Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Cafe1n ที่ มิถุนายน 28, 2021, 20:36:56
-
ดูคลิป :> https://video.sanook.com/player/1458497/
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/06/28/so9nj1.jpg)
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/06/28/so9yvR.jpg)
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/06/28/soTMJ2.jpg)
(28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องหน้ารถปิคอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน 1206 อ่างทอง ของ นายมนัส อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นคนขับ จับภาพนาทีชีวิตขณะที่รถเก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน 1829 อ่างทอง ซึ่งเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนน และชนเสาไฟฟ้าจนหักสองท่อน
ก่อนที่รถเก๋งจะพลิกคว่ำหลายตลบและไถลไปกว่า 100 เมตร จนทับร่าง นายมาโนช อายุ 31 ปี คนขับรถคันดังกล่าวที่กระเด็นหลุดออกจากตัวรถจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ศาลาแดง ถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ หมู่ที่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง
นายมนัส เล่าให้ฟังว่า ตนเองขับรถออกจากบ้านที่อำเภอสามโก้เพื่อมาส่งภรรยาที่โรงพยาบาลอ่างทอง ขณะที่ขับรถมาตามถนนสายดังกล่าวมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอ่างทองมีฝนตกลงมาเล็กน้อย จนถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ รถเก๋งคันที่เกิดเหตุซึ่งขับสวนทางอยู่คนละฝั่ง ก็เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนเสาไฟฟ้าจนหัก และพุ่งใส่รถตนจนกระจกแตกทั้งบาน
แต่เดชะบุญดีที่โดนค่อนข้างต่ำและติดขอบกระจกไม่เช่นนั้นทั้งตนและภรรยาอาจจะได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนตกใจถึงกับช็อก และคิดว่าเป็นเพราะบารมีหลวงปู่ทวดที่ห้อยอยู่ที่คอคุ้มครองเพราะเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านทีแรกไม่ได้คล้องหลวงปู่ทวดมา แต่ขับรถออกมาได้สักนิดหนึ่งนึกได้ ก็เลยย้อนกลับไปเอาสร้อยมาห้อยคอ ไม่เช่นนั้นก็น่าจะบาดเจ็บหรือได้รับอันตราย
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่า รถคันดังกล่าวน่าจะขับมาด้วยความเร็ว ประกอบกับมีฝนตกลงมาทำให้พื้นถนนมีความลื่น จนทำให้เสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนน ก่อนที่จะทับร่างคนขับที่กระเด็นออกจากรถจนเสียชีวิต
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญคนขับรถปิคอัพที่ได้รับความเสียหายและพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวน เพื่อหาสาเหตุในอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
-
RIP ผู้เสียชีวิตครับ
แต่กระเด็นออกนอกตัวรถเลยหรอ?
ถ้ารัดเข็มขัด ไม่น่าจะกระเด็นออกมาได้
-
คนขับรถคันดังกล่าวที่กระเด็นหลุดออกจากตัวรถจนเสียชีวิต
ขับหรือนั่งรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย=นั่งในโลงศพ
-
เหมือนหลับในหรือป่าว ?
แต่สภาพรถก็ครบสูตร ล้อซิ่ง ท่อดัง ขนาดรถมีสัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัด ยังไม่คาดเลย หุหุ
-
คนขับอีซูสุโชคดีมากๆ ครับ
ส่วน city เห็นการแต่งรถแล้วอาจจะมั่นใจในสมรรถนะเกินไปหน่อย พอเจอถนนบ้านเรา การจราจรบ้านเราอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ประมาทดีที่สุด
-
RIP ครับ
-
ถ้าให้เดาก็คงมาจากขาดสมาธิในการขับ ใช้โทรศัพท์? ฝนเม็ดห่างขนาดกระจกยังไม่เปียกไม่น่ามีผลนะ
-
อยากเห็นยี่ห้อยางที่ใช้จริงๆ อะไรทำให้มั่นใจว่าจะซัดหนักๆบนถนนเปียกฝนตจว.ได้ขนาดนั้น
RIP ไม่คาดเข็มขัดใช่ไหมหนะ 8)
-
ดูเหมือน under steer มา
ไม่ก็เผลอ ขาดสมาธิช่วงก่อนเข้าโค้ง
ไม่น่าใช่เรื่องถนนลื่น
รถไม่ได้บวกกับกระบะตรงๆ
ถ้าคาดเข็มขัดผมว่าน่าจะรอดนะครับ
-
เหมือนหลับในหรือป่าว ?
แต่สภาพรถก็ครบสูตร ล้อซิ่ง ท่อดัง ขนาดรถมีสัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัด ยังไม่คาดเลย หุหุ
เห็นด้วยครับ
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
เห็นด้วยเลยครับ แถมขับช้าด้วย
และถ้าขับชิดซ้ายมา ก็คงไม่น่าโดนลูกหลงนะ (ในคลิปก็เกือบพ้นแล้ว)
-
เหยื่อของความเชื่อมั่น อยากให้ขาอวยเพลาๆลงหน่อยครับ เห็นขับกันแต่ละคัน เผมพิ่งกลับมาจากชลบุรี ที่แช่ขวาหลบไม่เป็นมีแต่ Civic กับ City ทั้งนี้น คือรถมันไม่ได้ช่วงล่างดีและแรงขนาดนั้น
-
ขับเร็วกันจัง ไม่ดูสภาพถนนและสภาวะอากาศเลย สงสัยคิดว่าตัวเองกำลังเป็นนักแข่งในสนาม อยากซิ่งไปซิ่งในเกมเถอะ รถพังยังรีสตาร์ทเล่นใหม่ได้ เดิดอุบัติเหตุแบบนี้ เดือดร้อนคนอื่นเค้าครับ
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
ตรรกะที่คนมักจะบอกว่าป่วยของผมคือ
ถนนเป็นที่ๆอันตราย การอยู่บนถนนยิ่งนานแค่ไหนก็ยิ่งเสี่ยง
กระบะอีกคันที่แซงคันกล้องไป ก็ปลอดภัยดีนะครับ
แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวกระบะคันทีแซงเจ้าของกล้องไป ก็จะไปประสบอุบัติเหตุข้างหน้าอยู่ดี
ป่าวเลย ถ้าขับปกติ ให้ถึงทีาหมายปกติ ก็ลดความเสี่ยงภัยบนท้องถนนได้มากกว่าที่เราจะอยู่บนท้องถนนให้นานกว่าปกติจริงไหม พูดง่ายๆว่า คันกล้องน่ะ "ขับช้าเกินไป"
ถ้าไม่เชื่อสถิตินี้
อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วแต่ดวง.... งั้นจะขับช้า หรือ เร็ว ก็ผลเท่ากันนะครับ
จะ 100 90 80 70 60 หาร 60 ผลที่ได้ย่อมต่างกัน
ผมคิดของผมเล่นๆแบบนี้ อย่าซีเรียสกับผมเลยครับ
คนมันจะซวยนะ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนน จะกินเร็วกว่า จะนั่งแช่คุยกับเพื่อน ก็มีโอกาสเสี่ยงพอๆกันเช่นกัน แต่เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็สามารถคำนวนตามตัวเลขได้อีกเช่นกัน
นาย ก นั่งกิน 15 นาทีแล้วลุกกลับบ้าน
นาย ข นาย ค นั่งกิน 15 นาทีแล้วคุยต่อ อีก 15 นาที
นาย ข นาย ค มีความเสี่ยงที่จะโดนคนหลับใน ยางแตก รถลื่น รถตัดหน้า รถหลบคนข้ามถนน มอไซค์เกี่ยวกัน พุ่งเข้ามาชนมากกว่านาย ก ถึง 50% เลยทีเดียว
-
ถนนกว้างๆส่งมาแรงๆ แต่โค้งลึกยาว ตอนท้ายๆแหก
วิ่งมาเร็วอันตรายมากครับ
ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต RIP ครับ
-
ด้วยความเคารพผู้เสียชีวิตนะครับ
ผมว่าถ้ามีข้อเท็จจริงประกอบว่าคาดหรือไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะเป็นประโยชน์ครับ คือหากไม่คาดเราก็เข้าใจสาเหตุ ส่วนถ้าคาด เราก็จะได้ดูกันต่อว่าความปลอดภัยสามารถปรับปรุงได้จุดไหนอีก
ความเห็นส่วนตัวเฉยๆ นะครับ
-
แนะนำกล้องหน้ารถยี่ห้อ Groovy ชัดกว่านี้พอสมควร
-
เห็นรูปจาก FB โครงสร้างยวบเกินไป เสา A เสียรูป ทั้งที่ไม่ได้ปะทะอะไรหนัก สมยี่ห้อ ซื้อ เครื่อง+เกียร์ แถมบอดี้รถ หุหุ
คนขับกระบะ 57 แล้วน่ะครับ เหตุนึงคงขับช้าตามวัย และในจุดเกิเหตุเขตชุมชนด้วยน่ะครับ แถมใกล้ รร. ป้ายแถวนั้นจำกัดที่ 50 เองครับ
-
RIP
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
ตรรกะที่คนมักจะบอกว่าป่วยของผมคือ
ถนนเป็นที่ๆอันตราย การอยู่บนถนนยิ่งนานแค่ไหนก็ยิ่งเสี่ยง
กระบะอีกคันที่แซงคันกล้องไป ก็ปลอดภัยดีนะครับ
แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวกระบะคันทีแซงเจ้าของกล้องไป ก็จะไปประสบอุบัติเหตุข้างหน้าอยู่ดี
ป่าวเลย ถ้าขับปกติ ให้ถึงทีาหมายปกติ ก็ลดความเสี่ยงภัยบนท้องถนนได้มากกว่าที่เราจะอยู่บนท้องถนนให้นานกว่าปกติจริงไหม พูดง่ายๆว่า คันกล้องน่ะ "ขับช้าเกินไป"
ถ้าไม่เชื่อสถิตินี้
อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วแต่ดวง.... งั้นจะขับช้า หรือ เร็ว ก็ผลเท่ากันนะครับ
จะ 100 90 80 70 60 หาร 60 ผลที่ได้ย่อมต่างกัน
ผมคิดของผมเล่นๆแบบนี้ อย่าซีเรียสกับผมเลยครับ
คนมันจะซวยนะ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนน จะกินเร็วกว่า จะนั่งแช่คุยกับเพื่อน ก็มีโอกาสเสี่ยงพอๆกันเช่นกัน แต่เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็สามารถคำนวนตามตัวเลขได้อีกเช่นกัน
นาย ก นั่งกิน 15 นาทีแล้วลุกกลับบ้าน
นาย ข นาย ค นั่งกิน 15 นาทีแล้วคุยต่อ อีก 15 นาที
นาย ข นาย ค มีความเสี่ยงที่จะโดนคนหลับใน ยางแตก รถลื่น รถตัดหน้า รถหลบคนข้ามถนน มอไซค์เกี่ยวกัน พุ่งเข้ามาชนมากกว่านาย ก ถึง 50% เลยทีเดียว
คุณตรรกะป่วยอย่างที่คนอี่นบอกจริงๆนั่นแหละ
ถ้าใช้เวลาอยู่บนถนนน้อยหมายถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยลงจริงอย่างที่คุณเข้าใจ อย่างนี้ขับเร็ว 200 ก็โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนขับ 80 สิครับ เพราะใช้เวลาอยู่บนถนนไม่ถึงครึ่งของคนที่ขับ 80
กินก๋วยเตี๋ยวริมถนนเร็วๆ ซดเสียงดัง ขี้เมาเจ้าถิ่นอาจรำคาญเสียงซดน้ำก๋วยเตี๋ยวลุกขึ้นมากระซวกให้ก็ได้นะครับ
สำคัญที่สุดคือการทำอะไรให้มีสติ และไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงครับ
-
บางที ธรรมชาติเค้าคงคัดกรอง อะไรบางอย่างที่ไม่เหมาะสมออกไปบ้าง เกิดแก่เจ็บตาย เรื่องปกติ RIP ครับ
-
555 สมน้ำหน้า ตายไปดีละ
-
อยากเห็นยี่ห้อยางที่ใช้จริงๆ อะไรทำให้มั่นใจว่าจะซัดหนักๆบนถนนเปียกฝนตจว.ได้ขนาดนั้น
RIP ไม่คาดเข็มขัดใช่ไหมหนะ 8)
ล้อพร้อมยาง 9,900 เร้าๆครับ (ขำๆนะครับ) คุณภาพไม่ต้องสืบ
ของศูนย์ทั้งทนกว่าเบากว่าไม่เอา ไปเอาของจีนซะงั้น จะเปลี่ยนทั้งทีใส่ของแท้เถอะครับ งบไม่ถึงก็ลดสเป๊คลงหน่อย
-
ตกปรอยๆนี่แหละอันตราย ฝุ่นที่อยู่บนถนนโดนน้ำก็กลายเป็นโคลนลื่นๆ
-
ดูตามคลิปพี่แกอัดโค้งมาไม่มีผ่อนเลย สงสารคนอื่นขับรถมาดีๆต้องมาซวยไปด้วย
-
เห็นรูปจาก FB โครงสร้างยวบเกินไป เสา A เสียรูป ทั้งที่ไม่ได้ปะทะอะไรหนัก สมยี่ห้อ ซื้อ เครื่อง+เกียร์ แถมบอดี้รถ หุหุ
คนขับกระบะ 57 แล้วน่ะครับ เหตุนึงคงขับช้าตามวัย และในจุดเกิเหตุเขตชุมชนด้วยน่ะครับ แถมใกล้ รร. ป้ายแถวนั้นจำกัดที่ 50 เองครับ
ผมเห็นในข้อมูลคือพลิกคว่ำหลายตลบครับมันก็สมควรที่จะยับเยินเช่นนี้มั้ยครับ แต่ทั้งนี้ฮอนด้าขึ้นชื่อตัวถังไม่แข็งแรงแบบ เวลา อุบัติเหตุฉีกขาดเป็นกระดาษง่าย ขาดครึ่งนี้เห็นบ่อยมากครับ ส่วนขับในเขตชุมชนยังขับเร็วขนาดนี้ อย่าอยู่บนโลกเลย เดี๋ยวไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเค้าอีกครับ กลัวไปชนใครเข้า
-
น่าจะมาเร็วมากๆเลยนะครับ ความคึกคะนอง ความประมาท มากกว่า ฝีมือและรถ ก็จบแบบนี้
เสียใจด้วยครับ
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
ตรรกะที่คนมักจะบอกว่าป่วยของผมคือ
ถนนเป็นที่ๆอันตราย การอยู่บนถนนยิ่งนานแค่ไหนก็ยิ่งเสี่ยง
กระบะอีกคันที่แซงคันกล้องไป ก็ปลอดภัยดีนะครับ
แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวกระบะคันทีแซงเจ้าของกล้องไป ก็จะไปประสบอุบัติเหตุข้างหน้าอยู่ดี
ป่าวเลย ถ้าขับปกติ ให้ถึงทีาหมายปกติ ก็ลดความเสี่ยงภัยบนท้องถนนได้มากกว่าที่เราจะอยู่บนท้องถนนให้นานกว่าปกติจริงไหม พูดง่ายๆว่า คันกล้องน่ะ "ขับช้าเกินไป"
ถ้าไม่เชื่อสถิตินี้
อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วแต่ดวง.... งั้นจะขับช้า หรือ เร็ว ก็ผลเท่ากันนะครับ
จะ 100 90 80 70 60 หาร 60 ผลที่ได้ย่อมต่างกัน
ผมคิดของผมเล่นๆแบบนี้ อย่าซีเรียสกับผมเลยครับ
คนมันจะซวยนะ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนน จะกินเร็วกว่า จะนั่งแช่คุยกับเพื่อน ก็มีโอกาสเสี่ยงพอๆกันเช่นกัน แต่เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็สามารถคำนวนตามตัวเลขได้อีกเช่นกัน
นาย ก นั่งกิน 15 นาทีแล้วลุกกลับบ้าน
นาย ข นาย ค นั่งกิน 15 นาทีแล้วคุยต่อ อีก 15 นาที
นาย ข นาย ค มีความเสี่ยงที่จะโดนคนหลับใน ยางแตก รถลื่น รถตัดหน้า รถหลบคนข้ามถนน มอไซค์เกี่ยวกัน พุ่งเข้ามาชนมากกว่านาย ก ถึง 50% เลยทีเดียว
คุณตรรกะป่วยอย่างที่คนอี่นบอกจริงๆนั่นแหละ
ถ้าใช้เวลาอยู่บนถนนน้อยหมายถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยลงจริงอย่างที่คุณเข้าใจ อย่างนี้ขับเร็ว 200 ก็โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนขับ 80 สิครับ เพราะใช้เวลาอยู่บนถนนไม่ถึงครึ่งของคนที่ขับ 80
กินก๋วยเตี๋ยวริมถนนเร็วๆ ซดเสียงดัง ขี้เมาเจ้าถิ่นอาจรำคาญเสียงซดน้ำก๋วยเตี๋ยวลุกขึ้นมากระซวกให้ก็ได้นะครับ
สำคัญที่สุดคือการทำอะไรให้มีสติ และไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงครับ
ใช่ครับ ยอมรับว่าป่วยนะ
แต่ที่ผมยกตัวอย่าง ก็แค่ 60-100
การขับรถ 200 มันก็ไม่ได้อยู่ในตรรกะของผมเช่นกันครับ
ขับ 200 ก็เหมือนกับซดก๋วยเตี๋ยวเสียงดังที่คุณตั้งขึ้นมาเป็นตัวแปรแหละ
การรีบซด จริงอยู่ อาจจะกินเสร็จเร็วกว่าตัวแปรที่ผมยกตัวอย่างอีก 5 นาที แต่ก็อย่างที่คุณบอกแหละ เสียงดังจนเจ้าถิ่นรำคาญ เอามีดกระซวกตายก็ได้
ถ้าเปรียบกับความเร็ว 200 ยางแตก เบรคไม่อยู่ รถตัดหน้า ก็ตายได้เช่นกัน
เอาแค่พองามครับ ตัวเลขไม่เคยหลอกใคร
ช้าไป หรือเร็วไป มันก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้น
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
ตรรกะที่คนมักจะบอกว่าป่วยของผมคือ
ถนนเป็นที่ๆอันตราย การอยู่บนถนนยิ่งนานแค่ไหนก็ยิ่งเสี่ยง
กระบะอีกคันที่แซงคันกล้องไป ก็ปลอดภัยดีนะครับ
แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวกระบะคันทีแซงเจ้าของกล้องไป ก็จะไปประสบอุบัติเหตุข้างหน้าอยู่ดี
ป่าวเลย ถ้าขับปกติ ให้ถึงทีาหมายปกติ ก็ลดความเสี่ยงภัยบนท้องถนนได้มากกว่าที่เราจะอยู่บนท้องถนนให้นานกว่าปกติจริงไหม พูดง่ายๆว่า คันกล้องน่ะ "ขับช้าเกินไป"
ถ้าไม่เชื่อสถิตินี้
อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วแต่ดวง.... งั้นจะขับช้า หรือ เร็ว ก็ผลเท่ากันนะครับ
จะ 100 90 80 70 60 หาร 60 ผลที่ได้ย่อมต่างกัน
ผมคิดของผมเล่นๆแบบนี้ อย่าซีเรียสกับผมเลยครับ
คนมันจะซวยนะ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนน จะกินเร็วกว่า จะนั่งแช่คุยกับเพื่อน ก็มีโอกาสเสี่ยงพอๆกันเช่นกัน แต่เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็สามารถคำนวนตามตัวเลขได้อีกเช่นกัน
นาย ก นั่งกิน 15 นาทีแล้วลุกกลับบ้าน
นาย ข นาย ค นั่งกิน 15 นาทีแล้วคุยต่อ อีก 15 นาที
นาย ข นาย ค มีความเสี่ยงที่จะโดนคนหลับใน ยางแตก รถลื่น รถตัดหน้า รถหลบคนข้ามถนน มอไซค์เกี่ยวกัน พุ่งเข้ามาชนมากกว่านาย ก ถึง 50% เลยทีเดียว
คุณตรรกะป่วยอย่างที่คนอี่นบอกจริงๆนั่นแหละ
ถ้าใช้เวลาอยู่บนถนนน้อยหมายถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยลงจริงอย่างที่คุณเข้าใจ อย่างนี้ขับเร็ว 200 ก็โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนขับ 80 สิครับ เพราะใช้เวลาอยู่บนถนนไม่ถึงครึ่งของคนที่ขับ 80
กินก๋วยเตี๋ยวริมถนนเร็วๆ ซดเสียงดัง ขี้เมาเจ้าถิ่นอาจรำคาญเสียงซดน้ำก๋วยเตี๋ยวลุกขึ้นมากระซวกให้ก็ได้นะครับ
สำคัญที่สุดคือการทำอะไรให้มีสติ และไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงครับ
555+
ตรรกะของพี่เขาไม่ครบครับ
เวลา กับ ความเร็ว แค่ 2 อย่างมันไม่พอ มันมีปัจจัยความเสี่ยงเพิ่มขึ้นครับ
ถ้า
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเสี่ยงลดลง 1 หน่วย
. (1)
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเร็วจะเพิ่มขึ้น 1 หน่วย
. (2)
> ความเร็วเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
(3)
> จาก (2), (3) แทนค่าใน 1 จะได้ว่า
>> เวลาลดลง 1 หน่วย (ด้วยการเพิ่มความเร็ว) กลับทำให้ความเสี่ยง
เพิ่มมากกว่าเดิมเป็น 2 หน่วย
แต่
. ด้วยตรรกะ ของพี่เค้าที่ว่า เวลาลดลง ความเสี่ยงลดลง
> เมื่อ ความเร็ว = ระยะทาง / เวลา
> หรือ เวลา = ระยะทาง / ความเร็ว
ดังนั้น ถ้าอยากลดเวลาอยู่บนถนน ก็ควรจะลดระยะทางในการเดินทาง
ดีกว่าเพิ่มความเร็วในการเดินทางครับ
เช่น แทนที่จะออกไปไหนต่อไหน ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องไป ประชุมออนไลน์ เท่าที่จะทำได้
ความเสี่ยงก็ลดลงแล้ว ในทางกลับกัน ถ้ายังจะตะลอนไปไหนต่อไหน ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
แต่ตะบี้ตะบันจะขับให้เร็ว เฆี่ยนให้เร็ว โดยหวังว่าระยะเวลาบนถนนจะลด แล้วความเสี่ยงจะลดลง
มันดูจะแปลกไปครับ
-
เหมือนหลับในหรือป่าว ?
แต่สภาพรถก็ครบสูตร ล้อซิ่ง ท่อดัง ขนาดรถมีสัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัด ยังไม่คาดเลย หุหุ
ฮอนด้าแดงด้วย หุหุ
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
ตรรกะที่คนมักจะบอกว่าป่วยของผมคือ
ถนนเป็นที่ๆอันตราย การอยู่บนถนนยิ่งนานแค่ไหนก็ยิ่งเสี่ยง
กระบะอีกคันที่แซงคันกล้องไป ก็ปลอดภัยดีนะครับ
แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวกระบะคันทีแซงเจ้าของกล้องไป ก็จะไปประสบอุบัติเหตุข้างหน้าอยู่ดี
ป่าวเลย ถ้าขับปกติ ให้ถึงทีาหมายปกติ ก็ลดความเสี่ยงภัยบนท้องถนนได้มากกว่าที่เราจะอยู่บนท้องถนนให้นานกว่าปกติจริงไหม พูดง่ายๆว่า คันกล้องน่ะ "ขับช้าเกินไป"
ถ้าไม่เชื่อสถิตินี้
อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วแต่ดวง.... งั้นจะขับช้า หรือ เร็ว ก็ผลเท่ากันนะครับ
จะ 100 90 80 70 60 หาร 60 ผลที่ได้ย่อมต่างกัน
ผมคิดของผมเล่นๆแบบนี้ อย่าซีเรียสกับผมเลยครับ
คนมันจะซวยนะ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนน จะกินเร็วกว่า จะนั่งแช่คุยกับเพื่อน ก็มีโอกาสเสี่ยงพอๆกันเช่นกัน แต่เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็สามารถคำนวนตามตัวเลขได้อีกเช่นกัน
นาย ก นั่งกิน 15 นาทีแล้วลุกกลับบ้าน
นาย ข นาย ค นั่งกิน 15 นาทีแล้วคุยต่อ อีก 15 นาที
นาย ข นาย ค มีความเสี่ยงที่จะโดนคนหลับใน ยางแตก รถลื่น รถตัดหน้า รถหลบคนข้ามถนน มอไซค์เกี่ยวกัน พุ่งเข้ามาชนมากกว่านาย ก ถึง 50% เลยทีเดียว
คุณตรรกะป่วยอย่างที่คนอี่นบอกจริงๆนั่นแหละ
ถ้าใช้เวลาอยู่บนถนนน้อยหมายถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยลงจริงอย่างที่คุณเข้าใจ อย่างนี้ขับเร็ว 200 ก็โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนขับ 80 สิครับ เพราะใช้เวลาอยู่บนถนนไม่ถึงครึ่งของคนที่ขับ 80
กินก๋วยเตี๋ยวริมถนนเร็วๆ ซดเสียงดัง ขี้เมาเจ้าถิ่นอาจรำคาญเสียงซดน้ำก๋วยเตี๋ยวลุกขึ้นมากระซวกให้ก็ได้นะครับ
สำคัญที่สุดคือการทำอะไรให้มีสติ และไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงครับ
555+
ตรรกะของพี่เขาไม่ครบครับ
เวลา กับ ความเร็ว แค่ 2 อย่างมันไม่พอ มันมีปัจจัยความเสี่ยงเพิ่มขึ้นครับ
ถ้า
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเสี่ยงลดลง 1 หน่วย
. (1)
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเร็วจะเพิ่มขึ้น 1 หน่วย
. (2)
> ความเร็วเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
(3)
> จาก (2), (3) แทนค่าใน 1 จะได้ว่า
>> เวลาลดลง 1 หน่วย (ด้วยการเพิ่มความเร็ว) กลับทำให้ความเสี่ยง
เพิ่มมากกว่าเดิมเป็น 2 หน่วย
แต่
. ด้วยตรรกะ ของพี่เค้าที่ว่า เวลาลดลง ความเสี่ยงลดลง
> เมื่อ ความเร็ว = ระยะทาง / เวลา
> หรือ เวลา = ระยะทาง / ความเร็ว
ดังนั้น ถ้าอยากลดเวลาอยู่บนถนน ก็ควรจะลดระยะทางในการเดินทาง
ดีกว่าเพิ่มความเร็วในการเดินทางครับ
เช่น แทนที่จะออกไปไหนต่อไหน ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องไป ประชุมออนไลน์ เท่าที่จะทำได้
ความเสี่ยงก็ลดลงแล้ว ในทางกลับกัน ถ้ายังจะตะลอนไปไหนต่อไหน ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
แต่ตะบี้ตะบันจะขับให้เร็ว เฆี่ยนให้เร็ว โดยหวังว่าระยะเวลาบนถนนจะลด แล้วความเสี่ยงจะลดลง
มันดูจะแปลกไปครับ
ไม่เป็นไรครับน้อง พี่ไม่ซีเรียส ในเมื่อพี่ยอมรับของพี่เองว่าป่วย
ชีวิตพี่สนุกกับการขับรถครับ วันธรรมดา พี่ก็ทำงานประจำ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พี่ก็ขับไปเที่ยว(จริงก็ขับไปทำงานเสริม) ปากช่อง พัทยา และหัวหิน พี่ก็ขับอยู่แค่ 100-120 นี่แหละครับ
แค่บางครั้งเห็นคนขับช้ามากๆ มากซะจน เมื่อไหร่จะถึงจุดหมาย เลยคิดตรรกะบ้าๆบอๆแบบนี้ขึ้นมาได้
จริงๆแล้ว คนจะโดนนะครับ จะช้า หรือ เร็ว ยังไงก็โดนครับ ตรงหน้าแดลี่โฮมเมื่อหลายปีก่อน พี่เคยนัดเพื่อนไว้ที่ร้านอาหาร 4 คันครับที่ขับมาจากกรุงเทพ
มี รถหัวลากกระดาษดัง เบรคแตก ชนเลนตัวเอง แล้วลูกพ่วงข้ามไปชนชาวบ้านอีก ชนชาวบ้านเละเทะเลยครับ มีคนตายหลายศพ
2 คันแรก คือพี่ กับรถเพื่อน ถึงบ้านก่อนอีก 2 คัน และกำลังจะไปจองร้านอาหาร รถเพื่อนพี่คือ ออกไปถึงร้านอาหารแถวครูต้อแล้ว
รถพี่กำลังจะเลี้ยวออกมาจากถนนผ่านศึก ซึ่งไอ้หัวลากผ่านหน้าพี่พอดี
ส่วนเพื่อนพี่ที่ตามมาอีก 2 คัน คันนึง กำลังจะได้กลับรถบนเนิน เจ้าหัวลาก ก็ลงมาพอดี
ส่วนคันสุดท้าย ไม่ได้กินข้าวเย็นกับพวกพี่ครับ เพราะรถติดแหง็ก ตอนนั้นเค้าพ้นจากโรงปูนมา
4 คันนี้ ถ้ามีใครเร็ว หรือ ช้าต่างกันแค่ 3-10 นาที อาจจะเป็นผู้โชคร้ายก็ได้ครับ แต่พี่คิดว่า พี่ ใกล้เคียงที่สุดแล้วล่ะ
-
อย่ามั่นใจช่วงล่างมากนักฝนตกด้วย ในชุมชนอีกต่างหาก ตายไม่รุตัว อาไอพี :-X
-
เห็นแล้วปลงครับ :'( ไม่ว่าขับยี่ห้ออะไรก็ตายได้ ถ้าขับด้วยความเร็วและขาดความระมัดระวังโดยประมาท
-
ใน Social media เห็นเยอะครับ ที่เป็น feature ขับจาก 80 แล้วตัดมาภาพมาที่ 200+ ตามจังหวะเพลงในเสี้ยววินาที และที่สำคัญคือ คนพวกนี้มือนึงขับ มือนึงถือโทรศัพท์ถ่ายความเร็วครับ
-
นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
ตรรกะที่คนมักจะบอกว่าป่วยของผมคือ
ถนนเป็นที่ๆอันตราย การอยู่บนถนนยิ่งนานแค่ไหนก็ยิ่งเสี่ยง
กระบะอีกคันที่แซงคันกล้องไป ก็ปลอดภัยดีนะครับ
แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวกระบะคันทีแซงเจ้าของกล้องไป ก็จะไปประสบอุบัติเหตุข้างหน้าอยู่ดี
ป่าวเลย ถ้าขับปกติ ให้ถึงทีาหมายปกติ ก็ลดความเสี่ยงภัยบนท้องถนนได้มากกว่าที่เราจะอยู่บนท้องถนนให้นานกว่าปกติจริงไหม พูดง่ายๆว่า คันกล้องน่ะ "ขับช้าเกินไป"
ถ้าไม่เชื่อสถิตินี้
อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วแต่ดวง.... งั้นจะขับช้า หรือ เร็ว ก็ผลเท่ากันนะครับ
จะ 100 90 80 70 60 หาร 60 ผลที่ได้ย่อมต่างกัน
ผมคิดของผมเล่นๆแบบนี้ อย่าซีเรียสกับผมเลยครับ
คนมันจะซวยนะ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนน จะกินเร็วกว่า จะนั่งแช่คุยกับเพื่อน ก็มีโอกาสเสี่ยงพอๆกันเช่นกัน แต่เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็สามารถคำนวนตามตัวเลขได้อีกเช่นกัน
นาย ก นั่งกิน 15 นาทีแล้วลุกกลับบ้าน
นาย ข นาย ค นั่งกิน 15 นาทีแล้วคุยต่อ อีก 15 นาที
นาย ข นาย ค มีความเสี่ยงที่จะโดนคนหลับใน ยางแตก รถลื่น รถตัดหน้า รถหลบคนข้ามถนน มอไซค์เกี่ยวกัน พุ่งเข้ามาชนมากกว่านาย ก ถึง 50% เลยทีเดียว
คุณตรรกะป่วยอย่างที่คนอี่นบอกจริงๆนั่นแหละ
ถ้าใช้เวลาอยู่บนถนนน้อยหมายถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยลงจริงอย่างที่คุณเข้าใจ อย่างนี้ขับเร็ว 200 ก็โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนขับ 80 สิครับ เพราะใช้เวลาอยู่บนถนนไม่ถึงครึ่งของคนที่ขับ 80
กินก๋วยเตี๋ยวริมถนนเร็วๆ ซดเสียงดัง ขี้เมาเจ้าถิ่นอาจรำคาญเสียงซดน้ำก๋วยเตี๋ยวลุกขึ้นมากระซวกให้ก็ได้นะครับ
สำคัญที่สุดคือการทำอะไรให้มีสติ และไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงครับ
555+
ตรรกะของพี่เขาไม่ครบครับ
เวลา กับ ความเร็ว แค่ 2 อย่างมันไม่พอ มันมีปัจจัยความเสี่ยงเพิ่มขึ้นครับ
ถ้า
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเสี่ยงลดลง 1 หน่วย
. (1)
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเร็วจะเพิ่มขึ้น 1 หน่วย
. (2)
> ความเร็วเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
(3)
> จาก (2), (3) แทนค่าใน 1 จะได้ว่า
>> เวลาลดลง 1 หน่วย (ด้วยการเพิ่มความเร็ว) กลับทำให้ความเสี่ยง
เพิ่มมากกว่าเดิมเป็น 2 หน่วย
แต่
. ด้วยตรรกะ ของพี่เค้าที่ว่า เวลาลดลง ความเสี่ยงลดลง
> เมื่อ ความเร็ว = ระยะทาง / เวลา
> หรือ เวลา = ระยะทาง / ความเร็ว
ดังนั้น ถ้าอยากลดเวลาอยู่บนถนน ก็ควรจะลดระยะทางในการเดินทาง
ดีกว่าเพิ่มความเร็วในการเดินทางครับ
เช่น แทนที่จะออกไปไหนต่อไหน ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องไป ประชุมออนไลน์ เท่าที่จะทำได้
ความเสี่ยงก็ลดลงแล้ว ในทางกลับกัน ถ้ายังจะตะลอนไปไหนต่อไหน ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
แต่ตะบี้ตะบันจะขับให้เร็ว เฆี่ยนให้เร็ว โดยหวังว่าระยะเวลาบนถนนจะลด แล้วความเสี่ยงจะลดลง
มันดูจะแปลกไปครับ
ไม่เป็นไรครับน้อง พี่ไม่ซีเรียส ในเมื่อพี่ยอมรับของพี่เองว่าป่วย
ชีวิตพี่สนุกกับการขับรถครับ วันธรรมดา พี่ก็ทำงานประจำ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พี่ก็ขับไปเที่ยว(จริงก็ขับไปทำงานเสริม) ปากช่อง พัทยา และหัวหิน พี่ก็ขับอยู่แค่ 100-120 นี่แหละครับ
แค่บางครั้งเห็นคนขับช้ามากๆ มากซะจน เมื่อไหร่จะถึงจุดหมาย เลยคิดตรรกะบ้าๆบอๆแบบนี้ขึ้นมาได้
จริงๆแล้ว คนจะโดนนะครับ จะช้า หรือ เร็ว ยังไงก็โดนครับ ตรงหน้าแดลี่โฮมเมื่อหลายปีก่อน พี่เคยนัดเพื่อนไว้ที่ร้านอาหาร 4 คันครับที่ขับมาจากกรุงเทพ
มี รถหัวลากกระดาษดัง เบรคแตก ชนเลนตัวเอง แล้วลูกพ่วงข้ามไปชนชาวบ้านอีก ชนชาวบ้านเละเทะเลยครับ มีคนตายหลายศพ
2 คันแรก คือพี่ กับรถเพื่อน ถึงบ้านก่อนอีก 2 คัน และกำลังจะไปจองร้านอาหาร รถเพื่อนพี่คือ ออกไปถึงร้านอาหารแถวครูต้อแล้ว
รถพี่กำลังจะเลี้ยวออกมาจากถนนผ่านศึก ซึ่งไอ้หัวลากผ่านหน้าพี่พอดี
ส่วนเพื่อนพี่ที่ตามมาอีก 2 คัน คันนึง กำลังจะได้กลับรถบนเนิน เจ้าหัวลาก ก็ลงมาพอดี
ส่วนคันสุดท้าย ไม่ได้กินข้าวเย็นกับพวกพี่ครับ เพราะรถติดแหง็ก ตอนนั้นเค้าพ้นจากโรงปูนมา
4 คันนี้ ถ้ามีใครเร็ว หรือ ช้าต่างกันแค่ 3-10 นาที อาจจะเป็นผู้โชคร้ายก็ได้ครับ แต่พี่คิดว่า พี่ ใกล้เคียงที่สุดแล้วล่ะ
ครับพี่ จริงๆ ผมเข้าใจนะ ที่พี่จะสื่อคือ
1. การใช้ความเร็วตามการจราจรในขณะนั้น ให้ลื่นไหลไปตามกระแส ภายใต้กฎจราจร
อันนั้นคือดีที่สุด เพราะถ้าเราขับช้ากว่ากระแส มันจะทำให้รถคันอื่นๆ ต้องเบี่ยง ต้องแซง
กันวุ่นวาย เกิด turbulence ขึ้น หรือในทางกลับกันในขณะที่รถคันอื่นๆ วิ่งตามกันไป
แต่เรากลับพยายามจะเร็วกว่า ทำให้เกิดการมุด การแทรก อันนี้ก็อันตราย
2. จะช้า จะเร็ว ถ้าเหตุมันบังเอิญจะเกิด จะโดน มันก็โดน อันนี้มันก็จริงอ่ะครับ แต่เอาว่าถ้าเรา
ทำดีสุดแล้ว มีสติ ไม่ประมาทแล้ว มันก็สุดวิสัยจริงๆ ครับ
แต่ก็นะ อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราทุกคน พยายามช่วยกันระวัง ทุกคัน ทุกคน มีวินัย โอกาสจะเกิด
เรื่องสุดวิสัยคงน้อยลงมาก แม้คนประมาทจะมีสัดส่วนน้อยกว่าคนมีวินัยก็จริง แต่คนส่วนน้อย
เหล่านี้ก็สร้างปัญหาใหญ่ ที่กระทบคนหมู่มากๆ ได้ครับ
-
เห็นป้ายแดงหลายคันเอาล้อ ไปเทินเป็นยางจีน แม็กก็อป นึกแล้วเสียดายบางคันล้อ enkei ยางก็ michelin สะด้วย
-
เห็นป้ายแดงหลายคันเอาล้อ ไปเทินเป็นยางจีน แม็กก็อป นึกแล้วเสียดายบางคันล้อ enkei ยางก็ michelin สะด้วย
ถ้าติดรถ City รุ่นนี้ เป็น ยาง Maxxis MA-P3 สุดห่วยครับ ถ้าตัว RS จะเป็น Yokohama Bluearth AE50 ครับ
แต่นั่นแหละ เห็นหลายคัน ชอบเทิร์นล้อลายสวยๆ (แต่ของ copy) กับยางจีน ยาง % เห็นแล้ว อนาถใจ
-
เหมือนหลับในหรือป่าว ?
แต่สภาพรถก็ครบสูตร ล้อซิ่ง ท่อดัง ขนาดรถมีสัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัด ยังไม่คาดเลย หุหุ
เดาว่าน่าจะเอาหัวเข็มขัดมาเสียบหลอก
หรือไม่ก็ถอดเซ็นเชอร์ครับ
-
คนบางคนคิดว่ารถคันละ 6-7 แสน มันจะซิ่งได้ดีเหมือนในหนังThe Fast
สมัยก่อนถนนแถวบ้านผมมีแลมโบคันละ 30 ล้าน ขับฝ่าฝนมา ยังลงข้างทางไปฟาดเสาขาด 2 ท่อนเลย ข่าวดังมาก
ฉนั้นพวกที่คิดว่ารถตัวเองช่วงล่างดี เจอฝนต้องซิ่งโชว์พาว เดี๋ยวสักวันหนึ่งเถอะ..... ;)
-
คนบางคนคิดว่ารถคันละ 6-7 แสน มันจะซิ่งได้ดีเหมือนในหนังThe Fast
สมัยก่อนถนนแถวบ้านผมมีแลมโบคันละ 30 ล้าน ขับฝ่าฝนมา ยังลงข้างทางไปฟาดเสาขาด 2 ท่อนเลย ข่าวดังมาก
ฉนั้นพวกที่คิดว่ารถตัวเองช่วงล่างดี เจอฝนต้องซิ่งโชว์พาว เดี๋ยวสักวันหนึ่งเถอะ..... ;)
รถมันเหยียบมันส์นะ กล่องคันเร่งพันกว่าบาทสักใบ หรือ ไป remap ไม่กี่พัน ... หูยยยย ไหลๆ พุ่งๆ แป้บๆ 140 นิ่มๆเลย
แต่นั่นคือ เครื่องไง แต่ช่วงล่างเอย เบรคเอย ตรงกันข้ามเลยนะ เซ็ทมาสำหรับ eco car เลยล่ะ
ออกป้ายแดงมาวันแรก เล่นผมซะเกือบแหกโค้ง under บานออกไปอีกเลนนึง ดีที่ไม่มีรถตาม เลยได้ปรับปรุงชุดใหญ่เลย ทั้งยาง ทั้งโช้ค ทั้งสปริง ทั้งเบรค
ขาซิ่ง ถ้าไม่ทำเบรค ทำช่วงล่างนี่ เอาไม่อยู่แน่นอนครับ
-
ก็น่าจะมาเร็วเกิน แล้วเกิด under เข้าโค้งแบบไม่มีเผื่อขาดเผื่อเกิน มันใจสูง