Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Gunther ที่ กรกฎาคม 15, 2021, 18:47:49
-
ตั้งแต่ Mitsubishi เปิดตัวรุ่น Outlander PHEV ก็มีเทคโนโลยีแบ่งบันพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในรถ EV/Plug-in Hybrid ให้ บ้าน ซึ่งเทคโนโลยีแบบนี้เรียกว่า Dendo Drive House
ซึ่ง Dendo Drive House ก็คือนวัตกรรมระบบนิเวศของพลังงานรูปแบบใหม่ ที่ช่วยบริหารจัดการพลังงานสำหรับบ้านและรถยนต์ ผลิต เก็บ และแบ่งปันพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประกอบไปด้วย
-แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panel)
-แบตเตอรี่ขับเคลื่อนในรถยนต์ EV/PHEV
-เครื่องอัดและจ่ายประจุไฟ (Bi-Directional Charger)
-แบตเตอรี่สำรองภายในบ้าน (Home Battery)
การทำงานของระบบ Dendo Drive House
-แผงโซลาร์เซลล์ เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้ในบ้าน
-เครื่องอัดและจ่ายประจุไฟ ตัวกลางระหว่างรถยนต์และบ้าน ในการดึงพลังงานไฟฟ้ามาใช้
-แบตเตอรี่สำรองภายในบ้าน เป็นแหล่งพลังงานสำรองในบ้าน ในกรณีแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกไม่เพียงพอ
จุดเด่นของระบบ Dendo Drive House
-ลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้า
-มีแหล่งพลังงานสำรองใช้ เมื่อเกิดไฟฟ้าดับ
-ลดค่าใช้จ่าย จากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง (โดยเฉพาะรถยนต์ Plug-in Hybrid)
-เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(https://www.brandbuffet.in.th/wp-content/uploads/2020/12/Dendo-Drive-House-by-Mitsubishi-Motors-Thailand.jpg)
ข้อมูลมาจาก https://www.brandbuffet.in.th/2020/12/dendo-drive-house-by-mitsubishi-motors-thailand/
https://youtu.be/IoejnjjTvEc
ทุกท่านคิดว่า ระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าให้ บ้าน ซึ่งเป็นระบบนิเวศของพลังงานรูปแบบใหม่ ในอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมหรือไม่
และระบบนิเวศรูปแบบใหม่ แบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากยานยนต์ไฟฟ้าให้บ้าน ช่วยลด CO2 ได้หรือไม่และ
ค่ายรถหลายแบรนด์ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าจำหน่ายอยู่ในไทย เช่น (Nissan,MG,GWM ORA,Fomm,Hyundai,Kia) จะทำตามหรือไม่
#สนับสนุนคนไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้า100%ครับ🇹🇭
-
รถยนต์ไฟฟ้าหลายค่ายก็ใช้ระบบนี้ได้อยู่แล้ว แต่ลงทุนกับระบบพวกนี้ไม่ถูกนะครับ
ค่า Home Battery ขนาด 12v จนถึง 500v ราคาต่างกันเป็นล้านนะครับ พร้อมด้วยค่าบำรุงรักษาที่ไม่ถูกแน่ๆ
bi-directional charging ก็หลักแสน
ทำได้ขนาดนี้กับประเทศที่ค่าไฟแบบไทย ผมว่าไม่คุ้ม
แต่อาจจะเหมาะกับประเทศที่ค่าไฟแพงๆ
-
For emergency only ไม่ใช่เอามาใช้แบบนี้ตลอด พัง
-
รถยนต์ไฟฟ้าหลายค่ายก็ใช้ระบบนี้ได้อยู่แล้ว แต่ลงทุนกับระบบพวกนี้ไม่ถูกนะครับ
ค่า Home Battery ขนาด 12v จนถึง 500v ราคาต่างกันเป็นล้านนะครับ พร้อมด้วยค่าบำรุงรักษาที่ไม่ถูกแน่ๆ
bi-directional charging ก็หลักแสน
ทำได้ขนาดนี้กับประเทศที่ค่าไฟแบบไทย ผมว่าไม่คุ้ม
แต่อาจจะเหมาะกับประเทศที่ค่าไฟแพงๆ
ถ้า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีมากขึ้น การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน น่าจะไม่จำเป็นแล้วครับ
ระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าสู่บ้าน ในไทยนั้น
น่าจะเป็นแนวคิดต้นแบบครับ
ระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าสู่บ้านเหมาะกับประเทศโลกที่ 1 (ประเทศพัฒนาแล้ว) เช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส เป็นต้น
-
อย่างมากระบบนี้เค้าก็ใช้กันแค่ตอนไฟดับแค่นั้นแหละครับ เอามาใช้แทนไฟจาการไฟฟ้าไม่เกิด ต่อให้ตู้ชาร์จเยอะก็ไม่เกิด เพราะถ้าเอาไฟในแบตไปให้บ้านหมดแล้วรถจะเอาไฟที่ไหนวิ่ง ไปเติมตู้ชาร์จตามปั๊มซึ่งก็ไม่มีทางทีราคาค่าไฟมันจะถูกกว่าไฟบ้านอยู่ดี อีกทั้งยังเสียefficiencyไปโดยเปล่าประโยชน์
ในรถไฟฟ้า ชาร์ไฟเข้ามา ผ่านอินเวอร์เตอร์ ผ่านแบต และอื่นๆอีกมากมาย เสียไฟไปน้อยๆเรื่อยๆ กับต่อไฟเค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยตรงอันไหนสูญเสียพลังงานน้อยกว่ากัน?
-
For emergency only ไม่ใช่เอามาใช้แบบนี้ตลอด พัง
ถ้าแบบนี้ ติดตั้ง EV Charger อย่างเดียวก็เพียงพอแล้วครับ เสียค่าไฟในบ้านเพิ่มจากเดิม 20% จากการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
-
ถ้า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีมากขึ้น การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน น่าจะไม่จำเป็นแล้วครับ
ระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าสู่บ้าน ในไทยนั้น
น่าจะเป็นแนวคิดต้นแบบครับ
ระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าสู่บ้านเหมาะกับประเทศโลกที่ 1 (ประเทศพัฒนาแล้ว) เช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส เป็นต้น
การชาร์จไฟในบ้านยังจำเป็นอยู่ครับ ไม่ว่าจุดชาร์ทจะเยอะแค่ไหน
ระบบการแบ่งปันไม่เชิงว่าเป็นต้นแบบในไทย เอาตอนนี้ในไทยถ้าจะทำก็ทำได้ ไม่ได้เหมาะกับประเทศโลกที่ 1 เท่านั้น ผมเน้นว่ามันเหมาะกับประเทศที่ค่าไฟฟ้าแพง เช่น เดนมาร์ค เยอรมันนี ซึ่งค่าไฟบ้านก็แปรผันตามช่วงเวลาเหมือนกันฉะนั้นการลดค่าใช้จ่ายพวกนี้ก็ชาร์จช่วงเวลาที่ค่าไฟถูกพอถึงช่วงเวลาที่ค่าไฟแพงก็ดึงไฟจากแบตสำรอง จากรถมาใช้งาน มันอาจจะคุ้มเพราะประเทศพวกนี้เปลี่ยนรถกันบ่อย
ทีนี้ถึงต่อให้เป็นประเทศโลกที่ 1 คือ จีนค่าไฟแพงกว่าเรานิดหน่อยระบบพวกนี้ก็ไม่จำเป็น เพราะแบตไซเคิ้ลของรถมันก็ลดลงไปด้วย อย่างที่ผมเคยพูดไปว่า รถแบต 2 แสนโลแบตจะเหลือประสิทธิภาพที่ราว 75-85% ลองคิดว่าถ้าเอาแบตรถมาสำรอง % คงจะน้อยลงว่านี้อีกเยอะ ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับส่วนต่างค่าไฟฟ้า
-
มันก็คือ Powerwall แหละ ผมอยากใช้นะ แต่คิดว่ามันยังแพงเกินไปอยู่เยอะ
และก็คิดว่า เอารถมาผูกกับบ้านได้นี่ก็ดีอย่างเสียอย่าง เช่นไฟดับตลอดทั้งคืน เช้ามาแบตรถหมดนี่ลำบากเลย
ไม่รู้ตั้งได้ไหม
-
อย่างมากระบบนี้เค้าก็ใช้กันแค่ตอนไฟดับแค่นั้นแหละครับ เอามาใช้แทนไฟจาการไฟฟ้าไม่เกิด ต่อให้ตู้ชาร์จเยอะก็ไม่เกิด เพราะถ้าเอาไฟในแบตไปให้บ้านหมดแล้วรถจะเอาไฟที่ไหนวิ่ง ไปเติมตู้ชาร์จตามปั๊มซึ่งก็ไม่มีทางทีราคาค่าไฟมันจะถูกกว่าไฟบ้านอยู่ดี อีกทั้งยังเสียefficiencyไปโดยเปล่าประโยชน์
ในรถไฟฟ้า ชาร์ไฟเข้ามา ผ่านอินเวอร์เตอร์ ผ่านแบต และอื่นๆอีกมากมาย เสียไฟไปน้อยๆเรื่อยๆ กับต่อไฟเค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยตรงอันไหนสูญเสียพลังงานน้อยกว่ากัน?
นี่แหละครับ ข้อดีของระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าให้บ้าน ก็คือ แบตเตอรี่สำรองภายในบ้าน หรือ Home Battery ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองในบ้าน สามารถนำไปใช้ได้ในกรณีแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกไม่เพียงพอหรือเมื่อเกิดไฟฟ้าภายในบ้านดับ
-
ถ้า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีมากขึ้น การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน น่าจะไม่จำเป็นแล้วครับ
ระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าสู่บ้าน ในไทยนั้น
น่าจะเป็นแนวคิดต้นแบบครับ
ระบบแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าสู่บ้านเหมาะกับประเทศโลกที่ 1 (ประเทศพัฒนาแล้ว) เช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส เป็นต้น
การชาร์จไฟในบ้านยังจำเป็นอยู่ครับ ไม่ว่าจุดชาร์ทจะเยอะแค่ไหน
ระบบการแบ่งปันไม่เชิงว่าเป็นต้นแบบในไทย เอาตอนนี้ในไทยถ้าจะทำก็ทำได้ ไม่ได้เหมาะกับประเทศโลกที่ 1 เท่านั้น ผมเน้นว่ามันเหมาะกับประเทศที่ค่าไฟฟ้าแพง เช่น เดนมาร์ค เยอรมันนี ซึ่งค่าไฟบ้านก็แปรผันตามช่วงเวลาเหมือนกันฉะนั้นการลดค่าใช้จ่ายพวกนี้ก็ชาร์จช่วงเวลาที่ค่าไฟถูกพอถึงช่วงเวลาที่ค่าไฟแพงก็ดึงไฟจากแบตสำรอง จากรถมาใช้งาน มันอาจจะคุ้มเพราะประเทศพวกนี้เปลี่ยนรถกันบ่อย
ทีนี้ถึงต่อให้เป็นประเทศโลกที่ 1 คือ จีนค่าไฟแพงกว่าเรานิดหน่อยระบบพวกนี้ก็ไม่จำเป็น เพราะแบตไซเคิ้ลของรถมันก็ลดลงไปด้วย อย่างที่ผมเคยพูดไปว่า รถแบต 2 แสนโลแบตจะเหลือประสิทธิภาพที่ราว 75-85% ลองคิดว่าถ้าเอาแบตรถมาสำรอง % คงจะน้อยลงว่านี้อีกเยอะ ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับส่วนต่างค่าไฟฟ้า
ในไทย การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ก็มีแค่ EV Charger
(เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า) อย่างเดียวก็เพียงพอแล้วครับ
-
ราคาไม่คุ้มแน่ๆครับ ณ ปัจจุบัน
แค่ติด solar ปัจจุบันกว่าจะคืนทุนยังเป็นปี ถ้ามีแบตด้วย สำรองเล็กๆ 130a 4ลูก ongrid 5kw ทั้งระบบยัง 2แสนนิดๆ เอาจิงติดระบบนี้ แค่เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นกับแอร์พร้อมกันก็ harvest ไม่ทันแล้วครับ
อีกอย่างถ้าไม่ใช่ระบบ off-grid เลยการถ่ายไฟจากรถเข้าบ้านผมยังไม่เห็นประโยชน์เลยอะครับ เพราะบ้านใช้ไฟเยอะแน่ๆ
ถ้าเป็นบ้าน off-grid อยู่ในที่ๆไม่ร้อนมาก ไม่หนาวมาก แบบไม่ต้องการแอร์หรือฮิตเตอร์ทำงาน full time การมีแบตในบ้านให้กลางวัน harvest พลังงานจาก solar แล้วเอารถมาต่อพ่วงเผื่อแบตหมดก่อนแดดออกของอีกวัน ก็มีประโยชน์อยู่ครับ
แต่คงต้องเป็นบ้านครอบครัวเล็ก แล้วอยู่เชียงใหม่นะครับถึงจะรอด สำหรับ 1คัน
เหมาะกับประเทศเมืองหนาวครับ เช่าบ้านที่อังกฤษ แทบไม่ใช้ไฟฟ้าเหมือนกัน heater ด้วย gas อุ่นพื้นด้วยระบบน้ำร้อน กลางคืนนอนไม่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย เลี้ยงตู้เย็นเลี้ยงไฟ ไว้เปิดอะไรตอนแดดยังไม่ออก แบตพอครับถ้ามันเต็ม
-
ถ้าแค่ต้องการใช้ตอนไฟดับ ไปซื้อเครื่องปั่นไฟดีกว่าครับ ขนาด 3.5 kW ราคาไม่เกินหมื่น เปิดแอร์ inverter ขนาด 12000btu 2ตัวได้สบายๆ ขอแค่อย่าเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น เตาอบ เตารีดหรืออุปกรณ์ที่กินไฟเยอะๆพอ สำคัญเรื่องการตัด braker ต้องระมัดระวังมากๆด้วย ห้ามต่อสลับขั้วเด็ดขาด