Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: The Mechanics of Emotions ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 11:14:37

หัวข้อ: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: The Mechanics of Emotions ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 11:14:37
สวัสดีครับ อยากแชร์เรื่องการใช้วัสดุภายในห้องโดยสารระหว่างรถยุโรปกับรถญี่ปุ่น โดยสองคันที่ผมจะมาเทียบกันคือ 2010 BMW E90 325i M Sport และ ​​2010 Nissan Teana j32 2.5 V6 โดยเป็นรถมือสองทั้งคู่ เมื่อผ่านไป 10 ปีทั้งคู่ เวลาขับจะรู้เลยว่า Teana ขับแล้วไม่มีเสียงภายในเลย แต่จะมีคอนโซลเหนียวแตก พวงมาลัยลอกเท่านั้น แต่การประกอบแน่นมากๆ ไม่มีเอี๊ยดอ๊าดเลย ต่างกับ E90 ที่ลั่นตั้งแต่ยางขอบประตูมันแห้ง เวลาตัวถังบิดตัวจะได้ยินเสียงแกรบบบบบ ต้องเอา waxy มาทาที่ยางขอบประตูแล้วเสียงจะหายไป รวมทั้งเสียงที่แผงประตู เหมือนพลุกมันไม่แน่น ดังกรอบๆแกรบๆ รวมทั้งคอนโซลหน้ายิ่งเวลาจอดตากแดดนี่ชัดเจนมาก เหมือนพวกวัสดุมันขยายตัว เวลาตากแดดแล้วขับนี่พอกระแทกนิดหน่อยนี่พลาสติกลั่นเลยครับ มีมือจับตรงพวกยางๆ จะเหนียวหน่อย แล้วก็พวกกรอบวิทยุ สีพ่นมันจะลอก ต้องไปพ่นใหม่ก็เนี๊ยบเหมือนเดิมครับ พวกนี้ซ่อมได้

สรุปคือ การใช้วัสดุผมว่ารถญี่ปุ่นมันทนกว่าครับ แน่นๆ ไม่มีหลวม E90 ขับแล้วรำคาญเสียงพลาสติกลั่นมากๆ กรอบๆ แกรบๆ ทั้งคัน
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 11:22:06
เช่นกันครับ ของผมไม่ต้องรอ 10 ปี ครับ แค่ 6-7 ปี

E60 E90 F10 เหนียว แตก มีเสียงหมดแล้วครับ

แต่ Camry Jazz Civic Fortuner XV Pajero ยังแน่นๆเลยครับ

ผมเคยรื้อภายในเล่นๆ พวกขอบประตู คอนโซลกลาง ยุโรปชอบใช้วิธียึดตภายในด้วย พุกพลาสติก แง่ง และเดือยพลาสติก แบบตบๆเข้าไป พอมันหักหรือหมดอายุก็หลวม

แต่ญี่ปุ่นยังมีหูแล้วขันสกรูเข้าไปตรงจุดสำคัญๆเยอะกว่ามาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยผิวสัมผัส ยุโรปจะแบบด้านๆพอนานๆไปจะเหนียว และมีบุพรมตามจุดต่างๆ พอหมดอายุก็ร่อนเป็นขุยๆ แต่ญี่ปุ่นไม่มีอะไรเลยพลาสติกล้วนๆ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: basterias ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 11:25:08
ผมเพิ่งขาย cls 250 cdi ตัวก่อนไป รถ 7 ปีวิ่ง 40,000 โล จอดที่ร่มตลอด

ทุกอย่างยังดีอยู่นะครับ ผมใช้เองมือเดียว ไม่เคยจอดตากแดดตากฝนเลย เจ้าของคนใหม่แฮปปี้มากครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 11:33:11
ยุโรป มันมีเรื่องวัสดุ recycle รวมถึง เกรดวัสดุ อาจจะไม่ได้ทนสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเรา

ญี่ปุ่น จริงๆ J32 ก็ไม่ถือว่า ทนนะ เพราะระดับ 10 ปี Jazz GE / CR-V G3 ที่บ้าน ยังกริ๊ปๆอยู่เลย ไม่มี แตก เหนียว ละลาย แม้แต่จุดเดียว (เออ ลืม มีท้าวแขน ที่ประตู ของ G3 หนังย่น defect ประจำรุ่น อันละ 900 บาท)
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 11:49:54
ยุโรป แตก เหนียว เป็นกันทั้งนั้นละครับ ค่ายเยอรมันชัดเจนเลย เช่น VW

ผมว่า ญี่ปุ่น ทนกว่าด้วยซ้ำ เมื่อผ่านไป 10 แล้วอะ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: I'm Ti ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 11:50:15
รถญี่ปุ่นมันทนร้อนกว่ารึเปล่าครับ


เรื่องวัสดุของรถยุโรป อายุการใช้งานคงเหมาะกับภูมิประเทศที่ไม่ร้อนมั่งครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: tvm ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 12:10:11
ตามท่านบนว่า รถยุโรปมีเรื่องวัสดุรีไซเคิล การเคลือบผิวให้เหมาะกับเขาที่ไม่ร้อนแบบเรา ฯลฯ
เทียบนิสสัน J32 ผมก็เคยใช้ ก็ถือว่าใช้ได้ ไปดูโตต้าสิครับ ทนจริงอันนั้น เพราะเน้นทน ไม่ได้เน้นผิวสัมผัสนุ่นเนียน (สมัยก่อน)
แต่รถยุโรปยุคหลังๆ ผมว่าไม่ได้เปราะบางขนาดยุคก่อนนะครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 12:15:56
ผมเชื่อว่าพลาสติกผิวเนียน ๆ ใช้ไปแล้วมันจะเหนียวของมันเองครับ

หูฟังผมไม่เคยตากแดด ยังเหนียวเลยครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: tatum0022 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 12:20:03
w204 ผมจะครบ 10 ปี ก็ยังโอเครอยู่นะครับ ปัญหาเดียวคือปุ่มลอกเท่านั้น รถยุโรป ถ้าไม่จอดตากแดดบ่อยๆ ไม่เสียครับ เพียงแค่มันไม่ค่อยชอบแดด เทียบกับ camry avc40 mc ข้างในไม่ต่างครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 12:21:10
ใช่ครับ 10 กว่าปีที่ผ่านมาที้งวัสดุทั้งดีไซน์ ดูรถญี่ปุ่นจะดูเก่าช้ากว่าหมดเลยครับ รถญี่ปุ่นปรับให้เหมาะกับไทย

มากกว่าด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 12:36:18
เจอเฟียสต้ารถอเมริกาเข้าไปนี่ไม่อยากจะเซด
นอกจากเหล็กก็ไม่มีอะไรทน
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: neung23 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 12:52:28
ยุโรปถ้าไม่ตากแดดหนักมากจริงๆ ไม่เท่าไหร่หรอกคับ

ส่วนมือจับประตู bmw มันเหลวเหนียวเป็นตำนานอันนั้นส่วนหนึ่ง แต่ พอช่างแกะมาเปลี่ยนแล้วไม่เปลี่ยนพุคพลาสติกใหม่ มันก็หักแน่นอนอยู่แล้ว ผมได้ยินมาว่าต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่แกะ หรืออู่ที่เนี้ยบๆส่วนมากก็เบิกมารออยู่แล้ว เพราะเกิน7ปี แกะเมื่อไหร่หักทุกคัน

รถยุโรปทีใช้ๆมาทั้งหลายๆมาแผงประตูคอนโซลหนังภายในมันไม่เป็นอะไรเลย ทนใช้ได้นะคับ

benz ปุ่มลอก bmw มือจับประตูข้างในเหนียว เจอแค่นี้นะ นอกนั้นผมว่าทนกวา่ญี่ปุ่นอีก ถ้าไม่แกะมันเล่นบ่อยๆ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: neung23 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 12:53:47
สวัสดีครับ อยากแชร์เรื่องการใช้วัสดุภายในห้องโดยสารระหว่างรถยุโรปกับรถญี่ปุ่น โดยสองคันที่ผมจะมาเทียบกันคือ 2010 BMW E90 325i M Sport และ ​​2010 Nissan Teana j32 2.5 V6 โดยเป็นรถมือสองทั้งคู่ เมื่อผ่านไป 10 ปีทั้งคู่ เวลาขับจะรู้เลยว่า Teana ขับแล้วไม่มีเสียงภายในเลย แต่จะมีคอนโซลเหนียวแตก พวงมาลัยลอกเท่านั้น แต่การประกอบแน่นมากๆ ไม่มีเอี๊ยดอ๊าดเลย ต่างกับ E90 ที่ลั่นตั้งแต่ยางขอบประตูมันแห้ง เวลาตัวถังบิดตัวจะได้ยินเสียงแกรบบบบบ ต้องเอา waxy มาทาที่ยางขอบประตูแล้วเสียงจะหายไป รวมทั้งเสียงที่แผงประตู เหมือนพลุกมันไม่แน่น ดังกรอบๆแกรบๆ รวมทั้งคอนโซลหน้ายิ่งเวลาจอดตากแดดนี่ชัดเจนมาก เหมือนพวกวัสดุมันขยายตัว เวลาตากแดดแล้วขับนี่พอกระแทกนิดหน่อยนี่พลาสติกลั่นเลยครับ มีมือจับตรงพวกยางๆ จะเหนียวหน่อย แล้วก็พวกกรอบวิทยุ สีพ่นมันจะลอก ต้องไปพ่นใหม่ก็เนี๊ยบเหมือนเดิมครับ พวกนี้ซ่อมได้

สรุปคือ การใช้วัสดุผมว่ารถญี่ปุ่นมันทนกว่าครับ แน่นๆ ไม่มีหลวม E90 ขับแล้วรำคาญเสียงพลาสติกลั่นมากๆ กรอบๆ แกรบๆ ทั้งคัน

เสียงนั้น ติดเทปกาวรอบยางขอบประตูด่วนคับ เข้าศูนย์ไปเลย หายสนิท 2-3พันได้คับ ผมเคยติด E60 E70 E90 เป็นทุกคัน BSI ยังต้องจ่ายเองเลย
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Cheap and cheerful ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 13:23:07
เคยมี ACV 40 2.0G อายุ 10กว่าปี ภายในแทบไม่โทรมเลย ยกเว้นเบาะคนขับที่เริ่มเหี่ยว กับปุ่มเปิดปิดแอร์ที่ใช้บ่อยๆลอก กับพวงมาลัยเริ่มเสี่อมนิดๆ ที่เหลือเหมือนรถใหม่เลย ประทัยใจมากๆกับรถใช้งานอายุขนาดนี้ ไม่มีเสียงก่อกๆแก่กๆสักนิด

อีกคัน ACV50 Hybrid ก็ยังเป๊ะเหมือนเดิม แน่นปึ้กๆ มีปุ่มพวงมาลัยเริ่มลอกแค่นั้น

งานประกอบ Toyota เป็นอะไรที่น่าภูมิใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แน่นเป๊ะ ทนทานจริงๆ

Accord G8 2.0 งานประกอบสั*ว์นร* มากๆ ดังแม่งทั้งคัน ดังไม่พอ ลอก เปี่อยทุกจุดที่สัมผัส เลวร้ายมากๆ ประกอบห่วยวัสดุห่วยไม่พอ จุกจิกอีก เครี่องสั่น ปั๊มหอน แร๊คพัง หัวฉีดพัง สารพัดจะด่า
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: demo2 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 14:24:46
เห็นด้วยครับ F30 ของผมดูแลอย่างดี ตากแดดน้อยมาก แต่ที่จับประตูด้านในก็เหนียวเหมือนเดิม แต่ดีหน่อยที่อยู่ใน BSI แล้วเคลมได้(รถเกือบ5ปีพอดี)
ส่วน teana L33 7ปี toyota 86 7ปี kia grand canival gen3 4ปี ยังไม่มีอะไรลอกเลย
ยกเว้นคัน kia ประตูสไลด์ด้านขวามีเสียงดังเอี๊ยดๆเวลารถเลี้ยว(เหมือนตัวรถบิดตัวหรือเปล่าไม่แน่ใจ) ขับทางตรงๆไม่มีเสียง
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 15:40:08
เจอเฟียสต้ารถอเมริกาเข้าไปนี่ไม่อยากจะเซด
นอกจากเหล็กก็ไม่มีอะไรทน
เฟียสต้าผม 9 ปีแล้ว วิ่งมา 270,000 กม. วัสดุภายในก็ยังดีอยู่นะครับ
การเก็บเสียงภายในก็ยังไม่ต่างจากสมัยซื้อใหม่ ผิวสัมผัสวัสดุยังไม่มีชิ้นไหนแตกลาย
ที่ลอกคือโลโก้ฟอร์ดบนพวงมาลัย กับมือจับประตูแค่นั้น

ที่ว่ามาคือไม่ใช่มันดีอะไรนะครับ
วัสดุที่ให้มามันเป็นผิวด้านๆ ให้มาแบบไหน ทุกวันนี้ก็ยังด้านๆอยู่เหมือนเดิม ตัวท็อป 1.5S
คุณภาพไม่ได้ดีอะไรมาตั้งแต่แรกเมื่อเทียบกับรถสมัยนี้
การใช้งานของผมก็ 7 ปีแรกจอดตากแดดเกือบทุกวัน เพิ่งได้เข้าร่มมื่อ 2 ปีนี้เอง

ผมจึงคิดว่ามันเป็นรถที่ภายในยังคงสภาพได้ดีอยู่กับระยะเวลา 9 ปีที่ใช้มาครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 15:52:17
รถญี่ปุ่นใช้นานมากๆภายในทนกว่ารถยุโรปครับจากประสบการณ์ส่วนตัว อีโวผมอายุ 18 ปีภายในยังแน่นอยู่ เลย ส่วน BMW Porsche เสียงภายในเริ่มดังเวลารถมีอายุครับ ปุ่มต่างๆเริ่มเหนียว ผ้าบุหลังคาหลุดเอง อันนี้คือรถใช้น้อยทุกคัน ไม่จอดตากแดดเก็บในโรงจอดรถติดแอร์ทุกคัน
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Gprt. ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 15:57:16
ถ้าจขกทใช้ค่าย *H** ความเห็นอาจจะไปอีกทางนะครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: chaithawat ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 16:02:05
รถญี่ปุ่นคงทนกว่ากันเยอะครับ ไม่ต้องสิบปีหรอกครับสามปีแรกก็เห็นผลแล้วรถผมสามหมื่นโลสามปีก็วิ่งเข้าศูนย์เซ็งแล้ว ยิ่งยุคหลังๆยิ่งคุณภาพแย่ลงไปมากเครมอะไหล่เซนเซอร์เป็นว่าเล่น และพวกภายใน พวกพลาสติกมือจับซอฟทัช คอนโซล เหนียวเละไปหมด พลาสติกกรอบก๊อปแก๊ปทั้งคอนโซล แผงเกียร์ ที่ท้าวแขน ประตูดังน่ารำคาญไปหมด เคยจอดแง้มกระจกลืมปิดตากฝนตกนิดเดียวมือจับประตูด่างพองเพราะน้ำฝนเลย ตอนตากแดดก็เช่นกันได้ยินชัดเหมือน จขกท.ครับ เอาแว๊กซ์ทาขอบกำมะหยี่ก็อยู่ได้สองอาทิตย์ก็ต้องมาทาใหม่ยุ่งยากอีก  งานผิวสัมผัสภายในเทียบรถจีนรุ่นใหม่ๆยังไม่ได้เลย เนียนนุ่มและทนกว่าด้วยซ้ำ  เทียบรุ่นพี่เจนก่อนยิ่งชัดความทนงานประกอบจาก e46-e90-f30 ต้องบอกว่ารุ่นเก่าทนกว่ากันเห็นๆครับ กว่าจะลอก กว่าจะตกท้องช้าง มีเสียงก๊อบแก๊บ6-7ปีไปแล้ว
ฟีลลิ่งก็เช่นกันครับ 3-4หมื่นโลไปแล้วขับเหมือนคนละคันเลยแค่บูทนิ่มลงนิดเดียวก็ออกอาการไววอกแวก พวงมาลัยเบาดิ้นไปตามถนนไม่เหมือนตอนออกใหม่ ทนขับได้สี่หมื่นกว่าโลขายทิ้งไปลองเทสไดรฟ์รุ่นใหม่ก็ยังแอบมีเสียงก๊อปแก๊ปให้ได้ยินอยู่เหมือนกันครับ
ปล.สีที่เขาใช้ภายในเป็นสีน้ำรักษ์โลกครับ สมัยก่อนเอาไปซ่อมเห็นช่างถอดออกมาแช่น้ำให้ละลายแล้วค่อยเอาสีกระป๋องพ่นทับไปครับ ช่างแนะนำว่าพยายามอย่าไปเช็ดหรือโดนน้ำครับ มันจะลอกละลายออกมาครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Mos37257 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 17:46:25
นี่เป็นอีกสิ่งนึงที่รถยุโรปให้ไม่ได้ ขนาดเทียบกับรถญี่ปุ่นธรรมดายังสู้ไม่ได้เลย เเล้วการที่บอกว่าถ้าไม่จอดตากเเดดจะไม่พัง เวลาทำรถมาขายควรคำนึงถึงวัสดุที่จะใช้ในประเทศนั้นๆหรือเปล่า มันก็ต้องทนสิไหนโปรโมทว่าใช้วัสดุทนความร้อนให้เข้ากับประเทศนั้นๆ?
ประกอบไทยอีกต่างหาก ไม่ได้ว่าว่ารถยุโรปไม่ดีเเต่คุณทำรถดูถูกผู้บริโภคไปหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 18:14:35
แฟนซูบี้อาจเห็นต่าง  :-X ... XV, Forester ... รวมถึง WRX, STi พวงมาลัยลอก ฝาปิดช่องวางแก้วขาด ตั้งแต่ยังไม่ถึง 5 ปี

Outback ผม ตอนอายุ 7 ปี คอนโซลแตกเป็นท้องนาตากแดด มือจับละลายแบบเดียวกับ BMW ยุคหลังๆครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 18:39:57
แฟนซูบี้อาจเห็นต่าง  :-X ... XV, Forester ... รวมถึง WRX, STi พวงมาลัยลอก ฝาปิดช่องวางแก้วขาด ตั้งแต่ยังไม่ถึง 5 ปี

Outback ผม ตอนอายุ 7 ปี คอนโซลแตกเป็นท้องนาตากแดด มือจับละลายแบบเดียวกับ BMW ยุคหลังๆครับ

XV ผมพวงลอกตอน 2 ปี เคลมใหม่ตอนนี้ผ่านมา 3 ปีกว่าแล้วยังไม่มีลอกครับ

ฝาปิดแก้ววางน้ำเพิ่งขาดเมื่อเดือนก่อน ใช้มา 5 ปีกว่าครับ

ส่วน Forester SJ ไม่มีลอก แต่เสา A B แผงประตูดังเวลาเลี้ยว ทางขรุขระ แต่คันนี้จอดตากแดดวันล่ะ 8 ชม จ-ส เพราะไปจอดแล้วจรครับ ผ่านมา 5 ปี ผมว่ายังดีกว่า e90 ที่ใช้งานแบบนี้เยอะครับ

ของ XV ผมว่ามันน่าจะเป็นล๊อตที่ผลิตจากซัพพลายเออมากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 19:09:21
ตามข้างบน  ยุโรป มีข้อบังคับให้ใช้วัสดุรีไซเคิล เทียบเป็นสัดส่วน กับวัสดุใหม่  ไม่สามารถใช้ของใหม่ทั้งหมดได้  มันก็เป็นเช่นนั้นแล
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 19:30:28
อ่านมาเรื่อย ๆ อยากถามว่า

พวกน้ำยาผิวเคลือบคอนโซล ให้สีดูเข้ม ๆ ขึ้น

มันจะได้การปกป้องไหม เพราะที่ข้างขวดเขียนว่าปกป้องจาก UV บลา ๆๆๆ ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: pratuang ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 19:33:28
ผมใช้ ACCORD G8 มา 11 ปี ภายในนี้เหมือนรถใหม่ครับ ไม่ได้ทำอะไรเลย ได้ยินแต่เสียงเครื่องครับ ขายไปแล้ว คนซื้อเห็นรีบซื้อเลยครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: bobbydiver ที่ พฤษภาคม 28, 2021, 21:18:19
ด้วยคนครับ


เคยมี Collora ปี96 ขายได้ตอนปี11 วิ่งไป สองแสนเจ็ด ภายในยังใช้ได้ ตัวถังไม่ผุเลย
น้องชายมี Mazda mx5 รุ่นแรก จอดในร่ม ทุกวันนี้ภายในยังดี ยกเว้นหลังคาผ้าใบที่กรอบ
Mu7 ของที่บ้าน 10 ปีแล้ว ยังเนี๊ยบอยู่เลยครับ
e30 ปี 84 น้ำรั่วฐานแบต ตัวถังผุลงพื้่นบริเวณคันเร่งตอนปีที่  7
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ พฤษภาคม 29, 2021, 09:11:01
ด้วยกระแสและแรงกดดันเรื่องสิ่งแวดล้อม ฝั่งยุโรปเขามีมาตรฐาน Euro สารพัดคอยกดดันให้เปลี่ยนแปลงก่อนฝั่งญี่ปุ่น แต่ตอนนี้แรงกดดันเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสากลระดับโลกไปแล้ว

เราเริ่มเห็นฝั่งญี่ปุ่นใช้วัสดุพลาสติกแบบรีไซเคิลได้ ซึ่งเราเองก็รู้สึกว่ามันดูภายในราคาถูก แต่ต้นทุนวิจัยอาจจะแพงกว่าพลาสติกแข็งในอดีต ในชณะที่ฝั่งยุโรปยังมีการพัฒนาหนังเทียมมาตกแต่ง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดแล้วฝั่งญี่ปุ่นหรือฝั่งยุโรปกำไรต้นุทนมากกว่ากัน
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: poochil ที่ พฤษภาคม 29, 2021, 09:16:45
ผมว่าปัจจัยสำคัญคือจอดตากแดดร้อนๆ ไม่มีอะไรทนไหวครับ ยกเว้น plastic ทำให้รถที่ใช้ plastic เยอะ ดูทนกว่า
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Gunther ที่ พฤษภาคม 29, 2021, 10:44:42
รถญี่ปุ่นดีกว่ารถยุโรปครับ อะไหล่รถญี่ปุ่นทนทาน หาง่ายกว่าและราคาถูกกว่า วัสดุชิ้นส่วนประกอบได้แน่นกว่า
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Yeahyeahs ที่ พฤษภาคม 30, 2021, 01:42:57
ถ้าจขกทใช้ค่าย *H** ความเห็นอาจจะไปอีกทางนะครับ

ผมใข้ Civic FB มาเข้าปีที่แปด ข้างในยังเหมือนใหม่เลยครับ มีอย่างเดียวคือปุ่มบนพวงมาลัยลอก (และปุ่มกุญแจลอกตั้งแต่ปีแรกๆ)
จำได้ตอนออกใหม่ๆคนยี้พลาสติกทำคอนโซลของมันมาก มาตอนนี้ตอนออกมายังไงก็ยังคงสภาพอย่างงั้น

อ้อ จอดตากแดดตากฝนทุกวันตลอดแปดปีครับ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: EVA01 ที่ พฤษภาคม 30, 2021, 04:04:43
ถ้าจขกทใช้ค่าย *H** ความเห็นอาจจะไปอีกทางนะครับ

ที่เคยใช้มารถค่าย T ข้างในดังกรอบแกรบทุกคันเลยครับ ค่าย H กับ M กลับไม่เป็นแฮะ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 30, 2021, 09:41:25
ถ้าเจอรถญี่ปุ่นที่โดนบังคับใช้วัสดุรีไซเคิลก็เป็นปัญหาเหมือนกันละครับ    แต่โชคดีที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจอแบบนั้น  แต่เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นก็เจอเยอะขึ้นเพราะว่าวัสดุลดต้นทุนกับงานส่งออกไปยุโรป  ทำให้ต้องใช้วัสดุเกรดเดียวกัน    พวกหนังพวงมาลัยลอก  คอนโซลลอก มือจับต่าง  ๆ   รถยนต์ที่เราเห็นในยุคปัจจุบันอายุงานเกิน 15-20 ปี  จะเห็นภายในเริ่มแตก  เบาะแตกลายงา หมดสภาพกันไป      การไม่จอดรถตากแดด  จอดในที่ร่มตลอดก็ช่วยได้เยอะ
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Spada_Valess ที่ พฤษภาคม 30, 2021, 23:38:08
อยู่ที่การดูแลรักษา การจอดเป็นหลักครับผมว่า รถยุโรปจอดในร่มตลอด 10 ปียัง สวยๆอยู่เลย
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Gprt. ที่ พฤษภาคม 31, 2021, 07:41:34
ถ้าจขกทใช้ค่าย *H** ความเห็นอาจจะไปอีกทางนะครับ

ผมใข้ Civic FB มาเข้าปีที่แปด ข้างในยังเหมือนใหม่เลยครับ มีอย่างเดียวคือปุ่มบนพวงมาลัยลอก (และปุ่มกุญแจลอกตั้งแต่ปีแรกๆ)
จำได้ตอนออกใหม่ๆคนยี้พลาสติกทำคอนโซลของมันมาก มาตอนนี้ตอนออกมายังไงก็ยังคงสภาพอย่างงั้น

อ้อ จอดตากแดดตากฝนทุกวันตลอดแปดปีครับ

FC ผมปีเดียวเองครับงานประกอบภายในไปซะแล้ว :'(
หัวข้อ: Re: ภายในรถยุโรป vs รถญี่ปุ่น เมื่อผ่านไป 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: oaenitzuka ที่ พฤษภาคม 31, 2021, 11:44:47
รถยุโรป วัสดุรักษ์โลก ...แต่ไม่รักกระเป๋นตังค์ครับ  ;D ;D ;D