โพสพรีวิวนี้ จะเป็นการที่ผู้เขียนได้สรุปรวบรวมข้อมูลและศึกษาเกี่ยวกับการอัพเกรดไฟหน้ารถยนต์ ด้วยโปรเจคเตอร์ LED หรือ Bi-LED Projector Retrofit ก่อนเตรียมไปติดตั้งจริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลจากเว็บไซท์ต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และจะแนบ Link อ้างอิงมาด้วย เพื่อให้ตามกันไปอ่านกันจากต้นทางกันด้วย โดยข้อมูลที่เตรียมไว้ก่อนอัพเกรดไฟหน้าผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะทำไฟหน้ารถเหมือนกัน พร้อมกับเตรียมเก็บเงินไว้พลางๆ ที่จะอัพเกรดไฟหน้าให้กับเจ้า Honda Civic FB 2014 ที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี และอาจจะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกหลายปี ถึงเวลาต้องเปลี่ยนไฟหน้า อาจจะรวมถึงโคมใหม่ให้กลับมาสว่างสไหว เพิ่มความมั่นใจในการขับตอนกลางคืน ซึ่งโพสนี้อาจจะค่อนข้างมีความยาว ซึ่งผมก็ใช้เวลาเรียบเรียงนาน ต้องออกตัวว่าตัวผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เพียงแต่มีความสนใจในเรื่องรถและหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ถ้าผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาอ่านแล้วเจอจุดที่ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน อาจจะขอให้เพื่อนๆ ผู้อ่าน ช่วยคอมเม้นท์เพิ่มเติมก็ยินดีครับ และก็ไม่น่าจะมีแพลตฟอร์มไหนเหมาะแก่การแชร์ข้อมูลเรื่องการอัพเกรดไฟหน้ารถยนต์โปรเจคเตอร์ LED เท่า Headlightmag.com อีกแล้ว ดูจากชื่อเว็บไซท์ก็พอจะเดาได้
ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เทรนด์การอัพเกรดไฟหน้าจะเป็นยุคของชุดโปรเจคเตอร์ Bi Xenon Projector ซึ่งในเมืองไทยเองก็เป็นที่นิยมในสายอัพเกรดไฟหน้า Retrofit เช่นกัน โดยราคาก็มีตั้งแต่ถูกๆ ไปยันแพง แปรผันตามคุณภาพสินค้า และฝีมือของช่างที่ติดตั้ง โดยไฟหน้ารถยนต์ Bi Xenon Projector จะประกอบด้วยส่วนประกอบหลักๆ คือ
1. หลอดซีนอน (หลอด HID) : ซึ่งยี่ห้อหลักๆ ในตลาดไม่ว่าจะเป็น Morimoto HID, OSRAM, PHILIPS, Koito เป็นต้น โดยหลอดซีนอนแต่ละยี่ห้อที่กล่าวมาจะมีทั้งแบบ หลอดความสว่างแบบมาตรฐาน (ตัว OEM ติดรถจากโรงงาน) และหลอดซีนอนอัพเกรด ที่เพิ่มคุณสมบัติความสว่างที่มากขึ้น และสีของแสงที่ขาวขึ้นจากหลอดมาตรฐาน โดยหลอดซีนอนขั้วหลอดที่นิยมนำมาใช้ในการอัพเกรดไฟหน้ารถคือ ขั้วหลอด D2S
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6QBp2k.jpg)
2. บัลลาสต์ (Ballast) : เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือน Regulator ทำหน้าที่แปลง/ควบคุมกระแสไฟและแรงดันไฟที่จะเข้าสู่หลอดซีนอน โดยตอนเปิดไฟหน้าซีนอน บัลลาสต์จะสร้างแรงดันไฟประมาณ 20,000 โวลต์ ซึ่งให้ขั้วทั้งสองฝั่งของหลอดซีนอนมีความต่างศักย์กัน ทำให้เกิดเป็นการสปาร์คเพื่อทำให้ไฟติด ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนเปิดไฟหน้าซีนอน ไฟจะไม่ติดทันทีเหมือนฮาโลเจนหรือแอลอีดี แต่เมื่อเกิดการสปาร์คแล้วไฟจึงติดและค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆจนถึงจุดที่สว่างที่สุดจนความสว่างคงที่ บัลลาสต์เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญตั้งแต่ตอนเปิดไฟและคุมความเสถียรของความสว่างของหลอดซีนอนตอนการใช้งานจนกระทั่งปิดไฟ
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6QBevV.jpg)
3. โปรเจคเตอร์ (Projector) สำหรับหลอดซีนอน : เป็นโคมเลนส์ลูกแก้วที่มีม่าน (Shutter) สำหรับเปิด/ปิด (ไฟต่ำ-ไฟสูงในตัว) โดยถ้าเราเปิดไฟต่ำ ม่าน (Shutter) จะอยู่ในตำแหน่งที่ปิดอยู่ แต่เมื่อเราเปิดไฟสูง ม่าน (Shutter) จะถูกเปิดออกทำให้แสงที่สะท้อนกับฉาก (Reflector) ส่องออกมาได้เต็มๆ เวลาเปิด/ปิด ม่าน (Shutter) จะมีเสียง แต๊ก นั่นเอง โดยขนาดเลนส์ของโปรเจคเตอร์ (Projector) นั้นมีอยู่ 2 ขนาด ก็คือ 3.0 นิ้ว และ 2.5 นิ้ว ที่เป็นขนาดมาตรฐานและใช้กันแพร่หลายในตลาดสายโปรเจคเตอร์ เรโทรฟิต
โดยเลนส์ลูกแก้วของโปรเจคเตอร์สำหรับสายเรโทรฟิตจะเป็นเลนส์แบบ Clear lens หรือ ลูกแก้วเลนส์ใสที่จะทำให้แสงจากหลอดซีนอน หรือ LED Chip ภายในโปรเจคเตอร์ ส่องออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะแตกต่างจากโปรเจคเตอร์โรงงานที่ใช้กับหลอดฮาโลเจน ที่ส่วนใหญ่เลนส์จะไม่ใช่ Clear lens (ลูกแก้วเลนส์ใส)
โดยยี่ห้อ/รุ่น ของโปรเจคเตอร์ (Projector) สำหรับ Bi Xenon ที่เป็นที่นิยม ได้แก่
Hella Koito Q5 Projector
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6QfYTy.jpg)
Hella 3R G5 Projector
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6Qf1tR.jpg)
ซึ่งนอกเหนือจาก Hella/Koito ก็มีหลายๆแบรนด์ Aftermarket ที่ทำโคมทั้งสองชนิดนี้ออกมา เช่น Autoki, NHK เป็นต้น
Ref : https://www.royalincarparts.com/how-to-choose-the-best-bi-led-projector-lens/ (https://www.royalincarparts.com/how-to-choose-the-best-bi-led-projector-lens/)
Bi Xenon Projector อยู่ในความนิยมมาเป็น 10 ปี อย่างที่เราเห็นกันว่าร้านไฟซีนอนผุดขึ้นมากมายในประเทศไทย ตั้งแต่ถูกยันแพง แกงยันไปถึงตัวจริง ซึ่งข้อดีของตัวมันก็คือ ความสว่างของหลอดซีนอนมากกว่าหลอดฮาโลเจนมาตรฐานเดิม 3 4 เท่าตัว โดยความสว่างต่อหลอดของหลอดซีนอนยี่ห้อดีๆนั้นอยู่ที่ 3,000 ลูเมนขึ้นไป ในขณะที่หลอดฮาโลเจน H4 ค่ามาตรฐานความสว่างอยู่ที่ 900 1,000 ลูเมนต่อหลอดเท่านั้น รวมถึงระยะการส่องสว่างของแสงก็ส่องออกไปได้ไกลกว่า แต่อย่างไรก็ตามกระแสหลอดซีนอนก็ซาลงไปตามกาลเวลา และกำลังมีคลื่นลูกใหม่อย่างโปรเจคเตอร์ LED หรือ Bi-LED Projector ที่กำลังเข้ามาทดแทน ซึ่งในปี 2021 เทคโนโลยีของชิพแอลอีดี (LED Chip) นั้นสามารถพัฒนาจนสามารถทำความสว่างได้อยู่ในระดับเดียวกันหรือสว่างกว่าหลอดซีนอนแล้ว และข้อดีอื่นๆ ที่เหนือกว่าของโปรเจคเตอร์ LED เมื่อเทียบกับโปรเจคเตอร์ซีนอน คือ
เมื่อเปิดสวิตช์ ไฟจะติดทันที ไม่ต้องรอการสปาร์คแล้วไฟค่อยๆสว่างขึ้นเหมือนซีนอน
อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า Bi Xenon โดยโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector) ที่คุณภาพดีๆ ควรมีอายุการใช้งาน 30,000 ชั่วโมงขึ้นไป
Bi-LED Projector อุปกรณ์น้อยกว่า โดย Bi Xenon Projector ประกอบด้วยอุปกรณ์ 3 ชิ้นหลัก คือ โปรเจคเตอร์ซีนอน (Clear lens), หลอดซีนอน และบัลลาสต์ ที่กล่าวด้านบน (โดยอุปกรณ์หลักทั้ง 3 อย่างนั้นสเป็คและคุณภาพของแต่ละชิ้นควรเป็นที่สุด ถึงจะทำงานร่วมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ) ในขณะที่โปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector) รวมกันเป็นโมดูลเดียว
โดยหลักการของการทำงานของโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector) จะคล้ายๆกับโปรเจคเตอร์ Bi Xenon Projector เพียงแต่เปลี่ยนแหล่งกำเนิดแสงจากหลอดซีนอน เป็นชิพแอลอีดี (LED Chips)
วีดีโอด้านล่าง อธิบายว่า Bi-LED Projector คืออะไร
https://youtu.be/sybHkjPqVy0 (https://youtu.be/sybHkjPqVy0)
วีดีโอด้านล่าง อธิบายความแตกต่างระหว่าง Bi-Halogen, Bi-Xenon และ Bi-LED Projector
https://www.youtube.com/watch?v=3-lhk07Suvg (https://www.youtube.com/watch?v=3-lhk07Suvg)
โปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector)
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6QfqCl.jpg)
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6QhWEZ.jpg)
ส่วนประกอบภายในของโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector)
ประเภทของโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector)
1) แบ่งตามรูปทรงลักษณะของโปรเจคเตอร์ LED และการติดตั้ง
1.1 Lossless Installation เป็นประเภทของโปรเจคเตอร์ LED ที่มีรูปทรงและขนาดกระทัดรัด ข้อดีของโปรเจคเตอร์แบบนี้ คือ ติดตั้งง่าย ใช้เวลาน้อยกว่า โดยเฉพาะกับรถยนต์ที่เดิมเป็นโคมมัลติรีเฟล็กเตอร์สำหรับหลอดฮาโลเจน ขั้ว H4 เป็นต้น อย่างไรก็ตามโปรเจคเตอร์ LED แบบ Lossless Installation มักจะเป็นแบบ Single Core LED (ชิพแอลอีดี แผงเดียว) หรือรุ่นราคาเริ่มต้นสำหรับ ยี่ห้อนั้นๆ หรือรุ่นประหยัดนั่นเอง
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6Qh6xP.jpg)
โปรเจคเตอร์ LED แบบ Lossless Installation
1.2 Lossy Installation เป็นประเภทของโปรเจคเตอร์ LED ที่รองรับ Dual Core LEDs (Multi Chip LEDs) แปลว่าตามตัวก็คือ มีชิพ แอลอีดี มากกว่า 1 ชิ้นทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความสว่างของโปรเจคเตอร์ LED ซึ่งในแง่ของการติดตั้งนั้น หากเดิมรถยนต์ที่ติดโปรเจคเตอร์ LED มาจากโรงงาน เช่น Toyota Fortuner นั้นจะแค่ถอดโปรเจคเตอร์เดิมออก แล้วใส่โปรเจคเตอร์ LED Retrofit แบบ Lossy Installation แทน กรณีแบบนี้จะไม่ยาก แต่ถ้าหากเดิมรถยนต์ที่จะมาติดตั้งนั้นเป็นโคมแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ สำหรับฮาโลเจนขั้ว H4 ช่างผู้ติดตั้งจะต้องมีการเจาะรู้สำหรับน๊อต 4 จุดที่จานฉายของโคมเดิมเพื่อยึดโปรเจคเตอร์ LED ประเภท Lossy รวมถึงต้องมีการวัดระยะการติดตั้งและตั้งไฟให้ดีเพื่อให้ระดับของไฟและคัทออฟออกมาอย่างถูกต้อง ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญของช่าง และใช้ระยะเวลาในการติดตั้งมากกว่าแบบ Lossless แต่โดยส่วนใหญ่แล้วโปรเจคเตอร์ LED แบบ Lossy จะพบได้ในรุ่นกลาง จนไปถึงรุ่น High-end ของแต่ละแบรนด์ ซึ่งมักมาพร้อมกับ Multi Chip LEDs ซึ่งจะมีความสว่างที่มากกว่านั่นเอง
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6QfqCl.jpg)
โปรเจคเตอร์ LED แบบ Lossy Installation
2) แบ่งตามประเภทของ LED Chip
2.1 Single Core LED ซึ่งเป็นโปรเจคเตอร์ LED ที่มีชิพ แอลอีดี ชิ้นเดียวทำหน้าที่ในการส่องสว่าง
2.2 Dual Core LEDs (Multi Chip LEDs) ซึ่งเป็นโปรเจคเตอร์ LED ที่มีแผงชิพ แอลอีดี 2 ชิ้นขึ้นไป
ทำงานร่วมกันในการทำหน้าที่ให้สว่าง ซึ่งความสว่างจะมากกว่า Single Core LED โดยราคาก็จะสูง
กว่า Single Core LED ด้วยเช่นกัน
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6Qkfda.jpg)
โปรเจคเตอร์ LED แบบ Dual Core LEDs (Multi Chip LEDs)
3) แบ่งตามประเภทของขนาดเลนส์
3.1 เลนส์ขนาด 3 นิ้ว เป็นเลนส์ขนาดที่นิยมที่สุดของโปรเจคเตอร์ LED ซึ่งขนาดเลนส์ที่กำลังเหมาะ ทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นทั้งด้านกว้าง และด้านลึกทำได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำเลนส์ด้วย แต่สำหรับรถยนต์บางชนิดที่มีพื้นที่ในโคมไฟหน้าอย่างจำกัด หรือโคมไฟหน้ามอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์อาจจะไม่สามารถติดตั้งโปรเจคเตอร์ LED ขนาด 3 นิ้วได้
3.2 เลนส์ขนาด 2.5 นิ้ว รถยนต์ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ภายในโคมไฟหน้าจำกัดซึ่งไม่สามารถติดตั้งโปรเจคเตอร์ที่มีเลนส์ขนาด 3 นิ้วได้ โปรเจคเตอร์ขนาดเลนส์ขนาด 2.5 คือทางออกและตอบโจทย์ รวมถึงสามารถติดตั้งในไฟหน้ามอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่พื้นที่ภายในโคมจำกัดอีกด้วยเช่นกัน
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6Qkxsl.png)
ลักษณะ Cut-off ของโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector) เลนส์ 3 นิ้ว เมื่อเปิดไฟต่ำ
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6QkCT1.png)
ลักษณะ Cut-off ของโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector) เลนส์ 3 นิ้ว เมื่อเปิดไฟสูง
ปัจจัยสำหรับการตัดสินใจเลือกโปรเจคเตอร์ LED
1. คุณภาพของสินค้าโปรเจคเตอร์ LED โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลักๆ
1.1. คุณภาพของ LED Chip ชิพ แอลอีดี ที่คุณภาพที่ดีเมื่อเทียบกับแบบคุณภาพทั่วๆไป หรือคุณภาพต่ำนั้น ถ้ากำลังไฟ (วัตต์) ที่จ่ายเข้าไปเท่าๆกัน (Input Wattage) LED Chip ที่คุณภาพดีจะให้ความสว่าง Lumen Output มากกว่า LED Chip แบบทั่วๆไป หรือแบบคุณภาพต่ำ
รวมถึงความเสถียรของความสว่างของแสงเมื่อเปิดไฟหน้าใช้งานไปสักระยะ หาก LED Chip คุณภาพต่ำ ความสว่างจะดร็อปลงเมื่อผ่านการเปิดไฟไปสัก 20 - 30 นาที ถ้าลองใช้ LUX Meter วัดค่าแสงเพื่อทำการเปรียบเทียบ ค่าที่ได้ตอนเริ่มต้นกับค่าเมื่อใช้งานไปสักระยะจะแตกต่างกันชัดเจนสำหรับ LED Chip คุณภาพต่ำ
ส่วนสีของแสง LED ที่อยู่ในช่วงที่นิยมคือ 5500K 6000K ซึ่งถ้าค่า K (เคลวิน) มากกว่า 6000K ส่วนตัวผมมองว่าแสงจะขาวเกินไปจะส่งผลเรื่องวิสัยทัศน์การมองเห็น ช่วงระหว่าง 5500K 6000K ยังออกขาวนวลๆอยู่บ้าง
1.2. คุณภาพของเลนส์ เลนส์ที่ดี แสงจากต้นกำเนิดแสงจะสามารถส่องผ่านเลนส์ได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงควบคุมการฟุ้งกระจายของแสงได้ดี (ค่า Glare หรือค่าความฟุ้งกระจายของแสงต่ำ) เส้น Cut-off ของแสงมีความคมชัดทั้งไฟต่ำและไฟสูง รวมถึงวิสัยทัศน์ด้านกว้าง (ด้านข้าง) ทำได้ดี และจุดสังเกตสำคัญอีกจุดของเลนส์ที่มีคุณภาพดี คือ การออกแบบเลนส์ที่ทำให้ช่วงของท้องแสงลึก แสงลงพื้นถนนดี ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นแสงบริเวณที่ใกล้หน้ารถชัดเจน
1.3. คุณภาพของระบบระบายความร้อน ชิ้นส่วนที่ใช้ในการระบายความร้อนของโปรเจคเตอร์ LED หลักๆ คือ Heatsink และพัดลมระบายความร้อน (Active Fan) ซึ่งจะคล้ายๆกับระบบระบายความร้อนของแผนวงจรอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น CPU คอมพิวเตอร์ หากการระบายความร้อนไม่ดี และเป็นโปรเจคเตอร์ LED ที่ใช้กำลังวัตต์สูง เช่น 60 - 65 วัตต์ขึ้นไป โอกาสที่ LED Chip และแผงวงจร PCB จะเสื่อมอายุเร็ว หรือทำให้โอกาสเกิดแสงดร็อปหลังจากเปิดใช้งานโปรเจคเตอร์ไปสักระยะ (ค่าความสว่างไม่เสถียร) เทคโนโลยีพัดลมระบายความร้อนในโปรเจคเตอร์ LED บางยี่ห้อ เป็นแบบ Adaptive Fan คือ รอบพัดลมจะหมุนถี่ขึ้นเมื่ออุณหภูมิในระบบสูงขึ้น
2. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์สินค้า โปรเจคเตอร์ LED ก็เหมือนสินค้าอื่นๆ เช่น รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งสินค้าที่สร้างแบรนด์ขึ้นมาใช้เวลาหลายปี ผมเชื่อว่าสินค้าที่สร้างแบรนด์น้อยรายที่จะทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้าน สำหรับผมจะไล่ดูรีวิวผู้ใช้ทั้งความเห็นและวีดีโอการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ อย่างน้อยมีผู้ใช้งานรุ่นพี่ ทดสอบให้เราก่อนแล้ว แล้วค่อยๆคัดตัดช็อยส์ไปเรื่อยๆ จนตรงกับความต้องการและงบประมาณในกระเป๋าของเรา
3. ร้านที่รับติดตั้ง/ช่างที่รับติดตั้ง ความเห็นของผม โปรเจคเตอร์ LED นั้นต้องใช้ทักษะ ประสบการณ์ และความชำนาญของช่าง ซึ่งต้องมีมากกว่าหลอดไฟชนิดอื่นมากพอสมควร (หลอดฮาโลเจน, หลอด LED เราอาจจะเปลี่ยนกันเอง ตั้งไฟกันเองได้) แต่กับโปรเจคเตอร์ LED นั้นต้องใช้ทักษะ Handyman และความรู้เรื่องระบบไฟของรถแต่ละยี่ห้อพอสมควร ทำเองโดยไม่ชำนาญผมว่าได้ไม่คุ้มเสีย ผมยึดหลักว่าอะไรที่เราไม่รู้จริงไม่ชำนาญจริง จ้างผู้เชี่ยวชาญที่รู้จริงดีกว่า แต่ถ้าใครมีทักษะ เปิดคลิปแล้วทำตามก็ท้าทายดีครับ
รวมไปถึงการพูดคุยและความจริงใจในการให้บริการลูกค้าก็สำคัญ เพราะเท่าที่ผม Survey ราคามา ราคาโปรเจคเตอร์ LED รวมติดตั้งนั้นหลักหมื่นขึ้นไป ดังนั้นจะเสียเงินหลักหมื่นทั้งที ผมจะคุยจนผมเข้าใจ และผมอยากให้เพื่อนๆคุยราคากับร้านหรือช่างให้ชัดเจนก่อนเริ่มทำ ว่าราคาที่ร้านแจ้ง ที่ร้านโฆษณาเป็นราคารวมติดตั้งจบทุกอย่างหรือเปล่า เพราะบางทีร้านอาจจะบอกราคาสินค้าและค่าติดตั้ง แต่อาจจะไม่รวมค่ากาวสำหรับซีลโคม ไม่รวมฝาครอบ (หน้ากาก) ของโปรเจคเตอร์ LED ดังนั้นถามราคาจบทุกอย่างชัดๆไปเลย ที่สำคัญอย่าลืมถามเรื่องระยะเวลารับประกันและเงื่อนไขในการรับประกันสินค้าและการติดตั้ง (เช่น การซีลโคมไม่ดี น้ำเข้าโคม กรณีนี้ทางร้านรับผิดชอบด้วยหรือไม่) เราจะได้ไม่เสียผลประโยชน์ในภายหลัง
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/02/6Qkp2q.jpg)
ฝาครอบ (หน้ากาก) สำหรับโปรเจคเตอร์ LED สำหรับเลนส์ขนาด 3 นิ้ว
4. ราคาที่ตอบโจทย์ ราคาโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector) ส่วนใหญ่ถ้าสอบไปยังร้านต่างๆ จะเป็นเป็นราคาสินค้าพร้อมการติดตั้ง (ราคาสินค้า + ค่าบริการติดตั้ง + การบริการหลังการขาย) ซึ่งบางทีสินค้าตัวเดียวกันแต่ราคาที่แต่ละร้านเสนออาจจะแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะตัวแปรค่าติดตั้ง (ผีมือช่างแต่ละคนที่เขาตีมูลค่าฝีมือตัวเอง + การบริการหลังการขาย) ที่แต่ละร้านเขาจะ Mark up ราคาจากค่าสินค้า ซึ่งตลาดนี้ก็มีทางเลือกค่อนข้างเยอะพอสมควรโดยเฉพาะในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ๆ เมื่อตลาดทำหน้าที่ของมัน เชื่อว่าราคาคงไม่หนีกันมาก หากเป็นสินค้าชนิดเดียวกันแบรนด์เดียวกัน ไม่งั้นลูกค้าเทไปใช้บริการที่ที่ให้ข้อเสนอคุ้มค่าที่สุดกันหมด
PART ถัดไปจะเป็นข้อมูลรีวิวโปรเจคเตอร์ LED (Bi-LED Projector) ยี่ห้อต่างๆ โดยผมจะเน้นรวบรวมคลิปวีดีโอรีวิวจากต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆที่กำลังสนใจอยู่เหมือนกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
1. OSRAM ออสแรมเป็นบริษัทผู้ผลิตหลอดไฟรถยนต์จากเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศเจ้าแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างที่หลายคนคุ้นเคยกันดี รวมถึงเป็นผู้ผลิตชิพแอลอีดี (LED Chip) รายใหญ่เบอร์ต้นของโลก รถของผมเองหลอดไฟหน้าติดรถมาก็เป็นหลอดแบบฮาโลเจน ขั้ว H11 (ไฟต่ำ) และขั้ว HB3 (ไฟสูง) บังเอิญก็เป็นยี่ห้อ OSRAM ติดรถมา โดยคู่แข่งทางฝั่งยุโรปของออสแรมอย่าง Philips ณ ปัจจุบัน ผมยังไม่เห็นทำสินค้า Bi-LED Projector ออกมาจำหน่าย แต่สำหรับ OSRAM น่าจะออกสินค้ามาได้ 1-2 ปีแล้ว โดยรุ่นที่ออกมา คือ OSRAM LEDriving CBI PRO อ้างอิงข้อมูลสินค้าจาก Link ด้านล่าง
ส่วนในประเทศไทยเอง ผมก็เห็นร้านรับติดตั้งโปรเจคเตอร์ LED หลายๆร้านนำมาโปรโมทเสนอขายแล้ว https://www.osram.com/am/ (https://www.osram.com/am/) << เว็บไซท์ทางการของ OSRAM
https://www.youtube.com/watch?v=ItealSQ4_OM&t=17s (https://www.youtube.com/watch?v=ItealSQ4_OM&t=17s)
https://www.youtube.com/watch?v=t2t0VRrVRz4 (https://www.youtube.com/watch?v=t2t0VRrVRz4)
https://www.youtube.com/watch?v=xHsqc-MmQu8 (https://www.youtube.com/watch?v=xHsqc-MmQu8)
2. AOZOOM เป็นแบรนด์จากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งแบรนด์นี้ก็ออกสินค้ามาหลายรุ่นเลยตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นที่เป็นโปรเจคเตอร์ LED แบบ Lossless ไปจนถึงแบบ Lossy ซึ่งมีสินค้าหลาย Segment ตามกำลังทรัพย์และลักษณะการใช้งานของลูกค้า ข้อมูลสินค้าแบรนด์ AOZOOM ตาม Link ด้านล่าง ซึ่ง AOZOOM มีตัวแทนจำหน่ายและบริการติดตั้งในไทยแล้วเช่นกัน
https://www.projector-headlight-manufacturer.com/about/company-profile/ (https://www.projector-headlight-manufacturer.com/about/company-profile/)
AOZOOM : Wolf
https://youtu.be/UBjz80ZzHrs (https://youtu.be/UBjz80ZzHrs)
AOZOOM : LEO
https://youtu.be/309lfnaKdoc (https://youtu.be/309lfnaKdoc)
AOZOOM : Domax
https://www.youtube.com/watch?v=UVKbeAjtceE (https://www.youtube.com/watch?v=UVKbeAjtceE)
https://www.youtube.com/watch?v=49OpQaM57tY (https://www.youtube.com/watch?v=49OpQaM57tY)
3. AES เป็นอีกหนึ่งแบรนด์โปรเจคเตอร์ LED จากประเทศจีน ลองตามไปดูรีวิวสินค้า Bi-LED Projector จาก AES ตาม Link ด้านล่างได้เลย
https://youtu.be/jWX9MM28wIE (https://youtu.be/jWX9MM28wIE)
https://youtu.be/2z9o1XIiCAM (https://youtu.be/2z9o1XIiCAM)
https://youtu.be/cTdAAao3p28 (https://youtu.be/cTdAAao3p28)
4. GTR ชื่อแบรนด์โปรเจคเตอร์ LED ที่ชื่อคล้ายรุ่นรถสปอร์ตของ Nissan อีกหนึ่งแบรนด์จากประเทศจีน แสงไฟโปรเจคเตอร์จะแรงเหมือนชื่อแบรนด์หรือไม่ ลองดูในคลิปวีดีโอข้างล่างได้เลย
https://www.youtube.com/watch?v=RMpjPKcyygs (https://www.youtube.com/watch?v=RMpjPKcyygs)
https://www.youtube.com/watch?v=leTS15y09GU (https://www.youtube.com/watch?v=leTS15y09GU)
https://www.youtube.com/watch?v=nqiaG5rbE-E (https://www.youtube.com/watch?v=nqiaG5rbE-E)
5. NHK อีกแบรนด์โปรเจคเตอร์ LED จากประเทศจีน
https://www.youtube.com/watch?v=NCA238vH5fI (https://www.youtube.com/watch?v=NCA238vH5fI)
https://www.youtube.com/watch?v=5n677OWz2TE (https://www.youtube.com/watch?v=5n677OWz2TE)
https://www.youtube.com/watch?v=Gu7X6LlIhk0 (https://www.youtube.com/watch?v=Gu7X6LlIhk0)
6. UPS และปิดท้ายด้วยอีก 1 แบรนด์ โปรเจคเตอร์ LED จากค่ายมังกรแดง UPS
https://youtu.be/2z9o1XIiCAM (https://youtu.be/2z9o1XIiCAM)
https://www.youtube.com/watch?v=_6_xypqw0VM (https://www.youtube.com/watch?v=_6_xypqw0VM)
https://www.youtube.com/watch?v=2AwTXkGLcVs (https://www.youtube.com/watch?v=2AwTXkGLcVs)
สำหรับผมเองน่าจะไปอัพเกรดไฟหน้าไม่เกินช่วงต้นปี 65 หลังจากติดตั้งจริงแล้ว ถ้ามีเวลาว่างผมอาจจะมาทำบทความแชร์รีวิวผู้ใช้จริง โปรเจคเตอร์ LED (Bi LED Projector) อีกครั้ง หวังบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังสนใจอัพเกรดไฟหน้ารถยนต์ อย่างน้อยที่สุดอ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็มีข้อมูล Back up สำหรับคุยกับช่าง/ร้านไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED รู้เรื่องแน่นอนครับ