Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Tiny ที่ มกราคม 04, 2021, 21:25:03
-
มือสอง nissan teana 200xl 2013 กับ sylphy 1.6 v ตัวไหนน่าเล่นมากกว่ากันคับ
teana 200xl ข้อดี คันใหญ่กว่านั่งสบายกว่า ข้อเสีย กินน้ำมันหนักกว่า sylphy 1.6 v/ ค่าซ่อมบำรุง/ ต่อภาษีแพงกว่า
sylphy 1.6 v ข้อดี ประหยัดกว่ามาก ข้อเสีย นั่งไม่ค่อยสบายเมื่อเทียบกับ teana 200xl
ปีเดียวกันตอนนี้ราคาพอๆกัน น่าเล่นทั้งคู่แต่รักพี่เสียดายน้อง 555+
sylphy หน้าตาก็คล้ายๆ teana ไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่กลัวซื้อมาแล้วมาเสียดายทีหลังว่าทำไมไม่เอา teana ไปเลย
จะเอา teana ก็กลัวนึกเสียดายทำไมไม่เอา sylphy ประหยัดน้ำมันอีกอะไรอีก -*-
-
อย่าเลือกตรงกังวลเรื่องภาษีประจำปี กับค่าน้ำมันเลยครับ (นอกจากว่าเป็นคนวิ่งรถเยอะมากๆถึงน่าคิด)
ปีหนึ่ง จ่ายภาษีครั้งเดียวเองครับ มันแพงกว่ากันไม่ได้รู้สึกหรอก ในราคามือสองแล้ว ยังไงๆ Teana ก็คุ้มค่าน่าใช้กว่ามากครับ
-
อย่าเลือกตรงกังวลเรื่องภาษีประจำปี กับค่าน้ำมันเลยครับ (นอกจากว่าเป็นคนวิ่งรถเยอะมากๆถึงน่าคิด)
ปีหนึ่ง จ่ายภาษีครั้งเดียวเองครับ มันแพงกว่ากันไม่ได้รู้สึกหรอก ในราคามือสองแล้ว ยังไงๆ Teana ก็คุ้มค่าน่าใช้กว่ามากครับ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดคับ
-
Sylphy. แรงพอสำหรับการขับ มั้ย ถ้าไม่พอ ไป teana
การนั่งที่สบายกว่า รถนิ่งกว่า. แต่ถ้าเพียงพอ รถเล็กก็ขับง่าย
แล้วแต่จะเลือก รถแต่ละรุ่นก็มี ข้อดี ข้อเสีย ต่างกันไป
เลือกหัวข้อที่ตัวเองชอบเป็นหลัก
-
slyphy ประหยัดกว่า พอสมควร แรงกว่า คล่องตัว ในเมืองขับง่ายมากและสบายมาก รถโปร่ง และ พวงมาลัยเบาหวิว
teana บรรยากาศภายในดูละมุนกว่า อืดกว่า ขับทางไกลสบายมาก ในเมืองใหญ่นิดๆ ชินแล้วก็เฉยๆ
ราคามือสองตอนนี้น่าจะต่างกันประมาณแสนนึง ลองเลือกดู
-
เชียร์ Teana ครับ เคยขับ ตัว 250XV ตอนออกใหม่ๆ เลย ขับสบายมาก ภายในหรูหรามากครับ
-
Teana ขับดีกว่าเยอะครับ ยิ่งถ้าเดินทางไกล เบาะ Teana สบายกว่า ช่วงล่างนุ่ม และ เกาะกว่าครับ
Sylphy ถ้าเป็นคนปวดหลังง่าย รับรองไม่รอดครับ ปวดหลังแน่นอน
-
ขับทางไกล เดินทางบ่อย เที่ยวบ่อยมั้ย เดินทางกี่คน
รถทั้ง 2 คันแรงพอที่จะพาไปได้ทั่วไทย
ผมเคยเช่า Sylphy ขึ้นดอยอินทนน เที่ยวดอยสุเทพ นั่งเต็มรถ พละกำลังเหลือเฟือ
ถ้าเที่ยวบ่อย ขับทางไกล พาครอบครัวเที่ยว พาแฟนเที่ยว Teana ดีกว่าเยอะเลย
รถคันใหญ่ๆถ้าลอยลำแล้วอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเร่งๆหยุดๆ ขับแล้วมั่นคงหนักแน่นกว่า คนนั่งก็สบาย
แต่ถ้ารถใช้งาน ขับไปทำงานคนเดียว รถเล็กคล่องตัวและประหยัดกว่า
-
การใช้งาน มีส่วนนำมาพิจารณาด้วยไหมครับ
เช่น ขับขี่ ตจว.ทางไกล หรือ ในเมือง อย่างไหนมากกว่ากัน
ซิลฟี่เอง ภายในกว้างน้องๆ Teana นั่งสบายทั้งหน้าหลัง แต่เรื่องเบาะเป็นรองแน่นอน การเก็บเสียง นุ่มนวล ก็เป็นรอง
แต่ถ้าขับในเมือง 80-90% ซิลฟี่ ก็ไม่แย่ถ้านานๆออก ตจว.ทีนีง เพราะ Teana เวลาขับในเมือง รถหนักออกตัว-หยุดๆ บ่อยๆ จะขับยากกว่า กินกว่า แต่ถ้าวิ่งไม่มากก็ไม่ต้องเอาปัจจัยนี้มาคิดได้ครับ
ส่วนตัว ถ้าวิ่ง ตจว.เยอะมากกว่า จะเลือก Teana ครับ
ถ้าในเมืองเยอะกว่าก็ Sylphy
แต่ถ้าพอๆกัน ก็แล้วแต่ชอบครับ
ผมใช้ทั้ง L33 และ B17 พร้อมๆกันอยู่ครับ ผมขับทางไกล 80-90% ให้เลือกคันเดียวผมเลือก L33 ครับ (ต่างจาก J32 แบบในโจทย์ครับ)
-
ผมเชียร์เทียน่าครับ สำหรับคู่นี้
-
เบาะหน้า ซิลฟี่ เมื่อยเลยนะครับ บอกไว้ก่อนเลยจ้า
-
การใช้งาน มีส่วนนำมาพิจารณาด้วยไหมครับ
เช่น ขับขี่ ตจว.ทางไกล หรือ ในเมือง อย่างไหนมากกว่ากัน
ซิลฟี่เอง ภายในกว้างน้องๆ Teana นั่งสบายทั้งหน้าหลัง แต่เรื่องเบาะเป็นรองแน่นอน การเก็บเสียง นุ่มนวล ก็เป็นรอง
แต่ถ้าขับในเมือง 80-90% ซิลฟี่ ก็ไม่แย่ถ้านานๆออก ตจว.ทีนีง เพราะ Teana เวลาขับในเมือง รถหนักออกตัว-หยุดๆ บ่อยๆ จะขับยากกว่า กินกว่า แต่ถ้าวิ่งไม่มากก็ไม่ต้องเอาปัจจัยนี้มาคิดได้ครับ
ส่วนตัว ถ้าวิ่ง ตจว.เยอะมากกว่า จะเลือก Teana ครับ
ถ้าในเมืองเยอะกว่าก็ Sylphy
แต่ถ้าพอๆกัน ก็แล้วแต่ชอบครับ
ผมใช้ทั้ง L33 และ B17 พร้อมๆกันอยู่ครับ ผมขับทางไกล 80-90% ให้เลือกคันเดียวผมเลือก L33 ครับ (ต่างจาก J32 แบบในโจทย์ครับ)
คิดหนักเหมือนกันคับ เพราะใช้งานทั้งสองแบบ คือ วันธรรมดาก็วิ่งในเมืองนอกเมืองบ้าง ส่วนวันหยุดก็จะมีออกนอกต่างจังหวัดบ้างคับ
แล้วถ้าเทียบ L33 กับ ซิลฟี่ ขนาดตัวเครื่องเดียวกัน กินน้ำมันแตกต่างกันมากไหมคับ
-
คู่นีเชียร์ Teana ครับ
ขับและนั่งสบายกว่ามากๆ
ภาษีรถมือสอง ก็ถือว่าลดไปจากตอนออกห้างเยอะอยุ่ครับเพราะหลายปีแล้ว
ที่น่าจะต่างกันชัดๆก็น่าจะค่าน้ำมันนี่แหละ
-
Teana ไปเลยครับ จบดี ;)
-
Teana รถดีจริงๆครับ
เทียบกันเจนต่อเจน ขับดีกว่าคู่แข่งด้วยซ้ำ
ขับในเมืองไม่ยากเท่าไหร่
แต่ถ้ารถติดก็จะกินน้ำมันอยู่บ้างมีถึง 7-8 โลลิตร
รับเรื่องนี้ได้ก็จบเลย
-
ถ้าไม่ได้ใช้ในเมืองติดหนัก
Teana เลยครับ แล้วจะไม่เสียดายเลยนอกจากค่าน้ำมันในเมือง
-
เซียร์ 200xl ครับ มีอะไรปรึกษาผมได้ครับ หรือพูดคุยกันใน teanaclubthailand ครับ
-
แล้ว l32 กับ l33 ต่างกันเยอะไหมคับ
หรือเอาแค่ l32 ก็พอแล้ว เพราะมันเครื่องตัวเดียวกันใช่ไหม กรณีเครื่อง 2.0
-
เซียร์ 200xl ครับ มีอะไรปรึกษาผมได้ครับ หรือพูดคุยกันใน teanaclubthailand ครับ
อยากทราบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากผู้ใช้จริงทั้งในเมืองและนอกเมืองคับ
กลัวเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่เหมือนกันคับ ไม่อยากติดแก๊สด้วย
-
การใช้งาน มีส่วนนำมาพิจารณาด้วยไหมครับ
เช่น ขับขี่ ตจว.ทางไกล หรือ ในเมือง อย่างไหนมากกว่ากัน
ซิลฟี่เอง ภายในกว้างน้องๆ Teana นั่งสบายทั้งหน้าหลัง แต่เรื่องเบาะเป็นรองแน่นอน การเก็บเสียง นุ่มนวล ก็เป็นรอง
แต่ถ้าขับในเมือง 80-90% ซิลฟี่ ก็ไม่แย่ถ้านานๆออก ตจว.ทีนีง เพราะ Teana เวลาขับในเมือง รถหนักออกตัว-หยุดๆ บ่อยๆ จะขับยากกว่า กินกว่า แต่ถ้าวิ่งไม่มากก็ไม่ต้องเอาปัจจัยนี้มาคิดได้ครับ
ส่วนตัว ถ้าวิ่ง ตจว.เยอะมากกว่า จะเลือก Teana ครับ
ถ้าในเมืองเยอะกว่าก็ Sylphy
แต่ถ้าพอๆกัน ก็แล้วแต่ชอบครับ
ผมใช้ทั้ง L33 และ B17 พร้อมๆกันอยู่ครับ ผมขับทางไกล 80-90% ให้เลือกคันเดียวผมเลือก L33 ครับ (ต่างจาก J32 แบบในโจทย์ครับ)
คิดหนักเหมือนกันคับ เพราะใช้งานทั้งสองแบบ คือ วันธรรมดาก็วิ่งในเมืองนอกเมืองบ้าง ส่วนวันหยุดก็จะมีออกนอกต่างจังหวัดบ้างคับ
แล้วถ้าเทียบ L33 กับ ซิลฟี่ ขนาดตัวเครื่องเดียวกัน กินน้ำมันแตกต่างกันมากไหมคับ
ผมใช้ L33-2.5 กับ Sylphy DIG ซึ่ง DIG กินกว่าครับ
เรื่องกินน้ำมัน บอกยากจริงๆครับ ขึ้นกับวิธีขับขี่ของคนขับซึ่งเป็นปัจจัยหลักครับ
ผมขับ ตจว.รักษาความเร็วคงที่ 90-100 กม/ชม ช่วงเข้า กทม. อยู่ย่าน เพชรุบรี อโศก ยมราช ตลิ่งชัน
- L33-2.5 วิ่งไป 86,000 กม. เติม E20 จดเฉลี่ยตั้งแต่ป้ายแดง ทุกถัง ได้ 15.25 กม-ลิตร
- Sylphy DIG วิ่งไป 81,000 กม. เติม E10 จดเหมือนกัน ได้ 14.5 กม-ลิตร
คนขับคนเดียวก้น วิ่งท้บเส้นทางเดิมๆเหมือนก้น แต่ DIG อาจมีอัดๆเอาสนุกบ่อยกว่าครับ
ในเมือง L33-2.5 ได้ 7-9 กม/ลิตร DIG น่าจะได้เท่าๆกันครับ
ขับดีสนุกท้้งคู่ ถ้าต้องเลือกเพราะเหตุผลเรื่องความดีแบบครบเครื่อง เลือก L33-2.5 ครับ
แล้ว l32 กับ l33 ต่างกันเยอะไหมคับ
หรือเอาแค่ l32 ก็พอแล้ว เพราะมันเครื่องตัวเดียวกันใช่ไหม กรณีเครื่อง 2.0
เครื่อง MR20 เหมือนกัน ต่างกันที่เกียร์ครับ ทำให้ L33 ประหยัดกว่าครับ
-
การใช้งาน มีส่วนนำมาพิจารณาด้วยไหมครับ
เช่น ขับขี่ ตจว.ทางไกล หรือ ในเมือง อย่างไหนมากกว่ากัน
ซิลฟี่เอง ภายในกว้างน้องๆ Teana นั่งสบายทั้งหน้าหลัง แต่เรื่องเบาะเป็นรองแน่นอน การเก็บเสียง นุ่มนวล ก็เป็นรอง
แต่ถ้าขับในเมือง 80-90% ซิลฟี่ ก็ไม่แย่ถ้านานๆออก ตจว.ทีนีง เพราะ Teana เวลาขับในเมือง รถหนักออกตัว-หยุดๆ บ่อยๆ จะขับยากกว่า กินกว่า แต่ถ้าวิ่งไม่มากก็ไม่ต้องเอาปัจจัยนี้มาคิดได้ครับ
ส่วนตัว ถ้าวิ่ง ตจว.เยอะมากกว่า จะเลือก Teana ครับ
ถ้าในเมืองเยอะกว่าก็ Sylphy
แต่ถ้าพอๆกัน ก็แล้วแต่ชอบครับ
ผมใช้ทั้ง L33 และ B17 พร้อมๆกันอยู่ครับ ผมขับทางไกล 80-90% ให้เลือกคันเดียวผมเลือก L33 ครับ (ต่างจาก J32 แบบในโจทย์ครับ)
คิดหนักเหมือนกันคับ เพราะใช้งานทั้งสองแบบ คือ วันธรรมดาก็วิ่งในเมืองนอกเมืองบ้าง ส่วนวันหยุดก็จะมีออกนอกต่างจังหวัดบ้างคับ
แล้วถ้าเทียบ L33 กับ ซิลฟี่ ขนาดตัวเครื่องเดียวกัน กินน้ำมันแตกต่างกันมากไหมคับ
ผมใช้ L33-2.5 กับ Sylphy DIG ซึ่ง DIG กินกว่าครับ
เรื่องกินน้ำมัน บอกยากจริงๆครับ ขึ้นกับวิธีขับขี่ของคนขับซึ่งเป็นปัจจัยหลักครับ
ผมขับ ตจว.รักษาความเร็วคงที่ 90-100 กม/ชม ช่วงเข้า กทม. อยู่ย่าน เพชรุบรี อโศก ยมราช ตลิ่งชัน
- L33-2.5 วิ่งไป 86,000 กม. เติม E20 จดเฉลี่ยตั้งแต่ป้ายแดง ทุกถัง ได้ 15.25 กม-ลิตร
- Sylphy DIG วิ่งไป 81,000 กม. เติม E10 จดเหมือนกัน ได้ 14.5 กม-ลิตร
คนขับคนเดียวก้น วิ่งท้บเส้นทางเดิมๆเหมือนก้น แต่ DIG อาจมีอัดๆเอาสนุกบ่อยกว่าครับ
ในเมือง L33-2.5 ได้ 7-9 กม/ลิตร DIG น่าจะได้เท่าๆกันครับ
ขับดีสนุกท้้งคู่ ถ้าต้องเลือกเพราะเหตุผลเรื่องความดีแบบครบเครื่อง เลือก L33-2.5 ครับ
แล้ว l32 กับ l33 ต่างกันเยอะไหมคับ
หรือเอาแค่ l32 ก็พอแล้ว เพราะมันเครื่องตัวเดียวกันใช่ไหม กรณีเครื่อง 2.0
เครื่อง MR20 เหมือนกัน ต่างกันที่เกียร์ครับ ทำให้ L33 ประหยัดกว่าครับ
Sylphy DIG นี่คือเทอโบใช่ป่ะ ถ้า Sylphy ธรรมดาจะประหยัดกว่านี้ใช่ไหมคับ
-
เซียร์ 200xl ครับ มีอะไรปรึกษาผมได้ครับ หรือพูดคุยกันใน teanaclubthailand ครับ
อยากทราบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากผู้ใช้จริงทั้งในเมืองและนอกเมืองคับ
กลัวเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่เหมือนกันคับ ไม่อยากติดแก๊สด้วย
ขับเร็วไหมครับ ถ้า 100-120 ต่างจังหวัด 11-12 กิโลเมตรต่อลิตรได้ครับ เฉลี่ย โลละ 1.9-2.0 บาทครับ ในเมืองดุครับ 7-8 โลลิตร ส่วนเรื่องซ่อมบำรุงปรึกษาผมได้ครับ
-
การใช้งาน มีส่วนนำมาพิจารณาด้วยไหมครับ
เช่น ขับขี่ ตจว.ทางไกล หรือ ในเมือง อย่างไหนมากกว่ากัน
ซิลฟี่เอง ภายในกว้างน้องๆ Teana นั่งสบายทั้งหน้าหลัง แต่เรื่องเบาะเป็นรองแน่นอน การเก็บเสียง นุ่มนวล ก็เป็นรอง
แต่ถ้าขับในเมือง 80-90% ซิลฟี่ ก็ไม่แย่ถ้านานๆออก ตจว.ทีนีง เพราะ Teana เวลาขับในเมือง รถหนักออกตัว-หยุดๆ บ่อยๆ จะขับยากกว่า กินกว่า แต่ถ้าวิ่งไม่มากก็ไม่ต้องเอาปัจจัยนี้มาคิดได้ครับ
ส่วนตัว ถ้าวิ่ง ตจว.เยอะมากกว่า จะเลือก Teana ครับ
ถ้าในเมืองเยอะกว่าก็ Sylphy
แต่ถ้าพอๆกัน ก็แล้วแต่ชอบครับ
ผมใช้ทั้ง L33 และ B17 พร้อมๆกันอยู่ครับ ผมขับทางไกล 80-90% ให้เลือกคันเดียวผมเลือก L33 ครับ (ต่างจาก J32 แบบในโจทย์ครับ)
คิดหนักเหมือนกันคับ เพราะใช้งานทั้งสองแบบ คือ วันธรรมดาก็วิ่งในเมืองนอกเมืองบ้าง ส่วนวันหยุดก็จะมีออกนอกต่างจังหวัดบ้างคับ
แล้วถ้าเทียบ L33 กับ ซิลฟี่ ขนาดตัวเครื่องเดียวกัน กินน้ำมันแตกต่างกันมากไหมคับ
ผมใช้ L33-2.5 กับ Sylphy DIG ซึ่ง DIG กินกว่าครับ
เรื่องกินน้ำมัน บอกยากจริงๆครับ ขึ้นกับวิธีขับขี่ของคนขับซึ่งเป็นปัจจัยหลักครับ
ผมขับ ตจว.รักษาความเร็วคงที่ 90-100 กม/ชม ช่วงเข้า กทม. อยู่ย่าน เพชรุบรี อโศก ยมราช ตลิ่งชัน
- L33-2.5 วิ่งไป 86,000 กม. เติม E20 จดเฉลี่ยตั้งแต่ป้ายแดง ทุกถัง ได้ 15.25 กม-ลิตร
- Sylphy DIG วิ่งไป 81,000 กม. เติม E10 จดเหมือนกัน ได้ 14.5 กม-ลิตร
คนขับคนเดียวก้น วิ่งท้บเส้นทางเดิมๆเหมือนก้น แต่ DIG อาจมีอัดๆเอาสนุกบ่อยกว่าครับ
ในเมือง L33-2.5 ได้ 7-9 กม/ลิตร DIG น่าจะได้เท่าๆกันครับ
ขับดีสนุกท้้งคู่ ถ้าต้องเลือกเพราะเหตุผลเรื่องความดีแบบครบเครื่อง เลือก L33-2.5 ครับ
แล้ว l32 กับ l33 ต่างกันเยอะไหมคับ
หรือเอาแค่ l32 ก็พอแล้ว เพราะมันเครื่องตัวเดียวกันใช่ไหม กรณีเครื่อง 2.0
เครื่อง MR20 เหมือนกัน ต่างกันที่เกียร์ครับ ทำให้ L33 ประหยัดกว่าครับ
Sylphy DIG นี่คือเทอโบใช่ป่ะ ถ้า Sylphy ธรรมดาจะประหยัดกว่านี้ใช่ไหมคับ
ใช่ ครับ
แต่ในใจผมเชียร์ L33-2.0 ซึ่งจะดีกว่าในด้านวิศวกรรมของตัวรถ ไม่นับ ความชอบตกแต่งภายใน หรือ ชอบในตัวรถครับ
L33 ราคาลงมาพอควร และ อะไหล่ราคารวมๆ เหมือนจะถูกกว่า J32 ด้วยครับ
-
ถามช่วงล่าง L33 เมื่อเทียบกับ Accord G10 กับ Camry TNGA
โดยรวมๆคันไหนน่าจะขับดีสุดครับ
-
ผมขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยครับ เทียน่าแม้จะนั่งสบายขับทางไกลเอาอยู่ คุมง่าย แต่ค่าอะไหล่แพงมากครับ แอร์กับวิทยุที่เป็นจอพังง่าย บูชปีกนกออกแบบแนวเดียวกับมาร์ชคือเป็นลักษณะแนวนอนขนานกับปีกนกแต่ไม่มีจุดให้หมุน ทำให้มันขาดง่าย และราคาต่อคู่แพงเปลี่ยนทีเปลี่ยนทั้งปีกนกก็หลักหมื่นครับ และเป็นรถที่อายุเยอะแล้วชิ้นส่วนหลายอย่างย่อมพังตามกาลเวลาซึ่งต้องใช้งบเปลี่ยนหลายอย่างน่าดูครับ ส่วนซิลฟี่จะออกแนวนุ่มย้วยไม่ค่อยจุกจิก แต่น้ำมันเกียร์ CVT ก็แพงเช่นเดียวกันกับเทียน่า และรุ่น1.6-1.8 ซึ่งไม่ใช่ตัวเทอร์โบ ใช้เกียร์ลูกเดียวกับมาร์ชมิราจ จึงออาจจะทำให้เกียร์พังเร็วกว่าที่อยู่ในรถเล็กเพราะรับภาระจากกำลังเครื่อง แรงม้า แรงบิดทั้งหลายที่มากกว่า แถมสองรุ่นนี้บูชคันเกียร์ขาดดง่ายมากครับ เป็นอาการประจำตัวนิสสันเลย ทางแก้แบบแก้ขัดไปก่อนคือใช้เคเบิ้ลไทด์ รัดไว้ก่อน เป็นผมขอเสนอตัวเลือกข้ามค่ายไปเลยในระดับราคาเดียวกันมือสองคือ มาสด้า 3 สกายแอคทีฟ ปี 2018-2019 ที่ขับสนุก ขับทางไกลสบาย พวงมาลัยคมกว่า ค่าอะไหล่ต่างเมื่อเทียบดูไม่แพงเท่าเทียน่าแน่นอน ส่วนราคาน้ำมันเกียร์ก็ถูกกว่ากันครึ่งนึง แถมยังจุกจิกน้อยกว่าค่ายนิสสันเยอะครับ
-
ผมขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยครับ เทียน่าแม้จะนั่งสบายขับทางไกลเอาอยู่ คุมง่าย แต่ค่าอะไหล่แพงมากครับ แอร์กับวิทยุที่เป็นจอพังง่าย บูชปีกนกออกแบบแนวเดียวกับมาร์ชคือเป็นลักษณะแนวนอนขนานกับปีกนกแต่ไม่มีจุดให้หมุน ทำให้มันขาดง่าย และราคาต่อคู่แพงเปลี่ยนทีเปลี่ยนทั้งปีกนกก็หลักหมื่นครับ และเป็นรถที่อายุเยอะแล้วชิ้นส่วนหลายอย่างย่อมพังตามกาลเวลาซึ่งต้องใช้งบเปลี่ยนหลายอย่างน่าดูครับ ส่วนซิลฟี่จะออกแนวนุ่มย้วยไม่ค่อยจุกจิก แต่น้ำมันเกียร์ CVT ก็แพงเช่นเดียวกันกับเทียน่า และรุ่น1.6-1.8 ซึ่งไม่ใช่ตัวเทอร์โบ ใช้เกียร์ลูกเดียวกับมาร์ชมิราจ จึงออาจจะทำให้เกียร์พังเร็วกว่าที่อยู่ในรถเล็กเพราะรับภาระจากกำลังเครื่อง แรงม้า แรงบิดทั้งหลายที่มากกว่า แถมสองรุ่นนี้บูชคันเกียร์ขาดดง่ายมากครับ เป็นอาการประจำตัวนิสสันเลย ทางแก้แบบแก้ขัดไปก่อนคือใช้เคเบิ้ลไทด์ รัดไว้ก่อน เป็นผมขอเสนอตัวเลือกข้ามค่ายไปเลยในระดับราคาเดียวกันมือสองคือ มาสด้า 3 สกายแอคทีฟ ปี 2018-2019 ที่ขับสนุก ขับทางไกลสบาย พวงมาลัยคมกว่า ค่าอะไหล่ต่างเมื่อเทียบดูไม่แพงเท่าเทียน่าแน่นอน ส่วนราคาน้ำมันเกียร์ก็ถูกกว่ากันครึ่งนึง แถมยังจุกจิกน้อยกว่าค่ายนิสสันเยอะครับ
ขอตอบในฐานะผู้ใช้นะครับ
1.ปีกนกถ้าเปลี่ยนคู่ราคาประมาณ 12,000 บาท ครับ อายุประมาณ 100,000 km
ส่วนอยากประหยัดมีทางเลือกประมาณนี้ครับ
1.1เปลี่ยนยี่ห้อเทียบ EEP ราคาคู่ละ 4,000 บาท ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ
1.2อัดบูชราคาคู่ละ 2,000-2,500 บาท จะไม่ทนไม่นุ่มเหมือนแท้นะครับ แต่ถือว่ารับได้ครับ
2.น้ำมันเกียร์ CVT
ถ้าของศูนย์ราคาประมาณ 1,500 บาท ทั้ง NS-2,NS-3 ส่วนยี่ห้ออื่นๆก็มีให้เลือกเหมือนกันขอให้เป็นสังเคราะห์แท้ครับ ราคาตั้งแต่ 800-1500 บาท
กรองเกียร์นอก+โอริง ประมาณ 300 บาท
แนะนำเปลี่ยนแบบเปิดอ่างล้างกรองหยาบและเปลี่ยนกรองเกียร์นอกไปเลยครับ ราคาประมาณ 2,500 บาท
3.บูชคันเกียร์
เจอเยอะเหมือนกัน สมาชิกบางท่านไม่รู้เรียกรถยก เสียหลักพันกันเลยทีเดียว ค่าของประมาณ 30 บาทได้ครับ พกติดรถไว้เลย หรือเคเบิ้ลไทร์ เปลี่ยนเองไม่ยากครับ มีใน Youtube ครับ
สรุปเป็นรถที่ต้องการคนที่เข้าใจและดูแลอยู่เสมอครับ ตัวรถไม่จุกจิกครับ ขับดี นุ่ม ย้วยหน่อยเวลาเข้าโค้ง ดูแลเกียร์ดีๆถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 Km ครับ มีปัญหาอะไรปรึกษาในกลุ่มได้เลยครับ
-
ซื้อรถมือ 2 D segment ให้ซื้อรุ่น Top ครับ
ถ้าจะซื้อ J32 ให้ซื้อรุ่น 250 XV-V6 เท่านั้นครับ ไม่งั้นก็เลือก Sylphy ไปเลย
ผมใช้ J32 250XV ตัวก่อน mc ปี 2009 อยู่ครับ ไมล์ 26x,xxx แล้ว ซ่อมตามวาระไปจนนิ่งแล้วคงใช้ต่อยาวๆ เพราะยังหารถญี่ปุ่น Genใกล้ๆกันที่ขับดีกว่ามันไม่เจอ (อีก 2 คันผมใช้ ACV 50 2.0G ปี 2012 & FTN 2.4V ปี 2017 )
-
" ... ปีเดียวกันตอนนี้ราคาพอๆกัน ... " >> ประโยคนี้นี่ จริงเหรอครับ ??
ถ้าจริง ผมเลือก Teana แบบไม่ต้องคิดนานเลยครับ
รถ D Segment ถึงมันจะเป็นรุ่นต่ำสุด ถูกสุด แต่ถ้ายังเกียร์ออโต้ มันก็ยังผลิตมาให้ระดับผู้ใหญ่ใช้งานล่ะครับ
Option อาจจะไม่ได้เว่อร์วังอลังการมากมายอะไร แต่ถ้าเทียบกับ Camry , Teana ตัวถังก่อนๆ ก็คงพอๆ กัน
เห็นภาพมั้ยครับ
แต่เรื่องอะไหล่ ยอมรับว่า รถ D Segment เวลาเปลี่ยน - ซ่อม แพงกว่า C Segment แน่นอน
เพียงแต่เราก็ต้องรู้จุดอ่อนของแต่ละรุ่นว่า มันอยู่ตรงไหน แล้วเวลาจะซื้อมือสอง คันไหน
ก็ตรวจสอบให้ดีก่อนว่า คันนั้น จุดอ่อนพวกนั้น มันแก้ไขไปแล้ว หรือมันยังไม่ได้แก้ ... แค่นั้นแหละ
-
ผมขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยครับ เทียน่าแม้จะนั่งสบายขับทางไกลเอาอยู่ คุมง่าย แต่ค่าอะไหล่แพงมากครับ แอร์กับวิทยุที่เป็นจอพังง่าย บูชปีกนกออกแบบแนวเดียวกับมาร์ชคือเป็นลักษณะแนวนอนขนานกับปีกนกแต่ไม่มีจุดให้หมุน ทำให้มันขาดง่าย และราคาต่อคู่แพงเปลี่ยนทีเปลี่ยนทั้งปีกนกก็หลักหมื่นครับ และเป็นรถที่อายุเยอะแล้วชิ้นส่วนหลายอย่างย่อมพังตามกาลเวลาซึ่งต้องใช้งบเปลี่ยนหลายอย่างน่าดูครับ ส่วนซิลฟี่จะออกแนวนุ่มย้วยไม่ค่อยจุกจิก แต่น้ำมันเกียร์ CVT ก็แพงเช่นเดียวกันกับเทียน่า และรุ่น1.6-1.8 ซึ่งไม่ใช่ตัวเทอร์โบ ใช้เกียร์ลูกเดียวกับมาร์ชมิราจ จึงออาจจะทำให้เกียร์พังเร็วกว่าที่อยู่ในรถเล็กเพราะรับภาระจากกำลังเครื่อง แรงม้า แรงบิดทั้งหลายที่มากกว่า แถมสองรุ่นนี้บูชคันเกียร์ขาดดง่ายมากครับ เป็นอาการประจำตัวนิสสันเลย ทางแก้แบบแก้ขัดไปก่อนคือใช้เคเบิ้ลไทด์ รัดไว้ก่อน เป็นผมขอเสนอตัวเลือกข้ามค่ายไปเลยในระดับราคาเดียวกันมือสองคือ มาสด้า 3 สกายแอคทีฟ ปี 2018-2019 ที่ขับสนุก ขับทางไกลสบาย พวงมาลัยคมกว่า ค่าอะไหล่ต่างเมื่อเทียบดูไม่แพงเท่าเทียน่าแน่นอน ส่วนราคาน้ำมันเกียร์ก็ถูกกว่ากันครึ่งนึง แถมยังจุกจิกน้อยกว่าค่ายนิสสันเยอะครับ
ขอตอบในฐานะผู้ใช้นะครับ
1.ปีกนกถ้าเปลี่ยนคู่ราคาประมาณ 12,000 บาท ครับ อายุประมาณ 100,000 km
ส่วนอยากประหยัดมีทางเลือกประมาณนี้ครับ
1.1เปลี่ยนยี่ห้อเทียบ EEP ราคาคู่ละ 4,000 บาท ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ
1.2อัดบูชราคาคู่ละ 2,000-2,500 บาท จะไม่ทนไม่นุ่มเหมือนแท้นะครับ แต่ถือว่ารับได้ครับ
2.น้ำมันเกียร์ CVT
ถ้าของศูนย์ราคาประมาณ 1,500 บาท ทั้ง NS-2,NS-3 ส่วนยี่ห้ออื่นๆก็มีให้เลือกเหมือนกันขอให้เป็นสังเคราะห์แท้ครับ ราคาตั้งแต่ 800-1500 บาท
กรองเกียร์นอก+โอริง ประมาณ 300 บาท
แนะนำเปลี่ยนแบบเปิดอ่างล้างกรองหยาบและเปลี่ยนกรองเกียร์นอกไปเลยครับ ราคาประมาณ 2,500 บาท
3.บูชคันเกียร์
เจอเยอะเหมือนกัน สมาชิกบางท่านไม่รู้เรียกรถยก เสียหลักพันกันเลยทีเดียว ค่าของประมาณ 30 บาทได้ครับ พกติดรถไว้เลย หรือเคเบิ้ลไทร์ เปลี่ยนเองไม่ยากครับ มีใน Youtube ครับ
สรุปเป็นรถที่ต้องการคนที่เข้าใจและดูแลอยู่เสมอครับ ตัวรถไม่จุกจิกครับ ขับดี นุ่ม ย้วยหน่อยเวลาเข้าโค้ง ดูแลเกียร์ดีๆถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 Km ครับ มีปัญหาอะไรปรึกษาในกลุ่มได้เลยครับ
ซ่อมที่ว่ามานี่ teana หรอคับ
-
ถ้าซื้อ Sylphy ซื้อตัว 1.8 V ดีกว่าครับ ได้กล้องมองหลัง มีปุ่มรับโทรศัพท์ เครื่อง MRA8DE ก็เป็นเครื่องที่ดีและทนทานมากรุ่นนึง ลูกสูบ แหวน ตัวยกวาล์วเคลือบ Diamond-like Carbon Coating พละกำลังก็ใกล้ๆ MR20DE ใน Teana J32, L33 2.0
ส่วน Teana J32 2.0 เล่นได้ครับ รถไม่ได้มีปัญหาอะไร ปัญหาประจำรุ่นมีแค่คลัชคอมแอร์ใหม้เท่านั้น อย่างอื่นถือว่าทนมาก เปลี่ยนคลัทช์คอมแอร์ก็ 2000-3000 บาท ราคาหน้าคลัทช์ฯจริงๆแค่พันเดียว อะไหล่อื่นๆก็ถูกมาก เพราะนิสสันขายดีในจีน อะไหล่ราคาถูกมีให้เลือกมากมาย
ข้อดีของเครื่อง MR20DE คือใช้ร่วมกันทั้ง J32 และ L33 ทำให้รถรุ่น 2.0 ใช้อะไหล่หลายๆรายการร่วมกันได้ อนาคตก็สามารถหาอะไหล่ได้ง่ายกว่า VQ25DE เช่น เครื่องยนต์ ฝาสูบ คอยล์จุดระเบิด หัวเทียน และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ เช่น กรองอากาศ หม้อน้ำ อะไรพวกนี้เป็นต้น และเครื่องยนต์ตัวนี้ก็รัปประกันการใช้งานไม่ต่ำกว่า 300,000 กิโลเมตร
เครื่องตัวนี้ถ้าไม่ดีจริงนิสันคงไม่พัฒนาต่อใส่อยู่ใน Nissan Sentra B18 MR20DD 151PS จากเวอร์ชั่น MR20DE 136 PS ทั้งนี้ควรดูที่สภาพรถเป็นหลัก อย่าเอาราคามาเป็นปัจจัยตัดสินเลือกเพียงอย่างเดียว สภาพรถจะเป็นตัวบอกราคารถครับ
-
ถ้าซื้อ Sylphy ซื้อตัว 1.8 V ดีกว่าครับ ได้กล้องมองหลัง มีปุ่มรับโทรศัพท์ เครื่อง MRA8DE ก็เป็นเครื่องที่ดีและทนทานมากรุ่นนึง ลูกสูบ แหวน ตัวยกวาล์วเคลือบ Diamond-like Carbon Coating พละกำลังก็ใกล้ๆ MR20DE ใน Teana J32, L33 2.0
ส่วน Teana J32 2.0 เล่นได้ครับ รถไม่ได้มีปัญหาอะไร ปัญหาประจำรุ่นมีแค่คลัชคอมแอร์ใหม้เท่านั้น อย่างอื่นถือว่าทนมาก เปลี่ยนคลัทช์คอมแอร์ก็ 2000-3000 บาท ราคาหน้าคลัทช์ฯจริงๆแค่พันเดียว อะไหล่อื่นๆก็ถูกมาก เพราะนิสสันขายดีในจีน อะไหล่ราคาถูกมีให้เลือกมากมาย
ข้อดีของเครื่อง MR20DE คือใช้ร่วมกันทั้ง J32 และ L33 ทำให้รถรุ่น 2.0 ใช้อะไหล่หลายๆรายการร่วมกันได้ อนาคตก็สามารถหาอะไหล่ได้ง่ายกว่า VQ25DE เช่น เครื่องยนต์ ฝาสูบ คอยล์จุดระเบิด หัวเทียน และอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ เช่น กรองอากาศ หม้อน้ำ อะไรพวกนี้เป็นต้น และเครื่องยนต์ตัวนี้ก็รัปประกันการใช้งานไม่ต่ำกว่า 300,000 กิโลเมตร
เครื่องตัวนี้ถ้าไม่ดีจริงนิสันคงไม่พัฒนาต่อเป็นเวอร์ชั่นที่ 2 ใส่อยู่ใน Nissan Sentra B18 MR20DE 149 HP จากเวอร์ชั่นแรก MR20DE 136 PS ทั้งนี้ควรดูที่สภาพรถเป็นหลัก อย่าเอาราคามาเป็นปัจจัยตัดสินเลือกเพียงอย่างเดียว สภาพรถจะเป็นตัวบอกราคารถครับ
Sylphy 1.6 V เป็นเครื่อง MRA8DE ไหมคับ
-
;D
Sylphy 1.6 V เป็นเครื่อง MRA8DE ไหมคับ
Sylphy 1.6 เป็น HR16DE = 1600 cc. ครับ MRA8 = MR18DE = 1800 cc.
-
;D
Sylphy 1.6 V เป็นเครื่อง MRA8DE ไหมคับ
Sylphy 1.6 เป็น HR16DE = 1600 cc. ครับ MRA8 = MR18DE = 1800 cc.
ขอบคุณคับ แล้ว 1.8 กินน้ำมันกว่า 1.6 เยอะไหม
-
ผมขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยครับ เทียน่าแม้จะนั่งสบายขับทางไกลเอาอยู่ คุมง่าย แต่ค่าอะไหล่แพงมากครับ แอร์กับวิทยุที่เป็นจอพังง่าย บูชปีกนกออกแบบแนวเดียวกับมาร์ชคือเป็นลักษณะแนวนอนขนานกับปีกนกแต่ไม่มีจุดให้หมุน ทำให้มันขาดง่าย และราคาต่อคู่แพงเปลี่ยนทีเปลี่ยนทั้งปีกนกก็หลักหมื่นครับ และเป็นรถที่อายุเยอะแล้วชิ้นส่วนหลายอย่างย่อมพังตามกาลเวลาซึ่งต้องใช้งบเปลี่ยนหลายอย่างน่าดูครับ ส่วนซิลฟี่จะออกแนวนุ่มย้วยไม่ค่อยจุกจิก แต่น้ำมันเกียร์ CVT ก็แพงเช่นเดียวกันกับเทียน่า และรุ่น1.6-1.8 ซึ่งไม่ใช่ตัวเทอร์โบ ใช้เกียร์ลูกเดียวกับมาร์ชมิราจ จึงออาจจะทำให้เกียร์พังเร็วกว่าที่อยู่ในรถเล็กเพราะรับภาระจากกำลังเครื่อง แรงม้า แรงบิดทั้งหลายที่มากกว่า แถมสองรุ่นนี้บูชคันเกียร์ขาดดง่ายมากครับ เป็นอาการประจำตัวนิสสันเลย ทางแก้แบบแก้ขัดไปก่อนคือใช้เคเบิ้ลไทด์ รัดไว้ก่อน เป็นผมขอเสนอตัวเลือกข้ามค่ายไปเลยในระดับราคาเดียวกันมือสองคือ มาสด้า 3 สกายแอคทีฟ ปี 2018-2019 ที่ขับสนุก ขับทางไกลสบาย พวงมาลัยคมกว่า ค่าอะไหล่ต่างเมื่อเทียบดูไม่แพงเท่าเทียน่าแน่นอน ส่วนราคาน้ำมันเกียร์ก็ถูกกว่ากันครึ่งนึง แถมยังจุกจิกน้อยกว่าค่ายนิสสันเยอะครับ
ขอตอบในฐานะผู้ใช้นะครับ
1.ปีกนกถ้าเปลี่ยนคู่ราคาประมาณ 12,000 บาท ครับ อายุประมาณ 100,000 km
ส่วนอยากประหยัดมีทางเลือกประมาณนี้ครับ
1.1เปลี่ยนยี่ห้อเทียบ EEP ราคาคู่ละ 4,000 บาท ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ
1.2อัดบูชราคาคู่ละ 2,000-2,500 บาท จะไม่ทนไม่นุ่มเหมือนแท้นะครับ แต่ถือว่ารับได้ครับ
2.น้ำมันเกียร์ CVT
ถ้าของศูนย์ราคาประมาณ 1,500 บาท ทั้ง NS-2,NS-3 ส่วนยี่ห้ออื่นๆก็มีให้เลือกเหมือนกันขอให้เป็นสังเคราะห์แท้ครับ ราคาตั้งแต่ 800-1500 บาท
กรองเกียร์นอก+โอริง ประมาณ 300 บาท
แนะนำเปลี่ยนแบบเปิดอ่างล้างกรองหยาบและเปลี่ยนกรองเกียร์นอกไปเลยครับ ราคาประมาณ 2,500 บาท
3.บูชคันเกียร์
เจอเยอะเหมือนกัน สมาชิกบางท่านไม่รู้เรียกรถยก เสียหลักพันกันเลยทีเดียว ค่าของประมาณ 30 บาทได้ครับ พกติดรถไว้เลย หรือเคเบิ้ลไทร์ เปลี่ยนเองไม่ยากครับ มีใน Youtube ครับ
สรุปเป็นรถที่ต้องการคนที่เข้าใจและดูแลอยู่เสมอครับ ตัวรถไม่จุกจิกครับ ขับดี นุ่ม ย้วยหน่อยเวลาเข้าโค้ง ดูแลเกียร์ดีๆถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 Km ครับ มีปัญหาอะไรปรึกษาในกลุ่มได้เลยครับ
ซ่อมที่ว่ามานี่ teana หรอคับ
เทียน่าปีเก่าแล้วครับ ในคลับจุกจิกอะไหลแพงพอตัว ไปมาสด้า3 2018-2019 ที่เป็นปีใหม่ ราคาเท่ากันดีกว่าครับ จุกจิกน้อยกว่า ขับสนุกกว่า อีกอย่างเทียน่าไม่มีเกียร์ L หรือแพดเดิ้ลชิพให้ใช้งาน เวลาลงเขาไม่มีเอนจิ้นเบรกครับ อันรายมากๆ
-
;D
Sylphy 1.6 V เป็นเครื่อง MRA8DE ไหมคับ
Sylphy 1.6 เป็น HR16DE = 1600 cc. ครับ MRA8 = MR18DE = 1800 cc.
ขอบคุณคับ แล้ว 1.8 กินน้ำมันกว่า 1.6 เยอะไหม
ไม่ต่างกันมากครับ แต่รถมีพละกำลังมากกว่า แบกน้ำหนักใกล้ๆกันก็จะใช้คันเร่งน้อยกว่า ซิลฟี่แบกน้ำหนักน้อยกว่าเทียน่า 200-300 กิโลกรัมโดยประมาณ ฉะนั่นการขยับตัวตอนเริ่มต้นก็จะคล่องแคล่วกว่า และยิ่งได้น้ำมันเกียร์ที่เหมาะสม รถก็จะยิ่งวิ่งดีขึ้นไปอีก แนะนำของปตท.ดีที่สุดครับ แต่ถ้าเจอ 1.6 V สวยๆเล่นได้นะครับ
ส่วนเทียน่าต้องเจอคันที่สมบูรณ์จริงๆ เลขไมล์น้อยๆ ประมาณแสนกว่าถึงแสนห้าก็น่าเล่นครับ ยังไงเทียน่าก็ดีกว่า เงียบ นุ่ม ช่วงล่างดี โครงสร้างตัวถังแข็งแรงกว่า
-
ผมขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยครับ เทียน่าแม้จะนั่งสบายขับทางไกลเอาอยู่ คุมง่าย แต่ค่าอะไหล่แพงมากครับ แอร์กับวิทยุที่เป็นจอพังง่าย บูชปีกนกออกแบบแนวเดียวกับมาร์ชคือเป็นลักษณะแนวนอนขนานกับปีกนกแต่ไม่มีจุดให้หมุน ทำให้มันขาดง่าย และราคาต่อคู่แพงเปลี่ยนทีเปลี่ยนทั้งปีกนกก็หลักหมื่นครับ และเป็นรถที่อายุเยอะแล้วชิ้นส่วนหลายอย่างย่อมพังตามกาลเวลาซึ่งต้องใช้งบเปลี่ยนหลายอย่างน่าดูครับ ส่วนซิลฟี่จะออกแนวนุ่มย้วยไม่ค่อยจุกจิก แต่น้ำมันเกียร์ CVT ก็แพงเช่นเดียวกันกับเทียน่า และรุ่น1.6-1.8 ซึ่งไม่ใช่ตัวเทอร์โบ ใช้เกียร์ลูกเดียวกับมาร์ชมิราจ จึงออาจจะทำให้เกียร์พังเร็วกว่าที่อยู่ในรถเล็กเพราะรับภาระจากกำลังเครื่อง แรงม้า แรงบิดทั้งหลายที่มากกว่า แถมสองรุ่นนี้บูชคันเกียร์ขาดดง่ายมากครับ เป็นอาการประจำตัวนิสสันเลย ทางแก้แบบแก้ขัดไปก่อนคือใช้เคเบิ้ลไทด์ รัดไว้ก่อน เป็นผมขอเสนอตัวเลือกข้ามค่ายไปเลยในระดับราคาเดียวกันมือสองคือ มาสด้า 3 สกายแอคทีฟ ปี 2018-2019 ที่ขับสนุก ขับทางไกลสบาย พวงมาลัยคมกว่า ค่าอะไหล่ต่างเมื่อเทียบดูไม่แพงเท่าเทียน่าแน่นอน ส่วนราคาน้ำมันเกียร์ก็ถูกกว่ากันครึ่งนึง แถมยังจุกจิกน้อยกว่าค่ายนิสสันเยอะครับ
ขอตอบในฐานะผู้ใช้นะครับ
1.ปีกนกถ้าเปลี่ยนคู่ราคาประมาณ 12,000 บาท ครับ อายุประมาณ 100,000 km
ส่วนอยากประหยัดมีทางเลือกประมาณนี้ครับ
1.1เปลี่ยนยี่ห้อเทียบ EEP ราคาคู่ละ 4,000 บาท ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ
1.2อัดบูชราคาคู่ละ 2,000-2,500 บาท จะไม่ทนไม่นุ่มเหมือนแท้นะครับ แต่ถือว่ารับได้ครับ
2.น้ำมันเกียร์ CVT
ถ้าของศูนย์ราคาประมาณ 1,500 บาท ทั้ง NS-2,NS-3 ส่วนยี่ห้ออื่นๆก็มีให้เลือกเหมือนกันขอให้เป็นสังเคราะห์แท้ครับ ราคาตั้งแต่ 800-1500 บาท
กรองเกียร์นอก+โอริง ประมาณ 300 บาท
แนะนำเปลี่ยนแบบเปิดอ่างล้างกรองหยาบและเปลี่ยนกรองเกียร์นอกไปเลยครับ ราคาประมาณ 2,500 บาท
3.บูชคันเกียร์
เจอเยอะเหมือนกัน สมาชิกบางท่านไม่รู้เรียกรถยก เสียหลักพันกันเลยทีเดียว ค่าของประมาณ 30 บาทได้ครับ พกติดรถไว้เลย หรือเคเบิ้ลไทร์ เปลี่ยนเองไม่ยากครับ มีใน Youtube ครับ
สรุปเป็นรถที่ต้องการคนที่เข้าใจและดูแลอยู่เสมอครับ ตัวรถไม่จุกจิกครับ ขับดี นุ่ม ย้วยหน่อยเวลาเข้าโค้ง ดูแลเกียร์ดีๆถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 Km ครับ มีปัญหาอะไรปรึกษาในกลุ่มได้เลยครับ
ซ่อมที่ว่ามานี่ teana หรอคับ
ใช่ครับ
-
ผมขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยครับ เทียน่าแม้จะนั่งสบายขับทางไกลเอาอยู่ คุมง่าย แต่ค่าอะไหล่แพงมากครับ แอร์กับวิทยุที่เป็นจอพังง่าย บูชปีกนกออกแบบแนวเดียวกับมาร์ชคือเป็นลักษณะแนวนอนขนานกับปีกนกแต่ไม่มีจุดให้หมุน ทำให้มันขาดง่าย และราคาต่อคู่แพงเปลี่ยนทีเปลี่ยนทั้งปีกนกก็หลักหมื่นครับ และเป็นรถที่อายุเยอะแล้วชิ้นส่วนหลายอย่างย่อมพังตามกาลเวลาซึ่งต้องใช้งบเปลี่ยนหลายอย่างน่าดูครับ ส่วนซิลฟี่จะออกแนวนุ่มย้วยไม่ค่อยจุกจิก แต่น้ำมันเกียร์ CVT ก็แพงเช่นเดียวกันกับเทียน่า และรุ่น1.6-1.8 ซึ่งไม่ใช่ตัวเทอร์โบ ใช้เกียร์ลูกเดียวกับมาร์ชมิราจ จึงออาจจะทำให้เกียร์พังเร็วกว่าที่อยู่ในรถเล็กเพราะรับภาระจากกำลังเครื่อง แรงม้า แรงบิดทั้งหลายที่มากกว่า แถมสองรุ่นนี้บูชคันเกียร์ขาดดง่ายมากครับ เป็นอาการประจำตัวนิสสันเลย ทางแก้แบบแก้ขัดไปก่อนคือใช้เคเบิ้ลไทด์ รัดไว้ก่อน เป็นผมขอเสนอตัวเลือกข้ามค่ายไปเลยในระดับราคาเดียวกันมือสองคือ มาสด้า 3 สกายแอคทีฟ ปี 2018-2019 ที่ขับสนุก ขับทางไกลสบาย พวงมาลัยคมกว่า ค่าอะไหล่ต่างเมื่อเทียบดูไม่แพงเท่าเทียน่าแน่นอน ส่วนราคาน้ำมันเกียร์ก็ถูกกว่ากันครึ่งนึง แถมยังจุกจิกน้อยกว่าค่ายนิสสันเยอะครับ
ขอตอบในฐานะผู้ใช้นะครับ
1.ปีกนกถ้าเปลี่ยนคู่ราคาประมาณ 12,000 บาท ครับ อายุประมาณ 100,000 km
ส่วนอยากประหยัดมีทางเลือกประมาณนี้ครับ
1.1เปลี่ยนยี่ห้อเทียบ EEP ราคาคู่ละ 4,000 บาท ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ
1.2อัดบูชราคาคู่ละ 2,000-2,500 บาท จะไม่ทนไม่นุ่มเหมือนแท้นะครับ แต่ถือว่ารับได้ครับ
2.น้ำมันเกียร์ CVT
ถ้าของศูนย์ราคาประมาณ 1,500 บาท ทั้ง NS-2,NS-3 ส่วนยี่ห้ออื่นๆก็มีให้เลือกเหมือนกันขอให้เป็นสังเคราะห์แท้ครับ ราคาตั้งแต่ 800-1500 บาท
กรองเกียร์นอก+โอริง ประมาณ 300 บาท
แนะนำเปลี่ยนแบบเปิดอ่างล้างกรองหยาบและเปลี่ยนกรองเกียร์นอกไปเลยครับ ราคาประมาณ 2,500 บาท
3.บูชคันเกียร์
เจอเยอะเหมือนกัน สมาชิกบางท่านไม่รู้เรียกรถยก เสียหลักพันกันเลยทีเดียว ค่าของประมาณ 30 บาทได้ครับ พกติดรถไว้เลย หรือเคเบิ้ลไทร์ เปลี่ยนเองไม่ยากครับ มีใน Youtube ครับ
สรุปเป็นรถที่ต้องการคนที่เข้าใจและดูแลอยู่เสมอครับ ตัวรถไม่จุกจิกครับ ขับดี นุ่ม ย้วยหน่อยเวลาเข้าโค้ง ดูแลเกียร์ดีๆถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 Km ครับ มีปัญหาอะไรปรึกษาในกลุ่มได้เลยครับ
ซ่อมที่ว่ามานี่ teana หรอคับ
เทียน่าปีเก่าแล้วครับ ในคลับจุกจิกอะไหลแพงพอตัว ไปมาสด้า3 2018-2019 ที่เป็นปีใหม่ ราคาเท่ากันดีกว่าครับ จุกจิกน้อยกว่า ขับสนุกกว่า อีกอย่างเทียน่าไม่มีเกียร์ L หรือแพดเดิ้ลชิพให้ใช้งาน เวลาลงเขาไม่มีเอนจิ้นเบรกครับ อันรายมากๆ
เกียร์ teana มี l นะครับ แล้วเวลาลงเขา มันมีตัวช่วยงงมากว่าไปเอามาจากไหนว่ามันไม่มี อีกอย่าง เค้าถามสองตัวนี้อันไหนเหมาะกะเค้ามากกว่า ผมว่าตอบให้ตรงคำถามดีกว่าครับ
แล้วเจ้าของรถเทียน่า เค้ามาตอบเองแล้วก็ควรจะดูเป็นความรู้ครับ เจ้าของกระทู้เค้าจะเลือกอะไรให้เค้าเลือกเองครับ แต่ถ้าเค้าเสนอว่า ลองคัดรุ่นอื่นมานอกเหนือก็ค่อยบอกเค้านะครับ