Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: captain ที่ พฤษภาคม 14, 2021, 22:28:04
-
เนื่องด้วยตอนนี้ผมใช้ pajero sport ปี2011 ซึ่งเป็นรถของที่บ้าน แล้วอายุรถก็จวนจะเข้า10ปีก็เริ่มมีจุกจิกบ้างตามประสารถเก่า ผมเลยมีความคิดว่าอยากจะปล่อยออกไป แล้วมาซื้อพวกรถเก๋งใช้(ตอนนี้ดูๆjazzไว้ครับ) เพื่อนๆมีความเห็นว่าไงกันบ้างครับ แล้วก็อยากรู้ราคาเต้นท์รับpajero sport ปี2011 เข้าด้วย ว่ามันจะเหลือเท่าไหร่ จะได้มาคำนวณราคารถใหม่ครับ
-
ไม่ทราบว่าใช้งานในเมือง หรือ นอกเมือง เป็นหลักครับ ถ้าหากใช้งานในเมืองเป็นหลัก ผมเชียร์ City Hatchback 1.0T ครับ
แต่ถ้าหากวิ่งนอกเมืองมากกว่า Pajero คันเดิมที่ใช้อยู่มีส่วนไหนต้องต้องซ่อมบ้างครับ และค่าซ่อมแพงขนาดไหน
ถ้าหากค่าซ่อมไม่สูงมากจนเกินไป ผมยังเชียร์ให้ซ่อมคันเดิมแล้วใช้ต่อครับ เนื่องจาก Pajero วิ่งนอกเมืองค่อนข้างจะตอบโจทย์ดีกว่า
-
ไม่ทราบว่าใช้งานในเมือง หรือ นอกเมือง เป็นหลักครับ ถ้าหากใช้งานในเมืองเป็นหลัก ผมเชียร์ City Hatchback 1.0T ครับ
แต่ถ้าหากวิ่งนอกเมืองมากกว่า Pajero คันเดิมที่ใช้อยู่มีส่วนไหนต้องต้องซ่อมบ้างครับ และค่าซ่อมแพงขนาดไหน
ถ้าหากค่าซ่อมไม่สูงมากจนเกินไป ผมยังเชียร์ให้ซ่อมคันเดิมแล้วใช้ต่อครับ เนื่องจาก Pajero วิ่งนอกเมืองค่อนข้างจะตอบโจทย์ดีกว่า
ใช้ในเมืองเป็นหลักครับ ตอนนี้มีพวกน้ำมันซึมหน่อยๆ ช่วงล่าง แล้วก็เหมือนคอมแอร์ใกล้ลาโลกละครับ ส่วนตัวไปลองดูผ่านๆรู้สึกถูกจริตกับjazzมากกว่าครับแต่ถ้าจะเอาจริงๆเดี๋ยวคงต้องไปลองดูอีกที
-
ไม่ทราบว่าใช้งานในเมือง หรือ นอกเมือง เป็นหลักครับ ถ้าหากใช้งานในเมืองเป็นหลัก ผมเชียร์ City Hatchback 1.0T ครับ
แต่ถ้าหากวิ่งนอกเมืองมากกว่า Pajero คันเดิมที่ใช้อยู่มีส่วนไหนต้องต้องซ่อมบ้างครับ และค่าซ่อมแพงขนาดไหน
ถ้าหากค่าซ่อมไม่สูงมากจนเกินไป ผมยังเชียร์ให้ซ่อมคันเดิมแล้วใช้ต่อครับ เนื่องจาก Pajero วิ่งนอกเมืองค่อนข้างจะตอบโจทย์ดีกว่า
ใช้ในเมืองเป็นหลักครับ ตอนนี้มีพวกน้ำมันซึมหน่อยๆ ช่วงล่าง แล้วก็เหมือนคอมแอร์ใกล้ลาโลกละครับ ส่วนตัวไปลองดูผ่านๆรู้สึกถูกจริตกับjazzมากกว่าครับแต่ถ้าจะเอาจริงๆเดี๋ยวคงต้องไปลองดูอีกที
Jazz ต้องลองสอบถามโชว์รูมแต่ละที่ดูครับ ผมไม่มั่นใจว่ายังมีรถเหลืออยู่มั้ย เพราะปัจจุบัน Honda ทำตลาด City Hatckback แทนครับ
ส่วนตัวผมเชียร์ City Hatchback เพราะว่าได้รถที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ และถ้าใช้ในเมืองน่าจะประหยัดน้ำมันได้มากกว่า Jazz
ส่วนอาการของ Pajero น้ำมันรั่วซึมใต้ท้องรถ กับ คอมแอร์รถเสีย ลองให้ศูนย์เสนอราคาซ่อมดูก่อน ถ้าแพงไปก็ลองหาอู่นอกดีๆซ่อมจบได้
ประเด็นหลักๆอยู่ที่จขกท.ต้องการจะใช้รถ PPV คันเดิม หรือต้องการที่จะเปลี่ยนไปใช้รถ B-Segment เพื่อความคล่องตัวในเมืองมากกว่าครับ
-
Jazz ต้องลองสอบถามโชว์รูมแต่ละที่ดูครับ ผมไม่มั่นใจว่ายังมีรถเหลืออยู่มั้ย เพราะปัจจุบัน Honda ทำตลาด City Hatckback แทนครับ
ส่วนตัวผมเชียร์ City Hatchback เพราะว่าได้รถที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ และถ้าใช้ในเมืองน่าจะประหยัดน้ำมันได้มากกว่า Jazz
ส่วนอาการของ Pajero น้ำมันรั่วซึมใต้ท้องรถ กับ คอมแอร์รถเสีย ลองให้ศูนย์เสนอราคาซ่อมดูก่อน ถ้าแพงไปก็ลองหาอู่นอกดีๆซ่อมจบได้
ประเด็นหลักๆอยู่ที่จขกท.ต้องการจะใช้รถ PPV คันเดิม หรือต้องการที่จะเปลี่ยนไปใช้รถ B-Segment เพื่อความคล่องตัวในเมืองมากกว่าครับ
ส่วนมากผมใช้คนเดียวเป็นหลัก ก็เลยมองๆเก๋งไว้ แต่ลึกๆก็เสียดายความเอนกประสงค์ของppvครับ
-
ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลัก แล้วไม่ได้มีคนขึ้นรถเยอะๆบ่อยๆ และไม่ได้ขนของเยอะๆบ่อยๆ การเปลี่ยนมาใช้รถเล็กลง ก็น่าจะตอบโจทย์ครับ
ผมเองตอนเปลี่ยนจาก Honda Stream มาเป็น Jazz GK บอกเลยว่าตอนนั้น Happy มากๆ ขับในเมืองคล่องตัวกว่าเดิมเยอะมาก มุดเข้าตรอกซอกซอยสบายขึ้น หาที่จอดง่าย แล้วก็ประหยัดค่าน้ำมันได้เยอะพอสมควรเลย ส่วนเรื่องขนของ ด้วยความอเนกประสงค์ของ Jazz มันก็ทำได้ดีเลย พับเบาะหลังที่ ขนของได้เยอะมาก จะมีแค่ถ้านั่งเต็มรถแล้วไปซื้อของเข้าบ้านที่ Supermarket เยอะ จะต้องพยายามจัดเรียงของ หรือต้องใช้พื้นที่ใต้เบาะหลังนิดหน่อย แล้วก็เวลาเดินทางไกล สันไม่ได้ทุกที่แหละ แต่อาจจะเหนื่อยขึ้นหน่อย และอาจจะต้องจอดพัก ยืดแข้งยืดขา บ่อยขึ้น
ลองมองลักษณะการใช้ดูครับ ถ้าดูแล้วว่ารถเล็กลงไม่ใช่ปัญหา ผมว่ามันก็ Make sense ที่จะเปลี่ยนนะ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องซ่อมไปอีกพักใหญ่ๆเลย ส่วนระหว่าง Jazz กับ City HB ส่วนตัวผมยังชอบ Jazz มากกว่า แม้ Technology มันจะเก่ากว่า ด้วยรูปร่างหน้าตามัน ถูกจริตกับผม แล้วผมแอบรู้สึกว่า City HB ช่วงท้ายรถ มันดูเล็กกว่า Jazz (หรือผมคิดไปเอง) ถ้า City ผมคงไปตัว Sedan ครับ
-
น้าผมเพิ่งเอา pajero 2.5 ขับ2ปี13 ไปให้เต้นท์ตีราคามา ได้ต่ำกว่า4แสนครับ
-
ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลัก แล้วไม่ได้มีคนขึ้นรถเยอะๆบ่อยๆ และไม่ได้ขนของเยอะๆบ่อยๆ การเปลี่ยนมาใช้รถเล็กลง ก็น่าจะตอบโจทย์ครับ
ผมเองตอนเปลี่ยนจาก Honda Stream มาเป็น Jazz GK บอกเลยว่าตอนนั้น Happy มากๆ ขับในเมืองคล่องตัวกว่าเดิมเยอะมาก มุดเข้าตรอกซอกซอยสบายขึ้น หาที่จอดง่าย แล้วก็ประหยัดค่าน้ำมันได้เยอะพอสมควรเลย ส่วนเรื่องขนของ ด้วยความอเนกประสงค์ของ Jazz มันก็ทำได้ดีเลย พับเบาะหลังที่ ขนของได้เยอะมาก จะมีแค่ถ้านั่งเต็มรถแล้วไปซื้อของเข้าบ้านที่ Supermarket เยอะ จะต้องพยายามจัดเรียงของ หรือต้องใช้พื้นที่ใต้เบาะหลังนิดหน่อย แล้วก็เวลาเดินทางไกล สันไม่ได้ทุกที่แหละ แต่อาจจะเหนื่อยขึ้นหน่อย และอาจจะต้องจอดพัก ยืดแข้งยืดขา บ่อยขึ้น
ลองมองลักษณะการใช้ดูครับ ถ้าดูแล้วว่ารถเล็กลงไม่ใช่ปัญหา ผมว่ามันก็ Make sense ที่จะเปลี่ยนนะ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องซ่อมไปอีกพักใหญ่ๆเลย ส่วนระหว่าง Jazz กับ City HB ส่วนตัวผมยังชอบ Jazz มากกว่า แม้ Technology มันจะเก่ากว่า ด้วยรูปร่างหน้าตามัน ถูกจริตกับผม แล้วผมแอบรู้สึกว่า City HB ช่วงท้ายรถ มันดูเล็กกว่า Jazz (หรือผมคิดไปเอง) ถ้า City ผมคงไปตัว Sedan ครับ
อยากรู้ด้วยครับว่าจากที่ใช้มาcvtมีงอแงไรไหมครับ ส่วนตัวค่อนข้างกลัว
-
City e:HEV น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เติมน้ำมัน ประหยัดน้ำมันได้ดีกว่า 1.0 Turbo แถมซ่อมง่ายกว่า 1.0 Turbo เพราะตอนนี้เข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าแล้วครับ
-
ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลัก แล้วไม่ได้มีคนขึ้นรถเยอะๆบ่อยๆ และไม่ได้ขนของเยอะๆบ่อยๆ การเปลี่ยนมาใช้รถเล็กลง ก็น่าจะตอบโจทย์ครับ
ผมเองตอนเปลี่ยนจาก Honda Stream มาเป็น Jazz GK บอกเลยว่าตอนนั้น Happy มากๆ ขับในเมืองคล่องตัวกว่าเดิมเยอะมาก มุดเข้าตรอกซอกซอยสบายขึ้น หาที่จอดง่าย แล้วก็ประหยัดค่าน้ำมันได้เยอะพอสมควรเลย ส่วนเรื่องขนของ ด้วยความอเนกประสงค์ของ Jazz มันก็ทำได้ดีเลย พับเบาะหลังที่ ขนของได้เยอะมาก จะมีแค่ถ้านั่งเต็มรถแล้วไปซื้อของเข้าบ้านที่ Supermarket เยอะ จะต้องพยายามจัดเรียงของ หรือต้องใช้พื้นที่ใต้เบาะหลังนิดหน่อย แล้วก็เวลาเดินทางไกล มันไปได้ทุกที่แหละ แต่อาจจะเหนื่อยขึ้นหน่อย และอาจจะต้องจอดพัก ยืดแข้งยืดขา บ่อยขึ้น
ลองมองลักษณะการใช้ดูครับ ถ้าดูแล้วว่ารถเล็กลงไม่ใช่ปัญหา ผมว่ามันก็ Make sense ที่จะเปลี่ยนนะ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องซ่อมไปอีกพักใหญ่ๆเลย ส่วนระหว่าง Jazz กับ City HB ส่วนตัวผมยังชอบ Jazz มากกว่า แม้ Technology มันจะเก่ากว่า ด้วยรูปร่างหน้าตามัน ถูกจริตกับผม แล้วผมแอบรู้สึกว่า City HB ช่วงท้ายรถ มันดูเล็กกว่า Jazz (หรือผมคิดไปเอง) ถ้า City ผมคงไปตัว Sedan ครับ
อยากรู้ด้วยครับว่าจากที่ใช้มาcvtมีงอแงไรไหมครับ ส่วนตัวค่อนข้างกลัว
คัน Jazz CVT ตอนนี้คุณพ่อเอาไปใช้ รถ 4ปีครึ่ง วิ่งไปประมาณ 51,000 โล ยังไม่อาการนะครับ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะคู่มือ อีกคัน HRV CVT ผมใช้เอง ตอนนี้ 4ปี 80,000 โล เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 โล ยังปกติสุขดีครับ ส่วนตัวผมขับรถค่อนข้างเร็ว แต่ไม่กระชาก ครับ
-
ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลัก แล้วไม่ได้มีคนขึ้นรถเยอะๆบ่อยๆ และไม่ได้ขนของเยอะๆบ่อยๆ การเปลี่ยนมาใช้รถเล็กลง ก็น่าจะตอบโจทย์ครับ
ผมเองตอนเปลี่ยนจาก Honda Stream มาเป็น Jazz GK บอกเลยว่าตอนนั้น Happy มากๆ ขับในเมืองคล่องตัวกว่าเดิมเยอะมาก มุดเข้าตรอกซอกซอยสบายขึ้น หาที่จอดง่าย แล้วก็ประหยัดค่าน้ำมันได้เยอะพอสมควรเลย ส่วนเรื่องขนของ ด้วยความอเนกประสงค์ของ Jazz มันก็ทำได้ดีเลย พับเบาะหลังที่ ขนของได้เยอะมาก จะมีแค่ถ้านั่งเต็มรถแล้วไปซื้อของเข้าบ้านที่ Supermarket เยอะ จะต้องพยายามจัดเรียงของ หรือต้องใช้พื้นที่ใต้เบาะหลังนิดหน่อย แล้วก็เวลาเดินทางไกล มันไปได้ทุกที่แหละ แต่อาจจะเหนื่อยขึ้นหน่อย และอาจจะต้องจอดพัก ยืดแข้งยืดขา บ่อยขึ้น
ลองมองลักษณะการใช้ดูครับ ถ้าดูแล้วว่ารถเล็กลงไม่ใช่ปัญหา ผมว่ามันก็ Make sense ที่จะเปลี่ยนนะ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องซ่อมไปอีกพักใหญ่ๆเลย ส่วนระหว่าง Jazz กับ City HB ส่วนตัวผมยังชอบ Jazz มากกว่า แม้ Technology มันจะเก่ากว่า ด้วยรูปร่างหน้าตามัน ถูกจริตกับผม แล้วผมแอบรู้สึกว่า City HB ช่วงท้ายรถ มันดูเล็กกว่า Jazz (หรือผมคิดไปเอง) ถ้า City ผมคงไปตัว Sedan ครับ
อยากรู้ด้วยครับว่าจากที่ใช้มาcvtมีงอแงไรไหมครับ ส่วนตัวค่อนข้างกลัว
คัน Jazz CVT ตอนนี้คุณพ่อเอาไปใช้ รถ 4ปีครึ่ง วิ่งไปประมาณ 51,000 โล ยังไม่อาการนะครับ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะคู่มือ อีกคัน HRV CVT ผมใช้เอง ตอนนี้ 4ปี 80,000 โล เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 โล ยังปกติสุขดีครับ ส่วนตัวผมขับรถค่อนข้างเร็ว แต่ไม่กระชาก ครับ
เสริมข้อมูลให้อีกท่านนะครับ แต่เป็น Jazz GD (CVT เหมือนกันไม่น่าจะต่างกันเยอะ แต่ได้ยินว่าเปราะกว่า GK ระดับนึง)
จริงๆแล้ว CVT Jazz มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นน่ะครับ ผมว่าถ้าเทียบกับยี่ห้อสหกรณ์นั่นแล้ว แข็งแรงกว่าพอสมควรเลย ของผมยกเปลี่ยนคลัชท์ไปชุดเดียว (เจอเสียงครืด/สั่น) ตอน 120k โล
แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็น CVT ก็ระวังไว้หน่อยนึง เวลาเหยียบก็อย่ากระโชกมากมันก็จะอยู่ได้นานครับ
เพียงแต่ช่วงประมาณเฉียดแสนโลก็แนะนำว่าเผื่อๆเงินไว้สักหน่อย อาการถ้ามันจะมาก็ช่วงนั้นแหละครับ
-
เกียร์ CVT แจ๊ส โดยเฉพาะที่ใช้กับ GK ไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่ครับ เอาเป็นว่าขับไม่ทารุณ โหดร้าย ดูแลตามระยะ ยังน่าอุ่นใจกว่าเกียร์เทพค่ายสีน้ำเงิน เยอะครับ ;D