Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Hayachan ที่ กันยายน 14, 2021, 18:19:15
-
พอดีนั่งดูๆ รถไว้ทำโปรเจ็คเท่ๆซักคันไล่ๆดู GE ปี 2008 ยังสามแสนอยู่เลยยิ่งพวกตัว JP นี่ราคาไปชน GK แล้ว
ส่วน GK ถ้าเป็น SV+ Rs ก็ใช่ย่อยเลย
เพราะมันจะกลายเป็นตำนานแล้วหรอครับ
-
เดาว่า ถ้าคนมองรถมือสองสักคัน ที่เป็นคันเดียวในบ้าน มันน่าจะตอบโจทย์ที่สุดรึเปล่าครับ
คันเล็กคล่องแคล่ว ค่าบำรุงรักษาถูก พื้นที่กว้างขวาง นั่งสบายใช้ได้ แถมพับเบาะยังขนของได้น้องๆกระบะ4ประตู
-
มันคือรถเล็กสุดอเนกประสงค์ และเอาไปแต่งซิ่งต่อได้ง่าย (มั้ง?)
เท่าที่ผมใช้ GE '09 อยู่และยังไม่ได้ขายออกไปเพราะมันคล่องตัวดี จะขนอะไรก็สบาย เคยพับเบาะนอนง้อแฟนอยู่หน้าหอทั้งคืนก็ทำได้ อะไหล่เทียบมีเยอะแยะ ราคาอะไหล่ศูนย์ก็ไม่โหดร้ายเท่าไร ใช้มาจนถึงปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากมาย ค่าบำรุงรักษาระยะยาวถือว่าถูกจนน่าใจหายเลยล่ะ มีอย่างเดียวที่น่ารำคาญก็งานประกอบก๋องแก๋งก๊อบแก๊ปแค่นั้น
-
เพราะ jazz ราคาขนาดนี้ ทำให้ freed ของผมตกยากไปด้วย
อะไหล่ร่วมกันเยอะมาก
-
GE ปี 08 ไมล์ 3 แสนกม.
- เปลี่ยนหัวฉีด / คอยล์จุดระเบิด ตอน 3 แสนกม. (เครื่องสั่น) 2 อย่าง ราวๆ 2 หมื่นบาท
- เปลี่ยนเซนเซอร์แรงดันน้ำมันเกียร์ ไฟ D กระพริบ พันกว่าบาท ตอนเกือบ 3 แสนกม.
- เปลี่ยนลูกหมากกันโคลงหน้า ครั้งแรก ตอน 2 แสนกว่ากม. 2 พันกว่าบาท
- เปลี่ยนซีลอ่าง / โอริงวีเทค / ซีลหน้าเครื่อง ตอนเกือบ 3 แสนกม. จำได้ว่า 5 - 6 พันบาท
มีทำแค่นี้อ่ะ ยางแท่นเครื่องปกติ รถไม่สั่น / บู๊ชปีกนกยังไม่แตก / เบรคยังไม่ต้องเปลี่ยนชุดซ่อม
เบาะหลังพับได้ แบกปุ๋ย 500 ก.ก. ส่งลูกค้าที่ชุมพร มาแล้ว
ทางไกล 16 - 17 กม./ลิตร อัตราเร่งไม่ขี้เหร่ ดีกว่ารถ 1.2 หลายคันเยอะมาก
แล้วจะเอาอะไรอีก กระบะ Triton ปลัดขิกสมัยก่อน ใช้คู่กัน เข้าศูนย์เหมือนกัน ค่าดูแลยังแพงกว่า ยังจุกจิกกว่ามันเลยครับ .. พอต้องขายออก 1 คัน กลายเป็นรถกระบะที่ถูกขายทิ้ง เพราะเรื่องเยอะกว่า
-
มันก็ราคาตาม supply demand นั้นแหละ ไม่ได้ราคาแข็งอะไรหรอก รถสวย น่ารัก ใครๆก็ขับได้
-
ที่คุณเจ้าของโพสต์ไล่ดู แสดงว่าสนใจอยากได้ jazz
ซึ่งพอดีกับว่าคนอีกกลุ่มใหญ่ๆที่กำลังมองหารถมือสองก็มีความต้องการ jazz เยอะ
คนที่มีของอยู่ในมือก็เล่นตัว ปล่อยออกราคาสูงหน่อยได้ไงครับ เพราะความต้องการมันสูง
ไม่จำเป็นต้องขายราคาถูกๆ
แค่นั้นเองครับ
-
เดี๋ยวก็ตกละครับรอหน่อย รอ city hb มือ2เริ่มเยอะก่อน ราคาร่วงเยอะกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ เอนกประสงค์เหมือนกัน แรงกว่าประหยัดกว่า แถมแต่งแรงง่ายกว่าเยอะ
-
Freed ยังราคาดีเลยครับ
รถ 10 ปีแล้ว ราคายังสามแสนอยู่เลย ;D
-
เป็นรถที่ขาดทุนน้อยสุดตั้งแต่ซื้อมาเลยล่ะครับ รถผม GE ปี 08 จะขายก็ยังเสียดายครับ รถทนทาน ปัญหาไม่ค่อยมีเท่าไร อเนกประสงค์ แต่ก็มีข้อเสียเรื่องช่วงล่างการขับขี่ และการประกอบก๊องแก๊งน่ะครับ พลาสติกลั่นทั้งคัน แต่ไม่แตกเลย แม้ตากแดดเยอะมากๆ
ปัจจัยที่ราคาไม่ลงเท่าไร น่าจะมาจากความทนทานด้วยส่วนนึง และความนิยมด้วยครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าถ้าซื้อมือสอง จะไปซื้อรุ่นอื่นๆ ที่ปีใหม่กว่า น่าจะดีกว่าครับ อีกไม่นาน ถ้าคนเบื่อ หรือเสื่อมความนิยม ราคาก็คงลงครับ
-
ประสบการณ์ตรงของผมเลย เมื่อปีที่แล้ว ผมเพิ่งขาย JAZZ GD ปี 2005 ของผมไป !!
ขับไป 2.4 แสน Km. แล้ว ยังขายได้ 1.4 แสนบาท (รถติดแก๊ส LPG ด้วย) ซึ่งผมพอใจกับราคาที่ได้ และผู้ซื้อก็พอใจกับราคาที่ผมขายด้วย
ถือว่าเป็นรถที่ใช้งานคุ้มค่ามาก ทั้งขนของ ไปเที่ยว ตั้งแต่ตอนโสด แต่งงาน มีลูก คนที่ 1 คนที่ 2 ก็ยังใช้งานได้ดี ไม่มีอะไรจุกจิก
แต่มาเสียอารมณ์นิดหนึ่ง ตรงที่ผมตัดสินใจไปติดแก๊ส LPG ในช่วงที่น้ำมันราคาแพง
ทำให้มีผลต่อเรื่องเครื่องยนต์ อัตราเร่งที่ลดลง ประหยัดค่าน้ำมันได้ก็จริงอยู่ แต่ก็แลกกับปัญหาจุกจิกเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่มากขึ้น
แต่ติดแก๊สได้ไม่นาน พอราคาน้ำมันเรื่องถูกลง ผมก็เลิกใช้แก๊ส หันมาใช้น้ำมันเพียวๆเหมือนเดิม
มันก็ใช้งานได้ แต่...เครื่องยนต์ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็อยากยืนยันอีก 1 เสียงว่า HONDA JAZZ นี้ คุ้มค่ามาก เป็นรถคันแรกในชีวิตของผม
จนตอนนี้ ผมมีลูก 3 คนแล้ว ขยับไปขับ SUV แต่ JAZZ ก็ยังอยู่ในความทรงจำผมตลอดไปครับ :-* :-*
-
GE GD ยังราคาไม่ตกเลยถ้าเทียบกับรถใหม่ๆหลายๆค่ายใน segment เดียวกัน...แล้ว GK มันคือ last product in thailand ไปละไม่รู้ว่าจะรอโฉมไหนแล้วถึงเอามาขาย..แต่ยังยากละเพราะ city hb ก็ขายดีพอตัว
ของแต่งยังเยอะ ซิ่งสวย ขับเดิมๆก็สวย เครื่องก็แรงกว่า yaris vios ปรับแต่งได้เยอะกว่าค่ายคู่แข่ง
-
เป็นรถที่ขาดทุนน้อยสุดตั้งแต่ซื้อมาเลยล่ะครับ รถผม GE ปี 08 จะขายก็ยังเสียดายครับ รถทนทาน ปัญหาไม่ค่อยมีเท่าไร อเนกประสงค์ แต่ก็มีข้อเสียเรื่องช่วงล่างการขับขี่ และการประกอบก๊องแก๊งน่ะครับ พลาสติกลั่นทั้งคัน แต่ไม่แตกเลย แม้ตากแดดเยอะมากๆ
ปัจจัยที่ราคาไม่ลงเท่าไร น่าจะมาจากความทนทานด้วยส่วนนึง และความนิยมด้วยครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าถ้าซื้อมือสอง จะไปซื้อรุ่นอื่นๆ ที่ปีใหม่กว่า น่าจะดีกว่าครับ อีกไม่นาน ถ้าคนเบื่อ หรือเสื่อมความนิยม ราคาก็คงลงครับ
หาโช้ค หาสปริง ดีๆใส่ ช่วยให้ขับดีขึ้น เกาะถนนดีขึ้น ในระดับแช่ 140 - 160 สบายๆได้ เข้าโค้งแรงๆ แบบรถใหม่ๆใน segment เดียวกัน ไม่กล้าเข้าได้ครับ แต่อาการกระด้างยังพอๆกับเดิมนะ
พลาสติคนี่ลั่นตั้งแต่ป้ายแดง ดังแม่มทั้งคัน แต่ไม่แตก ไม่หัก ไม่เปื่อย
-
คนรอบตัวผมที่อุดหนุน Jazz ไปไม่ว่าจะโฉมไหน
ล้วนมีแต่ feedback ชื่นชมครับ ไม่เคยมีใครมาบ่นเลยว่ารถแข็งขับไม่ดี
มีแต่คนมาบอก
- กว้างมาก อเนกประสงค์
- คล่องตัว ขับง่าย
- ซ่อมบำรุงดี ราคาไม่แพง
- เครื่องแรงดีนะ
คือมันตอบได้หลายโจทย์ครับ และด้านที่มันดีคือเป็นจุดเด่นที่คู่แข่งทำได้ไม่ดีเท่าด้วย
-
อเนกประสงค์ ของเล่นเยอะ ไม่จุกจิก เป็นจุดแข็งเขาล่ะ
ผมเคยใช้ GD อยู่ 11 ปี วิ่งไป 3.7 แสนก.ม. ขายไปเมื่อ 4 ปีก่อนได้ 1.7 แสน ราคาแข็งใช้ได้เลย
ทุกวันนี้ยังคิดถึงอยู่เลยครับ รถไม่ต้องแรง แต่ขับสนุกได้ ในเมืองนี่ซอกแซกไปเถอะ จอดก็ง่าย
-
เอาสั้นๆเลยก็ วัยรุ่นซื้อกันเยอะครับ ยิ่งพวกงบน้อยก็จะมองหา Jazz มือสองมาแต่งซิ่งกันเยอะครับ
-
GD 2005 ดูแลตามระยะทาง ยังใช้จนถึงวันนี้ ไม่จุกจิกเป็นรถที่รักมากเลยครับ
-
โคตรแข็ง
ผมซื้อ Volvo V40 เมื่อ 2013 1.82 MB
และ Jazz GK ตัว Top 2016 0.75 MB
ขาย V40 ไปเมื่อต้นปี 4 ปลาย
Jazz มาถึงวันนี้ ยัง 4 กลางอยุ่เลย !!!!!!!!!!
ใช้ดี ขับพอได้ มาตรฐาน ขนของได้เยอะ เอาจักรยานไปปั่น Sky lane ได้ 2 คัน สบายๆ
ไม่น่าเลิกเลย City 5 ประตู ไม่สวย ลงตัวเท่า Jazz
-
สวยลงตัว ผ่านมาหลายปี ยังไม่รู้สึกว่าเก่า
ช่วงล่างไม่ได้ดีมาก แต่ไปต่อไหวสบายๆ
ค่าซ่อมถูก แถมรถมันจุกจิกน้อยมากๆๆ คือ แทบไม่มีอะไรเสีย ยกเว้นตัว gk ทีเ่ปน cvt ที่คนเจอพังกัน อะไหล่ถอดเยอะมาก หาได้ทั้งคัน
ภายในนั่งค่อนข้างโอเค แต่บรรทุกของได้สารพัดจริงจัง แถมสะดวก พับเบาะง่าย ไว แม้รถมันจะเล็ก แต่คล่องตัวจริงจัง
ผมลองขับอยู่ 2 3 ทียังติดใจเลยว่า มันใช้ดีวุ้ย ถ้าไม่ต้องไปคิดว่ามันต้องแรงมาก ใช้ขับจิปาถะ ซื้อของเข้าตลาดนี่ดี โคตรๆ ไปนั่งดู swift มายังสู้ jazz ไม่ได้เลย แต่ช่วงล่าง เบรคดีกว่า
-
รถเล็กคล้องตัว แต่ภายในกว้าง นั่งแล้วไม่อึดอัด ได้ความอเนกประสงค์ ขนของได้เยอะและหลายรูปแบบ แรงพอประมาณและประหยัดน้ำมัน ซ่อมไม่ยาก ไม่ค่อยจุกจิก ของแต่งเพียบ แต่ช่วงล่างแข็งไปหน่อย ก็ประมาณนี้มั้งครับ คนเลยนิยมกัน ราคาเลยไม่ค่อยตก
สมัยตอน Jazz GD ออกใหม่ๆ จำได้ว่า ผมไปนั่งรอรับน้องสาวที่โรงเรียน ย่านอโศก บรรดาคุณแม่ๆที่มารับลูก ขับ Jazz กันเยอะมาก
ตอนที่บ้านมี GK 1 คัน และรอบตัวผมมีคนใช้ Jazz ทั้ง GE GK เป็น 10 คน ทุกคนก็ดู Happy กับรถมากครับ
-
สวย น่ารัก ออกแบบได้ดี อเนกประสงค์ ซิ่งก็ได้ ขับง่าย หาที่จอดง่าย ประหยัดนม. ซ่อมไม่แพง ไม่มีดีเฟคกวนใจ ดูทันสมัยอยู่เลย
-
Jazz ก็ราคาแข็งมาตลอดนะครับ ทุก model เลย
-
GE จะแข็งก็ตัว JP ครับ มันมีครั้งเดี่ยวปี 12 จำนวนไม่เยอะ โดยเฉพาะสีส้ม ต้อง 3.5 แสนขึ้น
ส่วนตัว ประกอบไทยจะลงมาอีก และGK นี้ตกลงมา พอควรแต่ก็นิ่งๆ
GD ตอนนี้คนหาเก็บเพราะรถดีและแต่งขึ้นครับ
-
ถ้านึกถึงรถอเนกประสงค์ที่ไม่ใช่กระบะ
แว๊บแรกนึกออกแต่ Honda Jazz เพราะเห็นบ่อยมาก รอบตัวก็เห็น 5 คันละ
ผู้หญิงหรือผู้ชายขับก็ได้ พื้นที่ข้างหลังใส่ของได้เยอะอีก เครื่อง 1,500 ไปทั่วไทย
ความต้องการของผู้ซื้อก็ยังมากอยู่ ราคาขายก็เลยคงไว้ได้
Fortuner อีกรุ่นที่ราคามือ2แข็งพอกัน
-
นอกจากราคาไม่ตกเท่าไร ที่น่าอิจฉาอีกอย่างคือขับรุ่นสิบกว่าปีที่แล้ว กับรุ่นปัจจุบัน ความแตกต่างภายนอกยังน้อยกว่าบางยี่ห้อ minorchange เลยครับ
-
รถเล็ก สวย ขับสนุก คล่องตัว ผมก็อยากได้เหมือนกัน
-
ราคายังสูงอยู่ยันของแจ่งเลยล่ะครับ
Jazz GD แต่ง JDM นี่แต่ละชิ้นราคาแบบว่า "ห๊ะ แพงขนาดนี้เชียวเรอะ"