Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: deertesla ที่ เมษายน 21, 2021, 15:33:40
-
(https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2021/04/tesla_models_crash.png)
Tesla Model S 2019 หลุดโค้งชนต้นไม้ดับชีวิต 2 ผู้โดยสาร พบไร้คนขับหลังพวงมาลัย
Credit: https://www.beartai.com/news/car-news/601635
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น KHOU ในเมือง Houston รัฐเท็กซัสรายงานว่าเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 เมษายน ได้เกิดเหตุรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S 2019 แล่นมาด้วยความเร็วสูงแล้วหลุดโค้งออกจากเส้นทางไปพุ่งชนกับต้นไม้จนเกิดไฟลุกไหม้
เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่าได้พบร่าง 2 ผู้โดยสารเป็นชายนิรนามอายุ 59 และ 69 ปีเสียชีวิตอยู่ในรถ โดยที่ร่างของชายคนหนึ่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าและอีกคนหนึ่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหลัง ที่ต้องตกใจก็คือไม่มีใครอยู่ตรงที่นั่งของคนขับด้านหลังพวงมาลัย
ข้อมูลในที่เกิดเหตุทำให้สันนิษฐานได้ว่ารถยนต์คันนี้แล่นมาโดยไม่มีคนขับ ซึ่งผู้โดยสารอาจคาดหวังว่าระบบ FSD (Full Self-Driving) หรือระบบขับขี่ด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบและ Autopilot ของ Tesla จะสามารถขับพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายโดยไม่ต้องมีคนขับนั่งควบคุม
ปลายเดือนธันวาคม Eric C. Williams ที่ปรึกษาทั่วไปของ Tesla ได้ส่งจดหมายถึง Miguel D. Acosta หัวหน้าแผนกรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเองของหน่วยงานยานยนต์แคลิฟอร์เนีย (California DMV) ว่าปัจจุบัน Autopilot และ FSD ของ Tesla ไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติ SAE ระดับ 5 (ขับขี่เองโดยไม่ต้องมีคนขับ) ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังอยู่ที่ SAE ระดับ 2 ที่สามารถบังคับเลี้ยว เบรก และเร่งความเร็วโดยต้องมีคนขับควบคุมอยู่ตลอดเวลา
เดือนตุลาคม Tesla ได้เปิดตัว FSD รุ่นเบต้าให้กับผู้ขับขี่ในจำนวนที่จำกัดเฉพาะผู้เชี่ยวชาญและผู้ขับขี่ที่ระมัดระวังประมาณ 2,000 คนได้ทดลองใช้คุณสมบัติใหม่ เช่น การเปลี่ยนเลน การขับผ่านทางแยกไปตามระบบนำทาง การวิ่งไปโดยมีรถยนต์คันอื่น ๆ หรือวัตถุอยู่โดยรอบได้ และการเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา พร้อมย้ำว่าคนขับจะต้องให้ความสนใจกับถนนอย่างต่อเนื่องและเตรียมพร้อมเข้าควบคุมรถในที่คับขัน เช่น ทางแยก และที่แคบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่าได้พบร่าง 2 ผู้โดยสารเป็นชายนิรนามอายุ 59 และ 69 ปีเสียชีวิตอยู่ในรถ โดยที่ร่างของชายคนหนึ่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าและอีกคนหนึ่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหลัง ที่ต้องตกใจก็คือไม่มีใครอยู่ตรงที่นั่งของคนขับด้านหลังพวงมาลัย
ข้อมูลในที่เกิดเหตุทำให้สันนิษฐานได้ว่ารถยนต์คันนี้แล่นมาโดยไม่มีคนขับ ซึ่งผู้โดยสารอาจคาดหวังว่าระบบ FSD (Full Self-Driving) หรือระบบขับขี่ด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบและ Autopilot ของ Tesla จะสามารถขับพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายโดยไม่ต้องมีคนขับนั่งควบคุม
เดือนเมษายน Tesla เผยว่าใกล้เข้ามาแล้วที่จะปล่อย FSD รุ่นเบต้า V9.0 ออกมาให้กดปุ่มอัปเดตกัน โดยจะพึ่งพาการวิเคราะห์ภาพจากกล้องแทนเรดาร์เพื่อให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น แต่สุดท้ายก็เลื่อนไปเป็นเดือนมิถุนายน ซึ่งสรุปง่าย ๆ ว่าขณะนี้ FSD ยังเป็นรุ่นเบต้าที่กำลังทดลองใช้งานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ใช้รถจะต้องมีคนขับควบคุมอยู่หลังพวงมาลัยอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบว่าการเข้าไปดับไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรีลิเทียมขนาดใหญ่ครั้งแรกต้องใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง ดังนั้นในอนาคตที่จะมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า BEV หรือใช้พลังงานจากแบตเบตเตอรีจะต้องมีการให้ความรู้หรือเตรียมความพร้อมในการดับไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีไฟลุกไหม้ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ความคิดเห็นนะครับ คิดว่าการที่. CEO ออกมาโม้เกินความจริงส่งผลเสียต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก สมควรโดนดำเนินคดีให้หนัก ประกอบกับถ้าซื้อรถมาแต่ไม่ยอมขับรถเองแต่กลับให้ระบบขับให้ ทั้งที่เครื่องบินออโต้ไพล็อตยังทำการบินขึ้นและลงจอดสนามบินเองยังไม่ได้ ยังพึ่งพานักบินเป็นหลักอยู่ เป็นความประมาทที่อันตรายต่อคนใช้ถนนร่วมกันเป็นอย่างมาก สุดท้าย รถไฟฟ้าที่ยังใช้แบตเตอร์รี่ที่มีแร่ลิเธี่ยมอยู่เสียเวลาดับไฟเป็นอย่างมาก แถมติดไฟและระเบิดได้ดียิ่งสุดๆ ยิ่งตอนดับไฟก็ใช้เวลานานมาก ใช้ทรัพยากรกรและสารเคมีจำนวนมากในการดับอีก สุดท้ายเป็นรถที่อันตรายและไม่รักโลกเลยนะครับ ขอใช้รถน้ำมันต่อดีกว่า
-
จากข่าวดังกล่าว Elon บอกว่า รถคันที่เกิดอุบัติเหตุไม่ได้ซื้อ FSD ไว้นะครับ
-
จากข่าวดังกล่าว Elon บอกว่า รถคันที่เกิดอุบัติเหตุไม่ได้ซื้อ FSD ไว้นะครับ
Elon นี่ผมมองว่าเป็นคนที่โม้เก่งและไม่ค่อยมีความรับผิดชอบอยู่แล้วนะครับ ไม่เคยมีการกล่าวคำขอโทษอะไรสักครั้งครับ ผมเชื่อการตอบคำถามของลูกจ้างเค้ามากกว่า ถ้าไม่ได้ซื้อระบบช่วยครับจริงแค่ทำไม2คนนั้นไม่มีใครอยู่เบาะคนขับกันครับ แต่กลับอยุ่เบาะผู้โดยสาร คงไม่มีใครปล่อยรถให้วิ่งเองโดยไม่มีระบบอะไรควบคุม อีกอย่างในเมื่อระบบตัวเองยังไม่ได้ถึงขั้นขับด้วยตัวเองโดยสมบูรณ์แต่ทำได้แค่ช่วยขับเท่านั้น แต่ทำไม่ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อออพชันตัวนี้ให้ผูบริโภคเข้าใจได้ถูกต้องครับ เช่น Assist piot หรือ Assist Driver แค่ชื่อ autopilot. ก็ทำให้คนส่วนใหญ่เค้าคิดว่ารถวิ่งเองได้ถึงจุดหมายโดยไม่ต้องควบคุมแล้วแหละครับ
-
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
-
ถ้าไม่ผิด ที่US ตัวกฎหมายความคุ้มครองยังไม่ครอบครุมระบบ Auto driving ใช้มั่ยครับ และตัวกฎหมายนี้ก็ยังไม่มีการออกมาแบบชัดเจน.
จากข่าวดังกล่าว Elon บอกว่า รถคันที่เกิดอุบัติเหตุไม่ได้ซื้อ FSD ไว้นะครับ
-
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
แต่ชื่อทางการค้าของมันทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ครับ กับ CEO ที่ว่านี้ก็ทวีตให้ข่าวโม้ว่าทำงานได้ถึงระดับไหนแต่ทั้งที่จริงมันทำไม่ได้จริงครับ ที่จริงเปลี่ยนชื่อและออกมายอมรับแมนๆ ผู้บริโภคเค้าจะได้ไม่ทำอะไรแผลงๆแบบนี้นะครับ กับอีกอย่างต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่พวงมาลัย ตรวจับความร้อนและน้ำหนักคนนั่งที่เบาะและกล้องจับดวงตาด้วยยว่าคนขับได้ขับรถจริงๆ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก. คุณนี้จะปกป้องบริษัทรถทำไมถามหน่อย เห็นมีแค่ยี่ห้อนี้แหล่ะครับ ที่มัญหาแบบนี้
-
ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต
แต่ก็สงสัย ถ้าเป็นจริงๆดังข่าว ทำไมเขาถึงกล้สเอาชีวิตไปฝากไว้กับระบบอะไรนั่น
-
ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต
แต่ก็สงสัย ถ้าเป็นจริงๆดังข่าว ทำไมเขาถึงกล้สเอาชีวิตไปฝากไว้กับระบบอะไรนั่น
ผมคิดว่าฝรั่ง เค้าชอบทำอะไรพิเรณฑ์แผลงๆ กันเยอะนะคับ
-
จริงไม่ว่าจะระดับไหน
ก็ต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัย เพื่อประคอง/เพื่อเบรค หรืออะไรก็ตามแต่ อยู่ดี
ทำไมคนถึงเชื่อใจและไว้ใจในระบบมากขนาดนั้น
การนำเสนอชื่อเองก็กำกวม ปล่อยให้จด ให้ใช้ชื่อมันก็ไม่ถูกซะทีเดียว
-
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
แต่ชื่อทางการค้าของมันทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ครับ กับ CEO ที่ว่านี้ก็ทวีตให้ข่าวโม้ว่าทำงานได้ถึงระดับไหนแต่ทั้งที่จริงมันทำไม่ได้จริงครับ ที่จริงเปลี่ยนชื่อและออกมายอมรับแมนๆ ผู้บริโภคเค้าจะได้ไม่ทำอะไรแผลงๆแบบนี้นะครับ กับอีกอย่างต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่พวงมาลัย ตรวจับความร้อนและน้ำหนักคนนั่งที่เบาะและกล้องจับดวงตาด้วยยว่าคนขับได้ขับรถจริงๆ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก
ถูกต้องครับ ถ้าระบบทำไม่ได้อย่างที่โม้จริงต้องมีระบบตรวจจับคนนั่งบนเบาะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าเงื่อนไขทั้งสองอย่างเป็นเท็จต้องไม่สามารถขับเคลื่อนรถได้ หรือถ้าเอามือออกจากพวงมาลัยนานเกินกว่าที่กำหนดต้องมีสัญญานเตือนทั้งแสงและเสียง ถ้ายังไม่เอามือมาจับอีกระบบต้องค่อยๆลดความเร็วและหยุดรถครับ
-
รถไฟฟ้า ขับได้ วิ่งได้ แต่ห้ามชนหนัก หากชนหนักแบตเตอรี่ระเบิด ไฟลุกท่วมคัน ผมขอขับรถมีเครื่องยนต์ ใช้น้ำมันดีเซล ติดไฟยากๆ ดีกว่าครับ เทคโนโลยีจะขีดสุดขนาดไหน แต่ถ้าพลาดมา อาการหนักอย่างกับขับเครื่องบิน ผมว่ามันไม่ค่อยอุ่นใจเวลาขับ ยกเว้นกับคนที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆ ไม่เคยเห็นว่า เวลาแบตเตอรี่ ลิเทียมไอออน มันระเบิด มันลุกไหม้ยังไง อาจไม่คิดมากครับ
-
สยองจริงๆ
ส่วนตัวถ้ามีระบบแบบนี้แพร่หลายขึ้นมาจนจับต้องได้ ก็คงไม่ไว้ใจมันมากขนาดนี้แน่ๆ เหมือนฝากทั้งชีวิตไว้กับระบบเลย
แค่ Adaptive Cruise ก็ว่าสบายมากพอแล้วนะ
-
ก็เฮียเล่นตั้งชื่อ autopilot คนก็นึกว่ามันวิ่งได้เองอะครับ ไม่อ่านคู่มือเหมือนกันหมดทั้งโลก
ตัวใหม่ยังชื่อ FULL SELF DRIVING แปลยังไง ก็แปลว่าวิ่งได้เองโดยสมบูรณ์ แต่ตามข่าวก็ได้แค่ ระดับ 2 เท่านั้น ยังไม่ระดับ 5 แต่ตั้งชื่อแบบเวอร์มากครับ
-
ไม่รู้ตัองมีอุบัติเหตุอีกกี่ราย Tesla ถึงจะออกมาแก้ไขปัญหา perception และกระแสผิดๆ นี้
-
ขบวนการต่อต้านอีวี ออกมาทำงานอีกตามฟอร์ม 8)
-
กรณีนี้มันก็เป็นเรื่อง user errors
เล่นเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังไงก็ต้องอ่านแมนวล
ส่วนเรื่องชนหนักแบตระเบิด ยังไม่เคยเจอข่าว
แต่ก็เป็นไปได้
ส่วนชนหนัก จะรถนํ้ามันหรือไฟฟ้า ก็คงร่อแร่พอกัน
เอาละ ยังไงคันต่อไปก็ไปไฟฟ้าดู ต้นปีหน้าคงมีทางเลือกเพียบ
ปีหน้า น่าจะขับ กทม เชียงใหม่ ไม่ทุลักทุเล มากละ
-
ถ้ามันไม่ซื้อauto pilot มันก็ขับเองไม่ได้
เป็นไปได้มั้ยว่าตอนชนคนขับย้ายตัวเองมาเบาะคนนั่งด้วยเหตุผลบางอย่างเช่น ตรงคนขับมีควัน หรือไฟใหม้ บลาๆๆ
แต่ก็คิดอีกอย่าง แล้วถ้าบริษัทมีข้อมูล แต่ลบฐานdataออกไปเพื่อปกป้องบริษัทหละ ใครจะตรวจสอบได้
ก็มีหลายมุมมอง
แต่ที่ผิดแน่ๆ คือประมาท ไว้ใจเครื่องจักรมากกว่าสมองตัวเอง
-
ถ้ามันไม่ซื้อauto pilot มันก็ขับเองไม่ได้
เป็นไปได้มั้ยว่าตอนชนคนขับย้ายตัวเองมาเบาะคนนั่งด้วยเหตุผลบางอย่างเช่น ตรงคนขับมีควัน หรือไฟใหม้ บลาๆๆ
แต่ก็คิดอีกอย่าง แล้วถ้าบริษัทมีข้อมูล แต่ลบฐานdataออกไปเพื่อปกป้องบริษัทหละ ใครจะตรวจสอบได้
ก็มีหลายมุมมอง
แต่ที่ผิดแน่ๆ คือประมาท ไว้ใจเครื่องจักรมากกว่าสมองตัวเอง
ถ้าตรงคนขับมีปัญหาบางอย่างทำให้นั่งไม่ได้ผมว่าจอดรถน่าจะปลอดภัยกว่าย้ายตัวไปเบาะอื่นขณะรถยังวิ่งนะครับ
เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับ EV หรือ ไม่ EV หรอกครับ มันคือระบบช่วยขับระบบนึงที่ออกตัวแรงไปหน่อยเท่านั้นเอง
ขึ้นหลังเสือไปแล้วจะลงก็ลงไม่ได้อีก
-
ขบวนการต่อต้านอีวี ออกมาทำงานอีกตามฟอร์ม 8)
มันไม่เกี่ยวกับ อีวีรถถ่านระเบิดตู้มหรอกครับ รถฮอนหนิม โตโยกั๊ก อีผุผุผมก็ด่าครับ ไม่ใช่คุณ อวยแต่รถไฟฟ้า ยิ่งจากจีนที่แย่งงานคนไทยนี่อวยจัง รถจีนยังไงก็เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีน ความสเถียรความทนทานความทนทาน ต่อชีวิตต่ำ บางค่ายโปรโมทรถเป็นปีแต่ยังไม่มีศูนย์ราคา โปรโมชั่นกับราคา และการบริการหลังการขายยังไม่มีโมทเปิดตัว เป็นคนอวยแบบไร้สาระ สงสัยวันๆแบมือขอเงินพ่อแม่ ไม่เคยทำงานหาเงินกับเค้า ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ตอนเกิดอุบัติเหตุหรือจู่ๆก็ไฟไหม้ได้ง่ายและดับยาก ดับที่4ชั่วโมง บางทีก็ระเบิดง่ายนี่นี่จะว่าไงครับ และเรื่องการตั้งชื่อและโฆษณาเกินจริงจนมนุษย์ทั่วไปพากันเข้าใจกันผิดว่ามันทำได้สมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องขับรถเลยจะว่าไงครับ กับการที่มีระบบแบบนี้แต่ไม่มีการป้องกันว่าเปิดระบบให้ขับเองแล้วไปนั่งตำแหน่งอื่นนี่มันก็ถือว่าแย่และสะเพร่ามากแล้วครับ น่าจะโดนฟ้องร้องให้โดนปรับชดเชยให้ผู้เสียหายให้เข็ดนะครับ ไหนๆก็สร้างกระแสใหหุ้นขึ้นดีดขึ้นมาขนาดนี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกครับ
ถ้ามันไม่ซื้อauto pilot มันก็ขับเองไม่ได้
เป็นไปได้มั้ยว่าตอนชนคนขับย้ายตัวเองมาเบาะคนนั่งด้วยเหตุผลบางอย่างเช่น ตรงคนขับมีควัน หรือไฟใหม้ บลาๆๆ
แต่ก็คิดอีกอย่าง แล้วถ้าบริษัทมีข้อมูล แต่ลบฐานdataออกไปเพื่อปกป้องบริษัทหละ ใครจะตรวจสอบได้
ก็มีหลายมุมมอง
แต่ที่ผิดแน่ๆ คือประมาท ไว้ใจเครื่องจักรมากกว่าสมองตัวเอง
ผมว่างั้นแหละไม่งั้นจะย้ายออกมานั่งเบาะตำแหน่งอื่นทำไม แต่ผมว่าควรจอดนะ ปล่อยให้รถขับต่อยังไงก็เสี่ยง
ถ้ามันไม่ซื้อauto pilot มันก็ขับเองไม่ได้
เป็นไปได้มั้ยว่าตอนชนคนขับย้ายตัวเองมาเบาะคนนั่งด้วยเหตุผลบางอย่างเช่น ตรงคนขับมีควัน หรือไฟใหม้ บลาๆๆ
แต่ก็คิดอีกอย่าง แล้วถ้าบริษัทมีข้อมูล แต่ลบฐานdataออกไปเพื่อปกป้องบริษัทหละ ใครจะตรวจสอบได้
ก็มีหลายมุมมอง
แต่ที่ผิดแน่ๆ คือประมาท ไว้ใจเครื่องจักรมากกว่าสมองตัวเอง
ถ้าตรงคนขับมีปัญหาบางอย่างทำให้นั่งไม่ได้ผมว่าจอดรถน่าจะปลอดภัยกว่าย้ายตัวไปเบาะอื่นขณะรถยังวิ่งนะครับ
เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับ EV หรือ ไม่ EV หรอกครับ มันคือระบบช่วยขับระบบนึงที่ออกตัวแรงไปหน่อยเท่านั้นเอง
ขึ้นหลังเสือไปแล้วจะลงก็ลงไม่ได้อีก
ถ้าตั้งชื่อให้เข้าใจถูกต้องว่าเป็นการช่วยเหลือในขับ ไม่ใช่ ขับเองโดยอัตโนมัติ ผมว่ามันจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แถมมี ceo ทวีตเกินความจริงแบบนี้คนก็ปักใจเชื่อแล้วว่ามันทำได้จริง
-
ก็เฮียเล่นตั้งชื่อ autopilot คนก็นึกว่ามันวิ่งได้เองอะครับ ไม่อ่านคู่มือเหมือนกันหมดทั้งโลก
ตัวใหม่ยังชื่อ FULL SELF DRIVING แปลยังไง ก็แปลว่าวิ่งได้เองโดยสมบูรณ์ แต่ตามข่าวก็ได้แค่ ระดับ 2 เท่านั้น ยังไม่ระดับ 5 แต่ตั้งชื่อแบบเวอร์มากครับ
ใช่ครับ ชื่อมันชวนให้คนอยากได้กันนะครับ
ไม่รู้ตัองมีอุบัติเหตุอีกกี่ราย Tesla ถึงจะออกมาแก้ไขปัญหา perception และกระแสผิดๆ นี้
ผมว่ายากนะครับ อีล่น มัสก์ค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองสูงขอโทษใครไม่เป็น
-
ปกติระบบมันจะแจ้งเตือนและหยุดทำงานเมื่อไม่มีการจับพวงมาลัยซักระยะนึงไม่ใช่หรอครับ
ทำไมกรณีแบบนี้ระบบถึงยังทำงานต่อทั้งๆที่เบาะคนขับไม่มีคนอยู่
-
มีคนตายแบบนี้ แล้วทางรัฐบาล US จะฟ้องร้อง Tesla
เหมือน case อุบัติเหตุ Lexus คันเร่งค้างในปี 2009 มั้ยนะ
เราจะได้เห็น Elon กล่าวขอโทษประชาชนในสภา และถูก
ลงโทษปรับรึเปล่าหนอ...
-
มีคนตายแบบนี้ แล้วทางรัฐบาล US จะฟ้องร้อง Tesla
เหมือน case อุบัติเหตุ Lexus คันเร่งค้างในปี 2009 มั้ยนะ
เราจะได้เห็น Elon กล่าวขอโทษประชาชนในสภา และถูก
ลงโทษปรับรึเปล่าหนอ...
ประเด็นนี้น่าติดตามนะครับ เป็นบรรทัดฐานเรื่องคุ้มครองผู้บริโภค และ การเลือกปฏิบัติที่ชัดเจนมากๆ
-
ไม่ได้ปกป้องบริษัท แต่ไม่โอเค คับลูกค้า ที่ reckless แล้วพอเกิดปัญหาก็มาโทษบริษัท
คำโฆษณา ก็คือคำโฆษณา ครีม whitening ใช้แล้วขาวไหม รังนก ซุปไก่สกัด กินแล้วมันดีตามโฆษณาไหม รถบางรุ่นว่งเหนือจรดใต้น้ำมันถังเดียว มันทำได้ไหม
แต่นี่ชื่อมันก็โม้ไปงั้น เป็นคำโฆษณา แต่ technical spec มันก็บอกโต้ง ๆ ว่าไม่ใช่ขับขี่อัตโนมัติ แถมยังบอกว่า ต้องมีคนหลังพวงมาลัย แต่พอดีวิศวกร Tesla ดันเก่งเกิน ทำให้ระบบ FSD มาให้ลองใช้เป็น Beta แล้วลูกค้าอีกนั่นแหละ แม้จะรุ้ว่า รถตัวเองไม่มี FSD แล้วดันไปใช้รถบบโดยไม่มีคนขับเลยด้วยซ้ำ
แบบนี้จะให้คิดว่าใครผิดดีละคับ??
ฟ้องมาก็หลายรอบ Tesla ไม่ค่อยโดนอะไรเพราะแบบนี้ไงครับ ไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของตัวรถเองซะเท่าไหร่
-
ว่าด้วยการโปรโมทขายของ
โฆษณา มักมีดอกจัน เล็กๆ เขียนหมายเหตุที่แทบมองไม่เห็นด้านล่างจอเสมอ
รูปอาหารกับของจริงมักไม่ตรงกัน โดยมีเขียนบอกว่าเป็นรูปเพื่อการโฆษณา
ถ้ามีฟ้อง คงยากที่บริษัทจะเสียเปรียบ
แต่ตาอิรอนนี่ ก็เป็นพวก พูดไปเรื่อยใช่เล่น
ว่าด้วย อีวี กับนํ้ามัน รถระเบิด
รถอะไรก็ระเบิดได้หมดละ
ดูหนังจิ รถนํ้ามัน โดนมอไซค์ชนยังระเบิดได้เลย 55
เห็นข่าวไฟไหม้ก็ออกบ่อย ตราบใดที่ แบกพลังงานบางอย่างไว้ ก็เสี่ยงไม่ต่างกัน
คุณภาพอีวี อยู่ช่วงพัฒนา ช่วงแรกก็คงจะมีผิดพลาดมากหน่อย
เหมือนกว่าจะได้เครื่องบิน บินได้สักลำตอนแรก ก็คงตกไปหลายลำ
แต่ถ้าหยุดวันนั้น เราก็คงไม่มีเครื่องบินใช้วันนี้
ประเทศที่เริ่มใช้มาแล้วสักพัก ก็ถือว่าเป็นหนูทดลอดไปให้เรียนรู้
อย่างนอเวย์ ก็คงจะปัญหาน้อยละ ถึงนิยมกันได้ดี
อ่านแมนนวลก่อนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วใช้ให้ถูก ก็คงปลอดภัย
-
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
แต่ชื่อทางการค้าของมันทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ครับ กับ CEO ที่ว่านี้ก็ทวีตให้ข่าวโม้ว่าทำงานได้ถึงระดับไหนแต่ทั้งที่จริงมันทำไม่ได้จริงครับ ที่จริงเปลี่ยนชื่อและออกมายอมรับแมนๆ ผู้บริโภคเค้าจะได้ไม่ทำอะไรแผลงๆแบบนี้นะครับ กับอีกอย่างต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่พวงมาลัย ตรวจับความร้อนและน้ำหนักคนนั่งที่เบาะและกล้องจับดวงตาด้วยยว่าคนขับได้ขับรถจริงๆ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก
ถูกต้องครับ ถ้าระบบทำไม่ได้อย่างที่โม้จริงต้องมีระบบตรวจจับคนนั่งบนเบาะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าเงื่อนไขทั้งสองอย่างเป็นเท็จต้องไม่สามารถขับเคลื่อนรถได้ หรือถ้าเอามือออกจากพวงมาลัยนานเกินกว่าที่กำหนดต้องมีสัญญานเตือนทั้งแสงและเสียง ถ้ายังไม่เอามือมาจับอีกระบบต้องค่อยๆลดความเร็วและหยุดรถครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ เทสล่าก็เป็นระบบแบบนี้นิครับ เท่าที่ผมตามข่าวคือลูกค้าไม่ได้ซื้อออปชั่นนี้ไว้ แล้วก็ขับในถนนไม่มีเส้นแบ่ง คือเค้าจะตั้งชื่อหรือจะโม้อะไร ถ้าคนจะซื้อรถมาขับแล้วไม่คิดจะศึกษาจะไปโทษรถได้ยังไง ผมก็ไม่เข้าใจบางยูสจริงๆ คือถ้าตามข่าวไม่อยู่ที่เบาะคนขับอะ คนเราขับรถไม่อยู่เบาะคนขับตายมาจะโทษค่ายผู้ผลิตได้ยังไงวะ อธิบายผมที
-
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
แต่ชื่อทางการค้าของมันทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ครับ กับ CEO ที่ว่านี้ก็ทวีตให้ข่าวโม้ว่าทำงานได้ถึงระดับไหนแต่ทั้งที่จริงมันทำไม่ได้จริงครับ ที่จริงเปลี่ยนชื่อและออกมายอมรับแมนๆ ผู้บริโภคเค้าจะได้ไม่ทำอะไรแผลงๆแบบนี้นะครับ กับอีกอย่างต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่พวงมาลัย ตรวจับความร้อนและน้ำหนักคนนั่งที่เบาะและกล้องจับดวงตาด้วยยว่าคนขับได้ขับรถจริงๆ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก
ถูกต้องครับ ถ้าระบบทำไม่ได้อย่างที่โม้จริงต้องมีระบบตรวจจับคนนั่งบนเบาะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าเงื่อนไขทั้งสองอย่างเป็นเท็จต้องไม่สามารถขับเคลื่อนรถได้ หรือถ้าเอามือออกจากพวงมาลัยนานเกินกว่าที่กำหนดต้องมีสัญญานเตือนทั้งแสงและเสียง ถ้ายังไม่เอามือมาจับอีกระบบต้องค่อยๆลดความเร็วและหยุดรถครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ เทสล่าก็เป็นระบบแบบนี้นิครับ เท่าที่ผมตามข่าวคือลูกค้าไม่ได้ซื้อออปชั่นนี้ไว้ แล้วก็ขับในถนนไม่มีเส้นแบ่ง คือเค้าจะตั้งชื่อหรือจะโม้อะไร ถ้าคนจะซื้อรถมาขับแล้วไม่คิดจะศึกษาจะไปโทษรถได้ยังไง ผมก็ไม่เข้าใจบางยูสจริงๆ คือถ้าตามข่าวไม่อยู่ที่เบาะคนขับอะ คนเราขับรถไม่อยู่เบาะคนขับตายมาจะโทษค่ายผู้ผลิตได้ยังไงวะ อธิบายผมที
ผมก็ขอร่วมสงสัยตาม
มันเป็นUser error
ความเขลาของผู้ใช้ คุ้นๆว่าที่เยอรมัน หลังสงคราม
เขาเอากรณี ฮิตเลอร์ เป็นกรณีศึกษา ให้ประชากรยุคหลังรู้เท่าทัน การโฆษณาชวนเชื่อ การบิดเบือน มีสติแยกแยะได้
ถ้าประชากรฉลาดคงไม่มีใครเพี้ยนขนาดไม่นั่งที่คนขับ
มันเป็นเรื่องคุณภาพประชากร แต่ดันโยงไป EV / นํ้ามัน / คุณภาพ แบต /จีน / แรงงาน บลาๆๆ
เรื่องง่ายๆ ยังแยกประเด็นไม่ออก
ขอร่วมงงด้วยคน
-
ระบบก็แค่ช่วยเท่านั้น ยังไงคนก็ต้องมีสมาธิในการขับรถอยู่ดี
หลายๆ เคสที่เกิดขึ้นคือ คนนั่งชิลเหลือเกิน คิดว่าปล่อยให้รถทำงานไปเอง
-
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
แต่ชื่อทางการค้าของมันทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ครับ กับ CEO ที่ว่านี้ก็ทวีตให้ข่าวโม้ว่าทำงานได้ถึงระดับไหนแต่ทั้งที่จริงมันทำไม่ได้จริงครับ ที่จริงเปลี่ยนชื่อและออกมายอมรับแมนๆ ผู้บริโภคเค้าจะได้ไม่ทำอะไรแผลงๆแบบนี้นะครับ กับอีกอย่างต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่พวงมาลัย ตรวจับความร้อนและน้ำหนักคนนั่งที่เบาะและกล้องจับดวงตาด้วยยว่าคนขับได้ขับรถจริงๆ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก
ถูกต้องครับ ถ้าระบบทำไม่ได้อย่างที่โม้จริงต้องมีระบบตรวจจับคนนั่งบนเบาะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าเงื่อนไขทั้งสองอย่างเป็นเท็จต้องไม่สามารถขับเคลื่อนรถได้ หรือถ้าเอามือออกจากพวงมาลัยนานเกินกว่าที่กำหนดต้องมีสัญญานเตือนทั้งแสงและเสียง ถ้ายังไม่เอามือมาจับอีกระบบต้องค่อยๆลดความเร็วและหยุดรถครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ เทสล่าก็เป็นระบบแบบนี้นิครับ เท่าที่ผมตามข่าวคือลูกค้าไม่ได้ซื้อออปชั่นนี้ไว้ แล้วก็ขับในถนนไม่มีเส้นแบ่ง คือเค้าจะตั้งชื่อหรือจะโม้อะไร ถ้าคนจะซื้อรถมาขับแล้วไม่คิดจะศึกษาจะไปโทษรถได้ยังไง ผมก็ไม่เข้าใจบางยูสจริงๆ คือถ้าตามข่าวไม่อยู่ที่เบาะคนขับอะ คนเราขับรถไม่อยู่เบาะคนขับตายมาจะโทษค่ายผู้ผลิตได้ยังไงวะ อธิบายผมที
ผมก็ขอร่วมสงสัยตาม
มันเป็นUser error
ความเขลาของผู้ใช้ คุ้นๆว่าที่เยอรมัน หลังสงคราม
เขาเอากรณี ฮิตเลอร์ เป็นกรณีศึกษา ให้ประชากรยุคหลังรู้เท่าทัน การโฆษณาชวนเชื่อ การบิดเบือน มีสติแยกแยะได้
ถ้าประชากรฉลาดคงไม่มีใครเพี้ยนขนาดไม่นั่งที่คนขับ
มันเป็นเรื่องคุณภาพประชากร แต่ดันโยงไป EV / นํ้ามัน / คุณภาพ แบต /จีน / แรงงาน บลาๆๆ
เรื่องง่ายๆ ยังแยกประเด็นไม่ออก
ขอร่วมงงด้วยคน
อ้าว... งั้นก็งงในงง เมื่อไม่มีคนนั่งบนที่นั่งคนขับ แล้วรถวิ่งออกไปได้ไง เร่งได้ไง เลี้ยวได้ไง
หรือคิดว่า พอรถวิ่งออกไปแล้ว คนขับก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วปีนข้ามมานั่งฝั่งผู้โดยสารเหรอครับ?!?
-
อบ.เทสล่าแต่ละคัน ไม่นอนหลับ ก็เล่นมือถือ อ่านหนังสือ ไม่มีใครจดจ่อที่พวงมาลัยสักคน ในเคสนี้ตามเนื้อข่าวก็ว่าไม่มีคนนั่งที่พวงมาลัยเลย อันนี้ห่ามสุดๆ ยังไม่รวมที่มี Sex กันตอนรถวิ่งด้วยนะ ดีที่รายนั้นไม่เกิด อบ.อะไร
User Error ล้วนๆแหล่ะ ส่วนคำโม้ คำโฆษณา ผมมองว่าเรื่องปกติทางการค้า มีสินค้าไหนไม่โม้มั่ง เพียงแต่ Elon เขาโม้มากไปหน่อย แต่คำโม้เอามาใช้ในศาลไม่ได้ เขาดูที่เอกสาร และ Spec ประกอบรถที่ยื่นให้ฝ่าย รบ.ตั้งแต่แรก ซึ่งไม่มีทางเอาผิดเขาได้หรอก
อ่อ แล้วไม่เกี่ยวอะไรกับ Ev ด้วยนะ ผมว่า อย่าออกทะเลเลย รถน้ำมัน ชนไฟท่วมตายออกข่าวกันให้เห็นกันเกือบทุกวัน ไม่กลัวกันเหรอ พอ Ev ระเบิด ดันกลัวกัน ถ้าชนแรงถึงขั้นแบตระเบิดได้นี่ ต่อให้รถใช้พลังงานน้ำเปล่าก็ตายอยู่ดี
-
ไม่ได้ปกป้องบริษัท แต่ไม่โอเค คับลูกค้า ที่ reckless แล้วพอเกิดปัญหาก็มาโทษบริษัท
คำโฆษณา ก็คือคำโฆษณา ครีม whitening ใช้แล้วขาวไหม รังนก ซุปไก่สกัด กินแล้วมันดีตามโฆษณาไหม รถบางรุ่นว่งเหนือจรดใต้น้ำมันถังเดียว มันทำได้ไหม
แต่นี่ชื่อมันก็โม้ไปงั้น เป็นคำโฆษณา แต่ technical spec มันก็บอกโต้ง ๆ ว่าไม่ใช่ขับขี่อัตโนมัติ แถมยังบอกว่า ต้องมีคนหลังพวงมาลัย แต่พอดีวิศวกร Tesla ดันเก่งเกิน ทำให้ระบบ FSD มาให้ลองใช้เป็น Beta แล้วลูกค้าอีกนั่นแหละ แม้จะรุ้ว่า รถตัวเองไม่มี FSD แล้วดันไปใช้รถบบโดยไม่มีคนขับเลยด้วยซ้ำ
แบบนี้จะให้คิดว่าใครผิดดีละคับ??
ฟ้องมาก็หลายรอบ Tesla ไม่ค่อยโดนอะไรเพราะแบบนี้ไงครับ ไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของตัวรถเองซะเท่าไหร่
ถ้ามันทำไม่ได้ทำไม่มีระบบการป้องกันหละครับว่าไม่ได้จับพวงมาลับรถจะต้องจอดอย่างปลอดภัยให้เร็วที่สุดครับ แล้วโม้ไปงั้นคนตายเพราะหลงไปเชื่อแล้วไม่มีข้อธิบายออกสื่อเยอะๆเหมือนตอนสร้งข่าวให้ราคาหุ้นขึ้นนี่มันยังไงครับ ส่วนโฆษณารังนกหรือโฆษณาครีมยี่ห้อดังๆนั่น ไม่ได้เป็นอันตรายเหมือนคำโม้ของอีล่อน มัด หรอกนะ
ระบบก็แค่ช่วยเท่านั้น ยังไงคนก็ต้องมีสมาธิในการขับรถอยู่ดี
หลายๆ เคสที่เกิดขึ้นคือ คนนั่งชิลเหลือเกิน คิดว่าปล่อยให้รถทำงานไปเอง
ประเด็นคือโม้จนเข้าใจผิดกันนะครับ และไม่มีมาตรการณ์ป้องกันไม่ให้รถวิ่งเองได้โดยสายตาไม่จดจ่อถนนและจับพวงมาลัยนะครับ อีกอย่างบางคนคิดพิเรณฑ์ รักสบาย ทำไมไม่ไปนั่งแท็กซี่หรือหาคนขับรถมาขับให้
อบ.เทสล่าแต่ละคัน ไม่นอนหลับ ก็เล่นมือถือ อ่านหนังสือ ไม่มีใครจดจ่อที่พวงมาลัยสักคน ในเคสนี้ตามเนื้อข่าวก็ว่าไม่มีคนนั่งที่พวงมาลัยเลย อันนี้ห่ามสุดๆ ยังไม่รวมที่มี Sex กันตอนรถวิ่งด้วยนะ ดีที่รายนั้นไม่เกิด อบ.อะไร
User Error ล้วนๆแหล่ะ ส่วนคำโม้ คำโฆษณา ผมมองว่าเรื่องปกติทางการค้า มีสินค้าไหนไม่โม้มั่ง เพียงแต่ Elon เขาโม้มากไปหน่อย แต่คำโม้เอามาใช้ในศาลไม่ได้ เขาดูที่เอกสาร และ Spec ประกอบรถที่ยื่นให้ฝ่าย รบ.ตั้งแต่แรก ซึ่งไม่มีทางเอาผิดเขาได้หรอก
อ่อ แล้วไม่เกี่ยวอะไรกับ Ev ด้วยนะ ผมว่า อย่าออกทะเลเลย รถน้ำมัน ชนไฟท่วมตายออกข่าวกันให้เห็นกันเกือบทุกวัน ไม่กลัวกันเหรอ พอ Ev ระเบิด ดันกลัวกัน ถ้าชนแรงถึงขั้นแบตระเบิดได้นี่ ต่อให้รถใช้พลังงานน้ำเปล่าก็ตายอยู่ดี
ไม่ได้ออกทะเลครับ อย่าปกป้องบริษัทรถที่ทำรถหลังคาหลุดได้เองเลย แถมไฟลุกได้เองด้วย ไฟจากน้ำมันกับแบตเตอรี่การดับยากมันต่างกันนะ ถ้าเป็นรถเทสล่าของคุณที่นั่งมาแล้วไฟไหม้กว่าจะดับไฟได้4ชั่วโมงแล้ว ซึ่งรถแก๊สหรือน้ำมันใช้เวลาดับอย่างมากไม่เกินชั่วโมง ซึ่งแล้วแต่ว่าเป็นสารเคมีดับไฟหรือน้ำ ไม่รวมไปถึงการที่ระเบิดได้ง่ายกว่าน้ำมัน ส่วนไอ้คำโม้ของ CEO จอมปีนต้นงิ้วนี่ โม้เว่อร์เหมือนคำโม้ที่กาละแมร์ขายอาหารเสริมว่ากินแล้วสวยกินแล้วจมูกโด่ง ไม่เคยเห็นค่ายไหนที่อวยจนลอยขึ้นฟ้าขนาดนี้
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
แต่ชื่อทางการค้าของมันทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ครับ กับ CEO ที่ว่านี้ก็ทวีตให้ข่าวโม้ว่าทำงานได้ถึงระดับไหนแต่ทั้งที่จริงมันทำไม่ได้จริงครับ ที่จริงเปลี่ยนชื่อและออกมายอมรับแมนๆ ผู้บริโภคเค้าจะได้ไม่ทำอะไรแผลงๆแบบนี้นะครับ กับอีกอย่างต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่พวงมาลัย ตรวจับความร้อนและน้ำหนักคนนั่งที่เบาะและกล้องจับดวงตาด้วยยว่าคนขับได้ขับรถจริงๆ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก
ถูกต้องครับ ถ้าระบบทำไม่ได้อย่างที่โม้จริงต้องมีระบบตรวจจับคนนั่งบนเบาะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าเงื่อนไขทั้งสองอย่างเป็นเท็จต้องไม่สามารถขับเคลื่อนรถได้ หรือถ้าเอามือออกจากพวงมาลัยนานเกินกว่าที่กำหนดต้องมีสัญญานเตือนทั้งแสงและเสียง ถ้ายังไม่เอามือมาจับอีกระบบต้องค่อยๆลดความเร็วและหยุดรถครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ เทสล่าก็เป็นระบบแบบนี้นิครับ เท่าที่ผมตามข่าวคือลูกค้าไม่ได้ซื้อออปชั่นนี้ไว้ แล้วก็ขับในถนนไม่มีเส้นแบ่ง คือเค้าจะตั้งชื่อหรือจะโม้อะไร ถ้าคนจะซื้อรถมาขับแล้วไม่คิดจะศึกษาจะไปโทษรถได้ยังไง ผมก็ไม่เข้าใจบางยูสจริงๆ คือถ้าตามข่าวไม่อยู่ที่เบาะคนขับอะ คนเราขับรถไม่อยู่เบาะคนขับตายมาจะโทษค่ายผู้ผลิตได้ยังไงวะ อธิบายผมที
มันมีออโต้ไพล็อต ที่ทำงานคล้ายๆ FSD แต่หลายคนจะปกป้องบริษัทรถทำไม้ตำน้ำพริกอะไรมิทราบ การศึกษาของคนมันต่างกันแล้วบริษัทรถซังกะบ๊วยนี่ไม่จริงใจประชาสัมพันธ์ให้ดี แไม่มีเซ็นเซอร์ที่พวงมาลัย เบาะ พื้นรถ คอนโซล การจับสายตาว่ากำลังขับขี่ั้มั้ย จะมาโทษคนขับอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้หรอกในเมื่อโม้จนดูเหมือนพระเจ้าขนาดนั้น เห็นมีแต่สร้างกระแสให้ราคาหุ้นสูงขึ้นเท่านั้น
อ้าว บริษัทมันจะผิดได้ไงอะคับ
เคส auto-pilot แล้วชนมีเยอะแยะ แล้วสาเหตุมันก็เหมือนกันหมดคือ บริษัทมันบอกต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยและต้องเข้าควบคุมได้ทันทีด้วย ..... แต่คนซื้อไป ดันไม่ใช้ตามนั้น บางเคสก็หลับ แต่นี่ถึงกับไม่มีคนขับเลย เอิ่มนะ
แต่ชื่อทางการค้าของมันทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ครับ กับ CEO ที่ว่านี้ก็ทวีตให้ข่าวโม้ว่าทำงานได้ถึงระดับไหนแต่ทั้งที่จริงมันทำไม่ได้จริงครับ ที่จริงเปลี่ยนชื่อและออกมายอมรับแมนๆ ผู้บริโภคเค้าจะได้ไม่ทำอะไรแผลงๆแบบนี้นะครับ กับอีกอย่างต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่พวงมาลัย ตรวจับความร้อนและน้ำหนักคนนั่งที่เบาะและกล้องจับดวงตาด้วยยว่าคนขับได้ขับรถจริงๆ ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก
ถูกต้องครับ ถ้าระบบทำไม่ได้อย่างที่โม้จริงต้องมีระบบตรวจจับคนนั่งบนเบาะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าเงื่อนไขทั้งสองอย่างเป็นเท็จต้องไม่สามารถขับเคลื่อนรถได้ หรือถ้าเอามือออกจากพวงมาลัยนานเกินกว่าที่กำหนดต้องมีสัญญานเตือนทั้งแสงและเสียง ถ้ายังไม่เอามือมาจับอีกระบบต้องค่อยๆลดความเร็วและหยุดรถครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ เทสล่าก็เป็นระบบแบบนี้นิครับ เท่าที่ผมตามข่าวคือลูกค้าไม่ได้ซื้อออปชั่นนี้ไว้ แล้วก็ขับในถนนไม่มีเส้นแบ่ง คือเค้าจะตั้งชื่อหรือจะโม้อะไร ถ้าคนจะซื้อรถมาขับแล้วไม่คิดจะศึกษาจะไปโทษรถได้ยังไง ผมก็ไม่เข้าใจบางยูสจริงๆ คือถ้าตามข่าวไม่อยู่ที่เบาะคนขับอะ คนเราขับรถไม่อยู่เบาะคนขับตายมาจะโทษค่ายผู้ผลิตได้ยังไงวะ อธิบายผมที
ผมก็ขอร่วมสงสัยตาม
มันเป็นUser error
ความเขลาของผู้ใช้ คุ้นๆว่าที่เยอรมัน หลังสงคราม
เขาเอากรณี ฮิตเลอร์ เป็นกรณีศึกษา ให้ประชากรยุคหลังรู้เท่าทัน การโฆษณาชวนเชื่อ การบิดเบือน มีสติแยกแยะได้
ถ้าประชากรฉลาดคงไม่มีใครเพี้ยนขนาดไม่นั่งที่คนขับ
มันเป็นเรื่องคุณภาพประชากร แต่ดันโยงไป EV / นํ้ามัน / คุณภาพ แบต /จีน / แรงงาน บลาๆๆ
เรื่องง่ายๆ ยังแยกประเด็นไม่ออก
ขอร่วมงงด้วยคน
ว่าด้วยการโปรโมทขายของ
โฆษณา มักมีดอกจัน เล็กๆ เขียนหมายเหตุที่แทบมองไม่เห็นด้านล่างจอเสมอ
รูปอาหารกับของจริงมักไม่ตรงกัน โดยมีเขียนบอกว่าเป็นรูปเพื่อการโฆษณา
ถ้ามีฟ้อง คงยากที่บริษัทจะเสียเปรียบ
แต่ตาอิรอนนี่ ก็เป็นพวก พูดไปเรื่อยใช่เล่น
ว่าด้วย อีวี กับนํ้ามัน รถระเบิด
รถอะไรก็ระเบิดได้หมดละ
ดูหนังจิ รถนํ้ามัน โดนมอไซค์ชนยังระเบิดได้เลย 55
เห็นข่าวไฟไหม้ก็ออกบ่อย ตราบใดที่ แบกพลังงานบางอย่างไว้ ก็เสี่ยงไม่ต่างกัน
คุณภาพอีวี อยู่ช่วงพัฒนา ช่วงแรกก็คงจะมีผิดพลาดมากหน่อย
เหมือนกว่าจะได้เครื่องบิน บินได้สักลำตอนแรก ก็คงตกไปหลายลำ
แต่ถ้าหยุดวันนั้น เราก็คงไม่มีเครื่องบินใช้วันนี้
ประเทศที่เริ่มใช้มาแล้วสักพัก ก็ถือว่าเป็นหนูทดลอดไปให้เรียนรู้
อย่างนอเวย์ ก็คงจะปัญหาน้อยละ ถึงนิยมกันได้ดี
อ่านแมนนวลก่อนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วใช้ให้ถูก ก็คงปลอดภัย
แล้วใครกันแน่แยกประเด็นไม่ออก ถามหน่อยซื้อหุ้นในเทสล่าหรอถึงได้อวยไส้แตกอะไรนักหนา เห็นอวยนักว่ารถไฟฟ้าดีอย่างนู้นอย่างนี้ จะมาอ้างว่าอีวีมีผิดพลาดนิดหน่อยนู่นนี่นั่นบลาๆๆ ในเมื่อไฮเทคนั้นทำไม่มีเซ็นเซอร์ที่เบาะรถ พวงมาลัย พื้นคนขับ คันเร่ง ตรวจจับดวงตาว่าได้ขับจริงมั้ยหละอย่ามาอ้างแบบนี้มันฟังดูไม่ขึ้น ในเมื่อไม่ได้อ่านคู่มือกันทุกคน ส่วนแบตเตอรี่ลิเที่ยมการระเบิดมันรุนแรงดับยากกว่าน้ำมัน และแบตเตอรี่ลิเที่ยมมักจะระเบิดก่อนที่จะไฟไหม้ด้วยซ้ำ ต่างจากน้ำมันที่ไฟไหม้แล้วถึงจะระเบิด แถมดับนาน 4 ชั่วโมงนี่ นานกว่ารถบรรทุกน้ำมันไฟไหม้เสียอีก ส่วนนอร์เวย์ไม่แปลกที่จะเกิดน้อย เพราะประชากรนิสัยรักสงบปฏิบัติตามกฎหมายกันแทบจะไม่มีคอรัปชั่นอยู่แล้ว อีกทั้งประชากรนิดเดียว แถมเมืองหนาวมากเสียอีก จึงมักไม่เหตุการณ์ไฟไหม้เองหรือปล่อยให้รถขัเบองเกิดขึ้น เรื่องรถไฟฟ้ารอให้มีแบตเตอรี่ดีๆกว่านี้ การจัดการพลังงานให้ประหยัดขึ้นต่วิ่งไกลมากขึ้น มีเกียร์หบายสปีดใให้ตีนปลายไหลแบบปอร์เช่ เทย์คาน และราคาถูกก่อนถึงจะซื้อนะครับ
อบ.เทสล่าแต่ละคัน ไม่นอนหลับ ก็เล่นมือถือ อ่านหนังสือ ไม่มีใครจดจ่อที่พวงมาลัยสักคน ในเคสนี้ตามเนื้อข่าวก็ว่าไม่มีคนนั่งที่พวงมาลัยเลย อันนี้ห่ามสุดๆ ยังไม่รวมที่มี Sex กันตอนรถวิ่งด้วยนะ ดีที่รายนั้นไม่เกิด อบ.อะไร
User Error ล้วนๆแหล่ะ ส่วนคำโม้ คำโฆษณา ผมมองว่าเรื่องปกติทางการค้า มีสินค้าไหนไม่โม้มั่ง เพียงแต่ Elon เขาโม้มากไปหน่อย แต่คำโม้เอามาใช้ในศาลไม่ได้ เขาดูที่เอกสาร และ Spec ประกอบรถที่ยื่นให้ฝ่าย รบ.ตั้งแต่แรก ซึ่งไม่มีทางเอาผิดเขาได้หรอก
อ่อ แล้วไม่เกี่ยวอะไรกับ Ev ด้วยนะ ผมว่า อย่าออกทะเลเลย รถน้ำมัน ชนไฟท่วมตายออกข่าวกันให้เห็นกันเกือบทุกวัน ไม่กลัวกันเหรอ พอ Ev ระเบิด ดันกลัวกัน ถ้าชนแรงถึงขั้นแบตระเบิดได้นี่ ต่อให้รถใช้พลังงานน้ำเปล่าก็ตายอยู่ดี
ไม่เกียวอะไรครับ ใครกันแน่อยู่ทะเล เรื่องระเบิดนั่น แบตเตอรี่ติดไฟง่ายกว่า ระเบิดง่ายกว่า ใครจะไม่กลัวกันครับ ถ้ามันทนความร้อนได้ดีป่านนี้คงใส่ในห้องเครื่องเพื่อสตาร์รถน้ำมันแทนแบตเตอรี่กรดตะกั่วแล้วครับ
-
ชะเอิง เอ่ย
ท่วงทำนองการเอ่ยเอื้อน
แลดูไร้ราคา...
เอย..
-
ชะเอิง เอ่ย
ท่วงทำนองการเอ่ยเอื้อน
แลดูไร้ราคา...
เอย..
คุณโคตรไร้ราคาเลย เนิร์ดติ่งอีวี แถให้บริษัทรถจนเลือดไหลเลยนะ แค่เรื่องอธิยายว่าทำไมไม่มีเซ็นเซอร์ป้องกันการไม่ขับเองยังตอบไม่ได้ สวะสิ้นดี
-
ใจเย็นๆคร้าบ เบาได้เบา ;)
-
ใจเย็นๆคร้าบ เบาได้เบา ;)
กำลังจะเย็นครับพี่ แต่ร้อนผุดเพราะบางคนนี่อธิบายอะไรไม่ได้ว่าทำไมไม่มีเซ็นเซอร์เพื่อป้องกันการไม่นั่งขับรถ รวมไปถึงเรื่องแบตเตอรี่ที่แพงแต่ว่ามันเกิดประกายไฟได้ง่ายมากกกว่าน้ำมันอยู่ครับ
-
อธิบายได้ แต่ขี้เกียจอธิบายแล้วคับ
Sensor Fool-proof พวกนี้ มันคือ good to have item อะคับ มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น และมันก็มีต้นทุนด้วย เหมือนถามว่า ทำไมรถปกติ ๆ ถือไม่มี sensor ตรวจจับว่าฝาถังน้ำมันปิด ถ้าไม่ปิดจะเคลื่อนรถออกไปไม่ได้ ซึ่งบางคนอาจจะลืม ขับลากสายเติมน้ำมันไปด้วย แบบในคลิปตลกฝรั่ง ..... เห็นไหมคับ ว่ามันก็อันตราย แต่มันก็ไม่จำเป็น หรืออย่างไม่คาดเข็มคาดจะมีสัญญานเตือน แล้วเป็นไง ก็มีคนหัวใส ทำหัวเข็มขัดหลอกมา เสียบไปเพื่อไม่ให้สัญญานดังอีก รถชนมา คนขับได้รับอันตราย บริษัทรถผิดอีก ว่าอ้าว เข็มขัดก็คาด ทำไมเกิดอันตรายได้ขนาดนี้
ต่อให้นั่งที่คนขับ แต่หลับ ....งี้ก็ต้องมี sensor มาวัดดวงตาอีก ... งี้ใส่แว่นกันแดดเข้ม ๆ ก็เช็คไม่ได้ดิ ....งี้ก็ต้องมี sensor AI ตรวจจับว่าคนขับยังพร้อมควบคุมรถ
มันไม่จบไม่สิ้นครับ
ถ้าคนใช้ มันไม่ใช้รถตามที่ spec รถเขาให้ไว้ ก็ไม่ต้องโทษหา option good-to-have พวกนี้หรอกคับ
-
ใจเย็นกันนะครับ ค่อยๆตามข่าว เรื่องนี้กำลังสืบสวนอยู่
แต่มีข้อมูลเพิ่มเติมให้นะครับ
-เรื่องที่ไฟไหม้ 4 ชั่วโมงไม่เป็นเรื่องจริงครับ เป็น Fake news ที่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่หน้างานยืนยันแล้วว่ามีไฟไหม้ แต่ใช้เวลาดับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็งงเหมือนกันว่าทำไมมีข่าวแบบนั้นออกไป
-เหมือนที่หลายๆท่านบอกทาง Tesla ชี้แจ้งว่ารถคันนี้ตอนซื้อไม่ได้ติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติ เรื่องนี้ไม่น่าพิสูจน์ได้ยาก และระบบขับขี่อัตโนมัติจะทำงานก็ต่อเมื่อถนนมีเส้นแบ่งเลน ซึ่งถนนที่เกิดเหตุไม่มีเส้นแบ่งเลนต่อให้มีระบบขับขี่อัตโนมัติก็ทำงานไม่ได้ และการใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติต้องมีผู้ขับขี่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยตลอดเป็นมาตราฐานการใช้สินค้า
ทั้งหมดกำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนทั้งหมด ผมไม่ได้บอกว่าอะไรผิดถูก แต่อยากให้ใจเย็นรับข่าวสารและพิจารณาดีๆกันครับ ยุคนี้ข้อมูลมันเยอะไวและดันมีข่าวลวงผสมมาด้วย
ผมไม่ใช่ติ่ง tesla ด้วยแต่อยากให้รถไฟฟ้ามาอากาศมันจะได้ดีขึ้นบ้าง ในราคาที่จับต้องได้
-
ใจเย็นกันนะครับ ค่อยๆตามข่าว เรื่องนี้กำลังสืบสวนอยู่
แต่มีข้อมูลเพิ่มเติมให้นะครับ
-เรื่องที่ไฟไหม้ 4 ชั่วโมงไม่เป็นเรื่องจริงครับ เป็น Fake news ที่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่หน้างานยืนยันแล้วว่ามีไฟไหม้ แต่ใช้เวลาดับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็งงเหมือนกันว่าทำไมมีข่าวแบบนั้นออกไป
-เหมือนที่หลายๆท่านบอกทาง Tesla ชี้แจ้งว่ารถคันนี้ตอนซื้อไม่ได้ติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติ เรื่องนี้ไม่น่าพิสูจน์ได้ยาก และระบบขับขี่อัตโนมัติจะทำงานก็ต่อเมื่อถนนมีเส้นแบ่งเลน ซึ่งถนนที่เกิดเหตุไม่มีเส้นแบ่งเลนต่อให้มีระบบขับขี่อัตโนมัติก็ทำงานไม่ได้ และการใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติต้องมีผู้ขับขี่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยตลอดเป็นมาตราฐานการใช้สินค้า
ทั้งหมดกำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนทั้งหมด ผมไม่ได้บอกว่าอะไรผิดถูก แต่อยากให้ใจเย็นรับข่าวสารและพิจารณาดีๆกันครับ ยุคนี้ข้อมูลมันเยอะไวและดันมีข่าวลวงผสมมาด้วย
ผมไม่ใช่ติ่ง tesla ด้วยแต่อยากให้รถไฟฟ้ามาอากาศมันจะได้ดีขึ้นบ้าง ในราคาที่จับต้องได้
จริงครับ เห็นกันมาไม่รู้เท่าไหร่ สุดท้ายโอละพ่อ
การวิจารณ์ วิเคราะห์ อะไรที่เรารับข้อมูลมาจากข่าวอีกทีในยุคนี้ เบาๆกันนิดก็ได้ครับ
อย่าไปอินมากเกิน กว่าจะรู้ตัวว่าตกเป็นเครื่องมือของสื่อในยุค พวกใครพวกมันก้อไปกันเลอะเทอะ เละเทะไปหมด
-
รถไฟฟ้า ขับได้ วิ่งได้ แต่ห้ามชนหนัก หากชนหนักแบตเตอรี่ระเบิด ไฟลุกท่วมคัน ผมขอขับรถมีเครื่องยนต์ ใช้น้ำมันดีเซล ติดไฟยากๆ ดีกว่าครับ เทคโนโลยีจะขีดสุดขนาดไหน แต่ถ้าพลาดมา อาการหนักอย่างกับขับเครื่องบิน ผมว่ามันไม่ค่อยอุ่นใจเวลาขับ ยกเว้นกับคนที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆ ไม่เคยเห็นว่า เวลาแบตเตอรี่ ลิเทียมไอออน มันระเบิด มันลุกไหม้ยังไง อาจไม่คิดมากครับ
เอ่อ ชนหนักนี่ รถรถแบบไหนก็แทบไม่รอดทั้งนั้นแหละครับ คาที่ตลอดเท่าที่เห็น
-
รถไฟฟ้า ขับได้ วิ่งได้ แต่ห้ามชนหนัก หากชนหนักแบตเตอรี่ระเบิด ไฟลุกท่วมคัน ผมขอขับรถมีเครื่องยนต์ ใช้น้ำมันดีเซล ติดไฟยากๆ ดีกว่าครับ เทคโนโลยีจะขีดสุดขนาดไหน แต่ถ้าพลาดมา อาการหนักอย่างกับขับเครื่องบิน ผมว่ามันไม่ค่อยอุ่นใจเวลาขับ ยกเว้นกับคนที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆ ไม่เคยเห็นว่า เวลาแบตเตอรี่ ลิเทียมไอออน มันระเบิด มันลุกไหม้ยังไง อาจไม่คิดมากครับ
เอ่อ ชนหนักนี่ รถรถแบบไหนก็แทบไม่รอดทั้งนั้นแหละครับ คาที่ตลอดเท่าที่เห็น
แต่การเอาตัวรอดจากไฟไหม้นี่ต่างกันครับ ลิเที่ยมระเบิดง่ายติดไฟเร็วกว่าน้ำมัน
-
อธิบายได้ แต่ขี้เกียจอธิบายแล้วคับ
Sensor Fool-proof พวกนี้ มันคือ good to have item อะคับ มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น และมันก็มีต้นทุนด้วย เหมือนถามว่า ทำไมรถปกติ ๆ ถือไม่มี sensor ตรวจจับว่าฝาถังน้ำมันปิด ถ้าไม่ปิดจะเคลื่อนรถออกไปไม่ได้ ซึ่งบางคนอาจจะลืม ขับลากสายเติมน้ำมันไปด้วย แบบในคลิปตลกฝรั่ง ..... เห็นไหมคับ ว่ามันก็อันตราย แต่มันก็ไม่จำเป็น หรืออย่างไม่คาดเข็มคาดจะมีสัญญานเตือน แล้วเป็นไง ก็มีคนหัวใส ทำหัวเข็มขัดหลอกมา เสียบไปเพื่อไม่ให้สัญญานดังอีก รถชนมา คนขับได้รับอันตราย บริษัทรถผิดอีก ว่าอ้าว เข็มขัดก็คาด ทำไมเกิดอันตรายได้ขนาดนี้
ต่อให้นั่งที่คนขับ แต่หลับ ....งี้ก็ต้องมี sensor มาวัดดวงตาอีก ... งี้ใส่แว่นกันแดดเข้ม ๆ ก็เช็คไม่ได้ดิ ....งี้ก็ต้องมี sensor AI ตรวจจับว่าคนขับยังพร้อมควบคุมรถ
มันไม่จบไม่สิ้นครับ
ถ้าคนใช้ มันไม่ใช้รถตามที่ spec รถเขาให้ไว้ ก็ไม่ต้องโทษหา option good-to-have พวกนี้หรอกคับ
อย่ามาหาข้ออ้างครับ ยี่ห้ออื่นเค้าใส่มาให้นะกล้องเซ็นเซอร์ตรวจจับดวงตา แต่เทสล่าแค่ใช้บันทึกวิดีโอสั้นๆเท่านั้นครับ
https://www.blognone.com/node/122320
-
เป็นไปได้ไหมที่ทั้ง2คนอยู่เบาะหน้าชนแล้วค่อยมาเบาะหลัง จะหนีตายหรือะไรก็แล้วแต่