Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: allnewvalinor2 ที่ กรกฎาคม 29, 2021, 16:46:48
-
สอบถามครับ ทั้งรถยุโรป รถญี่ปุ่น ใหม่เก่า เวลาจะขับรถไปตจวไกลๆควรนำไปตรวจเช็คสภาพความสมบูรณ์ความพร้อมที่ศูนย์ก่อนไปมั้ยคับ
-
ทำได้ก็ดี ตาม quick service ก็ได้ หรือถ้าพอมีความรู้เบื้องต้น ก็ตรวจพวกของเหลวเองได้ ก็จะดี
ไม่ใช่แค่ตอนจะเดินทาง ควรเช็คเบื้องต้ อย่างน้อย อาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์ ครั้งนึง
ของเหลวรั่วมั้ย ขาดมั้ย ลดมั้ย จะได้ไม่เสียหายหนัก
-
สอบถามครับ ทั้งรถยุโรป รถญี่ปุ่น ใหม่เก่า เวลาจะขับรถไปตจวไกลๆควรนำไปตรวจเช็คสภาพความสมบูรณ์ความพร้อมที่ศูนย์ก่อนไปมั้ยคับ
ในกรณีที่รถไม่เกิน5ปี/100,000โล ถ้าผมจะเอาออกตจว.จะไม่เอาเข้าศูนย์ครับ เพราะปรกติเอาเข้าService ตามระยะเองและรู้ว่าอะไรได้เปลี่ยนมามั่ง และก่อนออกตจว.ก็มี check เบื่องต้นด้วยตนเองได้. ส่วนกรณีรถเก่า เกิน5ปี/100,000โล ที่บ้านจะไม่ค่อยเอาออกตจว.ไกลๆครับ และส่วนใหญ่รถที่เก็บนานเกินระยะประกันศูนย์ ที่บ้านผมจะทำ Service ชุดใหญ่ตามปัญหาประจำรุ่นนั่นๆ.
-
ถ้ารถเซอร์วิสตามระยะทางอยู่แล้วคงไม่ต้องเช็กเพิ่มครับ เช็กด้วยตนเองก็พอ
-
เช็คของเหลวและสภาพอะไหล่เบื้องต้นต่างๆ ตามจุดที่เช็คได้ก็พอครับ
พวกอะไหล่ใหญ่ๆ ก็ได้รับการเช็คช่วงเช็คระยะอยู่แล้ว ถ้าไม่ซวยจริงๆ หรือช่างไม่ได้เช็คให้
อีกอย่าง ไม่ฟรีนะครับ ต่อให้มีฟรีค่าแรง
-
จำได้ว่า สมัยเด็กๆ ก่อนจะเดินทางไกล ที่บ้านจะเอารถไปเช็คทุกครั้ง ยิ่งถ้ารถแพงๆ พอวิ่งทางไกลกลับมาก็จะไปเช็คซ้ำอีกครั้งด้วย (สมัยนั้นก็ W124)
มาปัจจุบันเหรอ ?
ไม่เคยครับ .. รถผมวิ่งน้อย ปีละ 1 หมื่นกม. เช็คปีละครั้ง ระหว่างนั้น รถจะถูกดูแลตลอด ลมยางไนโตรเจนทุก 2 เดือน / น้ำล้างกระจก / น้ำกลั่น / น้ำมันเครื่อง / น้ำมันเกียร์ / น้ำมันเบรค ทุกอย่างถูกเช็คทุกครั้งที่ล้างรถ รวมถึง อาการผิดปกติอื่นๆของรถด้วยครับ ถ้าเจอ ถ้ามี ผมจะนำรถเข้าศูนย์แก้ทันที ไม่รอเวลา ไม่มีคำว่า "เอาไว้ก่อน" แน่นอนครับ
CR-V G3 เจ้านี่ แก่หน่อย ระหว่างปี ก็จะมีเรื่องให้เข้าศูนย์สักครั้ง หรือ สองครั้ง ก่อนจะเช็คระยะ
Pulsar ยังเอ๊าะๆ เจ้านี่ เจอหน้าช่างปีละครั้งก็พอ
แต่ทุกคัน หยิบกุญแจ สตาร์ท แล้วขับยาวๆหลักพันกม.ได้ทันที ไม่มีตายกลางทางครับ
เคยอยู่ครั้งนึง ..
จะลง นครศรี เช็ครถเรียบร้อยละ ตกเย็นเลิกงานมา ก็เอา CRV ไปเติมน้ำมันเต็มถัง เติมเสร็จกลับถึงบ้าน final inspect อีกรอบ ปรากฎว่า ได้กลิ่นเหม็นไหม้ มองแล้ว มาจากไดชาร์จ .. อ้าว จะลากลับญี่ปุ่นซะละ ลองดูเกจ์ OBD2 ก็พบว่า ชาร์จน้อยจริง แต่ไฟแบตยังไม่โชว์
ก็เลยเอา CRV เก็บ
สลับเอา Pulsar ไปเติมเต็มถัง แล้วใช้ Pulsar ลงแทนในคืนนั้นครับ
ไปกลับ ปราจีน - นครศรี ก็ราวๆ 1,8XX กม.ครับ
นี่แหละ รถผม จะสไตล์นี้ทุกคัน
-
ถ้าต้องเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ ผมก็จะทำรถไปตรวจเช็กก่อนทุกครั้งเพื่อความชัวร์ครับ เกิดถ้ารถมีปัญหาระหว่างเดินทาง ทริปนั้นได้กร่อยแน่ๆ
แถวข้างบ้านผมมีร้านฟิต ออโต้ เลยยให้ที่นั้นเช็กเบื่องต้น 35 รายการให้ครับ บริการดี แปบเดียวก็เสร็จแล้ว เสียเวลาตรวจแปบนึงดีกว่าไปมีปัญหาในการเดินทางจริงครับ
-
ปกติผมจะเข้าตรวจเช็คก่อนเสมอครับ แต่มีช่วงโควิดนี่เองที่ไม่ค่อยสะดวก นัดอู่ไว้แล้วแต่ยังไม่ถึงคิว แล้วมีเหตุจำเป็นให้ต้องอก ตจว ก่อนจะได้เข้าตรวจเช็คพอดี ระหว่างทางเจอเหตุการณ์รถกระเด้งกลางโค้งแล้วเสียหลัก oversteer จนเกือบมุดชนในโค้งครับ ดีที่ฟลุ้คแก้อาการแล้วรอดมาได้ หลังเดินทางครั้งนั้นแล้วได้ไปเช็คช่วงล่างพบว่าบูชคานหลังเริ่มๆมีรอยฉีก อู่บอกว่าตัวนี้ถ้าเสื่อมมันจะทำให้ท้ายส่ายๆ ผมนี่นึกถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุขึ้นมาทันทีเลยครับ
ก่อนถึงโค้งอาจจะขับเร็วไปหน่อยนะครับ แต่พอไกล้โค้งก็ค่อยๆลดความเร็วลง อาจจะผิดด้วยที่ยกคันเร่งเข้าโค้งที่ลาดลง ทำให้น้ำหนักเทไปอยู่ที่หน้ารถ พอกระเด้งเลยเสียอาการ oversteer ง่ายขึ้นครับ น่าจะเบรคลดความเร็วให้มากกว่านี้ก่อนถึงโค้งมากกว่า แต่ ณ ในสถานการณ์จริง ไม่ทราบจริงๆว่าโค้งที่กำลังจะเข้าเป็นโค้งลาดลงครับ นึกว่าเป็นโค้งธรรมดาๆ อีกประเด็น พอขับรถมาระยะไกลๆหลาย ชม. ร่างกายเริ่มมีความเหนื่อยล้าพอประมาณ เลยบางจุดเลี้ยวแล้วก็ปล่อยๆไม่ค่อยดึงพวงมาลัยกลับมาก เลยเห็นว่าตัดโค้งลงไปในไหล่ทางลึกขนาดนั้น ใจจริงผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะลงไปในไหล่ทางเยอะขนาดนั้นเหมือนกันครับ แต่พอลงแล้วก็ขี้เกียจดึงกลับมา
https://www.youtube.com/watch?v=ofuAoOW1_B4&list=PLipaNXtTyV2i4jmKzS1lGBSVIOCYxqgFO&index=32 (https://www.youtube.com/watch?v=ofuAoOW1_B4&list=PLipaNXtTyV2i4jmKzS1lGBSVIOCYxqgFO&index=32)
-
ของผมขอเห็นต่างครับ โดยปกติจะดูแลรถให้พร้อมใช้ประมานนึงอยู่แล้ว แต่ถ้าสมมติอีก2วันจะเดินทางไกล พรุ่งนี้ผมจะไม่เข้าศูนย์ เพราะเคยมีประสบการณ์/ได้ยินข่าวแย่ๆมาทั้งยุโรปทั้งญี่ปุ่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ช่างลืมเปลี่ยนประเก็นทำให้น้ำมันซึม หลายๆศูนย์ก็เคยมีข่าวลืมขันน็อตล้อ ลืมขันน็อตคาลิปเปอร์ก็มี อย่างล่าสุดพวกเรียกไปเปลี่ยนปั๊มติ้ก บางคนเปลี่ยนมาไฟเตือนขึ้นก็มี
ถ้าจะเดินทางไกลผมจะวางแผนเข้าศูนย์ล่วงหน้าซักสองสัปดาห์ แล้วมาจับอาการรถดูก่อนว่าไม่มีอะไรผิดปกติแน่ๆ ไม่งั้นก็ลากยาวไปเลย กลับมาแล้วค่อยเข้า เพราะว่าถ้ารถใช้งานทุกวันโอกาสพังช่วงเดินทางน่าจะยากกว่าครับ เรามักจะมีเซ้นส์ว่ามันจะมีอะไรพังก่อน
-
ทำเองหมดเลยครับ :( แรกๆ เคยไปให้อู่ทำแล้วจิตตกหลายเรื่องครับ
-
จริงๆเราตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองทุกวันอยู่แล้ว ถามว่าผมดูแลอะไรพิเศษมั๊ย ไม่มีเลย แค่ระยะเช็คระยะเพียงพอก็พอแล้ว อย่าให้ไปกลับแล้วเลยระยะ
ส่วนเรื่องสภาพรถ จริงๆมันฟ้องตอนขับอยู่แล้วครับ
ส่วนการสึกหรอ มันต้องตรวจตอนเช็คระยะ ไม่ถึงรอบก็ไม่ต้องดูอะไรครับ
-
เช็คได้ก็ดีครับ แต่สำหรับผมจะเข้าศูนย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบก่อนเดินทางไกล
-
ทำเองหมดเลยครับ :( แรกๆ เคยไปให้อู่ทำแล้วจิตตกหลายเรื่องครับ
เพราะไรถึงจิตตกครับ
-
ก่อนเดินทางไม่เคยเอาไปเข้าserviceอะไรเลย(แต่เช็คตามระยะปกตินะคับ) จะมีก็แต่เช้าวันเดินทางนั่นแหละคับแค่เปิดกระโปรง ดูน้ำ น้ำมันเครื่องไม่ขาดก็เดินทางแค่นั้นเลยคับ555
แต่ก็ไม่เคยตายกลางทางประสบการณ์ใกล้เคียงที่สุดก็คือ dmax สมัยที่วาล์วscvชอบพังกัน ตอนนั้นออกตจว.ขาไปไปได้กลางทางแล้วเติมน้ำมันปั๊มไทยขับต่อมาได้ซักพักไฟโชว์แล้วความเร็วก็ร่วงจนจอดข้างทาง
ดับสตาร์ทใหม่ถึงขับต่อได้แต่ไฟก็โชว์ ซึ่งเรื่องนี้ถ้าเช็คก่อนเดินทางยังไงมันก็ไม่เจอ
-
ปกติผมจะเข้าตรวจเช็คก่อนเสมอครับ แต่มีช่วงโควิดนี่เองที่ไม่ค่อยสะดวก นัดอู่ไว้แล้วแต่ยังไม่ถึงคิว แล้วมีเหตุจำเป็นให้ต้องอก ตจว ก่อนจะได้เข้าตรวจเช็คพอดี ระหว่างทางเจอเหตุการณ์รถกระเด้งกลางโค้งแล้วเสียหลัก oversteer จนเกือบมุดชนในโค้งครับ ดีที่ฟลุ้คแก้อาการแล้วรอดมาได้ หลังเดินทางครั้งนั้นแล้วได้ไปเช็คช่วงล่างพบว่าบูชคานหลังเริ่มๆมีรอยฉีก อู่บอกว่าตัวนี้ถ้าเสื่อมมันจะทำให้ท้ายส่ายๆ ผมนี่นึกถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุขึ้นมาทันทีเลยครับ
ก่อนถึงโค้งอาจจะขับเร็วไปหน่อยนะครับ แต่พอไกล้โค้งก็ค่อยๆลดความเร็วลง อาจจะผิดด้วยที่ยกคันเร่งเข้าโค้งที่ลาดลง ทำให้น้ำหนักเทไปอยู่ที่หน้ารถ พอกระเด้งเลยเสียอาการ oversteer ง่ายขึ้นครับ น่าจะเบรคลดความเร็วให้มากกว่านี้ก่อนถึงโค้งมากกว่า แต่ ณ ในสถานการณ์จริง ไม่ทราบจริงๆว่าโค้งที่กำลังจะเข้าเป็นโค้งลาดลงครับ นึกว่าเป็นโค้งธรรมดาๆ อีกประเด็น พอขับรถมาระยะไกลๆหลาย ชม. ร่างกายเริ่มมีความเหนื่อยล้าพอประมาณ เลยบางจุดเลี้ยวแล้วก็ปล่อยๆไม่ค่อยดึงพวงมาลัยกลับมาก เลยเห็นว่าตัดโค้งลงไปในไหล่ทางลึกขนาดนั้น ใจจริงผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะลงไปในไหล่ทางเยอะขนาดนั้นเหมือนกันครับ แต่พอลงแล้วก็ขี้เกียจดึงกลับมา
https://www.youtube.com/watch?v=ofuAoOW1_B4&list=PLipaNXtTyV2i4jmKzS1lGBSVIOCYxqgFO&index=32 (https://www.youtube.com/watch?v=ofuAoOW1_B4&list=PLipaNXtTyV2i4jmKzS1lGBSVIOCYxqgFO&index=32)
ขับเร็วมากครับ ความเร็วน่าจะเกิน 140 ขับบนไหล่ทางอีกต่างหาก
-
ถ้ารถใช้ประจำนะครับ
รถญี่ปุ่น ใหม่ ไม่เช็คครับ เอาไปเลย
รถญี่ปุ่น เก่า ไม่เช็คครับ เอาไปเลย
รถยุโรป ใหม่ ไม่เช็คครับ เอาไปเลย
รถยุโรป เก่า ไม่เช็คครับ จอดบ้าน เอา 3 คันบนไปแทน ชัวร์กว่าครับ
-
ปกติผมจะเข้าตรวจเช็คก่อนเสมอครับ แต่มีช่วงโควิดนี่เองที่ไม่ค่อยสะดวก นัดอู่ไว้แล้วแต่ยังไม่ถึงคิว แล้วมีเหตุจำเป็นให้ต้องอก ตจว ก่อนจะได้เข้าตรวจเช็คพอดี ระหว่างทางเจอเหตุการณ์รถกระเด้งกลางโค้งแล้วเสียหลัก oversteer จนเกือบมุดชนในโค้งครับ ดีที่ฟลุ้คแก้อาการแล้วรอดมาได้ หลังเดินทางครั้งนั้นแล้วได้ไปเช็คช่วงล่างพบว่าบูชคานหลังเริ่มๆมีรอยฉีก อู่บอกว่าตัวนี้ถ้าเสื่อมมันจะทำให้ท้ายส่ายๆ ผมนี่นึกถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุขึ้นมาทันทีเลยครับ
ก่อนถึงโค้งอาจจะขับเร็วไปหน่อยนะครับ แต่พอไกล้โค้งก็ค่อยๆลดความเร็วลง อาจจะผิดด้วยที่ยกคันเร่งเข้าโค้งที่ลาดลง ทำให้น้ำหนักเทไปอยู่ที่หน้ารถ พอกระเด้งเลยเสียอาการ oversteer ง่ายขึ้นครับ น่าจะเบรคลดความเร็วให้มากกว่านี้ก่อนถึงโค้งมากกว่า แต่ ณ ในสถานการณ์จริง ไม่ทราบจริงๆว่าโค้งที่กำลังจะเข้าเป็นโค้งลาดลงครับ นึกว่าเป็นโค้งธรรมดาๆ อีกประเด็น พอขับรถมาระยะไกลๆหลาย ชม. ร่างกายเริ่มมีความเหนื่อยล้าพอประมาณ เลยบางจุดเลี้ยวแล้วก็ปล่อยๆไม่ค่อยดึงพวงมาลัยกลับมาก เลยเห็นว่าตัดโค้งลงไปในไหล่ทางลึกขนาดนั้น ใจจริงผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะลงไปในไหล่ทางเยอะขนาดนั้นเหมือนกันครับ แต่พอลงแล้วก็ขี้เกียจดึงกลับมา
https://www.youtube.com/watch?v=ofuAoOW1_B4&list=PLipaNXtTyV2i4jmKzS1lGBSVIOCYxqgFO&index=32 (https://www.youtube.com/watch?v=ofuAoOW1_B4&list=PLipaNXtTyV2i4jmKzS1lGBSVIOCYxqgFO&index=32)
ขับเร็วมากครับ ความเร็วน่าจะเกิน 140 ขับบนไหล่ทางอีกต่างหาก
ประมาทโดยแท้จริง ขับตัดโค้งไปมา ราวกับอยู่ในสนามแข่ง และใช้ความเร็วสูงมาก
-
ผมใช้รถญี่ปุ่นป้ายแดง เข้าศูนย์ตามระยะ แต่ก็ไม่เป๊ะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มัก +เพิ่มไป 1-2 พันโล
ใช้ไปจนไมล์ 2 แสนกว่า ก่อนเดินทางไกล ทริปหนึ่งขาละ 300 กม. ไม่เคยเช็คครับ
ดูแค่ลมยางอย่างเดียว ผมจะเน้นเรื่องแบตเป็นส่วนใหญ่ ถ้ามีอาการสตาทเอื่อย ชิ่งเดียวไม่ติด ผมจะจับเปลี่ยนเลย ไม่รอให้แย่ไปกว่านี้
ไม่เคยมีปัญหาระหว่างทางนะครับ
-
ถ้าเช็คตามระยะปกติเข้าศูนย์ตลอดก็ไม่เช็คอะไรเยอะครับ
ก่อนไปจะเช็คของเหลวทุกอย่าง + ลมยาง แค่นั้นละ
แล้วก็ดูรอบๆสักครู่แล้วก็ออกเดินทางครับ
ปล.เพราะถ้าเข้าศูนย์ตามระยะทางผมว่าหายห่วง
-
ผมจะเช็คตามระยะอยู่แล้วครับ ไม่ปล่อยให้เกิน ถ้ามีอะไรก็จะซ่อมเลยครับ ฉะนั้นก่อนจะไป ตจว ก็คงไม่ได้ไปทำอะไรเพิ่มเติมมากมาย แค่ดูลมยาง น้ำไม่แห้ง อะไรง่ายๆ เท่านั้นครับ
-
ส่วนใหญผมจะเช็คก่อนเดินทางไกลเป็นปกติ ถ้าไปกลับไม่เกิน5-600โล ก็เช็คทั่วไป เช่นสีของนมค. เบรค ไฟเลี้ยวไฟน้าหลัง น้ำหล่อเย็น น้ำฉีดกระจก ลมยาง
ถ้าไปกลับเกิน600โล ก็จะเข้า0ครับ ให้เช็ค28รายการ ก็ไม่แพง3-400บาท ได้ความสบายใจ แต่ก็มารีเช็คในส่วนที่มองเห็นอีกทีเพื่อความมั่นใจ แต่รถผมไม่ค่อยจุกจิก ไม่ตายกลางทางทุกครั้งที่ออกตจว. วางแผนการเดินทางให้ดี แต่ก็พยายามจะไม่วิ่งตอนกลางคืน เผื่อเสียขึ้นมายังเรียกช่างได้อุ่นใจไว้ก่อน
-
เช็คศูนย์ได้แค่เบื้องต้นครับ เปลี่ยนของเหลว น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ผ้าเบรคบาง ลูกหมาก
เวลารถไปเสียต่างจังหวัดมันมักเกิดกับอะไรที่เช็คไม่ได้
รถอายุ ไม่ถึง 10 ปี
ส่วนใหญ่มีเสียไม่กี่อย่าง ไม่รีเลย์พัดลม ก็มอเตอร์พัดลมหน้ารถ ลูกหมาก โช๊ค ผ้าเบรค
บางรุ่นเกียร์ cvt สายพานก็อาศัยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยหน่อย
อย่างรถอายุ 10ปี+
วาล์วน้ำ ขับๆอยู่วาล์วค้างเปิดนิดเดียวรถฮีท (เคยเจอกับตัวมา)
ไดสตาท ไปจอดรถอยู่บนดอยกดสตาทไม่ติด เพราะถ่านหมด ,ผงถ่านสะสมไปกั้นหน้าคอนแทค
ไดชาจ ขับๆอยู่ไฟแบตขึ้น เพราะถ่านไดชาร์จหมดอีกเช่นกัน
คอยล์เสีย ตามอายุรถ เครื่องเดิน 3สูบไม่มีแรง
-
1.ก่อนเดินทางไกล ตรวจเช็คเบื้องต้นด้วยตัวเองครับ เช็คลมยาง น้ำฉีดล้างกระจก สังเกตอาการขณะสตาร์ทและรอบเดินเบา
2.คันไหนยังเข้าศูนย์ จะบำรุงรักษาตามระยะของศูนย์ ก่อนเดินทางไกล ก็เช็คเองตามข้อ 1.
3.คันไหนไม่เข้าศูนย์แล้ว เช็คเองตามข้อ 1. เพิ่มเติม เช็คน้ำในหม้อน้ำ ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว
การ service เข้าอู่ประจำ ถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10000km อู่ก็เช็คโน่นนี่ให้ ยาง เบรก ช่วงล่าง กรองอากาศ ฯลฯ เสียก็เปลี่ยน
รถที่มีขับเกือบทุกวัน อาการจึงฟ้อง ทั้งแบต คอลย์ หัวฉีด แร็คพวงมาลัย โช้ค ลูกปืน พัดลมไฟฟ้า ฯลฯ เสียก็จับเปลี่ยนเลย เวลาเดินทางไกล จึงไม่มีอะไรต้องกังวลครับ
-
ตรวจเองก็ได้ ไม่เห็นมีอะไรเลย
-
ถ้าอยากเอาสบายใจก็น่าจะไปตรวจก่อนเดินทางครับ แต่หากมีความรู้อยู่บ้างแล้ว ก็จะไม่มีอะไรมาก แต่หากขับทุกวันอาจจะต้องสังเกตุอาการแปลกๆ หากมีอาการแปลกๆ แม้แต่นิดเดียว หากเป็นผมก็คงต้องเอาเข้าศูนย์ก่อนครับ เพราะหากไปมีปัญหาระหว่างเดินทาง รับรองว่าเสียเงินเยอะกว่าเดิมหลายเท่าแน่นอน
-
เช็คตามระยะเป็นหลักครับ
รถขับทุกวัน รู้แหละว่าสภาพเป็นยังไง แต่ก่อนไปเปิดฝากระโปรงดูอีกซักรอบ แค่นั้น
-
สำหรับผม
ถ้าเลขไมล์ใกล้ถึงเช็คระยะสัก 1,500km. ก็เอาเข้าไปก่อนครับ เพราะไป-กลับก็พันกว่าโลพอดี แต่ถ้าห่างกว่านั้นก็ไม่ไปครับ
ยางก็เช่นกัน หากตั้งใจว่าจะเปลี่ยนอีก 3-6เดือน ก็จะเอาเข้าเปลี่ยนยางก่อนเลยครับ
-
ของผมไม่ได้เข้าเช็คศูนย์ก่อนเดินทาง แต่จะเปิดดูเองคราวๆ จะไปคันไหนก็ขับไปได้เลย รถทุกคันเข้าศูนย์ตามกำหนดถึงจะอายุเข้า 10 ปีแล้วก็ตาม
ผมว่า มันอยู่ที่การดูแล จะวิ่งใกล้ วิ่งไกลถ้าดูแลดี จับอาการรถได้ก่อนว่าอะไรไม่พร้อม ทำมันก่อนอย่าปล่อยไว้ เดี๋ยวนี้ไกลผมแค่ 200 กม ไม่ค่อยได้วิ่งไกล
น้าเป็นทนายความ รถไมล์วิ่งกระฉูดไม่ล้างไม่เช็ด ของรกเต็มรถไปหมด แถมศูนย์ก็ไม่ได้เข้า มีแต่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตรงบ้าง เลยบ้าง
น้ำมันอื่นๆ อย่าได้ถาม ก็ไม่เคยเสียกลางทางนะครับ ระดับ 200 โลนี่คือปกติ บางทีเอกสารเสร็จ 5 ทุ่ม สตาร์ดติดก็ขึ้นเชียงใหม่เลยก็บ่อยๆ
ไปทั่ว คงอยู่ที่ความทนทานของตัวรถ บวกดวงด้วยมั้งครับ เป็นรถเก๋งซีดานด้วยนะ