Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: pjs6306 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2021, 10:12:30
-
อยากรู้ว่าขับในชีวิตประจำวันแล้วเลือกไปโหมดน้ำมันหรือเปล่าหรือขับแต่โหมดไฟฟ้าที่ได้ระยะทางไม่ถึงร้อยโลครับ
-
แล้วจะขับแต่แถวบ้านหรือไง. ขับเหมือนรถปกติ
มีเวลาก็ชาชจ์ไฟ. ไม่มีเวลาหรือ สถานที่ไม่พร้อม ก็ให้เครื่องปั่นไฟ
-
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด มีแค่ของ Outlander อย่างเดียวหรือเปล่าครับที่ปั่นชาร์จไฟเองได้ ไม่ต้องเสียบชาร์จ
Benz Bmw คือปั่นไม่ได้เลย แล้วต้องเสียบชาร์จด้วยไม่งั้นพัง
แต่ของ MG HS กับ Volvo ไม่แน่ใจครับ
ตอบ จขกท ถ้าจะวิ่งไฟฟ้าล้วนๆ PHEV ไม่เหมาะครับ คือระยะทางสั้นมากๆ แล้วจะซื้อตอนนี้ส่วนตัวผมมองว่าไม่คุ้ม เพราะ ต้องบำรุงรักษาทั้งระบบไฟฟ้า ทั้งระบบเครื่องยนต์ แล้วอัตราการกินน้ำมันก็ไม่ได้ดีเท่าไฟฟ้าล้วน
รออีกนิดซื้อไฟฟ้าล้วนที่วิ่งได้ 600km+ ดีกว่าครับ อีกไม่น่าจะนานแล้วครับ
-
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด มีแค่ของ Outlander อย่างเดียวหรือเปล่าครับที่ปั่นชาร์จไฟเองได้ ไม่ต้องเสียบชาร์จ
Benz Bmw คือปั่นไม่ได้เลย แล้วต้องเสียบชาร์จด้วยไม่งั้นพัง
แต่ของ MG HS กับ Volvo ไม่แน่ใจครับ
ตอบ จขกท ถ้าจะวิ่งไฟฟ้าล้วนๆ PHEV ไม่เหมาะครับ คือระยะทางสั้นมากๆ แล้วจะซื้อตอนนี้ส่วนตัวผมมองว่าไม่คุ้ม เพราะ ต้องบำรุงรักษาทั้งระบบไฟฟ้า ทั้งระบบเครื่องยนต์ แล้วอัตราการกินน้ำมันก็ไม่ได้ดีเท่าไฟฟ้าล้วน
รออีกนิดซื้อไฟฟ้าล้วนที่วิ่งได้ 600km+ ดีกว่าครับ อีกไม่น่าจะนานแล้วครับ
PHEV ทุกจ้าวปั่นชาร์จจากเครื่องเข้าแบตไปใช้ปั่นมอเตอร์ได้หมดนะครับ หลักการของ Camry/Accord HV, Outlander PHEV หรือ BMW 30e/45e, Benz 300e,350e,500e คล้ายๆกันหมดครับ
-
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด มีแค่ของ Outlander อย่างเดียวหรือเปล่าครับที่ปั่นชาร์จไฟเองได้ ไม่ต้องเสียบชาร์จ
Benz Bmw คือปั่นไม่ได้เลย แล้วต้องเสียบชาร์จด้วยไม่งั้นพัง
แต่ของ MG HS กับ Volvo ไม่แน่ใจครับ
ตอบ จขกท ถ้าจะวิ่งไฟฟ้าล้วนๆ PHEV ไม่เหมาะครับ คือระยะทางสั้นมากๆ แล้วจะซื้อตอนนี้ส่วนตัวผมมองว่าไม่คุ้ม เพราะ ต้องบำรุงรักษาทั้งระบบไฟฟ้า ทั้งระบบเครื่องยนต์ แล้วอัตราการกินน้ำมันก็ไม่ได้ดีเท่าไฟฟ้าล้วน
รออีกนิดซื้อไฟฟ้าล้วนที่วิ่งได้ 600km+ ดีกว่าครับ อีกไม่น่าจะนานแล้วครับ
PHEV ทุกจ้าวปั่นชาร์จจากเครื่องเข้าแบตไปใช้ปั่นมอเตอร์ได้หมดนะครับ หลักการของ Camry/Accord HV, Outlander PHEV หรือ BMW 30e/45e, Benz 300e,350e,500e คล้ายๆกันหมดครับ
ผมว่าน่าจะหมายถึงปั่นชาร์จจนแบตเต็ม
-
รถดีเซลเหมาะกับการวิ่งทางไกล 80% ใช้ในเมือง 20% ฉันใด
รถ PHEV เหมาะกับการเดินทางในเมือง 80% และวิ่งทางไกล 20% ฉันนั้น
เบนซินไฮบริดเอง ก็วิ่งทางไกลได้ดีกว่า PHEV แต่ห่วยกว่าดีเซล
และเบนซินไฮบริด ก็วิ่งในเมืองได้ดีกว่าดีเซล แต่ห่วยกว่า PHEV
ไม่มีอะไรดีกว่าอะไร ขึ้นกับการใช้งานแต่ละคน ว่าใช้อย่างไรมากกว่าครับ
-
330e ผมใช้งานตามปกติเหมือนตอนขับรถน้ำมันเลยครับ ถ้าน้ำมันหมดก็เติม ไม่ได้คิดอะไรมาก ที่บ้านมี wall charge ถ้ากลับถึงบ้านก็เสียบ charge ทิ้งไว้เต็มมันก็ตัดเอง ออกไปไหน ถ้ามีไปตามห้างช่องจอด chargenow ว่างก็จอดเพราะ charge free
ขึ้นรถ start ถ้ามีแบตมีมันจะวิ่ง mode electric ไฟฟ้าล้วน แบตหมดก็ตัดเป็น hybrid , วันธรรมดาภรรยาใช้รับส่งลูก ไปกลับ 40km Electric ล้วนๆ วันละสองรอบเช้าเย็น เสาร์อาทิตย์ไปตจว ไม่มีที่ charge ก็วิ่ง hybrid ไป ใช้ชีวิตตามปกติครับ
-
330e F30 ผม 2-3 เดือนถึงเติมน้ำมันทีครับ
ช่วงโควิดนี่ลากไปถึง 4 เดือนถึงได้เติม
ปกติแฟนใช้ขับไปกลับที่ทำงานใกล้ๆ แทบไม่ได้ใช้น้ำมันเลย
กลับถึงบ้านก็เสียบปลั๊กชาร์จ ตอนเช้าค่อยดึงออก (ที่บ้านไม่ได้ติด wall box เสียบปลั๊กบ้านปกติ)
รถ 3 ปี ไมล์เพิ่งจะ 25,xxx แฮ่!!!
-
ช่วงโควิดแทบไม่ได้วิ่งทางไกลเลย วิ่งแต่ในเมือง แบตน้อยก็เสียบชาร์จตลอด 2-3 เดือนเติมน้ำมันทีละ 500 บาท กลัวน้ำมันบูด
-
เติมบ่อยไม่บ่อยขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ล้วนๆ ถ้าอยู่ในเส้นทางใน 1 วัน วิ่งไม่เกิน 30 - 40 กิโล แบบนี้น้ำมัน 1 ถังอยู่ได้เป็นเดือนๆ ถ้าวิ่งทางไกลตลอด อัตราเฉลี่ยจะประมาณ 13-18 km/l ก็นำตัวเลขอันนี้ไปคูณกับความจุถังน้ำมันของรุ่นที่เราสนใจ เราก็จะได้ระยะทางแล้วว่า 1 ถังวิ่งได้กี่กิโล ทีนี้ก็มำคิดกลับว่าวันนึงมช้รถกี่กิโล เราก็จะรู้แล้วว่าน้ำมัน 1 ถังอยู่ได้นานแค่ไหน
อย่างผมใช้ 330e วันทำงานวิ่งไปกลับไม่เกิน 30 กิโล น้ำมัน 1 ถังอยู่ได้มากกว่า 2 เดือนกับระยะทาง 1,000 กิโล+ ช่วงโควิด น้ำมัน 1 ถัง วิ่งไปเกือบ 1,700 กิโล ถ้าผมไม่วิ่งข้ามจังหวัด น้ำมัน 1 ถังผม เฉลี่ย จะอยู่ได้ 1-2 เดือน
-
อย่าลืมคิดค่าไฟด้วยครับ
-
outlander เจ้าเดียว ที่ชาจจนแบตเต็มได้ bmw benz ชาจจนแบตเต็มไม่ได้ ต้องเสียบ wall charge อย่างเดียว ถึงจะเต็ม
-
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด มีแค่ของ Outlander อย่างเดียวหรือเปล่าครับที่ปั่นชาร์จไฟเองได้ ไม่ต้องเสียบชาร์จ
Benz Bmw คือปั่นไม่ได้เลย แล้วต้องเสียบชาร์จด้วยไม่งั้นพัง
แต่ของ MG HS กับ Volvo ไม่แน่ใจครับ
ตอบ จขกท ถ้าจะวิ่งไฟฟ้าล้วนๆ PHEV ไม่เหมาะครับ คือระยะทางสั้นมากๆ แล้วจะซื้อตอนนี้ส่วนตัวผมมองว่าไม่คุ้ม เพราะ ต้องบำรุงรักษาทั้งระบบไฟฟ้า ทั้งระบบเครื่องยนต์ แล้วอัตราการกินน้ำมันก็ไม่ได้ดีเท่าไฟฟ้าล้วน
รออีกนิดซื้อไฟฟ้าล้วนที่วิ่งได้ 600km+ ดีกว่าครับ อีกไม่น่าจะนานแล้วครับ
Mitsubishi Outlander PHEV ที่สามารถ Regen กลับเข้าแบตได้ครับ
ใช้ Paddle Shift ปรับความหน่วงเพื่อให้ปั่นเข้ากระแสไฟได้ง่ายซึ่งปรับความหน่วงได้ถึง 4-5 ระดับ แม้ไม่มี Wall Charge ก็มีไฟวิ่งได้
https://youtu.be/z7TmZWdhZkw
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกนี่ อีกไม่นานก็มาไทยแล้วครับ ประมาณ 9 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าของ Great Wall จะส่งทั้ง ORA R1 R2 และ ES11 ราคาน่าจะอยู่ระหว่าง 5-9 แสนบาท
-
ผมสงสัยมากเลย ถ้าใช้ phev เป็น รถ BEV แบบไม่ได้ ติดเครื่องเลยมันจะพังหรือเปล่าว
อย่างบริษัทผม รถประจำตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง BM 330e
คนขับรถบอกไม่ได้ ติดเครื่องเลย เพราะบ้านหัวหน้าก็อยู่ใกล้บริษัท มาถึงบริษัทก็เสียบชาร์จ
ถ้าไปไหนไกลๆ เขาก็ใช้รถ alphard รถส่วนกลาง (เพราะไม่ต้องออกค่าน้ำมันเอง)
เดือนนึงก็ต้องหาคิวให้ขับไปไกลๆ เดียวเครื่องมันจะพัง
-
อ่านหัวกระทู้ และคำถามแล้ว คือ งงง มาก แต่ก็นับถือมีคนที่ตอบได้ตรงจุด
-
อัตราเร่ง Mitsu ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=_8zdrmILSlU (https://www.youtube.com/watch?v=_8zdrmILSlU)
น่าจะราวๆ รถ 200 แรงม้ามากกว่า 300 นะครับ
-
อ่านหัวกระทู้ และคำถามแล้ว คือ งงง มาก แต่ก็นับถือมีคนที่ตอบได้ตรงจุด
.. ครับได้ความรู้มากๆเลย