Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: LapisLazuli ที่ ตุลาคม 21, 2021, 17:52:01

หัวข้อ: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LapisLazuli ที่ ตุลาคม 21, 2021, 17:52:01
คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
อาจจะไม่เเม่นจริงๆ ผิด/ถูกยังไงบอกได้นะครับ 55
(ไม่ได้คิดค่าไฟ on-peak / off-peak / เพิ่มราคาเมื่อใช้ครบหน่วย)

ค่าตัวเลข ตาม โบรชัวร์:

Almera 1.0L T (B-Segment / ECO Car)
- ถังน้ำมัน 35 ลิตร, อัตรา 23.3 km/L
- Range = 815.5 km
- ค่าน้ำมัน = 31.55 บาท/L (Gasohol 95)
=> สรุปค่าใช้จ่าย คือ
 *0.7385 km/บาท*

Civic FE 1.5L T (C-Segment)
- ถังน้ำมัน 47 ลิตร, อัตรา 17.2 km/L
- Range = 808.4 km
- ค่าน้ำมัน = 31.55 บาท/L (Gasohol 95)
=> สรุปค่าใช้จ่าย คือ
 *0.5452 km/บาท*

Nissan Leaf
- Battery 40 kWh, ชาร์จเต็มก็ 40 unit
- Range = 311 km = 7.775 km/unit
- ค่าไฟ = 3.25 บาท/unit
=> สรุปค่าใช้จ่าย คือ
*2.3923 km/บาท*

ORA Good Cat
- Battery 47.78 kWh, ชาร์จเต็มก็ 47.78 unit
- Range = 400 km = 8.37 km/unit
- ค่าไฟ = 3.25 บาท/unit
=> สรุปค่าใช้จ่าย คือ
 *2.5754 km/บาท*

Tesla Model 3 (Standard Plus - 2019)
- Battery 54 kWh, ชาร์จเต็มก็ 54 unit
- Range = 423 km = 7.83 km/unit
- ค่าไฟ = 3.25 บาท/unit
=> สรุปค่าใช้จ่าย คือ
 *2.4092 km/บาท*

ถ้าวิ่งไป 200,000 km จะใช้ค่าเชื้อเพลิง/ค่าไฟ เท่าไร (ถ้าใช้ราคาค่าไฟ/น้ำมันเท่านี้)
- Almera 1.0L T = 270,819.23 บาท
- Civic FE 1.5L T = 366,864.77 บาท
- Nissan Leaf = 83,601.55 บาท
- ORA Good Cat = 77,657.84 บาท
- Tesla Model 3 (Standard Plus - 2019) = 83,015.11 บาท
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PC CK ที่ ตุลาคม 21, 2021, 18:10:05
ใช่ครับ ยังไงBEVก็ประหยัดกว่าจริงๆครับ
ถ้าจะซื้อรถใหม่ BEVน่าสนใจมากๆครับ
แต่ขณะเดียวกัน ถ้ารถICEยังใช้ได้ดีอยู่ไม่มีความจุกจิกอะไร ก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบเปลี่ยนเหมือนกันครับ อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละท่านครับ
ไม่ใช่ว่าซื้อBEVก่อนแล้วประกยัดก่อนครับกรณีนี้ แต่เป็นซื้อก่อนก็เสียเงินก่อนครับ
อนาคตมีรถใหม่ๆเข้ามาอีกเยอะครับ

นี่ยังรอmarvel X,marvel Rมาพักนึงแล้วครับ ยังไม่มาสักที เลยไปPHEVก่อนแล้วกันครับ
มาเมื่อไรค่อยซื้ออีกทีก็ยังไม่สายครับ
หรือถ้ามีรถมาเปิดตัวแล้วชอบและเงินถึงก็ค่อยไปถอยครับ
แต่teslaทำใจกับการประกอบและดีไซน์ภายในไม่ได้ครับ ขอบายก่อนครับ ณ จุดนี้
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: polwath ที่ ตุลาคม 21, 2021, 18:18:24
ตอนนี้อยากรู้ว่าถ้าเป็นรถ hybrid จะประหยัดกว่ารถน้ำมันล้วนไหม แล้วจะคิดอัตราสิ้นเปลืองแบบรถน้ำมันได้ไหม โดยเฉพาะรถที่มีทั้งเติมน้ำมันและชาร์จไฟฟ้าด้วย อย่าง Outlander PHEV
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ ตุลาคม 21, 2021, 18:21:35
จะต่างกันมากกว่านี้หากรวมค่าบำรุงรักษา 

แต่ ค่าประกันรถไฟฟ้าแพงกว่าประมาณนึง

หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ ตุลาคม 21, 2021, 18:42:17
ประมาณนี้เลยครับ ผมก็คิดไว้รถ EV จะประหยัดกว่า รถ Ice ประมาณ 4-5 เท่า และประหยัดกว่า Hybrid ประมาณ 2 เท่า

พอใส่ตัวเลขจริงๆ ต้องวิ่งเยอะมากๆถึงจะคุ้มวันนึงเฉลี่ยอาจจะต้อง 80กม++ เลย ฉะนั้นวิ่งน้อยๆแบบผมคงมองแค่ Hybrid ก็พอแล้วล่ะครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LapisLazuli ที่ ตุลาคม 21, 2021, 19:22:50
จะต่างกันมากกว่านี้หากรวมค่าบำรุงรักษา 

แต่ ค่าประกันรถไฟฟ้าแพงกว่าประมาณนึง

ผมว่าเลข EV การใช้งานจริงเทียบโบรชัวร์ คงดีกว่า ICE เทียบโบรชัวร์ขึ้นไปอีก
เพราะ ไม่ต้องลากรอบเวลาใช้งานจริง, มี Regenerative Braking, ไม่มีรอบเดินเบา, etc.
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ ตุลาคม 21, 2021, 21:11:59
อันนี้คิดแบบ ขับทางไกลแช่ๆ นะครับ
รถ ICE ขับในเมืองรถติดๆ เครื่องไม่ดับ เผาน้ำมันทิ้งตลอด กินน้ำมันมากขึ้น 30-60%
จะคำณวนค้่าน้ำมันได้ต่างกันมากขึ้นไปอีก
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: XMSL ที่ ตุลาคม 21, 2021, 21:20:43
ผมคุ้นกับการคิดอัตราการบริโภคแบบ watts/km ของรถ ev มากกว่า เช่น model 3 ใช้ 200w/km แปลว่าไฟฟ้า 1 หน่วย(kwh) วิ่งได้ 5 กม. ทีนี้ก็ไปคิดความสูญเสียของการชาร์จและอื่นๆ คิดซะว่า 3-5% แล้วค่อยไปตีเป็นเงินค่าไฟต่อกิโลเมตรครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ThisIsYuTh ที่ ตุลาคม 21, 2021, 21:30:57
ลองเล่นบ้าง

CX-5 2.5T (C-SUV)
- ถังน้ำมัน 58 ลิตร, อัตรา 12 km/L (Eco Sticker)
- Range = 696 km
- ค่าน้ำมัน = 31.55 บาท/L (Gasohol 95)
=> สรุปค่าใช้จ่าย คือ
 *0.3804 km/บาท*

สองแสนโล = 525,833.33 บาท

ถ้าน้ำมันราคาถูกลง
ลิตรละ 25 บาท
0.4800 km/บาท
สองแสนโล = 466,666.66 บาท

ลิตรละ 20 บาท
0.6000 km/บาท
สองแสนโล = 333,333.33 บาท

ป.ล. ถ้าคิดเป็น บาท/กม. จะดูงงน้อยกว่านะผมว่า
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ ตุลาคม 21, 2021, 21:38:07
อันนี้คิดแบบ ขับทางไกลแช่ๆ นะครับ
รถ ICE ขับในเมืองรถติดๆ เครื่องไม่ดับ เผาน้ำมันทิ้งตลอด กินน้ำมันมากขึ้น 30-60%
จะคำณวนค้่าน้ำมันได้ต่างกันมากขึ้นไปอีก

ถูกต้องเลยครับ ถ้ารถ Ice วิ่งในเมือง อัตราการกินน้ำมันเละกว่านี้ แต่กลับกัน EV ย่อง ติดในเมือง ประหยัดกว่าวิ่งแช่ 110 ทางไกล ยิ่งถ้าจอดนิ่งๆกินข้าว หรือนั่งรอบนรถนี่ EV ยิ่งสบายเลย
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ ตุลาคม 21, 2021, 22:08:54
เลขระยะทาง good cat มันคนละหน่วยกับ เทสล่า

ถ้าจะเอาหน่วยเดียวกับเทสล่า good cat จะได้ราว 313

หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LapisLazuli ที่ ตุลาคม 22, 2021, 08:13:02
เลขระยะทาง good cat มันคนละหน่วยกับ เทสล่า

ถ้าจะเอาหน่วยเดียวกับเทสล่า good cat จะได้ราว 313

หมายถึงมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงการทดสอบหรอครับ
Nissan Leaf ด้วยรึเปล่า

edit: ไปดูมาละครับ Leaf ใช้ NEDC
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ ตุลาคม 22, 2021, 08:31:27
ลองเล่นบ้าง

CX-5 2.5T (C-SUV)
- ถังน้ำมัน 58 ลิตร, อัตรา 12 km/L (Eco Sticker)
- Range = 696 km
- ค่าน้ำมัน = 31.55 บาท/L (Gasohol 95)
=> สรุปค่าใช้จ่าย คือ
 *0.3804 km/บาท*

สองแสนโล = 525,833.33 บาท

ถ้าน้ำมันราคาถูกลง
ลิตรละ 25 บาท
0.4800 km/บาท
สองแสนโล = 466,666.66 บาท

ลิตรละ 20 บาท
0.6000 km/บาท
สองแสนโล = 333,333.33 บาท

ป.ล. ถ้าคิดเป็น บาท/กม. จะดูงงน้อยกว่านะผมว่า
ครับ น่าจะคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อระยะทางจะดีกว่า
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ตุลาคม 22, 2021, 11:08:36
2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ ตุลาคม 22, 2021, 11:10:45
2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
ผมกลัวว่ามันจะพังจนไม่น่าใช้ก่อนที่จะถึง5ปีนะครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zionzz ที่ ตุลาคม 22, 2021, 13:40:28
วิ่ง2แสนโล ค่าซ่อมแบตจะเท่าไหร่กันนะ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: United ที่ ตุลาคม 22, 2021, 14:44:52
อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่ 
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ ตุลาคม 22, 2021, 15:26:59
วิ่ง2แสนโล ค่าซ่อมแบตจะเท่าไหร่กันนะ

ซ่อมแบตฯไม่มีนะครับ  รับประกัน 10 ปี เปลี่ยนฟรี ทั้งนั้นมั้ง...
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LapisLazuli ที่ ตุลาคม 22, 2021, 16:55:06
อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้ พวกเราทั้งหมด รู้อยุ่แก่ใจครับ ว่า Infrastructure ประเทศเรายังไม่พร้อมใช้งานรถ EV
คิดเล่นๆเฉยๆ ไม่ได้คิดจะซื้อจริง 55
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Gunther ที่ ตุลาคม 22, 2021, 18:00:19
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ ตุลาคม 22, 2021, 18:21:35
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

มันติดที่ค่าตัวน่ะสิครับ

ถ้าเอา Goodcat 500KM สมมติ 1.00 ล้าน

ชนกันตรงๆ ขนาดพอๆกัน Almera 1.0T หรือ City 1.0T ราคา 6.5-6.7 แสน Save ค่าตัวไปก่อนเลย 4.5 แสน

ได้รถมาสิ่งที่ Goodcat น่าจะต้องเสียเงินก่อนเลย คือยางแถม Giti มาให้ คันล่ะล้านนึง ถ้าไม่ไว้ใจก็หมื่นต้นๆเปลี่ยนยางใหม่

แล้วลืมเรื่อง 10ปี ไปเลยครับ ระยะเวลาไม่เกี่ยว เกี่ยวที่ระยะทาง ต้องใช้ Goodcat ถึง 3-400,000 โล ถึงจะคุ้มส่วนต่างค่าตัวกับค่าน้ำมัน ต่อให้หักค่าบำรุงรักษาด้วย (ตามตัวเลขคร่าวๆด้านบน 200,000 โล ส่วนต่าง ประมาณ 200,000 บาท) หารมาถ้าใช้ 10 ปี ตกปีล่ะ 30,000 โล ประมาณๆ หรือต้องวิ่งทุกวัน วันล่ะ 80KM ชึ้นไป ตามที่ผมโพสไว้ด้านบน

ถ้าจะเอาให้สุดผ่านไป 300,000 โล ราคาขายต่อ Goodcat จะเหลือเท่าไหร่ Almera City จะเหลือเท่าไหร่อีกนะครับ ถ้ามองง่ายสินค้าอิเลคโทรนิก อย่างมือถือ 10 ปีที่แล้วจะขายมือสองตอนนี้อย่าว่าแต่จะขายได้เท่าไหร่เลยครับ จะมีคนซื้อหรือเปล่า เพราะถึงตอนนั้นรถ BEV จะพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว

ถ้าดูแต่ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา มันก็ใช่ครับถูกกว่าแน่ๆ แต่ค่าตัวพอมาดูจริงๆแล้วกับ Goodcat ขนาดเล็กๆแบบนี้ที่ราคา 1 ล้าน ผมไม่มั่นใจถ้าจะบอกว่าคุ้มซักเท่าไหร่

ปล คำนวนตรงไหนผิดโควทเลยนะครับ ผมก็อยากได้ แต่ใช้รถน้อยมากๆ ทำตัวเลขส่ง ผบ ไม่ผ่านเลยครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Forty Five ที่ ตุลาคม 22, 2021, 19:10:31
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

ต่อให้ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า Good Cat ถูกกว่ารถยนต์ Eco Cars
แต่ราคารถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat แพงกว่ารถยนต์ Eco Cars อยู่ดี
สรุปคือ ยังไงก็ลงเอยไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ดี เพราะไม่ปล่อยมลพิษเลย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ การบำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิกเหมือนรถ Eco Cars
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ ตุลาคม 22, 2021, 20:33:55
เลขระยะทาง good cat มันคนละหน่วยกับ เทสล่า

ถ้าจะเอาหน่วยเดียวกับเทสล่า good cat จะได้ราว 313

หมายถึงมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงการทดสอบหรอครับ
Nissan Leaf ด้วยรึเปล่า

ใช่ครับ good cat เป็นnedc
tesla เป้นepa หรือ wltp ไม่แน่ใจ

ส่วน leaf ผมไม่สนใจมันครับ ไม่เป็นไร 555
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teera ที่ ตุลาคม 22, 2021, 20:40:29
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

มันติดที่ค่าตัวน่ะสิครับ

ถ้าเอา Goodcat 500KM สมมติ 1.00 ล้าน

ชนกันตรงๆ ขนาดพอๆกัน Almera 1.0T หรือ City 1.0T ราคา 6.5-6.7 แสน Save ค่าตัวไปก่อนเลย 4.5 แสน

ได้รถมาสิ่งที่ Goodcat น่าจะต้องเสียเงินก่อนเลย คือยางแถม Giti มาให้ คันล่ะล้านนึง ถ้าไม่ไว้ใจก็หมื่นต้นๆเปลี่ยนยางใหม่

แล้วลืมเรื่อง 10ปี ไปเลยครับ ระยะเวลาไม่เกี่ยว เกี่ยวที่ระยะทาง ต้องใช้ Goodcat ถึง 3-400,000 โล ถึงจะคุ้มส่วนต่างค่าตัวกับค่าน้ำมัน ต่อให้หักค่าบำรุงรักษาด้วย (ตามตัวเลขคร่าวๆด้านบน 200,000 โล ส่วนต่าง ประมาณ 200,000 บาท) หารมาถ้าใช้ 10 ปี ตกปีล่ะ 30,000 โล ประมาณๆ หรือต้องวิ่งทุกวัน วันล่ะ 80KM ชึ้นไป ตามที่ผมโพสไว้ด้านบน

ถ้าจะเอาให้สุดผ่านไป 300,000 โล ราคาขายต่อ Goodcat จะเหลือเท่าไหร่ Almera City จะเหลือเท่าไหร่อีกนะครับ ถ้ามองง่ายสินค้าอิเลคโทรนิก อย่างมือถือ 10 ปีที่แล้วจะขายมือสองตอนนี้อย่าว่าแต่จะขายได้เท่าไหร่เลยครับ จะมีคนซื้อหรือเปล่า เพราะถึงตอนนั้นรถ BEV จะพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว

ถ้าดูแต่ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา มันก็ใช่ครับถูกกว่าแน่ๆ แต่ค่าตัวพอมาดูจริงๆแล้วกับ Goodcat ขนาดเล็กๆแบบนี้ที่ราคา 1 ล้าน ผมไม่มั่นใจถ้าจะบอกว่าคุ้มซักเท่าไหร่

ปล คำนวนตรงไหนผิดโควทเลยนะครับ ผมก็อยากได้ แต่ใช้รถน้อยมากๆ ทำตัวเลขส่ง ผบ ไม่ผ่านเลยครับ

เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ตุลาคม 22, 2021, 20:50:26
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

มันติดที่ค่าตัวน่ะสิครับ

ถ้าเอา Goodcat 500KM สมมติ 1.00 ล้าน

ชนกันตรงๆ ขนาดพอๆกัน Almera 1.0T หรือ City 1.0T ราคา 6.5-6.7 แสน Save ค่าตัวไปก่อนเลย 4.5 แสน

ได้รถมาสิ่งที่ Goodcat น่าจะต้องเสียเงินก่อนเลย คือยางแถม Giti มาให้ คันล่ะล้านนึง ถ้าไม่ไว้ใจก็หมื่นต้นๆเปลี่ยนยางใหม่

แล้วลืมเรื่อง 10ปี ไปเลยครับ ระยะเวลาไม่เกี่ยว เกี่ยวที่ระยะทาง ต้องใช้ Goodcat ถึง 3-400,000 โล ถึงจะคุ้มส่วนต่างค่าตัวกับค่าน้ำมัน ต่อให้หักค่าบำรุงรักษาด้วย (ตามตัวเลขคร่าวๆด้านบน 200,000 โล ส่วนต่าง ประมาณ 200,000 บาท) หารมาถ้าใช้ 10 ปี ตกปีล่ะ 30,000 โล ประมาณๆ หรือต้องวิ่งทุกวัน วันล่ะ 80KM ชึ้นไป ตามที่ผมโพสไว้ด้านบน

ถ้าจะเอาให้สุดผ่านไป 300,000 โล ราคาขายต่อ Goodcat จะเหลือเท่าไหร่ Almera City จะเหลือเท่าไหร่อีกนะครับ ถ้ามองง่ายสินค้าอิเลคโทรนิก อย่างมือถือ 10 ปีที่แล้วจะขายมือสองตอนนี้อย่าว่าแต่จะขายได้เท่าไหร่เลยครับ จะมีคนซื้อหรือเปล่า เพราะถึงตอนนั้นรถ BEV จะพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว

ถ้าดูแต่ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา มันก็ใช่ครับถูกกว่าแน่ๆ แต่ค่าตัวพอมาดูจริงๆแล้วกับ Goodcat ขนาดเล็กๆแบบนี้ที่ราคา 1 ล้าน ผมไม่มั่นใจถ้าจะบอกว่าคุ้มซักเท่าไหร่

ปล คำนวนตรงไหนผิดโควทเลยนะครับ ผมก็อยากได้ แต่ใช้รถน้อยมากๆ ทำตัวเลขส่ง ผบ ไม่ผ่านเลยครับ

ถ้าจะใช้รถระดับ 10ปีขึ้น ยังไงก็ต้องรถตลาดเท่านั้นครับ
ผมไม่ต้องเทียบรถไฟฟ้ากับรถน้ำมันด้วย

เอาน้ำมันต่อน้ำมัน​นี่แหละ
รถตลาดยังมีอะไหล่ช่วงล่างจากหลายๆแหล่ง อยู่จนเกิน 10ปี
แต่รถไม่ตลาด อยากใช้ต่อก็ต้องยอมให้เค้าโขกสับ รุ่นไหนที่ตลาดโลกขายเยอะหน่อยก็โชคดีไป แต่ถ้าตลาดโลกขายน้อย คือทิ้งสถานเดียว

หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ThisIsYuTh ที่ ตุลาคม 23, 2021, 00:03:01
อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hayachan ที่ ตุลาคม 23, 2021, 03:06:31
อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
ยังไม่คิดว่าต้องรอคิวยาวรึป่าวด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ ตุลาคม 23, 2021, 06:33:58
อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
ยังไม่คิดว่าต้องรอคิวยาวรึป่าวด้วยนะครับ

ยังไม่หัวเสียเท่าวางแผนไว้แล้ว มาถึงที่ชาร์จปิดปรับปรุง ผมเจอมาแล้วตอนไปเที่ยวพังงา มีหัวชาร์จในปั้มแถวสุราษ เดินไปดูอ้าวเห้ย เสีย แล้วงี้คนที่เค้าวางแผนมาดีๆตามในแอพ เจอแบบนี้ไปทำไงหว่า
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ ตุลาคม 23, 2021, 09:05:01
2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
ผมกลัวว่ามันจะพังจนไม่น่าใช้ก่อนที่จะถึง5ปีนะครับ

จริงพี่... เรื่องนี้ยังต้องรอการพิสูจน์   อีกเยอะ

เรื่องรถน้ำมันเราคุ้นกันแล้ว ใช้กันมานาน จนรู้ว่าอะไรจะอยู่ได้ประมาณไหน ซ่อมได้มั้ย ประมาณเท่าไหร่
แต่กับ EV เรายังรู้จักกับมันน้อยมากในเชิงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน  แต่ถ้าให้เทียบว่ามัน
คือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง  ซึ่งบุคลิกของเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปทุกคนคงพอรู้  คือบทมันจะไป
ก็ไปเลยนะ อย่างเมนบอร์ดพัง การ์ดพัง ชิปพัง  ต่างจากพวกที่เป็น mechanics ที่มันจะเริ่มจาก
การสึกหรอ หลวมคลอน ส่งสัญญาณบอกเราก่อนน่ะครับ 

นี่ยังไม่นับพวก software ระบบ OS ต่าง ๆ ที่ต้องพิสูจน์ความเสถียรอีก กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงใช้เวลา
ในการพัฒนา เรียนรู้ และแก้ไขกันพอควรครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ ตุลาคม 23, 2021, 09:17:44
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

ต่อให้ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า Good Cat ถูกกว่ารถยนต์ Eco Cars
แต่ราคารถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat แพงกว่ารถยนต์ Eco Cars อยู่ดี
สรุปคือ ยังไงก็ลงเอยไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ดี เพราะไม่ปล่อยมลพิษเลย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ การบำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิกเหมือนรถ Eco Cars
ใครว่าไม่ปล่อยมลพิษกันครับ แต่มลพิษตอนวิ่งไปอยู่กับท่อโรงไฟฟ้าและการจัดการกับแบตเตอรี่ที่ไม่รู้ว่าจะรีไซเคิลได้ทั้งหมดมั้ย. กับขั้นตอนกาขุดเหมืองลิเที่ยมที่ทำลายธรรมชาติแและจ้างแรงงานมาถูกๆ อยากรักษ์โลกก็ต้องไปจักรยานและขนส่งสาธารณะครับ

อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
ยังไม่คิดว่าต้องรอคิวยาวรึป่าวด้วยนะครับ

ยังไม่หัวเสียเท่าวางแผนไว้แล้ว มาถึงที่ชาร์จปิดปรับปรุง ผมเจอมาแล้วตอนไปเที่ยวพังงา มีหัวชาร์จในปั้มแถวสุราษ เดินไปดูอ้าวเห้ย เสีย แล้วงี้คนที่เค้าวางแผนมาดีๆตามในแอพ เจอแบบนี้ไปทำไงหว่า
นั่นสิครับ เสียเวลานี่เอาคืนมาไม่ได้ครับ

2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
ผมกลัวว่ามันจะพังจนไม่น่าใช้ก่อนที่จะถึง5ปีนะครับ

จริงพี่... เรื่องนี้ยังต้องรอการพิสูจน์   อีกเยอะ

เรื่องรถน้ำมันเราคุ้นกันแล้ว ใช้กันมานาน จนรู้ว่าอะไรจะอยู่ได้ประมาณไหน ซ่อมได้มั้ย ประมาณเท่าไหร่
แต่กับ EV เรายังรู้จักกับมันน้อยมากในเชิงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน  แต่ถ้าให้เทียบว่ามัน
คือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง  ซึ่งบุคลิกของเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปทุกคนคงพอรู้  คือบทมันจะไป
ก็ไปเลยนะ อย่างเมนบอร์ดพัง การ์ดพัง ชิปพัง  ต่างจากพวกที่เป็น mechanics ที่มันจะเริ่มจาก
การสึกหรอ หลวมคลอน ส่งสัญญาณบอกเราก่อนน่ะครับ 

นี่ยังไม่นับพวก software ระบบ OS ต่าง ๆ ที่ต้องพิสูจน์ความเสถียรอีก กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงใช้เวลา
ในการพัฒนา เรียนรู้ และแก้ไขกันพอควรครับ
ใช่ครับ และยิ่งการ์ดบอร์ดชิปเหล่านี้อยู่ในราคาอะไหล่รถยนต์ที่ต้องเบิกศูนย์มันไม่ถูกเหมือนไปบ้านหม้อหรือไปร้านอุปกรณ์ไอทีเพื่อซื้อเมนบอร์ดด้วยครับ อากาศเมืองไทยร้อนชื้นด้วยยิ่งทำให้อุแกรณ์เหล่านี้อายุสั้นกว่าเมืองหนาวอากาศแห้งนะครับ. ใครว่ารถไฟฟ้าทนทานไม่พังง่าย คนนั้นมองตื้นไปครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Gunther ที่ ตุลาคม 23, 2021, 18:06:17
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

มันติดที่ค่าตัวน่ะสิครับ

ถ้าเอา Goodcat 500KM สมมติ 1.00 ล้าน

ชนกันตรงๆ ขนาดพอๆกัน Almera 1.0T หรือ City 1.0T ราคา 6.5-6.7 แสน Save ค่าตัวไปก่อนเลย 4.5 แสน

ได้รถมาสิ่งที่ Goodcat น่าจะต้องเสียเงินก่อนเลย คือยางแถม Giti มาให้ คันล่ะล้านนึง ถ้าไม่ไว้ใจก็หมื่นต้นๆเปลี่ยนยางใหม่

แล้วลืมเรื่อง 10ปี ไปเลยครับ ระยะเวลาไม่เกี่ยว เกี่ยวที่ระยะทาง ต้องใช้ Goodcat ถึง 3-400,000 โล ถึงจะคุ้มส่วนต่างค่าตัวกับค่าน้ำมัน ต่อให้หักค่าบำรุงรักษาด้วย (ตามตัวเลขคร่าวๆด้านบน 200,000 โล ส่วนต่าง ประมาณ 200,000 บาท) หารมาถ้าใช้ 10 ปี ตกปีล่ะ 30,000 โล ประมาณๆ หรือต้องวิ่งทุกวัน วันล่ะ 80KM ชึ้นไป ตามที่ผมโพสไว้ด้านบน

ถ้าจะเอาให้สุดผ่านไป 300,000 โล ราคาขายต่อ Goodcat จะเหลือเท่าไหร่ Almera City จะเหลือเท่าไหร่อีกนะครับ ถ้ามองง่ายสินค้าอิเลคโทรนิก อย่างมือถือ 10 ปีที่แล้วจะขายมือสองตอนนี้อย่าว่าแต่จะขายได้เท่าไหร่เลยครับ จะมีคนซื้อหรือเปล่า เพราะถึงตอนนั้นรถ BEV จะพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว

ถ้าดูแต่ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา มันก็ใช่ครับถูกกว่าแน่ๆ แต่ค่าตัวพอมาดูจริงๆแล้วกับ Goodcat ขนาดเล็กๆแบบนี้ที่ราคา 1 ล้าน ผมไม่มั่นใจถ้าจะบอกว่าคุ้มซักเท่าไหร่

ปล คำนวนตรงไหนผิดโควทเลยนะครับ ผมก็อยากได้ แต่ใช้รถน้อยมากๆ ทำตัวเลขส่ง ผบ ไม่ผ่านเลยครับ

ในชั่วโมงนี้ Eco Cars น่าจะตอบโจทย์ได้อยู่ในตอนนี้
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Forty Five ที่ ตุลาคม 23, 2021, 19:03:37
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

ต่อให้ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า Good Cat ถูกกว่ารถยนต์ Eco Cars
แต่ราคารถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat แพงกว่ารถยนต์ Eco Cars อยู่ดี
สรุปคือ ยังไงก็ลงเอยไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ดี เพราะไม่ปล่อยมลพิษเลย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ การบำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิกเหมือนรถ Eco Cars
ใครว่าไม่ปล่อยมลพิษกันครับ แต่มลพิษตอนวิ่งไปอยู่กับท่อโรงไฟฟ้าและการจัดการกับแบตเตอรี่ที่ไม่รู้ว่าจัรีไซเคิลได้ทั้งหมดมั้ย. กับขั้นตอนกาขุดเหมืองลิเที่ยมที่ทำลายธรรมชาติแและจ้างแรงงานมาถูกๆ อยากรักษ์โลกก็ต้องไปจักรยานและขนส่งสาธารณะครับ

อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
ยังไม่คิดว่าต้องรอคิวยาวรึป่าวด้วยนะครับ

ยังไม่หัวเสียเท่าวางแผนไว้แล้ว มาถึงที่ชาร์จปิดปรับปรุง ผมเจอมาแล้วตอนไปเที่ยวพังงา มีหัวชาร์จในปั้มแถวสุราษ เดินไปดูอ้าวเห้ย เสีย แล้วงี้คนที่เค้าวางแผนมาดีๆตามในแอพ เจอแบบนี้ไปทำไงหว่า
นั่นสิครับ เสียเวลานี่เอาคืนมาไม่ได้ครับ

2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
ผมกลัวว่ามันจะพังจนไม่น่าใช้ก่อนที่จะถึง5ปีนะครับ

จริงพี่... เรื่องนี้ยังต้องรอการพิสูจน์   อีกเยอะ

เรื่องรถน้ำมันเราคุ้นกันแล้ว ใช้กันมานาน จนรู้ว่าอะไรจะอยู่ได้ประมาณไหน ซ่อมได้มั้ย ประมาณเท่าไหร่
แต่กับ EV เรายังรู้จักกับมันน้อยมากในเชิงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน  แต่ถ้าให้เทียบว่ามัน
คือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง  ซึ่งบุคลิกของเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปทุกคนคงพอรู้  คือบทมันจะไป
ก็ไปเลยนะ อย่างเมนบอร์ดพัง การ์ดพัง ชิปพัง  ต่างจากพวกที่เป็น mechanics ที่มันจะเริ่มจาก
การสึกหรอ หลวมคลอน ส่งสัญญาณบอกเราก่อนน่ะครับ 

นี่ยังไม่นับพวก software ระบบ OS ต่าง ๆ ที่ต้องพิสูจน์ความเสถียรอีก กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงใช้เวลา
ในการพัฒนา เรียนรู้ และแก้ไขกันพอควรครับ
ใช่ครับ และยิ่งการ์ดบอร์ดชิปเหล่านี้อยู่ในราคาอะไหล่รถยนต์ที่ต้องเบิกศูนย์มันไม่ถูกเหมือนไปบ้านหม้อหรือไปร้านอุปกรณ์ไอทีเพื่อซื้อเมนบอร์ดด้วยครับ อากาศเมืองไทยร้อนชื้นด้วยยิ่งทำให้อุแกรณ์เหล่านี้อายุสั้นกว่าเมืองหนาวอากาศแห้งนะครับ. ใครว่ารถไฟฟ้าทนทานไม่พังง่าย คนนั้นมองตื้นไปครับ

ทราบว่ามีแบตเตอรี่แบบไหนที่สามารถ Recycle แล้วกลับมาใช้ใหม่นั้น มีหรือไม่ครับ

ที่รู้แน่ๆ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ภายใน 10 ปีข้างหน้าครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ ตุลาคม 23, 2021, 22:58:46
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

ต่อให้ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า Good Cat ถูกกว่ารถยนต์ Eco Cars
แต่ราคารถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat แพงกว่ารถยนต์ Eco Cars อยู่ดี
สรุปคือ ยังไงก็ลงเอยไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ดี เพราะไม่ปล่อยมลพิษเลย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ การบำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิกเหมือนรถ Eco Cars
ใครว่าไม่ปล่อยมลพิษกันครับ แต่มลพิษตอนวิ่งไปอยู่กับท่อโรงไฟฟ้าและการจัดการกับแบตเตอรี่ที่ไม่รู้ว่าจัรีไซเคิลได้ทั้งหมดมั้ย. กับขั้นตอนกาขุดเหมืองลิเที่ยมที่ทำลายธรรมชาติแและจ้างแรงงานมาถูกๆ อยากรักษ์โลกก็ต้องไปจักรยานและขนส่งสาธารณะครับ

อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
ยังไม่คิดว่าต้องรอคิวยาวรึป่าวด้วยนะครับ

ยังไม่หัวเสียเท่าวางแผนไว้แล้ว มาถึงที่ชาร์จปิดปรับปรุง ผมเจอมาแล้วตอนไปเที่ยวพังงา มีหัวชาร์จในปั้มแถวสุราษ เดินไปดูอ้าวเห้ย เสีย แล้วงี้คนที่เค้าวางแผนมาดีๆตามในแอพ เจอแบบนี้ไปทำไงหว่า
นั่นสิครับ เสียเวลานี่เอาคืนมาไม่ได้ครับ

2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
ผมกลัวว่ามันจะพังจนไม่น่าใช้ก่อนที่จะถึง5ปีนะครับ

จริงพี่... เรื่องนี้ยังต้องรอการพิสูจน์   อีกเยอะ

เรื่องรถน้ำมันเราคุ้นกันแล้ว ใช้กันมานาน จนรู้ว่าอะไรจะอยู่ได้ประมาณไหน ซ่อมได้มั้ย ประมาณเท่าไหร่
แต่กับ EV เรายังรู้จักกับมันน้อยมากในเชิงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน  แต่ถ้าให้เทียบว่ามัน
คือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง  ซึ่งบุคลิกของเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปทุกคนคงพอรู้  คือบทมันจะไป
ก็ไปเลยนะ อย่างเมนบอร์ดพัง การ์ดพัง ชิปพัง  ต่างจากพวกที่เป็น mechanics ที่มันจะเริ่มจาก
การสึกหรอ หลวมคลอน ส่งสัญญาณบอกเราก่อนน่ะครับ 

นี่ยังไม่นับพวก software ระบบ OS ต่าง ๆ ที่ต้องพิสูจน์ความเสถียรอีก กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงใช้เวลา
ในการพัฒนา เรียนรู้ และแก้ไขกันพอควรครับ
ใช่ครับ และยิ่งการ์ดบอร์ดชิปเหล่านี้อยู่ในราคาอะไหล่รถยนต์ที่ต้องเบิกศูนย์มันไม่ถูกเหมือนไปบ้านหม้อหรือไปร้านอุปกรณ์ไอทีเพื่อซื้อเมนบอร์ดด้วยครับ อากาศเมืองไทยร้อนชื้นด้วยยิ่งทำให้อุแกรณ์เหล่านี้อายุสั้นกว่าเมืองหนาวอากาศแห้งนะครับ. ใครว่ารถไฟฟ้าทนทานไม่พังง่าย คนนั้นมองตื้นไปครับ

ทราบว่ามีแบตเตอรี่แบบไหนที่สามารถ Recycle แล้วกลับมาใช้ใหม่นั้น มีหรือไม่ครับ

ที่รู้แน่ๆ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ภายใน 10 ปีข้างหน้าครับ
มีที่รับทำลายและรีไซเคิลแต่รีไซเคิลได้กี่เปอร์เซนต์ของชิ้นส่วนขอบแบตก็ไม่รู้นะครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LapisLazuli ที่ ตุลาคม 24, 2021, 00:05:49
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

ต่อให้ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า Good Cat ถูกกว่ารถยนต์ Eco Cars
แต่ราคารถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat แพงกว่ารถยนต์ Eco Cars อยู่ดี
สรุปคือ ยังไงก็ลงเอยไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ดี เพราะไม่ปล่อยมลพิษเลย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ การบำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิกเหมือนรถ Eco Cars
ใครว่าไม่ปล่อยมลพิษกันครับ แต่มลพิษตอนวิ่งไปอยู่กับท่อโรงไฟฟ้าและการจัดการกับแบตเตอรี่ที่ไม่รู้ว่าจัรีไซเคิลได้ทั้งหมดมั้ย. กับขั้นตอนกาขุดเหมืองลิเที่ยมที่ทำลายธรรมชาติแและจ้างแรงงานมาถูกๆ อยากรักษ์โลกก็ต้องไปจักรยานและขนส่งสาธารณะครับ

อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
ยังไม่คิดว่าต้องรอคิวยาวรึป่าวด้วยนะครับ

ยังไม่หัวเสียเท่าวางแผนไว้แล้ว มาถึงที่ชาร์จปิดปรับปรุง ผมเจอมาแล้วตอนไปเที่ยวพังงา มีหัวชาร์จในปั้มแถวสุราษ เดินไปดูอ้าวเห้ย เสีย แล้วงี้คนที่เค้าวางแผนมาดีๆตามในแอพ เจอแบบนี้ไปทำไงหว่า
นั่นสิครับ เสียเวลานี่เอาคืนมาไม่ได้ครับ

2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
ผมกลัวว่ามันจะพังจนไม่น่าใช้ก่อนที่จะถึง5ปีนะครับ

จริงพี่... เรื่องนี้ยังต้องรอการพิสูจน์   อีกเยอะ

เรื่องรถน้ำมันเราคุ้นกันแล้ว ใช้กันมานาน จนรู้ว่าอะไรจะอยู่ได้ประมาณไหน ซ่อมได้มั้ย ประมาณเท่าไหร่
แต่กับ EV เรายังรู้จักกับมันน้อยมากในเชิงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน  แต่ถ้าให้เทียบว่ามัน
คือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง  ซึ่งบุคลิกของเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปทุกคนคงพอรู้  คือบทมันจะไป
ก็ไปเลยนะ อย่างเมนบอร์ดพัง การ์ดพัง ชิปพัง  ต่างจากพวกที่เป็น mechanics ที่มันจะเริ่มจาก
การสึกหรอ หลวมคลอน ส่งสัญญาณบอกเราก่อนน่ะครับ 

นี่ยังไม่นับพวก software ระบบ OS ต่าง ๆ ที่ต้องพิสูจน์ความเสถียรอีก กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงใช้เวลา
ในการพัฒนา เรียนรู้ และแก้ไขกันพอควรครับ
ใช่ครับ และยิ่งการ์ดบอร์ดชิปเหล่านี้อยู่ในราคาอะไหล่รถยนต์ที่ต้องเบิกศูนย์มันไม่ถูกเหมือนไปบ้านหม้อหรือไปร้านอุปกรณ์ไอทีเพื่อซื้อเมนบอร์ดด้วยครับ อากาศเมืองไทยร้อนชื้นด้วยยิ่งทำให้อุแกรณ์เหล่านี้อายุสั้นกว่าเมืองหนาวอากาศแห้งนะครับ. ใครว่ารถไฟฟ้าทนทานไม่พังง่าย คนนั้นมองตื้นไปครับ

ทราบว่ามีแบตเตอรี่แบบไหนที่สามารถ Recycle แล้วกลับมาใช้ใหม่นั้น มีหรือไม่ครับ

ที่รู้แน่ๆ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ภายใน 10 ปีข้างหน้าครับ
มีที่รับทำลายและรีไซเคิลแต่รีไซเคิลได้กี่เปอร์เซนต์ของชิ้นส่วนขอบแบตก็ไม่รู้นะครับ

เรื่อง Carbon Footprint เขาคำนวณกันมาเยอะเเล้วครับ ไปหาดูได้ครับ
อันนี้คลิป สรุปสั้นๆ ถ้าขี้เกียจไปหา paper อ่าน (แต่คลิปนี้เขาเอา Tesla มาคำนวณ ซึ่งมันเป็นรถ Luxury มันใช้ทรัพยากรในการผลิตสูงมากอยู่เเล้ว ถ้าเอารถ EV บ้านๆ B-Segment ก็พอ ตัวเลขจะออกมาดีกว่านี้อีก) : https://youtu.be/L2IKCdnzl5k

ยังไง EV มี Carbon Footprint ก็น้อยกว่ามากๆๆ เเล้วอีกอย่าง ไปฝากไอเสียไปไว้ที่ โรงไฟฟ้ายังไงก็ดีกว่า…
1.) โรงไฟฟ้า Thermal Efficiency สูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ สูงกว่าสุดๆ (ไม่ต้อง Combined Cycle, แค่ Gas Turbine เปล่าๆ ก็สูงกว่ารถยนต์เครื่อง ICE 2-3 เท่าเเล้ว) ไม่รวมปัจจัยอื่นๆเช่น ไม่มีเผาน้ำมันทิ้งเล่นๆทิ้งตอน idle รถติด หรือตอนลากรอบเครื่องยนต์ในการใช้งานปกติ
2.) การควบคุมมลพิษ strict กว่ามาก , โดนกฎหมายคุมเคร่งกว่ามาก, และถูกควบคุมโดย Operator รฟฟ. (ไม่เหมือนชาวบ้าน เดี๋ยวก็ถอด Cat, เดี๋ยวก็อุด EGR, เดี๋ยวก็ควันดำ, เดี๋ยวก็ kick down, เดี๋ยวก็ลากรอบ โดยไม่จำเป็น)
3.) เมื่อมี technology ใหม่ๆ เช่น Molten Salt Nuclear, Solar, Wind, Hydro, Fuel Cell หรือเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ตอนนี้เรายังไม่ค้นพบ, etc. ก็จะได้เปลี่ยนที่โรงไฟฟ้าเลย ง่ายๆ ไม่ใช่ต้องมาเปลี่ยนให้รถทุกคัน, ให้รถทุกคันเป็น EV หมด เเล้วไปพัฒนาโรงไฟฟ้าเเทน

***ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อรถ EV นะครับ, ผมรู้ว่ายังไง infrastructure ประเทศก็ยังไม่พร้อม, แท่นชาร์จไม่พอเเน่ๆกับประชากรทั้งประเทศ, กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ MW ก็ยังไม่พอ, ไม่สะดวกใช้เเน่ๆ, เเล้วปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ EV ตอนนี้ คือ น้ำหนัก (Energy Density ของไอ Li-ion นี่เเหละ) รถบรรทุกขนส่งจะหนักขนาดไหน…. รถกระบะจะหนักขนาดไหน…. รถบัสจะหนักขนาดไหน… ตอนนี้ ไม่พร้อมมากๆๆๆๆๆๆ แต่อนาคต ยังไงก็ต้อง EV (ไปฝากความหวังกับโรงไฟฟ้า กับพวก scientist + engineer หานวัตกรรมใหม่ๆ ดีกว่ามาฝากความหวังไว้กับประชากรทุกคนบนโลก ที่ใช้รถ)

***กระทู้นี้ผมเเค่คำนวณเล่นๆเฉยๆ ไม่ได้คิดจะซื้อ หรือเเนะนำให้คนอื่นซื้อ

เหตุผลเรื่อง “Carbon Footprint ของ EV มันก็ไม่ต่างกับ ICE หรอกนะ” <== อันนี้เหตุผลใช้ไม่ได้
แต่เหตุผลอื่นๆ ใช้ได้ 55
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ ตุลาคม 24, 2021, 01:49:08
ORA Good Cat ค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมด ถูกที่สุด

ถ้าใช้งานถึง 10 ปี ค่าไฟจากการชาร์จทั้งหมด ประมาณ 75,000-80,000 บาทครับ

ถูกกว่าค่าเติมน้ำมันของรถ Eco Cars ที่ใช้งานไปแล้ว 10 ปี ถึง 2 เท่า

ต่อให้ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า Good Cat ถูกกว่ารถยนต์ Eco Cars
แต่ราคารถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat แพงกว่ารถยนต์ Eco Cars อยู่ดี
สรุปคือ ยังไงก็ลงเอยไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ดี เพราะไม่ปล่อยมลพิษเลย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ การบำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิกเหมือนรถ Eco Cars
ใครว่าไม่ปล่อยมลพิษกันครับ แต่มลพิษตอนวิ่งไปอยู่กับท่อโรงไฟฟ้าและการจัดการกับแบตเตอรี่ที่ไม่รู้ว่าจัรีไซเคิลได้ทั้งหมดมั้ย. กับขั้นตอนกาขุดเหมืองลิเที่ยมที่ทำลายธรรมชาติแและจ้างแรงงานมาถูกๆ อยากรักษ์โลกก็ต้องไปจักรยานและขนส่งสาธารณะครับ

อย่าลืมคิดค่าเสียเวลา รอชาร์จ เป็นชั่วโมงๆด้วยนะคับ ICE 5 นาทีต่อรอบ ส่วนEV ต่อให้ชาร์จแบบ DC ก็ต้องมี 30 นาที up บางทีอาจจะคุ้ม บางทีอาจจะไม่

อันนี้เห็นด้วยนะครับว่าสำคัญมากๆ

สมมุติว่าทุก 500 km ต้องเสียเวลารอชาร์จ 1 ชม. ถึงสองแสนโลมันเสียเวลาชีวิตเราไปตั้ง 400 ชม. เลย

ต่อให้มีจุดชาร์จทั่วประเทศมันก็ยังจำกัดระยะการเดินทางพอสมควร ถ้าขับรถไปกลับ กทม. - เชียงใหม่ แล้วต้องเสียเวลาเพิ่ม 2-3 ชม เป็นผมคิดหนักเหมือนกัน ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องชาร์จถี่ ชาร์จนานขึ้นอีก
ยังไม่คิดว่าต้องรอคิวยาวรึป่าวด้วยนะครับ

ยังไม่หัวเสียเท่าวางแผนไว้แล้ว มาถึงที่ชาร์จปิดปรับปรุง ผมเจอมาแล้วตอนไปเที่ยวพังงา มีหัวชาร์จในปั้มแถวสุราษ เดินไปดูอ้าวเห้ย เสีย แล้วงี้คนที่เค้าวางแผนมาดีๆตามในแอพ เจอแบบนี้ไปทำไงหว่า
นั่นสิครับ เสียเวลานี่เอาคืนมาไม่ได้ครับ

2แสนโลประหยัดไป 3แสนบาท
โดยใช้รถราคาฐาน 1 ล้านอย่าง civic และ ora good cat

เมื่อถึงปีที่ 7  ราคามือ 2 ของ civic จะอยู่ที่ประมาณ 3แสน
หากคนใช้รถไฟฟ้ามีวินัยในการหยอดกระปุก ทุกๆเดือนหยอดให้ได้ซัก 4-5 พันที่ต้องเติมน้ำมัน ก็จะได้ประมาณ 4แสน(หากหักค่าไฟที่ต้องชาร์จ ก็จะได้พอๆกับ civic)​ ในระยะเวลา 7 ปี ถ้าขายเป็นซากได้ซัก 1 แสน ก็สามารถดาวน์รถคันใหม่ได้สบายๆ

ผมว่าเริ่มเข้าเค้าแล้วล่ะ จะใช้แล้วทิ้งก็ไม่น่ากลัวแล้ว

ถ้าออก good cat หรือ mg ev อีก 7 ปีข้างหน้า คงมีรถไฟฟ้าดีๆมาให้ใช้อีกเยอะ
ผมกลัวว่ามันจะพังจนไม่น่าใช้ก่อนที่จะถึง5ปีนะครับ

จริงพี่... เรื่องนี้ยังต้องรอการพิสูจน์   อีกเยอะ

เรื่องรถน้ำมันเราคุ้นกันแล้ว ใช้กันมานาน จนรู้ว่าอะไรจะอยู่ได้ประมาณไหน ซ่อมได้มั้ย ประมาณเท่าไหร่
แต่กับ EV เรายังรู้จักกับมันน้อยมากในเชิงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน  แต่ถ้าให้เทียบว่ามัน
คือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง  ซึ่งบุคลิกของเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปทุกคนคงพอรู้  คือบทมันจะไป
ก็ไปเลยนะ อย่างเมนบอร์ดพัง การ์ดพัง ชิปพัง  ต่างจากพวกที่เป็น mechanics ที่มันจะเริ่มจาก
การสึกหรอ หลวมคลอน ส่งสัญญาณบอกเราก่อนน่ะครับ 

นี่ยังไม่นับพวก software ระบบ OS ต่าง ๆ ที่ต้องพิสูจน์ความเสถียรอีก กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงใช้เวลา
ในการพัฒนา เรียนรู้ และแก้ไขกันพอควรครับ
ใช่ครับ และยิ่งการ์ดบอร์ดชิปเหล่านี้อยู่ในราคาอะไหล่รถยนต์ที่ต้องเบิกศูนย์มันไม่ถูกเหมือนไปบ้านหม้อหรือไปร้านอุปกรณ์ไอทีเพื่อซื้อเมนบอร์ดด้วยครับ อากาศเมืองไทยร้อนชื้นด้วยยิ่งทำให้อุแกรณ์เหล่านี้อายุสั้นกว่าเมืองหนาวอากาศแห้งนะครับ. ใครว่ารถไฟฟ้าทนทานไม่พังง่าย คนนั้นมองตื้นไปครับ

ทราบว่ามีแบตเตอรี่แบบไหนที่สามารถ Recycle แล้วกลับมาใช้ใหม่นั้น มีหรือไม่ครับ

ที่รู้แน่ๆ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ภายใน 10 ปีข้างหน้าครับ
มีที่รับทำลายและรีไซเคิลแต่รีไซเคิลได้กี่เปอร์เซนต์ของชิ้นส่วนขอบแบตก็ไม่รู้นะครับ

เรื่อง Carbon Footprint เขาคำนวณกันมาเยอะเเล้วครับ ไปหาดูได้ครับ
อันนี้คลิป สรุปสั้นๆ ถ้าขี้เกียจไปหา paper อ่าน (แต่คลิปนี้เขาเอา Tesla มาคำนวณ ซึ่งมันเป็นรถ Luxury มันใช้ทรัพยากรในการผลิตสูงมากอยู่เเล้ว ถ้าเอารถ EV บ้านๆ B-Segment ก็พอ ตัวเลขจะออกมาดีกว่านี้อีก) : https://youtu.be/L2IKCdnzl5k

ยังไง EV มี Carbon Footprint ก็น้อยกว่ามากๆๆ เเล้วอีกอย่าง ไปฝากไอเสียไปไว้ที่ โรงไฟฟ้ายังไงก็ดีกว่า…
1.) โรงไฟฟ้า Thermal Efficiency สูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ สูงกว่าสุดๆ (ไม่ต้อง Combined Cycle, แค่ Gas Turbine เปล่าๆ ก็สูงกว่ารถยนต์เครื่อง ICE 2-3 เท่าเเล้ว) ไม่รวมปัจจัยอื่นๆเช่น ไม่มีเผาน้ำมันทิ้งเล่นๆทิ้งตอน idle รถติด หรือตอนลากรอบเครื่องยนต์ในการใช้งานปกติ
2.) การควบคุมมลพิษ strict กว่ามาก , โดนกฎหมายคุมเคร่งกว่ามาก, และถูกควบคุมโดย Operator รฟฟ. (ไม่เหมือนชาวบ้าน เดี๋ยวก็ถอด Cat, เดี๋ยวก็อุด EGR, เดี๋ยวก็ควันดำ, เดี๋ยวก็ kick down, เดี๋ยวก็ลากรอบ โดยไม่จำเป็น)
3.) เมื่อมี technology ใหม่ๆ เช่น Molten Salt Nuclear, Solar, Wind, Hydro, Fuel Cell หรือเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ตอนนี้เรายังไม่ค้นพบ, etc. ก็จะได้เปลี่ยนที่โรงไฟฟ้าเลย ง่ายๆ ไม่ใช่ต้องมาเปลี่ยนให้รถทุกคัน, ให้รถทุกคันเป็น EV หมด เเล้วไปพัฒนาโรงไฟฟ้าเเทน

***ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อรถ EV นะครับ, ผมรู้ว่ายังไง infrastructure ประเทศก็ยังไม่พร้อม, แท่นชาร์จไม่พอเเน่ๆกับประชากรทั้งประเทศ, กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ MW ก็ยังไม่พอ, ไม่สะดวกใช้เเน่ๆ, เเล้วปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ EV ตอนนี้ คือ น้ำหนัก (Energy Density ของไอ Li-ion นี่เเหละ) รถบรรทุกขนส่งจะหนักขนาดไหน…. รถกระบะจะหนักขนาดไหน…. รถบัสจะหนักขนาดไหน… ตอนนี้ ไม่พร้อมมากๆๆๆๆๆๆ แต่อนาคต ยังไงก็ต้อง EV (ไปฝากความหวังกับโรงไฟฟ้า กับพวก scientist + engineer หานวัตกรรมใหม่ๆ ดีกว่ามาฝากความหวังไว้กับประชากรทุกคนบนโลก ที่ใช้รถ)

***กระทู้นี้ผมเเค่คำนวณเล่นๆเฉยๆ ไม่ได้คิดจะซื้อ หรือเเนะนำให้คนอื่นซื้อ

เหตุผลเรื่อง “Carbon Footprint ของ EV มันก็ไม่ต่างกับ ICE หรอกนะ” <== อันนี้เหตุผลใช้ไม่ได้
แต่เหตุผลอื่นๆ ใช้ได้ 55
ขาดการพูดถึงเรื่องที่แบตเตอรี่ว่ารีไซเคิลไดด้มั้ยนะครับ  ถ้ามันยังเป็นพิษรีไซเคิลอะไรไม่ได้มันแย่กว่าน้ำมันครับ  อีกอย่างการขุดหาแร่ธาติลิเที่ยมก็ไม่ได้เอ่ยถึงเช่นกัน ทำไปทำมารถไฟฟ้าอาจจะเป็นพิษมากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ThisIsYuTh ที่ ตุลาคม 24, 2021, 15:52:18

เรื่อง Carbon Footprint เขาคำนวณกันมาเยอะเเล้วครับ ไปหาดูได้ครับ
อันนี้คลิป สรุปสั้นๆ ถ้าขี้เกียจไปหา paper อ่าน (แต่คลิปนี้เขาเอา Tesla มาคำนวณ ซึ่งมันเป็นรถ Luxury มันใช้ทรัพยากรในการผลิตสูงมากอยู่เเล้ว ถ้าเอารถ EV บ้านๆ B-Segment ก็พอ ตัวเลขจะออกมาดีกว่านี้อีก) : https://youtu.be/L2IKCdnzl5k

ยังไง EV มี Carbon Footprint ก็น้อยกว่ามากๆๆ เเล้วอีกอย่าง ไปฝากไอเสียไปไว้ที่ โรงไฟฟ้ายังไงก็ดีกว่า…
1.) โรงไฟฟ้า Thermal Efficiency สูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ สูงกว่าสุดๆ (ไม่ต้อง Combined Cycle, แค่ Gas Turbine เปล่าๆ ก็สูงกว่ารถยนต์เครื่อง ICE 2-3 เท่าเเล้ว) ไม่รวมปัจจัยอื่นๆเช่น ไม่มีเผาน้ำมันทิ้งเล่นๆทิ้งตอน idle รถติด หรือตอนลากรอบเครื่องยนต์ในการใช้งานปกติ
2.) การควบคุมมลพิษ strict กว่ามาก , โดนกฎหมายคุมเคร่งกว่ามาก, และถูกควบคุมโดย Operator รฟฟ. (ไม่เหมือนชาวบ้าน เดี๋ยวก็ถอด Cat, เดี๋ยวก็อุด EGR, เดี๋ยวก็ควันดำ, เดี๋ยวก็ kick down, เดี๋ยวก็ลากรอบ โดยไม่จำเป็น)
3.) เมื่อมี technology ใหม่ๆ เช่น Molten Salt Nuclear, Solar, Wind, Hydro, Fuel Cell หรือเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ตอนนี้เรายังไม่ค้นพบ, etc. ก็จะได้เปลี่ยนที่โรงไฟฟ้าเลย ง่ายๆ ไม่ใช่ต้องมาเปลี่ยนให้รถทุกคัน, ให้รถทุกคันเป็น EV หมด เเล้วไปพัฒนาโรงไฟฟ้าเเทน

***ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อรถ EV นะครับ, ผมรู้ว่ายังไง infrastructure ประเทศก็ยังไม่พร้อม, แท่นชาร์จไม่พอเเน่ๆกับประชากรทั้งประเทศ, กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ MW ก็ยังไม่พอ, ไม่สะดวกใช้เเน่ๆ, เเล้วปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ EV ตอนนี้ คือ น้ำหนัก (Energy Density ของไอ Li-ion นี่เเหละ) รถบรรทุกขนส่งจะหนักขนาดไหน…. รถกระบะจะหนักขนาดไหน…. รถบัสจะหนักขนาดไหน… ตอนนี้ ไม่พร้อมมากๆๆๆๆๆๆ แต่อนาคต ยังไงก็ต้อง EV (ไปฝากความหวังกับโรงไฟฟ้า กับพวก scientist + engineer หานวัตกรรมใหม่ๆ ดีกว่ามาฝากความหวังไว้กับประชากรทุกคนบนโลก ที่ใช้รถ)

***กระทู้นี้ผมเเค่คำนวณเล่นๆเฉยๆ ไม่ได้คิดจะซื้อ หรือเเนะนำให้คนอื่นซื้อ

เหตุผลเรื่อง “Carbon Footprint ของ EV มันก็ไม่ต่างกับ ICE หรอกนะ” <== อันนี้เหตุผลใช้ไม่ได้
แต่เหตุผลอื่นๆ ใช้ได้ 55

ผมมองอีกแบบเลยนะว่า Tesla น่ะ ผลิตโดยมาตรฐานที่สูงเช่น ในสหรัฐอเมริกา หรือเยอรมัน ซึ่งน่าจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของรอ EV ส่วนใหญ่

อีกประเด็นคือความสะอาดของไฟฟ้าในประเทศที่ใช้งานก็ส่งผลเหมือนกัน ขนาดของอเมริกาในแต่ละรัฐยังต่างกันเลยครับ
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ตุลาคม 24, 2021, 16:00:34
ถ้าตราบใดที่ยังใช้ แบตเตอรี่ลิเธียม

มันก็คือกานแปรสิ่งสกปรกอย่างหนึ่งไปสู่อีกอย่าง

ถ้าบอกว่า pm2.5 ที่เกิดในบ้านเรา ผลพวงมาจากการขุดแร่ลิเธี่ยมล่ะ???

ไว้รอมนุษยชาติ​ได้พลังงานที่ไม่ต้องทำลาย หรือเพิ่มมลพิษให้แก่โลกก่อนแล้วค่อยเคลมก็ได้หรือเปล่า

หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LapisLazuli ที่ ตุลาคม 24, 2021, 19:34:36
ถ้าตราบใดที่ยังใช้ แบตเตอรี่ลิเธียม

มันก็คือกานแปรสิ่งสกปรกอย่างหนึ่งไปสู่อีกอย่าง

ถ้าบอกว่า pm2.5 ที่เกิดในบ้านเรา ผลพวงมาจากการขุดแร่ลิเธี่ยมล่ะ???

ไว้รอมนุษยชาติ​ได้พลังงานที่ไม่ต้องทำลาย หรือเพิ่มมลพิษให้แก่โลกก่อนแล้วค่อยเคลมก็ได้หรือเปล่า

เมื่อมนุษย์ได้เทคโนโลยีแบตเตอรี่เก็บพลังงานที่สะอาดจริง ไม่มีมลพิษ และมี Energy Density ที่สูงๆ ไม่ห่วยเหมือน Li-ion Battery => ยังไง, EV ก็มีประโยชน์กว่า เพราะ มันเปลี่ยนได้เลย ใช้งานต่อได้ หรือเซ็ตช่วงล่างใหม่เฉยๆก็พอ

จุดประสงค์หลักๆ จริงๆ เลยครับ คือ การ “ฝากความหวังไว้กับ scientist, engineer, รัฐบาล, และเจ้าของโรงไฟฟ้า *** ไม่ใช่มาฝากความหวังไว้กับคนธรรมดาๆที่ใช้รถทั้งโลก ที่เราควบคุมคนทั้งโลกไม่ได้ หรือคุมได้ยากกว่า”

แต่ที่ผมเดากับอนาคตของเทคโนโลยีพลังงานนะครับ เรียงเป็น timeline:

1.) เราจะเปลี่ยนมาใช้ Li-ion EV กัน ค่อยๆเปลี่ยนทีละนิด
2.) เราจะใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้า Combined Cycle, Nuclear เป็นหลัก
3.) เราจะเพิ่มอัตรส่วน Alternative Energy เช่น Solar, Wind, Hydro, Geo, etc.
4.) เราจะใช้ Molten Salt Nuclear ได้อย่างมั่นใจ
5.) เราจะค้นพบ Technology พลังงานใหม่ๆ สะอาดๆ ได้ MW เยอะ โดนไม่กินพื้นที่เยอะ เหมือนในหนัง sci-fi แล้วใช้มันใน “โรงไฟฟ้า”
6.) เราจะค้นพบ Battery หรือ Energy Storage รูปแบบอื่นๆ ที่สะอาด และมี Energy Density สูง และเราจะใช้มันใน EV ในอนาคต

ถ้าเรามองอนาคตไกลๆๆๆๆๆ 200-300 ปีจริงๆ จะเห็นว่า …. ยังไง ICE ก็ไม่ work ต้องมาเปลี่ยนเป็น EV และไปพัฒนา tech อื่นๆต่อไป ไม่ใช่มามองเเค่ “Carbon Footpint ของ EV มันก็ไม่ต่างกับของ ICE หรอกนะ มีเรื่อง Li-ion Battery ด้วยนะ”

นอกจาก…. จะไม่ใช่รูปแบบของไฟฟ้าเลย ซึ่งอันนี้ก็เรื่องใหญ่ละ โรงไฟฟ้าทุกโรงงานเข้าเลย มนุษย์ชาติก็งานเข้า เปลี่ยนยัน MCB บ้าน ยันหม้อแปลงหน้าบ้าน ยัน substation ต่างๆครับ 55
หัวข้อ: Re: คิดค่าไฟที่ต้องใช้ใน EV vs. ค่าน้ำมัน ICE เล่นๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ ตุลาคม 25, 2021, 22:57:08
น้ำมันไม่ได้เป็นมลพิษแค่ที่ใช้รถเท่านั้น มลพิษมีตั้งแต่ขุดขึ้นมาก็ทำให้สารพิษออกมาด้วย โรงกลั่นก็มลพิษเยอะแยะแถมเวลากลั่น ไม่ได้กลั่นแต่เบนซินออกมาอย่างเดียว ต้องได้น้ำมันเตามาด้วย น้ำมันเตานี่สกปรกมากเลยล่ะขอบอก หนำซ้ำเวลาขนส่งก็ต้องเอารถบรรทุกขนไปตามสถานีอีก ถ้ารวมๆกัน มันเยอะครับสำหรับมลพิษที่เกิดขึ้น