Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wiki ที่ มิถุนายน 28, 2021, 15:32:00
-
Tesla ต้องออกอัพเดตให้รถกว่า 285,000 คันในประเทศจีน หลังพบข้อกังวลเกี่ยวกับระบบ cruise control เปิดเองได้อัตโนมัติ ทำให้ความเร็วเพิ่มฉับพลัน โดยผู้ใช้ไม่ทันตั้งตัว แม้หน่วยงานรัฐของประเทศจีนจะใช้คำว่า เรียกคืน แต่ผู้ใช้เพียงแค่ต้องอัพเดตซอฟต์แวร์จากบ้านโดยไม่ต้องนำรถไปเข้าศูนย์
หน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานตลาดของประเทศจีน (State Administration for Market Regulation) ระบุว่ารถที่ถูก เรียกคืน ส่วนใหญ่เป็น Model 3 และ Model Y ที่ผลิต ณ Gigafactory เซี่ยงไฮ้ รวม 249,855 คัน ส่วน Model 3 อีก 35,655 คัน เป็นรถนำเข้า
The Wall Street Journal ผู้รายงานเรื่องนี้ ระบุว่า Tesla ไม่ตอบกลับอีเมลสอบถามที่ถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลสำหรับสื่อ อาจจะเพราะ Tesla ยุบฝ่ายสื่อไปในปีที่แล้ว แต่มีการโพสต์ขอโทษใน Weibo ของบริษัท
Tesla เริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนครั้งแรกช่วงสิ้นปี 2019 และตั้งเป้าผลิตให้ได้ 500,000 คันต่อปี ปัจจุบันประเทศจีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ Tesla ยังประสบปัญหาประปราย ทั้งการระบาดของ COVID-19ในปีก่อน กองทัพจีนห้ามใช้รถยนต์ Tesla ในกิจการกองทัพ การต้องทำตามมาตรฐานข้อมูลที่แตกต่างจากประเทศอื่น และการให้บริการหลังการขายที่ดูเหมือนจะไม่พอใจชาวจีนนัก
ในรายงานไม่มีข้อมูลว่าข้อผิดพลาดนี้ส่งผลแค่กับเวอร์ชั่นซอฟต์แวร์ของรถที่ใช้ในประเทศจีนหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้เคยมีอุบัติเหตุรถ Tesla Model S ในสหรัฐอเมริกา ที่มีข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจาก cruise control เช่นกัน
ีที่มา - https://www.blognone.com/node/123460
เพิ่มเติมจากข่าวปัญหาระบบเบรคทำงานขัดข้องของ Tesla ในจีน อาจจะเกี่ยวเนื่องกับข่าวนี้เช่นกัน
(https://i.imgur.com/6yD8PzJ.jpg)
(https://i.imgur.com/FwJFvSG.jpg)
(https://i.imgur.com/nUiYXZI.jpg)
-
รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้ ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
-
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เสียได้ตั้งแต่ออกจากร้าน
-
รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้ ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
มันไม่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าหรือคนปั่นจักรยานอ่ะครับ
เราต้องแยก powertrain กับ technology รึเปล่าครับ เครื่อง ice ถ้าเทคโนโลยีพัฒนามาไม่พร้อมมันก็พาบ้งได้เหมือนกันรึเปล่าครับ
รถพลังงานไฟฟ้ามันเป็น future tech เค้าเลยพยายามยัดอะไรหวือหวามา มาพ่วงด้วย
ความไม่พร้อมอันนี้คือ tesla มากกว่าที่นำเสนอ option หลายๆอย่างควบคุมด้วย software ที่ช่วยขับขี่ที่พัฒนามาไม่สมบูรณ์มากกว่าครับ
ถ้า tesla ทำรถ ice เอาเทคโนโลยีที่มีปัญหาไปยัดมันก็บ้งได้เหมือนกันนะ
-
รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้ ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
ท่านก็เกินไป ผมไม่ได้ปกป้องแบรนด์เขา ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ถือหุ้น Tesla แต่พอรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับนึง
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลา สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆก็ไม่ใช่ว่าจะ Flawless แต่ถ้าไม่เริ่มต้นก็ไม่มีคนทำ
พวกเทคโนโลยีขับเองทุกยี่ห้อก็ไม่ได้เคลมว่ามันขับแทนได้ 100% เคลมตลอดว่ายังไงก็ต้องมีคนขับช่วยตลอด
ของสมัยนี้มันเหลือไม่กี่ชิ้นแล้วที่ไม่มีสมองกลไม่มีคอมพิวเตอร์อยู่ในนั้น ละขึ้นชื่อว่าสมองมันก็ต้องมีการเรียนรู้ ต้องเทรนมันตลอด
การจะให้ทดสอบมันในแลปอย่างเดียวมันก็ไม่ไหว มันก็ต้องให้ออกไปข้างนอกไปเจอสภาพจริง จากนั้นก็เก็บข้อมูลส่งกลับมาที่บริษัท
เป็น Big Data ที่ค่อยมาจัดเรียงข้อมูลดูแนวโน้ม วิเคราะห์และศึกษาว่าจะแก้ไปในทิศทางไหนให้ถูกต้อง
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเคยเห็นอยู่คลิปนึงที่ไปขับในเวียดนามหรือสักประเทศนึงนี่แหละที่มอไซเยอะๆ รถมันแพนิคจนปิดระบบแล้วเตือนให้คนขับควบคุมโดยด่วน
เหตุการณ์อย่างนี้ถามว่าในแลปจะมี Simulation กี่แบบเองที่ครอบคลุมถึงเรื่องนี้? ถ้าระบบคอมพิวเตอร์มันไม่ได้ออกแบบมารอบคอบจริงๆ ป่านี้เราคงเห็นข่าวเทสล่าทับมอไซตายเป็นเบือแล้ว
ผมมองว่าที่เทสล่าทำไม่ได้ฉาบฉวย อย่าลืมว่า ตลาดหลักของเขาถ้าไม่นับจีน ก็คือประเทศที่ฟ้องร้องกันเก่งที่สุดในโลกประเทศนึงนะครับ
-
รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้ ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
ท่านก็เกินไป ผมไม่ได้ปกป้องแบรนด์เขา ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ถือหุ้น Tesla แต่พอรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับนึง
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลา สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆก็ไม่ใช่ว่าจะ Flawless แต่ถ้าไม่เริ่มต้นก็ไม่มีคนทำ
พวกเทคโนโลยีขับเองทุกยี่ห้อก็ไม่ได้เคลมว่ามันขับแทนได้ 100% เคลมตลอดว่ายังไงก็ต้องมีคนขับช่วยตลอด
ของสมัยนี้มันเหลือไม่กี่ชิ้นแล้วที่ไม่มีสมองกลไม่มีคอมพิวเตอร์อยู่ในนั้น ละขึ้นชื่อว่าสมองมันก็ต้องมีการเรียนรู้ ต้องเทรนมันตลอด
การจะให้ทดสอบมันในแลปอย่างเดียวมันก็ไม่ไหว มันก็ต้องให้ออกไปข้างนอกไปเจอสภาพจริง จากนั้นก็เก็บข้อมูลส่งกลับมาที่บริษัท
เป็น Big Data ที่ค่อยมาจัดเรียงข้อมูลดูแนวโน้ม วิเคราะห์และศึกษาว่าจะแก้ไปในทิศทางไหนให้ถูกต้อง
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเคยเห็นอยู่คลิปนึงที่ไปขับในเวียดนามหรือสักประเทศนึงนี่แหละที่มอไซเยอะๆ รถมันแพนิคจนปิดระบบแล้วเตือนให้คนขับควบคุมโดยด่วน
เหตุการณ์อย่างนี้ถามว่าในแลปจะมี Simulation กี่แบบเองที่ครอบคลุมถึงเรื่องนี้? ถ้าระบบคอมพิวเตอร์มันไม่ได้ออกแบบมารอบคอบจริงๆ ป่านี้เราคงเห็นข่าวเทสล่าทับมอไซตายเป็นเบือแล้ว
ผมมองว่าที่เทสล่าทำไม่ได้ฉาบฉวย อย่าลืมว่า ตลาดหลักของเขาถ้าไม่นับจีน ก็คือประเทศที่ฟ้องร้องกันเก่งที่สุดในโลกประเทศนึงนะครับ
ผมมองว่าฉาบฉวยนะดูที่การออกแบบแผงหน้าปัดของรถก็ได้ครับ มันไม่เอื้อให้เหมาะสำหรับคนที่ชอบขับรถเลยสักนิด แผงควบคุมต่างเป็นจอทั้งหมด มันต้องละสายตาแล้ว ส่วนเนื่องซอฟแวร์มันต้องปิดได้ด้วยคนขับตัวเองครับ อย่าบังคับให้เปิดออโตโดยระบบเอง กับเรื่องงานประกอบทั้งหลายที่ยังมีหลุดคือเค้ายังอ่อนด้อยประสบการณ์ครับ มองปัญหาของฮอนด้าเป็นเรื่องเล็กไปเลย คนที่ไม่ได้ชอบขับรถ ไม่ได้รักการขับรถมาควบคุมดูแลการออกแบบบเลยหลายๆอย่างยังทำให้มีข้อผิดพลาดมาเยอะครับ เพราะรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆยังไม่มีปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยแบบเทศเทศล่าเลย
รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้ ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
ท่านก็เกินไป ผมไม่ได้ปกป้องแบรนด์เขา ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ถือหุ้น Tesla แต่พอรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับนึง
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลา สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆก็ไม่ใช่ว่าจะ Flawless แต่ถ้าไม่เริ่มต้นก็ไม่มีคนทำ
พวกเทคโนโลยีขับเองทุกยี่ห้อก็ไม่ได้เคลมว่ามันขับแทนได้ 100% เคลมตลอดว่ายังไงก็ต้องมีคนขับช่วยตลอด
ของสมัยนี้มันเหลือไม่กี่ชิ้นแล้วที่ไม่มีสมองกลไม่มีคอมพิวเตอร์อยู่ในนั้น ละขึ้นชื่อว่าสมองมันก็ต้องมีการเรียนรู้ ต้องเทรนมันตลอด
การจะให้ทดสอบมันในแลปอย่างเดียวมันก็ไม่ไหว มันก็ต้องให้ออกไปข้างนอกไปเจอสภาพจริง จากนั้นก็เก็บข้อมูลส่งกลับมาที่บริษัท
เป็น Big Data ที่ค่อยมาจัดเรียงข้อมูลดูแนวโน้ม วิเคราะห์และศึกษาว่าจะแก้ไปในทิศทางไหนให้ถูกต้อง
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเคยเห็นอยู่คลิปนึงที่ไปขับในเวียดนามหรือสักประเทศนึงนี่แหละที่มอไซเยอะๆ รถมันแพนิคจนปิดระบบแล้วเตือนให้คนขับควบคุมโดยด่วน
เหตุการณ์อย่างนี้ถามว่าในแลปจะมี Simulation กี่แบบเองที่ครอบคลุมถึงเรื่องนี้? ถ้าระบบคอมพิวเตอร์มันไม่ได้ออกแบบมารอบคอบจริงๆ ป่านี้เราคงเห็นข่าวเทสล่าทับมอไซตายเป็นเบือแล้ว
ผมมองว่าที่เทสล่าทำไม่ได้ฉาบฉวย อย่าลืมว่า ตลาดหลักของเขาถ้าไม่นับจีน ก็คือประเทศที่ฟ้องร้องกันเก่งที่สุดในโลกประเทศนึงนะครับ
รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้ ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
มันไม่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าหรือคนปั่นจักรยานอ่ะครับ
เราต้องแยก powertrain กับ technology รึเปล่าครับ เครื่อง ice ถ้าเทคโนโลยีพัฒนามาไม่พร้อมมันก็พาบ้งได้เหมือนกันรึเปล่าครับ
รถพลังงานไฟฟ้ามันเป็น future tech เค้าเลยพยายามยัดอะไรหวือหวามา มาพ่วงด้วย
ความไม่พร้อมอันนี้คือ tesla มากกว่าที่นำเสนอ option หลายๆอย่างควบคุมด้วย software ที่ช่วยขับขี่ที่พัฒนามาไม่สมบูรณ์มากกว่าครับ
ถ้า tesla ทำรถ ice เอาเทคโนโลยีที่มีปัญหาไปยัดมันก็บ้งได้เหมือนกันนะ
รถไฟฟ้าที่ว่านี้ผมพูดถึงเทศเทศล่าครับ พอดีตกยี่ห้อ
-
มันไม่เกี่ยวกับคุณภาพของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะระบบ Autonomous Driving จะอยู่ในรถยนต์สันดาป HEV หรือ BEV ก็ได้
-
มันไม่เกี่ยวกับคุณภาพของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะระบบ Autonomous Driving จะอยู่ในรถยนต์สันดาป HEV หรือ BEV ก็ได้
อ่านด้วยครับผมพูดถึงยี่ห้อเทสล่าครับ พอดีพิมพ์ตกหล่น