Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: axister ที่ เมษายน 14, 2021, 22:29:07
-
ไม่เคยใช้รถขับ 4 มาก่อนเลย คันต่อไปตั้งใจว่าอยากจะซื้อมาลอง
ส่วนตัวไม่ใช่คนขับ off-road แต่เป็นคนขับรถเร็ว เข้าโค้งที่ 90+ บ่อย ที่ผ่านมาใช้รถ ทั้งขับหน้าและหลัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหลังมากกว่า แต่ไม่ได้รู้สึกแตกต่างถ้าเป็น รถ segment เดียวกัน
จะรู้สึกต่างมากๆ ตอนมันเป็น suv เทียบกับ sedan นอกจากเวลาถนนลื่นๆหน่อยแล้วเข้าโค้งเร็วๆ แต่พอ traction ขึ้นก็จะเริ่มชะลอแล้ว
อยากถามประสบการณ์การใช้รถขับ 4 มันหนึบกว่าหรือมีอะไรทำให้เรารู้สึกชัดเจนควรค่าแก่การมีไว้มั้ยครับ กรณีถ้าเป็น sedan hatchback หรือ suv เตี้ยๆ ที่ไม่ได้เอาไป off-road แบบอย่างมากก็แค่ขับผ่านสนามหญ้าตอนฝนตก
ส่วนใหญ่เป็นคนขับรถไม่ได้เร็วสุดโต่ง แต่เหยียบสุดเน้นออกตัวเร็วๆ เวลาเข้าโค้งไม่ค่อยเบรค ถ้าถนนว่างจริงๆเหยียบสุดๆไม่เกิน 140
อยากให้แชร์ให้ฟังหน่อยว่ามันคุ้มกับราคามั้ยครับ ถ้าไม่ได้เน้นความแรงของเครื่อง ประมาณว่า 330e ก็เร่งแรงพอใจแล้ว ถ้าจะขยับไป m340i จะคุ้มมั้ย หรือเทียบกับรถไฟฟ้าที่เป็น single motor กับ dual motor(ขับ4) มันจะต่างกันขนาดไหนครับ
-
ลองดูพวก Subaru ก็ได้จะได้เข้าใจง่ายหน่อย ถ้าช่วงล่างพวกนี้เวลาเข้าโค้งกล้า ๆ ยัดเข้าไปจะรู้ว่ามันไปได้ บางทีอาจจะเติมความเร็วได้อีก
แต่ถ้าเป็นขับหลัง เจอโค้งแบบนี้ถ้าไม่ผ่อนก็อันตรายละครับ ส่วนขับหน้าอาจจะควบคุมพวงมาลัยได้ดีกว่า แต่เวลาหลุดก็ไปเลยเหมือนกัน
-
จากที่เคยขับรถ AWD และขับ 4 FULL TIME มันต่างอย่างเด่นชัดตอนถนนเปียก ฝนตก และใช้ความเร็วสูง รถจะมีอาการหน่วง หนัก และมั่นคงกว่ารถขับหน้าและขับหลัง และอีกอย่างที่ชอบคือการสาดโค้งมันเหมือนจะจับกว่ารถขับ2ล้อนะ แต่ถ้าถนนแห้ง ผมชอบรถขับหน้ามากกว่า มันพริ้วกว่าใดๆๆ
-
ลองดูพวก Subaru ก็ได้จะได้เข้าใจง่ายหน่อย ถ้าช่วงล่างพวกนี้เวลาเข้าโค้งกล้า ๆ ยัดเข้าไปจะรู้ว่ามันไปได้ บางทีอาจจะเติมความเร็วได้อีก
แต่ถ้าเป็นขับหลัง เจอโค้งแบบนี้ถ้าไม่ผ่อนก็อันตรายละครับ ส่วนขับหน้าอาจจะควบคุมพวงมาลัยได้ดีกว่า แต่เวลาหลุดก็ไปเลยเหมือนกัน
เคยใช้ forester สั้นๆ รู้สึกไม่มั่นใจครับเวลาเข้าโค้ง แต่อาจจะรู้สึกไปเองเพราะไม่ชอบรถสูงเป็นทุนเดิม
จากที่เคยขับรถ AWD และขับ 4 FULL TIME มันต่างอย่างเด่นชัดตอนถนนเปียก ฝนตก และใช้ความเร็วสูง รถจะมีอาการหน่วง หนัก และมั่นคงกว่ารถขับหน้าและขับหลัง และอีกอย่างที่ชอบคือการสาดโค้งมันเหมือนจะจับกว่ารถขับ2ล้อนะ แต่ถ้าถนนแห้ง ผมชอบรถขับหน้ามากกว่า มันพริ้วกว่าใดๆๆ
ถนนแห้งขับหน้ามันพริ้วกว่า 4 ยังไงหรอครับ อารมณ์แบบไม่มี 4ล้อมาหน่วงหรอครับ คือปกติส่วนมากถ้าฝนตกก็จะขับไม่เร็วอยู่แล้ว แบบนี้คุ้มจะลงขับ 4 มั้ยครับ
-
ถ้าเทียบรถระดับเดียวกันยางเกรดเดียวกันผมว่าขับทั่วไปใช้ความเร็วนิดหน่อยฟิลลิ่งแทบจะไม่ต่างครับยกเว้นกรณีถนนลื่นขับสี่จะให้ความมั่นใจกว่าขับหน้านิดหน่อยและมั่นใจกว่าขับหลังพอสมควร (แต่ถ้าเปิด traction control ถึงจะขับหลังก็ไม่น่ากลัวอะไรครับ)
แต่ถ้ารถแรงๆขับสี่จะได้เปรียบตรงส่งกำลังลงพื้นได้ง่ายกว่ารถขับสองล้อครับไม่ว่าจะช่วงออกตัวหรือออกจากโค้ง ใช้กำลังเครื่องยนต์ได้มากกว่า
ส่วนข้อเสียรถขับสี่ก็มีเรื่องการดูแลที่ซับซ้อนกว่า เสียกำลังกว่าจะไปถึงล้อมากกว่า กินน้ำมันมากกว่าและถ้าเป็นสายขับโหดรถขับสี่ขับบู้ๆมันไม่สนุกเท่ารถขับหลังครับ จะสไลด์ออกมาจากโค้งไม่ได้แบบรถขับหลัง (ยกเว้นระบบขับสี่ไฮเทครุ่นใหม่ๆ) ฟิลลิ่งของพวงมาลัยก็ไม่ธรรมชาติแบบรถที่ไม่มีระบบขับเคลื่อนมาโยงกับล้อหน้า และรถขับสี่ส่วนมากที่ผมลองมาเวลาเข้าโค้งหนักๆจะหน้าดื้อกว่าขับหลังครับ
-
เคยขับ Subaru ของตัวเองแต่เป็น Legacy รุ่นเก่าไม่มีเทอโบ และลอง XV ของเพื่อน อารมณ์จะมั่นใจมากๆตอนเข้าโค้ง ถ้าไม่ได้เร็วแบบบ้าบิ่น จะรู้สึกเลยว่าไปได้เร็วกว่ารถขับหน้าบ้านๆ ค่อยๆเติมคันเร่งในโค้งได้ รถก็ยังจะเกาะไลน์เดิมตามที่ตาอยากจะไป แต่ถ้าเร็วเกินจะรู้สึกแถๆเริ่มจะบาน แต่หน้าจะไม่ดื้อเหมือนขับหน้า แต่เหมือนจะแถไปทั้งคัน คืออารมณ์ถ้าจะวัดกันในโค้งกับรถบ้าน คนขับทั่วๆไปยกเป็นส่วนใหญ่ แต่เราไปต่อแบบเฉยๆ
ส่วนขับหลัง เคยขับ 320D ของตัวเอง เวลาโค้ง Hi speed กับเวลา ฝนตกถนนลื่น จะเสียวกว่า ไม่กล้าเข้าเร็วมาก ต้องสังเกตอาการตลอด กลัวท้ายออก แต่เวลาโค้งแคบๆ จะหน้าจิกกว่า เสียวแบบพอสนุก (แต่ถ้าปิดระบบช่วยเหลือ น่าจะไม่รอด ด้วยฝีมือบ้านๆ 555)
และเคยขับ BRZ ของตัวเองอยู่พักนึง อันนี้คล้าย BMW แต่มันส์กว่าเยอะเลย เพราะรถเบามาก เข้าโค้งแคบท้ายดิ้นนิดๆพอรู้สึกได้ หน้าจิกตามสั่ง (สนุกเพราะระบบช่วยเหมือนกัน ถ้าปิดก็ตัวใครตัวมัน 555) แต่โค้ง Hi speed ก็เกร็งๆเหมือนกัน บางทีรู้ว่ารถไปได้อีก แต่ลองค่อยๆเติมคันเร่งมันจะเสียวๆ
อารมณ์รถขับหลังทั้ง 2 คันที่เคยลอง ถ้าขับคันเดียว ไม่ต้องสนใจว่ามีรถข้างๆ หรือต้องคุมให้รถอยู่ในเลนมันน่าจะสนุกกว่า แต่การขับแบบปกติร่วมถนนกับคนอื่นมันเหมือนอั้นๆความเสียวความสนุกไว้ เพราะต้องเน้นปลอดภัย
ถ้าขับทั่วๆไป ชอบรถขับหน้ามากสุดครับ เข้าโค้งเร็วไปหน้าเริ่มบานก็ยก ช้าไปก็เลี้ยงคันเร่งค่อยๆเติมได้ อาการมันจะมาเร็วมาชัดกว่าขับสี่
ทั้งหมดนี้คือฝีมือบ้านๆ ขับรถบ้านๆ ไม่เกิน 120 ชอบแบบมุดตามช่องตามโอกาส ไม่เน้นเหยียบสุดทางตรงครับ ขี้เกียจตามจ่ายใบสั่ง
ปล. เพิ่งนึกได้ ถ้าเป็น M340i จะขับหลังหรือขับสี่ ผมไม่สนละคร้าบ คุ้มฝุดๆๆ จะเอาๆๆๆๆ 555
-
รถเกาะ ไม่เกาะในโค้ง ไม่จำเป็นต้องเป็นขับ 4 เสมอไปครับ ...
การใช้ความเร็วในโค้งที่เหมาะสม รอบเครื่องยนต์การไล่คันเร่งสำคัญกว่า ..
เช่นคนนึงขับรถที่เป็น ขับ4 แต่เกียร์ CVT ก่อนเข้าโค้ง ยกคันเร่งเข้า แล้วมาเติมคันเร่งในโค้ง อาจจะกดๆยกๆ ไม่ลีเนี่ยไม่ราบลื่น ก็ทำความเร็วในโค้งไม่ได้ ไม่มั่นใจ ...
อีกคันเป็น ขับ 2ล้อหน้า รถไม่ใช้เกียร์ CVT ก่อนเข้าโค้งเชนเกียร์ 3 รอรอบค้างที่ 3 พันรอบ... พอเข้าโค้งก็เติมคันเร่ง จากรอบ 3พันค่อยๆขึ้นไปที่ 4 พันรอบ รถแบบนี้อาจจะมั่นใจกว่าก็ได้เพราะล้อหน้ามีการส่งกำลังที่ดีต่อเนื่อง
ที่สำคัญคือการควบคุมรถการเติมคันเร่งครับ ....
รถ F1 ก็ขับหลังครับ เข้าโค้งกันที 200 + ไม่เห็นแหกเลยถ้าเดินคันเร่งเนียนๆใช้ฝีมือ ..
-
โดยรวม คนขับคนเดียวกันถนนเดียวกัน ขับสี่เข้าได้ลึกกว่า เร็วกว่า ... แต่ปัญหาของผมคือไม่แน่ใจว่าลิมิตมันสูงขึ้นจนรถไม่แสดงอาการ หรือ รถมันเก็บอาการมากกว่า สื่อสารกับคนขับน้อยกว่า ในแง่การสื่อสารกับคนขับและความเป็นธรรมชาติผมชอบขับหลังมากกว่า ... แต่รถมันก็ต่างยุคต่างสมัยอ่ะนะครับ (เทียบ Accord G7, 9000CSE, E30, E36, W201, W202, Outback BP5, STi VAF)
-
Feeling คนละแบบ ทั้งตอนออกตัว และ อยู่ในโค้งครับ
over หรือ understeer อาการ หน้าดื้อ หรือ ตรูดบาน มันจะน้อยมาก
หรือ เวลาเราออกตัวแรงๆ กับ ขับหน้า หรือ ขับหลังเนี่ย จะมีอาการเลย
แต่ ขับ 4 มันจะไปตรงๆ ครับ
ผมใช้ Im มา 6 ปี ก่อนจะเป็น Volvo ก่อนหน้านั้น ก็ A31 กะ EK
คิดถึงมันทุกครั้ง ที่ ออกตัว กะ อยู่ในโค้งครับ
-
330e กับ m340i ต่างแน่นอนครับ
ออกตัวจาก 0 กดเต็มคันเร่ง 330e ได้เปรียบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าครับ เอาไปจูนดีๆแต่งนิดๆม้าลงล้อก็เกือบ 400 ตัวแล้ว ถ้าขับไม่เกิน 140 kmh ไปแค่ 330e ก็พอครับ คุ้มกับการใช้งาน ได้ฟิลรถไฮบริท การเข้าโค้งจะต่างครับ เพราะรถมีแบตเตอรี่หนักๆ แต่ cg ก็ต่ำเลยไม่รู้สึกมาก
ลอง m340i เปรียบเทียบดูครับ แต่การลองรถ เซลล์ อาจไม่ให้เราขับโหดมาก แต่ที่ความเร็วไม่เกิน 140 ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องไป m340i ยกเว้นว่า จขกท อยากแต่งรถ หกสูบก็ไปต่อได้
Edit เพิ่มเติม
รถขับสี่มันก็ได้เปรียบเวลาฝนตกถนนลื่นครับ เข้าโค้งก็ช่วยได้บางส่วน แต่สำหรับผมที่ไม่ค่อยเล่นโค้ง ผมว่าแค่ยางดีก็ช่วยเรื่องโค้งได้มากแล้วครับ ผมเน้นกดทางตรงเวลาถนนโล่งๆไม่มีรถมากกว่า ออกตัวจากหยุดนิ่งเต็มคันเร่งก็ไม่ค่อยทำนอกจากไปจับเวลาครับ สงสารเกียร์
-
ลอง หา clip test drive 330e กับ m340i xdrive มาดูครับ ก็จะได้คำตอบ ของขับ 2 กับ ขับ 4
ส่วนคุ้มมั๊ย คุณต้องตอบตัวเองครับ คงต้องไปลองขับ
และมีความพร้อม ถ้าชอบขับ4 ก็คุ้มครับ
-
โดยรวม คนขับคนเดียวกันถนนเดียวกัน ขับสี่เข้าได้ลึกกว่า เร็วกว่า ... แต่ปัญหาของผมคือไม่แน่ใจว่าลิมิตมันสูงขึ้นจนรถไม่แสดงอาการ หรือ รถมันเก็บอาการมากกว่า สื่อสารกับคนขับน้อยกว่า ในแง่การสื่อสารกับคนขับและความเป็นธรรมชาติผมชอบขับหลังมากกว่า ... แต่รถมันก็ต่างยุคต่างสมัยอ่ะนะครับ (เทียบ Accord G7, 9000CSE, E30, E36, W201, W202, Outback BP5, STi VAF)
จากรถที่เคยขับหรือครอบครองมา ชอบฟิลลิ่งของคันไหนมากที่สุดครับ
ญาติผมมี BMW E30 กับ Saab 9000 (จำรุ่นย่อยไม่ได้ ว่า CSE หรือเปล่า) เห็นว่าชอบ Saab มากกว่าครับ
Honda Accord G7, Saab 9000 CSE, BMW E30, E36, Benz W201, W202, Subaru Outback BP5, STi VAF
-
ขับถนน ไม่ลงสนามผมว่ารถขับ 4 ขับแล้วมั่นใจสุดครับไม่ว่อกแว่กอาการไม่ค่อยออก
-
ต่างกันแน่นอนครับ การเลี้ยวรถหรือ U-Turn นั้นขับหลังหรือขับสี่ได้เปรียบกว่า แต่การเลี้ยวรถในความเร็วสูงๆนั้น ขับหน้าหรือขับสี่ได้เปรียบกว่าครับ
-
โดยรวม คนขับคนเดียวกันถนนเดียวกัน ขับสี่เข้าได้ลึกกว่า เร็วกว่า ... แต่ปัญหาของผมคือไม่แน่ใจว่าลิมิตมันสูงขึ้นจนรถไม่แสดงอาการ หรือ รถมันเก็บอาการมากกว่า สื่อสารกับคนขับน้อยกว่า ในแง่การสื่อสารกับคนขับและความเป็นธรรมชาติผมชอบขับหลังมากกว่า ... แต่รถมันก็ต่างยุคต่างสมัยอ่ะนะครับ (เทียบ Accord G7, 9000CSE, E30, E36, W201, W202, Outback BP5, STi VAF)
จากรถที่เคยขับหรือครอบครองมา ชอบฟิลลิ่งของคันไหนมากที่สุดครับ
ญาติผมมี BMW E30 กับ Saab 9000 (จำรุ่นย่อยไม่ได้ ว่า CSE หรือเปล่า) เห็นว่าชอบ Saab มากกว่าครับ
Honda Accord G7, Saab 9000 CSE, BMW E30, E36, Benz W201, W202, Subaru Outback BP5, STi VAF
พอมานั่งคิด ก็แปลกใจตัวเองนิดหน่อยที่ชอบ W201 สุด น้ำหนักพวงมาลัยดี รถสื่อสารกับคนขับดีทั้งผ่านมือและสะโพก ติดหน่อยเดียวที่ under-power (ผมใช้ 1.8 4mt) ... ชอบกว่า E30 เสียอีก ซึ่งผมว่าฟีลพวงมาลัยมันเบาไปหน่อย ... ในแง่น้ำหนักพวงมาลัย ความนิ่ง 9000cse และอัตราเร่ง ได้เปรียบ E30 อยู่พอควร แต่ E30 ได้ความพริ้ว ความคล่องตัว
ส่วน VAF คงต้องให้เวลากับมันอีกหน่อย ณ เวลานี้ผม"กลัว"มันเกินกว่าจะขับมันเต็มศักยภาพของรถ
-
เอาโค้งเดียวกัน ขับสี่เข้าได้มั่นใจกว่า เร็วกว่า
แต่ ถ้าเกินลิมิต ของรถแต่ละคัน
ขับหน้า จะแถ
ขับหลังหมุน
ขับสี่ไถล อันนี้น่ากลัว หลุดแล้วหลุดเลย.
-
ผมขอเทียบรถขับหน้า กับรถ AWD ในระดับรถบ้านๆให้ฟังก็แล้วกันครับ ส่วนรถระดับ Premium ผมยังไม่เคยสัมผัส
ปกติผมใช้ Subaru XV เปลี่ยนล้อแต่ง ยางแนว Performance ส่วนโช้ตสปริงใช้ของเดิมซึ่งค่อนข้างเฟิร์มในระดับหนึ่ง
สิ่งที่ผมรู้สึกต่างจากรถขับหน้าปกติทั่วไปอย่างหนึ่งคือ หน้ามันดื้อกว่าพวกขับหน้านิดหน่อย ถ้าหักพวงมาลัยเร็วๆโค้งแคบๆมีโอกาสจะแถออกได้ง่ายกว่า
ซึ่งผมคิดว่าอธิบายได้ เพราะพวก AWD Fulltime ด้วยความที่ล้อหลังมันดันรถไปข้างหน้าตรงๆตลอด ถ้าหักเลี้ยวไวๆมันเลยมีโอกาสจะผลักรถออกนอกโค้ง
เพราะงั้น ถ้าเจอโค้งแคบๆ หรือมาเร็วระดับหนึ่งแล้วต้องหักเลี้ยวเข้าโค้งไวๆ ผมให้พวกขับหน้าไปได้เร็วและคล่องตัวกว่า
สำหรับ Fulltime AWD ถ้าโค้งแคบ โดยมากผมจะใช้วิธีเบรคเข้าโค้งแล้วค่อยถีบออกแทน จะคุมรถได้ง่ายกว่าคับ
แต่ถ้าเป็นโค้งที่ไม่แคบมาก มีรัศมีให้ค่อยๆเลี้ยวเข้าได้หรือตีวงตัดไลน์ให้กว้างได้ พวก Fulltime AWD จะเข้าได้เร็วและมั่นคงกว่า
ในขณะที่รถขับหน้าจะมีอาการคล้ายๆท้ายรถจะออก อาจเป็นเพราะแรงยึดเกาะที่ล้อหลังไม่ดีเท่าพวก AWD
ในสภาวะถนนปกติไม่ว่าจะขับสอง หรือขับสี่ ด้วยความที่มันมีข้อเด่นข้อด้อยต่างกันไปทำให้ performance มันดูสูสี ไล่เลี่ยพอๆกัน
แต่ถ้าเป็นสถานการณ์ถนนลื่น ฝนตก ผมให้คะแนนความสามารถของรถ Fulltime AWD ในแง่การควบคุมและเสถียรภาพเหนือกว่าขับสองปกตินะ
-
ขับถนน ไม่ลงสนามผมว่ารถขับ 4 ขับแล้วมั่นใจสุดครับไม่ว่อกแว่กอาการไม่ค่อยออก
สั้นๆได้ใจความแบบท่านนี้ตอบครับ
ขับ 4 ดีตรงแม้เราผ่านอุปสรรคแบบไหน ขอแค่ระวังไว้บ้าง อาการไม่ค่อยออก
ความมั่นใจมากกว่าจริงๆครับ
-----
ปล.คลิปนอกประเด็นขออภัย
พอดีเคยเห็นคลิปขับ 4 ประชันกัน ถนนดำได้ off road ดีเลยคิดถึง
เอามาดูกันเล่นๆสำหรับคนชอบนะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=0H_UxhRXgec (https://www.youtube.com/watch?v=0H_UxhRXgec)
-
ขอบคุณครับ เพิ่งไปลอง m340i มาวันนี้เลยตัดสินใจยังไม่ซื้อ ส่วนตัวไม่ค่อยรู้สึกแตกต่างเท่าไหร่เลยทั้งเข้าโค้งแล้วก็ตอนขับปกติ มีรู้สึกหนืดๆแล้วพุ่งแบบมั่นใจจริงๆแค่ตอนออกตัว
ที่ลองไม่ค่อยมีโค้งด้วย ตรงที่พอมีโค้งหน่อยรถก็ติด ภาพรวมยังชอบมอเตอร์ไฟฟ้าถีบตอนออกตัวมากกว่า หวิวๆแต่ทันใจดี
-
Feeling คนละแบบ ทั้งตอนออกตัว และ อยู่ในโค้งครับ
over หรือ understeer อาการ หน้าดื้อ หรือ ตรูดบาน มันจะน้อยมาก
หรือ เวลาเราออกตัวแรงๆ กับ ขับหน้า หรือ ขับหลังเนี่ย จะมีอาการเลย
แต่ ขับ 4 มันจะไปตรงๆ ครับ
ผมใช้ Im มา 6 ปี ก่อนจะเป็น Volvo ก่อนหน้านั้น ก็ A31 กะ EK
คิดถึงมันทุกครั้ง ที่ ออกตัว กะ อยู่ในโค้งครับ
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผมเคยขับ wrx ก็คิดแบบนี้เลย
ทุกวันนี้ก็ยังคงคิดถึงรถขับสี่ที่แรงและดิบแบบนั้นอยู่
ออกตัวแบบพุ่งออกไปทั้งคัน
เข้าโค้งหนึบๆ ไม่ต้องกลัวหลุดเลย (แต่ถ้าหลุดแก้ไม่ได้เลย รถหมุนติ้วเลยครับ)
แต่เอาเข้าจริงขับแบบสุภาพหรือทั่วๆไป รู้สึกถึงความต่างน้อยมาก
จนทุกวันนี้ไม่ได้ซื้อรถขับสี่มาใช้งานเลย
-
นั่งดุเฟสไปมา เจอคลิปนี้เข้า ..
ขับ4 เจอ ขับ 2 ล้อหน้า ถนนจริง ...
ขับ 4 ก็จริงแต่คนขับใจไม่ได้ เดียวยกๆ ไม่กล้าแช่ เจอขับ 2 เข้าไป ทั่งคอสะพานทั้งทางโค้ง สุดท้ายขับ 4 แพ้ไป ...
มันอยู่ที่ฝีมือครับ ระบบขับเคลื่อนมันอีกเรื่องนึง ..
https://fb.watch/4TOO_umey2/
-
นั่งดุเฟสไปมา เจอคลิปนี้เข้า ..
ขับ4 เจอ ขับ 2 ล้อหน้า ถนนจริง ...
ขับ 4 ก็จริงแต่คนขับใจไม่ได้ เดียวยกๆ ไม่กล้าแช่ เจอขับ 2 เข้าไป ทั่งคอสะพานทั้งทางโค้ง สุดท้ายขับ 4 แพ้ไป ...
มันอยู่ที่ฝีมือครับ ระบบขับเคลื่อนมันอีกเรื่องนึง ..
https://fb.watch/4TOO_umey2/
แปลว่า "ฝีมือคนขับ มีผลมากกว่ารถที่ใช้ ใช่ไหมครับ" ??
ยิ่งถ้าเป็นรถที่ทำมาใกล้เคียงกันแบบพวกในสนามแข่ง
ยิ่งวัด "ฝีมือของคนขับ" ได้ชัดเจนที่สุด
-
รถแรงม้าไม่มาก ไม่ต่างกันเลย
-
นั่งดุเฟสไปมา เจอคลิปนี้เข้า ..
ขับ4 เจอ ขับ 2 ล้อหน้า ถนนจริง ...
ขับ 4 ก็จริงแต่คนขับใจไม่ได้ เดียวยกๆ ไม่กล้าแช่ เจอขับ 2 เข้าไป ทั่งคอสะพานทั้งทางโค้ง สุดท้ายขับ 4 แพ้ไป ...
มันอยู่ที่ฝีมือครับ ระบบขับเคลื่อนมันอีกเรื่องนึง ..
https://fb.watch/4TOO_umey2/
แปลว่า "ฝีมือคนขับ มีผลมากกว่ารถที่ใช้ ใช่ไหมครับ" ??
ยิ่งถ้าเป็นรถที่ทำมาใกล้เคียงกันแบบพวกในสนามแข่ง
ยิ่งวัด "ฝีมือของคนขับ" ได้ชัดเจนที่สุด
ต้องเทียบคนขับคนเดียวกัน แล้วรถแรงม้าใกล้เคียงกัน แตกต่างกันที่ขับสองกับขับสี่ ถึงจะถูกต้องครับ
ถ้าเทียบแบบนั้น เอาอาม่ามาขับสี่ เอาแว๊ปมาขับสอง ยังไงขับสองก็ชนะสิครับ
-
นั่งดุเฟสไปมา เจอคลิปนี้เข้า ..
ขับ4 เจอ ขับ 2 ล้อหน้า ถนนจริง ...
ขับ 4 ก็จริงแต่คนขับใจไม่ได้ เดียวยกๆ ไม่กล้าแช่ เจอขับ 2 เข้าไป ทั่งคอสะพานทั้งทางโค้ง สุดท้ายขับ 4 แพ้ไป ...
มันอยู่ที่ฝีมือครับ ระบบขับเคลื่อนมันอีกเรื่องนึง ..
https://fb.watch/4TOO_umey2/
ตามคลิป ขับอิมโคตรเสียของเลย
-
AWD + ยางดีๆ รถยังกะตุ๊กแกครับ ผมแค่ Everest ไม่ต้องถึงกับ Subaru ก็สนุกทุกโค้งละ ฝนตกก็ซัดได้
-
แต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียของมันต่างกันไปครับ แต่ส่วนตัวผมเป้นคนชอบเหยียบแรงๆบ่อยและขับรถมาทุกระบบขับเคลื่อน
ผมจะชอบ ขับ 2 ล้อหลังมากที่สุด เพราะเป็นระบบขับเคลื่อนที่ให้ความรู้สึกบาล๊านน้ำหนักและการควบคุมพวงมาลัยเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุด
(ที่จะพูดเทียบในโพสนี้ขอตัดรถประเภทกระบะออกไปน่ะครับ เอาเก๋งเทียบเก๋งเหมือนกันอย่างเดียว)
สำหรับรถ ขับ 2 ล้อหน้า - สิ่งที่ผมไม่ชอบอันดับ 1 คืออาการ torque steer และหน้าดึง พวงมาลัยดึง
พวงมาลัยดิ้อ (ถ้าใช้คำเรียกไม่ถูก ขออภัยครับ) จะเกิดขึ้นเวลากระแทกคันเร่งเต็มแล้วเลี้ยวพร้อมกันไปด้วย ถ้าเครื่องแรงม้าแรงบิดมาก
ยิ่งออกอาการมากตาม เพราะล้อที่ใช้ควบคุมการเลี้ยวดันเป็นล้อเดียวกับล้อที่ใช้ขับเคลื่อน ทำให้การควบคุมพวงมาลัยให้แม่นยำตามใจสั่งนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ที่ล้อใช้เลี้ยวกับล้อที่ใช้ขับเคลื่อนแยกหน้าที่กัน อย่างเห็นได้ชัด
- สิ่งที่ไม่ชอบอันดับ 2 คือรถมีอาการหนักหน้าชัดเจน เพราะเครื่อง+เกียร์+เฟืองท้าย+เพลาขับ ไปกองกันข้างหน้าที่แกนล้อหน้าหมด
แถมวางขวางด้วย รวมถึงตำแหน่งคนนั่งหน้าจะถูกบังคับให้ไปอยู่ใกล้ล้อหน้ามากด้วย (แต่ได้ข้อดีคือพื้นที่เบาะหลังเยอะ) ทำให้น้ำหนักไปอยู่ข้างหน้าเยอะ หน้าจะไม่คม เวลาเลี้ยวเวลาเบรกจะรู้สึกได้เลย
- สิ่งที่ไม่ชอบอันดับ 3 คือตอนออกตัวใช้กำลังสูงๆ Traction จะห่วยสุดในทุกระบบขับเคลื่อน ล้อจะฟรีทิ้งง่ายและเยอะมากที่สุด เพราะเวลาเร่ง
น้ำหนักรถจะถ่ายเทไปข้างหลัง Traction ของล้อหลังจะเพิ่มขึ้น ยิ่งเร่งแรงเท่าไหร่ Traction ของล้อหลังก็ยิ่งเกาะเพิ่มขึ้นเท่านั้น
แต่ล้อหน้ามันสวนทาง คือยิ่งเร่ง ล้อหน้ามันยิ่งเกาะน้อยลง สุดท้ายก็ฟรีทิ้ง ยิ่งถ้าถนนลื่นและมีคนนั่งเต็มเบาะหลังนี่ล้อฟรีง่ายๆตลอดเลย
(แต่ถ้าขับเคลื่อนล้อหลังยิ่งมีคนหลัง Traction ยิ่งมากตาม ดีขึ้นไปอีก) เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมรถแรงม้าแรงบิดสูง หรือ รถบรรทุก
ถึงต้องเป็นขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น
สำหรับรถ ขับ 4 ล้อ การยึดเกาะถนนดีที่สุดในทุกระบบ จะเด่นจริงๆต้องอัดโค้งเร็วๆแรงๆ หรือจอดสนิทแล้วออกตัว launching
หรือทางลื่นๆ ไปได้เร็วกว่าทุกระบบ แต่ทางตรงปกติ ก็ไม่ค่อยประโยชน์เท่าไหร่ แล้วดันมีข้อเสียหลายอย่าง เช่นน้ำหนักรถเยอะ
แล้วมีอาการพวงมาลัยดื้อขืนๆคล้ายที่อธิบายในของรถขับ 2 ล้อหน้า (เพราะขับ 4 ก็มีการส่งกำลังไปล้อหน้า) เข้าโค้งได้เร็วก็จริง แต่ก็มีอาการ understeer มาก เหมือนจะขืนๆแปลกๆ เข้าโค้งชอบป้านออก ไม่แน่ใจว่าเพราะน้ำหนักตัวเยอะหรือเพราะมีการส่งกำลังไปล้อหน้ารึเปล่า ถึงออกอาการนี้
ส่วนอัตราเร่งและความเร็วทางตรงรวมถึงการกินน้ำมันนั้นและค่ามลพิษ ห่วยกว่าทุกระบบขับเคลื่อน เพราะในระบบส่งกำลังมีภาระเยอะมากที่สุด
รวมถึงการซ่อมบำรุงในอนาคต และจุดที่ต้องเสียต้องซ่อมก็มากกว่าระบบอื่นชัดเจน...จริงๆผมก็ชอบขับ 4 แต่หักล้างข้อดีข้อเสีย
สำหรับการใช้งานขับบนท้องถนนในชีวิตประจำวัน ขับ 4 เหมือนจะได้ไม่คุ้มเสีย รถขับ 2 ดูโอเคกว่าในหลายๆสถาณการณ์และความสะดวก
ทางลื่นฝนตกก็เบาลงหน่อย ไม่เคยไปแข่งทำเวลากับใครเอาถ้วยบนถนนอยู่แล้ว ถึงเวลาจะเร่งแข่งกับใคร ส่วนมากก็แบบคลานๆอยู่ 80 แล้วเร่งออกไป
แทบไม่ค่อยเจอเหตุการณ์แบบเร่งแข่งกับใครตอนจอดสนิทแล้ว launching ออกไป สุดท้ายขับ 4 เลยดูไม่จำเป็นกับคนส่วนมากครับผมว่า
เพราะแบบนี้รถตามท้องตลาดที่ขายกันส่วนมากก็จะเป็น 2 เสียส่วนมาก
ปล. อันนี้ผมพูดถึงแต่เรื่องการขับขี่น่ะครับ และพูดตามสไตล์คนชอบเหยียบแรงๆ ผมเลยว่าขับ 2 ล้อหลังขับดีสุด
แต่ถ้าขับเน้นใช้งานปกติแบบชาวบ้านเค้าขับกัน รถแรงม้าไม่สูงมาก ผมว่าขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าข้อดีน่าจะเยอะสุด และเหมาะสุดครับ.
-
ชอบการทำงานของรถ EV ที่มีมอเตอร์หน้าหลัง ขับ4ครับ
แต่ถ้ารถน้ำมันชอบขับ2หลังมากกว่าพวกขับ4ครับ
-
ชอบขับสี่เวลาฝนตก ถนนลื่น มั่นใจกว่าเยอะ ทำเวลาได้ดี ผมวิ่งภาคตะวันออกบ่อยจะชอบระบบนี้เพราะฝนตกบ่อยจริงๆ
ถนนแห้งๆ ชอบขับหลัง มันได้อารมณ์ดิบๆ ดื้อๆ พยศหน่อย เวลากดแรงมีท้ายปัดบ้างพอสนุกดี แต่ไม่ชอบเวลาเข้าโค้งรู้สึกมันดื้อไปหน่อย สู้ขับหน้าไม่ได้จิกโค้งดีกว่า
-
ดูเป็น ไอเดีย นะครับ
ไม่ต้องคิดมาก หลักการเยอะ เงื่อนไขแยะ อิอิ
https://www.youtube.com/watch?v=d_DiXWcrs50
https://www.roadandtrack.com/new-cars/car-comparison-tests/videos/a31879/awd-vs-fwd-vs-rwd-which-is-fastest-around-the-track/
2 clip อันอื่นๆ หาเพิ่มเองครับ
-
ดูเป็น ไอเดีย นะครับ
ไม่ต้องคิดมาก หลักการเยอะ เงื่อนไขแยะ อิอิ
https://www.youtube.com/watch?v=d_DiXWcrs50
สนุกดีครับ อยากหาสนามแบบนี้ในบ้านเราไปลองขับบ้าง
-
ใช้งานทั่วไป ไม่ต่างมากหรอกครับ นอกจากจะใส่ไปจนถึง limit ของรถคันนั้นๆ
-
ถ้าขับเป็น ยางดี รถไม่สูงมาก ขับหน้าก็พอแล้วครับ
ขับหลัง ขับสี่ ขับไม่เป็น มันก็หมุนตกถนนได้เหมือนกันหมดครับ ไม่ได้ไปแข่งWRCแทบไม่มีผล
-
รถขับ4 ลิมิต จะสูงกว่าขับ2 แต่เมื่อขับจนเกินลิมิตนั้นแล้ว จะจับและแก้อาการได้ยากกว่า ขึ้นอยู่กับใีมือและความเคยชินเลยครับ
-
ถ้าในระดับรถ และ ราคา ที่บอกมา ถ้ามีตัวเลือก FR กับ AWD ให้เลือก ผมก็เลือก AWD ครับ เพราะ AWD ระบบมันก็คิดให้เองแหละ มีไม่ได้ใช้หรือจะใช้ไม่มี ไม่ต้องมาพูดกันให้เหนื่อย
แต่บางคน พอมาควบรถ AWD จะมีความรู้สึกในใจว่า ตรูขับ AWD นะโว้ย มันต้องมั่นใจกว่า FF หรือ FR ซิ (เรียกว่าห้าว หรือ ชะล่าใจ)
ซึ่งเอาจริงๆ คนขับรถ FF/FR มาทั้งชีวิต บนเส้นทางเดิมๆ พอมาขับ AWD บนเส้นทางเดิมๆ ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย เพราะ มันก็ขับได้เหมือนกัน (ถ้าไม่ได้ต้องการอะไรจาก AWD เลย) เช่น คนบอกว่าขับ AWD ขึ้นเขา โค้งเยอะ มั่นใจกว่า FF/FR เยอะเลย แต่ลืมไปว่า คนในพื้นที่ของ ไมตี้/สตราด้า/มังกรทอง ขึ้นลงกันเป็นว่าเล่นทุกวัน
ใช่ครับ AWD มันโอเคกว่า FF/FR แต่มันต้องมาไปถึงจุดที่เป็นขีดสุดของ FF/FR ก่อน แต่การใช้งานทั่วไป มันไม่ต่างกัน เรียกว่า มันอยู่ที่การใช้งาน ครับ
ปล.จากคนใช้ AWD ทุกวัน
-
ผมว่าถ้าเทียบรถ Set ช่วงล่างมาแล้วทุกระบบขับเคลื่อนมันอาจจะไม่ค่อยต่างกันมากเท่าไรครับ(ขึ้นอยู่กับไล+ฝีมือผู้ขับ) แต่รถบ้านขับหน้าหรือหลังกับรถสปอร์ตซีดานต่างแน่นอนครับ
แต่จริงๆขับสี่ ก็อย่ามั่นใจทุกย่านความเร็วให้มากนะครับ มันเกาะก็จริงแต่ถ้าหลุดจะแก้อาการยากครับ เหมือนรถมันไถลไปเลย ไม่ Over หรือ Under แต่มันไปทั้งคัน
-
นั่งดุเฟสไปมา เจอคลิปนี้เข้า ..
ขับ4 เจอ ขับ 2 ล้อหน้า ถนนจริง ...
ขับ 4 ก็จริงแต่คนขับใจไม่ได้ เดียวยกๆ ไม่กล้าแช่ เจอขับ 2 เข้าไป ทั่งคอสะพานทั้งทางโค้ง สุดท้ายขับ 4 แพ้ไป ...
มันอยู่ที่ฝีมือครับ ระบบขับเคลื่อนมันอีกเรื่องนึง ..
https://fb.watch/4TOO_umey2/
ล่าสุดโดนมินิ รับประทานไปเรียบร้อยแล้วนี่ครับ
ถ้า Vios บูสแค่นี้ ถ้า Imp กดเต็มรับรองฉีกครับ คันในคลิปอาจจะไม่กล้าเล่นสักเท่าไร บางช่วงกดมิดได้ แต่ไม่กด ทางอาจจะมืด, ไม่ชินทาง ถ้ามันเสี่ยงอันตรายมากอย่าเล่นเลยครับ ชนะมาก็ไม่ได้อะไร
-
เฮ้อ....
-
หลายๆคนขับแล้วไม่รู้สึกด้วยซ้ำ
สำหรับผมนะขับสนุกคือขับหลัง แต่ก็ยังชอบขับสี่ที่สุด หนึบๆ ยัดโค้งมันๆ
-
เท่าที่อ่านความเห็นท่านอื่นๆสรุปได้ประมาณนี้ครับ
- คนที่มองขับ 4 เป็นแค่ออฟชั่นเสริมในการขับ
ก็จะมองว่ามีก็ได้ แต่ก็ไม่จำเป็น และเป็นภาระเปลืองเปล่าๆ
- คนที่มองขับ 4 เป็น active safety เหมือนมีพวก vsc trc g-vector นี้
คนกลุ่มนี้ รวมถึงผม ก็จะมองว่าจำเป็น ถ้ารถมันมีในรุ่นที่อยากได้ก็จะเอา
เพราะขับปลอดภัยกว่าขับหน้าหรือขับหลังในทุกสถานการณ์สภาพถนนในการขับแบบเดียวกัน
ปล.คนที่บอกว่าถ้ามีขับ 4 แล้วหลุดโค้งคือจบเลย
ถามว่าขับระดับที่ขับ 4 หลุดได้นี้ถ้าขับหน้าหรือขับหลังจะรอดหรือครับ?
รถทุกคันเกินลิมิตก็หลุดทั้งนั้น
ขนาดว่าขับ 4 ลิมิตจะมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังแล้วยังทำให้หลุดได้อีก
ควรจะคิดว่าเอาลิมิตนี้มาเผื่อเป็นความเซฟตี้ของตัวเองจะดีกว่าครับสำหรับใช้งานทั่วไป
-
ปล.คนที่บอกว่าถ้ามีขับ 4 แล้วหลุดโค้งคือจบเลย
ถามว่าขับระดับที่ขับ 4 หลุดได้นี้ถ้าขับหน้าหรือขับหลังจะรอดหรือครับ?
รถทุกคันเกินลิมิตก็หลุดทั้งนั้น
ขนาดว่าขับ 4 ลิมิตจะมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังแล้วยังทำให้หลุดได้อีก
ควรจะคิดว่าเอาลิมิตนี้มาเผื่อเป็นความเซฟตี้ของตัวเองจะดีกว่าครับสำหรับใช้งานทั่วไป
ขอเสริมนะครับ อย่างพวกที่ทำรถขับ 4 หลุดโค้งแล้วไม่รอด ส่วนใหญ่ก็พวกไม่มีประสบการณ์ในสนามแข่ง ตัวผมก็เช่นกันครับ เคยขับเกิน Limit ของรถ เพราะอยากได้อารมย์นิดๆ รถ Symmetrical AWD + VDC ไม่รอดจากฟุตบาทครับ หลุดแล้วขึ้นฟุตบาทเลย ถ้าไม่มีประสบการณ์ในสนามแข่งคงแก้อาการไม่เป็น ตอนนี้เวลาขับผมไม่กล้าเข้าโค้งจนเกินลิมิตของยางอีกเลยครับ
-
เท่าที่อ่านความเห็นท่านอื่นๆสรุปได้ประมาณนี้ครับ
- คนที่มองขับ 4 เป็นแค่ออฟชั่นเสริมในการขับ
ก็จะมองว่ามีก็ได้ แต่ก็ไม่จำเป็น และเป็นภาระเปลืองเปล่าๆ
- คนที่มองขับ 4 เป็น active safety เหมือนมีพวก vsc trc g-vector นี้
คนกลุ่มนี้ รวมถึงผม ก็จะมองว่าจำเป็น ถ้ารถมันมีในรุ่นที่อยากได้ก็จะเอา
เพราะขับปลอดภัยกว่าขับหน้าหรือขับหลังในทุกสถานการณ์สภาพถนนในการขับแบบเดียวกัน
ปล.คนที่บอกว่าถ้ามีขับ 4 แล้วหลุดโค้งคือจบเลย
ถามว่าขับระดับที่ขับ 4 หลุดได้นี้ถ้าขับหน้าหรือขับหลังจะรอดหรือครับ?
รถทุกคันเกินลิมิตก็หลุดทั้งนั้น
ขนาดว่าขับ 4 ลิมิตจะมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังแล้วยังทำให้หลุดได้อีก
ควรจะคิดว่าเอาลิมิตนี้มาเผื่อเป็นความเซฟตี้ของตัวเองจะดีกว่าครับสำหรับใช้งานทั่วไป
มันก็ไม่ใช่ว่าขับ 4 จะมีลิมิตมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังนะครับ ว่ากันในสนามแข่งขันทางเรียบแล้ว ขับหน้าหรือขับหลังในโค้งเร็วกว่าและก็อาจจะหลุดยากกว่าด้วย แต่ขับ4 จะออกโค้งได้ง่ายกว่า
-
ปล.คนที่บอกว่าถ้ามีขับ 4 แล้วหลุดโค้งคือจบเลย
ถามว่าขับระดับที่ขับ 4 หลุดได้นี้ถ้าขับหน้าหรือขับหลังจะรอดหรือครับ?
รถทุกคันเกินลิมิตก็หลุดทั้งนั้น
ขนาดว่าขับ 4 ลิมิตจะมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังแล้วยังทำให้หลุดได้อีก
ควรจะคิดว่าเอาลิมิตนี้มาเผื่อเป็นความเซฟตี้ของตัวเองจะดีกว่าครับสำหรับใช้งานทั่วไป
ขอเสริมนะครับ อย่างพวกที่ทำรถขับ 4 หลุดโค้งแล้วไม่รอด ส่วนใหญ่ก็พวกไม่มีประสบการณ์ในสนามแข่ง ตัวผมก็เช่นกันครับ เคยขับเกิน Limit ของรถ เพราะอยากได้อารมย์นิดๆ รถ Symmetrical AWD + VDC ไม่รอดจากฟุตบาทครับ หลุดแล้วขึ้นฟุตบาทเลย ถ้าไม่มีประสบการณ์ในสนามแข่งคงแก้อาการไม่เป็น ตอนนี้เวลาขับผมไม่กล้าเข้าโค้งจนเกินลิมิตของยางอีกเลยครับ
ถูกต้องแล้วครับ คือขับกลางๆก็พอ มันปลอดภัยแบบรู้สึกได้จริงๆครับ ::)
เท่าที่อ่านความเห็นท่านอื่นๆสรุปได้ประมาณนี้ครับ
- คนที่มองขับ 4 เป็นแค่ออฟชั่นเสริมในการขับ
ก็จะมองว่ามีก็ได้ แต่ก็ไม่จำเป็น และเป็นภาระเปลืองเปล่าๆ
- คนที่มองขับ 4 เป็น active safety เหมือนมีพวก vsc trc g-vector นี้
คนกลุ่มนี้ รวมถึงผม ก็จะมองว่าจำเป็น ถ้ารถมันมีในรุ่นที่อยากได้ก็จะเอา
เพราะขับปลอดภัยกว่าขับหน้าหรือขับหลังในทุกสถานการณ์สภาพถนนในการขับแบบเดียวกัน
ปล.คนที่บอกว่าถ้ามีขับ 4 แล้วหลุดโค้งคือจบเลย
ถามว่าขับระดับที่ขับ 4 หลุดได้นี้ถ้าขับหน้าหรือขับหลังจะรอดหรือครับ?
รถทุกคันเกินลิมิตก็หลุดทั้งนั้น
ขนาดว่าขับ 4 ลิมิตจะมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังแล้วยังทำให้หลุดได้อีก
ควรจะคิดว่าเอาลิมิตนี้มาเผื่อเป็นความเซฟตี้ของตัวเองจะดีกว่าครับสำหรับใช้งานทั่วไป
มันก็ไม่ใช่ว่าขับ 4 จะมีลิมิตมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังนะครับ ว่ากันในสนามแข่งขันทางเรียบแล้ว ขับหน้าหรือขับหลังในโค้งเร็วกว่าและก็อาจจะหลุดยากกว่าด้วย แต่ขับ4 จะออกโค้งได้ง่ายกว่า
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ถามเพิ่มนิดนึงครับ
ถ้าถนนมีดิน ถนนเปียก ถนนลื่น ลิมิตขับ 4 ยังน้อยกว่าขับหน้าขับหลังหรือเปล่าครับ ???
เพราะใช้ทั่วไปก็ต้องระวังพวกนี้ครับ
-
รถบ้านขับไม่ค่อยต่างครับ
ขับหน้า เข้าโค้งจิกๆ เพิ่มพลังได้ แต่ไม่ควรมากเกิน limit
ขับหลัง บ้าพลัง บาลานซ์ดี แต่ขับยากในทางลื่น
ขับ4 มีดีทุกอย่างรวมกัน เลยเป็น AWD
จะไป bias หน้าเหมือน Audi เรียก Quattro
หรือ bias หลังเหมือน Xdrive ของ BMW
ขึ้นอยู่กับ center diff ออกแบบมาให้ขับยังไงกับแรงม้าที่เพิ่มขึ้น
AWD และ 4WD ไม่เหมือนกัน
แค่ทางฝุ่น ถนนเปียก ในเมือง AWD
ไปลุยทุ่ง ตามควาย ไถนา ขอ 4WD
-
รถบ้านขับไม่ค่อยต่างครับ
ขับหน้า เข้าโค้งจิกๆ เพิ่มพลังได้ แต่ไม่ควรมากเกิน limit
ขับหลัง บ้าพลัง บาลานซ์ดี แต่ขับยากในทางลื่น
ขับ4 มีดีทุกอย่างรวมกัน เลยเป็น AWD
จะไป bias หน้าเหมือน Audi เรียก Quattro
หรือ bias หลังเหมือน Xdrive ของ BMW
ขึ้นอยู่กับ center diff ออกแบบมาให้ขับยังไงกับแรงม้าที่เพิ่มขึ้น
AWD และ 4WD ไม่เหมือนกัน
แค่ทางฝุ่น ถนนเปียก ในเมือง AWD
ไปลุยทุ่ง ตามควาย ไถนา ขอ 4WD
ผมตรงนี้ คุณเข้าใจผิดแล้วละ
คำว่า AWD กับ 4WD หลายคนยังเข้าใจผิดอยู่เลย
คุณยังมองว่า 4WD คือ 4x4 รถกลุ่มกระบะ หรือ ออฟโรด อยู่เลย
หลายค่าย หรือ หลายๆ สื่อ หรือ หลายเพจ เขายังบอกว่า 4WD กับ AWD มันคือความหมายเดียวกันอยู่เลย เช่นค่ายเยอรมันยังเคยออกมาพูดอยู่เลยว่า AWD กับ 4WD มันคือตัวเดียวกัน แค่แล้วแต่จะเรียกอยู่เลย
SUV บางรุ่น บางค่าย เขายังเรียก 4WD อยู่เลย ซึ่งวิ่งในเมือง หรือ ถนนดำ ไม่ใช่วิ่งในทุ่ง ลุยโคลน อย่างที่คุณว่ามาเลย
ส่วนจะเป็น AWD หรือ 4WD ที่เป็นแบบ fix ล๊อคไว้เลย เช่น 50:50, 60:40 หรือ variable (แปรผัน แบบ FF->80:20->60:40->40:60->20:80->FR) การขับหรือทอร์คแรงบิดลงล้อทั้ง 4 ล้อ ตามสภาพการขับขี่/สภาพถนน ก็มองว่าเป็นการออกแบบตามแต่ละค่าย หรือ จุดเด่น หรือ สิ่งที่อยากขาย ในแต่ยี่ห้อๆ ไป
-
อย่างผมขับ ขับหน้า กับ ขับสี่ ขับสี่ให้ความมั่นใจเวลาขับขี่ รู้สึกปลอดภัยกว่า ทั้งทางโค้งและทางแฉะ
แต่บางคนนี่แทบไม่รู้เลยนะครับ ขนาดโช๊คตาย ลูกหมากพัง หลายคนบ้านๆ ยังไม่ค่อยได้สังเกตเลยครับ
-
ถ้าไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมากๆ (หรือไม่ได้เกินป้ายจราจรที่แนะนำไว้) ผมว่าแทบไม่ต่างครับ เพราะถ้าหากขับให้หลุดได้นี่ผมมองว่า ใช้ความเร็วสูงมากกกกกก ครับ ;)
-
ถ้าไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมากๆ (หรือไม่ได้เกินป้ายจราจรที่แนะนำไว้) ผมว่าแทบไม่ต่างครับ เพราะถ้าหากขับให้หลุดได้นี่ผมมองว่า ใช้ความเร็วสูงมากกกกกก ครับ ;)
ถ้าถนนตามตจว. อาจได้ใช้งานบ้างครับ
คนขับรถที่ไม่สนใจชาวบ้านมีเยอะนะครับ มอไซค์ตัดหน้า กระบะตัดหน้า เก๋งตัดหน้า สุนัข แมว ตะกวด สารพัดจะตัดหน้า
ถ้าสติดีๆและระบบขับเคลื่อนรถอำนวย ก็สามารถรอดจากอุปสรรคเหล่านี้ได้ครับ
-
ถ้าไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมากๆ (หรือไม่ได้เกินป้ายจราจรที่แนะนำไว้) ผมว่าแทบไม่ต่างครับ เพราะถ้าหากขับให้หลุดได้นี่ผมมองว่า ใช้ความเร็วสูงมากกกกกก ครับ ;)
ถ้าถนนตามตจว. อาจได้ใช้งานบ้างครับ
คนขับรถที่ไม่สนใจชาวบ้านมีเยอะนะครับ มอไซค์ตัดหน้า กระบะตัดหน้า เก๋งตัดหน้า สุนัข แมว ตะกวด สารพัดจะตัดหน้า
ถ้าสติดีๆและระบบขับเคลื่อนรถอำนวย ก็สามารถรอดจากอุปสรรคเหล่านี้ได้ครับ
รถก็เป็นส่วนช่วยครับ แต่สิ่งสำคัญกว่าผมมองว่าคือผู้ขับขี่ครับ
-
ปล.คนที่บอกว่าถ้ามีขับ 4 แล้วหลุดโค้งคือจบเลย
ถามว่าขับระดับที่ขับ 4 หลุดได้นี้ถ้าขับหน้าหรือขับหลังจะรอดหรือครับ?
รถทุกคันเกินลิมิตก็หลุดทั้งนั้น
ขนาดว่าขับ 4 ลิมิตจะมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังแล้วยังทำให้หลุดได้อีก
ควรจะคิดว่าเอาลิมิตนี้มาเผื่อเป็นความเซฟตี้ของตัวเองจะดีกว่าครับสำหรับใช้งานทั่วไป
ขอเสริมนะครับ อย่างพวกที่ทำรถขับ 4 หลุดโค้งแล้วไม่รอด ส่วนใหญ่ก็พวกไม่มีประสบการณ์ในสนามแข่ง ตัวผมก็เช่นกันครับ เคยขับเกิน Limit ของรถ เพราะอยากได้อารมย์นิดๆ รถ Symmetrical AWD + VDC ไม่รอดจากฟุตบาทครับ หลุดแล้วขึ้นฟุตบาทเลย ถ้าไม่มีประสบการณ์ในสนามแข่งคงแก้อาการไม่เป็น ตอนนี้เวลาขับผมไม่กล้าเข้าโค้งจนเกินลิมิตของยางอีกเลยครับ
ถูกต้องแล้วครับ คือขับกลางๆก็พอ มันปลอดภัยแบบรู้สึกได้จริงๆครับ ::)
เท่าที่อ่านความเห็นท่านอื่นๆสรุปได้ประมาณนี้ครับ
- คนที่มองขับ 4 เป็นแค่ออฟชั่นเสริมในการขับ
ก็จะมองว่ามีก็ได้ แต่ก็ไม่จำเป็น และเป็นภาระเปลืองเปล่าๆ
- คนที่มองขับ 4 เป็น active safety เหมือนมีพวก vsc trc g-vector นี้
คนกลุ่มนี้ รวมถึงผม ก็จะมองว่าจำเป็น ถ้ารถมันมีในรุ่นที่อยากได้ก็จะเอา
เพราะขับปลอดภัยกว่าขับหน้าหรือขับหลังในทุกสถานการณ์สภาพถนนในการขับแบบเดียวกัน
ปล.คนที่บอกว่าถ้ามีขับ 4 แล้วหลุดโค้งคือจบเลย
ถามว่าขับระดับที่ขับ 4 หลุดได้นี้ถ้าขับหน้าหรือขับหลังจะรอดหรือครับ?
รถทุกคันเกินลิมิตก็หลุดทั้งนั้น
ขนาดว่าขับ 4 ลิมิตจะมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังแล้วยังทำให้หลุดได้อีก
ควรจะคิดว่าเอาลิมิตนี้มาเผื่อเป็นความเซฟตี้ของตัวเองจะดีกว่าครับสำหรับใช้งานทั่วไป
มันก็ไม่ใช่ว่าขับ 4 จะมีลิมิตมากกว่าขับหน้าหรือขับหลังนะครับ ว่ากันในสนามแข่งขันทางเรียบแล้ว ขับหน้าหรือขับหลังในโค้งเร็วกว่าและก็อาจจะหลุดยากกว่าด้วย แต่ขับ4 จะออกโค้งได้ง่ายกว่า
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ถามเพิ่มนิดนึงครับ
ถ้าถนนมีดิน ถนนเปียก ถนนลื่น ลิมิตขับ 4 ยังน้อยกว่าขับหน้าขับหลังหรือเปล่าครับ ???
เพราะใช้ทั่วไปก็ต้องระวังพวกนี้ครับ
ถนนเปียก, ถนนมีดิน ขับ4จะควบคุมง่ายกว่า แรงบิดมันกระจายไปทุกล้อ ช่วยดันช่วยดึง
แต่ถนนลื่นมากก็ต้องไปดูถึงยางที่ใช้ในขับ4 เข้าไปอีก
ถนนลื่น ผมว่าต่างกันไม่มาก ถ้ารถไม่ได้มีแรงบิดมากมาย
โดยส่วนใหญ่ผมขับอะไรมา เจอถนนเปียก ก็จะชะลอไว้ก่อน