากับ ไปปประมูลใบนี้มาก็ 2.5 ล้านบาทแล้ว แล้วสมมุติเอาไปซื้อ vios ขับ ซึ่งที่นั่นอาจจะราคา 700,000 บาท เมื่อรวมกับ COE แล้ว จะทำให้ มูลค่า vios คันนั้น สูงถึง 3.2 ล้านบาท นั่นเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้รถในสิงคโปร์แพงมาก และจำเป็นต้องประมูล COE ทุกๆ 10 ปี ไม่งั้นก็ต้อขายซากรถไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
คือสิงคโปร์มันแพงตรงต้องมีใบอนุญาตซื้อรถก่อนถึงจะซื้อได้ ซึ่งใบเนี้ยเขาเรียกว่า COE การจะได้มาต้องประมูล และใบนี้มีอายุ 10 ปี ซึ่งในแต่ละเดือน quota เขามีจำกัด เหตุผลเพื่อกำหนดประชากรรถบนถนนไม่ให้เยอะเกินไป โดยใบนี้มันแบ่งเป็น class รถเล็ก รถใหญ่ รถแทกซี่ รถเพื่อการพาณิช รถ classic และมอเตอไซด์ โดยบางช่วงเศรษฐกิจเขาดีมากๆ COE สำหรับรถส่วนบุคคล ราคาเคยขึ้นไปเกิน SGD100,000 ถ้าคิดอัตรแลกเปลี่ยนที่ 25 บาท/SGD เท่ากับ ไปปประมูลใบนี้มาก็ 2.5 ล้านบาทแล้ว แล้วสมมุติเอาไปซื้อ vios ขับ ซึ่งที่นั่นอาจจะราคา 700,000 บาท เมื่อรวมกับ COE แล้ว จะทำให้ มูลค่า vios คันนั้น สูงถึง 3.2 ล้านบาท นั่นเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้รถในสิงคโปร์แพงมาก และจำเป็นต้องประมูล COE ทุกๆ 10 ปี ไม่งั้นก็ต้อขายซากรถไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ขอเสริมนะครับเห็นว่าสนใจ
COE มันมีสูตรคำนวณอยู่ด้วยนะครับ มันเป็นโควต้าแต่ละปีที่กำหนดขึ้นมาโดยดูจากอัตราการยกเลิกจดทะเบียนรถในปีก่อนหน้า การประมูลเป็นแบบปิด และราคาสุดท้ายจะเป็นราคาที่ต่ำที่สุดของคนที่ได้โควต้า เพราะงั้นจริง ๆ ราคามันไม่ได้สูงทุกปีครับ มันขึ้นลงเหมือนตลาดหุ้น บางปีที่รถมีการยกเลิกการจดทะเบียนเยอะกว่าที่รัฐบาลคาดไว้ หรือเศรษฐกิจไม่ดี แล้วคนสมัครเข้าประมูลน้อย แทบไม่ต้องจ่ายค่า COE เลยก็เคยมีเหมือนกัน แถมรถเก่าที่มี COE อยู่แล้วก็ไม่ได้จำต้องประมูลใหม่ทุก 10 ปีนะครับ โควต้าก็ยังอยู่ ต่อได้เลย เพียงแต่ต้องจ่ายอีกรอบ ซึ่งบางทีถ้าเรามีแค่รถเก่า ๆ กาก ๆ แต่ต้องจ่ายเงินหลักแสนเพื่อที่จะต่ออายุ COE เราก็จะอยากได้รถใหม่มากกว่า ถูกไหมครับ? สิงคโปร์เขาเลยจัดโปรแกรม Classic Car ขึ้นมาตอนหลัง ไม่ต้องไปประมูล แต่รถพวกนี้ก็ขับได้แค่ปีละ 30 วัน ใช้ได้แค่เสาร์อาทิตย์ปีนึงยังไม่พอเลยครับ
ไอ้ระบบนี่ มันก็ฟังดูดีนะครับ จำกัดการใช้รถ รถก็ไม่ติด ถูกไหมครับ แต่การประมูลนี้มันไม่ดูหรอกครับว่าคนที่เขาซื้อรถ เขามีความจำเป็นในการใช้รถไหม ส่วนมากคนที่มีรถได้ก็คือคนรวยมาก ๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่มีเงินจ่ายเขาจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบรรทุกคนจำนวนมากกว่า 2 คน หรือขนของที่หนักจนไม่สามารถที่จะเดินทางด้วยระบบสาธารณะนะครับ คนด่าก็มีมากพอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมี Road Pricing อีก ใช้รถเวลาเร่งด่วนก็ต้องเสียเงินมาก ไทยก็เคยคิดจะทำอยู่เหมือนกัน ฟังดูดี แต่บอกตรง ๆ ว่ามันเป็นแค่นโยบายผลักดันให้คนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองออกไปจากถนนเท่านั้นแหละครับ มันไม่ได้ดูว่าคนที่ใช้รถใช้ถนนมีความจำเป็นจริง ๆ ไหม คนก็ด่าเยอะเหมือนกันครับ
-
เห็นแบบนี้แล้ว แสดงว่าประเทศไทยเก็บภาษีรถนำเข้า SUPERCAR น่าเกลียดเกินไป แพงเกินหน้าตาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนไปเยอะเลย คือแพงแบบไม่มีเหตุผล ทั้งที่มาเลเซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม ต่างก็มีโรงงานประกอบรถยนต์เข้าไปตั้ง ประเทศเหล่านี้ก็มีการคุ้มครองอุตสาหกรรมประกอบรถในประเทศเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแบบบ้าเลือดเช่นนี้ ยังไงคนซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้ารุ่นอื่น มันก็คนละกลุ่มกับคนซื้อรถตลาดประกอบในประเทศอยู่ดี ถึงแม้รถนำเข้าจะลดภาษีนำเข้าลงมา กลุ่มคนเล่นรถตลาดก็ไม่ข้ามไปซื้อรถ Supercar หรือรถนำเข้าราคาแพง ๆ อยู่ดี
. รถsupercarมันเป็นของจำเป็นตรงไหนกันครับ เก็บแพงไปเถอะ. มันไม่ใช่รถพยาบาล รถดับเพลิง. รถกู้ภัยหรือฮ.กู้ภัยที่มันสำคัญต่อสังคม. แถมยีงปล่อยมลภาวะเยอะอีก แต่ไอ้ที่ควรภาษีถูกคือรถที่ใช้กันทั่วไปสำหรับรากหญ้าพวกรถประหยัดพลังงาน รถยนต์นั่งสำหรับขอบครัวระดับปานกลางราคาไม่ถึงร้านนี่เก็บภาษีน้อยลงมาได้มั้ย. ที่รวยขับสปอร์ต. ขับกระบะวัยรุ่นสร้างตัว. กระบะยกสูงขับสี่ที่เป็นแค็ปและสี่ประตูที่มันแรงม้าแรงบิด ซีซีเยอะเก็บภาษีให้มันแพงบ้างเถอะ คนกลุ่มนี้รายได้ดีกว่าพวกขับอีโค่คาร์อยู่แล้ว. แถมยังปล่อยควันให้อากาศเป็นพิษอีกครับ
-
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่ค่าซื้อรถ แต่ละประเทศก็มีกฏที่แตกต่างกันไป