Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 05, 2021, 12:45:53

หัวข้อ: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 05, 2021, 12:45:53
คันแรก Subaru Legacy GT ปี 2013 (ซื้อรถค้างสต๊อกมา ตัวรถน่าจะมี 2011) ซ่อม Lockup ในเกียร์กับศูนย์ไป 6 หมื่นนิดๆ

ตอนนี้เหลือที่เสีย
1. ท่อไอเสียผุ ผมซื้อของแต่งมานานแล้ว แต่ยังไม่ว่างไปเปลี่ยน
2. โช็คหลังรั่ว กะว่าจะไปเบิก Tein หรือ Bilstein ยังไม่ว่างเช็คว่าเหมาะกับตัวไหน
3. ขอบยางประตู, หน้าต่างๆ มีปัญหา เบิกศูนย์แล้ว
4. วิทยุมีปัญหา (ช่อง CD มีเสียงดัง) ปล่อยไว้ก่อน

รถวิ่งไป 76,xxx กม.

อีกคัน Subaru Forester ปี 2016 ประกอบมาเลย์ คันนี้ถูกใจเรื่องช่วงล่างมาก แต่ตอนนี้รถมีเสียงดังก๊อกแก๊กทั้งคัน ตู้แอร์รั่ว เปลี่ยนใหม่กับศูนย์ไปแล้วเกือบ 3 หมื่น

ตอนนี้ที่มีเสียแต่ยังไม่ได้ซ่อม
1. อาการเกียร์ CVT มีปัญหา ขึ้น AT Oil Temp ตอนขับทางไกล ตอนนี้ยังไม่รู้อะไรจะพัง ถ้าซ่อมศูนย์น่าจะประมาณ 4-6 หมื่นบาท

รถวิ่งไป 74,xxx กม.

พอมานับรวมอาการที่ต้องซ่อม และรถยังไม่สมบูรณ์ทั้ง 2 คัน ก็ไม่สะดวกเอารถไปไหนไกลๆ ถ้ารถผมซ่อมอาการที่มีปัญหาทั้งหมด อย่างเกียร์ก็ซ่อม แอร์ก็ซ่อมแล้ว อนาคตคิดว่าอะไรจะตามมาอีกไหมครับ ควรปล่อยขายหรือเก็บไว้ดีครับ ภาระค่าประกันทั้ง 2 คันปีละ 6 หมื่นกว่าบาทครับ ถ้าเก็บไว้ใช้เป็นรถสำรองนานๆ จะเอามาใช้ที อาจจะทำเป็นประกัน 3+ แล้วซื้อหน้าตัด, ท้ายตัดทั้งคันมาเก็บไว้ที่โกดังครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 05, 2021, 12:48:39
ถ้าซื้อรถใหม่ก็ลังไว้ อาจจะเป็น 520d + 320d ครับ

หรือไม่ก็ X7 หรือ 730ld คันเดียวเอาไว้วิ่งทางไกล อีกคันอาจจะซื้อรถญี่ปุ่นจาก Grey เอาไว้ใช้ในเมืองครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ มีนาคม 05, 2021, 12:52:39
แค่จะบอกว่า .... คันปากอยากจีบคัน Legacy GT จังครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 05, 2021, 12:59:48
แค่จะบอกว่า .... คันปากอยากจีบคัน Legacy GT จังครับ
รถขึ้นฟุตบาทมาเมื่อ 2 ปีก่อนครับ คือ ไปซิ่งในซอยแล้วหลุดโค้ง ดีที่ขับไม่เร็วครับ จอดรออะไหล่ปีนึง เปลี่ยนช่วงล่างหน้าเกลี้ยงเลยครับ  :'(

อันนี้ก็อีกเหตุผลนึงที่คิดว่าจะเก็บไว้ เพราะถ้าประกาศขาย คนมาดูเค้าก็กลัว ไม่เอากันอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ มีนาคม 05, 2021, 13:32:43
ถ้าซ่อมแล้วใช้ได้อีกนาน ก็น่าเก็บนะครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: HLRx ที่ มีนาคม 05, 2021, 14:23:31
ปกติ รถญี่ปุ่น มันควรทนกว่านี้นะ
เพราะรถ ปี 13 รุ่นเดียวกับ ลูกครึ่ง สวีเดน-ไชนีส คันของผมเลย แต่ไมล์ผมไป 2.4 แสน แล้ว เปลี่ยนแค่อะไหล่สิ้นเปลืองทั่วไป ยังไม่มีชิ้นหนักๆ  อยากไป G30 ก็ยังติดใจคันเดิมที่ไม่งอแง
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ มีนาคม 05, 2021, 14:39:50
ผมมองว่า จขกท. ใจไปกับ BM แล้วครับ
อีกอย่างก็ไม่มีเวลาจะมาเก็บงานซ่อมด้วย
ถ้าเป็นผม ผมปล่อยหมดครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ มีนาคม 05, 2021, 14:40:43
ผมมีทั้ง XV ตัวแรก Forester SJ และล่าสุด Forester SK

ยอมรับเลยครับ พอถึงระยะซ่อมแล้วซูบารุซ่อมแพงกว่าญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นพอสมควรเลย แต่ซ่อมแล้วจบ แบบจบไปเลยครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมใช้ E60 กับ E90 มา พอเลย 5 ปีแล้ว บอกเลยครับค่าซ่อมพร้อมถ่ายของเหลวตามระยะอู่นอกนี่ ปีล่ะ 100,000 ต่อคัน คิดว่าซูบารุยังไงก็ถูกกว่า

ดูจากรายการรถ จขกท แล้ว Legacy ผมซ่อมต่อนะ ยังไงๆไม่ได้จุกจิกเท่ายุโรปแน่ๆ และสมรรถนะโดยรวมไม่แพ้ยุโรปเลยครับ

แต่เจ้า SJ ผมเจอปัญหาเดียวกันคือผ่านมา 5 ปี ภายและยางขอบประตูมันหลวมไปหมด เหมือนวัสดุมันหลวมไปหมด ถ้า จขกท ชอบช่วงล่าง SJ แล้ว ผมแนะนำขาย SJ แล้วซื้อ Sk ครับ ผมใช้มา 2 หมื่นกว่าโล ดีกว่า SJ ทุกอย่างครับ ช่วงล่างดีขึ้นนุ่มแน่น พวงมาลัยคม และการประกอบแต่ล่ะจุดดีกว่าชัดเจนครับ

จขกท เท้าหนักหรือเปล่า อาการซ่อมเหมือน XV ผมที่กระทืบอย่างเดียวบ่อยๆเลยครับ เกียร์นี่อาการเดียวกับผมเลย แต่ SJ ผมขับเรื่อยๆ ไม่มีอะไรจุกจิกให้ซ่อมเลยครับ มีแต่เสียงภายในนี่แหละครับที่น่ารำคาน
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: basterias ที่ มีนาคม 05, 2021, 14:49:46
ไม่มีเวลาซ่อม

ปล่อยไปแล้วไปซื้อคันใหม่ดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Equcha ที่ มีนาคม 05, 2021, 14:52:34
ไปอู่จบกว่าถูกกว่าครับพี่ ไม่มีเวลาให้รถสไลด์มารับ จบครับ
เกียร์เอย แอร์เอย ช่วงล่างเอง ที่เดียวจบ

แต่ถ้าขี้เกียจซ่อมปล่อย ซื้อรถใหม่ก็สบายใจดีครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ มีนาคม 05, 2021, 14:58:40
ทั้งสองคันถ้ายังมีความสุขที่ได้ขับอยู่ เป็นผมไม่ขายครับ
แต่ถ้าขับไประแวงไป ไม่มีเวลาเอารถไปซ่อม ก็จัดคันใหม่ไปให้หายคันครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: 20TRF ที่ มีนาคม 05, 2021, 15:02:51
ผมก็ลุ้นอาการฮิตๆของฟอเรสเตอร์อยู่เหมือนกันครับ 3ปีแล้วโผล่มา แค่อาการพวงมาลัยลอก
กลัวมันจะโผล่มาตอนหลังประกันหมดนี่แหละ :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ มีนาคม 05, 2021, 15:29:11
ถ้าซื้อรถใหม่ก็ลังไว้ อาจจะเป็น 520d + 320d ครับ

หรือไม่ก็ X7 หรือ 730ld คันเดียวเอาไว้วิ่งทางไกล อีกคันอาจจะซื้อรถญี่ปุ่นจาก Grey เอาไว้ใช้ในเมืองครับ

ดูแล้ว งบคงไม่ใช่ปัญหา ซื้อใหม่เถอะครับ  8)
หรือขายคันที่แย่สุดออกก่อน 1 คันแล้วซื้อใหม่ 1
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: voyager ที่ มีนาคม 05, 2021, 15:29:42
คนขับคงตีนหนัก แต่เกียร์ซูก็อ่อนแอไปหน่อย
วิ่งไม่เท่าไรไปแล้วทั้งสองคัน ขับไปต้องระแวง oil temp ขึ้นสูงไม่มีความสุขหรอกครับ
ไปบีเอ็มดีแล้ว วิ่งระยะแสนนึง BSI เนรมิตรช่วงล่างให้เหมือนใหม่ใช้ต่อได้อีกหลายปี
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Odrecranon ที่ มีนาคม 05, 2021, 15:37:47
ผมคงแนะนำขายและซื้อใหม่ครับ
เพื่อนผมออก X5 45e ดู happy มาก

ขอถามนอกเรื่องได้ไหมครับ พอดีกำลังดู ๆ S90 T8 ตัว facelift เพราะได้ราคาต่ำกว่า 3 ล้าน

แต่ไล่ ๆ ดู review เหมือน Handing ไม่ค่อย OK
ที่บ้านใช้ Volvo มาตลอด ที่พอจะ ok คือ V40
ไม่งั้นจะลองขับ 530e LCI ครับ
แอบเกรงใจ ศูนย์ volvo เขาบริการดี
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Automotive Innovations ที่ มีนาคม 05, 2021, 15:43:24
ผมคงแนะนำขายและซื้อใหม่ครับ
เพื่อนผมออก X5 45e ดู happy มาก

ขอถามนอกเรื่องได้ไหมครับ พอดีกำลังดู ๆ S90 T8 ตัว facelift เพราะได้ราคาต่ำกว่า 3 ล้าน

แต่ไล่ ๆ ดู review เหมือน Handing ไม่ค่อย OK
ที่บ้านใช้ Volvo มาตลอด ที่พอจะ ok คือ V40
ไม่งั้นจะลองขับ 530e LCI ครับ
แอบเกรงใจ ศูนย์ volvo เขาบริการดี
เน้นขับแบบไหนครับ ถ้าสบายๆรวดเร็ว มา volvo เลยครับ อุปกรณ์ครบ ระบบเซฟตี้ดี ยิ่งศูนย์ดี ราคาต่ำกว่า 3 ล้าน เป็นผมมาแบบไม่ต้องคิดเลยครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มีนาคม 05, 2021, 15:56:01
เกียร์ CVT ไปซ่อมที่นี่ครับ Powertrain Technik ซ่อมเกียร์ อัตโนมัติ   
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Tedjung84 ที่ มีนาคม 05, 2021, 16:44:48
เกียร์ CVT ไปซ่อมที่นี่ครับ Powertrain Technik ซ่อมเกียร์ อัตโนมัติ
+1 ครับ ดีจริง
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: shikima ที่ มีนาคม 05, 2021, 17:38:20
for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ มีนาคม 05, 2021, 18:12:11
เห็นรถ 2 คันที่ซ่อมแล้ว อยากเชียร์ให้ขายแล้วเปลี่ยนเป็น Outback มาเลยครับ (ว่าแต่ประเทศไทยนำรุ่นนี้มาขายไหม?)
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Puppu ที่ มีนาคม 05, 2021, 20:13:22
ผมคงแนะนำขายและซื้อใหม่ครับ
เพื่อนผมออก X5 45e ดู happy มาก

ขอถามนอกเรื่องได้ไหมครับ พอดีกำลังดู ๆ S90 T8 ตัว facelift เพราะได้ราคาต่ำกว่า 3 ล้าน

แต่ไล่ ๆ ดู review เหมือน Handing ไม่ค่อย OK
ที่บ้านใช้ Volvo มาตลอด ที่พอจะ ok คือ V40
ไม่งั้นจะลองขับ 530e LCI ครับ
แอบเกรงใจ ศูนย์ volvo เขาบริการดี

ถ้าเน้น handling คงสู้ 530e LCI ไม่ได้ครับ ผมใช้ s90t8 รุ่นปี2018 ก็ต้องเปลี่ยนชุดสตรัทเป็น kw v3 ถึงจะขับถูกใจขึ้นเยอะเลยครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มีนาคม 05, 2021, 20:47:20
for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: PabU ที่ มีนาคม 05, 2021, 20:55:12
ผมว่าขายแล้วซื้อใหม่ดีกว่าครับ...ยกเว้นชอบจริงๆ ผมจะเก็บคันที่ชอบไว้คันนึง(ถ้ามี Project ทำรถให้ลงเกียร์ MT ไปเลยดีมั้ยครับดูท่าจะขับโหด) ส่วนอาการที่เหลือนี่ ผมว่าวิ่งทางไกลสบายๆเลยนะ เครื่องดี เกียร์ดี Cooling ดี สบายแล้วครับ  ::)
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ มีนาคม 05, 2021, 21:00:31
แค่จะบอกว่า .... คันปากอยากจีบคัน Legacy GT จังครับ
รถขึ้นฟุตบาทมาเมื่อ 2 ปีก่อนครับ คือ ไปซิ่งในซอยแล้วหลุดโค้ง ดีที่ขับไม่เร็วครับ จอดรออะไหล่ปีนึง เปลี่ยนช่วงล่างหน้าเกลี้ยงเลยครับ  :'(

อันนี้ก็อีกเหตุผลนึงที่คิดว่าจะเก็บไว้ เพราะถ้าประกาศขาย คนมาดูเค้าก็กลัว ไม่เอากันอยู่แล้ว
ผมได้แค่คันปากครับ กำลังจะไปรับลูกชายคันเก่ากลับมาอยู่ด้วยกัน ที่จอดเต็ม คันอื่นที่อยู่เมียสั่งห้ามขาย

ผมว่า BR (คุ้นๆว่า BR ไม่ใช่ BM ใช่ไหมครับ) น่าจะใช้ดีกว่า For ยิ่งเป็น GT แท้อีก ถ้าไม่คิดว่าอยากขายทั้ง 2 คัน ผมว่าเก็บคันนี้ไว้น่าจะดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: BN` ที่ มีนาคม 05, 2021, 23:02:22
ลองดู Lexus RX หรือ ES ดูมั้ยครับ ใช้ยาวๆสบายใจ นั่งสบายด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: The_Wizard ที่ มีนาคม 05, 2021, 23:36:53
ส่วนตัวไม่มีประสบการณ์กับค่ายนี้ แต่ผมว่าลองหาอู่นอกที่ชำนาญตระกูลซูบารุดู ส่วนอะไหล่น่าจะหาเซียงกงได้ น่าจะจบแบบเจ็บน้อยกว่าศูนย์ครับ เพราะเกรงว่าถ้าเปลี่ยนไปเล่นยุโรป พอถึงเวลาเซอร์วิสใหญ่ น่าจะเจ็บหนักกว่าอีก ยกเว้นว่าเบื่อแล้วก็ค่อยมาคิดประเด็นหลัง
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: S6 ที่ มีนาคม 06, 2021, 09:38:26
ปกติครับ รอบของมัน
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ มีนาคม 06, 2021, 09:50:33
... รายการที่น่าจะตามมาของ Legacy GT ในไม่ช้า ตามอายุ (และอาจจะรำคาญใจเรื่องรออะไหล่) อ้างอิงจากรถผม เครื่อง Legacy GT BP5 คือ สายพานไทม์มิ่ง ที่ต้องเปลี่ยนทุก 1 แสน หม้อน้ำ (ผมโดนตอนประมาณ 120,000) คอยล์จุดระเบิด (ผมโดนตอนประมาณ 150,000)
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: NineKlao ที่ มีนาคม 06, 2021, 10:52:34
ของผม Odysery RB3 รถฮอนด้านำเข้าปี 12 แต่ผมซื้อปี 14
ไม่มีซ่อมหนัก แต่ก็อะไหล่ตามระยะ แต่ช่วงล่าง ผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จาก tein streetflex flexA
จนตอนนี้ Ohlins ส่วนท่อก็ไป HKS Legamax ที่ทำปีที่แล้วก็มี ปีกนกบนล่าง บูทยางกันโครง
ลูกปืนหลัง ภายในไม่มีอะไรเสีย เปลี่ยนชองตามระยะทำเองที่บ้าน ไม่ได้เข้าศูนย์ ยกเว้นสั่งอะไหล่
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: shikimaru ที่ มีนาคม 06, 2021, 13:45:35
for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย

อันนี้จริงๆนะครับ ผมก็สั่งจากที่นี่ไป ใส่แอคคอร์ด g8 2.4 ขับเฉลี่ย 120-160 คิกดาวบ่อยๆ ก่อนติดกับหลังติดนี่รู้เลย เกียร์ยืนระยะได้นานขึ้นเยอะ จากเดิมไม่กี่สิบโลก็อืดละ พอติดไปแล้วร้อยกว่า 200 โลค่อยออกออาการ แต่ถ้าคนขับค่อยๆเร่งคงไม่เห็นผลเท่าไหร่ อีกอย่างคืออุณหภูมิหม้อน้ำขึ้นช้าลงแบบมีนัยยะเลย
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 06, 2021, 16:01:55
เห็นรถ 2 คันที่ซ่อมแล้ว อยากเชียร์ให้ขายแล้วเปลี่ยนเป็น Outback มาเลยครับ (ว่าแต่ประเทศไทยนำรุ่นนี้มาขายไหม?)
หึหึ ไปอ่านดูว่าคุณOxygen2ใช้รถขนาดไหนก่อนครับ ถ้าไม่มิดไมล์ก็ไม่ใช่สไตล์เค้าละครับ ผมว่าATF Oil Tempขึ้นเพราะท่านเล่นลากรอบขีดแดงเกือบตลอดครับ คงต้องใส่Oil Coolerเกียร์เพิ่มละครับ ยังสงสัยว่าท่านทนขับรถอืดๆแบบForesterได้ไง
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ มีนาคม 06, 2021, 16:38:02
เห็นรถ 2 คันที่ซ่อมแล้ว อยากเชียร์ให้ขายแล้วเปลี่ยนเป็น Outback มาเลยครับ (ว่าแต่ประเทศไทยนำรุ่นนี้มาขายไหม?)
หึหึ ไปอ่านดูว่าคุณOxygen2ใช้รถขนาดไหนก่อนครับ ถ้าไม่มิดไมล์ก็ไม่ใช่สไตล์เค้าละครับ ผมว่าATF Oil Tempขึ้นเพราะท่านเล่นลากรอบขีดแดงเกือบตลอดครับ คงต้องใส่Oil Coolerเกียร์เพิ่มละครับ ยังสงสัยว่าท่านทนขับรถอืดๆแบบForesterได้ไง

ใช่ครับ ผมยืนยันเลย สองคันเทียบกับ คันไหนที่ผมกระทืบๆ เส้นแดงตลอด มันชอบมีอะไรให้ซ่อมจุกจิก โดยเฉพาะระบบระบายความร้อน ส่วนอีกคันที่ขับเรื่อยๆ ใช้ยันแสนโล เกียร์ไม่มีอาการอะไรเลยครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มีนาคม 07, 2021, 01:25:39
เห็นรถ 2 คันที่ซ่อมแล้ว อยากเชียร์ให้ขายแล้วเปลี่ยนเป็น Outback มาเลยครับ (ว่าแต่ประเทศไทยนำรุ่นนี้มาขายไหม?)
หึหึ ไปอ่านดูว่าคุณOxygen2ใช้รถขนาดไหนก่อนครับ ถ้าไม่มิดไมล์ก็ไม่ใช่สไตล์เค้าละครับ ผมว่าATF Oil Tempขึ้นเพราะท่านเล่นลากรอบขีดแดงเกือบตลอดครับ คงต้องใส่Oil Coolerเกียร์เพิ่มละครับ ยังสงสัยว่าท่านทนขับรถอืดๆแบบForesterได้ไง
ผมว่าไม่แพงนะเมื่อเทียบกับรถราคาหลักล้าน  แถมป้องกันน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วยครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย

อันนี้จริงๆนะครับ ผมก็สั่งจากที่นี่ไป ใส่แอคคอร์ด g8 2.4 ขับเฉลี่ย 120-160 คิกดาวบ่อยๆ ก่อนติดกับหลังติดนี่รู้เลย เกียร์ยืนระยะได้นานขึ้นเยอะ จากเดิมไม่กี่สิบโลก็อืดละ พอติดไปแล้วร้อยกว่า 200 โลค่อยออกออาการ แต่ถ้าคนขับค่อยๆเร่งคงไม่เห็นผลเท่าไหร่ อีกอย่างคืออุณหภูมิหม้อน้ำขึ้นช้าลงแบบมีนัยยะเลย
ของผมขับไม่เร็ว แต่เห็นผลที่แตกต่างจากเดิมมากครับ แต่โดยทั้งนี้ผมไม่ได้ฟลัชชิ่งน้ำมันเกียร์ครับ เพียงแค่ถ่ายออกจากก้นอ่างแบบธรรมดาๆบ้าน  โดยอย่างแรกคือประหยัดขึ้นมากในการวิ่งนอกเมือง ประการต่อมาเกียร์ CVT พูเล่สายพานเหล็กเหมือนวืดน้อยลง ความเร็วในการขับขี่ใช้รอบที่ต่ำกว่าเดิมครับ แถมเร่งง่ายขึ้น  ส่วนเรื่องเกียร์เย็นผมไม่กลัวเท่าไหร่ครับ แค่อุณหภูมิข้างนอกอาคารหรือบนท้องถนนตอนกลางวันแถวบ้านผม  มันร้อนจนแสบตัวดำไหม้ได้เลย  ถ้าเอาไก่ไปอบในรถคงสุกได้ในในครึ่งชั่วโมงครับ ผมมองว่าเอน้ำร้อนๆมาอุ่นเกียร์เป็นอะไรที่ไม่สมเหตุผลกับสภาวะแวดล้อมการใช้งานจริงเลย (https://docs.google.com/uc?id=1hV0J9IjT87cjBKRljvO31VkWiUUF6jgg)
ปล.น้องมีนาเครื่อง1.2 3สูบโบราณสหกรณ์กับ CVT สหกรณ์ที่ไม่เข้าใจคนชอบขับรถครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 07, 2021, 12:01:44
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มีนาคม 07, 2021, 21:55:56
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
โอ้ขับเร็วขนาดนั้นผมขอสละสิทธิ์ครับอิๆ  ขอไปช้าแต่ปลอดภัยครับ  เพียงแต่ผมขอพูดผลดีจากการติดออยเกียร์ในรูปแบบขับรถบ้านๆแบบคนแก่ขับครับบ  ซึ่งได้ผลแค่นี้ก็คุ้มค่าตัว8900บาทมากแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 22:34:35
ถ้าซ่อมแล้วใช้ได้อีกนาน ก็น่าเก็บนะครับ
ขอบคุณครับ คิดจะเปลี่ยนรถใหม่หลายรอบแล้ว ถ้ามันไม่มีอะไรเสียเพิ่ม อาจจะใช้ยาวๆ

ปกติ รถญี่ปุ่น มันควรทนกว่านี้นะ
เพราะรถ ปี 13 รุ่นเดียวกับ ลูกครึ่ง สวีเดน-ไชนีส คันของผมเลย แต่ไมล์ผมไป 2.4 แสน แล้ว เปลี่ยนแค่อะไหล่สิ้นเปลืองทั่วไป ยังไม่มีชิ้นหนักๆ  อยากไป G30 ก็ยังติดใจคันเดิมที่ไม่งอแง
ผมอาจจะขับค่อนข้างเร็วครับ ทำให้รถไปไวครับ ในเว็บ HLM นี้มีเพื่อนผมท่านนึงอยู่ เค้าบอกว่า รถที่ผมใช้พังไวทุกคัน

ผมมองว่า จขกท. ใจไปกับ BM แล้วครับ
อีกอย่างก็ไม่มีเวลาจะมาเก็บงานซ่อมด้วย
ถ้าเป็นผม ผมปล่อยหมดครับ
จริงๆ ใจไป Porsche Cayenne ครับ ตั้งแต่มันยังไม่เปิดตัวในไทย ผมแวะไปดูที่โชว์รูม Porsche ในกวางโจ่วที่ห้าง Parc Central ด้วยครับ แต่รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาครับ คอนฟิคแล้วจบที่เจ็ดล้านปลายๆ ก็เลยต้องรอเวลาไปก่อนครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 22:39:23
ผมมีทั้ง XV ตัวแรก Forester SJ และล่าสุด Forester SK

ยอมรับเลยครับ พอถึงระยะซ่อมแล้วซูบารุซ่อมแพงกว่าญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นพอสมควรเลย แต่ซ่อมแล้วจบ แบบจบไปเลยครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมใช้ E60 กับ E90 มา พอเลย 5 ปีแล้ว บอกเลยครับค่าซ่อมพร้อมถ่ายของเหลวตามระยะอู่นอกนี่ ปีล่ะ 100,000 ต่อคัน คิดว่าซูบารุยังไงก็ถูกกว่า

ดูจากรายการรถ จขกท แล้ว Legacy ผมซ่อมต่อนะ ยังไงๆไม่ได้จุกจิกเท่ายุโรปแน่ๆ และสมรรถนะโดยรวมไม่แพ้ยุโรปเลยครับ

แต่เจ้า SJ ผมเจอปัญหาเดียวกันคือผ่านมา 5 ปี ภายและยางขอบประตูมันหลวมไปหมด เหมือนวัสดุมันหลวมไปหมด ถ้า จขกท ชอบช่วงล่าง SJ แล้ว ผมแนะนำขาย SJ แล้วซื้อ Sk ครับ ผมใช้มา 2 หมื่นกว่าโล ดีกว่า SJ ทุกอย่างครับ ช่วงล่างดีขึ้นนุ่มแน่น พวงมาลัยคม และการประกอบแต่ล่ะจุดดีกว่าชัดเจนครับ

จขกท เท้าหนักหรือเปล่า อาการซ่อมเหมือน XV ผมที่กระทืบอย่างเดียวบ่อยๆเลยครับ เกียร์นี่อาการเดียวกับผมเลย แต่ SJ ผมขับเรื่อยๆ ไม่มีอะไรจุกจิกให้ซ่อมเลยครับ มีแต่เสียงภายในนี่แหละครับที่น่ารำคาน
เห็นต่างนิดนึงเรื่องซ่อม Subaru อย่างผมไม่มีเวลาเอารถไปอู่นอก ไม่รู้ว่าอู่ไหนดี หลายอู่ซ่อม Su รุ่นใหม่ๆ ยิ่งขึ้นชื่อ ดีกับคนนี้ อีกคนฟัน (ยกเว้นพี่พนม อันนี้แกดีจริงๆ) ผมเลยเข้าศูนย์ครับ อย่างเกียร์พัง ทาง Motor Image ซ่อมเกียร์ให้โดยการเปลี่ยน Lockup ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นคงไม่อยากซ่อม คงเสนอราคาเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูกครับ ส่วน SJ นี่ชอบช่วงล่างมากๆ ครับ ตอนซื้อไม่ได้ลองรถครับ จัดไฟแนนซ์ผ่าน โอนเงินจองให้เซลล์และสไลด์เอามาส่งที่บ้านเลยครับ ลองขับทีแรก มันขับดีมาก ประทับใจเลย ส่วนที่ไม่ชอบก็มันประกอบไม่ดีครับ แล้วตอนหลังมีเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ก็พอรับได้ครับ ส่วน SK ผมอยากได้เครื่องที่แรงกว่าเดิมหน่อยครับ ขับ SJ แล้วช่วงล่างเกินกำลังเครื่องไปเยอะ SK น่าจะใส่ 2.5 มาครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 22:42:56
ไม่มีเวลาซ่อม

ปล่อยไปแล้วไปซื้อคันใหม่ดีกว่าครับ
ขอบคุณครับ จริงๆ ขี้เกียจไปอู่ที่ไม่รู้จักครับ กลัวโดนฟันแล้วมานั่งช้ำใจ ไปศูนย์โดนแพงแต่มีประกันหลังซ่อม

หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ มีนาคม 07, 2021, 22:45:57
ผมมีทั้ง XV ตัวแรก Forester SJ และล่าสุด Forester SK

ยอมรับเลยครับ พอถึงระยะซ่อมแล้วซูบารุซ่อมแพงกว่าญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นพอสมควรเลย แต่ซ่อมแล้วจบ แบบจบไปเลยครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมใช้ E60 กับ E90 มา พอเลย 5 ปีแล้ว บอกเลยครับค่าซ่อมพร้อมถ่ายของเหลวตามระยะอู่นอกนี่ ปีล่ะ 100,000 ต่อคัน คิดว่าซูบารุยังไงก็ถูกกว่า

ดูจากรายการรถ จขกท แล้ว Legacy ผมซ่อมต่อนะ ยังไงๆไม่ได้จุกจิกเท่ายุโรปแน่ๆ และสมรรถนะโดยรวมไม่แพ้ยุโรปเลยครับ

แต่เจ้า SJ ผมเจอปัญหาเดียวกันคือผ่านมา 5 ปี ภายและยางขอบประตูมันหลวมไปหมด เหมือนวัสดุมันหลวมไปหมด ถ้า จขกท ชอบช่วงล่าง SJ แล้ว ผมแนะนำขาย SJ แล้วซื้อ Sk ครับ ผมใช้มา 2 หมื่นกว่าโล ดีกว่า SJ ทุกอย่างครับ ช่วงล่างดีขึ้นนุ่มแน่น พวงมาลัยคม และการประกอบแต่ล่ะจุดดีกว่าชัดเจนครับ

จขกท เท้าหนักหรือเปล่า อาการซ่อมเหมือน XV ผมที่กระทืบอย่างเดียวบ่อยๆเลยครับ เกียร์นี่อาการเดียวกับผมเลย แต่ SJ ผมขับเรื่อยๆ ไม่มีอะไรจุกจิกให้ซ่อมเลยครับ มีแต่เสียงภายในนี่แหละครับที่น่ารำคาน
เห็นต่างนิดนึงเรื่องซ่อม Subaru อย่างผมไม่มีเวลาเอารถไปอู่นอก ไม่รู้ว่าอู่ไหนดี หลายอู่ซ่อม Su รุ่นใหม่ๆ ยิ่งขึ้นชื่อ ดีกับคนนี้ อีกคนฟัน (ยกเว้นพี่พนม อันนี้แกดีจริงๆ) ผมเลยเข้าศูนย์ครับ อย่างเกียร์พัง ทาง Motor Image ซ่อมเกียร์ให้โดยการเปลี่ยน Lockup ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นคงไม่อยากซ่อม คงเสนอราคาเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูกครับ ส่วน SJ นี่ชอบช่วงล่างมากๆ ครับ ตอนซื้อไม่ได้ลองรถครับ จัดไฟแนนซ์ผ่าน โอนเงินจองให้เซลล์และสไลด์เอามาส่งที่บ้านเลยครับ ลองขับทีแรก มันขับดีมาก ประทับใจเลย ส่วนที่ไม่ชอบก็มันประกอบไม่ดีครับ แล้วตอนหลังมีเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ก็พอรับได้ครับ ส่วน SK ผมอยากได้เครื่องที่แรงกว่าเดิมหน่อยครับ ขับ SJ แล้วช่วงล่างเกินกำลังเครื่องไปเยอะ SK น่าจะใส่ 2.5 มาครับ

ออ ไม่ๆครับ ผมมาจากยุโรป 10 ปี ซ่อมอู่นอกมาตลอด เจอค่าซ่อมมาทุกรูปแบบครับ ที่ซ่อม Subaru หมายถึงซ่อมศูนย์ครับ ส่วนตัวผมรับได้กับราคาซ่อมศูนย์ Subaru ครับ แล้วซ่อมก็จบจริงๆ เกรงว่าไปยุโรปแล้วพอพ้น 5 ปีก็เข้าลูปเดิมครับ ซ่อมอ้วกแตก แล้วต้องตีสนิทกับเจ้าของอู่นอกด้วย ไม่งั้นรอนานซ่อมไม่จบ ซ่อม Subaru กับศูนย์ดีกว่ายุโรปอู่นอกเยอะครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 22:51:13
ไปอู่จบกว่าถูกกว่าครับพี่ ไม่มีเวลาให้รถสไลด์มารับ จบครับ
เกียร์เอย แอร์เอย ช่วงล่างเอง ที่เดียวจบ

แต่ถ้าขี้เกียจซ่อมปล่อย ซื้อรถใหม่ก็สบายใจดีครับ
ไม่กล้าไปอู่เลยครับ อย่างแอร์ยอมโดนศูนย์คิดแพงเลย คือ อาการเย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง แล้วก็มีเสียงคอม ตอนแรกให้คนขับรถเอาไปให้ร้านแอร์ข้างนอกดู เค้าบอกว่าต้องเปลี่ยนคอมแอร์ คิดหมื่นห้า ผมเลยบอกถ้างั้นใส่น้ำยาแอร์มาก่อน ตอนหลังเจอปัญหาเสียงดังแก๊กๆ แล้วบางครั้งแอร์ไม่เย็น เลยเข้าศูนย์เช็ค ช่างศูนย์บอกว่าตู้แอร์รั่ว เปลี่ยนตู้แล้วอาการจะหาย ส่วนเรื่องคอมแอร์ยังใช้ได้ไม่มีปัญหา
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 22:55:02
ผมคงแนะนำขายและซื้อใหม่ครับ
เพื่อนผมออก X5 45e ดู happy มาก

ขอถามนอกเรื่องได้ไหมครับ พอดีกำลังดู ๆ S90 T8 ตัว facelift เพราะได้ราคาต่ำกว่า 3 ล้าน

แต่ไล่ ๆ ดู review เหมือน Handing ไม่ค่อย OK
ที่บ้านใช้ Volvo มาตลอด ที่พอจะ ok คือ V40
ไม่งั้นจะลองขับ 530e LCI ครับ
แอบเกรงใจ ศูนย์ volvo เขาบริการดี
S90 ผมซื้อตัว D4 มา เป็นล๊อตแรกของประกอบมาเลย์ครับ ที่ราคา 2.95 ล้าน ศูนย์ที่ผมใช้ทำไมผมเจอไม่ค่อยโอเคก็ไม่รู้ ตอนออกรถตัดโปรแกรม VPSP บำรุงรักษา 5 ปีของผมทิ้ง (มาแจ้งทีหลังว่าผมต่อราคา) แล้วก็ตัวรถมีแค่ประกัน 3 ปีครับ เข้าศูนย์เช็คระยะจ่ายเองหมด น้ำมันเครื่องพร่อง (เป็นอาการประจำของเครื่องตัวนี้) ไปเติมให้เต็มยังต้องเสียเงินซื้อน้ำมันเครื่องเลย เบรคหลังหมดก็เปลี่ยนผ้าเบรค, จานเบรคแล้วไม่ออกบิล VAT ให้ ตอนหลังพ่อผมโวยวายมากๆ ว่าทำไมไม่ออกบิล VAT ผ่านไปเป็นเดือน ถึงจะส่งบิล VAT มาอาจจะเป็นเฉพาะศูนย์นี้ครับ

ส่วนตัวรถโอเคครับ ออฟชั่นแน่น ไม่เจอปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ เจอปัญหาแค่การประกอบครับ

การขับขี่ผม ผมคิดว่าธรรมดามาก เหมือน Toyota Camry ตัวก่อนเลย

ส่วนที่ไม่ชอบคือ ส่วนระบบ Safety บางส่วนที่ปิดไม่ได้ เช่น ระบบ Pre Crash ของ Volvo (ไม่แน่ใจว่าเรียกอะไร) ถ้ารถคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เช่น มาเร็วๆ แล้วจั๊มคอสะพาน ระบบ ESC ทำงาน ตัวรถจะดึงเข็มขัดรัดตัวให้แน่นกับเบาะเลย ผมขับเส้น Motorway กรุงเทพ-บ้านบึง โดยดึงจนพุงปลิ้น กับ ระบบเตือนคนชนท้าย เวลาเราติดไฟแดงอยู่ มีรถมาข้างหลัง ไม่รู้ว่ารถมันจับยังไง มันเตือนที่หน้าจอว่าให้ระวังการชนด้านหลัง แล้วมันก็ดึงเข็มขัดให้ตัวติดกับเบาะเลย ขับเร็วๆ ผมปิดระบบความปลอดภัยทั้งหมดเลย แต่ปิดจริงไม่ได้หมด เปลี่ยนเลนเร็วๆ หลายรอบ รถมันนึกว่าผมง่วง มันก็จะให้แวะพักอยู่นั้นแหล่ะ เหมือนกับรถมันระแวงมากเกินครับ พ่อผมเลยเอาไปใช้เป็นหลักแล้วครับ ใช้อยู่ที่จันทบุรี ขับแล้วไม่ซ้ำใครดี อยู่อำเภอเมืองน่าจะมีไม่ถึง 5 คัน
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 22:57:24
เกียร์ CVT ไปซ่อมที่นี่ครับ Powertrain Technik ซ่อมเกียร์ อัตโนมัติ
ขอบคุณครับ จะลองติดต่อเค้าไปดูครับ  :) :)
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 23:00:45
for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ขอบคุณมากครับ ผมคิดว่าเครื่องตระกูล FA FB มันร้อนเร็วไป ตัว WRX ที่เป็น Turbo เครื่องร้อนเร็วเหมือนกันไหมครับ ตอนรับรถใหม่ๆ ขับเร็วนานๆ แบบแช่เลย ตัวรถเข้า Safe mode คือ เร่งได้ไม่เกิน 4 พันรอบ ตอนหลังเจอขึ้น AT Oil Temp ผมต้องขับช้าๆ กับเข้า Safe mode ที่ 3 พันรอบเลย ขับต่างจังหวัดขัดใจพอควร เพราะผมออกดึกๆ ไม่มีรถ ต้องการทำความเร็วครับ

ผมเพิ่งเบิก Oil gear ของ Forester Turbo จากศูนย์ รอของมาอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 23:45:13
เห็นรถ 2 คันที่ซ่อมแล้ว อยากเชียร์ให้ขายแล้วเปลี่ยนเป็น Outback มาเลยครับ (ว่าแต่ประเทศไทยนำรุ่นนี้มาขายไหม?)
ถ้า Outback ใหม่มาเป็นเครื่อง 2.4 Turbo ผมอาจจะซื้อมาใช้จริงๆ ครับ ผมชอบรถที่ไม่ค่อยซ้ำกับใครครับ แต่คิดว่าคงมาแค่ 2.5 NA
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 23:48:31
for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย
ผมสั่ง Oil Gear ของศูนย์ไป ไม่รู้จะแย่กว่าของ Aftermarket หรือเปล่า ดูจากที่บอกแล้วเหมือนจะแย่กว่าเลย :'( :'(
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 23:55:59
ผมว่าขายแล้วซื้อใหม่ดีกว่าครับ...ยกเว้นชอบจริงๆ ผมจะเก็บคันที่ชอบไว้คันนึง(ถ้ามี Project ทำรถให้ลงเกียร์ MT ไปเลยดีมั้ยครับดูท่าจะขับโหด) ส่วนอาการที่เหลือนี่ ผมว่าวิ่งทางไกลสบายๆเลยนะ เครื่องดี เกียร์ดี Cooling ดี สบายแล้วครับ  ::)
อยากทำ Legacy ให้เป็น MT เหมือนกัน แต่แฟนไม่ยอม เพราะ ไม่ได้จบแค่นั้น คงทำต่อ ทั้งเบรค, เทอร์โบ, ท่อ อะไรต่างๆ อีกเยอะ แฟนอยากซื้อรถใหม่เป็นรถยุโรปแรงๆ หน่อยครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 07, 2021, 23:58:49
ลองดู Lexus RX หรือ ES ดูมั้ยครับ ใช้ยาวๆสบายใจ นั่งสบายด้วยครับ
ขอบคุณครับ เคยไปดู RX แล้ว ตัวที่เริ่มมีออฟชั่นราคามันแรงไปนิดครับ ส่วน ES นี่ต้องทำใจกับเครื่องเลย  :)

ส่วนตัวไม่มีประสบการณ์กับค่ายนี้ แต่ผมว่าลองหาอู่นอกที่ชำนาญตระกูลซูบารุดู ส่วนอะไหล่น่าจะหาเซียงกงได้ น่าจะจบแบบเจ็บน้อยกว่าศูนย์ครับ เพราะเกรงว่าถ้าเปลี่ยนไปเล่นยุโรป พอถึงเวลาเซอร์วิสใหญ่ น่าจะเจ็บหนักกว่าอีก ยกเว้นว่าเบื่อแล้วก็ค่อยมาคิดประเด็นหลัง
ขอบคุณครับ

ปกติครับ รอบของมัน
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 08, 2021, 00:00:39
... รายการที่น่าจะตามมาของ Legacy GT ในไม่ช้า ตามอายุ (และอาจจะรำคาญใจเรื่องรออะไหล่) อ้างอิงจากรถผม เครื่อง Legacy GT BP5 คือ สายพานไทม์มิ่ง ที่ต้องเปลี่ยนทุก 1 แสน หม้อน้ำ (ผมโดนตอนประมาณ 120,000) คอยล์จุดระเบิด (ผมโดนตอนประมาณ 150,000)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ตอนนี้รถผมจอดไว้เฉยๆ ไม่รู้จะเจออะไรเยอะกว่านี้ไหม เจอยาวไม่ได้จับเลยครับ จอดไว้ที่อาคารจอดรถ ไกลหูไกลตาอีก เรียกได้ว่าทุกวันนี้ไม่ได้เห็นเลย  :)
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 08, 2021, 00:03:45
ของผม Odysery RB3 รถฮอนด้านำเข้าปี 12 แต่ผมซื้อปี 14
ไม่มีซ่อมหนัก แต่ก็อะไหล่ตามระยะ แต่ช่วงล่าง ผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จาก tein streetflex flexA
จนตอนนี้ Ohlins ส่วนท่อก็ไป HKS Legamax ที่ทำปีที่แล้วก็มี ปีกนกบนล่าง บูทยางกันโครง
ลูกปืนหลัง ภายในไม่มีอะไรเสีย เปลี่ยนชองตามระยะทำเองที่บ้าน ไม่ได้เข้าศูนย์ ยกเว้นสั่งอะไหล่
Odyssey 2.4 ถือว่าอืดไหมครับ รถญี่ปุ่นที่เล็งไว้ก็เล็งพวก MPV จากญี่ปุ่นไว้ครับ ตอนนี้ดูๆ Serena ePower กับ Odyssey อยู่ครับ Odyssey Absolute 2.4 เกรย์เสนอราคามา 3 ล้าน แต่ถ้าเป็นตัว eHEV จะราคาต่ำกว่านี้ ผมกำลังคิดว่าถ้าซื้อคันนี้ไว้ก่อน อนาคตถ้าเบื่อเอามาใช้ในบริษัทได้ ตอนนี้รถใช้งานรับคู่ค้าไม่พอ มีแค่ Alphard คันเดียว เพราะตอนเปิดประเทศ คู่ค้าคงมากันทุกเดือนครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 08, 2021, 00:06:55
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
พอดีผมขับรถตอนดึกๆ ต่างจังหวัดครับ ก็เลยไปเร็วมาเร็ว  :-X ถ้าวิ่งในเมือง ทางไม่โล่งตอนนี้เน้นขับเรื่อยๆ ครับ (เพราะขับเร็วมันขึ้น AT Oil Temp)

จะว่าไปก็ถามพี่วีเรื่องค่าบำรุงรักษารถ Luxury มาหลายปีแล้ว ผมยังเอื้อมไม่ถึงเลยครับ  :)

ปล. ผมขอแอบบอกเรื่องทำเวลาของผมบ้างดีกว่า ผมขับจากบ้านที่เหม่งจ๋ายไปอ.เมือง จันทบุรี ขับตอนดึกๆ ไม่มีรถ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วย Legacy GT ถ้าถนนไม่โล่งนี่น่ากลัวมาก แล้วมีทีนึงคู่ค้าผมมาไทย ผมขับรถให้เอง ผมขับประมาณ 200 บน 520d เค้าดูตื่นเต้นมาก เพราะว่าในเมืองจีนเค้าไม่เคยขับเกิน 110 แม้รถเค้าจะเป็น 528Li กับ CLA45
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มีนาคม 08, 2021, 20:22:48
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
พอดีผมขับรถตอนดึกๆ ต่างจังหวัดครับ ก็เลยไปเร็วมาเร็ว  :-X ถ้าวิ่งในเมือง ทางไม่โล่งตอนนี้เน้นขับเรื่อยๆ ครับ (เพราะขับเร็วมันขึ้น AT Oil Temp)

จะว่าไปก็ถามพี่วีเรื่องค่าบำรุงรักษารถ Luxury มาหลายปีแล้ว ผมยังเอื้อมไม่ถึงเลยครับ  :)

ปล. ผมขอแอบบอกเรื่องทำเวลาของผมบ้างดีกว่า ผมขับจากบ้านที่เหม่งจ๋ายไปอ.เมือง จันทบุรี ขับตอนดึกๆ ไม่มีรถ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วย Legacy GT ถ้าถนนไม่โล่งนี่น่ากลัวมาก แล้วมีทีนึงคู่ค้าผมมาไทย ผมขับรถให้เอง ผมขับประมาณ 200 บน 520d เค้าดูตื่นเต้นมาก เพราะว่าในเมืองจีนเค้าไม่เคยขับเกิน 110 แม้รถเค้าจะเป็น 528Li กับ CLA45
ขับน่ากลัวจังครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย
ผมสั่ง Oil Gear ของศูนย์ไป ไม่รู้จะแย่กว่าของ Aftermarket หรือเปล่า ดูจากที่บอกแล้วเหมือนจะแย่กว่าเลย :'( :'(
ตรงนี้ผมไม่มั่นใจเหมือนกันว่าของศูนย์หรือออยเกียร์แต่งอันไหนจะดีกว่ากันครับเพราะ บางยี่ห้ออออยเกียร์แยกก็ทนกว่าของแต่ง บางยี่ห้อรั่วง่ายแถมดีออยเกียร์แบบที่ใช้น้ำร้อนระบายไม่มากครับ ลองจับใส่ดูก่อนครับ แต่ผมว่านะเครื่อง 2.0 น่าจะใส่ออยเกียร์แยยก แบบ 16 ชั้นหรือ 20 ชั้นไปเลยครับ ติดพัดลมระบายด้วยน่าจะหมดห่วงความร้อนของเกียร์ครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 09, 2021, 02:39:14
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
พอดีผมขับรถตอนดึกๆ ต่างจังหวัดครับ ก็เลยไปเร็วมาเร็ว  :-X ถ้าวิ่งในเมือง ทางไม่โล่งตอนนี้เน้นขับเรื่อยๆ ครับ (เพราะขับเร็วมันขึ้น AT Oil Temp)

จะว่าไปก็ถามพี่วีเรื่องค่าบำรุงรักษารถ Luxury มาหลายปีแล้ว ผมยังเอื้อมไม่ถึงเลยครับ  :)

ปล. ผมขอแอบบอกเรื่องทำเวลาของผมบ้างดีกว่า ผมขับจากบ้านที่เหม่งจ๋ายไปอ.เมือง จันทบุรี ขับตอนดึกๆ ไม่มีรถ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วย Legacy GT ถ้าถนนไม่โล่งนี่น่ากลัวมาก แล้วมีทีนึงคู่ค้าผมมาไทย ผมขับรถให้เอง ผมขับประมาณ 200 บน 520d เค้าดูตื่นเต้นมาก เพราะว่าในเมืองจีนเค้าไม่เคยขับเกิน 110 แม้รถเค้าจะเป็น 528Li กับ CLA45
ขับน่ากลัวจังครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย
ผมสั่ง Oil Gear ของศูนย์ไป ไม่รู้จะแย่กว่าของ Aftermarket หรือเปล่า ดูจากที่บอกแล้วเหมือนจะแย่กว่าเลย :'( :'(
ตรงนี้ผมไม่มั่นใจเหมือนกันว่าของศูนย์หรือออยเกียร์แต่งอันไหนจะดีกว่ากันครับเพราะ บางยี่ห้ออออยเกียร์แยกก็ทนกว่าของแต่ง บางยี่ห้อรั่วง่ายแถมดีออยเกียร์แบบที่ใช้น้ำร้อนระบายไม่มากครับ ลองจับใส่ดูก่อนครับ แต่ผมว่านะเครื่อง 2.0 น่าจะใส่ออยเกียร์แยยก แบบ 16 ชั้นหรือ 20 ชั้นไปเลยครับ ติดพัดลมระบายด้วยน่าจะหมดห่วงความร้อนของเกียร์ครับ
ผมสั่งของศูนย์มาใส่ Forester เรียบร้อยแล้วครับ คงลองเอาของติดรถ (น่าจะติดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของตัว XT) มาใช้ดูก่อนครับ มีก็มีดีกว่าไม่มี พอดีทางศูนย์สั่งให้แบบไม่ต้องมัดจำครับ จะผิดคำพูดไม่ได้ ถ้าไม่โอเคก็ถอดออกเอา
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มีนาคม 09, 2021, 12:03:11
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
พอดีผมขับรถตอนดึกๆ ต่างจังหวัดครับ ก็เลยไปเร็วมาเร็ว  :-X ถ้าวิ่งในเมือง ทางไม่โล่งตอนนี้เน้นขับเรื่อยๆ ครับ (เพราะขับเร็วมันขึ้น AT Oil Temp)

จะว่าไปก็ถามพี่วีเรื่องค่าบำรุงรักษารถ Luxury มาหลายปีแล้ว ผมยังเอื้อมไม่ถึงเลยครับ  :)

ปล. ผมขอแอบบอกเรื่องทำเวลาของผมบ้างดีกว่า ผมขับจากบ้านที่เหม่งจ๋ายไปอ.เมือง จันทบุรี ขับตอนดึกๆ ไม่มีรถ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วย Legacy GT ถ้าถนนไม่โล่งนี่น่ากลัวมาก แล้วมีทีนึงคู่ค้าผมมาไทย ผมขับรถให้เอง ผมขับประมาณ 200 บน 520d เค้าดูตื่นเต้นมาก เพราะว่าในเมืองจีนเค้าไม่เคยขับเกิน 110 แม้รถเค้าจะเป็น 528Li กับ CLA45
ขับน่ากลัวจังครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย
ผมสั่ง Oil Gear ของศูนย์ไป ไม่รู้จะแย่กว่าของ Aftermarket หรือเปล่า ดูจากที่บอกแล้วเหมือนจะแย่กว่าเลย :'( :'(
ตรงนี้ผมไม่มั่นใจเหมือนกันว่าของศูนย์หรือออยเกียร์แต่งอันไหนจะดีกว่ากันครับเพราะ บางยี่ห้ออออยเกียร์แยกก็ทนกว่าของแต่ง บางยี่ห้อรั่วง่ายแถมดีออยเกียร์แบบที่ใช้น้ำร้อนระบายไม่มากครับ ลองจับใส่ดูก่อนครับ แต่ผมว่านะเครื่อง 2.0 น่าจะใส่ออยเกียร์แยยก แบบ 16 ชั้นหรือ 20 ชั้นไปเลยครับ ติดพัดลมระบายด้วยน่าจะหมดห่วงความร้อนของเกียร์ครับ
ผมสั่งของศูนย์มาใส่ Forester เรียบร้อยแล้วครับ คงลองเอาของติดรถ (น่าจะติดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของตัว XT) มาใช้ดูก่อนครับ มีก็มีดีกว่าไม่มี พอดีทางศูนย์สั่งให้แบบไม่ต้องมัดจำครับ จะผิดคำพูดไม่ได้ ถ้าไม่โอเคก็ถอดออกเอา
อย่าลืมตัดระบบน้ำร้อนที่มาอุ่นเกียร์ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 09, 2021, 15:54:23
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
พอดีผมขับรถตอนดึกๆ ต่างจังหวัดครับ ก็เลยไปเร็วมาเร็ว  :-X ถ้าวิ่งในเมือง ทางไม่โล่งตอนนี้เน้นขับเรื่อยๆ ครับ (เพราะขับเร็วมันขึ้น AT Oil Temp)

จะว่าไปก็ถามพี่วีเรื่องค่าบำรุงรักษารถ Luxury มาหลายปีแล้ว ผมยังเอื้อมไม่ถึงเลยครับ  :)

ปล. ผมขอแอบบอกเรื่องทำเวลาของผมบ้างดีกว่า ผมขับจากบ้านที่เหม่งจ๋ายไปอ.เมือง จันทบุรี ขับตอนดึกๆ ไม่มีรถ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วย Legacy GT ถ้าถนนไม่โล่งนี่น่ากลัวมาก แล้วมีทีนึงคู่ค้าผมมาไทย ผมขับรถให้เอง ผมขับประมาณ 200 บน 520d เค้าดูตื่นเต้นมาก เพราะว่าในเมืองจีนเค้าไม่เคยขับเกิน 110 แม้รถเค้าจะเป็น 528Li กับ CLA45
555 เป็นไปตามที่ผมคาดเลย จริงๆแล้วคุณOxygen2ชอบทำเวลาต้องใช้รถระดับHigh performanceอย่างเดียวแล้วละครับ
คำนวณง่ายๆจากเหม่งจ๋ายไปตัวเมืองจันทน์ 242 กม. เวลาเท่านี้เฉลี่ย 145 กม./ชม. ถ้าไม่พูดว่าเร็วมากๆก็ไม่รู้จะเปรียบอย่างไรแล้วละครับ แบบนี้ใช้รถคุ้มสมรรถนะจริงๆ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 10, 2021, 01:08:47
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
พอดีผมขับรถตอนดึกๆ ต่างจังหวัดครับ ก็เลยไปเร็วมาเร็ว  :-X ถ้าวิ่งในเมือง ทางไม่โล่งตอนนี้เน้นขับเรื่อยๆ ครับ (เพราะขับเร็วมันขึ้น AT Oil Temp)

จะว่าไปก็ถามพี่วีเรื่องค่าบำรุงรักษารถ Luxury มาหลายปีแล้ว ผมยังเอื้อมไม่ถึงเลยครับ  :)

ปล. ผมขอแอบบอกเรื่องทำเวลาของผมบ้างดีกว่า ผมขับจากบ้านที่เหม่งจ๋ายไปอ.เมือง จันทบุรี ขับตอนดึกๆ ไม่มีรถ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วย Legacy GT ถ้าถนนไม่โล่งนี่น่ากลัวมาก แล้วมีทีนึงคู่ค้าผมมาไทย ผมขับรถให้เอง ผมขับประมาณ 200 บน 520d เค้าดูตื่นเต้นมาก เพราะว่าในเมืองจีนเค้าไม่เคยขับเกิน 110 แม้รถเค้าจะเป็น 528Li กับ CLA45
ขับน่ากลัวจังครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
ซีวีที ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่ขึ้นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลองจับใส่ออยเกียร์แยกนะครับ งบประมาณ 12,000 ได้  ณ อู่ไฮบริด  ออโต้คาร์  ปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนจะหมดไปโดยทันทีครับ

for sj ผมแสนโลหน่อยๆ ละ
AT oil temp ขึ้นเหมือนกันคับ แต่ขึ้นตอนเดินทางไกล แล้วแช่ 150+ นานๆ ไม่เกิน 20 โล ก็ขึ้นละคับ แก้ได้ใส่ oil gear cooler เพิ่ม ในกลุ่มเห็นทำกันหลายคัน เป็นทั้ง xv ทั้ง for แต่ผมว่ามันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อะ ถ้ามันขึ้น oil temp แสดงว่าเราขับเร็วเกินไป ก็ลดๆ ลงมาหน่อย เดี๋ยวก็หายคับ ทำให้ไม่ขับเร็วด้วย
ลูกปืนล้อหลัง ยังไงก็ดัง ผมเปลี่ยนสองข้างตอน 80000
น้ำมันเครื่องซึมแถวๆ หน้าเครื่องซ้าย เห็นบอกคันเป็น บางคันไม่เป็น แต่ของผมเป็น แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องยกเครื่องออกมาทำ ถ้าทำแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับสายพานหน้ารถไปเลย
คอมแอร์ ดังตอนแสนโล เป็นกันหลายคัน เช็คน้ำยาแอร์ เสียงลดลงนิดหน่อย แต่ก็ไม่หายทั้งหมด ก็กะใช้ให้พังค่อยเปลี่ยนทีเดียว
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเสียงโช๊คดัง อาจจะถึงเวลาของมันแล้วก็ได้
ปัญหาทั้งหมดนี้ xv ที่ผมมีก็เจอมาเหมือนกัน
ถึง subaru จะซ่อมแพงหน่อย แต่มันซ่อมแล้วจบหมดเลย ก็ถือว่าแลกกันอะคับ เจอกันอีกทีก็ตามอายุของมัน อย่างลูกปืนล้อ บางคนเปลี่ยนสองสามชุดแล้ว xv มันจะดังที่ราวๆ 5-6 หมื่น

หวังว่า wrx va อีกคัน จะไม่มีอะไรพังเร็วๆ นี้นะ อะไหล่ใช้กับคนอื่นไม่ได้ด้วยอะ
น้ำมันเกียร์มันจะไม่ร้อนได้ไงครับ   เล่นเอาน้ำร้อนไประบายความร้อน   ออยเกียร์หลักหมื่นต้นๆกับรถหลักล้านมันไม่เปลืองหรอกครับ  รถคันละ4-5แสนเค้าก็ติดกันเยอะ  อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเดิมเยอะครับ แถมตัดปัญหาน้ำรั่วเข้าระบบเกียร์ด้วย
ผมสั่ง Oil Gear ของศูนย์ไป ไม่รู้จะแย่กว่าของ Aftermarket หรือเปล่า ดูจากที่บอกแล้วเหมือนจะแย่กว่าเลย :'( :'(
ตรงนี้ผมไม่มั่นใจเหมือนกันว่าของศูนย์หรือออยเกียร์แต่งอันไหนจะดีกว่ากันครับเพราะ บางยี่ห้ออออยเกียร์แยกก็ทนกว่าของแต่ง บางยี่ห้อรั่วง่ายแถมดีออยเกียร์แบบที่ใช้น้ำร้อนระบายไม่มากครับ ลองจับใส่ดูก่อนครับ แต่ผมว่านะเครื่อง 2.0 น่าจะใส่ออยเกียร์แยยก แบบ 16 ชั้นหรือ 20 ชั้นไปเลยครับ ติดพัดลมระบายด้วยน่าจะหมดห่วงความร้อนของเกียร์ครับ
ผมสั่งของศูนย์มาใส่ Forester เรียบร้อยแล้วครับ คงลองเอาของติดรถ (น่าจะติดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของตัว XT) มาใช้ดูก่อนครับ มีก็มีดีกว่าไม่มี พอดีทางศูนย์สั่งให้แบบไม่ต้องมัดจำครับ จะผิดคำพูดไม่ได้ ถ้าไม่โอเคก็ถอดออกเอา
อย่าลืมตัดระบบน้ำร้อนที่มาอุ่นเกียร์ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ ตอนติดตั้งจะแจ้งกับช่างศูนย์ครับ
หัวข้อ: Re: ปีนี้ซ่อมรถญี่ปุ่น 2 คันไป 9 หมื่นกว่าบาทแล้ว ควรปล่อยแล้วซื้อใหม่หรือเก็บยาว
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ มีนาคม 10, 2021, 01:23:22
คุณdeertesiaเทียบไม่ได้กับคุณOxygen2แน่นอนครับ ผมอ่านรีวิวคุณOxygen2ทีไร ชวนนึกถึงเพื่อนรุ่นน้องสมาชิกSKlasseclubที่เป็นนักขับรถแข่งนอกเหนือจากงานประจำที่เป็นทายาทโรงเหล็กด้วย น้องเค้าขับเร็วมาก จำได้ว่าใช้เวลาขับS Classจากปิ่นเกล้ามาสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา20นาที พวกผมอุทานว่า OMG! อีกครั้งตอนเพื่อนทำรถC36 AMGแล้วให้เค้าลองขับโดยมีพวกผมกับเจ้าของรวม4คนเพื่อลองบนถนนศรีนคริทร์ ความรู้สึกบอกได้แบบนี้ครับ โคตรเร็ว แต่โคตรชัวร์ ตามด้วยโคตรน่ากลัวเลย เจ้าของรถยังพูดติดตลกเลยว่า ถัาเป็นอะไรไปทั้งรถคันนี้รวมกันค่าตัวธุรกิจเกินร้อยล้านว่ะ เค้าขับเร็วจริงๆแบบรีดทุกอย่างจากรถออกมาทั้งกำลังเครื่อง เกียร์ เบรค เวลานั้นเข้าใจเลยว่านักแข่งรถเค้าขับกันเร็วขนาดไหน คนทั่วไปทำไม่ได้ครับ โหดมาก ขอบอก
พอดีผมขับรถตอนดึกๆ ต่างจังหวัดครับ ก็เลยไปเร็วมาเร็ว  :-X ถ้าวิ่งในเมือง ทางไม่โล่งตอนนี้เน้นขับเรื่อยๆ ครับ (เพราะขับเร็วมันขึ้น AT Oil Temp)

จะว่าไปก็ถามพี่วีเรื่องค่าบำรุงรักษารถ Luxury มาหลายปีแล้ว ผมยังเอื้อมไม่ถึงเลยครับ  :)

ปล. ผมขอแอบบอกเรื่องทำเวลาของผมบ้างดีกว่า ผมขับจากบ้านที่เหม่งจ๋ายไปอ.เมือง จันทบุรี ขับตอนดึกๆ ไม่มีรถ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วย Legacy GT ถ้าถนนไม่โล่งนี่น่ากลัวมาก แล้วมีทีนึงคู่ค้าผมมาไทย ผมขับรถให้เอง ผมขับประมาณ 200 บน 520d เค้าดูตื่นเต้นมาก เพราะว่าในเมืองจีนเค้าไม่เคยขับเกิน 110 แม้รถเค้าจะเป็น 528Li กับ CLA45
555 เป็นไปตามที่ผมคาดเลย จริงๆแล้วคุณOxygen2ชอบทำเวลาต้องใช้รถระดับHigh performanceอย่างเดียวแล้วละครับ
คำนวณง่ายๆจากเหม่งจ๋ายไปตัวเมืองจันทน์ 242 กม. เวลาเท่านี้เฉลี่ย 145 กม./ชม. ถ้าไม่พูดว่าเร็วมากๆก็ไม่รู้จะเปรียบอย่างไรแล้วละครับ แบบนี้ใช้รถคุ้มสมรรถนะจริงๆ
ตอนนี้แค่ถนนโล่งถึงขับเร็วครับ ตอนดึกๆ ออกจากกรุงเทพสัก 4 ทุ่ม ถนนต่างจังหวัดปิดไฟแดงเป็นไฟเหลืองหมด ไม่ติดสักแยกครับ

ถ้าขับกลางวันปกติจะหงุดหงิดมาก ตอนนี้เลยเลี่ยงๆ ขับรถกลางวัน แต่ถ้าวิ่งในกรุงเทพกลางวัน กลายเป็นคนขับรถเรียบร้อยแล้วครับ ไม่ขับเร็วแล้ว ไปเรื่อยๆ ขับเร็วไปก็เท่านั้น เดี๋ยวก็เจอรถติดครับ  :-X