Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: TheBestOrNothing ที่ ตุลาคม 08, 2010, 18:21:07
-
คือเนื่องจากผมเพิ่งสอบเสร็จในวิชาสุดท้าย ที่มหาลัยแถวสยาม วิศวะ ผมกับเพื่อนก็ไป Paragon กันเนื่องจากว่าวันนั้นฝนทำท่าจะตก แล้วก็ต้องย้ายรถเพราะโดนค่าจอดที่มหาลัยมากแล้ววววววว ย้ายไปจอด Paragon มันฟรี 2 ชม ผมเลยบอกเพื่อนๆว่าไปรถเราก็ได้อัดกันไปแปบเดี๋ยวเอง เพื่อนๆก็ตกลง(ตอนแรกเกรงใจ) วันนั้นใช้ E250CGI AV เพราะตอนแรกว่าสอบเสร็จแล้วจะกลับเลย แล้วผมกับเพื่อนรวมทั้งหมด 6-7 คน ก็เข้าไปในรถได้ แล้วก็ไปที่ Paragon กัน
แล้วมีเพื่อนผมคนนึงเค้าเล่าว่า มีเพื่อนที่มหาลัยเดียวกันออก Z4 ใหม่!! แล้ววันนั้นฝนตกหนักมาก จะขอให้ไปส่งที่ จามจุรี Square(จริงๆมันใกล้อะแหละครับแต่วันนั้นคงตกหลักมากมั้งครับ) ก็เป็นกลุ่มเพื่อนๆอะครับ 3-4 คน แต่ทว่าเพื่อนคนที่ขับ Z4 กลับบอกว่า รถกรูนั่งได้แค่2คนวะเสียใจด้วย แล้วก็ขับรถไป? (ทำไมคนเราถึงได้แล้งน้ำใจกันจริงๆ ถ้าเป็นผม ผมจะบอกว่าเดียววนมารับอีกทีละคนก็ได้!!! ) เพื่อนผมคนนี้จึงบอกว่า ไอ้คนที่ขับ Z4 โดนเพื่อนแบน เลย?
ดีนะที่ผมใช้รถ 4 ประตู จึงดู(ไม่ค่อยเห็นแกตัวมั้ง?????)
แค่มาเล่าให้ฟังนะครับ ถ้าผู้ใดเป็นคนขับรถ 2 ประตูใจดีก็ขอชมเชยครับผม
-
2ประตูยี่สิบหน้าต่าง มันก็ไม่ชอบรับคนเหมือนกัน
โดยเฉพาะ รถเมล์ร่วมสายนรกทั้งหลาย เช่น 8 เป็นต้น
-
2ประตูยี่สิบหน้าต่าง มันก็ไม่ชอบรับคนเหมือนกัน
โดยเฉพาะ รถเมล์ร่วมสายนรกทั้งหลาย เช่น 8 เป็นต้น
555 คิดได้ไงครับเนี่ย แต่ก็จริงครับ
-
วีออสผม นั่ง 6 คน ไปเที่ยวสระบุรีกันมาแล้วครับ
หลังจากกลับมา ยิ่งสนิทกันมากขึ้น
แคมรี่ เคยยัดกัน7คนไปเที่ยวพัทยา ก็สนุกดีครับ คุยกันได้ทุกเรื่อง
ดีกว่าแยกกัน2คันเยอะ
และที่สะใจสุดๆ แจ๊ส พับเบาะ
ไปเที่ยวกัน7คน
นั่งล้อมวง สนุกมากๆครับ
แต่ลำบากใจตอนเร่ง กับตอนเบรคเนี้ยแหละครับ
-
สมัยเรียนสิบปีที่แล้ว ผมได้นั่งแต่รถเมล์ 555 ตอนทำงานที่ Toyota ก็ยังนั่งรถเมล์เลย ขนาดเงินเดือนเยอะใช้ได้นะ
สงสัยว่า สมัยนี้ไม่มีรถ จะจีบพวกสาวน่ารักๆ ได้มั๊ยนะ ;D
-
วีออสผม นั่ง 6 คน ไปเที่ยวสระบุรีกันมาแล้วครับ
หลังจากกลับมา ยิ่งสนิทกันมากขึ้น
แคมรี่ เคยยัดกัน7คนไปเที่ยวพัทยา ก็สนุกดีครับ คุยกันได้ทุกเรื่อง
ดีกว่าแยกกัน2คันเยอะ
และที่สะใจสุดๆ แจ๊ส พับเบาะ
ไปเที่ยวกัน7คน
นั่งล้อมวง สนุกมากๆครับ
แต่ลำบากใจตอนเร่ง กับตอนเบรคเนี้ยแหละครับ
โอ้ อ่านแล้ว อยากได้ Jazz เลยอะ รอสอย ไมเนอร์เลย อิอิอิ
-
วีออสผม นั่ง 6 คน ไปเที่ยวสระบุรีกันมาแล้วครับ
หลังจากกลับมา ยิ่งสนิทกันมากขึ้น
แคมรี่ เคยยัดกัน7คนไปเที่ยวพัทยา ก็สนุกดีครับ คุยกันได้ทุกเรื่อง
ดีกว่าแยกกัน2คันเยอะ
และที่สะใจสุดๆ แจ๊ส พับเบาะ
ไปเที่ยวกัน7คน
นั่งล้อมวง สนุกมากๆครับ
แต่ลำบากใจตอนเร่ง กับตอนเบรคเนี้ยแหละครับ
โอ้ อ่านแล้ว อยากได้ Jazz เลยอะ รอสอย ไมเนอร์เลย อิอิอิ
แจ๊ส GD ตัวเก่าครับ
ผมเป็นคนขับ
จำได้ว่า เกียร CVT ด้วย
ทำอัตราสิ้นเปลือง(นั่ง7คน) ได้14km/L ครับ
วิ่ง 120 ตลอดทาง แต่อนเบรคต้องเผื่อระยะประมาณเท่านึง เหอะๆ
รถคันนี้ มีแร๊คหลังคาด้วย
พวกกระเป๋าใบเล็กๆ พวกย่าม เลยจับขนขึ้นหลังคาหมด
พับเบาะ แล้วนั่งลงบนพนักพิงเลย
นั่งล้อมวง กินแซนวิช กินขนม เล่นไพ่ ร้องเพลง
เป็นความทรงจำที่ดีมากๆเลยครับ
-
อ๊าคคคคคค
อยากโดนเพื่อนแบน มั่ง
(แปลว่าอยากได้ Z4 ครับ)
-
ผมว่าจะไปด่าคนขับ Z4 ก็ใช่ที่นะครับ OK คำพูดเขาฟังดูไม่ดี แต่ต้องลองคิดดูนะครับว่า กทม. โดยเฉพาะแถวปทุมวันรถติดขนาดไหน แล้วค่าน้ำมันอีกละครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะไปส่งแค่คนเดียว เช่น รถเรานั่งได้แค่ 2 คน พวกเธอยิงฉุบกันได้มั้ย ผมว่ายุติธรรม แล้วก็ไม่น่าเกลียดมาก ส่วนที่เหลือก็นั่ง Taxi ก็ได้ครับ ไม่กี่ตังค์ (เท่าที่ฟังดู คณะนี้เด็กก็น่าจะพอมีตังค์ละ)
คุณจะขับ Mighty X หรือขับ Continental Flying Spur หรือ Altis มันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการแสดงออกครับ ถ้าเพื่อนคุณรักคุณแค่เพราะคุณพามันนั่งรถได้ ก็ลาขาดละครับ ใครขี่ Wave ก็คงไม่มีเพื่อนมั้ง
อย่าให้การที่คุณมีรถขับ ทำให้คุณรู้สึกรำคาญ หรือเดือดร้อนครับ บางทีก็พูดกับเพื่อนไปตรงๆ เลย แล้วก็อย่าแบ่งแยกเพื่อนด้วย หญิง ชาย ขาว ดำ สวยไม่สวย ทำให้เสมอภาค ไม่มีปัญหาครับ
ผมเรียนต่างจังหวัดครับ และเป็นไม่กี่คนในคณะที่มีรถขับ และก็บังเอิญรถใหญ่กว่าเขาหน่อย (Galant VR-4 ในขณะที่คนอื่นขับรถ subcompact กัน) ถ้าผมไปส่งได้ผมก็ไป หรือทางผ่านผมก็ไป แต่ถ้ามันไม่สะดวก หรือดูท่าทางจะไกล เปลืองน้ำมัน ผมก็บอกตรงๆ ครับว่าค่าน้ำมันไม่ค่อยมี แต่ถ้ามันสุดวิสัยจริงๆ เช่นผู้หญิงอยู่ในที่เปลี่ยวๆ ผมก็ไป
ปฏิเสธได้ครับ แต่อย่าไร้เยื่อใย ดูใจเขา ใจเราด้วย
ปล. ขอโทษที่เขียนรุนแรงไปนิด แต่ผมก็ผ่านอะไรแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน เพียงแต่ในขณะที่เราสนใจความรู้สึกของเพื่อน และอยากแสดงความมีน้ำใจ ลองย้อนกลับไปดูคนจ่ายค่าน้ำมัน (ถ้าคุณยังใช้ทุน พม. อยู่) ถ้าเราสงสารเพื่อน แต่ไม่สงสารคนออกค่าน้ำมัน มันก็ยังไงๆ นะครับ
-
สมัยเรียนผมขี่จักรยาน นั่งได้ 2 คนเหมือนกัน
(เหมือน Z4 เลย)
;D ;D ;D
-
ผมว่าจะไปด่าคนขับ Z4 ก็ใช่ที่นะครับ OK คำพูดเขาฟังดูไม่ดี แต่ต้องลองคิดดูนะครับว่า กทม. โดยเฉพาะแถวปทุมวันรถติดขนาดไหน แล้วค่าน้ำมันอีกละครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะไปส่งแค่คนเดียว เช่น รถเรานั่งได้แค่ 2 คน พวกเธอยิงฉุบกันได้มั้ย ผมว่ายุติธรรม แล้วก็ไม่น่าเกลียดมาก ส่วนที่เหลือก็นั่ง Taxi ก็ได้ครับ ไม่กี่ตังค์ (เท่าที่ฟังดู คณะนี้เด็กก็น่าจะพอมีตังค์ละ)
คุณจะขับ Mighty X หรือขับ Continental Flying Spur หรือ Altis มันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการแสดงออกครับ ถ้าเพื่อนคุณรักคุณแค่เพราะคุณพามันนั่งรถได้ ก็ลาขาดละครับ ใครขี่ Wave ก็คงไม่มีเพื่อนมั้ง
อย่าให้การที่คุณมีรถขับ ทำให้คุณรู้สึกรำคาญ หรือเดือดร้อนครับ บางทีก็พูดกับเพื่อนไปตรงๆ เลย แล้วก็อย่าแบ่งแยกเพื่อนด้วย หญิง ชาย ขาว ดำ สวยไม่สวย ทำให้เสมอภาค ไม่มีปัญหาครับ
ผมเรียนต่างจังหวัดครับ และเป็นไม่กี่คนในคณะที่มีรถขับ และก็บังเอิญรถใหญ่กว่าเขาหน่อย (Galant VR-4 ในขณะที่คนอื่นขับรถ subcompact กัน) ถ้าผมไปส่งได้ผมก็ไป หรือทางผ่านผมก็ไป แต่ถ้ามันไม่สะดวก หรือดูท่าทางจะไกล เปลืองน้ำมัน ผมก็บอกตรงๆ ครับว่าค่าน้ำมันไม่ค่อยมี แต่ถ้ามันสุดวิสัยจริงๆ เช่นผู้หญิงอยู่ในที่เปลี่ยวๆ ผมก็ไป
ปฏิเสธได้ครับ แต่อย่าไร้เยื่อใย ดูใจเขา ใจเราด้วย
ปล. ขอโทษที่เขียนรุนแรงไปนิด แต่ผมก็ผ่านอะไรแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน เพียงแต่ในขณะที่เราสนใจความรู้สึกของเพื่อน และอยากแสดงความมีน้ำใจ ลองย้อนกลับไปดูคนจ่ายค่าน้ำมัน (ถ้าคุณยังใช้ทุน พม. อยู่) ถ้าเราสงสารเพื่อน แต่ไม่สงสารคนออกค่าน้ำมัน มันก็ยังไงๆ นะครับ
คนขับรถ 2 ที่นั่งไปมหาลัยนี่เพื่ออะไรละครับ นอกจากอวดเพื่อน เหอะๆ (เพราะมันคงไม่ใช่รถคันเดียวในบ้านแน่นอน)
คือผมอยากบอกว่าจากคณะ ไปจามจุรี Square มันไม่มีทางรถติดครับ เพราะวิ่งในถนนมหาลัย อีกอย่างมันก็แค่ 400 เมตร แต่คุณลองคิดดูนะครับว่าถ้าเพื่อนคุณไม่มีร่ม แล้วพายุเข้าอย่างวันนั้น คนที่เดินคงคิดว่ามันไกลมากๆ แต่ถ้าขับรถไปก็แปบเดียว อีกอย่างถ้าคุณขับรถช้าลง ไม่ซิ่งเหมือนวัยรุ่นบางคน คุณสามารถรับส่งเพื่อนๆในกรณีนี้ ได้อีกหลายๆคนเลยนะครับ แล้วอีกอย่างถ้าคุณมีรถแล้ว คุณก็ต้องพอมีเงินจำนวนนึงที่เลี้ยงตัวเองได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งได้รถใหม่ขอขับซัก 40 เพื่อนให้ไปส่งก็ไม่ยอม อะไรเช่นนี้
แล้วถ้าสมมติ คุณให้เค้า เป้ายิงชุบ กัน คุณคิดว่าความรู้สึกของคนที่ต้องเดินมันจะเป็นเช่นไร? อาจจะเสียใจแต่ไม่แสดงออกก็ได้
ปล.อันนี้เพียงแค่ต้องการบอกให้ท่านอื่นๆว่า คนเราถ้าช่วยเพื่อนๆเราได้ก็ช่วยครับ เพื่อนนั้นมีความสำคัญมากกว่าน้ำมัน 1 ลิตร นะครับ
-
เคยแบบ
Daewoo nexia h/b ยัดไป 8
Tiida n/b ยัดไป 6 ตอนไปต่างจังหวัด
และก็ปัจจุบัน Triton 4dr. ยัดไป 13 เหลือๆ ครับ อิอิ
-
Z4 นั้น
ผมได้พยายามแล้วครับ และนั่งได้เต็มที่ ไม่เกิน 3 คนจริงๆ
-
OK ครับ สงสัยผมเข้าใจผิดไำปหน่อย นึกว่าศาลาพระเกี้ยวออกไปตึกจาม ต้องออกถนนใหญ่ ถ้าแบบนี้ก็ OK ครับ 400 เมตร
สิ่งที่ผมอยากสื่อก็คือ บางทีเนี่ย เราอาจจะสงสารเพื่อน เอาใจเพื่อน แต่ผมเชื่อว่านักศึกษาหลายคนใช้เงินพ่อแม่เติมน้ำมัน ซึ่งสิ่งที่ผมคิดก็คือ เราน่าจะเอาความรู้สึกของพ่อแม่ที่จ่ายค่าน้ำมันมาประกอบด้วย ไม่ว่าคนๆ นั้นจะรวยขนาดไหน ก็ตาม เพราะยังไง เงินก็คือเงินครับ
อย่างไรก็ตาม ก็ขอเตือนนิดนึงว่า อย่าเอาการที่เรามีรถเป็นจุดขายของเราอย่างเด็ดขาด และทำให้เขา เท่าที่เราสบายใจจะทำก็พอครับ
เพราะผมก็เคยพลาดตอนช่วงเทอมแรกๆ เหมือนกัน ตอนแรกผมยังปฏิเสธไม่ค่อยเป็น ผลคือ ค่าน้ำมันมันไม่พอครับ เพราะทนเสียงอ้อนไม่ไหว (โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง) เสร็จแล้วผมก็ต้องขอค่าน้ำมันเพิ่ม ซึ่งบ้านผมก็ไม่ได้ขัดสนอะไีร แต่ความรู้สึกมันก็แย่พอสมควร
แต่ถ้าคุณจขกท. สามารถบริหารทั้งความคาดหวังของเพื่อน และค่าน้ำมันได้ ผมก็ยินดีด้วยครับ เพราะผมถึงแม้่ที่เป็นช่วงที่ใกล้จะจบ ก็ยังทำไม่ค่อยได้เหมือนกันครับ
ว่าแต่อัดตั้ง 13 คน ใน Nexia พี่ปิงปองไม่เรียกหรือครับ ยิ่งในกทม.
-
เคยแบบ
Daewoo nexia h/b ยัดไป 8
Tiida n/b ยัดไป 6 ตอนไปต่างจังหวัด
และก็ปัจจุบัน Triton 4dr. ยัดไป 13 เหลือๆ ครับ อิอิ
13 คน! ครบทีมเตะบอลเลยครับ ผู้เล่น 11 โค้ช 1 ตัวสำรอง 1
-
เรียนอยู่จุฬาหรอครับ ;D พี่ก็เรียนอยู่เหมือนกาน :D
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
-
เรียนอยู่จุฬาหรอครับ ;D พี่ก็เรียนอยู่เหมือนกาน :D
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับผม
-
มีอยู่ครั้งนึง ผมเห็น Z4 วิ่งในจุฬาฯ คนขับผู้ชาย พาสาวนั่งยัดมาอีก2คน แต่เห็นแล้วอึดอัดแทนครับ
-
มีอยู่ครั้งนึง ผมเห็น Z4 วิ่งในจุฬาฯ คนขับผู้ชาย พาสาวนั่งยัดมาอีก2คน แต่เห็นแล้วอึดอัดแทนครับ
คงไม่ใช่เพื่อน ของเพื่อนผมนะครับ 555
-
Jazz ผมอัด 8 ก็เคยมาแล้วครับ ไม่พับเบาะด้วย
เบาะหน้า 3 เบาะหลัง 4 ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 1 รวมเป็น 8 คนพอดี.. ;D
สมัยนั้นแม็กเดิม ไม่มีติดซุ้มด้วย แต่ขับไม่เกิน 80 :'(
-
มีอยู่ครั้งนึง ผมเห็น Z4 วิ่งในจุฬาฯ คนขับผู้ชาย พาสาวนั่งยัดมาอีก2คน แต่เห็นแล้วอึดอัดแทนครับ
คงไม่ใช่เพื่อน ของเพื่อนผมนะครับ 555
;D ;D
-
เคยเป็นส่วนหนึ่งของมหากาพย์แจ๊สจุฬาฯ อัดจนมีคนต้องไปท้ายรถ ทั้งโฉมใหม่ โฉมเก่า(ครั้งนี้ไปอยู่ท้าย บ๊ายบายคนที่มองด้วย)ครับ
สำหรับคนมีตังซื้อ Z4 หรือ E ใหม่ ค่าน้ำมันคงไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ อีกอย่าง นี่ให้ไปส่งเพื่อนด้วยนะไม่ใช่ใครหน้าไหนก็ไม่รู้ ....
-
จริงๆมันก็พูดยากนะครับกรณีนี้
ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายมี่บ้านจะซื้อรถให้ผม ผมเลือกพรีลูดเพราะผมชอบ ทั้งๆที่ที่บ้านจะให้ซื้อซีวิคเพราะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
แต่ผมคิดว่าถึงพรีลูดจะเป็นรถ 2 ประตูแต่มันก็สามารถนั่งแถวหลังได้ เพียงแต่อาจจะอึดอัดบ้างถ้านั่งไกลๆ
ซึ่งตรงนั้นคนที่จะติดรถไปควรต้องรับได้อยู่แล้วเพราะยังไงก็ดีกว่าเดินหรือต้องจ่ายตังนั่งแท็กซี่ถูกมั๊ยครับ
มีวันนึงพวกผมต้องออกไปทำธุระนอกมหาวิทยาลัย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
ทีนี้ด้วยความที่เกรงใจเพื่อนผมก็จะให้เพื่อนนั่งออกมาด้วยกันนั่นล่ะ แต่ปัญหาคือ คนมีทั้งหมด 6 คน
แน่นอน...ถ้ามันคือซีวิคมันก็พอจะอัดได้ไม่ลำบากนัก แต่นี่มันคือพรีลูด
เพื่อนผมมันก็ดึงดันจะอัดในรถผมโดยนั่งหลังกัน 4 คน ไอ้เรารักรถก็ไม่ค่อยอยากให้นั่งเท่าไหร่ แต่กลัวเพื่อนบ่นเลยยอมๆไป
ทั้งที่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมขับไปแล้วนั่งมากับผมอีกคนนึง ที่เหลือนั่งแท็กซี่ตามไปแล้วผมจะช่วยหารค่าแท็กซี่ด้วย
แต่พวกนั้นก็ไม่เอา บอกจะนั่งรถสปอร์ต ถ้าจะให้นั่งแท็กซี่ก็ให้ผมนั่งแท็กซี่ไป แล้วเอากุญแจรถให้มันไปสิ (เวรล่ะมั๊งคุณเพื่อนครับ)
สรุป...ไอ้คนนั่งหลังถอดรองเท้าแล้วยื่นขามาข้างหน้าลอดตรงช่องกลางมาถึงตรงเกียร์รถผม 2 คน 4 เท้า
เท้าก็เหม็น แล้วคนนั่งเยอะแอร์มันก็เย็นช้า พอเหงื่อออกมันก็บ่นร้อน
สุดท้ายพอลงรถมันยิ่งบ่นหนักกว่าเดิมว่า รู้งี๊นั่งแท็กซี่มาดีกว่า (อ้าวเวร...แล้วทำไมตอนที่ผมเสนอให้นั่งแท็กซี่ตั้งแต่แรกมาทำงกบอกไม่เอาล่ะ)
แล้วอย่างนี้ผมควรต้องโทษตัวเองหรือเปล่าครับว่าทำไมผมถึงไม่ซื้อซีวิคที่มี 4 ประตูเพื่อมาขนเพื่อนไปไหนมาไหน
ในเมื่อรถคันนี้ส่วนใหญ่ผมก็ใช้คนเดียว ที่บ้านมีรถคันอื่นอยู่แล้วถ้าต้องไปไหนทั้งบ้านก็เอาคันอื่นออกได้
แล้วทำไมผมต้องยอมซื้อรถที่ตัวเองไม่ชอบมาใช้เพื่อขนเพื่อน แค่ไม่ถึง 10% ของการใช้รถตลอดอายุรถผมคันนี้
สู้ผมยอมโดนด่าว่าไม่สปอร์ต แล้วได้ใช้รถที่ตัวเองชอบดีกว่า คนอื่นจะว่ายังไงก็ช่างเถอะ
เพราะเวลาที่เค้ามานั่งรถเรา...
เค้าไม่ได้ช่วยออกค่าน้ำมันให้ผม เค้าไม่ได้มาช่วยออกเงินค่าซ่อมช่วงล่างให้ผม
เค้าไม่ได้ต้องมานั่งทำความสะอาดรถของเราที่เค้าทำเปื้อนโดยที่ไม่สนใจเพราะไม่ใช่รถเค้า
บางครั้งมองอะไรมันก็ต้องมองสองมุมครับ . . .
การขับรถสปอร์ตไปมหาวิทยาลัย มันก็ไม่ได้เพื่ออวดเสมอไป อย่างกรณีของผมที่บ้านมีแอคคอร์ดคันนึงแม่ใช้ขับไปทำงานประจำ
ส่วนซีวิคคันนึงพ่อใช้ขับไปทำงานประจำ ดังนั้นการจะเอาคันอื่นๆในบ้านมาใช้ก็คงไม่ได้หรอกครับ
อีกอย่างส่วนใหญ่ผมออกไปเรียนก็ไปคนเดียวกลับคนเดียวอยู่แล้ว เรียนเลิกก็กลับบ้านเลยไม่ได้ไปไหนกับเพื่อนเท่าไหร่เพราะผมไม่ชอบเที่ยวไม่ชอบกินเหล้า
ดังนั้นถึงผมจะเอารถสปอร์ตไปก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรถ 4 ประตูเลยถ้าไม่ได้ขนเพื่อนเป็นประจำจริงมั๊ยครับ
อีกอย่าง...ถึงผมไม่มีรถแต่ผมก็เป็นคนรักษาของทุกชิ้นที่ผมมี บางครั้งผมก็หงุดหงิดที่เวลามีใครยืมของๆผมไปใช้แล้วใช้ไม่ถนอมพอกลับมาคืนก็เสียหาย
พอผมบ่นเข้าหน่อยก็หาว่าผมงก (ถ้างกผมก็ไม่ให้ยืมหรอกครับ ทำไมเค้าไม่คิดบ้างจริงมั๊ยครับ แต่ที่บ่นเพียงเพราะผมให้ยืมโดยคาดหวังว่าเค้าจะใช้อย่างระมัดระวังบ้าง)
ถ้าเป็นกรณีที่ว่าจะติดรถใครไป ถ้าเป็นรถ 2+2 ที่นั่งแล้วมี 5 คน ผมยินดีที่จะแยกไปเองโดยไม่ไปอัดบนรถคนอื่น
นอกเสียจากเจ้าของรถจะออกปากมาเองว่าอัดมาเถอะไม่เป็นไร เพราะรถไม่ใช่บาทสองบาทนะครับ
ของของใครใครก็รัก เพียงแต่อาจจะรักมากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
-
จริงๆมันก็พูดยากนะครับกรณีนี้
ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายมี่บ้านจะซื้อรถให้ผม ผมเลือกพรีลูดเพราะผมชอบ ทั้งๆที่ที่บ้านจะให้ซื้อซีวิคเพราะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
แต่ผมคิดว่าถึงพรีลูดจะเป็นรถ 2 ประตูแต่มันก็สามารถนั่งแถวหลังได้ เพียงแต่อาจจะอึดอัดบ้างถ้านั่งไกลๆ
ซึ่งตรงนั้นคนที่จะติดรถไปควรต้องรับได้อยู่แล้วเพราะยังไงก็ดีกว่าเดินหรือต้องจ่ายตังนั่งแท็กซี่ถูกมั๊ยครับ
มีวันนึงพวกผมต้องออกไปทำธุระนอกมหาวิทยาลัย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
ทีนี้ด้วยความที่เกรงใจเพื่อนผมก็จะให้เพื่อนนั่งออกมาด้วยกันนั่นล่ะ แต่ปัญหาคือ คนมีทั้งหมด 6 คน
แน่นอน...ถ้ามันคือซีวิคมันก็พอจะอัดได้ไม่ลำบากนัก แต่นี่มันคือพรีลูด
เพื่อนผมมันก็ดึงดันจะอัดในรถผมโดยนั่งหลังกัน 4 คน ไอ้เรารักรถก็ไม่ค่อยอยากให้นั่งเท่าไหร่ แต่กลัวเพื่อนบ่นเลยยอมๆไป
ทั้งที่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมขับไปแล้วนั่งมากับผมอีกคนนึง ที่เหลือนั่งแท็กซี่ตามไปแล้วผมจะช่วยหารค่าแท็กซี่ด้วย
แต่พวกนั้นก็ไม่เอา บอกจะนั่งรถสปอร์ต ถ้าจะให้นั่งแท็กซี่ก็ให้ผมนั่งแท็กซี่ไป แล้วเอากุญแจรถให้มันไปสิ (เวรล่ะมั๊งคุณเพื่อนครับ)
สรุป...ไอ้คนนั่งหลังถอดรองเท้าแล้วยื่นขามาข้างหน้าลอดตรงช่องกลางมาถึงตรงเกียร์รถผม 2 คน 4 เท้า
เท้าก็เหม็น แล้วคนนั่งเยอะแอร์มันก็เย็นช้า พอเหงื่อออกมันก็บ่นร้อน
สุดท้ายพอลงรถมันยิ่งบ่นหนักกว่าเดิมว่า รู้งี๊นั่งแท็กซี่มาดีกว่า (อ้าวเวร...แล้วทำไมตอนที่ผมเสนอให้นั่งแท็กซี่ตั้งแต่แรกมาทำงกบอกไม่เอาล่ะ)
แล้วอย่างนี้ผมควรต้องโทษตัวเองหรือเปล่าครับว่าทำไมผมถึงไม่ซื้อซีวิคที่มี 4 ประตูเพื่อมาขนเพื่อนไปไหนมาไหน
ในเมื่อรถคันนี้ส่วนใหญ่ผมก็ใช้คนเดียว ที่บ้านมีรถคันอื่นอยู่แล้วถ้าต้องไปไหนทั้งบ้านก็เอาคันอื่นออกได้
แล้วทำไมผมต้องยอมซื้อรถที่ตัวเองไม่ชอบมาใช้เพื่อขนเพื่อน แค่ไม่ถึง 10% ของการใช้รถตลอดอายุรถผมคันนี้
สู้ผมยอมโดนด่าว่าไม่สปอร์ต แล้วได้ใช้รถที่ตัวเองชอบดีกว่า คนอื่นจะว่ายังไงก็ช่างเถอะ
เพราะเวลาที่เค้ามานั่งรถเรา...
เค้าไม่ได้ช่วยออกค่าน้ำมันให้ผม เค้าไม่ได้มาช่วยออกเงินค่าซ่อมช่วงล่างให้ผม
เค้าไม่ได้ต้องมานั่งทำความสะอาดรถของเราที่เค้าทำเปื้อนโดยที่ไม่สนใจเพราะไม่ใช่รถเค้า
บางครั้งมองอะไรมันก็ต้องมองสองมุมครับ . . .
การขับรถสปอร์ตไปมหาวิทยาลัย มันก็ไม่ได้เพื่ออวดเสมอไป อย่างกรณีของผมที่บ้านมีแอคคอร์ดคันนึงแม่ใช้ขับไปทำงานประจำ
ส่วนซีวิคคันนึงพ่อใช้ขับไปทำงานประจำ ดังนั้นการจะเอาคันอื่นๆในบ้านมาใช้ก็คงไม่ได้หรอกครับ
อีกอย่างส่วนใหญ่ผมออกไปเรียนก็ไปคนเดียวกลับคนเดียวอยู่แล้ว เรียนเลิกก็กลับบ้านเลยไม่ได้ไปไหนกับเพื่อนเท่าไหร่เพราะผมไม่ชอบเที่ยวไม่ชอบกินเหล้า
ดังนั้นถึงผมจะเอารถสปอร์ตไปก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรถ 4 ประตูเลยถ้าไม่ได้ขนเพื่อนเป็นประจำจริงมั๊ยครับ
อีกอย่าง...ถึงผมไม่มีรถแต่ผมก็เป็นคนรักษาของทุกชิ้นที่ผมมี บางครั้งผมก็หงุดหงิดที่เวลามีใครยืมของๆผมไปใช้แล้วใช้ไม่ถนอมพอกลับมาคืนก็เสียหาย
พอผมบ่นเข้าหน่อยก็หาว่าผมงก (ถ้างกผมก็ไม่ให้ยืมหรอกครับ ทำไมเค้าไม่คิดบ้างจริงมั๊ยครับ แต่ที่บ่นเพียงเพราะผมให้ยืมโดยคาดหวังว่าเค้าจะใช้อย่างระมัดระวังบ้าง)
ถ้าเป็นกรณีที่ว่าจะติดรถใครไป ถ้าเป็นรถ 2+2 ที่นั่งแล้วมี 5 คน ผมยินดีที่จะแยกไปเองโดยไม่ไปอัดบนรถคนอื่น
นอกเสียจากเจ้าของรถจะออกปากมาเองว่าอัดมาเถอะไม่เป็นไร เพราะรถไม่ใช่บาทสองบาทนะครับ
ของของใครใครก็รัก เพียงแต่อาจจะรักมากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
น่าเห็นใจนะครับ ที่เพื่อนคุณพูดอย่างงั้นนะครับ เพื่อนผมเค้าก็บอกว่าขอบคุณมากๆที่มาส่ง เลยคนละอารมณ์กันด้วยอะครับ น่าเห็นใจครับที่เราอุตส่าห์ทำดีแต่เพื่อนๆกับพูดจามาเช่นนี้ เหอะๆ
-
รถผม 4 ประตูก็จริง แต่ไม่อยากจะให้นั่งเกิน 3 คนเลยจริงๆ เพราะมันขูดหลังเต่าทุกดอกยันหน้าม. แต่เพื่อเพื่อนก็ยอมได้ นั่ง 4-5 คนทุกที :)
-
คนแต่ละคนคิดไม่เหมือนกันหรอกครับ อันนี้ผมก็ไม่ได้เคืองอะไรเพื่อนผมหรอก
เพราะพอมันบ่นๆกันมาผมก็ย้อนไปว่า
"ก็เมื่อกี๊กูจะให้นั่งแท็กซี่มาพวกมึงก็ไม่เอากันเองนี่หว่า ทั้งที่ถึงกูจะขับรถมากูก็ช่วยหารด้วย แล้วมึงจะเอายังไงกับกูอีกวะ"
(ขอโทษนะครับ ขออนุญาตใช้เสียงในฟิล์ม เพื่ออารมณ์ที่สมจริงเหมือนอยู่ในสถานการณ์นิดนึง 55+)
หลังจากนั้นมาก็เป็นอันรู้กันว่า ถ้ามานั่งรถผม รับมาสุดคือ 4 คนรวมผมด้วย นานๆทีจะมี 5 บ้าง แต่ไม่มี 6 แน่นอน
แต่ถึงจะ 5 ผมก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่หรอกครับ เพราะไอ้คนตรงกลางมันก็จะมาท่าเบสิค คือถอดรองเท้าแล้วยื่นมาให้ผมดมถึงตรงคันเกียร์
สุดท้ายวิธีที่ประนีประนอมที่สุดที่ผมคิดได้ คือ เอาตุ๊กตามาใส่เบาะหลังเต็มเลยครับ แหะๆ ยัดไปไม่ต่ำกว่า 5 ตัว
พอเพื่อนมันจะขึ้นมันก็จะต้องลำบากเคลียร์ที่กัน สุดท้ายมันก็ยอมไปคันอื่น
(กลุ่มผมมันมีรถกันเกินครึ่งกลุ่มอยู่แล้ว แต่ที่มันชอบมานั่งรถผมเพราะมันเป็นรถสปอร์ตเท่าันั้นเอง ไม่ได้เพราะว่าไม่มีรถอะไรกันหรอก)
ที่สำคัญ...เวลารับสาวๆขึ้นรถ ก็จะได้รับเสียงกรี๊ดกร๊าดพร้อมกับเอาตุ๊กตาหลังรถผมไปกอดกันเป็นแถว (แอบอิจฉาตุ๊กตา 55+)
สุดท้ายไม้ตายเด็ดที่สุดเวลาที่เพื่อนมันยืนยันจะยัดตัวลงมารถผมเกิน 5 คนคือ...
"ถ้าโช้คกูพังเหมือนรถไอ้xxx กูจะเก็บตังพวกมึง"
หลังจากนั้นก็ไม่มีคำบ่นมาจากพวกมันอีกเลยครับ
บางทีก็ต้องยอมเป็นคนใจแคบบ้าง เพราะสุดท้ายคนที่เดือดร้อนซ่อมช่วงล่างก็คือเราเอง เพื่อนมันไม่มานั่งช่วยซ่อมหรอก
ถึงรถมันจะ 4 ประตูแต่มันก็ไม่ได้ออกแบบมาให้รับน้ำหนักเยอะๆ 7-8 คนเป็นประจำหรอกครับ
ถ้าคนเยอะก็แบ่งไปคันอื่นกันบ้างเถอะ :-\
-
ผมว่าธรรมดาอยู่แล้วครับใครมันก็อยากนั่งรถแพง
วันนั้นจะไปเชียงใหม่กัน ทีแรกมี 7-8 คนรอขึ้น น้อง3ของผม
ผมก็บอก "มืงจะบ้าเหรอ เมื่อยตายห่าพอดี ให้ไอxxxเอาแคมรี่มันไปด้วยดิ"
ซึ่งตอนนั้นมันก็ไม่กล้าบอกกลัวโดนจับ แล้วไม่ทีผมทำไมมันไม่กลัวกันบ้างว้า ตอนนั้นใบขับขี่ก็ยังไม่มี จนไปๆมาๆ มันตกลง แล้วเดินไปกลับรถมา ไอพวกเพื่อนเวร เดินไปหาแคมรี่กันหมด เหลืออยู่กับผม3คน ถ้าแคมรี่ยังไม่เต็ม มันก็คงทิ้งผมไปหมดแหละ เอาละหว่า เหลือ4คนรวมผม ค่าน้ำมันไปเชียงใหม่จะหนักเกินแน่ เลยรอๆๆๆนางฟ้าใจดีเดินขึ้นรถมาอีกคน 555 ซึ่งน่ารักซะด้วย
โม้มาเยอะและพอดีกว่า
อ่ออีกเรื่องนึง บางครั้งเอารถยนต์ ไปโรงเรียนก็เซ็งได้เหมือนกัน เพราะ
บางครั้งเพื่อนก็ชอบมาบอกว่าไปส่งที่นี่หน่อยๆๆ ซึ่งตัวมันก็ขี่มอไซค์มา
ผมก็ถามว่าทำไมมืงไม่ขี่มอไซค์ไป มันตอบ กุร้อน
ผมก็อยากจะรู้จริงๆว่ามันเป็นคุณหนูกันรึไงออกแดดแค่นี้ไม่ได้ หึหึ
ปล.ขออภัยที่แอบมีเสียงในฟิล์มมาเหมือนกัน
-
ตอนนั้น เพื่อผมมันถอย KE30 มาครับ โดยรวมๆ ใหญ่กว่ามิร่าหน่อยนึง และ เบาะหลังยังต้องเบี่ยงตูดหลบซุ้มล้อด้วย ยัดกัน7คน แต่ละคนไซส์ขนาดเท่าเฮียจิมหรือเล็กกว่าหนอ่ย วิ่งจากม.กรุงเทพวิทยาเขตรังสิต ลงจากรถเดินแทบไม่เป็น......
-
อ่านรายละเอียดแล้ว กรณีนี้ผมก็คงขอแบนเหมือนกันครับ ถ้ามีธุระอื่นก็ว่าไปอย่าง
ผมก็เคยเจอเหตุสุดวิสัยที่จำเป็นต้องขนเพื่อนไปส่งเหมือนกันครับ
ครั้งแรกติวสอบเพลินไปหน่อย แล้วทางเดินก็ค่อนข้างมืด เลยอาสาไปส่งเพื่อน 7 คนที่ห้างสรรพสินค้า โดยอัดกันใน CRV
ครั้งที่สองจะไปกินข้าว แล้วฝนดันเทลงมาเต็มที่ รอ 15 นาทีฝนก็ยังไม่หยุด ก็เลยบอกไปรถผมตอนแรกเพื่อนก็เกรงใจ แต่สุดท้ายผมก็ลากมาจนได้
ทั้งเพื่อนและผมรวมกันก็ 11 คน แต่มา Grandvia พอจอดรถเสร็จลงมาคนมองเพียบเลยครับ
-
จริงๆมันก็พูดยากนะครับกรณีนี้
ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายมี่บ้านจะซื้อรถให้ผม ผมเลือกพรีลูดเพราะผมชอบ ทั้งๆที่ที่บ้านจะให้ซื้อซีวิคเพราะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
แต่ผมคิดว่าถึงพรีลูดจะเป็นรถ 2 ประตูแต่มันก็สามารถนั่งแถวหลังได้ เพียงแต่อาจจะอึดอัดบ้างถ้านั่งไกลๆ
ซึ่งตรงนั้นคนที่จะติดรถไปควรต้องรับได้อยู่แล้วเพราะยังไงก็ดีกว่าเดินหรือต้องจ่ายตังนั่งแท็กซี่ถูกมั๊ยครับ
มีวันนึงพวกผมต้องออกไปทำธุระนอกมหาวิทยาลัย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
ทีนี้ด้วยความที่เกรงใจเพื่อนผมก็จะให้เพื่อนนั่งออกมาด้วยกันนั่นล่ะ แต่ปัญหาคือ คนมีทั้งหมด 6 คน
แน่นอน...ถ้ามันคือซีวิคมันก็พอจะอัดได้ไม่ลำบากนัก แต่นี่มันคือพรีลูด
เพื่อนผมมันก็ดึงดันจะอัดในรถผมโดยนั่งหลังกัน 4 คน ไอ้เรารักรถก็ไม่ค่อยอยากให้นั่งเท่าไหร่ แต่กลัวเพื่อนบ่นเลยยอมๆไป
ทั้งที่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมขับไปแล้วนั่งมากับผมอีกคนนึง ที่เหลือนั่งแท็กซี่ตามไปแล้วผมจะช่วยหารค่าแท็กซี่ด้วย
แต่พวกนั้นก็ไม่เอา บอกจะนั่งรถสปอร์ต ถ้าจะให้นั่งแท็กซี่ก็ให้ผมนั่งแท็กซี่ไป แล้วเอากุญแจรถให้มันไปสิ (เวรล่ะมั๊งคุณเพื่อนครับ)
สรุป...ไอ้คนนั่งหลังถอดรองเท้าแล้วยื่นขามาข้างหน้าลอดตรงช่องกลางมาถึงตรงเกียร์รถผม 2 คน 4 เท้า
เท้าก็เหม็น แล้วคนนั่งเยอะแอร์มันก็เย็นช้า พอเหงื่อออกมันก็บ่นร้อน
สุดท้ายพอลงรถมันยิ่งบ่นหนักกว่าเดิมว่า รู้งี๊นั่งแท็กซี่มาดีกว่า (อ้าวเวร...แล้วทำไมตอนที่ผมเสนอให้นั่งแท็กซี่ตั้งแต่แรกมาทำงกบอกไม่เอาล่ะ)
แล้วอย่างนี้ผมควรต้องโทษตัวเองหรือเปล่าครับว่าทำไมผมถึงไม่ซื้อซีวิคที่มี 4 ประตูเพื่อมาขนเพื่อนไปไหนมาไหน
ในเมื่อรถคันนี้ส่วนใหญ่ผมก็ใช้คนเดียว ที่บ้านมีรถคันอื่นอยู่แล้วถ้าต้องไปไหนทั้งบ้านก็เอาคันอื่นออกได้
แล้วทำไมผมต้องยอมซื้อรถที่ตัวเองไม่ชอบมาใช้เพื่อขนเพื่อน แค่ไม่ถึง 10% ของการใช้รถตลอดอายุรถผมคันนี้
สู้ผมยอมโดนด่าว่าไม่สปอร์ต แล้วได้ใช้รถที่ตัวเองชอบดีกว่า คนอื่นจะว่ายังไงก็ช่างเถอะ
เพราะเวลาที่เค้ามานั่งรถเรา...
เค้าไม่ได้ช่วยออกค่าน้ำมันให้ผม เค้าไม่ได้มาช่วยออกเงินค่าซ่อมช่วงล่างให้ผม
เค้าไม่ได้ต้องมานั่งทำความสะอาดรถของเราที่เค้าทำเปื้อนโดยที่ไม่สนใจเพราะไม่ใช่รถเค้า
บางครั้งมองอะไรมันก็ต้องมองสองมุมครับ . . .
การขับรถสปอร์ตไปมหาวิทยาลัย มันก็ไม่ได้เพื่ออวดเสมอไป อย่างกรณีของผมที่บ้านมีแอคคอร์ดคันนึงแม่ใช้ขับไปทำงานประจำ
ส่วนซีวิคคันนึงพ่อใช้ขับไปทำงานประจำ ดังนั้นการจะเอาคันอื่นๆในบ้านมาใช้ก็คงไม่ได้หรอกครับ
อีกอย่างส่วนใหญ่ผมออกไปเรียนก็ไปคนเดียวกลับคนเดียวอยู่แล้ว เรียนเลิกก็กลับบ้านเลยไม่ได้ไปไหนกับเพื่อนเท่าไหร่เพราะผมไม่ชอบเที่ยวไม่ชอบกินเหล้า
ดังนั้นถึงผมจะเอารถสปอร์ตไปก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรถ 4 ประตูเลยถ้าไม่ได้ขนเพื่อนเป็นประจำจริงมั๊ยครับ
อีกอย่าง...ถึงผมไม่มีรถแต่ผมก็เป็นคนรักษาของทุกชิ้นที่ผมมี บางครั้งผมก็หงุดหงิดที่เวลามีใครยืมของๆผมไปใช้แล้วใช้ไม่ถนอมพอกลับมาคืนก็เสียหาย
พอผมบ่นเข้าหน่อยก็หาว่าผมงก (ถ้างกผมก็ไม่ให้ยืมหรอกครับ ทำไมเค้าไม่คิดบ้างจริงมั๊ยครับ แต่ที่บ่นเพียงเพราะผมให้ยืมโดยคาดหวังว่าเค้าจะใช้อย่างระมัดระวังบ้าง)
ถ้าเป็นกรณีที่ว่าจะติดรถใครไป ถ้าเป็นรถ 2+2 ที่นั่งแล้วมี 5 คน ผมยินดีที่จะแยกไปเองโดยไม่ไปอัดบนรถคนอื่น
นอกเสียจากเจ้าของรถจะออกปากมาเองว่าอัดมาเถอะไม่เป็นไร เพราะรถไม่ใช่บาทสองบาทนะครับ
ของของใครใครก็รัก เพียงแต่อาจจะรักมากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
เอาน่า เราจะได้รู้ไงครับว่าใครมีนิสัยยังไง ใครที่ทำไม่ดีกับเราก็บอกเขาไปตรงๆ เลยก็ได้ครับ แต่ถ้าเราทำอะไรไม่ดี เราก็ขอโทษ แค่นั้นเองครับ เห็นใจนะครับ เพราะรถนี่เวลาซ่อมไม่ถูกเลย แล้วยิ่งคนรักรถนี่ เวลาเข้า Car care ก็แพงอีก
ผมเคยแบบประเภทว่าไปเขาชวนไปผับไปกันเยอะ แต่ผมอ่านเกมได้ว่าประมาณรถไม่พอ ท่าทางจะให้ผมขับรถให้ ผมก็ตอบตามอารมณ์เลยครับ คือถ้าอยากไปก็ไป ถ้าไม่อยากไปก็บอกว่าขี้เกียจครับ ไม่ก็เหนื่อย
ไม่รู้สิครับ ผมเป็นประเภทจิตตั้งมั่นกับคำตอบอยู่แล้วอ่ะครับ คือไม่ก็คือไม่ ต่อให้รุ่นพี่ก็ไม่ (ประเภทชวนไปก้งเหล้า ไม่ไปน่ะ) แต่ถ้าอยากไป ที่ไหน เมื่อไร บอก ตูไปรับ
บางทีก็ต้องยอมเป็นคนใจแคบบ้าง เพราะสุดท้ายคนที่เดือดร้อนซ่อมช่วงล่างก็คือเราเอง เพื่อนมันไม่มานั่งช่วยซ่อมหรอก
ถึงรถมันจะ 4 ประตูแต่มันก็ไม่ได้ออกแบบมาให้รับน้ำหนักเยอะๆ 7-8 คนเป็นประจำหรอกครับ
ถ้าคนเยอะก็แบ่งไปคันอื่นกันบ้างเถอะ :-\
อันนี้ถูกใจมาก เพราะผมช่วงไปเรียนใหม่ๆ ก็ยังไม่สำเร็จวิชานี้เหมือนกัน
-
โชคดีที่ขับ Jazz พกเพื่อนได้ทีละ 5-7 คน แล้วแต่ขนาด 555
ส่วนตัวรักรถเหมือนกันแต่ถ้าเพื่อนอาศัยไปเยอะๆ มันก็สุขใจไปอีกแบบ
แต่ถ้าขับในมอ ผมขอให้เค้าเดินดีกว่า เพราะถ้าอัดไป 8 คน เจอหลังเต่า
ต้องลงจากรถ 4คน แล้วค่อยขึ้นใหม่ 555 เดินไปเร็วกว่านะ ^^
ไม่ใช่ว่า8 คนแล้วขรูดนะครับ แต่ติดเลยแหระ ^^
-
มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนด้วยนะครับ
-
นึกถึงสมัยเรียน มีเพื่อนคนนึงใช้ VW Transporter T3 คงไม่ต้องอธิบายใช่มั้ยว่าเพื่อนรักมันแค่ไหน 555
-
โชคดีที่ขับ Jazz พกเพื่อนได้ทีละ 5-7 คน แล้วแต่ขนาด 555
ส่วนตัวรักรถเหมือนกันแต่ถ้าเพื่อนอาศัยไปเยอะๆ มันก็สุขใจไปอีกแบบ
แต่ถ้าขับในมอ ผมขอให้เค้าเดินดีกว่า เพราะถ้าอัดไป 8 คน เจอหลังเต่า
ต้องลงจากรถ 4คน แล้วค่อยขึ้นใหม่ 555 เดินไปเร็วกว่านะ ^^
ไม่ใช่ว่า8 คนแล้วขรูดนะครับ แต่ติดเลยแหระ ^^
ยาริส เปลี่ยนโช้คนุ่ม อันกันประมาณหกเจ็ดคนใน มธ. ผมก็เคยขับแล้วก็ ขรูดดดด ครับ....ไม่ใช่รถตัวเองซะด้วยไม่รู้เจ้าของมันจะโกรธแฝงไหม :'(
-
ของงี้มันมองกันคนละมุม
เพื่อน : โหแค่นี้ไม่มีน้ำใจ
Z4 : เมิงเหมาแท๊กซี่ไปเที่ยวเดียวคุ้มกว่ามะ
เรื่องแค่นี้อย่าไปถึงกับแบนกันเลย แต่ถ้าเรื่องอื่นๆคนขับ Z4 ไม่มีดีอะไรเลย ก็ค่อยแบนดีกว่า
-
แต่บางคนก็ดีจริงๆ นะครับ (โดยเฉพาะที่ซี้มากๆ) ประเภท
ผม: เฮ้ยไปรถกตูไหม??
เพื่อน: ไม่ต้อง รถมึงเปลืองน้ำมัน ซ้อนมอไซตูไปดีก่า
แบบนี้น่าประทับใจ (แต่ขอโทษ ตูซ้อนแล้วยางมันแบนว่ะ ตูขอโทษ)
-
แจ๊ซคันเก่าผม เคยอัดกัน 11 คนมาแล้วนะครับ
พับเบาะหลังลง นั่งเล่นไพ่กันได้สบาย :D
-
ผมว่าก็ต้องมองต่างมุมด้วยนะ
ถ้าเราเป็นคนชอบรถสปอร์ตสองประตู แล้วเราก็มีโอกาสซื้อมันมาใช้เป็นรถของเรา
ถามว่ามันผิดรึเปล่าครับ ที่รถใช้ในชีวิตประจำวันจะเป็น BMW Z4 หรือรถสองประตูคันอื่น
ในกรณีเดียวกัน ลองสมมติว่าแทนที่จะมีเพื่อนสี่ห้าคน กลายเป็นมีเพื่อนสักสิบสองคน
แล้วเพื่อนทั้งหมดอัดไปใน E-Class ใหม่ทั้งหมดไม่ได้
แต่ดันมีเพื่อนในกลุ่มขับ Alphard ไป แล้วใส่เพื่อนไปได้หมด
เท่ากับว่าคุณจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวถูกเพื่อนแบน แล้วเพื่อนที่ขับรถตู้เป็นพระเอกแทนมั้ยเนี่ย
มันอยู่ที่ว่าเราจะมองมันยังไงครับ
ถ้าผมเป็นขับ Z4 ผมก็คงรับเพื่อนไปคนนึง แล้วออกไปเรียกแท็กซี่เข้ามารับเพื่อนที่เหลือ
แต่คงจะคิดไม่ถึง ที่จะขับรถวนระหว่างจามจุรีสแควร์กับจุฬา 4 รอบเพื่อส่งคนสี่คนด้วย Z4
-
อืม......เป้นเหตุผลที่ถ้าผมรวยจะไม่ซื้อ Z4 แต่จะเอา ออดี้ TT แทนเพราะจุคนได้เยอะกว่าแม้จะแคบก็ตาม....................พูดเหมือนมีปัญญาเลยเรา :P
-
เรื่องรถกับเพื่อนนี่ผมก็อึดอัดอยู่เหมือนกัน บางทีใช้เราให้พาไปโน่น ไปนี่ ใช้เยี่ยงทาส แต่ไม่เคยมีน้ำใจกับเราเลย เมื่อเราไม่พาเขาไปเขาก็ไม่พอใจซะงั้น ไม่รู้จักพึ่งตัวเองบ้าง รถโดยสารก็มีถมไป >:( :(
-
ของงี้มันมองกันคนละมุม
เพื่อน : โหแค่นี้ไม่มีน้ำใจ
Z4 : เมิงเหมาแท๊กซี่ไปเที่ยวเดียวคุ้มกว่ามะ
เรื่องแค่นี้อย่าไปถึงกับแบนกันเลย แต่ถ้าเรื่องอื่นๆคนขับ Z4 ไม่มีดีอะไรเลย ก็ค่อยแบนดีกว่า
เห็นด้วยครับที่ว่า อย่าถึงกับต้องแบนกันเลยครับ Z4 ก็รู้กันอยู่ว่านั้งอย่างมากก็ 3 คน ถ้าผมเป็นคนขับ Z4 จะตัดปัญหาด้วยการ 1.มีเพื่อน 4 คน ก็พาไปทีละ 2 คน 2. จอด Z4 ไว้ที่จุฬา แล้วนั่ง taxi ไปกับเพื่อน หรือถ้ารอ taxi จนฝนตกก็เปียกกับเพื่อนนี่แหละ
เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเอย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริงฯ
-
Update ล่าสุดครับ เพื่อนของเพื่อนผมคนนี้โดนยึด Z4 ให้ขับ Camry ของแม่แทนครับ เหตุผลคือพ่อจับได้ว่าหนีเรียนขับรถพาแฟนไปเที่ยว อันนี้ก็เกินไปนะครับ พ่อแม่อุตส่าห์ให้รถดีๆกับเราแต่เราเอารถ ไปทำอะไร?
-
ว้าๆๆ...ส่วนผมชีวิตนี้ได้ใช้แต่รถกระบะ....อยู่อุตรดิตถ์เคยขับ ไมตี้xไปเล่นน้ำสงกรานต์เชียงใหม่ 3 ร้อยกว่าโล อัดกันไป 13 คนเอง....
ไปเช้าเย็นกลับด้วย...บ้าไปเลย....
ปล.ขาไปเจอรถเกิดอุบัติเหตุก่อนรถผม นาทีเดียวเอง..เลยลงไปช่วยเค้า...เก็บศพด้วย...(ตอนนั้นม.3) ยังจำติดตาได้จนทุกวันนี้เลย....
และก็ภูมิใจ จนทุกวันนี้เช่นกัน ที่ได้ทำตัวมีประโยชน์ อิอิอิ
-
สำหรับผมว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ถูกหรือผิดแบบ 100% หรอกครับ
ต่างคนต่างมีมุมมองของตัวเอง
เจ้าของรถ "ถ้าพวกแกมาอัดกันเยอะๆแล้วรถฉันพังแกจะรับผิดชอบมั๊ย?"
เพื่อนเจ้าของรถ "แค่ไปไม่ไกลมากเอง พาๆไปหน่อยไม่ได้หรอ"
มันดูเหมือนจะถูกทั้งคู่ละครับ เพียงแต่ว่าใครจะใช้คำพูดให้ดูไม่เป็นการ "หักหาญน้ำใจ" อีกฝ่ายยังไงมากกว่า
ถ้าเป็นผม ผมจะเน้นเพื่อนที่"ไม่มี"ยานพาหนะใดๆก่อนครับ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะเดินไกล ฝนตกก็แล้วแต่ คนไม่มีรถจะเสียเปรียบครับ แต่ในกรณีของ z4 คันนี้จะให้อัดกันไปมันก็กระไรอยุ่เพราะรถมันไม่ได้เอื้อในการอัดคนซะเท่าไหร่เลย ผมก็คงต้องขอกันดีๆละครับ ว่าไปไม่ได้จริงๆไม่ใช่มาเหลี่ยงแบบนี้ มันก็น่าโมโหนะ
Update ล่าสุดครับ เพื่อนของเพื่อนผมคนนี้โดนยึด Z4 ให้ขับ Camry ของแม่แทนครับ เหตุผลคือพ่อจับได้ว่าหนีเรียนขับรถพาแฟนไปเที่ยว อันนี้ก็เกินไปนะครับ พ่อแม่อุตส่าห์ให้รถดีๆกับเราแต่เราเอารถ ไปทำอะไร?
ผมเห็นด้วยนะที่โดนแบบนี้ เอารถไปขับ ดันเอาไปทำเท่กะสาวๆซะงั้น แล้วคิดหรอว่าสาวคนนั้นจะรักที่ตัวเราจริงๆหรือเพราะข้าวของของเรา
เฮ้อออออ
-
วีโก้สมาร์ทแค๊บของผมไปเที่ยวกับเพื่อน 6 คนก็นั่งมาแล้ว จากเชียงใหม่ไปน่าน พวกที่นั่งแค๊บก็ผู้หญิงตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ 4 คน คนขับ 1 และนั่งหน้าอีก 1 อิอิอิ
อีกทีนึงไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ อ.ฮอด ขากลับเชียงใหม่ มีเพื่อนที่แยกกันไปขอติดรถกลับด้วย ยัดกัน 7 คนมาแล้วครับ (ในรถกระบะแค๊บ) นั่งหน้าหมดเลย เพราะเป็นหน้าหนาว อากาศหนาวมาก เวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน นั่งกันที่แค๊บ 4 คน เบาะหน้า 2 คนขับอีก 1 คน ซึ่งรอบนี้มีแต่คนตัวถึก ๆ ใหญ่ ๆ ก็ยัดกันเข้าไป 55555+
และทั้ง 2 ที่เป็นทางกันดารสุด ๆ ได้ใช้เกียร์ 4WD ด้วย เลยต้องเอารถผมไป เอิ๊กๆๆๆๆ
:o :o :o
-
ผมคิดในอีกมุมมองหนึ่งนะครับ
ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆ แล้ว ไม่ใช่แค่คนที่เรียนคณะเดียวกันแค่นั้น เรื่องจิบๆ แค่นี้ไม่เอามาคิดให้รกสองหรอกครับ
ที่เขาไม่ให้ขึ้นรถหรือไปส่งเพื่อนๆ.......มีเหตุผลตั้งมากมายดังที่หลายๆ ท่านกล่าวมาแล้ว
และเราไม่ต้องหาเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองมากไปและจะไปโกรธหรือไปเลิกคบกับเรื่องแค่นี้หรอกครับ
เพื่อนกันมันมีอะไรมากกว่าการที่เพื่อนไปส่งนะครับ และเพื่อนจะรู้จักเกรงใจเพื่อนเสมอครับ ;)
แม้เขาเอ่ยปากจะไปส่งเอง..........ผมยังไม่ไปเลยครับ เกรงใจเขาเพราะราคารถมันแพงมากๆ
ทุกวันนี้เพื่อนที่รู้จักกันมามากมาย เหลือที่เราจะคบจริงๆ รู้ใจกันจริงๆก็ไม่เกิน 5 คนหรอกครับ
-
ผมว่าก็ต้องมองต่างมุมด้วยนะ
ถ้าเราเป็นคนชอบรถสปอร์ตสองประตู แล้วเราก็มีโอกาสซื้อมันมาใช้เป็นรถของเรา
ถามว่ามันผิดรึเปล่าครับ ที่รถใช้ในชีวิตประจำวันจะเป็น BMW Z4 หรือรถสองประตูคันอื่น
ในกรณีเดียวกัน ลองสมมติว่าแทนที่จะมีเพื่อนสี่ห้าคน กลายเป็นมีเพื่อนสักสิบสองคน
แล้วเพื่อนทั้งหมดอัดไปใน E-Class ใหม่ทั้งหมดไม่ได้
แต่ดันมีเพื่อนในกลุ่มขับ Alphard ไป แล้วใส่เพื่อนไปได้หมด
เท่ากับว่าคุณจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวถูกเพื่อนแบน แล้วเพื่อนที่ขับรถตู้เป็นพระเอกแทนมั้ยเนี่ย
มันอยู่ที่ว่าเราจะมองมันยังไงครับ
ถ้าผมเป็นขับ Z4 ผมก็คงรับเพื่อนไปคนนึง แล้วออกไปเรียกแท็กซี่เข้ามารับเพื่อนที่เหลือ
แต่คงจะคิดไม่ถึง ที่จะขับรถวนระหว่างจามจุรีสแควร์กับจุฬา 4 รอบเพื่อส่งคนสี่คนด้วย Z4
เห็นด้วยอีกหนึ่งเสียงครับ เราต้องมองหลายๆมุมด้วย
ถ้าเป็นตัวผม ผมมีรถสองประตูราคาขนาดนั้น มันก็อาจจะมีอารมณ์หวงรถบ้าง
แต่ที่แน่ๆ สมัยเรียน ขับโซลูน่า ไม่หวงครับ ขึ้นมาเลยๆ ไม่ว่ากัน แต่พวกคุณเรียนระดับมหาลัยแล้วนะ คุณน่าจะรู้ความสามารถของรถ
และความสะดวกสบายของคุณด้วย ที่จะยัดกันเข้ามา ผมเลยไม่เกิดปัญหา อัดกันเกิน 5 คนครับ
-
ผมว่าขับรถสองประตู ให้วนมารับมันก็ไม่ใช่เรื่องครับ คนเป็นเพื่อนควรจะเกรงใจมากกว่า นั่งแท๊กซี่กันไปซะดีกว่า
ไม่งั้นคงต้องซื้อ Commuter ไป ม. กันพอดี