Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: PKS8 ที่ ธันวาคม 11, 2020, 20:04:52
-
ตอนแรกว่าจะตั้งงบไว้ 1.1-1.3 แต่พอไปลองหลายๆตัวแล้ว ทั้ง Cross CX30 ภรรยาสรุปถูกใจ CRV 2.4 ES กับ CX5 2.0SP ซะงั้น เลยต้องเบ่งงบขึ้นไปอีกหน่อย ไม่ทราบว่า 2 ตัวนี้ไปตัวไหนดีครับ
ฮอนด้าได้ขับ 4 ปัญหาเรื่องศูนย์กับตัวรถน้อยกว่ามาสด้าหรือเปล่าครับ
ส่วน CX5 ได้ลองขับแล้วถูกใจผมมาก เหมือน บุคลิคคนล่ะแนวกับ Forester ที่มีอยู่แล้ว
ตอนนี้เหลือแค่ 2 ตัว ภรรยาบอกคันไหนก็ได้เลือกเอา ส่วนตัวผมค่อนข้างเอียงไปทางมาสด้า แต่กังวลเรื่องตัวรถกับศูนย์บริการครับ ไม่ทราบว่าคุ้มเสี่ยงมั้ยครับ
-
ปัญหาหลักของตัวรถเรื่องปั๊มติ๊ก ซึ่งรถผลิตตั้งแต่ปลายปี 2019 ผมยังไม่เคยเห็นเคสนี้ ไม่แน่ใจว่ามาสด้าแก้ปัญหาจบแล้วหรืยัง
แต่ทียังเป็นปัญหาคือ เรื่องไม่ยอมให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์กับเรื่องศูนย์บริการครับ
ถ้าไม่รีบใช้รถ เป็นผมรอตัว mc ก่อนดีกว่า น่าจะได้จอกลางกับจอเรือนไมล์ใหม่
-
ปัญหาหลักของตัวรถเรื่องปั๊มติ๊ก ซึ่งรถผลิตตั้งแต่ปลายปี 2019 ผมยังไม่เคยเห็นเคสนี้ ไม่แน่ใจว่ามาสด้าแก้ปัญหาจบแล้วหรืยัง
แต่ทียังเป็นปัญหาคือ เรื่องไม่ยอมให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์กับเรื่องศูนย์บริการครับ
ถ้าไม่รีบใช้รถ เป็นผมรอตัว mc ก่อนดีกว่า น่าจะได้จอกลางกับจอเรือนไมล์ใหม่
พอจะทราบว่ามีแนวโน้มมาเมื่อไหร่มั้ยครับ
-
จากที่ใช้มาประมาณ 2ปีกว่า ตัวผมยังไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ
จะมีแค่ตอน 40,000 กม. ที่เกียร์มันหน่วงๆ หน่อย รู้สึกไม่กระฉับกระเฉงเหมือนตอนที่รับรถมาใหม่ๆ แต่พอเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้วก็ไหลลื่นปกติ
(ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ข้างนอกเอง ที่ศูนย์ไม่ยอมให้เปลี่ยน)
เรื่องศูนย์บริการก็รอคิวนานหน่อย ผมแก้ปัญหาโดยการโทรจองล่วงหน้าก่อน ประมาณ 1 เดือน
ส่วนค่าแรงก็แพงมากๆ ทั้งที่การบริการไม่ต่างจากแบรนด์อื่นเลย และในส่วนที่ผมไม่โอเคเลย คือทางศุนย์ไม่ยอมให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์นี่แหละ
ถ้าตัดเรื่องค่าแรงที่ศูนย์บริการกับราคาขายต่อ ผมว่าตัวรถมันก็เป็นรถที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป(เทียบ option กับแบรนด์อื่นๆ ในเรทราคาเดียวกัน)
เป็นรถที่ขับสนุกตามสไตล์มาสด้าเค้าแหละ
-
ปัญหาหลักของตัวรถเรื่องปั๊มติ๊ก ซึ่งรถผลิตตั้งแต่ปลายปี 2019 ผมยังไม่เคยเห็นเคสนี้ ไม่แน่ใจว่ามาสด้าแก้ปัญหาจบแล้วหรืยัง
แต่ทียังเป็นปัญหาคือ เรื่องไม่ยอมให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์กับเรื่องศูนย์บริการครับ
ถ้าไม่รีบใช้รถ เป็นผมรอตัว mc ก่อนดีกว่า น่าจะได้จอกลางกับจอเรือนไมล์ใหม่
พอจะทราบว่ามีแนวโน้มมาเมื่อไหร่มั้ยครับ
เรื่องนี้ลองถามใน drive by jimmy พรุ่งนี้ดูครับ จะได้มีแนวทางว่าจะรอหรือไม่รอดี
เห็นในต่างประเทศมีเปลี่ยนจอกลางกับเรือนใหม่ ไม่แน่ใจว่าเรียก mc ได้ไหม หรือแค่ ปรับอุปกรณ์
ส่วนตัวเดาว่าบ้านเราน่าจะได้ภายในปีหน้าแต่ไม่รู้ช่วงไหน เพราะ cx-5 โฉมนี้อายุครบสามปีเต็มแล้ว
-
ดีจัง ภรรยาตามใจ ให้เลือก ฮาาาาาา
Hondaเป็นรถที่ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง ค่าอะไหล่ และค่าเช็คระยะ ต่ำกว่าMazdaครับ อะไหล่ถูกกว่า
ถ้าพิจารณาเรื่องการซ่อมบำรุง ก็Hondaครับ
ถ้าเอาตามชอบ ขับแล้วใช่ Mazdaครับ
น้ำมันเกียร์เราเปลี่ยนเองตามสะดวกที่อู่ครับ
FZลิตรละ1-200บ(แล้วแต่ว่าซื้อยี่ห้ออะไร และจากที่ไหน) + ค่าแรงช่างอู่หลักร้อยบาท
-
ถ้าซื้อ mazda นอกจากขอส่วนลดเป็นแสนๆแล้ว ต้องขอคูปองเช็คระยะ 3ปีแสนโลฟรีด้วยครับจะได้ฟรีค่าของเหลวกับค่าแรงศูนย์ไปได้หลายหมื่น
-
ขอถามเพิ่มได้ไหมครับ นอกจากสนิมในcity civic// crv accordมีสนิมด้วยไหมครับ
-
สิงอยู่ในกรุ๊ปไลน์cx8
มีสมาชิกบอกว่า ทางมาสด้าไทย อาจจะยอมกลับคำให้มีการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ได้นะครับ
เพียงแต่ยังเป็นข่าวลอยๆมา ยังไม่ชัดเจนเหมือนกันว่าจะจริงไหม
แต่ปัญหาค่าแรง/ชม.นี่แพงจริงๆครับ ขั้นต่ำก็650บาท/ชม.ละ
อาจจะแอบโชคดีที่ออกcx8ตอนแรกๆที่ฟรีค่าแรง10ระยะ ประหยัดตรงนี้ไปร่วมหมื่นบาทครับ
-
จากที่ใช้มาประมาณ 2ปีกว่า ตัวผมยังไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ
จะมีแค่ตอน 40,000 กม. ที่เกียร์มันหน่วงๆ หน่อย รู้สึกไม่กระฉับกระเฉงเหมือนตอนที่รับรถมาใหม่ๆ แต่พอเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้วก็ไหลลื่นปกติ
(ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ข้างนอกเอง ที่ศูนย์ไม่ยอมให้เปลี่ยน)
เรื่องศูนย์บริการก็รอคิวนานหน่อย ผมแก้ปัญหาโดยการโทรจองล่วงหน้าก่อน ประมาณ 1 เดือน
ส่วนค่าแรงก็แพงมากๆ ทั้งที่การบริการไม่ต่างจากแบรนด์อื่นเลย และในส่วนที่ผมไม่โอเคเลย คือทางศุนย์ไม่ยอมให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์นี่แหละ
ถ้าตัดเรื่องค่าแรงที่ศูนย์บริการกับราคาขายต่อ ผมว่าตัวรถมันก็เป็นรถที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป(เทียบ option กับแบรนด์อื่นๆ ในเรทราคาเดียวกัน)
เป็นรถที่ขับสนุกตามสไตล์มาสด้าเค้าแหละ
เวรกำ บ้านอากาศร้อนขนาดนี้ ทำเหมือน BMW เลยไม่ยอมให้ถ่ายน่ำมันเกียร์
เจอโพสนี้เข้าความอยากมาสด้าผมหดเลยครับ 55555
ปัญหาหลักของตัวรถเรื่องปั๊มติ๊ก ซึ่งรถผลิตตั้งแต่ปลายปี 2019 ผมยังไม่เคยเห็นเคสนี้ ไม่แน่ใจว่ามาสด้าแก้ปัญหาจบแล้วหรืยัง
แต่ทียังเป็นปัญหาคือ เรื่องไม่ยอมให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์กับเรื่องศูนย์บริการครับ
ถ้าไม่รีบใช้รถ เป็นผมรอตัว mc ก่อนดีกว่า น่าจะได้จอกลางกับจอเรือนไมล์ใหม่
พอจะทราบว่ามีแนวโน้มมาเมื่อไหร่มั้ยครับ
เรื่องนี้ลองถามใน drive by jimmy พรุ่งนี้ดูครับ จะได้มีแนวทางว่าจะรอหรือไม่รอดี
เห็นในต่างประเทศมีเปลี่ยนจอกลางกับเรือนใหม่ ไม่แน่ใจว่าเรียก mc ได้ไหม หรือแค่ ปรับอุปกรณ์
ส่วนตัวเดาว่าบ้านเราน่าจะได้ภายในปีหน้าแต่ไม่รู้ช่วงไหน เพราะ cx-5 โฉมนี้อายุครบสามปีเต็มแล้ว
ขอบคุณมากครับ
ดีจัง ภรรยาตามใจ ให้เลือก ฮาาาาาา
Hondaเป็นรถที่ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง ค่าอะไหล่ และค่าเช็คระยะ ต่ำกว่าMazdaครับ อะไหล่ถูกกว่า
ถ้าพิจารณาเรื่องการซ่อมบำรุง ก็Hondaครับ
ถ้าเอาตามชอบ ขับแล้วใช่ Mazdaครับ
น้ำมันเกียร์เราเปลี่ยนเองตามสะดวกที่อู่ครับ
FZลิตรละ1-200บ(แล้วแต่ว่าซื้อยี่ห้ออะไร และจากที่ไหน) + ค่าแรงช่างอู่หลักร้อยบาท
จริงผมไม่ได้ติอะไรเจ้า CRV G5 นะครับ เพียงภายในมาสด้า และพวงมาลัยนี่ชอบมากครับ แต่หลักๆผมเข้าศูนย์อย่างเดียวเลยครับ เจอเรื่องน้ำมันเกียร์แบบนี้ อาจจะถอยมาคิดใหม่ล่ะครับ
-
ขอถามเพิ่มได้ไหมครับ นอกจากสนิมในcity civic// crv accordมีสนิมด้วยไหมครับ
CRV ตัวนี้ & Accord G10 ถึงตอนนี้ไม่มีครับ รถผมเองกับในกลุ่มเช็คไม่มีใครเจอ วัสดุตรงช่วงนที่
มีสนิมของ city รุ่นปัจจุบันของ Accord เป็นคนละสีกัน Accord ตัวตอนนี้ประกอบส่งญี่ปุ่นด้วยส่วนนีง
คงไม่น่าจะมีเพราะต้องทำของดีไว้ขายบ้านตัวเอง 5555 ส่วน Crv ยังไม่ได้ยินครับ
-
จริงๆผมเชียร์ Cx-30 ที่สุดแต่ ถ้าต้องเอาคันใหญ่กว่าแบบนี้จริงๆ คู่นี้อยากซ่อมถูก ไม่คิดมากรถขับใช้ได้
ก้เอา Crv ถ้าอยากได้การขับที่ดีกว่านิดหน่อย ยอมรับเรื่องศูนย์ที่ไม่น่าไว้ใจได้ ก้ลอง mazda ได้
ถ้าใช้ไม่เกิน 5 ปี cx5 น่าสนครับ ถ้าใช้เดิน5ปี ไป crv จะอุ่นใจกว่า
-
จริงๆผมเชียร์ Cx-30 ที่สุดแต่ ถ้าต้องเอาคันใหญ่กว่าแบบนี้จริงๆ คู่นี้อยากซ่อมถูก ไม่คิดมากรถขับใช้ได้
ก้เอา Crv ถ้าอยากได้การขับที่ดีกว่านิดหน่อย ยอมรับเรื่องศูนย์ที่ไม่น่าไว้ใจได้ ก้ลอง mazda ได้
ถ้าใช้ไม่เกิน 5 ปี cx5 น่าสนครับ ถ้าใช้เดิน5ปี ไป crv จะอุ่นใจกว่า
ขอบคุณมากๆครับ ตอนแรกก็อยากได้ CX30 หรือ Cross แต่พอไปลอง อึดอัดมากเลยครับ
-
คู่นี้ผมไป CRV ครับ มันนั่งสบายกว่า CX5ชัดเจนเลยหละ วัสดุผมว่าก็ไม่เลวนะครับ ดีด้วยเพียงแต่ว่า CX5มันดีกว่าก็เท่านั้นเอง หน้าตาผมให้ CRV สวยกว่า CX5 ครับ เกลียดท้าย CX5 ไฟท้ายจะเล็กไปไหน
-
ถ้าซื้อให้ภรรยา ผมเลือก CRV ครับ เพื่อความสบายใจใช้งานและไม่ต้องลุ้นระหว่างการใช้งานด้วยครับ ถ้ามีปัญญาขึ้นมานิมีหูชาเลยครับ
-
เมื่อก่อน Mazda ดีเซลก็ห่วงเรื่องน้ำดัน เบนซินก็ห่วงเรื่องปั๊มติ๊ก
พอเรื่องเครื่องยนต์เริ่มซาๆลง เหมือนเขาปรับปรุงแก้ไขได้ หรือดูเหมือนจัดการอะไรๆได้เรียบร้อยขึ้น
ก็มาเรื่อง "น้ำมันเกียร์" อีก 555
Mazda นี่ขายดีจนไม่ค่อยแคร์ลูกค้าเท่าไรเลยนะครับ
ถ้าจะไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ในโปรแกรม maintenance free ของศูนย์ ก็ควรจะมีทางเลือกให้ลูกค้าได้เลือกยอมจ่ายเพื่อเปลี่ยนที่ศูนย์ได้ด้วยนะครับ เหมือน BSI ของ BMW หรือ VPSP ของ Volvo น่ะครับ ก็สามารถเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ศูนย์ได้เลย โดยได้มาตรฐาน และการรับประกันจากทางศูนย์เหมือนเดิม
แต่นี่ต้องไล่ ต้องดัน ให้ลูกค้าไปเลือกเปลี่ยนเองกับอู่นอก แล้วมาบอกว่า ถ้าเปลี่ยนข้างนอก จะไม่รับประกันอีก มันดูถูกลูกค้าเกินไปนะครับ
-
CRV น่าจะสบายใจกว่าในระยะยาวนะครับ
-
เมื่อก่อน Mazda ดีเซลก็ห่วงเรื่องน้ำดัน เบนซินก็ห่วงเรื่องปั๊มติ๊ก
พอเรื่องเครื่องยนต์เริ่มซาๆลง เหมือนเขาปรับปรุงแก้ไขได้ หรือดูเหมือนจัดการอะไรๆได้เรียบร้อยขึ้น
ก็มาเรื่อง "น้ำมันเกียร์" อีก 555
Mazda นี่ขายดีจนไม่ค่อยแคร์ลูกค้าเท่าไรเลยนะครับ
ถ้าจะไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ในโปรแกรม maintenance free ของศูนย์ ก็ควรจะมีทางเลือกให้ลูกค้าได้เลือกยอมจ่ายเพื่อเปลี่ยนที่ศูนย์ได้ด้วยนะครับ เหมือน BSI ของ BMW หรือ VPSP ของ Volvo น่ะครับ ก็สามารถเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ศูนย์ได้เลย โดยได้มาตรฐาน และการรับประกันจากทางศูนย์เหมือนเดิม
แต่นี่ต้องไล่ ต้องดัน ให้ลูกค้าไปเลือกเปลี่ยนเองกับอู่นอก แล้วมาบอกว่า ถ้าเปลี่ยนข้างนอก จะไม่รับประกันอีก มันดูถูกลูกค้าเกินไปนะครับ
ผมเคยคิดนะ ว่าไอ้เรื่องไม่ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์นี่มันไร้เหตุผลจะเปรียบเทียบยังไงได้
มันไม่ต่างจากการที่เราไปอาบน้ำ เราจะใช้คอนดอม มันบอกไม่ให้ใช้ เราถามถ้าติดเชื้อทำไง ป้องกันแบบนี้ไม่ยอมนะ เด่วเปนไรขึ้นมาก้อต้องรับผิดชอบเอง ทั้งที่คอนดอมเราก้อไม่ได้ขอเขา เราเอาไปเอง
งง นะว่ามั้ยครับ 555
-
ไม่เกี่ยวกับ CX5 นะครับ เพราะผมใช้มาสด้า 2
แต่จากที่ใช้มาสองปีกว่าๆ ต้องวนเวียนเข้าไปเคลมอะไหล่ที่ศูนย์อยู่หลายครั้ง เจอประสิทธิภาพของช่าง ประสิทธิภาพการเคลม (ที่บางอย่างต้องบู๊ ถึงจะได้) กับคำตอบเรื่องถ่ายน้ำมันเกียร์ + กับค่าแรงเช็คระยะและราคาอะไหล่บางชิ้นที่อาจต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา
ผมก็เลยเกียมบอกลามาสด้าถาวรแล้วครับ
-
จบครับ ยอมเลยครับ 5555+
-
เบนซินมาสด้า พอเล่นได้ ระวังเรื่องปั๊มติ๊กหน่อยครับ
เรื่องน้ำมันเกียร์ ถ้าจะเปลี่ยรตอนนี้อู่นอกอย่างเดียวครับ
ผมใช้ CX5 gen1 ก็ยังรู้สึกตัดสินใจไม่ผิดที่เลือก คือตัวรถดีจริง แต่เรื่องอื่นก็ตามที่เขาบ่นกัน 555
-
เมื่อก่อน Mazda ดีเซลก็ห่วงเรื่องน้ำดัน เบนซินก็ห่วงเรื่องปั๊มติ๊ก
พอเรื่องเครื่องยนต์เริ่มซาๆลง เหมือนเขาปรับปรุงแก้ไขได้ หรือดูเหมือนจัดการอะไรๆได้เรียบร้อยขึ้น
ก็มาเรื่อง "น้ำมันเกียร์" อีก 555
Mazda นี่ขายดีจนไม่ค่อยแคร์ลูกค้าเท่าไรเลยนะครับ
ถ้าจะไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ในโปรแกรม maintenance free ของศูนย์ ก็ควรจะมีทางเลือกให้ลูกค้าได้เลือกยอมจ่ายเพื่อเปลี่ยนที่ศูนย์ได้ด้วยนะครับ เหมือน BSI ของ BMW หรือ VPSP ของ Volvo น่ะครับ ก็สามารถเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ศูนย์ได้เลย โดยได้มาตรฐาน และการรับประกันจากทางศูนย์เหมือนเดิม
แต่นี่ต้องไล่ ต้องดัน ให้ลูกค้าไปเลือกเปลี่ยนเองกับอู่นอก แล้วมาบอกว่า ถ้าเปลี่ยนข้างนอก จะไม่รับประกันอีก มันดูถูกลูกค้าเกินไปนะครับ
BMW เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ประกัน BSI หลุดนะครับ
-
เมื่อก่อน Mazda ดีเซลก็ห่วงเรื่องน้ำดัน เบนซินก็ห่วงเรื่องปั๊มติ๊ก
พอเรื่องเครื่องยนต์เริ่มซาๆลง เหมือนเขาปรับปรุงแก้ไขได้ หรือดูเหมือนจัดการอะไรๆได้เรียบร้อยขึ้น
ก็มาเรื่อง "น้ำมันเกียร์" อีก 555
Mazda นี่ขายดีจนไม่ค่อยแคร์ลูกค้าเท่าไรเลยนะครับ
ถ้าจะไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ในโปรแกรม maintenance free ของศูนย์ ก็ควรจะมีทางเลือกให้ลูกค้าได้เลือกยอมจ่ายเพื่อเปลี่ยนที่ศูนย์ได้ด้วยนะครับ เหมือน BSI ของ BMW หรือ VPSP ของ Volvo น่ะครับ ก็สามารถเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ศูนย์ได้เลย โดยได้มาตรฐาน และการรับประกันจากทางศูนย์เหมือนเดิม
แต่นี่ต้องไล่ ต้องดัน ให้ลูกค้าไปเลือกเปลี่ยนเองกับอู่นอก แล้วมาบอกว่า ถ้าเปลี่ยนข้างนอก จะไม่รับประกันอีก มันดูถูกลูกค้าเกินไปนะครับ
BMW เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ประกัน BSI หลุดนะครับ
ถฺ้าเปลี่ยนในศูนย์ BSI ไม่หลุดหรอกครับ แต่แพง 555
ผมว่ายืดหยุ่นดี แล้วแต่ความเชื่อของเจ้ารถ อยากเปลี่ยนก็ให้เปลี่ยน
ไม่เหมือน mazda อยากจะเปลี่ยนนี่อึดอัดตาย
-
ในฐานะที่ใช้ 2 ดีเซลอยู่
ผมมาคอนเฟิร์มได้แค่ความห่วยของศูนย์บริการครับ
ยิ่งเดี๋ยวนี้ รถเยอะ คิวยาว เขาก็เร่งงานให้จบๆ ไป
ค่าแรงแพง อะไหล่แพง
อะไหล่บางอย่างก็แพงอย่างไม่น่าเชื่อ เช่นกระจกมองข้าง
-
ฟังผู้ใช้Mazdaเล่าถึงการเข้าศูนย์แล้ว
Hondaดีกว่าเยอะเลยครับ ราคาอะไหล่ ค่าแรง การบริการ
สายทำรถเองอะไหล่Hondaมีทั้งอู่ ร้านอะไหล่ไกล้บ้าน อะไหล่On line
ผมเลิกindyแล้ว พ้นจากFord มาใช้Honda Nissan ชีวิตเป็นปกติสบายใจครับ อิอิ
พี่ชายผมใช้M3 Sky หลังหมดการรับประกัน ก็อู่ไกล้บ้าน น้ำมันเกียร์FZ ลิตร1xx +ค่าแรงหลักร้อยบาท
-
ฟังจากคนใช้แล้ว ผมกลับลำแทบไม่ทันเลยครับ ยังดีใจเย็นๆ หาข้อมูลก่อน ขอบคุณทุกคอมเม้นครับ
-
เข้ามาเสริมเรื่องประสบการณ์ในด้านศูนย์บริการแบรนด์นี้ครับ
เคยพิมพ์ตอบไว้ในกระทู้เก่าๆ ขอก็อปมาทั้งดุ้นแล้วกันครับ
เอาสาระสำคัญ
1. รถผมเคยตัดเข้า safe mode จนไม่สามารถขับได้ตั้งแต่ 6 เดือนแรก 13,xxx km ผมเข้าไปใช้บริการแก้ปัญหามาทั้งสิ้น 4 แห่ง
- แห่งแรกหลังเกิดปัญหาใหม่ๆ ตจว. แถวบ้าน ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีปัญญาทำอะไรได้เลย นอกจากลบไฟ และใช่ครับรุ่งขึ้นก็เป็นอีก
- แห่งที่สอง ศูนย์ กทม. ไม่ดัง เข้าเพราะความบังเอิญ จริงต้องจำเป็นใช้รถไปที่อื่นต่อ แห่งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม. บอกว่าฝาครอบวาล์วน่าจะมีปัญหา แต่ด้วยลูกค้าไม่สะดวกทิ้งเคลมเลยเขียนเป็นข้อมูลไว้ให้แห่งที่สามเค้าไปจัดการต่อตอนผมมีเวลา
- แห่งที่สาม ศูนย์ปริมณฑลดังเลย บอกขอรถผมทิ้งไว้สัปดาห์นึงหาสาเหตุ ผมให้ข้อมูลทุกอย่างที่แห่งที่สองหาไว้ให้ ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจ เดี๋ยวหาเอง และใช่ครับ...หาไม่เจอ เก็บข้อมูลส่ง MST กันต่ออีกสัปดาห์ก่อนที่ MST จะให้ความเห็นมาว่า ครีบเทอร์โบรถผมเหมือนจะมีองศาเปิดปิดผิดปกตินิดหน่อย ศูนย์ถึงได้ทำเรื่องเคลมเทอร์โบให้ ก็ยกเครื่องออกมาเปลี่ยนโบลูกใหม่กันตั้งแต่รถยังมีประกันเลย พ่อผมก็ใจเสีย ผมก็ไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเองเลยช่วงนั้นมีงานเข้า ก็ฝากพ่อไปดูก็มีบ่นกลับมาเกือบทุกวัน ช่างทำสกรูรูดบ้าง ตอนลงมาดูที่รถก็เหมือนสีหน้าไม่พอใจบ้าง ทำส่งๆ บ้าง ก็เลย เอาวะช่างมัน ซ่อมคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก พอซ่อมเสร็จ ใช่ครับ ผ่านไป 3 วัน มันกลับมาอีก แถมบังเอิญไปเจอน้ำมันเครื่องปนลงไปน้ำหม้อน้ำด้วย!! รีบเอากลับไปแก้เลย ช่างก็ถอด ECU ไป reset แล้วบอกว่าเปลี่ยนโบใหม่ลืม set และก็เปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำทั้งระบบให้ใหม่และก็ไม่เจอว่ารั่ว อาจจะตอนยกเครื่องเข้าออกแล้วปนลงไป ก็รับกลับมาใช้งาน
จนเวลาผ่านไปล่วงเลยจนหมดประกันครับ หมดไม่ทันจะ 5 เดือนดีกับ 90,000 โล มันกลับมาเป็นอีกแล้ว!!!!!!! โอ้ยยยย! ยังกะแห่งที่ 3 ตั้งเวลาไว้
- แห่งที่ 4 ปริมณฑลเจ้าใกล้เคียง ไม่ดังเท่าแถมเล็กกว่า แต่ผมสะดวกเดินทางมากกว่า และช่วงหลังก็มาเช็คระยะที่นี่บ่อย ก็ให้เค้าดูแล้วก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนเข้าแห่งที่ 3 ที่เคยเกิดขึ้น ยังดีที่ฟัง แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวผมขอหาดูก่อนทิ้งไว้ก่อน 3 วัน แต่ก็ใช้เวลาครึ่งวันครับ โทรกลับมาบอกว่า...
ฝาครอบเครื่องวาล์วมีปัญหา เฮ้ยย! พูดเหมือนแห่งที่ 2 เป๊ะ! (เอ้าแล้วที่ตรูต้องยกเครื่องเปลี่ยนโบไปล่ะ! ==")
แต่ก็ตาม step ครับ พี่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง! พ่อนี่ถึงกับขึ้นเสียง แล้วมันเคยเกิดขึ้นแล้วตอนในประกันมันไม่หาย มันต้องเป็นความรับผิดชอบของคุณหรือป่าว คุณลองไปเช็คประวัติดูก็ได้ว่ารถผมเคยทำอะไรไปบ้าง และคำตอบที่ได้กลับมาคือ คนละศูนย์ผมเช็คประวัติไม่ได้!! ห๊ะ! นี่ส่วนกลางเค้าไม่มีการเก็บข้อมูลรถกันไว้เลยหรอ รถตัดประกันนี่บันทึกกันไว้ดี๊ดี ในสมุดประวัติรถเล่มฟ้าก็น่ารักมาก เขียนแค่เคลมเทอร์โบ จบ!! What?? สุดท้ายทางหัวหน้าช่างเลยเห็นว่ารถผมเข้าศูนย์ตลอด เลยบอกจะลองเสนอการใช้สิทธิ์ goodwill ดูให้ ซึ่งใช้เวลาทำเรื่องทั้งหมด 2 สัปดาห์ครึ่ง ผมก็ตามเป็นระยะ สัปดาห์แรกช่างเทคนิคจาก MST มาเก็บข้อมูล แล้วก็หายไป สัปดาห์ต่อมาโทรมาบอกว่าน่าจะได้แต่ยังไม่รับปาก อีกครึ่งสัปดาห์ถึงบอกว่าอนุมัติ ครับ แล้วก็ได้เคลมฝาครอบวาล์วมา และตอนนี้หลังเคลมมาก็มาเจอช่วงโควิดพอดี เลยได้ใช้รถแค่ไปกลับทำงานไม่ได้ไปไหนไกลๆ ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ
2. ระหว่างที่จบปัญหาบนกับศูนย์แห่งที่ 3 ไป รถผมก็ได้มาเจอปัญหายอดฮิตของรุ่นครับ อย่างเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้น ซึ่งผมต้องประสบปัญหาทั้งหมด 4-5 ครั้งในช่วงที่ได้รถมาใช้ในแถบปริมณฑลที่มีการจราจรหนาแน่นบ้าง โดยที่ผมเอาเข้าศูนย์ (แห่งที่ 4 ของปัญหาบน) ตั้งแต่ 2 ครั้งแรกที่สั่น แล้วก็ได้รับการแก้ปัญหาด้วยการ "สั่งเผาเขม่าด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์" ไม่ได้เคลมเปลี่ยนอะไหล่แบบที่ชาวบ้านเค้าได้กันมา และใช่ครับ มันก็มีครั้งที่ 3 เกิดขึ้น แล้วช่วงนั้นจะเช็คระยะ 50,000 km พอดี ก็เอาเข้าไปรอบเดียวกัน ผลลัพธ์คือ "เผาเขม่า (อีกแล้ว) และลงซอฟแวร์ ECU ให้ใหม่" พร้อมกลับมา และแน่นอนครับ มีครั้งที่ 4 และพ่วงครั้งที่ 5 ด้วยอาการคล้ายจะน็อคแล้วเบาเกือบดับ ดังแต๊กๆๆ เป็นเวลา 8 วินาที โหใจเสียกันทั้งบ้านอ่ะครับ เอาเข้าไปอีกรอบพร้อมกับ "เผาเขม่าและล้างหัวฉีด" ให้ อีกแล้วสินะครับ ครั้งสุดท้ายที่เกิดปัญหาก็ทำให้ได้เท่านี้เลย ไม่มีการเปลี่ยนอะไหล่ให้ ไม่มีการรัประกันมั่นใจได้เลยว่ามันจะไม่กลับมาเป็นอีก แต่หลังจากครั้งนั้นก็เลยให้พ่อเอากลับไป ตจว. แล้วค่อยสลับมาเป็นช่วงๆ แล้วก็ไม่เจอกันอีกครับ น้ำมันเติมเหมือนเดิมคือพรีเมี่ยมทุกเจ้าวนไป
3. น้ำมันเกียร์ ผมเคยเปลี่ยนไปแล้วตอน 40,000 โล ก่อน จะมีนโยบาย เปลี่ยน = ตัดประกัน ออกมา โดยผมได้ถามแล้วตอนนั้นว่า Life Time Maintainance คือยังเปลี่ยนได้ใช่มั้ย ศูนย์ (แห่งที่ 4) ก็บอกว่าได้ เปลี่ยนก็ดีนะ เปลี่ยนกรองเกียร์ด้วยก็ยิ่งดี จัดไปครับตามคำแนะนำ จนพอรถผม 80,000 โล ศูนย์เดิม จนท. คนไม่เดิมแต่ก็เป็นคนที่อยู่ตอนผมเข้า 40,000 ตอบอะไรผมไม่ได้เลยนอกจากบอกแค่มันคือนโยบาย MST ผมเคยเปลี่ยนแล้วจะมีผลมั้ยก็ไม่รู้ ไม่เปลี่ยนจะพังมั้ยอนาคตก็ไม่รู้ และผมก็นำคำถามแบบเดียวกันลองไปถามศูนย์แห่งที่ 3 ก็ตอบคล้ายกันเลย นโยบายคือก็สั่งมาก็ตามนั้น แต่ไม่มีเหตุผลรองรับได้เลย
4. ค่าแรง ผมเช็คระยะศูนย์เดิม 3 ครั้งติดกัน ผมเจอค่าแรง 3 ราคาเลยครับ 500 600 700 บาท/ชม. ค่าแรงเพิ่มแต่คุณภาพงานเท่าเดิม คือก็สั่งเผาเขม่าให้ผมได้แค่นั้น
5. นี่ยังไม่รวมกับความจิปาถะอีกเล็กน้อยนะครับ เช่น
- แห่งที่ 1 รถผมมีกลอนประตูเสียงดังตอนล็อค ในคลับได้เคลมชุดกลอนกันรัวๆ แห่งที่ 1 เอา Sonax มาฉีดกลอนให้ผม!!!!!! โอ้ยยย!
- แห่งที่ 3 ตอนเอารถไปเคลมสี (เค้าว่าที่นี่ดี) ต้องเสด็จไปหาถึงในห้อง ไม่มีแม้แต่เงามาต้อนรับ แถมเดินไปหา ผลักประตูถามหาคนรับรถก็ถามคำตอบคำ
- แห่งที่ 4 รอบแรกว่ามี recall กล่อง DC-DC Converter ก็เอาเข้าไปเช็ค บอกของหมด ถ้ามาแล้วจะโทรตาม เงียบเป็นเดือน พอโทรถาม เช็คแล้วกลับบอกว่ารถลูกค้าไม่มี order นะ และยังไม่ได้เช็คกล่องด้วยว่าต้องเปลี่ยนมั้ย!! เอ้า แล้วใครมันบอกจะโทรตาม สุดท้ายเอาเข้าไปอีกรอบบอก รถผมแค่เรียกเข้าข่ายต้องมาเช็ค แต่เช็คแล้วไม่ต้องเปลี่ยน!! คิดว่าเล่นขายของกันหรอฟระ!
ฯลฯ
6. และเหตุการณ์ที่ผมเจอมาทั้งหมดนี้ ผมได้ตัดสินใจเอาไปเล่าในคลับที่ผมใช้รถอยู่ เพื่อที่จะบอกเป็นข้อมูลให้รับฟังกันไว้เพื้อเตรียมตัวเกิดเจอขึ้นมา ด้วยความสัตย์จริงผมไม่ได้เล่าแบบข้างบนนี้แน่นอนครับ ไม่ใส่อารมณ์และหวังผลที่ดีว่าจะได้บันทึกไว้ว่ามีคนเคยเจอแล้วนะ จะได้เตรียมตัวเผื่อท่านเจอ แต่... เสียงตอบรับที่ได้กลับมา
- ทำไมผมไม่เห็นเจออะไรเลย ใช้ดีจะตาย
- ใช้รถไม่เป็นรึเปล่า เคสแบบนี้ User Error ชัดๆ
- ขึ้นกับการใช้งานคุณเองนั่นแหละอย่าโทษรถ
- ไปเจอศูนย์ไม่ดีเอง ศูนย์ที่ชั้นใช้ดีจะตาย ของกินก็เยอะ
- ดิสเครดิต รถขายดีขนาดนี้
- ไม่มีรถคันไหนดีเท่ารุ่นนี้แล้ว
- หัดศึกษาข้อมูลบ้าง
- หนักสุดคือ โดนบล็อคจากกลุ่ม แล้วเอาผมไปด่ากันสนุกปากทีหลัง
ฯลฯ
ครับ จากนั้นมาผมไม่เคยเล่าอะไรแบบนี้ให้ใครฟังอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรม ตามมีตามเกิด ตามบุญตามกรรม ถ้าคิดว่าจะรักรถอวยรถแล้วไม่มีความคิดจะทำให้แบรนด์รถมันดีขึ้น ก็ขอให้มันพังลงไปจากการกระทำของพวกสาวกเองนั่นแหละครับ
นี่แหละครับ เหตุผลที่ผมกลายมาเป็นกองแช่งมาสด้าจนถึงทุกวันนี้ จริงๆ ที่เอารูปนี้ขึ้นนี่ไม่มีอะไรนอกจากว่าไฟมันสวยเท่านั้น ดูลายเซ็นผมได้ครับว่าผมใช้รถคละแบรนด์ (ซื้อซ้ำแค่ Yamaha Mio ที่เอาเจนแรกไปขายได้ราคาดีสุดที่ศูนย์แล้วเลยเอาเจน 3 มา) และรถยนต์ที่พึ่งขายไปไม่มีในลายเซ็นแล้วคือ Nissan และถ้าเข้าไปดูใน User Review Mitsu Space Wagon ที่ผมทำไว้เมื่อ 10 ปีก่อน ผมก็ด่าในสิ่งที่ผมเจอมากับศูนย์ Mitsu (แต่อันนั้นเพียงแห่งเดียว และไม่ใช่เคสหนัก) ทุกวันนี้ก็ยังเข้าศูนย์ Mitsu อยู่แต่รถโทรมลงไปเยอะ ก็ให้เค้าดูแลไปตามสภาพ เจออะไรแย่ๆ มาก็มาบ่น แต่มันไม่หนักเท่า Mazda ที่ผมเจอมาตลอดเกือบ 4 ปีเท่านั้นครับ ให้ผมพูดตามตรงเลยว่า รถมีปัญหาผมไม่เคยเหนื่อยเลยครับ แต่ผมเหนื่อยกับคนแก้ปัญหามากจริงๆ
-
เข้ามาเสริมเรื่องประสบการณ์ในด้านศูนย์บริการแบรนด์นี้ครับ
เคยพิมพ์ตอบไว้ในกระทู้เก่าๆ ขอก็อปมาทั้งดุ้นแล้วกันครับ
เอาสาระสำคัญ
1. รถผมเคยตัดเข้า safe mode จนไม่สามารถขับได้ตั้งแต่ 6 เดือนแรก 13,xxx km ผมเข้าไปใช้บริการแก้ปัญหามาทั้งสิ้น 4 แห่ง
- แห่งแรกหลังเกิดปัญหาใหม่ๆ ตจว. แถวบ้าน ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีปัญญาทำอะไรได้เลย นอกจากลบไฟ และใช่ครับรุ่งขึ้นก็เป็นอีก
- แห่งที่สอง ศูนย์ กทม. ไม่ดัง เข้าเพราะความบังเอิญ จริงต้องจำเป็นใช้รถไปที่อื่นต่อ แห่งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม. บอกว่าฝาครอบวาล์วน่าจะมีปัญหา แต่ด้วยลูกค้าไม่สะดวกทิ้งเคลมเลยเขียนเป็นข้อมูลไว้ให้แห่งที่สามเค้าไปจัดการต่อตอนผมมีเวลา
- แห่งที่สาม ศูนย์ปริมณฑลดังเลย บอกขอรถผมทิ้งไว้สัปดาห์นึงหาสาเหตุ ผมให้ข้อมูลทุกอย่างที่แห่งที่สองหาไว้ให้ ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจ เดี๋ยวหาเอง และใช่ครับ...หาไม่เจอ เก็บข้อมูลส่ง MST กันต่ออีกสัปดาห์ก่อนที่ MST จะให้ความเห็นมาว่า ครีบเทอร์โบรถผมเหมือนจะมีองศาเปิดปิดผิดปกตินิดหน่อย ศูนย์ถึงได้ทำเรื่องเคลมเทอร์โบให้ ก็ยกเครื่องออกมาเปลี่ยนโบลูกใหม่กันตั้งแต่รถยังมีประกันเลย พ่อผมก็ใจเสีย ผมก็ไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเองเลยช่วงนั้นมีงานเข้า ก็ฝากพ่อไปดูก็มีบ่นกลับมาเกือบทุกวัน ช่างทำสกรูรูดบ้าง ตอนลงมาดูที่รถก็เหมือนสีหน้าไม่พอใจบ้าง ทำส่งๆ บ้าง ก็เลย เอาวะช่างมัน ซ่อมคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก พอซ่อมเสร็จ ใช่ครับ ผ่านไป 3 วัน มันกลับมาอีก แถมบังเอิญไปเจอน้ำมันเครื่องปนลงไปน้ำหม้อน้ำด้วย!! รีบเอากลับไปแก้เลย ช่างก็ถอด ECU ไป reset แล้วบอกว่าเปลี่ยนโบใหม่ลืม set และก็เปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำทั้งระบบให้ใหม่และก็ไม่เจอว่ารั่ว อาจจะตอนยกเครื่องเข้าออกแล้วปนลงไป ก็รับกลับมาใช้งาน
จนเวลาผ่านไปล่วงเลยจนหมดประกันครับ หมดไม่ทันจะ 5 เดือนดีกับ 90,000 โล มันกลับมาเป็นอีกแล้ว!!!!!!! โอ้ยยยย! ยังกะแห่งที่ 3 ตั้งเวลาไว้
- แห่งที่ 4 ปริมณฑลเจ้าใกล้เคียง ไม่ดังเท่าแถมเล็กกว่า แต่ผมสะดวกเดินทางมากกว่า และช่วงหลังก็มาเช็คระยะที่นี่บ่อย ก็ให้เค้าดูแล้วก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนเข้าแห่งที่ 3 ที่เคยเกิดขึ้น ยังดีที่ฟัง แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวผมขอหาดูก่อนทิ้งไว้ก่อน 3 วัน แต่ก็ใช้เวลาครึ่งวันครับ โทรกลับมาบอกว่า...
ฝาครอบเครื่องวาล์วมีปัญหา เฮ้ยย! พูดเหมือนแห่งที่ 2 เป๊ะ! (เอ้าแล้วที่ตรูต้องยกเครื่องเปลี่ยนโบไปล่ะ! ==")
แต่ก็ตาม step ครับ พี่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง! พ่อนี่ถึงกับขึ้นเสียง แล้วมันเคยเกิดขึ้นแล้วตอนในประกันมันไม่หาย มันต้องเป็นความรับผิดชอบของคุณหรือป่าว คุณลองไปเช็คประวัติดูก็ได้ว่ารถผมเคยทำอะไรไปบ้าง และคำตอบที่ได้กลับมาคือ คนละศูนย์ผมเช็คประวัติไม่ได้!! ห๊ะ! นี่ส่วนกลางเค้าไม่มีการเก็บข้อมูลรถกันไว้เลยหรอ รถตัดประกันนี่บันทึกกันไว้ดี๊ดี ในสมุดประวัติรถเล่มฟ้าก็น่ารักมาก เขียนแค่เคลมเทอร์โบ จบ!! What?? สุดท้ายทางหัวหน้าช่างเลยเห็นว่ารถผมเข้าศูนย์ตลอด เลยบอกจะลองเสนอการใช้สิทธิ์ goodwill ดูให้ ซึ่งใช้เวลาทำเรื่องทั้งหมด 2 สัปดาห์ครึ่ง ผมก็ตามเป็นระยะ สัปดาห์แรกช่างเทคนิคจาก MST มาเก็บข้อมูล แล้วก็หายไป สัปดาห์ต่อมาโทรมาบอกว่าน่าจะได้แต่ยังไม่รับปาก อีกครึ่งสัปดาห์ถึงบอกว่าอนุมัติ ครับ แล้วก็ได้เคลมฝาครอบวาล์วมา และตอนนี้หลังเคลมมาก็มาเจอช่วงโควิดพอดี เลยได้ใช้รถแค่ไปกลับทำงานไม่ได้ไปไหนไกลๆ ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ
2. ระหว่างที่จบปัญหาบนกับศูนย์แห่งที่ 3 ไป รถผมก็ได้มาเจอปัญหายอดฮิตของรุ่นครับ อย่างเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้น ซึ่งผมต้องประสบปัญหาทั้งหมด 4-5 ครั้งในช่วงที่ได้รถมาใช้ในแถบปริมณฑลที่มีการจราจรหนาแน่นบ้าง โดยที่ผมเอาเข้าศูนย์ (แห่งที่ 4 ของปัญหาบน) ตั้งแต่ 2 ครั้งแรกที่สั่น แล้วก็ได้รับการแก้ปัญหาด้วยการ "สั่งเผาเขม่าด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์" ไม่ได้เคลมเปลี่ยนอะไหล่แบบที่ชาวบ้านเค้าได้กันมา และใช่ครับ มันก็มีครั้งที่ 3 เกิดขึ้น แล้วช่วงนั้นจะเช็คระยะ 50,000 km พอดี ก็เอาเข้าไปรอบเดียวกัน ผลลัพธ์คือ "เผาเขม่า (อีกแล้ว) และลงซอฟแวร์ ECU ให้ใหม่" พร้อมกลับมา และแน่นอนครับ มีครั้งที่ 4 และพ่วงครั้งที่ 5 ด้วยอาการคล้ายจะน็อคแล้วเบาเกือบดับ ดังแต๊กๆๆ เป็นเวลา 8 วินาที โหใจเสียกันทั้งบ้านอ่ะครับ เอาเข้าไปอีกรอบพร้อมกับ "เผาเขม่าและล้างหัวฉีด" ให้ อีกแล้วสินะครับ ครั้งสุดท้ายที่เกิดปัญหาก็ทำให้ได้เท่านี้เลย ไม่มีการเปลี่ยนอะไหล่ให้ ไม่มีการรัประกันมั่นใจได้เลยว่ามันจะไม่กลับมาเป็นอีก แต่หลังจากครั้งนั้นก็
...........
นี่แหละครับ เหตุผลที่ผมกลายมาเป็นกองแช่งมาสด้าจนถึงทุกวันนี้ จริงๆ ที่เอารูปนี้ขึ้นนี่ไม่มีอะไรนอกจากว่าไฟมันสวยเท่านั้น ดูลายเซ็นผมได้ครับว่าผมใช้รถคละแบรนด์ (ซื้อซ้ำแค่ Yamaha Mio ที่เอาเจนแรกไปขายได้ราคาดีสุดที่ศูนย์แล้วเลยเอาเจน 3 มา) และรถยนต์ที่พึ่งขายไปไม่มีในลายเซ็นแล้วคือ Nissan และถ้าเข้าไปดูใน User Review Mitsu Space Wagon ที่ผมทำไว้เมื่อ 10 ปีก่อน ผมก็ด่าในสิ่งที่ผมเจอมากับศูนย์ Mitsu (แต่อันนั้นเพียงแห่งเดียว และไม่ใช่เคสหนัก) ทุกวันนี้ก็ยังเข้าศูนย์ Mitsu อยู่แต่รถโทรมลงไปเยอะ ก็ให้เค้าดูแลไปตามสภาพ เจออะไรแย่ๆ มาก็มาบ่น แต่มันไม่หนักเท่า Mazda ที่ผมเจอมาตลอดเกือบ 4 ปีเท่านั้นครับ ให้ผมพูดตามตรงเลยว่า รถมีปัญหาผมไม่เคยเหนื่อยเลยครับ แต่ผมเหนื่อยกับคนแก้ปัญหามากจริงๆ
อ่านจนจบ = น่าเห็นใจครับ
ไม่เข้าใจคนใน FB ที่มาต่อว่า
เช่น User Error หรือใช้รถไม่เป็น
รถมีปัญหา = ศูนย์ก็ควรแก้ไข
นิยามมาสด้า = รถดี ศูนย์ห่วย อะไหล่แพง ?? (เคยได้ยินมานานล้ว)
-
เรื่องน้ำมันดีเซลโดยเฉพาะเครื่องยนต์ยูโร5หรือ6แนะนำเติมPTTหรือบางงจากยูโร5เป็นหลักดีกว่าครับ Audi A8 TDI ผมก็ยูโร5 เติมแต่พรีเมี่ยม2ยี่ห้อนี้วิ่งมาแสนกว่าโลแล้วยังไม่พบปัญหาเครื่องยนต์ครับ น้ำมันพรี่เมี่ยมยี่ห้ออื่นเป็นยูโร4ที่กำมะถันสูงกว่า5เท่าครับ
-
ฟังจากคนใช้แล้ว ผมกลับลำแทบไม่ทันเลยครับ ยังดีใจเย็นๆ หาข้อมูลก่อน ขอบคุณทุกคอมเม้นครับ
ผมก็อยากได้ Mazda นะครับ ภายในสวยมาก นำยี่ห้ออื่นใน class เดียวกันไปไกล
แต่สุดท้ายก็ไปออก CRV G5 MC ให้แฟนใช้ เพราะเจ้าตัวเค้าชอบ CRV มากกว่า แล้วผมก็ห่วงเรื่อง reliability ด้วยเวลาเค้าขับไปต่างจังหวัดคนเดียว
แต่ CRV ก็มีจุดน่ารำคาญเรื่องการเก็บเสียง เวลาเจอถนนเก่าๆที่ผิวขรุขระหน่อย เสียงยางนี่ดังกระหึ่มมาก เทียบกับ Xtrail T32 อายุ 6 ปี ตัวหลังยังเงียบกว่า (แต่ซ่อมแอร์ทุกปีเลย)
2018 - ซ่อมตัว control air con
2019 - ท่อ Hi/low pressure รั่ว เปลี่ยนใหม่
2020 - ท่อ Hi/low pressure รั่ว เปลี่ยนใหม่ (อีกรอบ)
2020 - ตอนนี้ยังนอนอยู่ศูนย์ เปลี่ยนตู้แอร์
-
เรื่องน้ำมันดีเซลโดยเฉพาะเครื่องยนต์ยูโร5หรือ6แนะนำเติมPTTหรือบางงจากยูโร5เป็นหลักดีกว่าครับ Audi A8 TDI ผมก็ยูโร5 เติมแต่พรีเมี่ยม2ยี่ห้อนี้วิ่งมาแสนกว่าโลแล้วยังไม่พบปัญหาเครื่องยนต์ครับ น้ำมันพรี่เมี่ยมยี่ห้ออื่นเป็นยูโร4ที่กำมะถันสูงกว่า5เท่าครับ
V Power ดีเซลของ Shell = พอสู้กับ ปตท. & บางจาก Euro 5 ได้ไหมครับ ??
-
ผมใช้ CX-5 2.0s 2016 มาเกือบ 4 ปี ปัญหาใหญ่ๆ หนักใจไม่มีครับ แต่ที่เจอคือช่างไม่ค่อยเก่ง คิวนาน
- ป้ายแดงเจอเสียงเบรคดังเหมือนเลขสีกัน คือตัวกันหินมันขูดจาน แก้แล้วจบครับ
- แบตได้ 1 ปี 4 เดือน 2 ลูกแล้วหมดพอๆ กัน
- กระจกมองข้างเดี้ยงไปข้างนึง พับเข้าออกไม่สุด ซ่อม0 5,000 บาท ซ่อมข้างนอก 800 เลยซ่อมข้างนอก ถูกและจบ
- ปั้มติ้กตัวปีใหม่ๆ ไม่ค่อยเจอแล้วนะครับ ลองหาในกลุ่มเพิ่มเติมดู
- น้ำมันเกียร์อยากเปลี่ยนตอนนี้ต้องอู่นอกแล้วครับ
- อย่าลืมขอมาสด้าแคร์นะครับ เช็คระยะฟรีทั้งค่าแรงค่าอะไหล่
-
เข้ามาเสริมเรื่องประสบการณ์ในด้านศูนย์บริการแบรนด์นี้ครับ
เคยพิมพ์ตอบไว้ในกระทู้เก่าๆ ขอก็อปมาทั้งดุ้นแล้วกันครับ
เอาสาระสำคัญ
1. รถผมเคยตัดเข้า safe mode จนไม่สามารถขับได้ตั้งแต่ 6 เดือนแรก 13,xxx km ผมเข้าไปใช้บริการแก้ปัญหามาทั้งสิ้น 4 แห่ง
- แห่งแรกหลังเกิดปัญหาใหม่ๆ ตจว. แถวบ้าน ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีปัญญาทำอะไรได้เลย นอกจากลบไฟ และใช่ครับรุ่งขึ้นก็เป็นอีก
- แห่งที่สอง ศูนย์ กทม. ไม่ดัง เข้าเพราะความบังเอิญ จริงต้องจำเป็นใช้รถไปที่อื่นต่อ แห่งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม. บอกว่าฝาครอบวาล์วน่าจะมีปัญหา แต่ด้วยลูกค้าไม่สะดวกทิ้งเคลมเลยเขียนเป็นข้อมูลไว้ให้แห่งที่สามเค้าไปจัดการต่อตอนผมมีเวลา
- แห่งที่สาม ศูนย์ปริมณฑลดังเลย บอกขอรถผมทิ้งไว้สัปดาห์นึงหาสาเหตุ ผมให้ข้อมูลทุกอย่างที่แห่งที่สองหาไว้ให้ ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจ เดี๋ยวหาเอง และใช่ครับ...หาไม่เจอ เก็บข้อมูลส่ง MST กันต่ออีกสัปดาห์ก่อนที่ MST จะให้ความเห็นมาว่า ครีบเทอร์โบรถผมเหมือนจะมีองศาเปิดปิดผิดปกตินิดหน่อย ศูนย์ถึงได้ทำเรื่องเคลมเทอร์โบให้ ก็ยกเครื่องออกมาเปลี่ยนโบลูกใหม่กันตั้งแต่รถยังมีประกันเลย พ่อผมก็ใจเสีย ผมก็ไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเองเลยช่วงนั้นมีงานเข้า ก็ฝากพ่อไปดูก็มีบ่นกลับมาเกือบทุกวัน ช่างทำสกรูรูดบ้าง ตอนลงมาดูที่รถก็เหมือนสีหน้าไม่พอใจบ้าง ทำส่งๆ บ้าง ก็เลย เอาวะช่างมัน ซ่อมคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก พอซ่อมเสร็จ ใช่ครับ ผ่านไป 3 วัน มันกลับมาอีก แถมบังเอิญไปเจอน้ำมันเครื่องปนลงไปน้ำหม้อน้ำด้วย!! รีบเอากลับไปแก้เลย ช่างก็ถอด ECU ไป reset แล้วบอกว่าเปลี่ยนโบใหม่ลืม set และก็เปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำทั้งระบบให้ใหม่และก็ไม่เจอว่ารั่ว อาจจะตอนยกเครื่องเข้าออกแล้วปนลงไป ก็รับกลับมาใช้งาน
จนเวลาผ่านไปล่วงเลยจนหมดประกันครับ หมดไม่ทันจะ 5 เดือนดีกับ 90,000 โล มันกลับมาเป็นอีกแล้ว!!!!!!! โอ้ยยยย! ยังกะแห่งที่ 3 ตั้งเวลาไว้
- แห่งที่ 4 ปริมณฑลเจ้าใกล้เคียง ไม่ดังเท่าแถมเล็กกว่า แต่ผมสะดวกเดินทางมากกว่า และช่วงหลังก็มาเช็คระยะที่นี่บ่อย ก็ให้เค้าดูแล้วก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนเข้าแห่งที่ 3 ที่เคยเกิดขึ้น ยังดีที่ฟัง แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวผมขอหาดูก่อนทิ้งไว้ก่อน 3 วัน แต่ก็ใช้เวลาครึ่งวันครับ โทรกลับมาบอกว่า...
ฝาครอบเครื่องวาล์วมีปัญหา เฮ้ยย! พูดเหมือนแห่งที่ 2 เป๊ะ! (เอ้าแล้วที่ตรูต้องยกเครื่องเปลี่ยนโบไปล่ะ! ==")
แต่ก็ตาม step ครับ พี่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง! พ่อนี่ถึงกับขึ้นเสียง แล้วมันเคยเกิดขึ้นแล้วตอนในประกันมันไม่หาย มันต้องเป็นความรับผิดชอบของคุณหรือป่าว คุณลองไปเช็คประวัติดูก็ได้ว่ารถผมเคยทำอะไรไปบ้าง และคำตอบที่ได้กลับมาคือ คนละศูนย์ผมเช็คประวัติไม่ได้!! ห๊ะ! นี่ส่วนกลางเค้าไม่มีการเก็บข้อมูลรถกันไว้เลยหรอ รถตัดประกันนี่บันทึกกันไว้ดี๊ดี ในสมุดประวัติรถเล่มฟ้าก็น่ารักมาก เขียนแค่เคลมเทอร์โบ จบ!! What?? สุดท้ายทางหัวหน้าช่างเลยเห็นว่ารถผมเข้าศูนย์ตลอด เลยบอกจะลองเสนอการใช้สิทธิ์ goodwill ดูให้ ซึ่งใช้เวลาทำเรื่องทั้งหมด 2 สัปดาห์ครึ่ง ผมก็ตามเป็นระยะ สัปดาห์แรกช่างเทคนิคจาก MST มาเก็บข้อมูล แล้วก็หายไป สัปดาห์ต่อมาโทรมาบอกว่าน่าจะได้แต่ยังไม่รับปาก อีกครึ่งสัปดาห์ถึงบอกว่าอนุมัติ ครับ แล้วก็ได้เคลมฝาครอบวาล์วมา และตอนนี้หลังเคลมมาก็มาเจอช่วงโควิดพอดี เลยได้ใช้รถแค่ไปกลับทำงานไม่ได้ไปไหนไกลๆ ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ
2. ระหว่างที่จบปัญหาบนกับศูนย์แห่งที่ 3 ไป รถผมก็ได้มาเจอปัญหายอดฮิตของรุ่นครับ อย่างเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้น ซึ่งผมต้องประสบปัญหาทั้งหมด 4-5 ครั้งในช่วงที่ได้รถมาใช้ในแถบปริมณฑลที่มีการจราจรหนาแน่นบ้าง โดยที่ผมเอาเข้าศูนย์ (แห่งที่ 4 ของปัญหาบน) ตั้งแต่ 2 ครั้งแรกที่สั่น แล้วก็ได้รับการแก้ปัญหาด้วยการ "สั่งเผาเขม่าด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์" ไม่ได้เคลมเปลี่ยนอะไหล่แบบที่ชาวบ้านเค้าได้กันมา และใช่ครับ มันก็มีครั้งที่ 3 เกิดขึ้น แล้วช่วงนั้นจะเช็คระยะ 50,000 km พอดี ก็เอาเข้าไปรอบเดียวกัน ผลลัพธ์คือ "เผาเขม่า (อีกแล้ว) และลงซอฟแวร์ ECU ให้ใหม่" พร้อมกลับมา และแน่นอนครับ มีครั้งที่ 4 และพ่วงครั้งที่ 5 ด้วยอาการคล้ายจะน็อคแล้วเบาเกือบดับ ดังแต๊กๆๆ เป็นเวลา 8 วินาที โหใจเสียกันทั้งบ้านอ่ะครับ เอาเข้าไปอีกรอบพร้อมกับ "เผาเขม่าและล้างหัวฉีด" ให้ อีกแล้วสินะครับ ครั้งสุดท้ายที่เกิดปัญหาก็ทำให้ได้เท่านี้เลย ไม่มีการเปลี่ยนอะไหล่ให้ ไม่มีการรัประกันมั่นใจได้เลยว่ามันจะไม่กลับมาเป็นอีก แต่หลังจากครั้งนั้นก็เลยให้พ่อเอากลับไป ตจว. แล้วค่อยสลับมาเป็นช่วงๆ แล้วก็ไม่เจอกันอีกครับ น้ำมันเติมเหมือนเดิมคือพรีเมี่ยมทุกเจ้าวนไป
3. น้ำมันเกียร์ ผมเคยเปลี่ยนไปแล้วตอน 40,000 โล ก่อน จะมีนโยบาย เปลี่ยน = ตัดประกัน ออกมา โดยผมได้ถามแล้วตอนนั้นว่า Life Time Maintainance คือยังเปลี่ยนได้ใช่มั้ย ศูนย์ (แห่งที่ 4) ก็บอกว่าได้ เปลี่ยนก็ดีนะ เปลี่ยนกรองเกียร์ด้วยก็ยิ่งดี จัดไปครับตามคำแนะนำ จนพอรถผม 80,000 โล ศูนย์เดิม จนท. คนไม่เดิมแต่ก็เป็นคนที่อยู่ตอนผมเข้า 40,000 ตอบอะไรผมไม่ได้เลยนอกจากบอกแค่มันคือนโยบาย MST ผมเคยเปลี่ยนแล้วจะมีผลมั้ยก็ไม่รู้ ไม่เปลี่ยนจะพังมั้ยอนาคตก็ไม่รู้ และผมก็นำคำถามแบบเดียวกันลองไปถามศูนย์แห่งที่ 3 ก็ตอบคล้ายกันเลย นโยบายคือก็สั่งมาก็ตามนั้น แต่ไม่มีเหตุผลรองรับได้เลย
4. ค่าแรง ผมเช็คระยะศูนย์เดิม 3 ครั้งติดกัน ผมเจอค่าแรง 3 ราคาเลยครับ 500 600 700 บาท/ชม. ค่าแรงเพิ่มแต่คุณภาพงานเท่าเดิม คือก็สั่งเผาเขม่าให้ผมได้แค่นั้น
5. นี่ยังไม่รวมกับความจิปาถะอีกเล็กน้อยนะครับ เช่น
- แห่งที่ 1 รถผมมีกลอนประตูเสียงดังตอนล็อค ในคลับได้เคลมชุดกลอนกันรัวๆ แห่งที่ 1 เอา Sonax มาฉีดกลอนให้ผม!!!!!! โอ้ยยย!
- แห่งที่ 3 ตอนเอารถไปเคลมสี (เค้าว่าที่นี่ดี) ต้องเสด็จไปหาถึงในห้อง ไม่มีแม้แต่เงามาต้อนรับ แถมเดินไปหา ผลักประตูถามหาคนรับรถก็ถามคำตอบคำ
- แห่งที่ 4 รอบแรกว่ามี recall กล่อง DC-DC Converter ก็เอาเข้าไปเช็ค บอกของหมด ถ้ามาแล้วจะโทรตาม เงียบเป็นเดือน พอโทรถาม เช็คแล้วกลับบอกว่ารถลูกค้าไม่มี order นะ และยังไม่ได้เช็คกล่องด้วยว่าต้องเปลี่ยนมั้ย!! เอ้า แล้วใครมันบอกจะโทรตาม สุดท้ายเอาเข้าไปอีกรอบบอก รถผมแค่เรียกเข้าข่ายต้องมาเช็ค แต่เช็คแล้วไม่ต้องเปลี่ยน!! คิดว่าเล่นขายของกันหรอฟระ!
ฯลฯ
6. และเหตุการณ์ที่ผมเจอมาทั้งหมดนี้ ผมได้ตัดสินใจเอาไปเล่าในคลับที่ผมใช้รถอยู่ เพื่อที่จะบอกเป็นข้อมูลให้รับฟังกันไว้เพื้อเตรียมตัวเกิดเจอขึ้นมา ด้วยความสัตย์จริงผมไม่ได้เล่าแบบข้างบนนี้แน่นอนครับ ไม่ใส่อารมณ์และหวังผลที่ดีว่าจะได้บันทึกไว้ว่ามีคนเคยเจอแล้วนะ จะได้เตรียมตัวเผื่อท่านเจอ แต่... เสียงตอบรับที่ได้กลับมา
- ทำไมผมไม่เห็นเจออะไรเลย ใช้ดีจะตาย
- ใช้รถไม่เป็นรึเปล่า เคสแบบนี้ User Error ชัดๆ
- ขึ้นกับการใช้งานคุณเองนั่นแหละอย่าโทษรถ
- ไปเจอศูนย์ไม่ดีเอง ศูนย์ที่ชั้นใช้ดีจะตาย ของกินก็เยอะ
- ดิสเครดิต รถขายดีขนาดนี้
- ไม่มีรถคันไหนดีเท่ารุ่นนี้แล้ว
- หัดศึกษาข้อมูลบ้าง
- หนักสุดคือ โดนบล็อคจากกลุ่ม แล้วเอาผมไปด่ากันสนุกปากทีหลัง
ฯลฯ
ครับ จากนั้นมาผมไม่เคยเล่าอะไรแบบนี้ให้ใครฟังอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรม ตามมีตามเกิด ตามบุญตามกรรม ถ้าคิดว่าจะรักรถอวยรถแล้วไม่มีความคิดจะทำให้แบรนด์รถมันดีขึ้น ก็ขอให้มันพังลงไปจากการกระทำของพวกสาวกเองนั่นแหละครับ
นี่แหละครับ เหตุผลที่ผมกลายมาเป็นกองแช่งมาสด้าจนถึงทุกวันนี้ จริงๆ ที่เอารูปนี้ขึ้นนี่ไม่มีอะไรนอกจากว่าไฟมันสวยเท่านั้น ดูลายเซ็นผมได้ครับว่าผมใช้รถคละแบรนด์ (ซื้อซ้ำแค่ Yamaha Mio ที่เอาเจนแรกไปขายได้ราคาดีสุดที่ศูนย์แล้วเลยเอาเจน 3 มา) และรถยนต์ที่พึ่งขายไปไม่มีในลายเซ็นแล้วคือ Nissan และถ้าเข้าไปดูใน User Review Mitsu Space Wagon ที่ผมทำไว้เมื่อ 10 ปีก่อน ผมก็ด่าในสิ่งที่ผมเจอมากับศูนย์ Mitsu (แต่อันนั้นเพียงแห่งเดียว และไม่ใช่เคสหนัก) ทุกวันนี้ก็ยังเข้าศูนย์ Mitsu อยู่แต่รถโทรมลงไปเยอะ ก็ให้เค้าดูแลไปตามสภาพ เจออะไรแย่ๆ มาก็มาบ่น แต่มันไม่หนักเท่า Mazda ที่ผมเจอมาตลอดเกือบ 4 ปีเท่านั้นครับ ให้ผมพูดตามตรงเลยว่า รถมีปัญหาผมไม่เคยเหนื่อยเลยครับ แต่ผมเหนื่อยกับคนแก้ปัญหามากจริงๆ
ถ้าดีเซล อาการพวกนี้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้าทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ ก็ต้องออกมาร้องเรียน อย่างที่เห็นๆกันอยู่
-
เสียดายนะครับ รถดีจริงๆ แต่ดันมาเสียตรง หลังการขาย :( :( :( :( :(
-
ไปยี่ห้ออื่นเถิด จะเกิดผล
ด้วยความปรารถนาดีจากผู้ใช้ CX-5 2.2 XDL 2014
-
คู่นี้ผมไป CRV ครับ มันนั่งสบายกว่า CX5ชัดเจนเลยหละ วัสดุผมว่าก็ไม่เลวนะครับ ดีด้วยเพียงแต่ว่า CX5มันดีกว่าก็เท่านั้นเอง หน้าตาผมให้ CRV สวยกว่า CX5 ครับ เกลียดท้าย CX5 ไฟท้ายจะเล็กไปไหน
นานๆจะเจอคนเห็นเหมือนผมว่าไฟท้ายมันไม่ลงตัว
ด้านหน้าตา CX-5 สวยกว่า CRV นะ แต่ไม่ท้าย มันเล็กแบบไม่สมส่วนกับตัวรถเอาซะเลย
Kodo ข้างหน้าพอ Kodo ด้านหลัง ไม่ลงตัวเอาซะเลย
-
ใช้มาทั้งคู่ มีดีมีแย่ทั้งคู่
CRV ขับไปได้เรื่อยๆ เสียงจากภายนอกเข้ามามากก ศูนย์บริการเป็นมิตร ราคาขายต่อดีเลิศ
CX5 ขับสนุก เกาะถนน และ เงียบกว่า CRV ชัดเจน ศูนย์แพงและห่วย ราคาขายต่อตกมากกว่า CRV เยอะ
เน้นเอามันไป CX5 เน้นการลงทุนไป CRV
-
จากใจผมอดีด honda fan club
honda ยุคนี้ดีไซน์สวย เอนกประสงค์ และศูนย์บริการดี แต่่สินค้าคุณภาพห่วยครับ คันล่าสุดแบรนด์นี้ที่ผมใช้ accord g9 ครับ
ถ้ามีรถคันเดียว เลือก crv
แต่ถ้ามีหลายคัน เลือกของที่ดีกว่าให้ตัวเองดีกว่าครับ