Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: upandaway94 ที่ มิถุนายน 08, 2021, 11:02:44
-
เท่าที่สังเกตจากยอดขายในช่วงที่ผ่านมา
พอจะเห็นความต้องการของคนไทยส่วนมากที่ซื้อรถญี่ปุ่น คือ
1. รถใหญ่
หรือ
2. เครื่องแรง
(ซึ่ง Honda ดูจะตอบโจทย์ทั้งสองข้อนี้มากที่สุด ยอดขายจึงเป็นตามนั้น)
ทีนี้ผมสงสัยว่าทำไมจึงดูแล้วเป็นไปตามข้อ 1 และ 2 ครับ จริงๆพอมีความเห็นอยู่บ้างแต่อยากให้พี่ๆสมาชิกลองแชร์ความเห็นกันครับ
-
ราคาเอื้อมถึง ทนทาน อะไหล่ไม่แพง ขายต่อง่าย
-
ขับแล้วไม่มีปัญหา, ความปลอดภัย (ตัวถัง, ถุงลม,ระบบช่วย adaptive cc ฯลฯ), ประหยัดน้ำมัน
เรื่องแรงผมไม่ค่อยสน ทุกวันนี้ยังขับ 90-110 ขับยังไงก็ได้ให้มันประหยัดน้ำมัน 555
-
1. แบรนด์ และ จะมาพร้อมศูนย์บริการ และ บริการหลังการขาย แบรนด์ไหนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
2. รูปร่าง หน้าตา ของ seg นั้น กับคนที่ซื้อ แต่ก็ต้องอ้างอิงจากข้อ 2. เพราะสวยแต่รูป จูบไม่หอม ก็ตายไปเองก็เยอะ
3. ออฟชั่น ราคา แต่ก็ต้องอ้างอิงจากข้อ 1.
4. ราคาขายต่อ น่าจะเป็นข้อสุดท้าย ที่คนจะสนใจ เพราะ ต้องการซื้อรถใช้งาน อยากได้ใช้รถ ตอนที่อยากใช้ มากกว่า ไม่ได้สนใจตอนจะขายมากนัก(แต่ก็ไม่ไดทิ้ง)
เท่าที่สังเกตจากยอดขายในช่วงที่ผ่านมา
พอจะเห็นความต้องการของคนไทยส่วนมากที่ซื้อรถญี่ปุ่น คือ
1. รถใหญ่
หรือ
2. เครื่องแรง
(ซึ่ง Honda ดูจะตอบโจทย์ทั้งสองข้อนี้มากที่สุด ยอดขายจึงเป็นตามนั้น)
ทีนี้ผมสงสัยว่าทำไมจึงดูแล้วเป็นไปตามข้อ 1 และ 2 ครับ จริงๆพอมีความเห็นอยู่บ้างแต่อยากให้พี่ๆสมาชิกลองแชร์ความเห็นกันครับ
ดูอย่าง CX-5 2.5T เครื่องแรง ขายดีไหมครับ ผมว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะเครือ่งยนต์มันก็ตามยุคตามสมัย ผมว่า HONDA ไม่ได้แรงขนาดที่ทุกคนที่ซื้อรถญี่ปุ่นต้องการ เพราะคนซื้อ 1.8 ก็แรงน้อยกว่า ก็มี ปัจจัยมันหลายๆ ข้อ และ หนึ่งในนั้น คือ ราคา
เช่นเดียวกับความใหญ่โต ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด ถ้าใหญ่แล้วไม่มีอะไรน่าสนใจ คนก็ไม่ซื้ออยู่ดี
-
ไม่ใช่แรง ไม่ใช่ใหญ่
แต่เป็น Reliability คับ
จะใช้งานแล้วต้องสตาร์ทติด ไม่มีไฟเตือน ไม่มีรวน ไม่มีสตาร์ทไม่ได้กลางทาง ในช่วง 5-7 ปีแรก แค่นี้แหละคับที่ผมต้องการ
-
ไม่มีเงินซื้อ+ซ่อมรถยุโรปครับ 555
รถญี่ปุ่นราคาถูกกว่า เข้าถึงได้ง่ายกว่าครับ
-
เพราะอะไหล่รถญี่ปุ่นหาง่าย บำรุงรักษาง่าย โดยเฉพาะ Toyota ครับ
-
ไม่ใช่แรง ไม่ใช่ใหญ่
แต่เป็น Reliability คับ
จะใช้งานแล้วต้องสตาร์ทติด ไม่มีไฟเตือน ไม่มีรวน ไม่มีสตาร์ทไม่ได้กลางทาง ในช่วง 5-7 ปีแรก แค่นี้แหละคับที่ผมต้องการ
ใช่ฮะ ผมเคยถามเพื่อนที่อยู่เมกาเหมือนกัน ตอนนั้นเค้ามาทำงานที่ไทย เค้าบอกว่า เค้าชอบใช้รถเก่านะ ถึงเป็นเทคโนโลยีเก่าในรถ แต่ที่เค้าเลือกเพราะเป็นเรื่อง reliability ครับ
-
เมืองไทยคือแบรนด์เลยครับ ง่ายๆสั้นๆ เพราะ Honda เมืองนอกไม่ได้ขายดีเลยครับ เขาถึงต้องรีบออก Civic gen11มา
นอกจากนี้ตัวรถต้องดูใหญ่โต เพราะถ้าแบรนด์ดีแค่ไหน แต่ตัวรถดูเล็กลง ก็ขายไม่ดีเท่าไร ดูจากยอด Altis ใหม่ได้
-
ส่วนตัวผมมองเรื่องความทนทาน ศูนย์บริการ เป็นประเด็นหลักครับ แบรนด์ญี่ปุ่นหลักๆ จะใช้แค่ Honda, Toyota-Lexus ครับ
-
ถ้าไปดูสถิติรถจดทะเบียนใหม่ทุกปีของกรมขนส่ง กลุ่มรถไม่เกิน 4 ล้อเกือบๆ 50% จะเป็นรถกระบะคับ
ผมเลยสรุปง่ายๆว่า รถที่ถูกใจคนไทยในวงกว้างคือกลุ่มรถกระบะ (และคงรวม SUV พื้นฐานกระบะไปด้วย)
ความเห็นส่วนตัวผมถ้าจะซื้อรถแบรนด์ญี่ปุ่น พื้นฐานเลยคือดูแลรักษาง่าย ทนทาน ราคาไม่แพง
เรื่องต่อมาคือการใช้งาน เน้นขับดีขับสบาย รูปแบบตัวรถและ character ตรงกับที่ต้องการคับ
-
ผมคนไทยส่วนน้อยครับ
ซื้อรถที่ถูกใจก่อน 5555 ... พอดีมีรถสำรอง จบ
ตอนซื้อ GD ข่าว CVT พังว่อนเน็ต ..ก็ซื้อ
ตอนซื้อ 2 ข่าว skyD ใน cx5พังว่อน ... ก็ซื้อ
โรคจิตชัดๆ
-
อะไหล่ ค่าแรง ระบบการบริการ ในไทยมันเหมาะกัยคนไทยมากครับ
ยิ่งรถประกอบใรประเทศ มันเป็น มิตร ต่อ คนทุกชนชั้น ที่ไม่รวย ครับ
แต่ก็ มี ญี่ปุ่น บางค่าย ที่ ทำราคาอะไหล่แบบ รถยุโรษ ก็ สมน้ำหน้าครับ ขายไม่ดี
-
ความจริงก็อยากได้รถยุโรปนะแต่ไม่มีเงิน (หมายเหตุ : ผมไม่ได้ใช้ Honda นะ)
-
ถ้าพูดรวมๆคนไทยก็น่าจะแบบที่หลายๆท่านว่ามา
แต่ถ้าส่วนตัวผมชอบมุมมองของการมองรถเป็นค่ายๆไปมากกว่า
เหมือนรถญี่ปุ่นอย่างโตต้า จะมองว่ารถก็คือรถที่รับใช้เราพาเราไปจนกว่ามันจะสิ้นลม
ส่วนพวกรถนอกหลายๆค่ายมองว่า รถคืออุปกรณ์อย่างนึง ถ้ามันมีปัญหาสักนิดก็อย่าวิ่งเลยเดี๋ยวไม่ปลอดภัย
ซึ่งเท่าที่ผ่านมาความต่างตรงนี้ทำให้ไม่อยากไปรถนอกเท่าไหร่
รถญี่ปุ่นผมมีคันนึงหละ กว่าจะได้ขึ้นยานแม่ก็อายุ 25 ปีแล้ว
ส่วนฟอร์จูนเนอร์ผม ทั้งฮีท ทั้งเหลือสูบเดียว มันยังพาตัวเองไปอู่ได้เลย แข็งแกร่งมาก
ค่ายฮอน ค่ายอิ ก็ยังไม่เคยขึ้นยานแม่สักครั้งครับ
ประมาณว่าที่ผมเห็นเหมือนรถนอกสำออยกว่า เป็นอะไรนิดอะไรหน่อยขึ้นยานแม่ดีกว่า ฮา
-
ตัวเลือกน้อยครับ ไม่มีสิทธิเลือก
-
ผมมองว่าพื้นฐานที่คนซื้อรถญี่ปุ่นมากกว่าชาติอื่น คือความไว้ใจได้ ครับ
ความไว้ใจได้ ไม่ได้หมายถึงความทนทานนะ
ความไว้ใจได้ มันครอบคลุมไปหมดเลยนะ
ไว้ใจในประสิทธิภาพ
ไว้ใจในคุณภาพ
ไว้ใจในอุปกรณ์ฟังก์ชั่นการทำงาน
ไว้ใจในด้านการโดยสาร/ด้านการขับขี่
ฯลฯ
ที่ผ่านมาคนไทยเปิดใจชาติอื่นมาเยอะมากครับ
แต่นั่นก็เพราะแบรนด์ชาติเหล่านั้นทำตัวเองไม่ใช่หรอ ถึงได้ล้มหายตายจากไป
-
รถบ้านเรามันแพงครับ ยิ่งเอามาเทียบกับรายได้เฉลี่ยยิ่งแพงง คนก้อเลยขอแบบคุ้มๆ ทนๆ ซ่อมไม่แพงไว้ก่อน
-
เครื่องแรงไม่น่าเกี่ยวนะครับ zs อืดเป็นเรือเกลือเลยขายดีซะงั้น
กลุ่มคนซื้อน่าจะมี 3 กลุ่มใหญ่ๆ
1. ซื้อรถที่ไม่มีปัญหาจุกจิก ก็จะกลายเป็นลูกค้า toyota honda
2. ซื้อรถที่อ็อปชั่นเยอะแน่นๆ ก็จะกลายเป็นลูค้า mg ไป
3. มีความอินดี้
-
หลักๆก็ ความไว้วางใจ ซึ่งหมายรวมถึง
- ไว้วางใจ ต่อคุณภาพตัวรถ ทนทาน ไม่จุกจิก
- ไว้วางใจ ต่องานบริการหลังการขาย แก้ปัญหาจบ เคลมง่าย
- ไว้วางใจ ต่อราคาอะไหล่ ไม่สูงจนเกินไป หาข้างนอกไม่ยากนัก
หันไปดูค่ายอื่น ที่ราคาไม่หนีญี่ปุ่น
Ford ... Fiesta / Focus ทำเจ็บแค่ไหน เกียร์เทพพัง กลอนประตู และอีกหลายๆอย่าง แถมศูนย์บริการสุดสะพรึง
Chevrolet ... Sonic / Cruze พังกระจาย อยู่ดีๆนึกอยากเลิก ก็ขายโรงงานทิ้งเลย
Volk / Seat / Skoda ... อันนี้ มาจากตัวแทนจำหน่ายในยุคนั้น เป็นหลักเลย
Peugeot ... ตัวแทนเก่า ทำไว้เจ็บ ตัวแทนใหม่ ผลุบๆโผล่ๆ ง้างจะเปิดตัวรุ่นใหม่มาเป็นปีละ แล้วก็เงียบ ลากขาย 2 model ไปยาวๆ ความเชื่อมั่นก็หาย ขายได้แต่แฟน หรือ คนชอบของแปลก
Hyundai ... นี่ก็ตัวแทนเก่าทำไว้แสบ มาตัวแทนใหม่ ราคาตั้งไว้สูงเกิน การตลาดไม่ดี สุดท้ายพับไป ขายได้แต่ รถตู้ เพราะมันไม่มีคู่แข่งในตลาด (ณ ตอนนั้น นะ)
............
สุดท้าย บ้านเราส่วนใหญ่ จะเป็นความเชื่อที่บอกต่อ หรือ ฝังใจมา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
มีรถคันแรก ไว้ขนของ ก็กระบะ isuzu / toyota ใช้มันทำมาหากิน ขนของ รับจ้าง ไม่มีจุกจิก ไม่มีงอแง จนวันนึง กิจการก้าวหน้า ออก 4 ประตู ก็เลือกยี่ห้อเดิม เพราะมันทนทานดี จนร่ำรวย ก็ออก Fortuner / Mu-X ด้วยเหตุผลเดิม มีลูกสาว ก็ออก vios ให้ ก็พ่อใช้ Toyota มาทั้งชีวิต มันไม่งอแง
แค่นี้แหละ ขายได้ยาวๆ ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายครับ
ถึงได้ตลกกับความคิด ผู้บริหารบางค่าย ที่บอกว่า กระบะตอนเดียว มันรถคนงาน ยัดๆอะไรไปก็ได้ พังก็เข้ามาเคลม ไม่ต้องสนใจอะไรมันมากหรอก .. ก็จริง เค้าเลยพัง จนทุกวันนี้ไง ไม่มีใครซื้อ
-
ผมนะ
1. สวยหรือเอาไปแต่งแล้วสวย
2. แรง
3. ทนพอสมควร
ยี่ห้ออะไร ก้ต้องดูเป็นรุ่นๆไป บางคันออกมาไม่สวย ไม่น่าใช้แต่พอแต่งไปแล้วปรับหลายๆอย่างแล้ว โคดน่าขับเลยครับ
-
เมืองไทยคือแบรนด์เลยครับ ง่ายๆสั้นๆ เพราะ Honda เมืองนอกไม่ได้ขายดีเลยครับ เขาถึงต้องรีบออก Civic gen11มา
นอกจากนี้ตัวรถต้องดูใหญ่โต เพราะถ้าแบรนด์ดีแค่ไหน แต่ตัวรถดูเล็กลง ก็ขายไม่ดีเท่าไร ดูจากยอด Altis ใหม่ได้
อเมริกาเหนือ honda ขายดีนะครับ สู้ toyota พอได้ไม่แย่ แต่ใน eu ไม่ดี ยอดขายเท่าไหร่ อันนี้
ก้เรื่องของเค้าครับ ส่วน Civic G11 ไม่ได้รีบออกนะครับ ออกตามเวลาที่ควรจะเป็น แค่ว่า ในไทยจริงๆ
ไม่จำเป็นต้องรีบออกเพราะรุ่นเก่ายังไปได้ดี แต่ HATC ก้ออกครับ ไทยเป็นที่ๆ2 ที่ได้ประกอบรถรุ่นนี้ครับ
-
Reliability เป็นหลักเลยครับ
อีกอย่างคือรถญี่ปุ่นในไทยนี่ต้องเรียกว่า All-around เพราะราคาไม่แพงจนเกินไป คุณภาพดีใช้ได้ ราคาขายต่อดี อะไหล่หาง่ายหาร้านซ่อมบำรุงง่าย สำหรับคนใช้รถแล้วคิดว่าส่วนใหญ่มันก็ครบถ้วนหมดแล้ว
-
เมืองไทยคือแบรนด์เลยครับ ง่ายๆสั้นๆ เพราะ Honda เมืองนอกไม่ได้ขายดีเลยครับ เขาถึงต้องรีบออก Civic gen11มา
นอกจากนี้ตัวรถต้องดูใหญ่โต เพราะถ้าแบรนด์ดีแค่ไหน แต่ตัวรถดูเล็กลง ก็ขายไม่ดีเท่าไร ดูจากยอด Altis ใหม่ได้
ลองดูตลาด USA ดูครับ TOP 10 มีทั้ง ACCORD, CIVIC, CR-V และก็ CAMRY, RAV4
ผมว่าคนแถวนั้นเขามีเหตุผลซื้อรถพอสมควร หลักๆ มันไม่อยู่มีแค่แบรนด์นะครับ
มันไม่ใช่แบรนด์คือทุกอย่าง แต่มันต้องหลายๆ รวมกัน เช่น การใช้งาน ความหลายหลาย การซ่อมบำรุง บริการหลังการขาย และอื่นๆ แล้วสุดท้ายมันจะสะท้อนกลับมาถึงแบรนด์เองครับ
ส่วนตลาดยุโรป ผมว่า local brand ค่อนข้างเยอะ ทำให้แบรนด์ญี่ปุ่น เข้าไปตีหรือจะไปผงาดได้ ต้องเจ๋งจริงๆ ถึงจะพอติด TOP ได้
ตอนผมอยู่ อิตาลี มีทั้ง Alfa Remeo , Lancia , Fiat อิตาเลียนจ๋า วิ่งกันทั้งเมือง ค่ายเยอรมันอย่าง BENZ, BMW เอง ยังเห็นน้อยกว่าในเมืองไทยซะด้วยซ้ำ และที่โน่น BENZ, BMW เป็นแท็กซี่ด้วยซิ
-
อยากได้รถทนๆ ใช้ได้นานๆครับ
-
สำหรับผม บอดี้ดี ช่วงล่างดี เครื่องไม่จุกจิก
เน้นซ่อมง่ายได้ด้วยเครื่องมือบ้านๆครับ ไม่ใช่พวกต้องใช้เครื่องมือพิเศษ
และกระบะส่วนใหญ่จะตอบโจทย์ครับ
รถเก่าดีตรงอย่างความปลอดภัยครบ ABS airbag BA ผมต้องการพื้นฐานแค่นี้
พวกของเล่นที่มากกว่านี้ผมว่ายังเกินจำเป็นครับ
-
ผมว่าง่ายๆ เลยก็ราคาครับ สมัยก่อนราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้ก็มีแต่รถญี่ปุ่นนี่แหละครับ รถยุโรปราคาโดดไปเยอะมาก
-
มีเหตุผลที่สำคัญกว่า ความใหญ่ของรถ และ เครื่องแรง นั่นก็คือ Long Term Reliability ครับ
ค่ายไหนที่สามารถพิสูจน์ให้ลูกค้าเห็นได้ ค่ายนั้นก็ขายรถได้แน่นอนครับ
-
สำหรับผมนะ เรื่องหลักๆก็จะเป็น
1. ราคา ไม่ว่าจะเป็น ราคาตัวรถ ราคาค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน นู่นนั่นนี้ รวมไปถึง ราคาขายต่อที่ไม่เจ็บหนักเท่ารถยุโรป ยิ่งคนไทยส่วนใหญ่ เอาราคาเป็นตัวตั้งมากกว่า คุณสมบัติหรือประเภทของรถ
2. ศูนย์บริการ ที่แพร่หลาย มีกระจายอยู่ทุกจังหวัด (แบรนด์ใหญ่ๆ) เข้าถึงง่าย มีให้เลือกเยอะ รถเสียที่ไหน ก็ไม่กังวลมาก
3. ความทนทาน แม้ทุกวันนี้ทั้งรถญี่ปุ่น ก็เมีปัญหาจุกจิกกับระบบทั้งหลายทั้งปวงในรถ กันหลายๆเรื่อง แต่พอระยะยาว ปัญหาที่เกิดกับรถฝั่งอื่นๆ มันสีตามมามากกว่า
-
ยุโรป มันวางราคาพรีเมี่ยม ต้อง 2ล้านขึ้น.
ครั้นรุ่นไม่ premium ก็คุณภาพสู้รถญี่ปุ่นไม่ได้ เคยมีแต่ดับไปหมดแล้ว
ตลาดญี่ปุ่น จึงกินตลาดใหญ่ๆ มักไม่เกิน 2ล้าน. คนที่ซื้อจึงมีปริมาณมากกว่า
ราคาจับต้องได้ ซ่อมง่าย ดูแลง่าย อะไหล่เพรียบ ทนทานโดยเฉพาะยี่ห้อยอดนิยม เรียกว่าทนถึกไม่งอแง มันคุ้มเงินกว่า
ผมใช้รถแต่ละคัน. 15 ปีเปลี่ยน. รถญี่ปุ่นขับแล้ว ไว้ใจในระยาวแบบนี้ มากกว่ายุโรปครับ
-
1. ศูนย์มากครับ 2.ราคาเซอวิสไม่แพงครับ 3.ราคาประกันไม่แพงครับ 4.อะไหล่หาง่ายครับ 5.ราคาขายต่อก็อยู่ที่ระดับดีครับ 6.การขับขี่ก็ใกล้เคียงกับรถยุโรปแล้วครับ (CAMRY และ ACCORD ) 7.ราคาซื้อรถก็โอเคครับ สามารถเอื้อมถึงได้ 8. รุ่นท๊อปของญี่ปุ่นอ๊อฟชั่นมากกว่ารถยุโรปอีกครับ
-
ถ้าเอาคนทั่วไปไม่ใช่คนในเวปนี้นะ หลักๆที่ซื้อรถญี่ปุ่นของคนไทยเนี่ย
1. ทนมือทนเท้า 2. ซ่อมง่าย ศูนย์บริการเยอะ 3. ไม่ซับซ้อน 4. ประหยัดน้ำมัน
แค่นี้จริงๆ ไอพวกประสิทธิภาพการขับนี่นู่นนนนนเลยข้อเกือบจะหลักสิบแล้ว
แถมด้วยก็ได้ ถ้าเป็นรถยุโรปมือ 1 มีหลักการไม่มากเลย
1. ภาพลักษณ์ 2. ความสบาย 3. เทคโนโลยีแพรวพราว
การขับขี่มาเป็นข้อ 4,5 นู่นแหละ ทนทานก็คงท้ายนู่นเลยมั้ง พอๆกับประสิทธิภาพการขับขี่รถญี่ปุ่นนั่นแหละ
-
ซ่อมง่าย อะไหล่รอไม่นาน ศูนย์มีครบทุก77จังหวัด ต่างจากรถยุโรป จะเช็คระยะทีวุ่นวายมาก ต้องใช้รถยกข้ามจังหวัดสำหรับบางที่ๆไม่มีศูนย์บริการ
-
ด้วยงบประมาณที่มีในกระเป๋า รถญี่ปุ่นสมเหตุสมผลกับผมที่สุดครับ
พื้นฐานรถ ออฟชั่นที่จำเป็น ความสวยงามประมาณนึง และ reliability ครับ
-
ตอนซ่อมนี่ละ ถ้ามองว่ารถญี่ปุ่นซ่อมแพง ไม่ต้องฝันรถยุโรป
-
ราคาเอื้อมถึง
ซ่อมง่าย รออะไหล่ไม่นาน
ค่าดูแลไม่แพง ต่อประกันก็ไม่แพง ทำประกันได้ตลอดจนเลิกขับ
ถึงอายุเยอะ แต่ไม่จุกจิก
ขายต่อราคาไม่หล่นมาก เมื่อเทียบกับยุโรป
-
รถประกอบในประเทศส่วนใหญ่ เป็นรถจากแบรนด์ญี่ปุ่น
เมื่อรถญี่ปุ่นประกอบในประเทศ ราคาจึงไม่แพงมาก
เมื่อรถญี่ปุ่นราคาไม่แพงมาก รถญี่ปุ่นจึงขายดี
เมื่อรถญี่ปุ่นขายดี จึงทำให้ค่ายมีเงินทุนไปขยายศูนย์บริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทย
เมื่อรถญี่ปุ่นทำมาเหมาะกับคนไทย ก็เลยยิ่งขายดี เวลาจะขายมือสองก็ได้ราคา เพราะ Demand เยอะ
นอกจากแบรนด์ญี่ปุ่นแล้ว ก็ดูจะมีแบรนด์หรูจากเยอรมัน และแบรนด์จีนเท่านั้น ที่พอจะทำได้ใกล้เคียง
ส่วนแบรนด์ Mainstream จาก เกาหลี เยอรมัน ฝรั่งเศส เขาไม่เห็นความคุ้มค่าในการมาลงทุนจำนวนมากๆ ในตลาดที่ไม่ได้ใหญ่มากอย่างไทย
-
ราคาครับ
-
1.ราคาเป็นมิตรกว่า
2.ดูแลง่าย ทนทาน
-
ราคา กับ ในจังหวัดไม่มีศูนย์รถยุโรปเลยครับ
-
รถใช้เองผมซื้อแต่รถ used ไม่ใช่ไม่อยากได้ยุโรป แต่ก็จบกับตัวเลือกฝั่งญี่ปุ่นทุกทีไปด้วยความรู้สึกว่าซ่อมดูแลแล้วจะจบ ไม่งอแงครับ :-X
-
แบรนด์ที่เป็น Mainstream ในประเทศไทย มันก็มีแต่แบรนด์ญี่ปุ่น ส่วนแบรนด์จีน พึ่งจะเข้ามาตีตลาด
ส่วนแบรนด์ Mainstream จาก เกาหลี เยอรมัน ฝรั่งเศส พอเจอภาษีนำเข้าๆ ไป ราคามันก็อัพขึ้นจนเทียบเท่าแบรนด์ Premium แถมศูนย์บริการก็น้อย ค่าซ่อม ค่าประกัน ใกล้เคียงแบรนด์ Premium เพราะจำนวนรถที่น้อยกว่า มันก็เลยขายได้น้อย
-
1. ราคา ยุโรป Premium vs ญี่ปุ่นบ้านๆ ในขนาดเท่าๆกัน
2. การบะรุงรักษาที่ ญี่ปุ่นบ้านๆ ทำได้ดีกว่าทั้งราคา และความจุกจิก
ส่วนตัว อยากได้ ยุโรปพรีเมี่ยม "ซื้อไหวแต่ไม่คู่ควร" กลัวค่าบำรุงรักษา กลัวเสียจุกจิก ยังทำใจไม่ได้
-
ราคาเอื้อมถึง
ซ่อมง่าย รออะไหล่ไม่นาน
ค่าดูแลไม่แพง ต่อประกันก็ไม่แพง ทำประกันได้ตลอดจนเลิกขับ
ถึงอายุเยอะ แต่ไม่จุกจิก
ขายต่อราคาไม่หล่นมาก เมื่อเทียบกับยุโรป
+1
-
ส่วนตัวเลือกรถญี่ปุ่นเพราะในราคา 2 ล้านนิดๆ รถญี่ปุ่นได้อะไรคุ้มค่ามากกว่า ตอนซื้อ CX-5 2.5T ผมเทียบ X1 กับ GLA ทั้งสองตัวเหมือนจ่ายแพงกว่า ได้ของแย่กว่าทั้งสมรรถนะ ออพชั่น ความหรูหรา แต่ได้แปะแบรนด์มาเท่านั้นเอง