Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Gunther ที่ มิถุนายน 05, 2021, 18:30:16
-
ทำไมยอดขายกระบะ Mazda BT-50 ถึงขายได้น้อยมากๆ (ยอดขายเกือบรั้งท้าย) แม้ Mazda BT-50 ใช้บอดี้ร่วมกับ Isuzu D-Max แต่ยอดขายกระบะ Isuzu D-Max ขายได้ดีมากๆ ขายได้ดีกว่า Toyota Hilux Revo
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQPgfLSCrIq21uSYBUzjNSFtcim-F94GBLXng&usqp=CAU)
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTTCbP_uhURFm0tNuUDgXFoilWq_4EprLCx6w&usqp=CAU)
แปลกนะครับที่ทำไมกระบะ 1 บอดี้ 2 รุ่น ยอดขายกลับแตกต่างอย่างลิบลับ
ซึ่ง Isuzu D-Max รุ่นที่แล้วใช้บอดี้ร่วมกับ Chevrolet Colorado ซึ่งยอดขายในรุ่น Colorado อยู่รั้งท้าย แม้ D-Max รุ่นที่แล้วก็ขายดีมากๆเช่นกัน ซึ่ง D-Max รุ่นที่แล้วก็ขายดีแซง Hilux Vigo Champ ก็เช่นกัน
ทุกท่านคิดว่าทำไม Isuzu D-Max ถึงยอดขายดีกว่า Mazda BT-50 แม้ใช้บอดี้เดียวกัน
-
เป็นเป็ด ไม่มีอะไรเด่นซักอย่าง แถม DMAX ใหม่มันสวยนะ ไม่ได้ดูขี้เหล่เลยโฉมนี้
-
เพราะ DMAX สวยกว่ามาก
-
กลุ่มลูกค้าที่ใช้รถปิคอัพ คิดไม่เหมือนกับลูกค้าอีโค่คาร์ ในการเลือกรถ
เรื่องความสวย ไม่มีค่ามาตรฐาน แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน
แต่จำนวนศูนย์บริการ ความเชื่อมั่นในบริการหลังการขาย ราคาขายต่อ ค่าแรงศูนย์ ไม่มีข้อไหนที่มาสด้าจะมาต่อกรกับอีซูซุได้เลยครับ
-
เท่าที่ฟังจากกลุ่มคนเล่นกระบะ ที่อายุ40+ และซื้อปิคอัพใช้มา2คันขึ้นไป
1.สายกระบะไม่มองมาสด้าแต่แรกอยู่แล้ว
2.การเอาอีสุมาทำ ต้องมีอะไรที่จูงใจมากกว่านี้ ถึงจะดึงคนที่ไปจองอีสุ แล้วจัดแน้นซ์ไม่ผ่าน มาสนใจมาสด้าได้(ปี2021 ออกรถอีสุไม่ได้ยากอย่างยุค90แล้ว)
3.กการฟ้องลูกค้า เรื่องมันดังจนไปเข้าหูคนเล่นรถกระบะแล้ว และเขาไม่ชอบการถูกฟ้อง
4.พวกเขายังหาเหตุผลอะไรที่ไม่เลิกอีสุ แล้วไปเลือกมาสด้าแทนไม่ได้ ในเมื่อองค์ประกอบหลักคือ เครื่องเกียร์ แชสซีส์ มันเหมือนกัน
-
เดือนพฤษภาคม 2564 ยอดขายรถยนต์มาสด้ารวมทุกรุ่น อยู่ที่ 2,805 คัน
มาสด้า2 1,325 คัน
CX-30 668 คัน/
CX-3 383 คัน /
มาสด้า3 199 คัน/
บีที-50 เริ่มได้ทยอยส่งมอบให้ลูกค้ามากขึ้น หลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการจากไฟแนนซ์ ทำให้ส่งถึงมือลูกค้าแล้ว จำนวน 122 คัน
CX-8 56 คัน
MX-5 3 คัน/
CX-5 49 คัน ...อ้างอิงจาก car deb..
-
สำหรับผม มันสวยน่ะ สวยมาก
แต่ถ้าได้ช่วงล่าง การควบคุม การบังคับแบบดีแม็กซ์
ผมไม่ซื้ออ่ะ เพราะศูนย์บริการisuzu ดีที่สุดในไทย
ตอนร่วมมือกับฟอร์ด ecu ช่วงล่าง พวงมาลัย จูนเองหมด
แถมศูนย์บริการก็พอกัน มันเลยพอขายทะลุพันคันต่อเดือนได้
-
เอกลักษณ์หลายๆอย่างหายไปจากรุ่นที่แล้ว ทั้งๆที่น่าจะปรับแต่งได้ ช่วงล่าง การขับขี่ น่าจะแตกต่างกว่า d-max มากกว่านี้ อาจคงมีทำสัญญาอะไรบางอย่างไว้กับ isuzu เกินหน้าเกินตามากไม่ได้
อีกทั้งไม่มีรุ่นตกแต่งแบบค่ายอื่นๆ revo rocco , ranger wildtrak , navara pro4x เท่าที่ดู BT-50 งานออกแบบดูจืดมาก
-
ถามกลับได้มั๊ยครับ
ถ้าจะซื้อ ทำไมต้องมาสด้าครับ มีอะไรเด่นกว่า isuzuบ้าง
ที่วางแก้วก็ตัดออก
ขับดีกว่าเหรอ
สวยกว่าเหรอ
ถูกกว่าเหรอ ให้ของเยอะกว่าเหรอ
ศูนย์ดีกว่าเหรอ จำนวนเยอะกว่าเหรอ
อะไหล่ถูกกว่าเหรอ
เมื่อไม่มีอะไรเด่น ก็ไปอันที่ดีกว่า ขายต่อดีกว่า ศูนย์ไว้ใจได้มากกว่าโคตรเยอะ
-
สู้ อีซูซุ ไม่ได้สักอย่างเลยครับ
-
แล้วทำไมต้องจ่ายเงินbt 50ด้วยละ ทั้งๆที่มันก็เหมือนกับ d max ซื้อ d max เลยไม่ดีกว่าเหรอ อะไหล่ก็ถูกกว่า ศูนย์ก็ดีกว่า ราคาแรงก็ถูกกว่า ออฟชั่นต่างนิดหน่อย ราคาบางรุ่นแพงกว่า แต่บางรุ่นถูกกว่า
ยังหาเหตุผลให้ bt 50 น่าซื้อไม่เจอเลย นอกจากชอบหน้าตา bt 50 เป็นพิเศษ
-
กระบะเน้นใช้งานก็ dmax revo ดูแลง่าย อะไหล่ค่าซ่อมไม่แพง ขายต่อสบายใจ ถ้ากระบะหล่อๆก็ต้อง Ranger ส่วน Triton กับ np300 ยังไม่ได้โดดเด่นแบบ3รุ่นข้างต้นแต่ดูกลางๆ ส่วน bt50 ยังหาจุดเด่นอะไรไม่เจอเลย คหสต นะครับ
-
กลุ่มลูกค้า บีทีเดิมที่มาซื้อบีที คือไม่มองเจ้าตลาดอยู่แล้วครับ หรือแม้แต่ลูกค้าที่เป็นแฟนมาสด้าเก๋ง แต่อยากได้กระบะ ก็แทบจะไม่มองเจ้าตลาดอยู่แล้ว
ทีนี้ในเมื่อรถมันเหมือนอีซูซุทุกอย่าง ต่างแค่หน้าตา ทำไมต้องซื้อด้วย เพราะเหมือนขนาดนั้น ซื้อเจ้าตลาดไปเลยไม่จบกว่าหรอ
ผมเนี้ยใช้บีทีตัวก่อนอยู่ ไม่ค่อยชอบการขับขี่เดิมๆของอีซูซุ ถ้าได้มาก็ต้องไปทำช่วงล่างเพิ่ม ใจคืออยากขับเดิมๆ ได้ไปลองบีทีใหม่มาบอกเลยผิดหวังมาก
-
กลุ่มลูกค้า บีทีเดิมที่มาซื้อบีที คือไม่มองเจ้าตลาดอยู่แล้วครับ หรือแม้แต่ลูกค้าที่เป็นแฟนมาสด้าเก๋ง แต่อยากได้กระบะ ก็แทบจะไม่มองเจ้าตลาดอยู่แล้ว
ทีนี้ในเมื่อรถมันเหมือนอีซูซุทุกอย่าง ต่างแค่หน้าตา ทำไมต้องซื้อด้วย เพราะเหมือนขนาดนั้น ซื้อเจ้าตลาดไปเลยไม่จบกว่าหรอ
ผมเนี้ยใช้บีทีตัวก่อนอยู่ ไม่ค่อยชอบการขับขี่เดิมๆของอีซูซุ ถ้าได้มาก็ต้องไปทำช่วงล่างเพิ่ม ใจคืออยากขับเดิมๆ ได้ไปลองบีทีใหม่มาบอกเลยผิดหวังมาก
อันนี้จริง ผมก็มีกระบะมาสด้า 2เจนน่ะ แต่ตัวนี้ผมไม่ซื้อ รอดูเรนเจอร์ใหม่ดีกว่า
-
มันเฉยๆอะครับ ถ้าผมต้องซื้อรถกระบะ 4ประตูอีก ผมเลือกแค่ Navara, Ranger, Triton ไม่เคยมี
Bt50 อยู่ในlist ครับ Mazda ยุคนี้น่าสนใจเพราะ skyactive ซึ่งมันอยู่แต่ในรถเก๋งครับ
-
isuzu มันขายได้เพราะ
1. หน้าตาหล่อ
2. บริการหลังการขายดี อะไหล่ไม่แพง ค่าแรงถูก
3. ขายต่อได้ราคา
ถ้า Mazda มันเหมือน isuzu ทั้งหมด แต่ ...
1. หน้าตา แล้วแต่คนชอบ .. แต่ส่วนตัวผมมองว่า หน้าตาทรงนี้ เหมือนกันทุกรุ่นในค่าย มันก็เริ่มเบื่อนะ
2. บริการหลังการขาย ค่าแรงแพง / ฟ้องลูกค้า / เคลมยาก
3. ขายต่อ ติดตรา Mazda ไป ยังไงก็ขายต่อตก
ก็เลยยังหาเหตุผลไม่ได้ว่า ทำไมต้อง Mazda เพราะจริงๆ Mazda ขายคนชอบสมรรถนะ แต่อันนี้เหมือน isuzu ผมไปเล่น isuzu ดีกว่าไหม ? เคลมง่ายกว่า ขายต่อได้ราคากว่าด้วย
-
แค่ไฟท้ายอย่างเดียว ผมก็ บายละ
-
ถ้าเข้าใจไม่ผิดคือตัวถัง เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง เหมือนกันหมด
ต่างกันแค่ด้านหน้า ด้านหลัง และการออกแบบภายใน
พูดง่ายๆก็คือตัวรถก็เหมือนๆกัน ต่างกันแค่รูปลักษณ์
ถ้าเข้าใจไม่ผิด ศูนย์บริการ ความชำนาญของช่าง ราคาอะไหล่ ราคาค่าแรง และการเคลมยากง่าย
ก็น่าจะเหมือนๆกัน เพราะทั้งสองค่ายก็เป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นเหมือนกัน มีชื่อเสียงทีดีเหมือนกัน อยู่มาในไทยก็นานแล้ว
ถ้าเหมือนกันๆตามที่ผมเข้าใจข้างต้นแล้ว ที่ขายได้แตกต่างกันมากขนาดนี้
คงเป็นเพราะคนไทยชอบการออกแบบหรือรูปลักษณ์ของอีสุสุมากกว่าเท่านั้น
-
ถ้าวันนี้ผมจะซื้อกระบะมาใช้สักคัน
ผมคงเลือกกระบะที่มีระบบขับเคลื่อนเกือบดีที่สุด...
ผมจะไป Triton
เว้นเสียแต่ ถ้ามาสด้ายอมเปลี่ยนบั้นท้ายของ BT-50 ให้รับกับหน้าตาอันสวยงามแล้วล่ะก็
ผมคงเลือกมาสด้าโดยไม่แคร์อะไรเลย...
-
ผมคนนึงที่ชอบไม่เหมือนใคร
หน้าเป็นเก๋งแบบนี้ สวย
-
สงสัยกับหลายเม้นท์ที่บอกไฟท้ายไม่สวย มันก้เปลี่ยนจากสองก้อนในรุ่นก่อยเป็นก้อนเดียวแล้วนะ ก้โอเครรับได้อยุ่ แต่ผมคิดว่าที่คนไม่ค่ยชอบเป็นเพราะมันไม่ใช่ LED เหมือนเพื่อนๆรึเปล่าเพราะเขาเป็น LED กันหมดแล้วแต่บีทียังเปนหลอดธรรมดาอยุ่ :-\
-
ผมว่าหน้าตาสวยหล่อกว่าดีแมคนะ ดีแมคผมว่ามันไม่สวยเลย
แต่มันไม่ได้ขับดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน รุ่นก่อนฟีลเหมือนขับเก๋งทำคะแนนดีมาก รุ่นนี้เอาอีผุผุ มาทั้งดุ้นเลยด้อยกว่าเดิมมาก แถมรถรุ่นใหม่ที่เป็นกระบะควรจะยัดขับ4ฟูลไทม์มาได้แล้ว คนหลายๆคนเอาวิ่งทางดำเป็นส่วนใหญ่กัน
-
รถใช้ทำมาหากินกินครับ ต้องทนและศูนย์ต้องดูแลดีครับ ซึ่งตรีเพชรเข้าใจส่วนนี้ดี
ส่วนมาสด้าผมยังติดนิสัย treat มึนๆใส่ลูกค้ากลุ่มรถเก๋ง รถนั่งครับ คนส่วนใหญ่เลยมองว่าเอา D max ดีกว่าครับ โอกาสเกิดปัญหาและความคาดหวัง ไปในทางที่ดีกว่าครับ
-
มองย้อนไปใน ประวัติศาสตร์
Isuzu ก็เคยเอา Civic มาขาย เป็น Vertec
หรือ Honda ก็เอา Space Cab มาขายเป็น Tour Master
หรือ Chevrolet กะ Isuzu เพราะอยู่ชาคา GM ด้วยกัน
และ ทั้งหมด ล้มเหลว
ผมไม่รู้ว่า เค้าคิดอะไรกันอยู่ มันอาจจะมีเหตุผล มากกว่าที่เราเข้าใจ
แต่ มันไม่เคย Work ครับ
ยิ่ง Mazda พยายาม ทำอะไร ที่มันไม่ใช่ ตัวเอง แบบนั้น รอดยาก
ดู Isuzu ดิครับ ขายกะบะ PPV และ รถบรรทุก เล่นเกมส์ ของตัวเอง ในสนามที่ตัวเองถนัด
Mazda ผมว่า น่าจะมาแข่งกะ Honda หารถ เครื่องแรงๆ มาขาย เพราะ ช่วงล่าง วัสดุ ดีกว่าชาวบ้านเค้าอยู่แล้ว
-
สินค้าเหมือนกัน ต่างแค่หน้าตานิดหน่อย ราคาพอๆกัน มีเหตุผลอะไรที่ต้องเลือกแบรนด์รองครับ
ถ้า bt 50 เทียบรุ่นต่อรุ่น จัดออฟชั่นมามากกว่า dmax ในราคาที่ถูกกว่ารุ่นละ 4-5 หมื่น
รวมทั้งเซ็ตช่วงล่างการขับขี่ในสไตล์ mazda
ยอดขายมันจะไปได้มากกว่านี้ แต่ที่เป็นอยู่ปัจจุบันไม่ได้มีอะไรเด่นกว่า dmax เลยทั้ง สมรรถนะ ออฟชั่น ราคา ศูนย์บริการ
หรืออีกกรณีถ้ามาสด้าพัฒนาตัวถังภายนอกรวมทั้งช่วงล่างเองทั้งหมดให้มีความโดดเด่นในสไตล์ของตัวเอง
แล้วแก้จุดอ่อนเรื่องเครื่องดีเซลน้ำดันของตัวเอง ด้วยการจับมือกับอีซูซุแค่การสั่งเครื่องมาใส่แบบสมัย b2500 fighter ผมว่ายอดมันจะดีกว่านี้มากๆเลย
-
แค่เรื่องฟ้องลูกค้าเรื่องเดียวผมก็ไม่มีทางมองค่ายนี้อยู่แล้ว ยังมีหน้าดื้อดึงไปถึงฎีกาอีก
จากนี้ไปเป็นสิบเป็นร้อยปีก็จะถูกตราหน้าว่าฟ้องลูกค้า
-
สำหรับผมถ้าเป็นกระบะ มั่นใจในisuzuมากกว่ามากด้าครับ อีกอย่างคือ ถ้าพูดถึงมาสด้า ผมจะนึกถึงถ้าเข้าศูนย์าคาจะแพงๆกว่ารถญี่ปุ่นด้วยกันเองครับ
-
เรื่องหน้าตานั้นแล้วแต่ความชอบแต่ความต่างด้านสมรรถนะแทบไม่มี แล้วทำไมถึงจะต้องละทิ้งเรื่องความดีงามอันดับต้นๆเรื่องบริการหลังการขายของอีกเจ้าไปด้วยละครับ
-
ต้องถามว่า มีเหตุผลอะไรบ้างดีกว่าที่เราจะซื้อ BT-50 มากกว่า D-Max
น่าจะใช้พื้นที่การตอบน้อยกว่ามาก
เอาจริงเลยนะ ผมเป็นคนที่ชอบหน้า Kodo แบบนี้ (ไม่งั้นไม่ซื้อ 2 มาหรอก)
แต่ BT-50 ก็ยังรู้สึกว่าทำหน้ามาไม่สุด โดยเฉพาะกันชน ช่วงไฟซ้ายขวาและชายล่าง
คือพี่จะทำไฟต่ำและไม่เจาะช่องลมล่างมาให้ดูดีกว่านี้หน่อยหรือ
อ่ะพอข้ามเรื่องดีไซน์ไปคุณสมบัติรถ อ่าวไม่ต่างกัน
ราคาออกไปทางค่อนถูกค่อนแพงสลับไปด้วย
จ่ายราคาพอกัน อ่าใช่ตัวล่างได้ของเยอะกว่า
แต่ก็เป็นของที่ไม่ได้เกิน D-Max รุ่นบนและเป็นของที่คนซื้อกระบะให้ความสำคัญน้อยมาก
พอตัวท็อป แทบไม่ต่างกันเลย
ช่วงล่าง อ่าวไม่ได้ต่างแบบที่สาวกเค้าเชื่อมั่นเลยนี่หว่า
ยิ่งพอมาเจอบริการหลังการขาย เราจะซื้อรถในราคาเท่ากันแต่ได้ศูนย์ห่วยกว่า เคลมจากกว่า ค่าแรงแพงกว่า ไปทำไม?
-
คนอย่างผมถ้ารู้ว่าเอายี่ห้ออื่นมาแปะตราขายจะไม่มีวันซื้อเด็ดขาด
-
ถ้าเข้าใจไม่ผิดคือตัวถัง เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง เหมือนกันหมด
ต่างกันแค่ด้านหน้า ด้านหลัง และการออกแบบภายใน
พูดง่ายๆก็คือตัวรถก็เหมือนๆกัน ต่างกันแค่รูปลักษณ์
ถ้าเข้าใจไม่ผิด ศูนย์บริการ ความชำนาญของช่าง ราคาอะไหล่ ราคาค่าแรง และการเคลมยากง่าย
ก็น่าจะเหมือนๆกัน เพราะทั้งสองค่ายก็เป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นเหมือนกัน มีชื่อเสียงทีดีเหมือนกัน อยู่มาในไทยก็นานแล้ว
ถ้าเหมือนกันๆตามที่ผมเข้าใจข้างต้นแล้ว ที่ขายได้แตกต่างกันมากขนาดนี้
คงเป็นเพราะคนไทยชอบการออกแบบหรือรูปลักษณ์ของอีสุสุมากกว่าเท่านั้น
เรื่องศูนย์ต่างกันเยอะครับ งานเครมมาสด้ายากกว่าอีซูซุเป็นไหนๆเลย ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นข้อหลักเลยที่คนซื้อกระบะจะไม่เอา
-
ส่วนตัวผม ชอบอะไรที่ original มากกว่าครับ นอกจากว่า ตัวที่มาทำต่อมันดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในกรณีนี้ ไม่ใช่ครับ
-
มันดูออกตั้งแต่ให้ isuzu ทำให้ทั้งคันแล้วครับ ว่ามาสด้าไม่เอายอดขายในไทยแล้ว
แถมเปิดตัวในออสก่อนเกือบปี ถึงจะขายไทย คือ กะส่งออก ไม่สนตลาดในประเทศแล้ว(คิดว่าในออสไม่มีเคสฟ้องลูกค้า แบรนด์ยังแข็งพอกับเจ้าอื่นๆ555)
ผมว่าเขาคิดถูกนะ กระบะรุ่นนึงอยู่ยาว ค่าวิจัยสูงมาก ค่ายที่ขายไม่เยอะ ทุนไม่หนาอย่างมาสด้า ถ้าทำเองเจ้าเดียวเจ๊งแน่นอน แค่เครื่องจะทำสู้เขาได้รึเปล่า เอา skyD มาลงกระบะ เดี๋ยวก็ปวดหัวอีก ใครเขาจะเชื่อมั่น....
แต่ถ้าทิ้งตลาดออสหรืออื่นๆทั่วโลกไปเลย ก็น่าเสียดายมาก สุดท้ายออกมาแบบนี้ ก็รับยอดขายแบบนี้ไป ผมว่าเขาก็ไม่เจ็บตัวนะ จ้างคนอื่นทำหมดแต่ขายได้เดือนละร้อยคัน
-
คิดว่าหลายๆอย่างมันเหมือนIsuzu พอเปรียบเทียบกันเองมันชัดเจนว่ามาสด้าไม่มีอะไรเด่นกว่าเลย
-
ลูกค้าส่วนใหญ่ เขาไม่ซื้อ ปิคอัพ Mazda อยู่แล้ว
1. ขายต่อราคาตกกว่า เพราะตลาดไม่นิยม
2. อะไหล่ และค่าบริการแพงกว่า ISUZU แน่นอน
3. เคลมยากกว่า เวลาเกิดปัญหาอะไร คุณว่า Mazda จะเปลี่ยนรถให้ง่าย ๆ เหรอ ตรงกันข้ามกับ ISUZU การดูแลลูกค้าต่างกันมาก
4. ตัวรถอาจไม่สวย ไม่ถูกจริตคนไทย อ็อพชั่นก็ไม่เกินหน้าตา ISUZU จะขายดีกว่าได้ยังไง
ผมคนนึงไม่ซื้อ
-
รถมันเหมือนกันหมด ต่างกันที่ศูนย์
เป็นผมก็คงเลือกที่ศูนย์มันดีกว่า
-
กลุ่มลูกค้าที่ใช้รถปิคอัพ คิดไม่เหมือนกับลูกค้าอีโค่คาร์ ในการเลือกรถ
เรื่องความสวย ไม่มีค่ามาตรฐาน แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน
แต่จำนวนศูนย์บริการ ความเชื่อมั่นในบริการหลังการขาย ราคาขายต่อ ค่าแรงศูนย์ ไม่มีข้อไหนที่มาสด้าจะมาต่อกรกับอีซูซุได้เลยครับ
เห็นด้วยครับ
-
1. เครื่องเหมือนกัน เกียร์เหมือนกัน ราคาพอๆกัน
2. ดีไซน์ไม่ถูกจริต
3. ขาดความเป็นตัวเอง
-
ความคุ้นเคยของแบรนด์ กรณีเดียวกับกระบะฮอนด้า, โอเปิ้ลสมัยก่อน ที่ใช้รถตัวเดียวกับอีซูซุเลย ซึ่งคุณภาพไม่หนีกันแน่ๆ แต่ขายไม่ดีเพราะคนไม่คุ้นเคยกระบะแบรนด์ที่มีแต่รถเก๋ง
กลับกัน ในอดีตอีซูซุเคยเอารถเก๋งเข้ามาขาย ทั้งตัว Gemini และ Vertex (ถ้าจำชื่อผิดขออภัย) ผลคือไม่รุ่งเลย แม้ว่า Vertex จะเป็นฮอนด้ามาแปะตราอีซูซุก็ตาม เพราะคนไม่คุ้นเคยกับรถเก๋งยี่ห้ออีซูซุ
ซึ่งกรณีกระบะมาสด้า ถ้าจะเอาดีในตลาดกระบะ ก็ต้องคงคอนเซ็ปต์ตัว BT50 รุ่นก่อนหน้าไว้ ก็คือต้องฉีกแนวกระบะเจ้าตลาดไปเลย แบบฟอร์ดรุ่นใหม่ๆ เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกระบะไว้ใช้ท่องเที่ยวมากกว่าที่จะใช้ทำงาน ซึ่งในความเป็นจริงคงทำแบบนั้นไม่ได้ง่ายๆด้วยปัจจัยต่างๆ
-
หน้าตาแบบนี้มันไม่น่าจะอยู่ในกระบะ มันอาจจะสวยบางรุ่นแต่ไม่ใช่จะจับใส่มันทุกรุ่นแล้วคนจะชอบ
เครื่อง เกียร์เหมือนกัน ไปซื้อเจ้ายอดนิยมน่าจะดีกว่า ค่าแรงก็ถูกกว่า
เรื่องยี่ห้อ ตอนนี้ก็น่าจะมีผลนิดๆความน่าเชื่อถือลดลง
แถมตอนนี้ก็ไม่ค่อยโฆษณารุ่นนี้อีก จนบางทีลีมไปว่ามันออกรุ่นใหม่มาแล้วบนถนนยังไม่เคยเห็นเลยสักคัน
-
กลับมาอ่านดูอีกครั้งเลยสงสัยว่า...
- ค่าแรงสองยี่ห้อนี้มันต่างกันมากเลยเหรอครับ
- เคลมยากง่ายต่างกันมากมายเลยเหรอครับ
- ค่าอะไหล่พาร์ทเดียวกัน แต่ราคาไม่เท่ากันเหรอครับ
ช่วยคลายสงสัยทีครับ
-
กลับมาอ่านดูอีกครั้งเลยสงสัยว่า...
- ค่าแรงสองยี่ห้อนี้มันต่างกันมากเลยเหรอครับ
- เคลมยากง่ายต่างกันมากมายเลยเหรอครับ
- ค่าอะไหล่พาร์ทเดียวกัน แต่ราคาไม่เท่ากันเหรอครับ
ช่วยคลายสงสัยทีครับ
ค่าแรง ถ้าใช้เรทของมาสด้าเก๋ง แพงกว่าอีสุ
เคลม ถ้าดูจากคำชม คำด่า ของ 2 แบรนด์นี้ในภาพรวม ต่างชัดเจนครับ อีสุดีกว่าเยอะ
ค่าอะไหล่ คงต้องดูกันอีกพักนึง เพราะรถขายน้อย อยู่ในวารันตี คงหาคนใช้จริงมาตอบยาก แต่คงเป็นไปได้ยากที่มาสด้าจะถูกกว่าครับ
-
กลับมาอ่านดูอีกครั้งเลยสงสัยว่า...
- ค่าแรงสองยี่ห้อนี้มันต่างกันมากเลยเหรอครับ
- เคลมยากง่ายต่างกันมากมายเลยเหรอครับ
- ค่าอะไหล่พาร์ทเดียวกัน แต่ราคาไม่เท่ากันเหรอครับ
ช่วยคลายสงสัยทีครับ
เรื่องค่าแรงกับอะไหล่คงต้องเอาตารางมากางเทียบกันครับ อาจจะไม่ได้หนีกันหรือเท่าๆกัน
แต่การรับผิดชอบ ดูแลเคสที่มีปัญหา อีซูซุกับมาสด้าต่างกันเยอะครับ ยิ่งมาเคสที่ฟ้องลูกค้าไป ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือตกไปเยอะ
และรถกระบะก็ไม่ใช่ใช่รถหลักของมาสด้า ความชำนาญของช่างที่มีกับตัวรถมีความต่างกันอยู่แล้วครับ
ดีแม็กมีปัญหาประจำรุ่นอยู่คือเรื่องแกนพวงมาลัยดัง มีหลุดมาบ้าง ทุกเคสก็เครมได้หมด เครมไวด้วย ถ้าเคสนี้เกิดกับมาสด้าคนก็ตั้งจ้อสงสัยเผื่อแล้วครับว่าจะเครมได้ง่ายเหมือนอีซูซุหรือไม่
โดยรวมกบุ่มคนซื้อกระบะ ส่วนใหญ่ของประเทศให้ความสำคัญกับศูนย์บริการเป็นอันดับต้นๆครับ
ส่วนกบุ่มที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ ก็คงไม่มองรถแบรนด์รองที่ขับเหมือนเจ้าตลาดแน่ๆครับ ฟอร์ดเลยยังยืนเป็นอันดับ 3 ในตลาดได้ในบ้านเรา
-
กลับมาอ่านดูอีกครั้งเลยสงสัยว่า...
- ค่าแรงสองยี่ห้อนี้มันต่างกันมากเลยเหรอครับ
- เคลมยากง่ายต่างกันมากมายเลยเหรอครับ
- ค่าอะไหล่พาร์ทเดียวกัน แต่ราคาไม่เท่ากันเหรอครับ
ช่วยคลายสงสัยทีครับ
- เพิ่งเอารถเข้าศูนย์ เป็นรถ Dmax 1.9L 4 ประตู เกียร์ออโต้
เช็คระยะ 120,000 กิโลเมตร + เปลี่ยนถ่ายของเหลวมา
(น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ออโต้
น้ำมันเบรค น้ำหล่อเย็น กรองเครื่อง กรองอากาศ กรองเชื้อเพลิง )
ค่าแรงทั้งหมด 1,955.10 บาท ได้ลด 20% ลูกค้าเก่า จ่ายค่าแรงรวม 1564.08
ค่าอะไหล่ทั้งหมด 5,902 บาท ได้ลด 20%(บางรายการ) จ่ายค่าอะไหล่รวม 5509.20
รวมจ่าย 7,073.28 บาท
ของมาสด้า ไม่รู้เช่นกัน แต่ได้ยินมาว่าค่าแรงแพง
- เคลมได้ปกติ ถ้าช่างรู้ว่าเกิดจากชิ้นส่วนไหนหรือถ้าเป็นปัญหาประจำรุ่น เปลี่ยนให้ฟรี
- ค่าอะไหล่พาร์ทเดียวกัน ควรจะราคาเท่ากัน นอกจากว่าทางศูนย์จะไปเพิ่มราคาเอาเอง
ปล. แนบไฟล์รูปใบเสร็จไม่ได้
-
ถ้าถามผมที่เคยใช้มาสด้า ราคาอะไหล่แพงและบริการห่วยมากครับ
ค่าแรงก็แพงทำให้ลาขาดเลยครับมาสด้า ไม่แนะนำให้ญาติหรือคนรู้จักซื้อด้วยครับ
-
กลุ่มลูกค้า บีทีเดิมที่มาซื้อบีที คือไม่มองเจ้าตลาดอยู่แล้วครับ หรือแม้แต่ลูกค้าที่เป็นแฟนมาสด้าเก๋ง แต่อยากได้กระบะ ก็แทบจะไม่มองเจ้าตลาดอยู่แล้ว
ทีนี้ในเมื่อรถมันเหมือนอีซูซุทุกอย่าง ต่างแค่หน้าตา ทำไมต้องซื้อด้วย เพราะเหมือนขนาดนั้น ซื้อเจ้าตลาดไปเลยไม่จบกว่าหรอ
ผมเนี้ยใช้บีทีตัวก่อนอยู่ ไม่ค่อยชอบการขับขี่เดิมๆของอีซูซุ ถ้าได้มาก็ต้องไปทำช่วงล่างเพิ่ม ใจคืออยากขับเดิมๆ ได้ไปลองบีทีใหม่มาบอกเลยผิดหวังมาก
อันนี้จริง ผมก็มีกระบะมาสด้า 2เจนน่ะ แต่ตัวนี้ผมไม่ซื้อ รอดูเรนเจอร์ใหม่ดีกว่า
จิงด้วยครับ สมัยทำกับฟอร์ดยังขายได้ดี และดูแตกต่าง
-
เพราะ
1. D-Max คือ Isuzu แค่นี้ก็ทำให้ส่วนใหญ่ เลือก D-Max แล้ว
2. ยิ่งพอเป็นร่างเดียวกัน แฝดคนละฝา แล้ว BT-50 มีอะไรดีกว่า D-Max บ้าง
3. ราคาขายต่อ ยังไง Isuzu ก็กินขาด
4. สายหมอบ สายควัน สายหลังถนน สายแว๊น ยังไงก็เลือก D-Max
5. หน้าตา รูปร่าง หน้าตา D-Max ไม่ใช่ เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้ ผมว่า หน้าตา ความสวยงาม ก็ต้นๆ หัวตารางแล้ว จะมองว่า BT-50 สวยหรือ สำหรับผม ไม่เลย เห่ยกว่า D-Max ทั้งหน้า ทั้งท้าย เลยก็ว่าได้ ใครจะชอบกระบะหน้าสกายแอคทีฟ หน้าซูมซูม สำหรับผมไม่
6. ตรงไหนคือ จุดขายของ BT-50 เหรอ หาไม่เจอเลยจริงๆ เพราะ สายซิ่งสายโหลดสายหมอบต้อง D-Max สายตู้ทึบสายคอกต้อง Revo สายออฟโรดต้อง Ranger แล้ว BT-50 ?
-
กลับมาอ่านดูอีกครั้งเลยสงสัยว่า...
- ค่าแรงสองยี่ห้อนี้มันต่างกันมากเลยเหรอครับ
- เคลมยากง่ายต่างกันมากมายเลยเหรอครับ
- ค่าอะไหล่พาร์ทเดียวกัน แต่ราคาไม่เท่ากันเหรอครับ
ช่วยคลายสงสัยทีครับ
เคยมีทั้งสองยี่ห้อนะ แต่ต่างกรรมต่างวาระ
- ตอบยากครับ มาสด้าค่าแรงต่อ ชม. หนักจริง แต่ไม่ลากงาน ถ้าเทียบสมัยใช้ Jazz กับ 2 ไปๆมาๆ ค่าเช็คระยะต่อรอบ ไม่หนีกันมากซะงั้น ฮอนด้าถูกกว่าหลักร้อย
- อีสุเครมง่ายครับ น้องผมเครม mu7 เครื่องทั้งตัวก็เครมมาแล้ว มาสด้าเหรอ...หึหึ แต่เคส BT50 ตัวนี้อาจจะใช้เกณฑ์เดียวกันไม่ได้ เพราะถ้าพัง มาสด้าอาจจะไปเครมอืสุอีกที(รึเปล่า เพราะจ้าอีสุทำ) ... อาจจะเป็นเคสแรกที่มาสด้าเครมง่าย 5555
- รถพึ่งออก ไม่รู้ครับ น่าจะเรทเดียวกัน ยกเว้นพาร์ทตัวถังกับภายในที่แตกต่างกัน ซึ่งมาสด้าไม่น่าจะถูกกว่าอีสุ
-
กลับมาอ่านดูอีกครั้งเลยสงสัยว่า...
- ค่าแรงสองยี่ห้อนี้มันต่างกันมากเลยเหรอครับ
- เคลมยากง่ายต่างกันมากมายเลยเหรอครับ
- ค่าอะไหล่พาร์ทเดียวกัน แต่ราคาไม่เท่ากันเหรอครับ
ช่วยคลายสงสัยทีครับ
- ค่าแรงไม่รู้ว่าของ Isuzu ตกเป็น ชม. เท่าไหร่ แต่ฟรีถึง 50,000 km
ในขณะที่ Mazda ตก ชม. เฉลี่ย 750 บาทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ตจว เฉลี่ย 600 บาท ฟรีถึง 30,000 km
- ญาติเคยใช้ D-Max รุ่นแรก ในประกันแทบจะไม่มีอะไรเสีย หมดประกันศูนย์เจอวาล์วอะไรซักอย่างใกล้เสีย ศูนย์บอกเคลมให้เลยเพราะเห็นว่ายังเข้าศูนย์อยู่ ไม่อิดอออดไม่ต้องรอใดๆ
ในขณะที่ 2 ผมอาการเสียที่ศูนย์เคยมีคนเคลมแล้วก็เคลมได้ แต่อะไรที่ศูนย์ไม่เคยเจอต้องทำเรื่องส่งเคลม บ แม่ต่อไปอีกรออีก และหมดประกันไม่ต้องพูดถึง
-
ความใส่ใจครับ รุ่นนี้มาสด้าเขาไม่ได้ใส่ใจเท่ารุ่นที่แล้ว เหมือนแค่ทำมาให้ชื่อ BT-50 มันยังไม่หายไปจากตลาด
ดูได้จากการที่แทบไม่ได้แตะอะไรเกี่ยวกับด้านวิศวกรรมของตัวรถเลย แถมโฆษณาอะไรก็ไม่โหมโปรโมทเหมือนทางฝั่งรถเก๋งเลย
แต่ผมคิดว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เจ็บตัวจากรถรุ่นนี้เท่าไร เนื่องจากแทยไม่ต้องออกแรง ออกเงินพัฒนาอะไรเลย
-
ถามกลับได้มั๊ยครับ
ถ้าจะซื้อ ทำไมต้องมาสด้าครับ มีอะไรเด่นกว่า isuzuบ้าง
ที่วางแก้วก็ตัดออก
ขับดีกว่าเหรอ
สวยกว่าเหรอ
ถูกกว่าเหรอ ให้ของเยอะกว่าเหรอ
ศูนย์ดีกว่าเหรอ จำนวนเยอะกว่าเหรอ
อะไหล่ถูกกว่าเหรอ
เมื่อไม่มีอะไรเด่น ก็ไปอันที่ดีกว่า ขายต่อดีกว่า ศูนย์ไว้ใจได้มากกว่าโคตรเยอะ
ใช่เลยครับ
การร่วมแชร์กับเจ้าตลาดเบอร์ 1 ที่คิดเผินๆ ว่าจะดี แต่กลับกัน ที่ผมคิดไว้ก่อนวางขายคือ มันเป็นจุดตายสนิท เมื่อเทียบกัน
-
มันจะกลายเป็นอีกรุ่นที่แป๊กสนิดของมาสด้า ;D
-
มันจะกลายเป็นอีกรุ่นที่แป๊กสนิดของมาสด้า ;D
ผมไม่รู้ว่ามันเปิดตัวมาเมื่อไหร่ หรือเริ่มส่งมอบรถกันรึยังน่ะครับ
แต่ผมเห็นวิ่งบนถนนครั้งเดียวจริงๆ จำได้เลย 4 ประตู สีเทา ;)
-
ซื้อ D-Max ก็ได้บริการแบบอีซูซุ
ซื้อ BT-50 ก็ได้บริการแบบมาสด้า ครับ
-
ซื้อ D-Max ก็ได้บริการแบบอีซูซุ
ซื้อ BT-50 ก็ได้บริการแบบมาสด้า ครับ
8) เห็นด้วยครับ