Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: the kit ที่ กันยายน 25, 2021, 09:03:32
-
เป็นคำถามที่มาจาก "เพื่อนของเพื่อน"
"เพื่อนสนิท" ก็ให้ช่วยมาเป็นธุระในการคิดให้
เขาต้องการเปลี่ยน เปลี่ยน Fortuner 2.8 4wd ปี 15 โฉมปัจจุบันโฉมแรกที่ไม่มีดิสเบรคหลัง ที่ซื้อมามือหนึ่ง
เป็น BMW X3 2.0 D โฉมปัจจุบัน มือสอง ดีไหมครับ?
รายละเอียด
Fortuner เก่าของเขา วิ่งมาประมาณ 110,000 กิโลเมตร เช็คศูนย์ทุกระยะ ไม่มีชน
เต็นท์ตีให้ประมาณ 800,000 บาท
X3 2.0 D โฉมปัจจุบันปี 19 bsi ยังเหลืออีกหลายปี (เขาไม่ได้บอกมาว่าอีกกี่ปี) รถคันนี้วิ่งมาประมาณ 60,000 กิโลเมตร ราคาประมาณ 2.4 ล้านบาท
ต้องเพิ่มเงินอีก 1.6ล้านบาท
ข้อจำกัด
1. เป็นรถใช้อยู่ต่างจังหวัด มีศูนย์ ทั้ง Toyota และ bmw อยู่ในจังหวัด
2. เส้นทางที่ใช้โดยมากเป็นทางเรียบ แต่ถ้าในหน้าฝนบางครั้งมีน้ำขัง 20 ถึง 30 เซนติเมตร
3. เจ้าของขับรถไม่เร็ว โดยประมาณ 120 ไม่เกิน 140 แต่ขับไม่ค่อยระวัง รูดทุกหลุม
4. คนนั่งหลักประมาณ 4 คน อาจจะมีกรณีพิเศษเพิ่มอีก 2 คนแต่ก็เป็นครั้งคราว
5. เป็นคนมีฐานะดี "กำลังสร้างตัว" และมี "ความกังวลมาก" เรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงดูแล และห่วงเรื่องราคาขายต่อในอนาคตมาก
6. ถ้าใช้อีก 4-5 ปีขาย รถคงวิ่งอยู่ประมาณ 150,000 กิโลเมตรราคา BMW จะเหลืออยู่ที่เท่าไหร่
7. ถ้าไม่ขาย Fortuner คือไม่เปลี่ยนรถ และใช้ไปอีก 4-5 ปีรถคงวิ่งอยู่ประมาณ 160,000 บาทถึง 180,000 กิโลเมตร ราคาจะเหลืออยู่ที่เท่าไหร่
สมาชิก HLM มีความเห็นว่ายังไงดีครับ?
-
เป็นคำถามที่มาจาก "เพื่อนของเพื่อน"
"เพื่อนสนิท" ก็ให้ช่วยมาเป็นธุระในการคิดให้
เขาต้องการเปลี่ยน เปลี่ยน Fortuner 2.8 4wd ปี 15 โฉมปัจจุบันโฉมแรกที่ไม่มีดิสเบรคหลัง ที่ซื้อมามือหนึ่ง
เป็น BMW X3 2.0 D โฉมปัจจุบัน มือสอง ดีไหมครับ?
รายละเอียด
Fortuner เก่าของเขา วิ่งมาประมาณ 110,000 กิโลเมตร เช็คศูนย์ทุกระยะ ไม่มีชน
เต็นท์ตีให้ประมาณ 800,000 บาท
X3 2.0 D โฉมปัจจุบันปี 19 bsi ยังเหลืออีกหลายปี (เขาไม่ได้บอกมาว่าอีกกี่ปี) รถคันนี้วิ่งมาประมาณ 60,000 กิโลเมตร ราคาประมาณ 2.4 ล้านบาท
ต้องเพิ่มเงินอีก 1.6ล้านบาท
ข้อจำกัด
1. เป็นรถใช้อยู่ต่างจังหวัด มีศูนย์ ทั้ง Toyota และ bmw อยู่ในจังหวัด
2. เส้นทางที่ใช้โดยมากเป็นทางเรียบ แต่ถ้าในหน้าฝนบางครั้งมีน้ำขัง 20 ถึง 30 เซนติเมตร
3. เจ้าของขับรถไม่เร็ว โดยประมาณ 120 ไม่เกิน 140 แต่ขับไม่ค่อยระวัง รูดทุกหลุม
4. คนนั่งหลักประมาณ 4 คน อาจจะมีกรณีพิเศษเพิ่มอีก 2 คนแต่ก็เป็นครั้งคราว
5. เป็นคนมีฐานะดี "กำลังสร้างตัว" และมี "ความกังวลมาก" เรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงดูแล และห่วงเรื่องราคาขายต่อในอนาคตมาก
6. ถ้าใช้อีก 4-5 ปีขาย รถคงวิ่งอยู่ประมาณ 150,000 กิโลเมตรราคา BMW จะเหลืออยู่ที่เท่าไหร่
7. ถ้าไม่ขาย Fortuner คือไม่เปลี่ยนรถ และใช้ไปอีก 4-5 ปีรถคงวิ่งอยู่ประมาณ 160,000 บาทถึง 180,000 กิโลเมตร ราคาจะเหลืออยู่ที่เท่าไหร่
สมาชิก HLM มีความเห็นว่ายังไงดีครับ?
มันขัดกันไปหมดเลยครับ
1.ถ้าอยู่ใน BSI เข้าศูนย์ไม่มีไรน่าห่วงครับ BSI 5Y/100,000Km ก็นับดูเอาว่าตัวเราจะวิ่งเยอะมั่ย.
2.20-30cm X3 วิ่งได้ครับ ขอแค่ปิดAIR.
3. BMW ขับ4ตลอดเวลา ยังไงก็มั่นใจครับ ข้อนี้ BMW ดีกว่า และบวกเรื่องความปลอดภัยที่มากกว่าด้วย (ดู Crash Test)
4. X3 มันได้เต็มที่แค่5คนครับ 4คนแบบสบายๆ.
5-6. ถ้า BSI เหลือ ไม่ต้องกังวลเลยครับ ถ้าจะใช้ต่อหลังจากหมด BSI ตจว.ผมคงเข้าแต่ศูนย์ ซึ่ง 20d มันไม่ได้จุกจิกอะไรครับ. ส่วนราคาขายต่อ TOYOTA ดีกว่าอยู่แล้ว BMW ไม่ต้องไปคิดครับ ยิ่งขายตอนหมด BSI ยิ่งเจ็บ.
7. For มันราคาแข็งครับ รุ่นคุณจะติดอย่างเดียวก็คือรุ่นหลังจากคุณมันให้เป็น Disc หลังมาแล้วไง ราคาอาจจะน้อยกว่ากันหน่อย.
-
กังวลเรื่องซ่อมบำรุง กังวลเรื่องขายต่อ ขับรูดทุกหลุม ขับไม่เร็วมาก 120-140
ตอบตรง ๆ นะครับ ไม่มีทาง ไม่ต้องซื้อครับ ตัดใจไปเลยกับ BMW
จากตัวเลือกนี้ขับ Fortuner ต่อไปดีกว่า
-
ถ้าไม่ติดเรื่องราคาขายต่อ เชียร์ไป X3 ครับ ได้รถขับดีกว่า โฉมใหม่กว่า ได้เรื่องภาพลักษณ์การติดต่องาน ธุรกิจ ข้อ 1 2 3 ไม่ต้องกังวล
แต่ติดตรงที่ นั่งปกติ 4 คน นั่ง 6 คนบางครั้ง X3 จะไม่ตอบโจทย์ น่าไป CX-8 หรือ ใช้ Fortuner ต่อ กับเรื่องราคาขายต่อ ถ้าดูจากราคามือสองในเว็บ X3 น่าจะอยู่ราวๆ 800-900K Fortuner น่าจะ 400K ซึ่ง X3 ดูจะเจ็บตัวกว่าครับ
-
ถ้าขับไม่ค่อยระวังแถมกังวลเรื่องซ่อมใช้คันเดิมต่อไปเถอะครับ หลังหมดbsiค่าดูแลสูงขึ้นพอสมควรแน่นอน ถ้าอีก4-5ปีขายx3น่าจะต้องหารสองจากราคาที่ซื้ออตอนนี้ ส่วนฟอร์จูนเนอร์คันเดิมราคาซื้อเข้าอย่างแย่สุดก็ไม่น่าหล่นไปมากกว่า300-400kรุ่นนี้ราคาแข็งมากนะครับ
-
5. เป็นคนมีฐานะดี "กำลังสร้างตัว" และมี "ความกังวลมาก" เรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงดูแล และห่วงเรื่องราคาขายต่อในอนาคตมา
ฐานะดี? แล้วจะเครียดไปทำไมกับรถยุโรป เรื่องซ่อมบำรุงมันก็สูง ราคาขายต่อ มันก็ตกหมดแหละ จะให้ราคาแพงแบบใกล้เคียงมือหนึ่งก็ไม่ใช่ มันคือรถใช้งานแล้ว
-
กังวลเรื่องซ่อมบำรุง กังวลเรื่องขายต่อ ขับรูดทุกหลุม ขับไม่เร็วมาก 120-140
ตอบตรง ๆ นะครับ ไม่มีทาง ไม่ต้องซื้อครับ ตัดใจไปเลยกับ BMW
จากตัวเลือกนี้ขับ Fortuner ต่อไปดีกว่า
+1 สเตปนี้เข้าศูนย์ด้วย คชจบำรุงรับไม่ไหวแน่ๆ ฟอจูนกับ x3 นี่ต่างกันอย่างเยอะ ราคาขายต่อดูในเว้ปมือสองก็เห็นชัดแล้ว เขาตอบตัวเองได้เลย
-
อ่านดูแล้ว เข้าใจว่าเจ้าของรถน่าจะเลือกรถด้วยเหตุผลประมาณนึงเลย
จากข้อจำกัดที่เขียนมา ทุกข้อมันชี้ให้ขับ Fortuner ต่อหมดเลยครับ
เพียงแต่ X3 มันโผล่มา ด้วยคำว่ากิเลสล้วนๆ เลยทำให้ตัดใจไม่ลง
ถ้าคิดว่าเงินจำนวนนี้ไม่เดือดร้อน ก็สนองกิเลสเลยครับ
-
ดูทรงแล้วคนมันมีใจครับแบบนี้
เหตุผลต่างๆคนถามน่าจะพอรู้อยู่ แต่ต้องการเสียงสนับสนุนเท่านั้น
ไม่ก็ต้องการเหตุผลแบบแรงๆเพื่อตัดใจ
ของแบบนี้มันต้องลองสักครั้งครับไม่งั้นคาใจ
แล้วจะรู้เองว่าคันต่อไปจะไปต่อหรือพอแค่นี้
-
ไปฟอร์รุ่นใหม่กว่าดีกว่ามั๊ง สร้างตัวได้แน่นอน
-
กังวลเรื่องซ่อมบำรุง กังวลเรื่องขายต่อ ขับรูดทุกหลุม ขับไม่เร็วมาก 120-140
ตอบตรง ๆ นะครับ ไม่มีทาง ไม่ต้องซื้อครับ ตัดใจไปเลยกับ BMW
จากตัวเลือกนี้ขับ Fortuner ต่อไปดีกว่า
+1 สเตปนี้เข้าศูนย์ด้วย คชจบำรุงรับไม่ไหวแน่ๆ ฟอจูนกับ x3 นี่ต่างกันอย่างเยอะ ราคาขายต่อดูในเว้ปมือสองก็เห็นชัดแล้ว เขาตอบตัวเองได้เลย
+1
-
ถ้าผมจำไม่ผิด x3 จะมี lci ไหมครับ ถ้าจำผิดก็ขออภัยนะครับ ผมขอเดาว่าโจทย์นี้ คนที่ถามค่อนข้างอยากเปลี่ยนรถนะครับ เป็นผมจะยุเปลี่ยนรถให้หายคาใจครับ แต่ว่ารอดูเผื่อถ้าlciมาก็น่าจะได้ถูกอีกหน่อยครับ
-
ผมว่าใช้ Fortuner ต่อไปดีกว่าครับราคาจากนี้ไปจะตกลงน้อยและเป็นรถที่ใช้มาตั้งแต่มือแรกตอนนี้ก็ยังเป็นรุ่นปัจจุบันอยู่ BMW X3 คันที่จะซื้อไมล์ก็ไม่น้อยไม่รู้ว่าจะต้องซ่อมบำรุงอะไรบ้างถึงมี BSI แต่ก็อาจจะสร้างความรำคาญใจให้ได้ถ้าต้องนำรถไปเข้าศูนย์บ่อยๆ ที่สำคัญขับแบบไม่ระวัง Fortuner รูดหลุมได้สบายกว่าแน่นอนและไม่ต้องกลัวพังเท่า X3 ครับ ลองดูนำรถไปแปลงหน้าหลังให้เหมือนตัว Legender ก็สวยขึ้นมากแล้วครับประหยัดเงินไปอีกเยอะเลย
-
ถ้าเพื่อนจะซื้อ X3 ไปดูรถใหม่ด้วยนะครับ เมืองนอก LCI แล้ว ส่วนลดรถใหม่ได้เยอะพอสมควร
-
อ่านซ้ำแล้ว ก็คงขออนุญาติออกความเห็นว่า
ต้องลองซักครั้งครับ
-
8) 8) 8)
.ดีครับ X-3 / 2.0d high performance + handling ทั้งเกาะถนน ทั้งระบบเบรค ต่างกับอีกแบรนด์ที่คุณควรไป road test เปรียบเทียบดูด้วยตัวเองเลยครับ :-X
-
ถ้าอยากเล่นรถที่ราคาสูงขึ้นต้องทำใจกับเรื่องค่าบำรุงรักษาและราคาขายต่อที่หนักหนากว่าก่อนแล้วครับ
ถ้าไม่หมดวารันตีแล้วขาย ก็ใช้ไปยาวๆจนหมดค่าไปเลยครับ จะได้ไม่ต้องมาคิดเรื่องราคาขายต่อมากนัก
-
หลายๆท่านได้แนะนำไปแล้ว ผมขอแนะนำเสริมเพิ่มเติมจากนอกตัวเลือกได้มั้ยครับ
ส่วนตัวผมอยากให้ลองดู Lexus NX มือสอง ก่อนครับ ผมว่ามันเป็นรถที่โอเคเลยนะ ทนทานไม่แพ้กับคันเดิมแน่นอน
เพียงแต่ค่าอะไหล่ ค่าบำรุงรักษาอาจจะสูงขึ้นมาหน่อย เพราะเป็นรถ Premium Brand แต่ต้องดูเป็นตัวเบนซินล้วนนะ ไม่เอา Hybrid
-
ข้อ 5-6 คุณใช้คำว่า "กังวลมาก" คุณไม่ควรซื้อครับ..
นี่คือคำตอบ
-
เค้ายังไม่พร้อมเป็นเจ้าของ BMW ครับ
-
เท่าที่บรรยายมาตั้งหลายข้อ คันเดิมเหมาะแล้วครับใช้ได้อย่างน้อย 5 ปีกับการซ่อมบำรุงนิดๆหน่อยรุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องทน อึดอยู่แล้ว
สร้างตัวเสร็จค่อยไปหา BMW จะสบายใจกว่า
-
5. เป็นคนมีฐานะดี "กำลังสร้างตัว" และมี "ความกังวลมาก" เรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงดูแล และห่วงเรื่องราคาขายต่อในอนาคตมาก
ด้วยข้อนี้ ใช้ Fortuner ต่อไป จนกว่าจะพร้อมครับ
รถยุโรป หมดBSI ซ่อมบำรุงแพงกว่าเท่าตัว
ราคาขายต่อตกมากมาย x3 d 19 ป้ายแดง ราคาประมาณ 3.6M฿ ผ่านมา2 ปี เหลือ 2.4M฿ ลดไป 1.2M฿
อันนี้เดาสุดๆ อีก5ปี ราคาขายออก ประมาณ 8-9แสนบาท (หมดBSI ยิ่งตกหนัก)
*อยู่ต่างจังหวัด การเปลี่ยนรถ จาก fortuner เป็น X3 หรือ GLC มีผลต่อหน้าตา ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ ในกลุ่มคนที่
ติดต่องาน ทำงาน ค้าขาย ประชุมหอการค้า สังสรรค ด้วยนะครับ ซึ่งเค้าคงมาเน้นในกลุ่มนี้ มากกว่าคนทั่วไปที่เค้าไม่รู้จัก มองเค้า
*เค้าฉลาดเลือก ปี19 เป็นรุ่นปัจจุบัน รถยังดูใหม่มาก ขับไปไหนมาไหน เหมือนซื้อป้ายแดงมาขับ ประหยัดไป 1.2M฿
*Suv การขับขี่ ใช้งาน นั่งโดยสาร ดีกว่า PPV มาก
-
ถ้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ผมว่ายังไม่พร้อมกับยุโรป ถ้าเกิดได้ x3 มาแล้วจุกจิกจากการใช้งาน หนือราคาขายต่อแย่กว่าที่คิดจะมาเสียดายทีหลัง เอาไว้พร้อมกว่านี้คือจัดทีเดียวดีกว่า
ผมว่าไปจบที่ c-suv ดีกว่า ขับดีกว่า ftn รูดพอได้ แต่รูดมากๆคงพังเหมือนกัส แต่ค่าซ่อมน่าจะถูกกว่า X3
-
เยี่ยมไปเลย.. สำหรับทุกคำตอบ
เนื่องจากเป็นคำถามจากเพื่อนของเพื่อน
ไอ้เราก็ไม่สนิท ก็ไม่อยากจะฟันธง ไม่อยากออกความเห็นตรงๆ เหมือนกลุ่ม "เพื่อนกงสี"
แต่ก็แนวทางความเห็น ก็ใกล้เคียงกับทุกคำตอบที่ สมาชิก hlm ได้เสนอมา
ผมก็ว่า ขับฟอร์จูนเนอร์แบบเดิมน่ะดีแล้ว
ถึง "มัน" จะฐานะดี แต่ก็กำลังสร้างตัวเพิ่มขึ้น ยังไม่ได้ "อยู่ตัว"
จะไป X3 เพื่อความโก้ ความหรู แต่พอระยะยาว หรือไม่ยาวมากนัก ประมาณว่าหมด b s i เรารู้กัน!!
ขับ ppv ญี่ปุ่น นี่มันสบายใจสุดแล้ว ค่าซ่อมค่ารักษา ก็อยู่ในช่วงที่รับได้ ราคาขายต่อ ก็ค่อนข้างสบายใจ
สรุป เดี๋ยวผมจะเอา แบบสอบถามนี้ ไปบอกมัน แต่ส่วนมัน จะไปต่อ หรือพอแค่นี้ ก็สุด แล้วแต่
เพราะรถยุโรปนี้ ลางเนื้อชอบลางยา
อีกพวกก็คือ ขี่หลังเสือแล้วลงจากเสือไม่ได้ก็เยอะ
แต่พวกที่พร้อมจริงๆ จะขี่เสือ จะขี่กระทิง จะขี่ม้าหรือจะขย่มนางฟ้า ก็สบายๆ