Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lay ที่ เมษายน 03, 2021, 08:54:52
-
ผมเป็นคน1ที่คิดว่ารถยนต์คันต่อไป ต้องเป็นรถไฟฟ้า100%อย่างแน่นอน คือรถคันปัจจุบันอายุ1ปีคิดว่าอีก 4ปีก็น่าจะถึง เวลาที่รถไฟฟ้ามีให้เลือกมากมายหลายรุ่นแล้ว ...และถ้ายังไม่เหมาะไม่ควรด้วยเหตใดๆ ผมก็จะอดทนใช้รถคันเก่าต่อไป อาจจะเป็น5ปี6ปี7ปี8ปี ผมก็จะรอ
-
ถ้ากำลังจะเปลี่ยนรถตอนนี้ ส่วนตัวผมคงจิ้มไปที่ไฮบริทก่อนครับ
-
ผมอีกคนครับ นี่พึ่งออก phev มาอาทิตย์นึง ใช้สัก 4-5 ปี น่าจะพอดีกะ ตู้ชาจพร้อมมากขึ้นทั่วประเทศ
-
ยังครับ เพราะผมยังต้องซื้อกระบะดีเซลมาบรรทุกของ รถไฟฟ้าไม่อนมีทรงกระบะครับ ส่วนมากจะมาทรงเก๋ง กัยsuv
-
เข้ามายกมือครับ ที่มีอยู่ตอนนี้รอได้อีก 4-5 ปีสบายๆ คันต่อไป ไฟฟ้า 100% แต่.....คงไม่ใช่ยี่ห้อจีนล่ะครับ เก็บเงินยาวๆ รอญี่ปุ่น อเมกา หรือยุโรปครับ
-
ผมก็ว่าจะเปลี่ยนรถ แต่ก็ยังไม่ไฟฟ้า 100 %
อาจจะเป็น hybrid หรือน้ำมันปกติ
ไม่ชอบรถไฟฟ้าเท่าไหร่เพราะชาร์จนาน 8)
-
ไม่ซื้อแน่นอนครับ ยังไม่ใช่เวลาของผม เมืองไทยปิคอัพดีเซล PPV ตอบโจทย์ ยิ่งรถตลาดบ้าน ๆ ดีเซลซ่อมถูกกว่าเยอะ หาอะไหล่ง่าย สะดวกสำหรับเราครับ
-
สำหรับผมอีก 2 คันครับ
คันต่อไป ice
อละหลังจากนั้นค่อย ev 100%
น่าจะสัก 10 ปี
รอให้รถ ev สามารถเดินทางออกตจวได้อย่างสะดวกกว่านี้
-
ผมสายกระบะ ppv ไม่ไปไฟฟ้าครับ
-
มีแผนจะเปลี่ยนรถในอีก 8+ ปี ถึงเวลานั้นคงเอารถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นตัวเลือกด้วยแน่นอน
-
อีก 5 ปี ก็ไม่ใช้ครับ แต่ อีก 10 ปีไม่แน่ ตอนนี้ ก็ ซื้อ รถถูกๆ ขับรอไปก่อน
ไม่รวย
ซื้อรถ 1 คัน ผม ใช้
ขนของ ขนคน ลงนา ลงทางลุกรัง เดินทาง เที่ยวทั่วไทย
ไฟฟ้า คือ รถ คันที่ 2 หรือ 3 ถ้า มีเงินซื้อนะ
-
น่าจะยังครับ
แต่ที่แน่ๆ คันต่อไปต้องมี Adaptive cruise control with stop and go ก่อน
-
ยัง แน่นอน ครับ รถ 1 คัน ใช้งานขั้นต่ำ 10 ปี ขึ้นไป
รอ TOYOTA 1.2 / 1.5 Turbo ครับ :) :-X
-
ผมเคยคิดแบบนี้ ตั้งเเต่ ผมยังเรียนไม่จบ
ปัจจุบัน ผ่านมา 6 ปีละ . . . . ยอมเเพ้ละ ซื้อรถคันใหม่ละ กะใช้อีกสัก 10 ปี
ดูสิ รถไฟฟ้าจะพร้อมใช้งานรึยัง!!!!!
-
มาร่วมยืนรอด้วยครับ ผมรอกระบะไฟฟ้าเป็นคันต่อไปครับ แต่คงรออีกสัก 10 ปีก่อนเผื่อจะมีที่วิ่งได้สัก 7-8 ร้อยกิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ในราคาต่ำล้าน
-
ผมครับ แต่รอ 2024 เพราะน่าจะมีตัวเลือกเยอะ และสาธารณูปโภคน่าจะแพร่หลายระดับนึงแล้ว
บวกกับเตรียมติดโซลาร์เซลด้วย
ถึงปี 2024 กะจะขาย MG5 ที่ครบ 9 ปีซัก 5 หมื่นไม่รู้จะมีคนเอามั้ย ถ้าไม่มีอาจจะเอาไปดัดแปลงทำ EV สำรอง
-
ผมครับ กำลังคิดว่าจะใช้รถปัจจุบันอีก 1-2 ปี แล้วคันต่อไปเป็นไฟฟ้า 100% เลยครับ
แต่รอดูรถในช่วง 1-2 ปีนี้ก่อนครับ ถ้ายังไม่มีตัวที่น่าสนใจจริงๆ จะใช้สันดาป 100% อีกซักคันก่อนครับ
-
สำหรับผม เป็นไปได้หมดคร้บ
เบนซินเทอร์โบเหมือนเดิม
Phev
hev
Ev
อะไรก้ได้ที่ไม่ใช่ diesel ครับ
-
ถ้าไม่นับรถกระบะ 1-2 คันต่อไปเป็น Hybrid หรือ PHEV ครับ คันต่อไปอาจจะมองรถไฟฟ้า ถ้าราคาดี ก็จัดครับ
ผมว่าเทคโนโลยีอาจมาเร็วกว่าที่คิดนะครับ
-
จะอีกกี่คันก็"ไม่"สำหรับผมครับ ยกเว้นจะบังคับว่าไม่มีรถสันดาปขายสักคันในโลก อันนั้นก็อาจต้องซื้อครับ
-
สถานนีชาตเยอะๆ เดี๋ยวคนก็ใช้เองนะผมว่า แบบเปิดในปั้มมีร้านข้าว ร้านกาแฟให้นั่งรอ
-
ซื้ออีวีเพิ่มก็ต้องรถนำเข้าอย่างเดียวเท่านั้นคับ
-
ไม่ยอมเสียตังซื้อรถน้ำมันหรือลูกผสมแล้วครับ รอไฟฟ้าล้วนเท่านั้น 8)
ขอแค่ชาร์ทไปครึ่งชั่วโมงไปได้7-800โลราคาไม่เกินสองล้านผมก็okแล้วครับ
จอดรถในบ้านครับ รู้สึกได้ถึงมลพิษแก่แล้วไม่อยากสูดดม :-X
-
ผมครับ ตอนนี้มีรถกระบะมีMINI MPVมีCHRแล้ว
กำลังหาดูรถขับไปทำงานจ่ายตลาดไปห้าง ไปจอดติดแอร์นอนรอลูกเรียนพิเศษ
รถไฟฟ้าน่าจะตอบโจทย์
-
ตอนนี้ใช้ hybrid อยู่ ก็ตั้งใจครับว่า กลางปีนี้ไป คงไฟฟ้าล้วน เป็นความชอบส่วนตัวแค่นั้นเอง เพราะไม่ค่อยเน้นขับไกลๆ เกิน 400 โล
-
จะซื้อก็ต่อเมื่อสามารถขับไป ตจว ได้อย่างสบายใจครับ ไม่ได้คิดไว้ว่าต้องเป็นคันที่เท่าไหร่
-
เมื่อก่อนตอนซื้อรถคันนี้มา e85ก็ยังมีปั๊มเติมน้อยมาก แต่ก็เพราะชอบตัวรถช่วงแรกก็เติมe20ไปก่อนหลังๆมามีแทบทุกปั็มก็เบาใจ แต่ตอนนี้เห็นว่าจะยกเลิก ก็ไม่เป็นไร เรื่องevสำหรับผมในอนาคตจัดแน่ครับแต่คงอีก4-5ปี ป่านนั้นเทคโนฯคงล้ำไปไกลมากละ จุดชารจ์และเวลาในการชาร์จคงไม่ใช่ปัญหาหลัก
-
ถ้าวิ่งได้เยอะเกิน500โลแบบใช้จริง และราคาสมเหตุสมผลก็น่าจะไปครับ
ปล.ว่าจะมองหารถน้ำมันไว้เก็บสะสมด้วย
-
น่าจะยังครับ
แต่ที่แน่ๆ คันต่อไปต้องมี Adaptive cruise control with stop and go ก่อน
ตามนี้ครับ :)
-
ตราบใดที่ยังมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการวิ่ง และระยะเวลาในการชาร์ตผมก็ยังไม่ซื้อครับ
ถ้ายังไม่สามารถพัฒนา Hybrid / PHEV ยังคงตอบโจทย์มากกว่า
-
ของผมอยากใช้พวก hybrid แต่ผมไม่ชอบช่วงล่างที่มันแบกแบตไว้
ถ้าราคารถน้ำมันถูก ผมอาจจะซื้อรถน้ำมันแทน
-
ผมก้ออยากลอง Tesla
-
สำหรับผมขึ้นอยู่กับ ราคา สมรรถนะ ระยะทาง ถ้าเข้าเกณท์ เอาแน่ครับ
ลุ้น MARVEL R ก่อนเลย
-
ผมวางแผนว่าจะเปลี่ยน Phev เป็น EV ส่วนรถน้ำมันเก็บไว้คันนึงเป็นรถสะสมครับ
-
ตอนแกรว่าอีก 5 ปี แต่ตอนนี้ดูสถานการณ์แล้วเมืองไทยคงอีก 10 ปี ค่อยซื้อครับ น้ำมันไปต่อยาวๆๆๆๆ
-
ผมเล็งไว้แล้วครับ ไม่Taycanก็EQSแน่นอน
-
คันต่อไป กำลังคิดว่าจะใช้ไฮบริดหรือกลับไปเล่นน้ำมันล้วนเหมือนเดิม
-
อยากลองแต่ก็กังวลครับ
ขอดูอีกซักระยะดีกว่าแต่คิดว่าคงได้ซื้อมาลองสักคัน
ภายใน3-4ปีจากนี้
-
รอดู อารายา. ไม่รู้จะมามั้ย
-
เมื่อไหร่ไปได้ทั้งใกล้ไกล ไม่มีปัญหาเรื่องสถานีชาร์จ ก็พร้อมทันทีครับ ไม่ได้คิดว่าจะเป็นคันที่เท่าไหร่ เมื่อใด
-
ถามตอนนี้ ขอตอบว่า ยังไม่คิดครับ รออะไรๆมันเข้าที่ก่อน ทั้งระยะทาง จุดชาร์จต่างๆ ไม่ได้มีเป้าตั้งว่าคันต่อไป หรือคันไหนของบ้าน ดูความพร้อมและเหมาะสม ซึ่งผมว่าไม่ต่ำกว่า 10 ปีครับ กว่าผมจะคิดอีกทีว่าจะเอาดีไหม
-
ผมจะรอTesla บริษัทแม่มาทำตลาดเมืองไทยก่อน แล้วจะซื้อ Tesla Model3 มาลอง
-
ถามตอนนี้ ขอตอบว่า ยังไม่คิดครับ รออะไรๆมันเข้าที่ก่อน ทั้งระยะทาง จุดชาร์จต่างๆ ไม่ได้มีเป้าตั้งว่าคันต่อไป หรือคันไหนของบ้าน ดูความพร้อมและเหมาะสม ซึ่งผมว่าไม่ต่ำกว่า 10 ปีครับ กว่าผมจะคิดอีกทีว่าจะเอาดีไหม
+1 ครับ
-
จอง Model 3 longrange ไปล่ะคับ
รับรถต้นเดือน 4
-
ถ้ารวย มีรถหลายคัน มีรถน้ำมันใช้ด้วย และจะซื้อไฟฟ้า มาขับแรงๆหรูๆในเมือง ก็คงตัดสินใจซื้อไม่ยากหรอกครับ ..
แต่ถ้าทั้งบ้าน มี รถ 1 คัน หรือ เอาเป็นว่าเรามีรถ 1 คันที่เป็นน้ำมัน และคันต่อไปจะซื้อ รถไฟฟ้ามาแทน อันนี้คงบอกเลยว่าไม่มีทางเลย ...
ตราบใดที่ ไฟฟ้ายังชาจน์ 100% ไม่ไวเท่าเติมน้ำมัน 1 ถังละก็ ..
รถไฟฟ้ามันเป้นโลกของคนมีเงินครับ ซื้อเทสล่าคันละ 6 ล้าน หรือ Tycan คันละ 10 ล้าน ประเด็นมันไม่ใช่ซื้อมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันหรอก มันเป็นของเล่นคนมีเงิน ...
-
สัก 3ปี อยากได้ model 3 performance ครับ ::)
ถ้ามือสอง สัก 1.8-2.2 ล้าน จะโอเคมากครับ เอาไว้ขับในเมือง ขับเล่น ไป ไกลสุดพัทยา
-
ผมวิ่ง กรุงเทพ-เชียงราย ประจำ
รอให้วิ่งได้รวดเดียว หรือ
ชาร์จซักครั้งเดียว ไม่เกิน 15 นาที
น่าจะไม่ลังเลที่จะใช้
(มีรถน้ำมันคันอื่นอยู่)
-
คันต่อไปเป็นรถไฟฟ้าแน่นอนครับ ตอนนี้ใข้รถน้ำมันไปเพลินๆก่อนครับ
(https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.6435-9/81394164_2683364201710589_7018941408887177216_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-3&_nc_sid=8bfeb9&_nc_ohc=LW2aFiyecRQAX9TfpCV&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=1fa72c61281f31f93165f0a2537739b1&oe=608F59D3)
-
No
-
หลายคนที่กำลังจะซื้อรถ EV ในอนาคต ช่วงที่รอแนะนำว่าควรไปปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในที่พักอาศัยให้เหมาะสมก่อนครับ
อาจได้ขอมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่สำหรับรถ EV โดยเฉพาะ และรวมไปถึงการวางระบบไฟฟ้าใหม่ ที่ได้มาตรฐานของการไฟฟ้ารับรอง อาจมีค่าใช้จ่ายพอสมควร
ถึงตอนนั้นคงมีคำถามในนี้ ว่าจะซื้อรถ EV ควรวางระบบไฟฟ้า แบบไหนดีถึงจะเหมาะสม
-
คนใน กทม.อาจจะคิดว่าใช้ไฟฟ้าได้ครับ คน ตจว.อย่างผม แค่ออกไปเก็บมะพร้าว ก็ไฟไม่พอแล้วมั้ง
สาย ตจว.ต้องดีเซลอย่างเดียวครับ
-
แน่นอนครับ
-
คนใน กทม.อาจจะคิดว่าใช้ไฟฟ้าได้ครับ คน ตจว.อย่างผม แค่ออกไปเก็บมะพร้าว ก็ไฟไม่พอแล้วมั้ง
สาย ตจว.ต้องดีเซลอย่างเดียวครับ
ผมกลับคิดว่า ตจว นี่เหมาะมากนะครับ
1. ติดมิตเตอร์ TOU ซ้อนใหม่ในบ้านได้เลย ชาร์จเฉพาะ Off Peak อย่างเดียว กทมและปริมณฑลไม่ยอมให้ติด 2 มิตเตอร์
2. รถไม่ติดเลย กะระยะทาง และวางแผนการเดินทางได้เปะกว่า
3. ขึ้นเขาลงเขาสบาย ทอร์คมาตั้งแต่รอบ 1 กดขึ้นเขาคงไวน่าดู ขาลงเขาชาร์จไฟเต็มๆ
อันนี้ความเห็นผมเฉยๆนะ อาจผิดพลาดได้ครับ
-
ผมว่าขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีในอนาคตนะ ถ้าอีก5-7ปี แล้วระบบชาจมันรองรับ หรือมีแบตชนิดใหม่ที่จุไฟได้มากขึ้นในราคาที่เหมาะสม อาจจะเปลี่ยน แต่ถ้าราคายังแพงกว่าพวกhVหรือiceมาก ก็คงยัง เพราะปัจจุบันพวกhvตอบโจทย์กว่า
-
ใช้อยู่ครับ และต่อไปก็จะซื้อ EV เหมือนเดิมนี่แหละ
มันสะดวกจะตายเวลาออกจากบ้านแล้วเหมือนน้ำมันเต็มถังทุกวัน ถ้าจะไปเที่ยวพัทยาหัวหินก็มีที่ชาจหมดแล้ว และถ้าไปไกลกว่านั้นผมก็ไม่ขับรถไปแล้วล่ะ
แล้วเวลาที่เสียไปตอนเอาไปชาจข้างนอกก็เอามาเฉลี่ยกับเวลาที่รถปรกติต้องไปหาเติมน้ำมันเอาก็น่าจะรวมๆได้พอๆกันล่ะมั้งครับ ใครจะไปเที่ยวตจว.กันอาทิตย์ละครั้ง
อีกอย่างการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้านี่อย่าไปลองนะครับ มันเหนือกว่ารถ ICE เยอะ เหยียบเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น ทั้งนุ่ม ทั้งตอบสนองไว ทั้งแรง ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เปลี่ยนโหมดให้เสียจังหวะ ขับง่ายกว่า ICE เยอะเลย
-
ใช้อยู่ครับ และต่อไปก็จะซื้อ EV เหมือนเดิมนี่แหละ
มันสะดวกจะตายเวลาออกจากบ้านแล้วเหมือนน้ำมันเต็มถังทุกวัน ถ้าจะไปเที่ยวพัทยาหัวหินก็มีที่ชาจหมดแล้ว และถ้าไปไกลกว่านั้นผมก็ไม่ขับรถไปแล้วล่ะ
แล้วเวลาที่เสียไปตอนเอาไปชาจข้างนอกก็เอามาเฉลี่ยกับเวลาที่รถปรกติต้องไปหาเติมน้ำมันเอาก็น่าจะรวมๆได้พอๆกันล่ะมั้งครับ ใครจะไปเที่ยวตจว.กันอาทิตย์ละครั้ง
อีกอย่างการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้านี่อย่าไปลองนะครับ มันเหนือกว่ารถ ICE เยอะ เหยียบเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น ทั้งนุ่ม ทั้งตอบสนองไว ทั้งแรง ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เปลี่ยนโหมดให้เสียจังหวะ ขับง่ายกว่า ICE เยอะเลย
ตามนี้เลยครับ ใครได้ลองใช้bevแล้ว ไม่คิดจะกลับไปใช้รถiceเลย พ่อเพื่อนจัดmodel xมา ใช้ไม่กี่เดือนถึงกะจะขายbenzอีกคัน เปลี่ยนเป็นmodel s และจะเปลี่ยนรถในบ้านเป็นevให้หมด
-
ใช้อยู่ครับ และต่อไปก็จะซื้อ EV เหมือนเดิมนี่แหละ
มันสะดวกจะตายเวลาออกจากบ้านแล้วเหมือนน้ำมันเต็มถังทุกวัน ถ้าจะไปเที่ยวพัทยาหัวหินก็มีที่ชาจหมดแล้ว และถ้าไปไกลกว่านั้นผมก็ไม่ขับรถไปแล้วล่ะ
แล้วเวลาที่เสียไปตอนเอาไปชาจข้างนอกก็เอามาเฉลี่ยกับเวลาที่รถปรกติต้องไปหาเติมน้ำมันเอาก็น่าจะรวมๆได้พอๆกันล่ะมั้งครับ ใครจะไปเที่ยวตจว.กันอาทิตย์ละครั้ง
อีกอย่างการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้านี่อย่าไปลองนะครับ มันเหนือกว่ารถ ICE เยอะ เหยียบเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น ทั้งนุ่ม ทั้งตอบสนองไว ทั้งแรง ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เปลี่ยนโหมดให้เสียจังหวะ ขับง่ายกว่า ICE เยอะเลย
นี่เป็นเรื่องจริงเลยครับ คนที่รู้จัก ทุกคน เน้นทุกคนเลยครับ
ใช้รถหรูๆ ดีๆมา แล้วมาเจอ ไฟฟ้าล้วน เจอกันทุกครั้ง ไม่เคยเห็นขับคันอื่นนอกจากไฟฟ้าอีกเลยครับ
Tesla ผมยังพอเข้าใจได้นะ แต่บางท่าน MG EP , BYD E8 ก็ไม่กลับไปขับรถน้ำมันอีกเลย
-
จอง Model 3 longrange ไปล่ะคับ
รับรถต้นเดือน 4
รอชมนะครับคุณJo ไม่ได้คุยกันนานเลย สบายดีนะครับ คันใหม่ซื้อที่ไหนครับ? แสดงว่าได้ลองแล้ว ประทับใจอัตราเร่งและการขับขี่เหมือนที่ผมลองแน่ๆเลย แรงดึงรถTeslaนี่สุดจริง
-
เอางี้ วันไหนที่ ค่ายรถในไทย
ทำแบตเอง ประกอบเอง ได้
ผมจะซื้อ EV
ผมไม่ซื้อรถ import. เพราะ พวกนี้ ค่าอะไหล่แพงและรออะไหล่นานมาก
-
ยังไม่ชัวร์ครับ
เอาง่ายๆนะ ตอนนี้รถไฟฟ้าที่ดีกว่ารถน้ำมันคือ
1) อัตราเร่งที่มันจี๊ดจ๊าดมาก (คนไทยส่วนน้อยที่สนใจแบบการใช้งานจริงๆ ส่วนมากเหยียบคันเร่งแค่ปลายนิ้ว สังเกตจากเวลาออกตัวไฟแดงก็ได้เอ้า ผมขับอีโคคาร์แซงสบายๆ)
2) ความประหยัดพลังงาน (บาท ต่อ กม.) ซึ่งดีกว่าพอควรแต่มันจะถูกกลบด้วยข้อด้อยของ EV ไปเอง
ข้อด้อยคือ
1) Top speed (คนไทยส่วนน้อยที่สนใจ)
2) ความสะดวกในการเดินทางไกล ทั้งระยะทางจากเติมพลังงานเต็มจนต้องเติมอีกรอบ รวมถึงระยะเวลาในการเติมพลังงาน การวางแผนการเดินทางต้องมีมากขึ้น เพราะจะไปหวังว่าเดี๋ยวก็เจอปั๊มไม่ได้ นี่ไม่รวมว่าหัวชาร์จแต่ละที่ก็ชาร์จเร็วไม่เท่ากัน
3) ราคารถที่แพงกว่าพอสมควร เทียบง่ายคือรถแพงกว่าเกือบสองเท่า อย่าไปมองว่ารถไฟฟ้ามีราคาที่เอื้อมถึงแล้วแบบ MG ล้านสาม Nissan ล้านเก้า เพราะถ้าคุณจ่ายเท่าๆกัน คุณได้รถที่ดีกว่าจมเลย ส่วนต่างเอาไปเติมน้ำมันได้เกิน 10 ปี นี่ไม่นับเอาค่าไฟชาร์จรถมารวมเลยนะครับ
ปล. MG ZS 7 แสน ZS EV 1.3 ล้าน --> เอาเงิน 1.3 ล้าน ซื้อ MG HS เหลือเงินอีก
Nissan Pulsar 9 แสน Leaf 1.9 ล้าน --> เอาเงิน 1.9 ล้าน ซื้อ Teana เหลืออีกบานเบอะ
ผมจะพิจารณาซื้อเมื่อ
1) ราคาต่างกับรถทั่วไปไม่เกิน 20%
2) ชาร์จได้ไวกว่านี้ซักสองเท่าที่ปั๊ม โดยมีปั๊มที่มีที่ชาร์จซัก 50% ของน้ำมัน
-
ในเวลานี้ควรเล่นรถ Plug-in Hybrid ไปก่อน มี Paddle Shift หรือมีโหมด +/- ในเกียร์ไว้ซิ่งมันส์ๆผสานความประหยัดในโหมด EV
รถ Plug-in Hybrid คือระบบที่ดีที่สุด ดีกว่า แรงกว่า ขับมันส์กว่า EV ครับ
-
แต่ถ้าใครมีรถ Plug-in Hybrid อยู่แล้ว คันต่อไปต้องเป็นไฟฟ้า 100% แน่นอนครับ
ยุคนี้ผมแนะนำให้คนที่จะซื้อรถคันแรก เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะดีกว่าครับ คนรุ่นใหม่ ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ราคาย่อมเยา แนะนำ MG EP รุ่นเดียวในตอนนี้ที่ราคาต่ำกว่าล้านบาท จุของได้เยอะกว่ารถ SUV แรงม้าแรงบิดเยอะ ขับมันส์ๆไม่ต้องพึ่งโหมด +/- หรือ Paddle Shift เลยครับ
-
ส่วนตัวคิดว่าอีกหลายปี ต้องรอ
ตู้ชาร์ตแพร่หลายกว่านี้
ระบบชาร์ตเร็วพัฒนากว่านี้
คงจะเสร็จพวกรถ ICE hi performance จากยุโรปก่อนนะครับ ราคาถูกลงเรื่อยๆ เหมือนจะล้างสต็อกก่อนถูกห้ามขายในยุโรป
-
ขออนุญาตแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ในกรณีของการเลือกซื้อรถคันต่อไปของผม จะต้องเป็นรถไฟฟ้า 100% (ปัจจุบัน ใช้ ICE) โดยโจทย์ของผม คือ เดินทางจากบ้านต่างจังหวัด มาที่พักกทม. ระยะทางประมาณ130กม. และใช้เดินทางไป-กลับ ระหว่างที่ทำงานกับที่พักกทม. วันละ10กม. ในวันจันทร์-ศุกร์ รวมแล้ว50กม. ต่อไปคือเดินทางจากที่พัก กทม. กลับบ้านต่างจังหวัดใะนวันเสาร์ 130กม. จากนั้นเสียบชาร์จไฟAC ที่บ้านต่างจังหวัดยาวๆไป โดยใช้รถคันอื่นที่มีวิ่งระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะฉะนั้นรถไฟฟ้าคันที่จะซื้อจะต้องสามารถวิ่งได้ระยะทางอย่างน้อยสุด คือ 130+50+130 = 310 กม. (ผมคงเลือก350กม.+) และเงื่อนไขคือจะไม่พึ่งพาการชาร์จจากสถานีทั่วไปทั้งAC และDC ยกเว้นแต่ว่าระหว่างสัปดาห์มีเหตุต้องใช้รถมากกว่าที่วางแผนไว้ จึงต้องเข้าชาร์จสถานีทั่วไปเป็นระยะเวลาสั้นๆเพื่อให้พอวิ่งกลับไปชาร์จบ้านต่างจังหวัดได้ครับ
ปล. ผมวางแผนที่จะเปลี่ยนรถอีกสัก3ปีข้างหน้าครับ คาดว่าบริษัทที่ผลิตรถไฟฟ้า น่าจะตอบโจทย์ผมได้แล้ว ทั้งเรื่องการแก้ไขในรุ่นที่ผลิตมาก่อนแล้ว และรวมทั้งการซ่อมบำรุงและความน่าเชื่อถือไว้ใจของผู้ผลิตครับ
-
เรื่องรถคันต่อไปเนี่ย ผมคิดไว้ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วละครับ ว่าจะซื้อ ev แต่มันไม่เกิดเร็วนักหรอก
คุณลองเช็คข้อมูลดูครับ ว่าแท่นชาร์จไฟรถ ev ตอนนี้ตั้งขึ้นมาขาดทุน/สถานีเท่าไร ผมเห็นรัฐบาลจีนอุดหนุนสร้างกันอยู่ตอนนี้เพื่อให้แพร่หลายมากขึ้น เขายอมขาดทุนเพราะในประเทศเขาผลิตรถ ev ได้เองเป็นของตัวเอง
ลองกลับมาดูไทยนะครับ ประเทศที่ยังไม่สามารถผลิต ev ภายในประเทศได้ รัฐบาลมีเหตุผลในการยอมขาดทุนทำสถานีชาร์จหรือไม่? ถ้าสถานีชาร์จยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนก็ยังไม่มีใครทำหรอกครับตอนนี้ นั่งรอไปดิ ผมไม่มาเสียเวลาคิดแล้วละครับ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เห็นบางคนพยายามใช้รถ ev คันเล็กๆ ขับบนถนนน่ากลัวมาก ผมไม่ทนใช้ละครับแบบนั้น สะดวกเมื่อไรค่อยว่ากัน ไม่อยากทรมานตัวเอง
-
หลายคนที่กำลังจะซื้อรถ EV ในอนาคต ช่วงที่รอแนะนำว่าควรไปปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในที่พักอาศัยให้เหมาะสมก่อนครับ
อาจได้ขอมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่สำหรับรถ EV โดยเฉพาะ และรวมไปถึงการวางระบบไฟฟ้าใหม่ ที่ได้มาตรฐานของการไฟฟ้ารับรอง อาจมีค่าใช้จ่ายพอสมควร
ถึงตอนนั้นคงมีคำถามในนี้ ว่าจะซื้อรถ EV ควรวางระบบไฟฟ้า แบบไหนดีถึงจะเหมาะสม
ผมเผื่อปลั๊กเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วครับ ไฟ 3เฟส
-
รอให้เหมือนเมกา เอาบิตคอยมาซื้อเทสล่า ค่อยน่าสน
-
เราอยู่คอนโดรุ่นเก่า ที่ยังไม่มีที่จอดรถแบบ Fixed
ตราบใดที่คอนโดยังไม่มีอุปกรณ์ชาร์จให้ลูกบ้าน น่าจะไม่มีโอกาสได้ใช้กับเขาค่ะ 😅
-
ผมคิดว่าคันต่อไปรอเป็นไฟฟ้า 100% อย่างเดียวแล้วครับ
ใจคือ รอ polestar หรือ tesla เท่านั้นด้วย ไม่รู้ชาติไหนจะได้ใช้
คิดว่าภายใน 2ปีนี้ครับถ้า 2 เจ้านี้ไม่มา ก็คงซื้อ audi ถ้าเค้าปรับ option ให้เป็นผู้เป็นคนมากขึ้น
หรือถ้า 2เจ้าก็ไม่มา audi ก็ไม่สน คงได้ใช้ volvo xc40 ตัวเดียวเลยครับ
ส่วนตัวผมไม่ได้กังวลกับปัญหาอื่นๆเลย เพราะใช้แค่ใน กทม. เวลาออก ตจว ถ้าไม่นั่งเครื่องบินไปเช่ารถ ก็เช่ารถตู้ไปอยู่แล้ว ขับอย่างไกลแค่หัวหินเท่านั้นครับ เรื่องแบตเลยไม่เป็นปัญหา
-
ผมว่าณ.ตอนนี้ถ้ามีพื้นฐาน 3 ข้อนี้คือ
1.มีที่ชาร์จที่บ้าน
2.ไม่ได้ขับทางไกลบ่อยๆ
3.มีเงินพอ
ก็แนะนำให้ซื้อเถอะครับ เงินที่เสียไปไม่ว่าจะไปซื้อวอลโว่ หรือเทสลา หรืออื่นๆ คุณจะได้อะไรที่ดีกว่ารถน้ำมันในราคาพอๆกันแน่นอน แค่การขับขี่ก็คุ้มแล้ว ถ้าไม่นับเรื่องความประหยัด(บางคนบอกว่าคนซื้อรถแพงๆคงไม่คิดเรื่องการประหยัดมั้ง...คือใครจะไม่คิดครับ เงินออกจากกระเป๋าทั้งนั้น)
ก่อนผมจะซื้อ Model3Performance ผมขับ C43coupe lci มาก่อนประมาณปีนึง เทสลาขับดีกว่ามากๆ เครื่องเสียงดีกว่า เบาะนั่งสบายกว่า เสียแค่ซิ่งไม่มันส์เพราะเสียงเครื่องยนต์มันหายไปนี่แหละ กับอัตราเร่งหลัง 160 ไปจะอืดๆหน่อย ;D แต่คิดอีกแง่นึงก็ดีเพราะจะได้ไม่ซิ่งมาก ไม่เปลืองเงินค่าแต่งด้วยเพราะ 43 ผมทั้งจูน ทั้งทำท่อ + ของแต่งไปเยอะ เอาไปซิ่งเสี่ยงตายอีก ไม่ซิ่งก็ไม่ได้แต่งมาแล้ว ;D
-
ไปไฟฟ้าแน่นอน แค่รอตู้ชาร์จสาธารณะสมบูรณ์ กับแบตsolidที่วิ่งได้มากกว่า800กิโล พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสูง ตอนนี้ใช้kicksรอยาวๆเลยยิ่งทำให้เห็นความโดดเด่นเรื่องการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าว่ามันดีจริงๆ
-
รถไฟฟ้าล้วนถ้าทำให้ขับทางไกลโดยที่ Life style ผมไม่เปลี่ยนถึงจะค่อยว่ากัน ต่อให้มันแรงให้ตายยังไง มาวิ่งทางไกล 800-900 กม ใน 8-10 ชั่วโมงไม่เกินนี้ได้ถึงค่อยว่ากัน ไม่ชอบจอดรออะไรเป็นชั่วโมงๆ
แต่ถ้าซื้อใช้วิ่งแต่ใน กทม อันนี้โอเค สบายเลยล่ะแต่ไม่ได้ใช้รถแค่ใน กทม ไงเลยยังไม่มอง
-
ผมซื้อแน่ๆ ครับ ตอนนี้ ก็ใช้ PHEV อยู่ ชาร์จที่บ้านทุกวัน ค่าไฟขึ้นแค่ 300 บาท เอง
คันต่อไป EV แน่ๆ โดยเฉพาะ ถ้าคันนี้มา จะยก คันที่ใช้อยู่ให้ ภรรยาใช้ แล้วเราใช้คันนี้ เลย
https://www.headlightmag.com/news-official-images-all-new-bmw-i4/
-
ช่วงเปลี่ยนผ่านแบบนี้ และเศรษฐกิจแบบนี้ ผมว่าพยายามลากใช้คันเดิมไปก่อน ปลอดภัยกว่าครับ
-
ถ้า pea+bpc ครบเฟส 1 65สถานีครอบคุลมทุกระยะ 100-200 กิโล บนถนนสายหลัก กลางปีนี้ เท่านี้ผมก็พร้อมใช้รถไฟฟ้าละครับ
ผมอยู่คอนโดที่ไม่มีที่จอดประจำและไม่มีบริการตู้ชาร์จก็จริง แต่ในระยะ 3กิโลรอบบ้าน มี7-11+ea ที่เป็น dc charge อยู่ถึง 3 แห่ง
ผมพร้อมใช้งานในกทม.แล้ว ขาดแต่รถที่ใช่
-
ใน 10 ปีนี้ ผมยังไม่ไป EV
ยังอยากเติมน้ำมัน สบายๆไม่ต้องคิดเยอะๆ
10 ปีข้างหน้า ทุกอย่างเกี่ยวกับ EV คงจะดีขึ้น ตอนนั้นค่อยคิดอีกที
เพิ่มดูคลิปลูกสาวพี่แถม TKF เอารถไฟเติมไฟในห้าง ลำบากแบบนั้นผมยังไม่เอาอะ
-
แน่นอนอีกซะ 10ปีคงได้ลองรอไฟฟ้าแน่ ใจจริงมีแผนที่จะลองเริ่มจาก hybrid ก่อนในปีนี้แล้วคันต่อไปคง ev