Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: demo2 ที่ มีนาคม 15, 2021, 20:57:08
-
มีญาติจะออกรถใหม่ SUV เท่าที่สนใจก็ CRV Forester CX8 ครับ
*เรื่องค่าตัวปรับเปลี่ยนได้ในงบล้านต้นๆถึงล้านกลางๆ
*ใช้งาน 4 คนเป็นหลัก ออกเที่ยวรอบๆกรุงเทพบ่อยแถวประจวบ เพชรบุรี เมืองกาญ ตาก ขนเต๊นท์ไปกาง
*เรื่องรูปร่างรับได้หมดทั้ง3คันแม้ forester จะดูโบราณกว่าเพื่อน
*สไตล์การขับไม่เร็ว ไม่ปาด ไปเรื่อยๆ ขับเร็วสุดก็ 120-130
*อยู่คอนโคชาร์ทแบตไม่ได้
*ใช้ยาวอย่างน้อย 7 ปี เข้าศูนย์ ไม่อู่นอก
คันก่อน freed ใช้จนจะพังละ เริ่มมีอะไหร่ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆและก็ราคาแรงใช้ได้
**เรียนถามท่านๆเพื่อประกอบการตัดสินใจ ใจเอียงไป forester หน่อย ด้วยความที่ที่บ้านเคยใช้ CRV gen 2 และ 3 มาก่อน ซึ่งเป็นรถที่ดีไม่จุกจิกเลย ใช้จนขายให้ญาติเฉยๆเพราะอยากได้คนใหม่ จึงอยากลองแบรนด์ใหม่ และก็พวกระบบช่วยเหลือความปลอดภัยดูเยอะกว่าหน่อย
-
Forester เข้าเงื่อนไขเกือบทุกข้อครับ ยกเว้นข้อเดียวคือ
"ใช้ยาวอย่างน้อย 7 ปี เข้าศูนย์ ไม่อู่นอก"
คือ Forester นี่อันดับแรกครับ ณ 7 ปีในอนาคตนี่ราคาร่วงกราวแน่นอนแบบไม่ต้องคิดเยอะครับ ถ้ารับได้ประเด็นนี้ผ่านได้เลย
อีกประเด็นคือ 7 ปีมันมีงานซ่อมอยู่แล้วครับ กับปัญหาประจำรุ่น พอดีส่วนตัวผมใช้ SJ แต่ปัจจุบันเป็น SK ผมก็ไม่ค่อยได้ตามว่ามีปัญหาประจำรุ่นอะไรไหม ช่างศูนย์บางที่ก็อาจจะไม่เชี่ยวชาญมากมายนัก ถ้ากรณีซ่อมใหญ่ หรือปัญหาใหญ่อ่ะครับ เพราะรถยังวิ่งน้อยด้วยแหละครับ อีกอย่างคนใช้ Forester มักจะสนใจเรื่องรถแบบเข้ากระแสเลือดพอสมควร และมีความรู้เรื่องรถอยู่ประมาณนึงเลยครับ
ส่วนข้อที่เหลือมันผ่านฉลุยอยู่แล้ว
สิ่งที่ต้องพิจารณามีแค่นี้ครับ
ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ
-
Forester เข้าเงื่อนไขเกือบทุกข้อครับ ยกเว้นข้อเดียวคือ
"ใช้ยาวอย่างน้อย 7 ปี เข้าศูนย์ ไม่อู่นอก"
คือ Forester นี่อันดับแรกครับ ณ 7 ปีในอนาคตนี่ราคาร่วงกราวแน่นอนแบบไม่ต้องคิดเยอะครับ ถ้ารับได้ประเด็นนี้ผ่านได้เลย
อีกประเด็นคือ 7 ปีมันมีงานซ่อมอยู่แล้วครับ กับปัญหาประจำรุ่น พอดีส่วนตัวผมใช้ SJ แต่ปัจจุบันเป็น SK ผมก็ไม่ค่อยได้ตามว่ามีปัญหาประจำรุ่นอะไรไหม ช่างศูนย์บางที่ก็อาจจะไม่เชี่ยวชาญมากมายนัก ถ้ากรณีซ่อมใหญ่ หรือปัญหาใหญ่อ่ะครับ เพราะรถยังวิ่งน้อยด้วยแหละครับ อีกอย่างคนใช้ Forester มักจะสนใจเรื่องรถแบบเข้ากระแสเลือดพอสมควร และมีความรู้เรื่องรถอยู่ประมาณนึงเลยครับ
ส่วนข้อที่เหลือมันผ่านฉลุยอยู่แล้ว
สิ่งที่ต้องพิจารณามีแค่นี้ครับ
ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ
ขอบคุณมากครับ
-
ใช้ ตัวเก่า SJ มาก่อนครับ เมื่อปีที่แล้วออก SK มา ใช้งานมาประมาณ 20,000 กว่า ยังไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ ส่วนตัวก่อนผมซื้อ ผมไปลองหมดทั้ง CRV Cx5 ผมประทับใจ Forester และ Cx5 สุดครับ โดยเฉพาะช่วงล่างและพวงมาลัย ถ้าชอบติดแข็งๆไป Cx5 แต่ตอนนั้นผมไม่มั่นใจศูนย์บริการ และปัญหาต่างๆ เลยจบกับ Forester SK ตัวรองท๊อป ผมซื้อตอนโควิดพีคๆ ได้มา 1.15 ครับ
ส่วน CRV ภรรยาผมชอบมากไปลองแล้วปรากฎไม่ประทับใจอะไรเลย เสียงดังมากทั้งเครื่อง ทั้งลมและเสียงจากถนน ส่วนช่วงล่างกระเด้งกระดอน ลองเสร็จก็กลับบ้านเลย
พอมาลอง SK วนรอบเดียวจองเลย ช่วงล่างอย่างที่คุณแพนบอกเลย หนึบแต่มีมาชเมลโล่อยู่ด้านบนคือตรงใจมากๆนิ่มนวลสบายเก็บซัพแรงกระแทกดีมาก และพวงมาลัยคมไวนะครับ เก็บเสียงดีพอๆกับ Cx5 สรุปคือตอนนี้ทุกคนชอบนั่งรถตู้ปลาคันนี้มากๆ
แต่ต้องเตือนไว้ก่อนครับ ค่าซ่อมถ้าซ่อมศูนย์ก็จบได้ ฝากได้เลยครับไม่ต้องห่วง แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าโตต้า ฮอนด้าแน่นอน อะไหล่ค่อนข้างแพง พอๆกับมาสด้าเลย แต่ผมมาจากยุโรปอู่นอกเลยยังไงก็ถูกกว่าแน่นอนไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ แต่ถ้ามาจากฮอนด้าอาจจะมีงงๆได้เพราะ XV รุ่นแรกผมอีกคันก็เริ่มมีซ่อมจามระยะแล้ว ราคาค่าซ่อมก็แพงอยู่นะครับ แต่ไม่จุกจิกเปลี่ยนแล้วก็จบ
หวังว่าคงช่วยได้นะครับ ขอให้ได้รถที่ถูกใจไวๆครับ
-
ถ้าไม่ได้เน้นสมรรถนะ ช่วงล่าง การขับขี่ การยัดโค้ง ผมว่าไม่มีเหตุผลจะเลือกแบรนด์ Subaru เลยนะครับ
-
ถ้าไม่นับว่าอยากลองยี่ห้อใหม่ จากความต้องการที่ผมเห็น คิดว่า CRV เหมาะสุดครับ คุ้นเคยกันอยู่แล้วด้วย
ระหว่าง CX8 กับ Forester ตัวผมเองคงไปตัวแรก เพราะชอบทรงมากกว่า (ทั้งที่ชอบ Subaru มากเป็นการส่วนตัว) แต่ถ้ารับได้อยู่แล้ว จะไป Forester ก็เป็นรถที่ดี ตามจุดประสงค์ของตัวรุ่นครับ
โชคดีครับ
-
ผมก็ถอย forester sk มาได้ ปีนึงแล้ว เป็น subaru คันแรก
1. ยิ่งขับยื่งชอบครับ รถเกาะทรงตัวดี ระบบความปลอดภับดี รุ่น es นะครับ ตอนนี้เปืดระบบ hi beam assisst ได้ด้วย
2. ห้องโดยสารนั่งกว้างขวางกว่า crv /ของแต่งเพียบในเวปมีขายเยอะเลย
3. maintainance ราคาผมว่าแพงกว่า honda ไม่มาก ระยะยาวเสียหาอู่นอกได้ไม่ยากส์
ผมเคยใช้มาทั้ง toyota honda bmw kia เจอ service แพงกว่า subaru อีก ไปลองขับก่อนดีกว่า เค้าว่าเสร็จทุกรายสำหรับคนชอบขับรถ ในเวบคนใช้มักเป็นคนที่ชอบ+มีความรู้เรื่องรถเยอะ
-
ผมใช้ SK EYESIGHT มาเกือบ 2ปีแล้วครับ
อัตราเร่ง ใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหา
ช่วงล่าง นุ่มนวล เกาะโค้งดี
ภายในห้องโดยสารนั่ง 4 คน สบาย ไม่อึดอัด
เข้าศูนย์เช็คระยะ ค่าใช้จ่ายแพงกว่า CRV G4 ไม่มาก
ระบบช่วยขับ ใช้งานได้ดีตามวัตถุประสงค์
มีข้อติที่เครื่องเสียงที่ติดรถมา
แนะนำให้ลองขับ ความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ :)
-
ก่อนซื้อ Forester 2016 ตอนนั้นลองคู่แข่งทุกยี่ห้อแล้วไม่ถูกใจเลย เหลือซูยี่ห้อสุดท้ายเลยลองดู ลองแล้วจองเลย ผมว่าเหนือกว่าคู่แข่งหมด ข้อด้อยมีแค่ตีนต้นอืดหน่อย แต่ลอยตัวแล้วโอเค กับศูนย์น้อยและค่าดูแลแพงกว่าบ้างแต่ไม่มาก กับกินน้ำมันเพราะขับสี่ แต่ใช้แล้วพอใจมาก ตัวรถเองไม่มีปัญหาจุกจิกเลย การทรงตัวดีกว่าญี่ปุ่นด้วยกันน้องๆยุโรปเลย ได้ใช้เองแล้วรู้สึกว่าเป็นรถที่เขาตั้งใจออกแบบและทำมาอย่างดีเท่าที่คุมต้นทุนไหว ตัวใหม่ SK ประกอบไทยและอุปกรณ์ความปลอดภัยจัดเต็ม เป็นผมเนี่ยไม่มองยี่ห้ออื่นแล้วครับ ลองไปขับซิ่งดูหน่อยแล้วจะรู้เองครับ
-
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ สำหรับคิดเห็นดีๆ
ไปลองมาแล้วสองคัน คือ CRV กับ forester
ถ้าการขับขี่เจ้าของเงินและคนขับ(ผู้หญิง) เขาชอบ forester มากกว่าครับ ส่วน CX8 ยังไม่ได้ลองแต่ก็กลัวเจอแจ็คพอร์ตเหมือนกันครับ คืบหน้าอย่างไรจะอัพเดทให้ฟังครับผม
ปล forester ตัวนี้ออกมานานยังครับ มีแนวโน้ม minor or model change เร็วนี้ไหมครับ ผมไม่ได้ติดตามซุบารูเท่าไหร่ครับ
-
ใช้ SJ มา 5 ปีแล้วครับ
ในใจลึก ๆ อยากจะเชียร์ให้ไป CRV
แต่เจอประโยคลงท้ายที่ว่าอยากจะลองยี่ห้อใหม่
ประกอบกับ เงื่อนไข จขกท ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของ Forester
อะไหล่ Subaru บางอย่างก็ถูกเหลือเชื่อ เช่น บูชยางช่วงล่าง
บางอย่างก็ราคาสูง เช่น โคมไฟหน้า คอมแอร์
-
คหสต. ค่าอะไหล่/บริการ subaru แพงระดับรถยุโรป
เคยเล็ง subaru ไว้ ไปเทสด้วย ข้อเสียที่สุดของ forester คืออืดไปหน่อย
สุดท้ายเลยคิดว่าออกรถยุโรปไปเลยดีกว่า(มี bsi ฟรี 5 ปี)
แต่ถ้าอยากได้รถญี่ปุ่น ก็จะซื้อ โตโยต้า หรือ ฮอนด้า สบายกระเป๋ากว่าในระยะยาว
-
คหสต. ค่าอะไหล่/บริการ subaru แพงระดับรถยุโรป
เคยเล็ง subaru ไว้ ไปเทสด้วย ข้อเสียที่สุดของ forester คืออืดไปหน่อย
สุดท้ายเลยคิดว่าออกรถยุโรปไปเลยดีกว่า(มี bsi ฟรี 5 ปี)
แต่ถ้าอยากได้รถญี่ปุ่น ก็จะซื้อ โตโยต้า หรือ ฮอนด้า สบายกระเป๋ากว่าในระยะยาว
ถามนิดนึงครับ ค่าซ่อมแพงระดับยุโรปนี่ ยุโรปยี่ห้อไหนรุ่นไหนครับ
ถ้านับกันจริงๆ ควรจะนับหลัง BSI หมดมั้ยครับ เพราะค่าตัวตอนนี้ ตัวรองท๊อปหลังส่วนลดน่าจะได้ 1.25 ตัวท๊อปน่าจะได้ 1.35
ยุโรปที่ถูกที่สุดตอนนี้ก็น่าจะ GLA หรือ X1 1.99 ต่างกัน 6-7แสน จะไม่เอามาคิดส่วนต่างเลยหรือครับ
แล้วถ้าบอกว่า 1.99 ได้ยุโรปตัวเริ่มต้น มันมีดีและมันมีแย่กว่า Forester หลายจุดเยอะเลยนะครับ
ส่วนหลัง BSI หมด ถ้าบอกค่าซ่อมเท่าซูบารุ ช่วยแนะนำผมที ผมจะไปหามือสองมาใช้บ้างครับ แล้วที่เอ่ยมาเทียบยังไงครับ
อู่นอกยุโรปแล้วไปลุ้นเอากับเจ้าของอู่ เทียบกับศูนย์ซุบารุ หรือ ศูนย์เหมือนกันทั้งคู่ หรือ อู่นอกทั้งคู่
ถ้าเคยใช้จริงๆ ช่วยแนะนำผมทีครับ
-
อีกซักพัก น่าจะไม่นานมากผมว่าน่าจะมี Minor Change เร็วๆ นี้
สำหรับผมอันนี้ความคิดส่วนตัวนะครับ
- ความเร็วต้นอืดๆ เหนื่อยๆ หน่อย ถ้าเลย 60 ไป กดแล้วก็ไหลครับ
- ศูนย์บริการน้อย
- กระจกด้านหน้า ด้านข้าง มองเห็นทัศนวิสัย รอบด้านได้ดี
- เครื่องเสียงติดรถ เสียงออกมาเหมือนคุยโทรศัพท์ ถ้าไม่ใช่หูทองมากก็โอเคครับ
- เรื่องการออกแบบด้านนอกไม่ออกความเห็นนะครับ อันนี้แล้วแต่คนชอบ บางคนบอกสวย บางคนบอกแก่ บางคนบอกเชย ก็แล้วแต่
- เรื่องประหยัดน้ำมัน ขับยังไงก็ได้ดีสุดแค่ 12-14 km/l ครับ สำหรับ ตจว. สำหรับใน กทม. น่าจะต่ำกว่านี้
- ค่าใช้จ่ายเช็คระยะ ราคาสูงนิดหน่อย แต่ไม่มาก ต้องรอเป็นช่วง บางช่วงศูนย์จะจัดโปรลด 10% บ้าง 20% บ้าง
- ใช้งาน 4 คนสบายครับ leg room ด้านหลัง มีแต่คนขึ้นมานั่งแล้วบอกนั่งสบายมาก
-
เพลย์เซฟ = CRV
สมรรถนะ = Forester
นั่งสบาย กว้าง ช่วงล่างไม่แย่ = CX-8
จขกท. ไม่น่ามีปัญหาเรื่องซ่อมบำรุงและการขายต่อเท่าไหร่ ฉะนั้นจัดตามคาแร็คเตอร์รถที่อยากได้เลยครับ
-
ถ้าเคยใช้ CRV G2 3 Freed มาก่อน ถ้าชอบความโปร่ง โล่ง โถง ผมว่า CRV G5 cx8 ไม่ตอบโจทย์ครับ
ผมชอบโถงๆ ของ Forester มาก ติดที่แม้บ้านไม่ชอบ เลยจบ CX8 ครับ
แต่ก็เชียร์เพื่อนไปออก มา 2 คัน แฮปปี้ดีครับ ค่าอะไหล่แพงกว่า อะไหล่บางชิ้นดูเหมือนไม่ทนเท่า ฮอนด้าครับ
-
คนใช้ชอบ Forester ก็ไป Forester แหละ รถไม่ได้น่ากลัวอะไร
ข้อมูลจาก SJ ไมล์เกินแสนกม. ก็จะมีพวก หม้อน้ำ / ตู้แอร์ / โซลินอยด์เกียร์ พังครับ แต่หาเทียบได้ มือสองได้ ไม่แพงนะ แอบบ่นๆว่า อายุมันสั้นไปหน่อย ถ้าเทียบกับ CR-V ถ้าไม่นับ 3 ตัวนี้ รถไม่มีงอแงครับ (เพื่อนใช้ SJ และ ขายไปละ แสนกว่ากม.)
SK ที่เห็นในคลับ หลายท่านจะบ่นเรื่องเบาะ ลองให้มั่นใจอีกทีนะ ถ้าไม่มีปัญหาก็ลุยเลย
-
จากใจคนใช้ CR-V ที่เคยไปลองขับ Forester
CR-V งานประกอบ ก็รู้ๆกันอยู่ ระยะห่างช่องไฟเอย
เสียงก๊อกๆแก๊กๆเอย การเก็บเสียงยางบดถนนเอย
เสียง PCV Valve ไหนจะ แร็คอีก ช่วงล่างอีก
แค่ฮอนด้าเค้ารับผิดชอบความผิดของงานได้ดีพอควร (ไม่ดีมาก)
ตามเงื่อนไขข้างต้น Forester จบสุด ตรงทุกความต้องการ
นิ่ง เงียบ ลุย ออปชั่นมี หากท่านจะเข้าศูนย์ตลอด 7 ปี +
ต้องแน่ใจว่ามีศูนย์ ซูบารุใกล้บ้านท่านด้วยครับ
-
ถ้าใช้ขนเต้นท์ไปกาง Forester ผมว่าเหมาะเลยนะ
ด้านหลังรถมีที่เสียบชาร์จไฟได้ด้วย
ตัวรถไม่มีปัญหาใหญ่ๆให้น่ากังวล (ณ ตอนนี้)
-
ถ้ายังหา cx8 2.5 ราคาล้านสองได้ ถือว่าคุ้มค่า น่าซื้อเป็นที่สุด
-
คหสต. ค่าอะไหล่/บริการ subaru แพงระดับรถยุโรป
เคยเล็ง subaru ไว้ ไปเทสด้วย ข้อเสียที่สุดของ forester คืออืดไปหน่อย
สุดท้ายเลยคิดว่าออกรถยุโรปไปเลยดีกว่า(มี bsi ฟรี 5 ปี)
แต่ถ้าอยากได้รถญี่ปุ่น ก็จะซื้อ โตโยต้า หรือ ฮอนด้า สบายกระเป๋ากว่าในระยะยาว
ถามนิดนึงครับ ค่าซ่อมแพงระดับยุโรปนี่ ยุโรปยี่ห้อไหนรุ่นไหนครับ
ถ้านับกันจริงๆ ควรจะนับหลัง BSI หมดมั้ยครับ เพราะค่าตัวตอนนี้ ตัวรองท๊อปหลังส่วนลดน่าจะได้ 1.25 ตัวท๊อปน่าจะได้ 1.35
ยุโรปที่ถูกที่สุดตอนนี้ก็น่าจะ GLA หรือ X1 1.99 ต่างกัน 6-7แสน จะไม่เอามาคิดส่วนต่างเลยหรือครับ
แล้วถ้าบอกว่า 1.99 ได้ยุโรปตัวเริ่มต้น มันมีดีและมันมีแย่กว่า Forester หลายจุดเยอะเลยนะครับ
ส่วนหลัง BSI หมด ถ้าบอกค่าซ่อมเท่าซูบารุ ช่วยแนะนำผมที ผมจะไปหามือสองมาใช้บ้างครับ แล้วที่เอ่ยมาเทียบยังไงครับ
อู่นอกยุโรปแล้วไปลุ้นเอากับเจ้าของอู่ เทียบกับศูนย์ซุบารุ หรือ ศูนย์เหมือนกันทั้งคู่ หรือ อู่นอกทั้งคู่
ถ้าเคยใช้จริงๆ ช่วยแนะนำผมทีครับ
Volvo XC40 แพงกว่า forester แต่ Volvo พรีเมียมกว่าเยอะ ออฟชั่นจัดเต็มกว่าด้วย
แน่นอนว่าค่าสู่ขอ Volvo แพงกว่า แต่ค่าดูแลรักษาไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่ (ผมใช้ Volvo อยู่ Volvo หลังปี 2015 มันไม่ได้จุกจิกนะ)
จะเทียบแบบเข้าศูนย์ หรือ เข้าอู่ก็ตาม สิ่งที่ต้องคิดหนักคือค่าอะไหล่/ชิ้นส่วน ผมว่าอะไหล่ subaru แพงเกินรถญี่ปุ่นนะ
ถ้าไม่อยากเปลืองค่าสู่ขอก็เอารถญี่ปุ่น ส่วนใหญ่คงสบายใจกว่า กระเป๋าใครกระเป๋ามันอยู่แล้ว
....แต่จะไม่เสียดายหรือ ได้รถญี่ปุ่นแต่ต้องจ่ายค่าอะไหล่ระดับรถยุโรป? (ในขณะที่ toyota honda อะไหล่ถูกกว่า)
-
ขอ share ประสบการณ์บ้างครับ ผมเป็นเจ้าของ subaru forester SJ 2.0 ip ปี 2016 ใช้อยู่ใน จ.เชียงใหม่ ครับ ตั้งแต่ใช้มา เกือบ 5 ปี ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ มีแค่เรื่องเสียงยางขอบประตูดัง รถเข้าศูนย์ตามระยะเท่านั้น ยังไม่พังใดๆ (ใช้รถน้อย เลยยังไม่ค่อยมีปัญหา) ตามคลับก็จะมีปัญหาเรื่อง คอมแอร์ ตู้แอร์ พวงมาลัยลอก และอะไหล่มาเลเซียเสื่อมเร็ว ซึ่งก็ต้องหาแหล่งซ่อม หรือเคลมไป และมีพวกอะไหล่สิ้นเปลือง บูช ช่วงล่าง ที่เสื่อมไว แต่ราคาไม่แพง กับลูกปืนหลังเสื่อมไวไปหน่อยในบางคันครับ ถ้ารับได้ก็ไม่น่ามีปัญหา
แต่ที่หนักๆ ในคลับคือสมองเกียร์ ที่ไมล์เกิน 100,000 อาจจะโดน ก็คงต้องพึ่งอู่นอก ครับ (SJ นะครับ)
สิ่งที่ต้องคิดคือ ศูนย์ใกล้บ้าน ดีมั้ย เพราะตัวรถนั้นดี ครับ ไม่จุกจิกเท่าไร ถ้าศูนย์ดี ทุกอย่างจะดีเอง ปัญหาจบ ครับ ถึงแม้ค่าบำรุงรักษาจะมากหน่อย แต่ก็ไม่ได้เวอร์เท่ายุโรปครับ
ถ้าใช้รถตามระยะรับประกัน คือปีละไม่เกิน 20,000 km ผมว่าเข้าศูนย์สบายๆ เลยครับ จ่ายแพงกว่าแบรนด์ตลาดนิดหน่อย ช่วงปีที่ 6 กับ 7 ไมล์ถึงแสน อาจจะต้องจ่ายพวก ช่วงล่าง บ้าง และอื่นๆ บ้าง คงต้องลุ้นเอาครับ เรื่องสมองเกียร์ ยังไม่เจอใน SK ตัวใหม่ ครับ ต้องดูกันอีกที
สรุป forester ไม่จุกจิกครับ ต้องหาศูนย์ดีๆ พึ่งพาได้ และใช้ในระยะยาว ได้ครับ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายมากกว่ารถทั่วไปหน่อยนึงครับ
-
คหสต. ค่าอะไหล่/บริการ subaru แพงระดับรถยุโรป
เคยเล็ง subaru ไว้ ไปเทสด้วย ข้อเสียที่สุดของ forester คืออืดไปหน่อย
สุดท้ายเลยคิดว่าออกรถยุโรปไปเลยดีกว่า(มี bsi ฟรี 5 ปี)
แต่ถ้าอยากได้รถญี่ปุ่น ก็จะซื้อ โตโยต้า หรือ ฮอนด้า สบายกระเป๋ากว่าในระยะยาว
ถามนิดนึงครับ ค่าซ่อมแพงระดับยุโรปนี่ ยุโรปยี่ห้อไหนรุ่นไหนครับ
ถ้านับกันจริงๆ ควรจะนับหลัง BSI หมดมั้ยครับ เพราะค่าตัวตอนนี้ ตัวรองท๊อปหลังส่วนลดน่าจะได้ 1.25 ตัวท๊อปน่าจะได้ 1.35
ยุโรปที่ถูกที่สุดตอนนี้ก็น่าจะ GLA หรือ X1 1.99 ต่างกัน 6-7แสน จะไม่เอามาคิดส่วนต่างเลยหรือครับ
แล้วถ้าบอกว่า 1.99 ได้ยุโรปตัวเริ่มต้น มันมีดีและมันมีแย่กว่า Forester หลายจุดเยอะเลยนะครับ
ส่วนหลัง BSI หมด ถ้าบอกค่าซ่อมเท่าซูบารุ ช่วยแนะนำผมที ผมจะไปหามือสองมาใช้บ้างครับ แล้วที่เอ่ยมาเทียบยังไงครับ
อู่นอกยุโรปแล้วไปลุ้นเอากับเจ้าของอู่ เทียบกับศูนย์ซุบารุ หรือ ศูนย์เหมือนกันทั้งคู่ หรือ อู่นอกทั้งคู่
ถ้าเคยใช้จริงๆ ช่วยแนะนำผมทีครับ
Volvo XC40 แพงกว่า forester แต่ Volvo พรีเมียมกว่าเยอะ ออฟชั่นจัดเต็มกว่าด้วย
แน่นอนว่าค่าสู่ขอ Volvo แพงกว่า แต่ค่าดูแลรักษาไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่ (ผมใช้ Volvo อยู่ Volvo หลังปี 2015 มันไม่ได้จุกจิกนะ)
จะเทียบแบบเข้าศูนย์ หรือ เข้าอู่ก็ตาม สิ่งที่ต้องคิดหนักคือค่าอะไหล่/ชิ้นส่วน ผมว่าอะไหล่ subaru แพงเกินรถญี่ปุ่นนะ
ถ้าไม่อยากเปลืองค่าสู่ขอก็เอารถญี่ปุ่น ส่วนใหญ่คงสบายใจกว่า กระเป๋าใครกระเป๋ามันอยู่แล้ว
....แต่จะไม่เสียดายหรือ ได้รถญี่ปุ่นแต่ต้องจ่ายค่าอะไหล่ระดับรถยุโรป? (ในขณะที่ toyota honda อะไหล่ถูกกว่า)
ขอบคุณครับ XC40 ค่าตัว 2.2 ล้าน Forester 1.2 ล้าน ต่างกัน 1 ล้าน สำหรับผมคงไม่ใช้คำว่าเสียดายหรอกครับมันดูแปลกๆ ถ้าค่าตัวต่างกัน 2 แสน แบบ 1.9 กับ 2.2 ผมถึงจะเสียดายครับ
แต่ประเด็นที่ผมเปิดคือ คุณกล่าวว่ารถราคาล้านกว่าบาท จะใช้ทำไม ค่าซ่อมพอๆกับรถราคา 2 ล้าน ซึ่งถ้ามันเป็นเรื่อง จริง มันก็แปลก
อ่ะครับ แต่พอเอาจริงๆ คุณใช้คำว่า ไม่น่าจะ ต่างกันแสดงว่ายังไม่เคยผ่านการใช้ทั้งสองแบบเกิน 7 ปี ยังไม่เคยจ่ายค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อมทั้งสองแบบ อาจจะเอาแค่ราคาอะไหล่มาเทียบๆกันแค่นั้นรึเปล่าครับ ซึ่งส่วนตัวผมผ่านมาแล้วและมันต่างกันเยอะมากใน 1 ปีที่ต้องจ่ายไป กระทู้นี้เค้าก็บอกแล้ว ขอท่านที่ใช้ ขอข้อมูลจริงๆครับ
ขอบคุณครับ
-
ตั้งแต่ใช้มาเพิ่งรู้ว่า Subaru ราคาอะไหล่เท่ารถยุโรป
พอจะยกตัวอย่างได้ไหมครับว่า เอาซัก 2-3 ชิ้นก็ได้ครับ ที่ราคารถญี่ปุ่นมันไม่ make sense
-
คหสต. ค่าอะไหล่/บริการ subaru แพงระดับรถยุโรป
เคยเล็ง subaru ไว้ ไปเทสด้วย ข้อเสียที่สุดของ forester คืออืดไปหน่อย
สุดท้ายเลยคิดว่าออกรถยุโรปไปเลยดีกว่า(มี bsi ฟรี 5 ปี)
แต่ถ้าอยากได้รถญี่ปุ่น ก็จะซื้อ โตโยต้า หรือ ฮอนด้า สบายกระเป๋ากว่าในระยะยาว
ถามนิดนึงครับ ค่าซ่อมแพงระดับยุโรปนี่ ยุโรปยี่ห้อไหนรุ่นไหนครับ
ถ้านับกันจริงๆ ควรจะนับหลัง BSI หมดมั้ยครับ เพราะค่าตัวตอนนี้ ตัวรองท๊อปหลังส่วนลดน่าจะได้ 1.25 ตัวท๊อปน่าจะได้ 1.35
ยุโรปที่ถูกที่สุดตอนนี้ก็น่าจะ GLA หรือ X1 1.99 ต่างกัน 6-7แสน จะไม่เอามาคิดส่วนต่างเลยหรือครับ
แล้วถ้าบอกว่า 1.99 ได้ยุโรปตัวเริ่มต้น มันมีดีและมันมีแย่กว่า Forester หลายจุดเยอะเลยนะครับ
ส่วนหลัง BSI หมด ถ้าบอกค่าซ่อมเท่าซูบารุ ช่วยแนะนำผมที ผมจะไปหามือสองมาใช้บ้างครับ แล้วที่เอ่ยมาเทียบยังไงครับ
อู่นอกยุโรปแล้วไปลุ้นเอากับเจ้าของอู่ เทียบกับศูนย์ซุบารุ หรือ ศูนย์เหมือนกันทั้งคู่ หรือ อู่นอกทั้งคู่
ถ้าเคยใช้จริงๆ ช่วยแนะนำผมทีครับ
Volvo XC40 แพงกว่า forester แต่ Volvo พรีเมียมกว่าเยอะ ออฟชั่นจัดเต็มกว่าด้วย
แน่นอนว่าค่าสู่ขอ Volvo แพงกว่า แต่ค่าดูแลรักษาไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่ (ผมใช้ Volvo อยู่ Volvo หลังปี 2015 มันไม่ได้จุกจิกนะ)
จะเทียบแบบเข้าศูนย์ หรือ เข้าอู่ก็ตาม สิ่งที่ต้องคิดหนักคือค่าอะไหล่/ชิ้นส่วน ผมว่าอะไหล่ subaru แพงเกินรถญี่ปุ่นนะ
ถ้าไม่อยากเปลืองค่าสู่ขอก็เอารถญี่ปุ่น ส่วนใหญ่คงสบายใจกว่า กระเป๋าใครกระเป๋ามันอยู่แล้ว
....แต่จะไม่เสียดายหรือ ได้รถญี่ปุ่นแต่ต้องจ่ายค่าอะไหล่ระดับรถยุโรป? (ในขณะที่ toyota honda อะไหล่ถูกกว่า)
ขอบคุณครับ XC40 ค่าตัว 2.2 ล้าน Forester 1.2 ล้าน ต่างกัน 1 ล้าน สำหรับผมคงไม่ใช้คำว่าเสียดายหรอกครับมันดูแปลกๆ ถ้าค่าตัวต่างกัน 2 แสน แบบ 1.9 กับ 2.2 ผมถึงจะเสียดายครับ
แต่ประเด็นที่ผมเปิดคือ คุณกล่าวว่ารถราคาล้านกว่าบาท จะใช้ทำไม ค่าซ่อมพอๆกับรถราคา 2 ล้าน ซึ่งถ้ามันเป็นเรื่อง จริง มันก็แปลก
อ่ะครับ แต่พอเอาจริงๆ คุณใช้คำว่า ไม่น่าจะ ต่างกันแสดงว่ายังไม่เคยผ่านการใช้ทั้งสองแบบเกิน 7 ปี ยังไม่เคยจ่ายค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อมทั้งสองแบบ อาจจะเอาแค่ราคาอะไหล่มาเทียบๆกันแค่นั้นรึเปล่าครับ ซึ่งส่วนตัวผมผ่านมาแล้วและมันต่างกันเยอะมากใน 1 ปีที่ต้องจ่ายไป กระทู้นี้เค้าก็บอกแล้ว ขอท่านที่ใช้ ขอข้อมูลจริงๆครับ
ขอบคุณครับ
ใช่ครับ ผมไม่เคยใช้ subaru แต่เคยคิดจะซื้อจริงจัง ไป test drive ก็ชอบเกือบหมด(ยกเว้น อืด) แต่พอสิงในคลับ forester ก็ได้กระจ่างว่า ค่าบริการ/ดูแล/อะไหล่ มันพอๆกับรถยุโรปไง วัสดุ/คุณภาพก็ไม่ค่อยทนด้วยซ้ำ สุดท้ายก็เลยไม่ซื้อ แต่ได้ยินเหมือนกันว่า forester ไม่จุกจิก ก็เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับ fc subaru ครับ
ใครอยากรู้ราคาอะไหล่รถค่ายไหน รุ่นไหน ไปสิงในคลับนั้นๆเลยครับ
คุณอาจเจอประสบการณ์เลวร้ายฝังใจจากรถยุโรป คุณอาจเลิกเล่นรถยุโรปไปเลยก็ได้ไง
ผมก็เจอนะ รถที่ซ่อมแพง ซ่อมบ่อย แต่ช่วงหลังๆ volvo + bmw ก็สมเหตุสมผลมากขึ้น และผมคิดว่าคนสมัยใหม่ควรเปิดใจ+หาข้อมูล เพื่อรู้ว่ารถยุโรปที่ซ่อมได้โดยไม่ต้องช้ำใจก็มี และรถญี่ปุ่นที่ต้องซ่อมกระเป๋าฉีกก็มี เช่นกัน
บ้านผมใช้ benz w211, slk r172, bmw f10, volvo s60, volvo xc60, hyundai h-1 และรอรับ xc40
ถ้าผมจะใช้รถญี่ปุ่น ก็คาดหวังว่า ค่าอะไหล่จะไม่แพง subaru ทำให้ผมผิดหวัง แค่นี้เองครับ
ผมคาดหวังมากเกินไปเองแหละครับ ขออภัย
สิ่งที่ผมชื่นชมที่สุดเกี่ยวกับ subaru คือ เป็นรถญี่ปุ่นที่พยายามเน้นความปลอดภัยมากที่สุด (แต่คนไม่ค่อยพูดถึงเลย 5555)
-
ตรรกกะง่าย รถยอดขายรองๆๆ ค่าซ่อมบำรุง ค่าอะไหล่ ย่อมจะไม่ถูกแบบรถตลาด
ศูนย์บริการSubaruก็ต้องบวกราคา ค่าแรง ค่าของเหลวเพื่อการอยู่รอด
ถ้าหากไม่ยึดติดว่า การเปลี่ยนของเหลว น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ เฟืองท้าย จะต้องเป็นศูนย์รถ
ศูนย์บริการรถยนต์ตลาดทั่วไป (บีเร็ว ปตท อื่นๆ) ราคาการจ่าย ความเชื่อถือ คุณภาพไว้ใจได้เลย
ถ้าไม่คิดอะไรมาก จะเหลือเงินติดกระเป๋าหลักพันบาทครับ
แต่ถ้าไม่เปลี่ยนใจยังไงก็ต้องศูนย์Subaru (เงินไม่ใข่ปัญหา) ก็อุดหนุนศูนย์รถ กระตุ้นเศรษฐกิจกันไปครับ
ผมผ่านSubaru เชียงแสง สาขาท่าศาลา เชียงใหม่เกือบทุกวัน บางวันได้แวะไปส่งพัสดุ ประเมินอุปสงค์ อุปทาน Subaru กับ Honda แตกต่างกันมากครับ
-
ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งครับ
เท่าที่อ่านมาทุกคอมเม้นต์ จะขอสรุปเองว่า
1 forester เด่นกว่า CRV ในด้านการขับขี่ ช่างล่าง การเก็บเสียงจากพื้นถนนและเสียงจากวัสดุในตัวรถ
2 ข้อด้อยคือ อัตราเร่งช่วงต้นอืดกว่า เข้าศูนย์ราคาน่าจะสูงกว่า CRV อะไหล่ก็น่าจะแพงกว่า แต่คงไม่ถึงขั้นรถยุโรป
3 วัสดุภายในบางอย่างไม่ทน อาจจะเพราะมาจากมาเลย์
4 เรื่องความจุกจิกไม่ต่างกัน คือว่าเป็นรถที่ไม่จุกจิก คงใช้เป็นรถหลักของบ้านได้
5 ราคาขายต่อหลังปีที่ 7 คงตกมากกว่า CRV (แต่อันนี้ส่วนต่างอาจจะพอๆกันกับค่าตัวตอนซื้อที่ถูกกว่า CRV หรือเปล่ายังไม่แน่ใจ(อันนี้ผมคิดเอง ไม่มีใครบอก 555 แต่ราคาขายต่อผมไม่ได้กังวลเท่าไหร่ครับ)
-
ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งครับ
เท่าที่อ่านมาทุกคอมเม้นต์ จะขอสรุปเองว่า
1 forester เด่นกว่า CRV ในด้านการขับขี่ ช่างล่าง การเก็บเสียงจากพื้นถนนและเสียงจากวัสดุในตัวรถ
2 ข้อด้อยคือ อัตราเร่งช่วงต้นอืดกว่า เข้าศูนย์ราคาน่าจะสูงกว่า CRV อะไหล่ก็น่าจะแพงกว่า แต่คงไม่ถึงขั้นรถยุโรป
3 วัสดุภายในบางอย่างไม่ทน อาจจะเพราะมาจากมาเลย์
4 เรื่องความจุกจิกไม่ต่างกัน คือว่าเป็นรถที่ไม่จุกจิก คงใช้เป็นรถหลักของบ้านได้
5 ราคาขายต่อหลังปีที่ 7 คงตกมากกว่า CRV (แต่อันนี้ส่วนต่างอาจจะพอๆกันกับค่าตัวตอนซื้อที่ถูกกว่า CRV หรือเปล่ายังไม่แน่ใจ(อันนี้ผมคิดเอง ไม่มีใครบอก 555 แต่ราคาขายต่อผมไม่ได้กังวลเท่าไหร่ครับ)
Forester ตัวปัจจุบันยังใช้อะไหล่มาเลเหรอครับ