Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: punn ที่ ธันวาคม 03, 2020, 02:13:56
-
"... ได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำสำหรับช่องขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง
ซึ่งแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไปไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม."
https://www.posttoday.com/social/general/639316
--------------
ในที่สุดก็มาจนได้ครับ แต่อยากรู้แค่ว่าจะไปจัดการคนที่ยังแช่ขวาวิธีไหน?
ใช้กล้อง? ตั้งด่าน? หรือสายตรวจ?
เพราะไม่งั้นก็ได้แค่ออกกระดาษมาคนก็ยังทำเหมือนเดิม
แต่ละท่านเห็นยังไงบ้างกับเรื่องนี้ครับ :-\
-
ไม่จับก็เหมือนมอเตอร์เวย์นั่นแหละครับ ขวา 80 ยาวตั้งแต่ชลบุรียันกรุงเทพ
-
อยากให้มีกล้องถ่ายภาพพวกขับช้าแช่ขวามากครับ
-
ถนนพัง สิบล้อเยอะ บลาๆ คงมีอีกอยู่แล้วก็แค่ขยับจาก 90 ไปวิ่งขวาที่ 100 หางก็ยาวไม่เติมคันเร่งให้เพื่อน อยากไปก็แซงซ้ายไปสิ (เขาคิดว่าทำตามกฏแล้ว) ทำใจครับ
-
ส่วนเรื่องความเร็ว 120 กม/ชม เฉพาะถนนบางเส้นทางครับ และจำกัดระยะทางแค่บางช่วง ที่ใช้ความเร็วได้
ไม่ใช่ถนนเส้นไหนก็ขับ 120 ได้ทั้งหมดแต่หลายสื่อเอาข่าว มาปั่นเหมารวมถนนหมดทั้งประเทศ
-
นั่งอ่านอยู่พักนึง
เขาพูดถึงแค่เรื่องความเร็วมิใช่หรือครับ
ยังไม่เห็นข้อกำหนดในส่วนเรื่องช้าแช่ขวาเลย
หรือผมอ่านตกไป หรือไม่เข้าใจเอง
-
นั่งอ่านอยู่พักนึง
เขาพูดถึงแค่เรื่องความเร็วมิใช่หรือครับ
ยังไม่เห็นข้อกำหนดในส่วนเรื่องช้าแช่ขวาเลย
หรือผมอ่านตกไป หรือไม่เข้าใจเอง
"นอกจากนี้ได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำสำหรับช่องขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง ซึ่งแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไปไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. ส่วนเขตทางที่มีป้ายหรือเครื่องหมายจราจรแสดงว่าเป็นเขตอันตราย หรือเขตให้ขับรถช้าๆ ให้ลดความเร็วลงและเพิ่มความระมัดระวังขึ้นตามสมควร" จะทดลองถนนบางเส้นที่พร้อมก่อนถ้าจำไม่ผิดและเข้าใจไม่ผิด ถนนสายเอเซียช่วงอ่างทองมั้ง
-
อย่าเอามาคิดให้รกสมองเลยครับ หาจังหวะดีๆแซงซ้ายไปจบๆ
-
สมมตินะสมมติ ถ้ารถคันข้างหน้าผมวิ่งอยู่เลนขวา 80 กม/ชม. แน่นอนคันข้างหน้าผิดช้าแช่ขวา
แล้วถ้าผมไปวิ่งตามคันข้างหน้าเป็นระยะทาง 10 กม. ผมจะผิดที่ช้าแช่ขวาเหมือนคันข้างหน้าไหม?
หรือผมต้องแซงซ้ายเอา? เพื่อจะได้ไม่ผิด
-
แช่ขวาเรายังมองว่าไม่เร่งด่วนเท่าไหร่นะยังพอหลบ พอเซงได้ อาจจะหงุดหงิดนิดหน่อย แต่เราว่าที่ควรทำและออกมาปรับจับจริงๆจังๆและเอาให้หนักๆเลยคือพวกเปิดเลนซ้ายสุดที่เป็นเส้นทึบเองนี่อันตรายมากๆ เวลาเจอรถเสีย หรือคนจะเลี้ยวเข้าซอยเข้าปั้ม บลาๆ และพวกที่ปาดเข้ามาตรงคอสะพานอีก
-
ในบ้านเรา กม.จราจร กับ ความจริงที่เกิดขึ้น มันตรงกันข้าม ท้ายสุดแล้วต้องพึ่งตนเองในการระมัดระวังตัวกันเอาเอง ไปให้ได้และกลับให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย
-
บนถนนหลวงน่าจะมีโซน "ห้ามโดนแซงซ้าย" มากกว่านะครับ ผมว่าแบบนี้จะแก้ปัญหาได้ดีกว่าและดีที่สุดด้วย
เท่ากับพอเข้าโซนนี้แล้ว ทุกคันที่รู้ตัวว่าขับช้า ต้องรีบกลับเข้าเลนซ้ายทันที
แต่อย่างว่านะ ผู้รักษากฏหมายจราจรบ้านเรามันอ่อนปวกเปียกอย่างกับขี้ แถมเห็นแก่เงินด้วย
ไอ้ 10 ล้อทางขึ้นเนินก่อนถึงโรงปูนสระบุรีมันไม่เคยกลัวเลย ทั้งๆที่ตำรวจเขียนข้อกล่าวหาไว้ตรงทางขึ้นชัดเจน สุดท้ายไม่จับ แต่เสือกมาจับความเร็วตรงลงเนินแทน
-
หน้าจะไปจัดการพวกจอดติดไฟแดงแล้วแทรกซ้ายมาพอไฟเขียวก็เปิดไฟเลี้ยวแทรกเข้าทางปกติ พวกนี้ตัวการทำรถติด
-
วันก่อนขับมอเตอรเวย์ ขวาสุดพวกขับกันแค่ 110
รองขวา 100
ซ้ายสุด 120+
ลองซ้ายบรรทุก
-
น่าจะไม่มีผลอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิมแน่ ๆ
-
คงแก้รถแช่ขวาไม่ได้หรอกครับ
สายเอเชีย ป้ายข้างทางมีบอกเป็นระยะๆ
" ช่องขวาเฉพาะแซง "
" รถช้ากว่าชิดซ้าย "
ก็ยังมีรถขับ 80 แช่เลนขวา
มอเตอร์เวย์ จำกัดความเร็ว 120 ก็มีคนขับ 90 - 110 แช่ขวา
บางช่วงมันหาจังหวะแซงไม่ได้ เป็นระยะทาง 5 - 6 กม. เลยนะครับ
ทำคนอื่นเสียเวลา
-
แปลกใจว่า ออกกฏนี้มา มันไม่ไปขัดกับ การกำหนดความเร็วของถนนเส้นอื่นๆหรือ
ทางหลวงหลักๆ กำหนดความเร็วสูงสุดที่ 80 แต่พอเลนขวาต้องวิ่งเกิน 100
ถ้าเอาตามตัวกฏหมายคือ วิ่งขวา ถ้าช้ากว่า80โดนปรับเพราะไม่ถึง 100 วิ่งเกิน 80 โดนปรับเพราะเกิน 80 - -'
-
ทำไมต้องไฟเขียว ในเมื่อมันผิดกฏหมาย พรบ.จราจรทางบก ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
ปัญหาไม่ใช่กฏหมาย แต่เป็นพฤติกรรมของคนใช้รถใช้ถนน หรือ คนขับรถ นี่ละปัจจัยหลักเลย ต่อมาก็ การบังคับใช้กฏหมาย
เช่นเดียวกับคนขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ขับเป็น 100 km ด้วยความเร็ว 140km/h+ แต่พอมาเถึงกล้อง ลดความเร็วมา 90km/h พอเลยกล้องก็กลับมาเหยียบ 140km/h+ เหมือนเดิม
ถึงบอกว่า คนขับ นี่ละ ควรตะหนักมากที่สุด
-
ผมมองในแง่มุมแบบนี้ครับ
1. ตำรวจสามารถใช้กล้องในการแจ้งปรับได้มากขึ้น ในอนาคต เพราะกฏมันชัดเจน ทุกวันนี้ คนใช้รถยังเข้าใจว่า ถ้าวิ่งเกิน หรือความเร็วเท่าที่กฏหมายสูงสุดกำหนด (ตามที่ตัวเองเข้าใจมานมนาน) ถือว่าไม่ผิด
2. รถใหญ่ๆ ที่ชอบวิ่งแช่ขวาบนทางด่วน อาจจะดีขึ้น ถ้าต่อไปใช้กล้องได้เต็มรูปแบบมากขึ้น
3. ถ้ากฏหมายแพร่หลาย เป็นที่ประจักษ์ มันจะช่วยลดปัญหาการเผชิญหน้าของคนใช้ถนนได้ครับ จะมาอ้างว่าไม่รู้เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ (ถ้าภาครัฐประชาสัมพันธ์ให้จริงจังกว่านี้)
สรุปแล้วผมว่า ทำให้ชัดเจน แล้วประชาสัมพันธ์ให้ดี ก็ดีกว่าตีเฉยๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนก่อน ก็พอใจแล้ว
-
ทำไมต้องไฟเขียว ในเมื่อมันผิดกฏหมาย พรบ.จราจรทางบก ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
ปัญหาไม่ใช่กฏหมาย แต่เป็นพฤติกรรมของคนใช้รถใช้ถนน หรือ คนขับรถ นี่ละปัจจัยหลักเลย ต่อมาก็ การบังคับใช้กฏหมาย
เช่นเดียวกับคนขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ขับเป็น 100 km ด้วยความเร็ว 140km/h+ แต่พอมาเถึงกล้อง ลดความเร็วมา 90km/h พอเลยกล้องก็กลับมาเหยียบ 140km/h+ เหมือนเดิม
ถึงบอกว่า คนขับ นี่ละ ควรตะหนักมากที่สุด
ไม่ผิด พรบ.จราจรทางบกนะครับ ตามมาตรา 67 พรบ.จราจรทางบก
ข้อความด้านล่างนี้ผมคัดลอกจากข่าวนะครับ
คณะรัฐมนตรี ผ่านร่างกฎกระทรวงฯ กำหนดความเร็วยานพาหนะ เพิ่มกำหนดความเร็วสูงสุด จากเดิม 90 เป็น 120 กม./ชม. ส่วนเลนขวาห้ามต่ำกว่า 100 กม./ชม.
วันที่ 1 ธ.ค. 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน
โดยร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะฉบับใหม่ จะมีการปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยได้มีการศึกษาวิเคราะห์กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหารือกับหน่วยงานและภาคประชาชนแล้ว
สำหรับการขับรถในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่มีทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน มีการกำหนดความเร็วสูงสุดดังนี้
100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถบรรทุกคนโดยสาร เกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน, รถจักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป
90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม และ รถบรรทุกคนโดยสารที่บรรทุกคนโดยสารเกิน 15 คน
80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รถโรงเรียน หรือรถรับส่งนักเรียน
65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถในขณะที่ลากจูงรถอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ
สำหรับรถยนต์อื่น ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นยังได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำ สำหรับการขับรถในช่องเดินรถช่องทางขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง ซึ่งจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไป โดยให้รถยนต์ทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในข้อกำหนดข้างต้น และ รถจักรยานยนต์ ใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากมีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วขั้นสูงต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ให้ผู้ขับขี่รถทุกประเภทขับไม่เกินอัตราความเร็วขั้นสูงที่กำหนดไว้ในเครื่องหมายจราจรนั้น ตลอดทางเดินรถหรือในช่วงที่กำหนดดังกล่าว ยกเว้นกรณีไม่สามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณรถในทางเดินรถ หรือเหตุขัดข้องอื่นใดอันมีเหตุผลสมควรแก่กรณี
-
ปัญหาคือ ใครจะจับครับ ?
ทุกวันนี้ กระบะคอกวิ่งขวา ก็รูดกันยาวๆ เจอด่านทางหลวงก็วิ่งขวานะ ไม่เห็นทำอะไร ?
บางที มากัน 2-3 คันเลย ยิ่งใหญ่ซะเหลือเกิน.... >:(
-
สำหรับการขับรถในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่มีทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน
คือสงสัยว่า นอกจาก motor way ที่ให้วิ่งได้ 120km/h อยู่แล้ว มันยังมีถนนไหนอีกเหรอที่เข้าเกณฑ์ที่ว่ามาข้างบน
-
ผิดตั้งแต่เขียนป้าย "รถช้าชิดซ้าย" คนส่วนใหญ่ขับแช่ที่ 80-90 ก็บอกว่าขับเร็วตามกฎหมายกำหนด ไม่เห็นจะผิดตรงไหน กูไม่ช้าสัักหน่อย ทำไมต้องชิด ถ้าเมิงเร็วกว่าก็แซงไปซิ
-
กะบะเสี่ยวควันดำยังไม่มีปัญญาจับเลย!
-
คิดเล่นๆว่าควรออกกม. ว่า ถ้ามีรถเลนคันขวาคันใด โดนรถเลนซ้ายกว่าแซง คันเลนขวาจะต้องโทษปรับไม่เกินบลาๆๆ
เอาจริงๆเวลาดูคลิป POV ที่เปนออโต้บาร์น ที่เปนพวงมาลัยซ้าย ขับชิดขวา (ขับเร็วชิดซ้าย) ก้อแทบไม่เห็นรถเลนขวาที่เร็วกว่าด้านซ้ายเลย เลยคิดว่านี่มันเปนเรื่อง norm ที่มันไม่ได้ทำยากเลย
-
"... ได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำสำหรับช่องขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง
ซึ่งแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไปไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม."
อ่านจบ ผมพอจะสรุปได้ดังนี้
ถนนที่มีช่องการจราจรในทิศทางเดียวกัน ตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไป (หรือสองเลนขึ้นไปนั่นเอง) ถ้าขับเลนขวา ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม.
และต้องไม่เกิน 120 กม. ตามกำหนดกฏใหม่
นั่นหมายความว่า ถนนทางหลวง ที่มีเลนตั้งแต่ 2 เลนขึ้นไป ต้องวิ่งเลนขวา 100-120 กม./ชม. นั่นเอง
ส่วนถ้ามีใครวิ่งแช่เลนขวา ที่ใช้ความเร็วในช่วง 100-120 กม./ชม. ไม่น่าจะถือว่าผิดกฏหมายนี้
** แต่ด้วยจิตสำนึก ถึงจะแช่ขวาด้วยความเร็ว 100-120 กม./ชม. ถ้ามีรถหลังที่ตามมาวิ่งเร็วกว่า ก็ควรจะหลบซ้ายให้แซงไป**
-
ทำไมต้องไฟเขียว ในเมื่อมันผิดกฏหมาย พรบ.จราจรทางบก ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
ปัญหาไม่ใช่กฏหมาย แต่เป็นพฤติกรรมของคนใช้รถใช้ถนน หรือ คนขับรถ นี่ละปัจจัยหลักเลย ต่อมาก็ การบังคับใช้กฏหมาย
เช่นเดียวกับคนขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ขับเป็น 100 km ด้วยความเร็ว 140km/h+ แต่พอมาเถึงกล้อง ลดความเร็วมา 90km/h พอเลยกล้องก็กลับมาเหยียบ 140km/h+ เหมือนเดิม
ถึงบอกว่า คนขับ นี่ละ ควรตะหนักมากที่สุด
ไม่ผิด พรบ.จราจรทางบกนะครับ ตามมาตรา 67 พรบ.จราจรทางบก
ข้อความด้านล่างนี้ผมคัดลอกจากข่าวนะครับ
คณะรัฐมนตรี ผ่านร่างกฎกระทรวงฯ กำหนดความเร็วยานพาหนะ เพิ่มกำหนดความเร็วสูงสุด จากเดิม 90 เป็น 120 กม./ชม. ส่วนเลนขวาห้ามต่ำกว่า 100 กม./ชม.
วันที่ 1 ธ.ค. 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน
โดยร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะฉบับใหม่ จะมีการปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยได้มีการศึกษาวิเคราะห์กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหารือกับหน่วยงานและภาคประชาชนแล้ว
สำหรับการขับรถในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่มีทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน มีการกำหนดความเร็วสูงสุดดังนี้
100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถบรรทุกคนโดยสาร เกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน, รถจักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป
90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม และ รถบรรทุกคนโดยสารที่บรรทุกคนโดยสารเกิน 15 คน
80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รถโรงเรียน หรือรถรับส่งนักเรียน
65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถในขณะที่ลากจูงรถอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ
สำหรับรถยนต์อื่น ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นยังได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำ สำหรับการขับรถในช่องเดินรถช่องทางขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง ซึ่งจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไป โดยให้รถยนต์ทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในข้อกำหนดข้างต้น และ รถจักรยานยนต์ ใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากมีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วขั้นสูงต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ให้ผู้ขับขี่รถทุกประเภทขับไม่เกินอัตราความเร็วขั้นสูงที่กำหนดไว้ในเครื่องหมายจราจรนั้น ตลอดทางเดินรถหรือในช่วงที่กำหนดดังกล่าว ยกเว้นกรณีไม่สามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณรถในทางเดินรถ หรือเหตุขัดข้องอื่นใดอันมีเหตุผลสมควรแก่กรณี
กฏหมายเดิม ที่บังคับใช้อยู่
มาตรา 34 ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไปหรือที่ได้จัดช่องเดินรถประจําทางไว้ในช่องเดินรถซ้ายสุด ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องซ้ายสุดหรือใกล้กับช่องเดินรถประจําทาง เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ให้เดินทางขวาของทางเดินรถได้
1. ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
2. ทางเดินรถนั้น เจ้าพนักงานจราจรกําหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
3. จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก
4. เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
5. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย
ผมว่าแค่นี้มันก็ชัดแล้วนะครับ ผมไม่ใช่นักฏหมาย แต่อ่านแค่นี้ก็รู้แล้วว่า ไม่ควรแช่ขวา
จะขับ 120 140 หรือเท่าไหร่ ก็ไม่ควรแช่ เพราะสุดท้าย ก็อาจจะคนที่เร็วกว่า (ผิดความเร็ว ก็อีกเรื่อง) มาด้านหลัง เพื่อแซงเราไป ดังนั้น เขาก็ต้องใช้เลนขวา ในการแซง เช่นกัน
-
ส่วนเรื่องความเร็ว 120 กม/ชม เฉพาะถนนบางเส้นทางครับ และจำกัดระยะทางแค่บางช่วง ที่ใช้ความเร็วได้
ไม่ใช่ถนนเส้นไหนก็ขับ 120 ได้ทั้งหมดแต่หลายสื่อเอาข่าว มาปั่นเหมารวมถนนหมดทั้งประเทศ
+1
เชือว่า 90% ของคนมีใบขับขี่ คงไม่รู้ด้วยซ้ำและถึงรู้ก็ไม่ทำตาม เหมือนเส้นทึบที่ห้ามแซง ก็แซงกัน ถนนสวนกันก็ล่อซะ 140-160
-
แล้วถ้ามีคนแช่ขวาที่ความเร็ว 110 นี่จัดว่าผิดกฏหมายไหมอะครับ
บางทีเราขับ 120 ที่เลนขวาแล้ว ก็จะมีรถที่เร็วกว่าจี้ท้าย และกระพริบไฟใส่คือ เราควรทำยังไง ....
-
เฉยๆ แซงซ้ายจนชินแล้ว ตัวเราเองแหละที่ต้องปรับให้เข้ากับสังคมไทย อย่าไปรอกฎหมายเลย เครียดเปล่าๆ 8) 8) 8)
-
"... ได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำสำหรับช่องขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง
ซึ่งแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไปไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม."
อ่านจบ ผมพอจะสรุปได้ดังนี้
ถนนที่มีช่องการจราจรในทิศทางเดียวกัน ตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไป (หรือสองเลนขึ้นไปนั่นเอง) ถ้าขับเลนขวา ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม.
และต้องไม่เกิน 120 กม. ตามกำหนดกฏใหม่
นั่นหมายความว่า ถนนทางหลวง ที่มีเลนตั้งแต่ 2 เลนขึ้นไป ต้องวิ่งเลนขวา 100-120 กม./ชม. นั่นเอง
ส่วนถ้ามีใครวิ่งแช่เลนขวา ที่ใช้ความเร็วในช่วง 100-120 กม./ชม. ไม่น่าจะถือว่าผิดกฏหมายนี้
** แต่ด้วยจิตสำนึก ถึงจะแช่ขวาด้วยความเร็ว 100-120 กม./ชม. ถ้ามีรถหลังที่ตามมาวิ่งเร็วกว่า ก็ควรจะหลบซ้ายให้แซงไป**
แล้วถ้ามีคนแช่ขวาที่ความเร็ว 110 นี่จัดว่าผิดกฏหมายไหมอะครับ
บางทีเราขับ 120 ที่เลนขวาแล้ว ก็จะมีรถที่เร็วกว่าจี้ท้าย และกระพริบไฟใส่คือ เราควรทำยังไง ....
-
อย่าเอามาคิดให้รกสมองเลยครับ หาจังหวะดีๆแซงซ้ายไปจบๆ
เอาจริงๆ เห็นด้วยครับ
แรกๆ หงุดหงิด หลังๆ ปลง เพราะมันติดแช่ขวายาวๆ แทบทุกเส้นทางไป ตจว.เลย ยิ่งรถเยอะๆ หน่อย เห็นชัด คนขับเร็วก็เลยต้องไปซ้ายกัน
พีคสุด พวกขับความเร็วพอกันทุกเลน เป้นแพเลยจ้าาาาาาาาาาาาาาา
-
อย่างหลายๆท่านว่า รณรงค์ให้มันจริงจัง แก้ความเข้าใจผิดเพิ่ม
คงจะช่วยให้อยู่ร่วมกันได้ระหว่างคนขับรถเล่นกับคนที่มีความเร่งรีบ
กับการดูแลถนนให้มันได้มาตรฐาน จับรถบรรทุกหนักเกินพิกัดที่ทำถนนพัง
ถ้าการเมืองดี .. คงไม่มีคำว่าเคลียร์แล้ว จนถนนพังคนไม่อยากวิ่งซ้ายครับ
-
ทำไมต้องไฟเขียว ในเมื่อมันผิดกฏหมาย พรบ.จราจรทางบก ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
ปัญหาไม่ใช่กฏหมาย แต่เป็นพฤติกรรมของคนใช้รถใช้ถนน หรือ คนขับรถ นี่ละปัจจัยหลักเลย ต่อมาก็ การบังคับใช้กฏหมาย
เช่นเดียวกับคนขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ขับเป็น 100 km ด้วยความเร็ว 140km/h+ แต่พอมาเถึงกล้อง ลดความเร็วมา 90km/h พอเลยกล้องก็กลับมาเหยียบ 140km/h+ เหมือนเดิม
ถึงบอกว่า คนขับ นี่ละ ควรตะหนักมากที่สุด
ไม่ผิด พรบ.จราจรทางบกนะครับ ตามมาตรา 67 พรบ.จราจรทางบก
ข้อความด้านล่างนี้ผมคัดลอกจากข่าวนะครับ
คณะรัฐมนตรี ผ่านร่างกฎกระทรวงฯ กำหนดความเร็วยานพาหนะ เพิ่มกำหนดความเร็วสูงสุด จากเดิม 90 เป็น 120 กม./ชม. ส่วนเลนขวาห้ามต่ำกว่า 100 กม./ชม.
วันที่ 1 ธ.ค. 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน
โดยร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะฉบับใหม่ จะมีการปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยได้มีการศึกษาวิเคราะห์กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหารือกับหน่วยงานและภาคประชาชนแล้ว
สำหรับการขับรถในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่มีทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน มีการกำหนดความเร็วสูงสุดดังนี้
100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถบรรทุกคนโดยสาร เกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน, รถจักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป
90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม และ รถบรรทุกคนโดยสารที่บรรทุกคนโดยสารเกิน 15 คน
80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รถโรงเรียน หรือรถรับส่งนักเรียน
65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แก่ รถในขณะที่ลากจูงรถอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ
สำหรับรถยนต์อื่น ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นยังได้กำหนดความเร็วขั้นต่ำ สำหรับการขับรถในช่องเดินรถช่องทางขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง ซึ่งจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไป โดยให้รถยนต์ทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในข้อกำหนดข้างต้น และ รถจักรยานยนต์ ใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากมีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วขั้นสูงต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ให้ผู้ขับขี่รถทุกประเภทขับไม่เกินอัตราความเร็วขั้นสูงที่กำหนดไว้ในเครื่องหมายจราจรนั้น ตลอดทางเดินรถหรือในช่วงที่กำหนดดังกล่าว ยกเว้นกรณีไม่สามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณรถในทางเดินรถ หรือเหตุขัดข้องอื่นใดอันมีเหตุผลสมควรแก่กรณี
กฏหมายเดิม ที่บังคับใช้อยู่
มาตรา 34 ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไปหรือที่ได้จัดช่องเดินรถประจําทางไว้ในช่องเดินรถซ้ายสุด ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องซ้ายสุดหรือใกล้กับช่องเดินรถประจําทาง เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ให้เดินทางขวาของทางเดินรถได้
1. ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
2. ทางเดินรถนั้น เจ้าพนักงานจราจรกําหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
3. จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก
4. เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
5. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย
ผมว่าแค่นี้มันก็ชัดแล้วนะครับ ผมไม่ใช่นักฏหมาย แต่อ่านแค่นี้ก็รู้แล้วว่า ไม่ควรแช่ขวา
จะขับ 120 140 หรือเท่าไหร่ ก็ไม่ควรแช่ เพราะสุดท้าย ก็อาจจะคนที่เร็วกว่า (ผิดความเร็ว ก็อีกเรื่อง) มาด้านหลัง เพื่อแซงเราไป ดังนั้น เขาก็ต้องใช้เลนขวา ในการแซง เช่นกัน
ขออภัยครับ
ผมน่าจะเข้าใจผิดไปเอง ในความหมายที่คุณโพสท์ครับ
-
กล้องมันตั้งออโต้ให้ตรวจจับ รถที่วิ่งเลนขวาแล้วช้าจนโดนจ่อท้าย ได้ใช่ไหม?
ถ้าไม่ได้แล้วใช้อะไรวัดว่าแช่ขวา? ดุลยพินิจตำรวจ? คิดว่าไม่น่าจับพวกแช่ขวาได้
จับได้แต่พวกวิ่งเร็วเกินค่าที่กำหนดในกล้อง เมื่อกี้ขับรถเข้าออฟฟิชด่วนบางนาขาเข้า
ทางโล่งๆ ก็ยังเจอแจ๊สสีน้ำเงินแช่ขวา อุดตันรถเลนขวาจ่อท้ายกันยาวเป็นสิบกว่าคัน
สุดท้ายก็ต้องแซงซ้ายกันหมด มันเป็นเชี้ยอะไรกันฟร๊ะคนเรา อาการมันลงแดงหรอเข้าซ้ายไม่เป็น 8)
-
บ้านเรามีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ กม นี่แหละครับ
-
ถึงคลอดออกมาจริงก็แทบไม่มีผลอะไรอยู่ดีครับ
เพราะถนนส่วนใหญ่ในประเทศ มันไม่มีกำแพงกั้นเป็นเกาะกลาง และมีทางกลับรถเสมอระดับถนน ทั้งนั้นเลย
ซึ่งกฏหมายใหม่นี้มันไม่ได้บังคับใช้กับถนนประเภทนี้
-
กฎจราจร และกฎหมายที่นี่มันแทบไม่มีใครกลัวหรอก :'( เอาแบบอย่างเมกาเลยต้องเอาจริงจังนะ รับรองพวกเกรียนบนถนนต้องหมดไป!! :-\