Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ์Nathapong ที่ มิถุนายน 22, 2021, 08:29:10
-
City e HEV วิ่งลำปาง กรุงเทพมันจะเหนื่อยในการขับไหมครับ เรื่อง Handling ของรถ อาการล้าของคนขับ.
-
ขึ้นกับอายุด้วยคับ ถ้าอายุไม่ถึง 40 ผมว่าสบาย ๆ
สมัยอายุ 2x-3x ผมขับ กทม-เชียงใหม่-กทม ด้วย Jazz แทบทุกอาทิตย์ ไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร ถ้าออกบ่าย ถึงค่ำ ไปปาร์ตี้ต่อได้อีกด้วยซ้ำ ..... แต่พออายุเยอะ ขับอะไรก็ล้าคับ 55
-
ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล รถไม่เยอะ สบายๆครับ
ขึ้นเหนือ 12 ชม. ยังรู้สึกสบายกว่า รถติดโคราช-กทม. 7 ชม. :'(
-
รถใหม่ เครื่องดี การขับขี่ดี ไม่เหนื่อยหรอกครับทางเส้นนี้ พักผ่อนให้พอแค่นั้นครับ ;)
-
ขับเรื่อยๆ ไม่เกิน 120 ไม่มีปัญหาครับ
ช่วงล่างนุ่ม ทรงตัวพอพึ่งพาได้ ยกเว้น เจอฝน เจอลมแรง จะเลื้อยสักหน่อย
ภายใน เก็บเสียงใช้ได้ แอร์เย็นฉ่ำ เบาะตัวโต รับหลัง
เอาว่า เทียบรถยุคเดียวกัน คงไม่สบายกว่า Altis / Civic หรอก แต่สบายกว่า Yaris หรือ eco car ยุคก่อนหลายรุ่น อยู่เยอะครับ
-
ถนนจาก กทม.ไปลำปาง ขับง่ายมากๆ ไม่ใช่เลนสวนกันก้อสบายๆชิลๆครับ
-
ถ้าทางตรง ไม่เหนื่อยครับ
พวฃมาลัยและการควบคุมตัวถังค่อยข้าง set มาดีตามขนาดเลยรอบนี้
แถมได้เบาะใหญ่ นั่งสบาย และการซับแรงสะเทือนนิ่มด้วย
มันจะไปเหนื่อยตอนเข้าโค้งที่จะรู้สึกว่ารถมันยวบยาบเยอะไปและพวงมาลัยที่หนักไปนี่แหละครับ
-
เทียบยังไงดีล่ะ ถ้าเทียบกับ B-Segment ด้วยกัน มันก็พอๆกัน วิ่งเกิน 200 ก.ม. ก็ต้องลงมายืดเส้นยืดสายหน่อย
แต่ถ้าเทียบข้าม Segment มันก็ต้องด้อยกว่าอยู่แล้วครับ
สมัยผมยังอายุไม่ถึง 30 ผมขับ Jazz GD จาก ศรีราชา - เชียงใหม่ ผมเฉยๆนะ ไปถึงเชียงใหม่แล้วยังไปเที่ยวต่อได้เลย
แต่พออายุ 30 กว่า ไม่ว่าจะ Jazz GD หรือ City Gen3 ไปถึงเชียงใหม่แล้วต้องพักครับ ต้องหลับสัก 1 ชม แล้วถึงจะไปเที่ยวต่อได้
เทียบกับ เมื่อ2 ปีก่อนไปเชียงใหม่อีกรอบ ด้วย C-SUV ไปถึงก็เที่ยวต่อได้เลย ความเหนื่อย+ความล้าสะสมมันน้อยกว่าชัดเจนครับ
คงต้องดูว่า จขกท อายุอยู่ในกลุ่มไหน ถ้าแบบผมที่เริ่มเข้าสู่วัยกลางคน คงต้องตอบว่ามีเหนื่อยแน่ครับ 5555
-
เมื่อยหรือเหนื่อยก็จอด พักทั้งรถและคนครับ
-
วัยมีผลมากครับ
ส่วนตัวคิดว่ารถที่สูงกว่า นิ่มกว่า แรงกว่า มีผลต่อการลดความเมื่อยล้ามากที่สุดครับ
เรื่องเบาะผมว่าถ้าไม่ใช่คนอ้วนก็ไม่ค่อยมีผลกับขนาดเบาะครับ เพราะรถเล็กปีกเบาะจะแคบ ถ้าอ้วนจะอึดอัดกับปีกข้างเบาะที่มันรัด
-
ตอบยากครับ อยู่ที่สภาพร่ายกายของผู้ขับในวันนั้น
พักผ่อนไม่เพียงพอ เหนื่อยล้าจากงาน ก่อนเดินทาง มีผลหมด
อย่างผมขับ swift เชียงราย - ภูเก็ต เดินทาง 3 คน ขับมือเดียว 18 ชั่วโมงสบายๆ
ดื่มน้ำแร่ + กาแฟดำ ไม่ใช้เครื่องดื่มชูกำลัง
-
แก่แล้ว รถอะไรก็เหนื่อยครับ
City ตอนนี้ มันคันเท่ากะ Civic EK สมัยก่อนเลยนะครับ
-
เหนื่อยครับ นั่งเฉยๆก็เหนื่อย ขับก็เหนื่อย ทุกการเดินทางไม่มีไม่เหนื่อยจะมากจะน้อยเท่านั้นเอง อยู่ที่ว่าไปทำอะไรคุ้มเหนื่อยมั้ยแค่นั้นเอง
ส่วนคำถามคงต้องมีเปรียบเทียบตัวเลือกอื่นที่มีจะเห็นภาพขึ้นว่าอันใหนน่าจะดีกว่า เช่นรุ่นรถ ขับเร็วช้า ซิ่งไม่ซิ่ง นั่งกี่คน
-
สำหรับผมรถเล็กเหนื่อยหมดครับ ไม่เหมาะกับขับทางไกล
ผมเดินทางระยะ 400-500 โล บ่อยๆ
Bseg คันเดียวที่โอเคคือ Sonic ที่เหลือคือแย่หมด
ต่อให้ Bseg สายแรงแบบ มาสด้า2ดีเซล กับ Dseg สายอืดอย่าง เทียน่า2.0 ทางไกลผมก็เลือกเทียน่า
-
ถนนโล่งๆ กับ Cruise Control นี่มันเป็นอะไรที่สบายมากครับ
-
ถ้าโจทย์คือขับทางราบแบบไม่โดนใบสั่ง ผมว่าทั้งคนขับและคนนั่งสบายสุดใน b-car แล้วนะครับ
-
เปิดadaptive cruise controlยาวๆไป น่าจะสบายครับ น่าจะสบายสุดในB segmentแล้ว
-
เหนื่อยแน่นอนครับ รถคันเล็ก ออกแนว city car ขับทางไกล
เบาะเล็ก headroon legroon ก็เล็กๆ นั่งนานๆ 4-8 ชม พักบ้าง ไม่พักบ้าง
มีก้นชา น่องเป็นตะคริว บ้างตามสุขภาพ คนขับ คนนั่ง
ขับ ลำปาง กทม ถึงแน่นอนครับ แต่มันเหนื่อย พอควรเลย
เคยขับ mazda ตาตี่ , crv g3 กทม เชียงราย เชียงราย กทม ความเหนื่อยล้าสดวกสบาย ต่างกันมากครับ
-
ตอบได้แค่ว่า สบายกว่า Mazda 2 Diesel ครับ เพราะสะเทีอนน้อยกว่าเวลาเจอรอยปะผุถนน
-
ผมว่า สภาพร่างกาย สำคัญกว่ารถอีกครับ 55555 หรือผมแก่แล้วไม่รู้ เดี๋ยวนี้ขับรถนานๆ แบบสมัยก่อนไม่ค่อยได้แล้ว
-
ระยะทางเพียง 600กิโลเมตร สบายมาก หากอายุต่ำกว่า 50 ปี
ส่วนที่ทำให้เหนื่อยคือ
1.ความเครียดระหว่างขับ เช่น จะทันเครื่องบินหรือเรือออกท่าหรือเปล่า การจราจรหนาแน่นหรือไม่
2.พักผ่อนเพียงพอหรือไม่เป็นต้นครับ
ขอให้เป็นทริปที่สนุกครับ
-
ชิลแฟคเตอร์ของคนสองคนในการขับรถต่างกัน คนที่ขับไปเกร็งไปคงเหนื่อยกว่าเยอะอยู่ครับ...
-
ถ้าเทียบเรื่อง handling city โฉมนี้น้ำหนักพวงมาลัยดีมากครับ เทียบเท่าcivic ได้เลย ขับทางไกลใช้ความเร็ว 120 สบายครับ น้ำหนักดี ไม่เบาโหวง แต่ถ้าขับเกิน120 รถจะเริ่มโคลงๆลอยๆครับ เพราะรถมันเบาครับ แนะนำขับ 120 กำลังดีครับ จะเมื่อยตรงเบาะนั่งนี่แหละครับ ผมว่าเบาะมันนั่งไม่สบายเท่าไร
-
ขอแชร์ประสบการณ์ละกันนะครับ
ธันวาคมปีที่แล้ว ขับ HRV กรุงเทพ - ลำปาง วันธรรมดาไม่ใช่เทศกาล รถไม่เยอะ ผมแวะพัก 3 จุด มี
- Porto go อยุธยา (มื้อสาย + กาแฟ)
- ตัวเมืองนครสวรรค์ (มื้อกลางวัน)
- บางจาก วังเจ้า จังหวัดตาก (เติมน้ำมัน)
เฉลี่ย 2-2.5 ชั่วโมง จอดรอบนึง
ออกจากลาดพร้าว 101 ตอน 9.00 ถึงตัวเมืองลำปาง 16.30 ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกเหนื่อยหรือเพลียมากครับ กลางคืนยังเดินเล่นหาของกินได้ตามปกติ
แนะนำว่าช่วงจากนครสวรรค์ไปตาก เปิด Cruise ยาวๆ ได้เลยครับ แล้วช่วงจอดพัก ผมพยายามเดินยืดเส้นยืดสาย ให้รู้สึกสบายตัว ก่อนขับต่อครับ
ส่วนรถ City eHEV ผมว่าไปได้สบายๆครับ ไม่น่าห่วงอะไร
-
การขับเป็นแบบไหนครับ หรืออายุ ความชอบขับทางไกลเป็นแบบไหน
จริงๆน่าจะเกี่ยวกับอันนี้ด้วย เมื่อก่อนผมชอบขับรถ B-seg ทางไกลมาก มันมุดสนุกและไม่กินน้ำมัน ไม่เหนื่อยอะไรเลย 10 ชั่วโมงสบาย
-
ลองแบบนี้ก่อนมั้ยครับ หาเช่า City 1.0T แล้วลองวิ่งขับทางไกลดูก่อนซักครั้งนึง แล้วลองดูผลลัพธ์ก่อนว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง
ถ้าขับแล้วโอเค ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ ก็ค่อยซื้อ City e:HEV จะได้ตัดสินใจไม่ผิดครับ ลองให้รู้ก่อนดีกว่าครับ จะได้ไม่ผิดหวัง
-
คนลำปาง เหมือนกัน ทำงาน กทม
วิ่ง กทม ลำปาง เชียงใหม่ ทุกเดือนๆ ตั้งแต่ 22 จน 33 แล้ว
ตอน 22 ใช้ City 2012 ล้อ 16 แก้ม 55
ใจคนขับมันได้ ไม่เหนื่อยครับ
เรื่องเมื่อยล้า ธรรมดา มีนิดหน่อย แต่วัยรุ่นไม่แคร์ไง ลืมๆไป ถึงจุดหมายก็ไปทำอย่างอื่นต่อ
เทียบกัน ถ้าเปลี่ยนเป็นรถคันใหญ่ขึ้น SUV , 4 door ยกสูง ก็จะแทบไม่รู้สึกเหนื่อย
และยิ่งรถเก็บเสียงดี ช่วงล่างมันใจ ควบคุมแม่น ไม่ต้องเพ่งจิต สำหรับผมยิ่งล้าน้อย เพราะเราขับด้วยความรีแลก
แต่ตอนนี้ 33 ขับคันไหนก็เมื่อย ตั้ง 200 โลแรกละ
ขนาด XV ที่ว่านิ่งๆ นั้น หลังๆ มาถึงจุดหมาย คือหลับยาว ไปนวดด่วนๆ
อาจจะเพราะ ร่างกายไม่ฟิต ออกกำลังกายน้อยลง
ดังนั้นสรุปว่า ทั้งรถ และ สภาพร่างกาย เป็นปัจจัยหลัก ว่าขับแล้วทางไกล เหนื่อยหรือ สบาย
-
ลองแบบนี้ก่อนมั้ยครับ หาเช่า City 1.0T แล้วลองวิ่งขับทางไกลดูก่อนซักครั้งนึง แล้วลองดูผลลัพธ์ก่อนว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง
ถ้าขับแล้วโอเค ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ ก็ค่อยซื้อ City e:HEV จะได้ตัดสินใจไม่ผิดครับ ลองให้รู้ก่อนดีกว่าครับ จะได้ไม่ผิดหวัง
+1
ผมเองตั้งใจว่ารถคันต่อไป ถ้าซื้อใหม่อยากทำแบบนี้เหมือนกันครับ
ลองให้เต็มที่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ จะได้รู้ข้อดีข้อเสียจริงๆ
-
ขอบคุณทุกความคิดเห็น
-
น่าจะเหนื่อยเล็กน้อย ถ้าขับรถโดยมีมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ทำงานกันในช่วงแรก+เครื่องยนต์ยังไม่Start ก็พอลดความเหนื่อยบ้าง ที่เหนื่อยก็คือ.....ตามหาปั้มน้ำมัน และ ถ้าหากเดินทางไกล ขอแนะนำใช้โหมด EV และ Hybrid 2 อย่างก็พอ
-
ระยะทางขนาดนั้น รถอะไรก็เหนื่อยครับ
แต่ City รถรุ่นใหม่ มันก็เหนื่อยน้อยกว่ารุ่นเก่าๆอยู่แล้ว เปิด Adaptive Cruise ก็สบายๆครับ แต่ทางตรงยาว จะง่วงรึเปล่า
ผมแวะ ปตท.นครสวรรค์ ที่มีแม็กโดนัล , ปตท.กำแพงเพชร , ปตท.ตาก บ้านตาก , ปตท. เถิน
และก็เข้าลำปาง จุดพักกำลังดี ไม่ล้ามาก ผมขับรถแล้วต้องจิบน้ำ กาแฟ ฉี่บ่อย
-
รถใหม่ๆขับสบายครับ เตรียมร่างกายให้พร้อม ง่วงก็จอดนอนครับ
-
รถเล็กช่วงล่างไม่ได้ซับแรงจากผิวถนนเท่าไหร่ ทำได้ดีแค่ระดับขับในระยะทางไม่ไกล
คนจะใช้ไม่รู้สึกว่าล้าเวียนหัวครับ แต่ขับทางไกลยังไงก็ต้องแวะพัก เหนื่อยมาก
ถ้าข้ามจังหวัดไกลๆบ่อยๆ แนะนำพวกD-segรถหยุ่นหรือSUV
เคยวิ่งแคมรี่เจน4และcrvเจน4 ไปเที่ยวเชียงรายไม่เหนื่อยเลยลงเที่ยวได้ใสๆ
กลับกันเคยขับรถช่วงล่างดีมากอย่างบีเอ็ม116iก่อนLciตัว4สูบ ไปกลับกทม.ชลบุรี
เหนื่อยมากเพราะช่วงล่างรถเล็กไม่ซับแรงจากถนน เจอหลุม เนินไม่เรียบมีอาการทั้งคันรถ
และพวงมาลัยคมหักนิดหน่อยเปลี่ยนเลนต้องคอยเลี้ยงไว้ ขับอย่างผ่อนคลายได้ยาก
สรุปขับทางไกลเล่นSUVหรือซีดานD-segสบายกว่าเยอะมากของจริง 8)
-
การเหนื่อยหรือไม่เหนื่อย ไม่เกี่ยวกับ Handling ของรถมั้งคับ คุยไม่ได้ขับ Rally หรือ Circuit นะครับ
แค่ขับรถข้ามจังหวัด หรือ ขับรถทั่วไป
อาการเหนื่อยหล้า มาจาก
1. ท่านั่ง ท่าจับพวงมาลัย การวางแขน
2. ระยะทาง ระยะเวลา การขับ แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนขับ 500km รวดเดียวไม่พักก็ธรรมดา แต่บางคนต้องพักทุก 100-200km เพราะร่างกายอ่อนล้า
3. ประเภทรถ อันนี้แล้วแต่ชอบ
ส่วนประเภทรถ ก็มีส่วน ผมขับเก๋ง กับ suv ผมรู้สึกว่าา suv มันท่านั่ง ขับง่าย ขับสบาย นั่งสบาย กว่าขับเก๋งอีก ผมขับ 500km กรุงเทพ-ภูเรือ น้ำมันเต็มถัง ไม่พัก ทีเดียวถึงเลย ก็ไม่ได้เมื่อยหรือเพลียมากนะ แต่จะมีปวดตูดบ้าง
ผมว่า City ตัวนี้ จะ e:HEV หรือ 1.0T ผมว่าภายใน เบาะ นั่งค่อนข้างสบายเลยนะ ขับทางไกล ผมว่าโอเคเลย ยังไม่เคยขับทางไกล แค่ขับไกล้ๆ ในกรุงเทพ
-
รถมันยาว 4.5 เมตร หนัก 1.2 ตัน ช่วงล่างก็มาตรฐานกลางๆ
ผมว่าไม่น่าเหนื่อยมากหรอกครับ แต่แน่นอน ก็ต้องมีพัก 2-3 ชั่วโมงครับ