Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ ธันวาคม 30, 2020, 18:26:14
-
ยอดขาย SubCompact Sedan เดือน พฤศจิกายน 63 :
Honda City พุ่งไม่หยุด ยอดเกิน 3,000 คัน เป็นเดือนที่ 4
ติดต่อกัน ตามด้วย Yaris ATIV และ Almera
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/sales-report-subcompact-sedan-nov-2020/
(https://www.img.in.th/images/5f1ff9b4da21dfd0b2de67c194550a9b.jpg)
-
ไม่มีเรื่องสนิมให้คนกังวลผมว่าไปได้อีก 300-500 คันต่อเดือนอีก
แต่ก้ไม่แปลกครับ เครื่องยนต์น่าสนใจที่สุด แบรนด์ก้ยังน่าเชื่อถือระดับแนวหน้า
-
ถึงเวลานี้คนโจมตีเรื่องสนิมก็ไม่ส่งผลต่อยอดขายแล้วล่ะ
-
คู่หู brio เขาเลิกผลิตแล้วเหรอ ทำไมไม่มียอดเลย
-
ผมว่าสามอันดับแรกไม่ห่างนะ อันดับสี่ก็อยู่ไม่ไกล
1. Honda City 3,200
2. Toyota Yaris ATIV 2,349
3. Nissan Almera 2,089
4. Mazda 2 Sedan 1,698
-
สนิมไม่มีผลกับยอดขาย แล้วทำไมต้องแก้ไข ลดต้นทุนไปได้บาน
-
เดี๋ยวเดือนหน้า ฃหลังมอเตอร์โชว์ยอดน่าจะลด เพราะน่าจะโดน city hatback จะดึงยอดไปส่วนนึงเลยแหละ
-
เดี๋ยวเดือนหน้า ฃหลังมอเตอร์โชว์ยอดน่าจะลด เพราะน่าจะโดน city hatback จะดึงยอดไปส่วนนึงเลยแหละ
โดนเยอะเหมือนกันครับ ในกลุ่มหลายคนก็เปลี่ยนใบจองจาก sedan เป็น hb
-
Almera กับ Mazda 2
กำลังงงอยุ่ว่า แถวบ้าน ปกติไม่ค่อยเห็นเลย เจออาทิตย์ละ 2-3 คัน
แต่พอเดือนนี้ เจอวันละคันเลย ป้ายแดง หมด
ยอดที่อยุ่ๆเพิ่มมา 400-500 คันจากเดือนที่แล้วนี่ คนซื้ออยุ่แถวบ้านผมรึเปล่า 55
-
city เจอป้ายแดงทุกวัน
-
้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้นิสส้ันสู้ๆ้้้้้้้้้้้้้้้้้
-
สนิมไม่มีผลกับยอดขาย แล้วทำไมต้องแก้ไข ลดต้นทุนไปได้บาน
ออกป้ายแดงแล้วรีบๆเอาไปพ่นกันสนิมเช่นCadulacมันจะหยุดได้ไหมครับ???
-
Yaris Ativ นี่คุ้มทุน Toyota สุดๆ เลย
-
City ยอดขนาดนี้ แก้สนิมกะเพิ่มออพชั่นนี่คงไม่ต้องคาดหวังแล้วล่ะ
-
City ยอดขนาดนี้ แก้สนิมกะเพิ่มออพชั่นนี่คงไม่ต้องคาดหวังแล้วล่ะ
เห็นแก้อยู่นะ เพิ่มซิลิโคนตรงจุดเชื่อมต่างๆ :P
-
คนจะซื้อรถหลายๆคนเค้าไม่มาสนใจสนิมเล้กๆแค่นั้นหรอกครับ
แต่อาจเสียลูกค้ากลุ่มวิตกจริตเกินเหตุหรือกลุ่ทรถคันแรกที่ไม่เข้าใจ ปัญหา
-
สนิมเรื่องเล็ก ขอให้เครื่องแรง แต่งขึ้นไว้ก่อน
แต่ยี่ห้ออื่นอย่าให้มีเชียวสนงสนิม. ด่ายันลูกบวช
-
สนิมเรื่องเล็ก ขอให้เครื่องแรง แต่งขึ้นไว้ก่อน
แต่ยี่ห้ออื่นอย่าให้มีเชียวสนงสนิม. ด่ายันลูกบวช
ผมว่า City ตัวนี้เป็น City รุ่นเดียวที่ผมว่าแต่งไม่ขึ้นนะ ทรงมันแปลกๆ ด้านหน้าดูอ้วนเกินไป เหมือนคนหัวโต
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
-
สนิมเรื่องเล็ก ขอให้เครื่องแรง แต่งขึ้นไว้ก่อน
แต่ยี่ห้ออื่นอย่าให้มีเชียวสนงสนิม. ด่ายันลูกบวช
ผมว่า City ตัวนี้เป็น City รุ่นเดียวที่ผมว่าแต่งไม่ขึ้นนะ ทรงมันแปลกๆ ด้านหน้าดูอ้วนเกินไป เหมือนคนหัวโต
ส่วนตัวผมว่า City ตัวนี้สวยนะ สวยกว่าทุก gen ที่ผ่านมา แต่ว่าในสายตาผม ผมว่า RS ไม่สวยมากๆเลย ผมดันชอบ SV มากกว่า แต่ๆๆๆๆต้องเดิมๆนะถึงสวย, คันไหนโหลด/ติด skirt ทีแล้วกลายเป็นแมงเต่าทองเลย
เอาจริงๆ ส่วนตัว ผมคิดว่า รถยุคใหม่ๆมานี่ (ที่ตัวรถเดิมๆมันเตี้ยลงเรื่อยๆเมื่อเทียบกับรถเก่าๆ) พวกนี้นี่เอาไป load แล้วก้อกลายเป็นแมงเต่าทองอ้วนๆอวบๆทุกคันเลย
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
ต้องมาดูว่าผ่านไป 4-5 ปี ราคาขายตอนนั้นจะเป็นยังไงในเมื่อตัวรถมันมีปัญหาเรื่องสนิมอย่างหนักหน่วง
-
ิยินดีกับยอดขาย Brand loyalty ด้วยครับ
ขำคนไทย ใช้เหล็กเกรดต่ำ กระบวนการชุบลดต้นทุน ก็เอาเรื่องยอดขายที่สูงมาฟุ้งแทน 55
ไม่มีใครกล้าแตะ เค้าผลิตอะไรออกมาก็ใช้ไปกันครับ
ผมนี่ด่าM แต่สุดท้ายก็พอเข้าใจว่า ปัญหาปั๊มติ๊กมันเกิดจาก supplier / น้ำมันเกียร์ก็ตามบริษัทแม่ / เครื่องดีเซลออกแบบไม่ดีอันนี้ก็ฟ้องร้องกันไปสื่อก็ยำพอสมควร
แต่วัสดุเกรดดีมาก ไม่มีเรื่องสนิม หรือความกากของวัสดุให้เห็น
นิส ก็ทำรถได้ดี แต่ผิดนิดเดียว คนด่ากันจมดิน 55
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
น่ากลัวกว่าแน่นอนครับ ประวัติมีเคลมมาหลายคัน หลายปีแล้ว แต่สื่อก็เงียบๆกันไม่เอาขยี้ ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นกลาง ผุจนทะลุเลยครับ แต่ข่าวเงียบกริบ
-
City ยอดขนาดนี้ แก้สนิมกะเพิ่มออพชั่นนี่คงไม่ต้องคาดหวังแล้วล่ะ
เห็นแก้อยู่นะ เพิ่มซิลิโคนตรงจุดเชื่อมต่างๆ :P
ออ เห็นละครับ วานสื่อให้ทำคลิปแก้ต่างเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย อย่างฮา สนิมแก้ได้ด้วยรายละเอียดในคู่มือรถ และป้ายจาระบีขาวตรงโน้นตรงนี้ อัจฉริยะมาก :-X 8)
-
สนิมมันไม่ได้มีแค่ตรงฝาท้ายหรอก นั่นมันเฉพาะจุดที่มองเห็น ในกระบวนการผลิตเค้าทำพร้อมกันทั้งคัน
ถ้ามันเกิดที่ฝาท้ายได้ แสดงว่าจุดที่มองไม่เห็นมันก็เกิดด้วย
จะไปตามแก้ยังไงได้หมด ผมเองใช้ Honda มาหลายคัน มีปัญหา/ดีเฟค ก็เคลมกันไปไม่ซีเรียส
แต่เรื่องสนิมบอกตามตรงผมรับไม่ได้
-
Yaris Ativ นี่คุ้มทุน Toyota สุดๆ เลย
ถ้ารวมยอดตั้งแต่ Vios ตอนรถคันแรกด้วยนี่คุ้มทุนมากมาย
-
Yaris Ativ เห็นหลายคันก็สนิมกินนะครับ แต่ไม่ได้เห็นบ่อยขนาด City ก็เท่านั้นเอง
ส่วน Honda ผมว่าอย่าว่าต้องระวังแต่ใน City เลย ต้องระวังในรถ Honda ทุกรุ่นที่ไม่ใช่ Accord หรือ CRV แหละครับ สาเหตุเท่าที่ผมรู้มาคือ "ลดต้นทุน" ตอนชุบสีล้วนๆ เลยครับ
-
อ่านๆมาละก็ได้แต่ปลง อยู่ในประเทศด้อยพัฒนานายทุนเป็นใหญ่ ผู้บริโภคไม่มีปากเสียง สคบ.มีไว้คุ้มครองผู้ผลิต เขาผลิตมาแบบห่วยๆก็ต้องแกล้งยอมรับและปลอบใจตัวเองกันไป ไม่พอใจเดี๋ยวฟ้องกลับเอาอีก
-
คือถ้าจะหาสนิมในรถคันนึงจริงๆมันไม่ยากหรอกครับ
ในรถแต่ละ รุ่นมันมีจุดอับสายตาที่
จุดที่ต้องระวังเรื่องสนิม คือจุดที่โดนน้ำครับ
เพราะสามารถ ผุทะลุได้
ส่วนในจุดที่แห้ง การผุกร่อนมันไม่ได้รุนแรงครับ
ที่เจอๆ ผุจนทะลุคือแผงประตูที่น้ำเข้าได้ไหลผ่านทะลุลงด้านล่าง ถ้าชุบไม่ดี มีน้ำขัง แต่ให้ชุบดีก้ทะลุครับ
แต่ฮอรด้า ตามที่รู้ ลดต้นทุนนั่นละ
เค้าคงคิดว่า 5 ปี ไม่มีเคลมคงรอดละ
รอดูรถ 10 ปี มันจะหักอย่างที่กลัวกันไหม
-
ปัญหาสนิมนี่ถึงขั้นรับไม่ได้ คือรถมันยังใหม่มาก แล้วก็เป็นจุดหลายจุดที่ไม่น่าเป็นด้วย เรียกว่าถ้าจุดที่ไม่เห็นไม่อยากจะนึกเลย
-
Yaris ขายได้เพราะ option ท่วม เครื่องเก่าปรับปรุงใหม่ ในราคาไม่แพงมาก
ได้ที่ 2 ถือว่าดีมากแล้วครับสำหรับตอนนี้นะครับ
-
ยังดีที่ผมฉลาด ไม่โง่ ซื้อทำไมอันดับ 1 รถกาก แต่ซื้ออันดับ 3 แทน ;D
-
ยังดีที่ผมฉลาด ไม่โง่ ซื้อทำไมอันดับ 1 รถกาก แต่ซื้ออันดับ 3 แทน ;D
ติ่ง อัลเมร่า
ก้จะมี ข้ออ้างในการซื้อรถ แบบนี้ละครับ 555
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
ต้องมาดูว่าผ่านไป 4-5 ปี ราคาขายตอนนั้นจะเป็นยังไงในเมื่อตัวรถมันมีปัญหาเรื่องสนิมอย่างหนักหน่วง
ต้องดูอีกว่า 4-5 ปีสนิมที่เกิดจะเท่าที่มโนไหม
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
ต้องมาดูว่าผ่านไป 4-5 ปี ราคาขายตอนนั้นจะเป็นยังไงในเมื่อตัวรถมันมีปัญหาเรื่องสนิมอย่างหนักหน่วง
ต้องดูอีกว่า 4-5 ปีสนิมที่เกิดจะเท่าที่มโนไหม
ผมอาจจะคิดมากไปเองอะเเหละ 55
แต่ ผมเคยเห็นรถญาติผมที่สนิมขึ้น แล้วน่าหงุดหงิดมาก (เหมือนเป็นโรคผิวหนัง) เห็นภาพนั้นเเล้ว เลยกลัว
ยังดีที่ผมฉลาด ไม่โง่ ซื้อทำไมอันดับ 1 รถกาก แต่ซื้ออันดับ 3 แทน ;D
ติ่ง อัลเมร่า
ก้จะมี ข้ออ้างในการซื้อรถ แบบนี้ละครับ 555
คนละคนกับคนเขียน Comment นี้ // แต่ขอบอกหน่อยว่า ในฐานะคนที่เลือก Almera over City เหมือนกัน เหตุผลผมไม่ได้มีเเค่นั้น >_<
ผมเป็นคนนึงที่เลือกซื้อ Almera เเต่ตอนนั้น ไม่รู้เรื่องสนิม นะ 55
ตอนนั้นที่เลือก เพราะ หลังจากการอ่าน Spec, อ่าน Review ทั้งข้อดีข้อเสียจากหลายๆแหล่ง, ลอง Test Drive เป็นทั้งคนขับและคนนั่ง, บอกตรงๆเลย ผมให้คะแนนส่วนตัวเท่ากันทั้ง 2 รุ่น (ให้คะแนนจาก: ปัจจัยความชอบส่วนตัว นิสัยการขับและการใช้งานส่วนตัว ผมคงไม่ต้องเขียน mini review ในนี้นะ 55) ขาดๆเกินๆทั่งคู่ เเต่ Almera ถูกกว่า 60,000 บาท (ตอนนั้นผมเล็ง City SV vs. Almera V) ผมก็เลยไป Almera ครับ
ปล. ก่อนหน้านี้ผมใช้ Honda มาตลอดนะ จะบอกว่าผมติ่งนิสสันไม่ได้นะ! :D
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
ต้องมาดูว่าผ่านไป 4-5 ปี ราคาขายตอนนั้นจะเป็นยังไงในเมื่อตัวรถมันมีปัญหาเรื่องสนิมอย่างหนักหน่วง
ต้องดูอีกว่า 4-5 ปีสนิมที่เกิดจะเท่าที่มโนไหม
ผมอาจจะคิดมากไปเองอะเเหละ 55
แต่ ผมเคยเห็นรถญาติผมที่สนิมขึ้น แล้วน่าหงุดหงิดมาก (เหมือนเป็นโรคผิวหนัง) เห็นภาพนั้นเเล้ว เลยกลัว
ยังดีที่ผมฉลาด ไม่โง่ ซื้อทำไมอันดับ 1 รถกาก แต่ซื้ออันดับ 3 แทน ;D
ติ่ง อัลเมร่า
ก้จะมี ข้ออ้างในการซื้อรถ แบบนี้ละครับ 555
คนละคนกับคนเขียน Comment นี้ // แต่ขอบอกหน่อยว่า ในฐานะคนที่เลือก Almera over City เหมือนกัน เหตุผลผมไม่ได้มีเเค่นั้น >_<
ผมเป็นคนนึงที่เลือกซื้อ Almera เเต่ตอนนั้น ไม่รู้เรื่องสนิม นะ 55
ตอนนั้นที่เลือก เพราะ หลังจากการอ่าน Spec, อ่าน Review ทั้งข้อดีข้อเสียจากหลายๆแหล่ง, ลอง Test Drive เป็นทั้งคนขับและคนนั่ง, บอกตรงๆเลย ผมให้คะแนนส่วนตัวเท่ากันทั้ง 2 รุ่น (ให้คะแนนจาก: ปัจจัยความชอบส่วนตัว นิสัยการขับและการใช้งานส่วนตัว ผมคงไม่ต้องเขียน mini review ในนี้นะ 55) ขาดๆเกินๆทั่งคู่ เเต่ Almera ถูกกว่า 60,000 บาท (ตอนนั้นผมเล็ง City SV vs. Almera V) ผมก็เลยไป Almera ครับ
ปล. ก่อนหน้านี้ผมใช้ Honda มาตลอดนะ จะบอกว่าผมติ่งนิสสันไม่ได้นะ! :D
ผมเคยเทียบให้ดูแล้ว
จุุดที่City.ชนะอัลเมร่า
ไม่ใช่รุ่น RS.นะ
แต่คือรุ่น SV.ที่ได้เบาะหนัง ทดแทน ถุงลมที่น้อยกว่า2 ใ บและระบบช่วยเหลือความปลอดภัยที่น้อกว่า ในราคาพอๆกัน
ส่วนสนิม นี่ ให้คนซื้อเค้าตัดสินใจเอง ไม่ควรมโนว่ามันจะรุนแรง ถ้ามันมีปัญหา มาในรุ่นก่อนๆ ทำไมรถยังขายได้?
ส่วนผม แค่เครื่อง 1.0T.ฉีดตรงก้กินขาด ทุกคู่แข่งในตอนนี้แล้ว ส่วนสนิม นังไม่พบความรุนแรงและคิดว่าใล้ 10 ปีรถไม่น่าจะผุถึงขั้นขับไม่ได้
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
ต้องมาดูว่าผ่านไป 4-5 ปี ราคาขายตอนนั้นจะเป็นยังไงในเมื่อตัวรถมันมีปัญหาเรื่องสนิมอย่างหนักหน่วง
ต้องดูอีกว่า 4-5 ปีสนิมที่เกิดจะเท่าที่มโนไหม
ผมอาจจะคิดมากไปเองอะเเหละ 55
แต่ ผมเคยเห็นรถญาติผมที่สนิมขึ้น แล้วน่าหงุดหงิดมาก (เหมือนเป็นโรคผิวหนัง) เห็นภาพนั้นเเล้ว เลยกลัว
ยังดีที่ผมฉลาด ไม่โง่ ซื้อทำไมอันดับ 1 รถกาก แต่ซื้ออันดับ 3 แทน ;D
ติ่ง อัลเมร่า
ก้จะมี ข้ออ้างในการซื้อรถ แบบนี้ละครับ 555
คนละคนกับคนเขียน Comment นี้ // แต่ขอบอกหน่อยว่า ในฐานะคนที่เลือก Almera over City เหมือนกัน เหตุผลผมไม่ได้มีเเค่นั้น >_<
ผมเป็นคนนึงที่เลือกซื้อ Almera เเต่ตอนนั้น ไม่รู้เรื่องสนิม นะ 55
ตอนนั้นที่เลือก เพราะ หลังจากการอ่าน Spec, อ่าน Review ทั้งข้อดีข้อเสียจากหลายๆแหล่ง, ลอง Test Drive เป็นทั้งคนขับและคนนั่ง, บอกตรงๆเลย ผมให้คะแนนส่วนตัวเท่ากันทั้ง 2 รุ่น (ให้คะแนนจาก: ปัจจัยความชอบส่วนตัว นิสัยการขับและการใช้งานส่วนตัว ผมคงไม่ต้องเขียน mini review ในนี้นะ 55) ขาดๆเกินๆทั่งคู่ เเต่ Almera ถูกกว่า 60,000 บาท (ตอนนั้นผมเล็ง City SV vs. Almera V) ผมก็เลยไป Almera ครับ
ปล. ก่อนหน้านี้ผมใช้ Honda มาตลอดนะ จะบอกว่าผมติ่งนิสสันไม่ได้นะ! :D
ผมเคยเทียบให้ดูแล้ว
จุุดที่City.ชนะอัลเมร่า
ไม่ใช่รุ่น RS.นะ
แต่คือรุ่น SV.ที่ได้เบาะหนัง ทดแทน ถุงลมที่น้อยกว่า2 ใ บและระบบช่วยเหลือความปลอดภัยที่น้อกว่า ในราคาพอๆกัน
ส่วนสนิม นี่ ให้คนซื้อเค้าตัดสินใจเอง ไม่ควรมโนว่ามันจะรุนแรง ถ้ามันมีปัญหา มาในรุ่นก่อนๆ ทำไมรถยังขายได้?
ส่วนผม แค่เครื่อง 1.0T.ฉีดตรงก้กินขาด ทุกคู่แข่งในตอนนี้แล้ว ส่วนสนิม นังไม่พบความรุนแรงและคิดว่าใล้ 10 ปีรถไม่น่าจะผุถึงขั้นขับไม่ได้
ใช่ๆ
ทั้งฉีดตรง ทั้ง intercooler น้ำ ยังไงก็เเรงกว่า เทคโนโลยีล้ำๆ เเต่แลกมาด้วยราคา ฉีดเชื้อเพลิมแรงดันสูง ต้องเพิ่มพวกท่อส่งเชื้อเพลิง ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิม วาล์วต่างๆ เกรดสูงขึ้น ทนแรงดันสูงขึ้น ต้องมีระบบป้องกัน carbon built-up. intercooler น้ำก้อต้องเพิ่มระบบหมุนเวียนน้ำ pump, thermostat, radiator, seal ยางต่างๆ ราคาก็เลยเเพง จนตัด option ออกไปเพื่อทำราคาเป็นธรรมดา
เเต่อีกอย่างที่ sale ชอบมั่วกัน ตอนผมเดินเข้า showroom ก็คือ เรื่อง intercooler น้ำ vs อากาศ
ทุกคนจะพูดว่า มันระบายความร้อน turbo, ทำให้ turbo ไม่ร้อน, ของ Almera จะร้อนกว่า!
<sales ของทั้งนิสสัน ทั้งฮอนเลย>
ที่จริงเเล้ว! intercooler มันมีหน้าที่ cooldown อากาศ (ไอดี) ก่อนเข้าเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่ม density ของไอดี ทำให้สามารถอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ ได้มากกว่าเดิม โดยที่ปริมาตรเท่าเดิม (มวลมากขึ้น โดยที่ปริมาตรเท่าเดิม ขนาดท่อไอดีไม่ต้องใหญ่ขึ้น) แปลว่า intercooler น้ำจะช่วยเพิ่มแรงม้า เนื่องจากมีอากาศเข้าห้องเผาไหม้เพิ่มมากขึ้น สามารถฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ระบายความร้อนให้ Turbo!
(Air Filter => Intake Manifold => Turbo => Intercooler => Engine
จะเห็นได้ว่า Intercooler อยุ่ข้างหลัง Turbo, อากาศที่ถูกอัดมาร้อนๆหลังจากออก Turbo ไป cool down ที่ intercooler ก่อนเข้าเครื่องยนต์)
เเต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมก็เลือก Almera อยุ่ดี ซื้อมาหลายเดือนละ happyๆ เบาะหนังผมก็ dealer แถมให้! :D, ข้อดีของ Almera จุดอื่น appeal กับผมมากกว่า กล้องรอบคันนี่ คือ ใช้ประจำทุกวัน ใช้ดีมากๆ ชัดมากๆ, เครื่องเเรงเเค่ไหน ผมก็ไม่สน ขอแค่เพียงพอกับชีวิตประจำวันก้อพอ เพราะฝีมือผมไม่ถึงอะดิ 55
-
สนิมแก้ได้ แต่เครื่องยนต์ และความกว้างขว้างมัน แก้กันไม่ได้ ยังไงจุดเด่นเค้าก็ตอยโจทย์การใช้งานสุดล่ะครับ
สนิมไม่น่ากลัวกว่าหรอครับ
- เราไม่รุ้ว่ามันเกิดที่ไหน (เดาได้เเค่ น่าจะเป็นพวก รางระบายน้ำ)
- ไม่รุ้มันจะผุ รามไปเรื่อยๆ จนโครงสร้างเสียหายรึเปล่า
- เครื่องยนต์เสีย ก็เปลี่ยนได้ทั้งเครื่อง (ถึงจะโคตรแพงก็เถอะ) แต่สนิมมันน่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แก้เเล้ว เดี๋ยวก้อเป็นอีก เป็นตรงไหนไม่รุ้ แล้วมันสังเกตุเห็นด้วยสายตาได้ (คนข้างนอกจะเห็น)
- การทำสี coating ใหม่ ทำยังไงก็ไม่เหมือน ทำมาจากโรงงาน เพราะเขายกตัวถังลงไปในบ่อชุบสีทั้งคัน
<มีญาติผมคนนึง โดนชนท้าย ไปทำกันชน ทำสีใหม่ ใช้ได้ 5 ปี สนิมกิน จนเห็นด้วยสายตาชัดมากๆ>
ผมไม่มีความรุ้ตรงนี้ครับ เเต่ข้างบนเป็น เหตุผล ที่ทำไมผมว่ามันน่ากลัวกว่า
ต้องมาดูว่าผ่านไป 4-5 ปี ราคาขายตอนนั้นจะเป็นยังไงในเมื่อตัวรถมันมีปัญหาเรื่องสนิมอย่างหนักหน่วง
ต้องดูอีกว่า 4-5 ปีสนิมที่เกิดจะเท่าที่มโนไหม
ผมอาจจะคิดมากไปเองอะเเหละ 55
แต่ ผมเคยเห็นรถญาติผมที่สนิมขึ้น แล้วน่าหงุดหงิดมาก (เหมือนเป็นโรคผิวหนัง) เห็นภาพนั้นเเล้ว เลยกลัว
ยังดีที่ผมฉลาด ไม่โง่ ซื้อทำไมอันดับ 1 รถกาก แต่ซื้ออันดับ 3 แทน ;D
ติ่ง อัลเมร่า
ก้จะมี ข้ออ้างในการซื้อรถ แบบนี้ละครับ 555
คนละคนกับคนเขียน Comment นี้ // แต่ขอบอกหน่อยว่า ในฐานะคนที่เลือก Almera over City เหมือนกัน เหตุผลผมไม่ได้มีเเค่นั้น >_<
ผมเป็นคนนึงที่เลือกซื้อ Almera เเต่ตอนนั้น ไม่รู้เรื่องสนิม นะ 55
ตอนนั้นที่เลือก เพราะ หลังจากการอ่าน Spec, อ่าน Review ทั้งข้อดีข้อเสียจากหลายๆแหล่ง, ลอง Test Drive เป็นทั้งคนขับและคนนั่ง, บอกตรงๆเลย ผมให้คะแนนส่วนตัวเท่ากันทั้ง 2 รุ่น (ให้คะแนนจาก: ปัจจัยความชอบส่วนตัว นิสัยการขับและการใช้งานส่วนตัว ผมคงไม่ต้องเขียน mini review ในนี้นะ 55) ขาดๆเกินๆทั่งคู่ เเต่ Almera ถูกกว่า 60,000 บาท (ตอนนั้นผมเล็ง City SV vs. Almera V) ผมก็เลยไป Almera ครับ
ปล. ก่อนหน้านี้ผมใช้ Honda มาตลอดนะ จะบอกว่าผมติ่งนิสสันไม่ได้นะ! :D
ผมเคยเทียบให้ดูแล้ว
จุุดที่City.ชนะอัลเมร่า
ไม่ใช่รุ่น RS.นะ
แต่คือรุ่น SV.ที่ได้เบาะหนัง ทดแทน ถุงลมที่น้อยกว่า2 ใ บและระบบช่วยเหลือความปลอดภัยที่น้อกว่า ในราคาพอๆกัน
ส่วนสนิม นี่ ให้คนซื้อเค้าตัดสินใจเอง ไม่ควรมโนว่ามันจะรุนแรง ถ้ามันมีปัญหา มาในรุ่นก่อนๆ ทำไมรถยังขายได้?
ส่วนผม แค่เครื่อง 1.0T.ฉีดตรงก้กินขาด ทุกคู่แข่งในตอนนี้แล้ว ส่วนสนิม นังไม่พบความรุนแรงและคิดว่าใล้ 10 ปีรถไม่น่าจะผุถึงขั้นขับไม่ได้
ใช่ๆ
ทั้งฉีดตรง ทั้ง intercooler น้ำ ยังไงก็เเรงกว่า เทคโนโลยีล้ำๆ เเต่แลกมาด้วยราคา ฉีดเชื้อเพลิมแรงดันสูง ต้องเพิ่มพวกท่อส่งเชื้อเพลิง ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิม วาล์วต่างๆ เกรดสูงขึ้น ทนแรงดันสูงขึ้น ต้องมีระบบป้องกัน carbon built-up. intercooler น้ำก้อต้องเพิ่มระบบหมุนเวียนน้ำ pump, thermostat, radiator, seal ยางต่างๆ ราคาก็เลยเเพง จนตัด option ออกไปเพื่อทำราคาเป็นธรรมดา
เเต่อีกอย่างที่ sale ชอบมั่วกัน ตอนผมเดินเข้า showroom ก็คือ เรื่อง intercooler น้ำ vs อากาศ
ทุกคนจะพูดว่า มันระบายความร้อน turbo, ทำให้ turbo ไม่ร้อน, ของ Almera จะร้อนกว่า!
<sales ของทั้งนิสสัน ทั้งฮอนเลย>
ที่จริงเเล้ว! intercooler มันมีหน้าที่ cooldown อากาศ (ไอดี) ก่อนเข้าเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่ม density ของไอดี ทำให้สามารถอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ ได้มากกว่าเดิม โดยที่ปริมาตรเท่าเดิม (มวลมากขึ้น โดยที่ปริมาตรเท่าเดิม ขนาดท่อไอดีไม่ต้องใหญ่ขึ้น) แปลว่า intercooler น้ำจะช่วยเพิ่มแรงม้า เนื่องจากมีอากาศเข้าห้องเผาไหม้เพิ่มมากขึ้น สามารถฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ระบายความร้อนให้ Turbo!
(Air Filter => Intake Manifold => Turbo => Intercooler => Engine
จะเห็นได้ว่า Intercooler อยุ่ข้างหลัง Turbo, อากาศที่ถูกอัดมาร้อนๆหลังจากออก Turbo ไป cool down ที่ intercooler ก่อนเข้าเครื่องยนต์)
เเต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมก็เลือก Almera อยุ่ดี ซื้อมาหลายเดือนละ happyๆ เบาะหนังผมก็ dealer แถมให้! :D, ข้อดีของ Almera จุดอื่น appeal กับผมมากกว่า กล้องรอบคันนี่ คือ ใช้ประจำทุกวัน ใช้ดีมากๆ ชัดมากๆ, เครื่องเเรงเเค่ไหน ผมก็ไม่สน ขอแค่เพียงพอกับชีวิตประจำวันก้อพอ เพราะฝีมือผมไม่ถึงอะดิ 55
ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่า การออกแบบ ยังไง Almera ก็คุ้มกว่า
เอาจริง ความแรงของ City บางคนก็ไม่ได้ใช้มัน หรอก
แต่ละคน ก็มี เหตุผลในการตัดสินใจ แตกต่างกัน
แต่ผมเตือนเรื่องการแถม เบาะหนัง ของเซลศูนย์ เพราะ เบาะที่เซลแถมให้ ผมฟันธงได้เลย ทำจากร้านแต่งรถ ไม่ใช่ จากNissan
ดังนั้น Airbag ที่เบาะ ถือว่าไม่ผ่าน คุณภาพจากผู้ผลิต แน่นอนครับ ศูนย์ทำให้ก็รับผิดชอบกันไป
อันนี้คือ การบ้าน ของ Almera เลย ถ้าอยากตบ City ให้คว่ำ ต้องให้เบาะหนังม่ในรุ่น TOP เลย
สำหรับผม City จุดที่ชนะ Almera เด่นๆเลยเรื่องความแรงเครื่อง กับ เบาะหนัง ติดรถ
ที่เหลือ Almera กินหมด
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
เคสนั้น ตอนนี้แก้ปัญหาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ
Option ท่วมคันนี่ผมชอบมากเลย ใช้ตลอด ใช้ทุกวัน //
- ผมต้องจอดรถในที่เเคบๆ เวลาวนรถในลานจอดรถ ผมเปิดกล้องดูตลอด รุ้สึกปลอดภัยมากเลย (ไม่เสี่ยงขูดข้าวของ/รถคนอื่น), จอดรถตรงเส้นง่ายขึ้นเยอะ โดยเฉพาะตอนที่ต้องมองหน้า/หลัง (ซ้าย/ขวาไม่ค่อยเท่าไหร่) , พวกหินหยุดล้อใหญ่ๆบนลานจอด 7-11 ที่ขับเข้าไป กันชนหน้าด้านล่าง ขูด แน่ๆ ก็ใช้กล้องช่วยได้ ไม่กลัวขูด (ที่จอดเดียวกัน เพื่อนผมขับ Civic 2019 สูงเท่ารถผม ข้างล่างกันชนหน้า ขูดไปแล้ว เรียบร้อย โคตรเสียดาย T^T ......)
- **ก่อนที่ผมจะใช้งานกล้องรอบคัน ผม calibrate รูปภาพที่จอรถ กับ สายตากับสมองตัวเองก่อน 2-3 weeks ผมเลยมั่นใจ กล้องแม่นยำ ใช้งานได้จริง ดูรู้เรื่อง (บางคนอาจจะปวดหัว เเล้วเเต่คน หรือบางคน ไม่ฝึกใช้ก่อนเเล้วบ่นว่าดูไม่รู้เรื่อง ...)
calibrate กับสมองตัวเองก่อน ไม่รุ้จะใช้คำว่าไรดี เเต่เข้าใจที่จะสื่อ ใช่มะครับ 55
- เคยกำลังจะเปลี่ยนเลน มองกระจกมองข้างอยู่ เเต่ข้างหน้าเบรคกระทันหัน ระบบมันเตือนผมด้วย ดังตี๊ดๆ กับแสงสีส้มกระพิบๆ บนจอ (ตอนนั้น ไม่ได้กระชั้นชิดขนาดนั้น ผมหันกลับมาดูเรื่อยๆ เบรคทันอยุ่เเล้ว เเต่รุ้สึกดีที่ระบบช่วยเตือน อีกชั้นนึง)
-
ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่า การออกแบบ ยังไง Almera ก็คุ้มกว่า
เอาจริง ความแรงของ City บางคนก็ไม่ได้ใช้มัน หรอก
แต่ละคน ก็มี เหตุผลในการตัดสินใจ แตกต่างกัน
แต่ผมเตือนเรื่องการแถม เบาะหนัง ของเซลศูนย์ เพราะ เบาะที่เซลแถมให้ ผมฟันธงได้เลย ทำจากร้านแต่งรถ ไม่ใช่ จากNissan
ดังนั้น Airbag ที่เบาะ ถือว่าไม่ผ่าน คุณภาพจากผู้ผลิต แน่นอนครับ ศูนย์ทำให้ก็รับผิดชอบกันไป
อันนี้คือ การบ้าน ของ Almera เลย ถ้าอยากตบ City ให้คว่ำ ต้องให้เบาะหนังม่ในรุ่น TOP เลย
สำหรับผม City จุดที่ชนะ Almera เด่นๆเลยเรื่องความแรงเครื่อง กับ เบาะหนัง ติดรถ
ที่เหลือ Almera กินหมด
ผมซื้อตัว V ลองท๊อป, ไม่มี Air Bag ที่เบาะครับ
เเต่เห็นด้วยๆ ถ้า dealer หาร้านทำได้ หรือมาจากโรงงานได้เลย จะดีมากๆๆๆ จุดนี้ City กินเลย
ที่ Malaysia ยังทำได้เลย
Versa ที่อเมกา ยังทำได้เลยยย
-
ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่า การออกแบบ ยังไง Almera ก็คุ้มกว่า
เอาจริง ความแรงของ City บางคนก็ไม่ได้ใช้มัน หรอก
แต่ละคน ก็มี เหตุผลในการตัดสินใจ แตกต่างกัน
แต่ผมเตือนเรื่องการแถม เบาะหนัง ของเซลศูนย์ เพราะ เบาะที่เซลแถมให้ ผมฟันธงได้เลย ทำจากร้านแต่งรถ ไม่ใช่ จากNissan
ดังนั้น Airbag ที่เบาะ ถือว่าไม่ผ่าน คุณภาพจากผู้ผลิต แน่นอนครับ ศูนย์ทำให้ก็รับผิดชอบกันไป
อันนี้คือ การบ้าน ของ Almera เลย ถ้าอยากตบ City ให้คว่ำ ต้องให้เบาะหนังม่ในรุ่น TOP เลย
สำหรับผม City จุดที่ชนะ Almera เด่นๆเลยเรื่องความแรงเครื่อง กับ เบาะหนัง ติดรถ
ที่เหลือ Almera กินหมด
ผมซื้อตัว V ลองท๊อป, ไม่มี Air Bag ที่เบาะครับ
เเต่เห็นด้วยๆ ถ้า dealer หาร้านทำได้ หรือมาจากโรงงานได้เลย จะดีมากๆๆๆ จุดนี้ City กินเลย
ที่ Malaysia ยังทำได้เลย
Versa ที่อเมกา ยังทำได้เลยยย
อันนั้นมันเป็นเบาะหนังจากโรงงานเลยครับ
dealer ไม่ควร ติดตั้ง อุปกรณ์ความปลอดภัย อะไรก็ตาม ที่ไม่ได้ผลิตมาจากโรงงานครับ
เข้าใจว่่า พยายามทำราคาให้ต่ำ เลยไม่มีรุ่น เบาะหนังมา
การตลาดเค้า คงคิดไม่ถึง ว่าคนไทย ชอบหรูหรา ต่อห้รถรถาคาไม่สูง
-
City ยอดเยอะจริงๆ ถือว่า Honda ทำรถมาดีด้วยนะครับ เด่นเรื่องเครื่อง เกียร์ ช่วงล่างก็ไม่แย่อะไร ถ้าเก็บเรื่องที่คนบ่นๆกันได้ ยอดคงดีกว่านี้
แต่คนที่ไม่ซื้อ ก็อาจจะมาจากเรื่องที่ต้องเปลี่ยน นมค. ทุก 5 พันโล ด้วย ซึ่งถือว่าบ่อยกว่าปกติ อย่างว่าแหละครับ เครื่องเทอโบ ก็ต้องการการดูแลมากหน่อย
-
City ยอดเยอะจริงๆ ถือว่า Honda ทำรถมาดีด้วยนะครับ เด่นเรื่องเครื่อง เกียร์ ช่วงล่างก็ไม่แย่อะไร ถ้าเก็บเรื่องที่คนบ่นๆกันได้ ยอดคงดีกว่านี้
แต่คนที่ไม่ซื้อ ก็อาจจะมาจากเรื่องที่ต้องเปลี่ยน นมค. ทุก 5 พันโล ด้วย ซึ่งถือว่าบ่อยกว่าปกติ อย่างว่าแหละครับ เครื่องเทอโบ ก็ต้องการการดูแลมากหน่อย
ขับปกติ เปลี่ยนตามรอบ 10000 โลครับ
ยกวเว้นพวกตีนหนัก กับ ขับฝนในเมือง
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
เคสนั้น ตอนนี้แก้ปัญหาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ
มีครับ ล่าสุดเพิ่งลงในกลุ่มไป แล้วมีหลายคนมาแชร์กันด้วย
รถออกช่วงปลายๆปีเนี่ยแหละ ไม่ใช่ล๊อตแรก
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
เคสนั้น ตอนนี้แก้ปัญหาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ
มีครับ ล่าสุดเพิ่งลงในกลุ่มไป แล้วมีหลายคนมาแชร์กันด้วย
รถออกช่วงปลายๆปีเนี่ยแหละ ไม่ใช่ล๊อตแรก
พอจะมีเลข Serial ตัวถังรถมั้ยครับ
รถผมออกเดือน ส.ค. ตอนนี้ไม่มีเสียง ไม่สั่น ไม่มีอาการอะไร
เเต่จะครบ 6 เดือนแล้ว เดี๋ยวผมคงไปให้ศูนย์เช็ค พร้อมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพอดี
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
เคสนั้น ตอนนี้แก้ปัญหาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ
มีครับ ล่าสุดเพิ่งลงในกลุ่มไป แล้วมีหลายคนมาแชร์กันด้วย
รถออกช่วงปลายๆปีเนี่ยแหละ ไม่ใช่ล๊อตแรก
พอจะมีเลข Serial ตัวถังรถมั้ยครับ
รถผมออกเดือน ส.ค. ตอนนี้ไม่มีเสียง ไม่สั่น ไม่มีอาการอะไร
เเต่จะครบ 6 เดือนแล้ว เดี๋ยวผมคงไปให้ศูนย์เช็ค พร้อมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพอดี
ถ้าสรุปแล้วเป็นปัญหาด้านคุณภาพ
ถ้าเป็นค่ายรถอื่นๆ เช่น Honda Toyota จะเรียกกลับไปเปลี่ยน อะไหล่ชิ้นทีมีปัญหาครับ ส่วนใหญ่จะ แอบทำตอนเอารถเข้า เช็นตามระยะ ในประกัน
-
Ciaz เมื่อไหร่จะลง 1.0 Booster Jet สักทีน้อ :-\
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
เคสนั้น ตอนนี้แก้ปัญหาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ
มีครับ ล่าสุดเพิ่งลงในกลุ่มไป แล้วมีหลายคนมาแชร์กันด้วย
รถออกช่วงปลายๆปีเนี่ยแหละ ไม่ใช่ล๊อตแรก
พอจะมีเลข Serial ตัวถังรถมั้ยครับ
รถผมออกเดือน ส.ค. ตอนนี้ไม่มีเสียง ไม่สั่น ไม่มีอาการอะไร
เเต่จะครบ 6 เดือนแล้ว เดี๋ยวผมคงไปให้ศูนย์เช็ค พร้อมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพอดี
เค้าไม่ได้ลง serial ไว้ครับ ถ้าผมจำไม่ผิด จขพ. น่าจะได้รถตอนเดือนตุลาครับ
ตอนนี้หลายท่านใช้วิธีมาร์กตำแหน่งไว้ แล้วคอยเช็กว่าน๊อตเคลื่อนปล่าว
จะไขเองก็ไม่ได้ เพราะน้ำหนักในการบิดต้องพอดี ไม่งั้นพัง
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
เคสนั้น ตอนนี้แก้ปัญหาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ
Option ท่วมคันนี่ผมชอบมากเลย ใช้ตลอด ใช้ทุกวัน //
- ผมต้องจอดรถในที่เเคบๆ เวลาวนรถในลานจอดรถ ผมเปิดกล้องดูตลอด รุ้สึกปลอดภัยมากเลย (ไม่เสี่ยงขูดข้าวของ/รถคนอื่น), จอดรถตรงเส้นง่ายขึ้นเยอะ โดยเฉพาะตอนที่ต้องมองหน้า/หลัง (ซ้าย/ขวาไม่ค่อยเท่าไหร่) , พวกหินหยุดล้อใหญ่ๆบนลานจอด 7-11 ที่ขับเข้าไป กันชนหน้าด้านล่าง ขูด แน่ๆ ก็ใช้กล้องช่วยได้ ไม่กลัวขูด (ที่จอดเดียวกัน เพื่อนผมขับ Civic 2019 สูงเท่ารถผม ข้างล่างกันชนหน้า ขูดไปแล้ว เรียบร้อย โคตรเสียดาย T^T ......)
- **ก่อนที่ผมจะใช้งานกล้องรอบคัน ผม calibrate รูปภาพที่จอรถ กับ สายตากับสมองตัวเองก่อน 2-3 weeks ผมเลยมั่นใจ กล้องแม่นยำ ใช้งานได้จริง ดูรู้เรื่อง (บางคนอาจจะปวดหัว เเล้วเเต่คน หรือบางคน ไม่ฝึกใช้ก่อนเเล้วบ่นว่าดูไม่รู้เรื่อง ...)
calibrate กับสมองตัวเองก่อน ไม่รุ้จะใช้คำว่าไรดี เเต่เข้าใจที่จะสื่อ ใช่มะครับ 55
- เคยกำลังจะเปลี่ยนเลน มองกระจกมองข้างอยู่ เเต่ข้างหน้าเบรคกระทันหัน ระบบมันเตือนผมด้วย ดังตี๊ดๆ กับแสงสีส้มกระพิบๆ บนจอ (ตอนนั้น ไม่ได้กระชั้นชิดขนาดนั้น ผมหันกลับมาดูเรื่อยๆ เบรคทันอยุ่เเล้ว เเต่รุ้สึกดีที่ระบบช่วยเตือน อีกชั้นนึง)
อยากจะฝากไว้สักนิดว่า ไม่ควรใช้อุปกรณ์พวกนี้เป็นหลักนะครับ ควรมองว่าเป็นตัวช่วยจะดีกว่า อุปกรณ์พวกนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่ ต่อให้คุณบอกว่าคุณ Calibrate กับสมองคุณแล้ว การถอยรถเข้าจอด การขับวนในลานจอดรถ การขับในที่แคบๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ สายตาและทักษะในการควบคุมรถครับ ส่วนอุปกรณ์ติดรถที่ให้ความมั่นใจได้มากที่สุด คือ "กระจก" ที่ติดรถมาครับ ภาพที่ได้ Real Time แน่ๆ ส่วนกล้อง อาจจะมีภาพ Delay นะครับ
-
อัลเมร่ามันมีเคส พูลเล่ย์ หลุดลงมากองกับพื้นด้วยนะพี่
จะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าพื้นฐานของความเป็นรถมันยังให้ความมั่นใจไม่ได้
ออปชั่นท่วมคันก็เป็นเพียงแค่ gadgets นะครับ
เคสนั้น ตอนนี้แก้ปัญหาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ
Option ท่วมคันนี่ผมชอบมากเลย ใช้ตลอด ใช้ทุกวัน //
- ผมต้องจอดรถในที่เเคบๆ เวลาวนรถในลานจอดรถ ผมเปิดกล้องดูตลอด รุ้สึกปลอดภัยมากเลย (ไม่เสี่ยงขูดข้าวของ/รถคนอื่น), จอดรถตรงเส้นง่ายขึ้นเยอะ โดยเฉพาะตอนที่ต้องมองหน้า/หลัง (ซ้าย/ขวาไม่ค่อยเท่าไหร่) , พวกหินหยุดล้อใหญ่ๆบนลานจอด 7-11 ที่ขับเข้าไป กันชนหน้าด้านล่าง ขูด แน่ๆ ก็ใช้กล้องช่วยได้ ไม่กลัวขูด (ที่จอดเดียวกัน เพื่อนผมขับ Civic 2019 สูงเท่ารถผม ข้างล่างกันชนหน้า ขูดไปแล้ว เรียบร้อย โคตรเสียดาย T^T ......)
- **ก่อนที่ผมจะใช้งานกล้องรอบคัน ผม calibrate รูปภาพที่จอรถ กับ สายตากับสมองตัวเองก่อน 2-3 weeks ผมเลยมั่นใจ กล้องแม่นยำ ใช้งานได้จริง ดูรู้เรื่อง (บางคนอาจจะปวดหัว เเล้วเเต่คน หรือบางคน ไม่ฝึกใช้ก่อนเเล้วบ่นว่าดูไม่รู้เรื่อง ...)
calibrate กับสมองตัวเองก่อน ไม่รุ้จะใช้คำว่าไรดี เเต่เข้าใจที่จะสื่อ ใช่มะครับ 55
- เคยกำลังจะเปลี่ยนเลน มองกระจกมองข้างอยู่ เเต่ข้างหน้าเบรคกระทันหัน ระบบมันเตือนผมด้วย ดังตี๊ดๆ กับแสงสีส้มกระพิบๆ บนจอ (ตอนนั้น ไม่ได้กระชั้นชิดขนาดนั้น ผมหันกลับมาดูเรื่อยๆ เบรคทันอยุ่เเล้ว เเต่รุ้สึกดีที่ระบบช่วยเตือน อีกชั้นนึง)
อยากจะฝากไว้สักนิดว่า ไม่ควรใช้อุปกรณ์พวกนี้เป็นหลักนะครับ ควรมองว่าเป็นตัวช่วยจะดีกว่า อุปกรณ์พวกนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่ ต่อให้คุณบอกว่าคุณ Calibrate กับสมองคุณแล้ว การถอยรถเข้าจอด การขับวนในลานจอดรถ การขับในที่แคบๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ สายตาและทักษะในการควบคุมรถครับ ส่วนอุปกรณ์ติดรถที่ให้ความมั่นใจได้มากที่สุด คือ "กระจก" ที่ติดรถมาครับ ภาพที่ได้ Real Time แน่ๆ ส่วนกล้อง อาจจะมีภาพ Delay นะครับ
เข้าใจครับ ผมระวังตลอด ขับช้าๆ ไม่ถึง 5 km/hr, บางทีจะหยุดรถที่ 0 km/hr แล้วเช็คทั้งกล้อง ทั้งสายตาตัวเอง แล้วค่อยๆไหล
ผมขับรถที่ไม่มีอุปกรณ์อะไรมาก่อนครับ ผมกะได้ เพียงเเต่ รู้สึกว่า มันเป็น Safety เพิ่มมาอีก 1 layer ครับ
ไปสนามรบ เอาจริงๆก็ไม่ควรพึ่งพาชุดเกราะมากเกินไป ควรพึ่งฝีมือ, ยุทธวิธี, tactics, ทักษะการหา cover, หาที่ flank, ทักษะการทำงานร่วมกับทีม แต่มีชุดเกราะเพิ่มมา ก็อุ่นใจขึ้นเป็นกองเลย ใช่มะครับ
ผมระวังจน เพื่อนผมบอกผมโรคจิตรอะ =..=
อยากจะบอกว่า พลาดแล้วมันกด cntrl+z ไม่ได้นะ เสียเวลาเพิ่มอีกสักนาที จะเป็นไรรรรร
เเต่ก็ฝากเตือนแบบนี้กับหลายๆคน ดีครับๆๆ เพราะ พวกรถคันอื่นจะได้ไม่มาขูดรถผม!!!!