Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Holala ที่ มิถุนายน 05, 2021, 12:44:40
-
ผมส่วนตัวไม่เคยใช้รถยุโรปและไม่มีความรู้เรื่องรถเลยเลยครับ ตอนนี้กำลังเล็ง bmw 530i มือสอง ปี 2017 ไมล์50k (รถหมดbsi ปีหน้า) ออฟชั่นเยอะดีครับ ราคาไม่ต่างกับ 520d มาก แต่ที่หาข้อมูลได้ตอนนี้คือ 520d เครื่องทนกว่าเพราะเป็นเครื่องดีเซลใช้ได้นานกว่าไม่จุกจิก ยังลังเล เลยมาขอคำแนะนำจากพี่ๆครับ
*รถใช้งาน ตจว เป็นหลักนะครับ เข้า กทม บ้างเป็นครั้งคราว เฉลี่ยปีละ 2หมื่น-3หมื่น โล*
คำถามคือ
1.BMW CBU ประกอบนอกมันดีกว่า CKD ประกอบในประเทศยังไงบ้างคับ
2.530i เครื่องเบนซินตัวนี้ระยะยาว 200000 โล ขึ้นไปยังจะทนและใช้งานได้ตามปกติไหมคับ
3.ปัญหาความจุกจิกต่างๆ ของ 530i ในระยาวข้างหน้า
4.530i VS 520d luxury ระยะยาว 5-8ปี ค่าอะไหล่และค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาหลังหมด BSI ต่างกันมากไหมคับ ควรเตรียมเงินต่อปีประมาณเท่าไร
5.530i เห็นว่าเครื่องเบนซินกินน้ำมันมากกว่าดีเซล 520d เยอะไหมคับ
6.เสียงของเครื่องยนตร์ทั้งสองรุ่นนี้ ในระยะยาวข้างหน้า
7.530i VS 520d luxury ความแตกต่างของผู้โดยสารด้านหลัง
8.ถ้าผมขยับไปตัว520d sport ที่ประกอบในประเทศ แล้ว bsi เหลือ เพิ่มอีก1-2ปี จะปลอดภัยกว่าไหมคับ (แต่ค่าตัวรถก็จะแพงขึ้นตามอีกประมาณ 2-3แสนบาท)
ุุ
-
รถในรถนอกไม่ค่อยแตกต่างกันมากมายหรอกครับ 2คันนี้ขึ้นกับว่าคุณต้องการอะไรเป็นหลัก ถ้าวิ่งทางไกลชิวๆประหยัดมากๆก็ต้องดีเซล แต่ถ้าเอาขับสนุกแรงๆยาวๆก็530Iแน่นอน เรื่องเครื่องยนต์ทนทานสมัยนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว ดูแลปกติต้องเกิน3แสนโลสบายๆไม่ว่าเบนซินหรือดีเซล ถ้ากลัวเรื่องค่าบำรุงรักษาก็ต้องเอารถปีใหม่กว่า ค่าซ่อมจะมาจุกๆก็ประมาณหลัง5ปีไปแล้ว ต้องทำใจเพราะค่าอะไหล่รถเยอรมันแพงเหลือหลาย ถ้าเข้า0หลังหมดWarranty มีเป็นแสนได้ BSIไม่ใช่Warranty นะครับ เพื่อนในBMW Thailand บอกว่าหลายท่านไปรวมกับWarranty ซึ่งไม่ใช่นะครับ
-
ถ้าไม่ซีเรียสกับค่าน้ำมัน ผมเชียร์ 530i มากกว่าครับ
เครื่องดีเซลพอใช้ไปนานๆเสียงเครื่องจะเริ่มดังครับ
-
จากคนใช้ 520d G30นะครับ ใช้ตจว.วิ่งยาว วิ่งเยอะ ไปดีเซลครับ. ประหยัดน้ำมันกว่า และตัวเครื่องทนกว่าเบนซิลครับ แต่ถ้าจะไปแรง ไป530iครับ ตัวนี้ผมว่าราคาจะแข็งนะครับ เพราะเป็นเบนซิลล่วนตัวสุดท้าย.
รถดีเซลถ้าซ่อมบำรุงถึง ไม่ได้ดัง/แพงนะครับ ที่ว่าดังตอนใช้ไปนานๆ คือที่ตัวยางรองเครื่องมันคงหมดอายุ ตัวนี้เปลี่ยนของแท้ จบครับ ใช้ต่ออีกยาว ส่วนที่เครื่องก็ดูพวกนม.เครื่อง และก็พวกการล้างท่อไอดี/ท่อEGR พวกนี้ครับ.
-
เคยใช้ 520d G30 ตัว CBU พอดีครับ แต่รถชนพังไปเรียบร้อยแล้ว :'(
1.BMW CBU ประกอบนอกมันดีกว่า CKD ประกอบในประเทศยังไงบ้างคับ
ที่เคยใช้เป็น 520d Luxury Limited (ตอนขายเซลล์เรียกรุ่นเป็นแบบนี้) แต่ในคู่มือจดเป็น 520d Limousine น่าจะเป็นสเปคเอามาใช้เป็นรถโรงแรม ชอบตรงเบาะแบบธรรมดาและช่วงล่างธรรมดาครับ (นุ่มดี) เมื่อวานไปลอง 520d M Sport ปีกเบาะสูงมากนั่งแล้วเมื่อยเลยครับ ผมเป็นคนตัวใหญ่ ส่วนอื่นๆ ถ้านึกถึงตอนนั้นที่ซื้อรถ CBU ล๊อตแรก รู้สึกดีตรงได้ใช้รถรุ่นนี้ก่อนคนอื่นครับ ส่วนงานประกอบ รุ่น CBU ผมเจอปัญหาเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ตั้งแต่ออกรถเลยครับ จากนั้นท่ออินเตอร์แตก แล้วรถชนพังก่อนไปเคลม ได้ใช้ราว 1 ปีกว่าๆ วิ่งไปราว 2 หมื่นกว่ากม.
5.530i เห็นว่าเครื่องเบนซินกินน้ำมันมากกว่าดีเซล 520d เยอะไหมคับ
520d ผมขับค่อนข้างเร็ว อัตราเร่งช่วงเกิน 160 ไปแล้วจะขึ้นช้าหน่อย แต่ประหยัดน้ำมันมากครับ เคยวิ่งได้ประมาณ 1,000 กม. ต่อถังครับ ขับแบบปกติครับ
7.530i VS 520d luxury ความแตกต่างของผู้โดยสารด้านหลัง
เบาะหลังเล็ก นั่งไม่ค่อยสบายครับ
8.ถ้าผมขยับไปตัว520d sport ที่ประกอบในประเทศ แล้ว bsi เหลือ เพิ่มอีก1-2ปี จะปลอดภัยกว่าไหมคับ (แต่ค่าตัวรถก็จะแพงขึ้นตามอีกประมาณ 2-3แสนบาท)
เอาดีกว่าครับ เพราะตอน 100,000 กม.เห็นว่าค่าใช้จ่ายเยอะอยู่ แล้วก็เน้นที่ประกันคุณภาพเหลือด้วยนะครับ บางที BSI กับประกันคุณภาพไม่เท่ากัน
ถ้าจะซื้อ 520d ตัว CBU ให้ดูดีๆ นะครับ
มันจะมีตัวที่ผมเคยซื้อมาใช้ เป็นสเปคที่ต่ำกว่า ตอนนั้นถูกกว่า 2 หรือ 3 แสนเนี่ยแหล่ะครับ หน้าจอจะเป็นแบบเข็ม, iDrive จอเล็กกว่านิดนึง, ไม่มี Gesture Control
ส่วนรุ่นที่แพงกว่าจะได้หน้าจอดิจิตอลเต็ม, มี Gesture ครับ
แนะนำเพิ่ม ทำไมไม่ดูรถใหม่รุ่น LCI ไปเลยครับ เห็นโปรตอนนี้ก็โอเคอยู่ครับ ดอกเบี้ยต่ำมากๆ
-
ดีเซลอืดไปหน่อยครับ ถ้าขับเร็วปลายมันตื่อๆ
เชียร 530i ครับ
-
ถ้าจะใช้รถระยะยาวแนะนำให้วิเคราะห์หลายๆด้านให้ละเอียดครับ
1.BMW CBU ประกอบนอกมันดีกว่า CKD ประกอบในประเทศยังไงบ้างคับ
= ผมคิดว่าบางส่วนคงดีกว่า(หรือป่าว) แต่ผมเชื่อว่าคุณภาพทั่วโลก มีการคุมโดย BMW อยู่แล้ว ตัดทิ้งหายห่วง
2.530i เครื่องเบนซินตัวนี้ระยะยาว 200000 โล ขึ้นไปยังจะทนและใช้งานได้ตามปกติไหมคับ
= รถทุกประเภท ถ้าดูแลรักษาดี ขับไม่โหดมากมาย เครื่องยนต์ทุกชนิดการใช้งานนานมากครับ 3แสนโล ถือว่านิ๊ดเดียว
ปล. ถ้าเอาทนถึกจริงๆ เอายังคิดว่าดีเซลนะ เพราะอ้างอิงรถบรรทุก ใช้มา 2ล้านกิโล ไม่เห็นจะพังแค่ไม่เต็ม 100%
3.ปัญหาความจุกจิกต่างๆ ของ 530i ในระยาวข้างหน้า
= ใช้ 520d m sport คิดว่าไม่ค่อยมีปัญหา เจอเล็กๆน้อยๆ warranty ทำหน้าที่ของมันได้ดี (เคลมได้หมด)
4.530i VS 520d luxury ระยะยาว 5-8ปี ค่าอะไหล่และค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาหลังหมด BSI ต่างกันมากไหมคับ ควรเตรียมเงินต่อปีประมาณเท่าไร
= โดยหลักการผมคิดว่าอะไหล่เครื่องยนตร์ดีเซลจะแพงกว่า แต่ผมก็คิดว่าเครื่องยนต์ไม่น่าจะพังง่ายๆ อะไหล่ส่วนอื่นๆน่าจะพังก่อน ซึ่งอะไหล่ส่วนอื่นๆ ดีเซลและเบนซิลคงใช้ร่วมกันอยู่ไม่น้อยในรถรุ่นเดียวกัน
5.530i เห็นว่าเครื่องเบนซินกินน้ำมันมากกว่าดีเซล 520d เยอะไหมคับ
= เป็นธรรมดา ถ้าเบนซิลประหยัดกว่านั้นสิจะแปลก ดีเซลยาวๆเนียนๆ 20km/Litre เป็นเรื่องที่ไม่น่าตกใจเลย
6.เสียงของเครื่องยนตร์ทั้งสองรุ่นนี้ ในระยะยาวข้างหน้า
= ยังไง๊ ยังไงง ดีเซลก็ต้องดังกว่าแน่นอน เรื่องเสียงต้องยอมรับให้ได้ แต่เจ้าของรถจะมีโอกาสได้ฟังเสียงเครื่อง idle สักเท่าไหร่เชียว นั่งในรถมันก็ไม่ได้ยินทั้งเบนซิลและดีเซล ทำให้ในรถเงียบขึ้น aftermarket ทำได้
7.530i VS 520d luxury ความแตกต่างของผู้โดยสารด้านหลัง
= 530i ช่วงล่างเป็น msport และล้อใหญ่กว่า ผมคิดว่า luxury น่าจะสบายกว่า
8.ถ้าผมขยับไปตัว520d sport ที่ประกอบในประเทศ แล้ว bsi เหลือ เพิ่มอีก1-2ปี จะปลอดภัยกว่าไหมคับ (แต่ค่าตัวรถก็จะแพงขึ้นตามอีกประมาณ 2-3แสนบาท)
= ถ้ามีงบจัดใหม่ โดยธรรมชาติของ BM เผลอๆไปซื้อมือ 2 ราคาอาจจะได้รถมือ1 ถ้าต่อรองเป็น ก่อน LCI มีคนเคยบอกได้ส่วนลด 600k(ไม่แน่ใจว่าจริงไหมนะ สืบเอาเอง)
เพิ่มเติมให้
1. 530i vs 520d luxury vs 520d msport(มือ1)
- เจ็บน้อยสุดเมื่อขายต่อคงเป็น 530i คิดว่าราคาคงแข็ง+ส่วนที่เจ้าของมือแรกขาดทุนมาแล้ว
- การใช้งานรถ ถ้าจะใช้ยาวๆ(10ปี++)ควรจะเป็นเครื่องยนต์สันดาป
- ดีเซลและเบนซิน ควรซื้อตามบุคลิกของเรา อย่าให้รถเลือกเรา เราชอบแบบไหนซื้อแบบนั้น
2. ค่าบำรุงรักษาหลังซ่อม
- โดนแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นรถเก่ารถใหม่ ดังนั้นระหว่างการใช้งานควรบำรุงรักษาให้ดีที่สุด
- สำหรับผม คิดว่าเบนซินและดีเซลไม่มีใครซ่อมแพงกว่าใคร เพราะ major part เครื่องยนต์คงไม่พังง่ายๆ
ชิ้นส่วนอื่นๆคงพังไปก่อน ซึ่งมันน่าจะใช้อะไหล่ร่วมกัน เช่นคอมแอร์/ช่วงล่าง/เกียร์ ก่อนเครื่องพังคงต้องมี 10ปี++
3. ดีเซลอืดกว่าเยอะไหม
- หลักการดีเซล ดึงแรงช่วงต้น สนุกช่วงต้น ปลายแผ่ว
- หลักการเบนซิน ดึงยาวๆ ลากรอบมัน คนชอบขับรถจะถูกใจ
- ทั้งดีเซลและเบนซิน เพียงพอต่อการใช้งานในถนนแล้ว เครื่อง 1.0/1.2/1.5 เต็มประเทศเรานะ
- อยู่บนถนนอย่าขับเร็ว ปลอดภัยเยอะๆ ทั้งคู่สามารถใช้เร่งแซงได้หายห่วงไม่มีปัญหา
Wish you happy new car :) :) :) :) :)
-
เคยใช้ 520d แต่เป็นตัว sport ครับ
ขับดีประมาณนึง ประหยัดมาก ถังนึงเลวที่สุดที่เคยขับได้อยู่ราวๆ 1050 โล โดยที่ยังเหลือน้ำมันอยู่ไม่ขึ้นไฟเตือน
ถ้าไม่ติดขับ sport mode ตลอดยังไงๆถังนึงมีพันโลแน่ๆครับ เน้นประหยัดยังไงๆตัวนี้ก็คุ้มครับ จะบอกว่าตัวนี้ไม่อืด
เลยครับ ลากได้สุดเท่าที่จำได้น่าจะราวๆ 220 แต่ช่วง 200 ขึ้นไปเหนื่อยนิดนึง
530i เป็นตัวท๊อปของ g30 pre lci ครับ หายากประมาณนึง อัตราการกินน้ำมันโหดเอาเรื่องครับ เห็นคนในคลับใช้
ในเมืองแย่ๆหน่อยมี 5 โล/ลิตรครับ
ข้อได้เปรียบ 530i น่าจะขับสนุกกว่า ออฟชั่นดีกว่า 520d lux แน่นอนถ้าจำไม่ผิดมาเป็น m sport ด้วย มีกล้อง 360 / ลำโพง harman
ราคาแข็งกว่าแน่นอน บำรุงรักษาอาจจะแพงกว่า
-
cbu ตัวแรก ออฟชั่นตลกมาก มีประตูดูด ไม่มีกล้องถอย
ชอบ ออปชั่น จัด 530 เลย ของหายาก เป็น m sport ด้วย ชุดแต่งโรงงานมาเลย มีกล้องรอบคัน มีลำโพง HARMAN (cbu จะได้เป็น hifi ซึ่งก็ดีในระดับนึงอยู๋แล้ว)
-
ปีละ 3 หมื่น ไม่น้อยนะครับ
ถ้าเอามาใช้งาน ว่ากันด้วยเหตุผลล้วนๆ และ ไม่ซิ่งมากมา 520 ครับ
แต่ ใจมันจะคา
คามาก คาน้อย ไม่เท่ากัน
เป็นผม คง คามากกกกกก
ดังนั้น ผมไป 530 ครับ ไหนๆ มาทางนี้แล้ว ประหยัดจากป้ายแดงไป ครึ่งนึง
เลือกรถดีๆ เลือกนานๆ อย่าวู่วาม
ซื้อสด ประหยัดเยอะ เตรียมงบไว้ซ่อมซักก้อน จะได้ไม่เครียด
ปี แรกคงไม่มีอะไร เพราะมี BSI
ขอให้ ได้รถดี ถูกใจนะครับ
-
คู่นี้เลือกไม่ยากครับ.
รักสนุก 530
ีรักประหยัด 520
-
ไป 530i เลยครับ แล้วจะไม่เสียดายที่ซื้อมา :D
ขับดีกว่า ความทนทานผมว่าไม่ต่าง ค่าน้ำมันที่ต่างสำหรับผม ผมว่าคุ้มกับสิ่งที่ได้มา
-
ถ้าไม่ห่วงค่าน้ำมัน ไป 530i ครับ
เบนซินเทอร์โบของ BMW ที่ผมใช้ ไม่จุกจิกและทนมากๆ ครับ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าดีเซลเลย แถมขับทางไกลสนุกกว่าดีเซลด้วย
ดีเซลมันก็ขับสนุกและหลังติดเบาะตอนรอบต้นๆ ของทุกเกียร์ แต่พอจะไล่รอบ รอบมันหมดตลอด ต้องมาเปลี่ยนเกียร์ลง ไม่หวานแบบเบนซินครับ
แต่ถ้าเป็นคนทั้จะฟินมากๆ ที่น้ำมัน 1 ถังวิ่งได้ 1000-1200 กิโล (วิ่งทางไกล) ยังไงก็ต้องดีเซลครับ
เบนซินถังนึกวิ่งได้ประมาณ 6-800 กิโลครับ (วิ่งทางไกล)