Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Kim 42 Up! ที่ มกราคม 14, 2022, 19:32:43
-
เครื่อง Honda 1.5T ใช้ระยะยาวจะมีปัญหาอะไรน่ากังวลไหมครับ เช่น ระบบระบายความร้อน หรือตัวเทอร์โบเอง
ถ้าไม่ค่อยอึด อาจจะกลับไปมอง NA 2.5 ของ Toyota แทนครับ
-
2รุ่นที่ว่ามาไม่หนีกันเท่าไหร่ครับ
-
2รุ่นที่ว่ามาไม่หนีกันเท่าไหร่ครับ
ที่พักอยู่โซนสาทร เลยสนเครื่องเล็กเผื่อประหยัดหน่อยตอนอยู่ในเมืองครับ
แต่มีงานที่ต้องเดินทางไปกลับ 400 กม ทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์ไปกลับ 2 รอบ
เลยคิดหนักเลยครับ
-
ถ้าไม่ไปซนกับมัน มันไม่พังหรอกครับ
เครื่องบล็อคนี้ อยู่ใน civic (อาจจะไม่เหมือนเป๊ะ แต่ก็ต่างแค่รายละเอียด) ตั้งแต่ FC / FK ไล่มาจนปัจจุบัน ที่ใส่ตั้งแต่รุ่นถูกสุด ดังนั้น เชื่อใจมันได้
ที่คุยกับศูนย์ HONDA เค้าก็บอกว่า ส่วนมากที่พัง ก็ซนมาทั้งนั้น พังระดับสูบทะลุก็มีครับ
-
คิดถึงต้องจ่ายภาษีประจำปี
เครื่องตีตั๋วเด็กคุ้มขึ้นมาทันที
-
ผมว่า มันแรงพอนะครับ
แต่ผมไม่ชอบ turbo ชอบna
-
400 km ทุกอาทิตย์นี่เยอะนะครับ
ยังไงเครื่อง turbo ความร้อนสะสมสูงกว่าแน่ๆ ถ้าขับไกลขนาดนั้น
-
ใข้ได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ ถ้าไม่ไปทำอะไรกับเครื่องมันมากๆ ถ้าไปจูนแรงเกิน เกียร์อาจม่องก่อนครับ ส่วนเครื่องน่าจะอีกยาวๆครับ
ขับทางไกลเท่านี้ไม่มีปัญหาอะไรครับ
แต่ถ้าชอบnaไปแคมรี่ก้ดีครับ
ผมชแบฟิลลิ่งของแคมรี่มากกว่า :D
-
อึดพอประมาณ
แต่ในต่างประเทศเครื่องตัวนี้มีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องหาย
ส่วนเครื่องในประเทศเรายังไม่ได้ยินปัญหานี้เลยครับ
-
เครื่องไม่น่าห่วงหรอก ห่วงเกียร์ดีกว่า ผมไม่มี accord หรอก
แต่ผมมี city hb รถผมเดิมสนิท อุณหภูมิน้ำมันเกียร์สูงมาก ถ้าเหยียบเต็มๆ แปบ สักประมาณ5กิโล อุณหภูมิเกียร์ทะลุเกิน 120 องศา เกจร้องลั่นเลย ถ้าขึ้นเขา ไม่เหยียบเต็ม ก็เกิน 120 ผมต้องเหยียบๆยกๆ จะกดมากก็ไม่กล้า ผมคิดว่าเกียร์มันทนสู้ auto ปกติไม่ได้แน่ๆ
ใน accord อาจจะไม่เป็นก็ได้ ผมแค่เล่าให้ฟัง
-
Honda เครื่องอึด แต่เกียร์เปราะ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
-
ถ้าเทียบรถบ้านทั่วไป ไม่มีอืดเลยครับ วิ่งพอๆกับ camry 2.5 นั่นแหละ
ปกติผมเปิดโหมด eco ด้วยซ้ำ ถ้ากดโหมดธรรมดา 0-100km/hr ก็ 9วิ (ตัวเลขที่ใน HLM รายงาน)
แต่เมื่อไหร่ กดโหมด sport คันเร่งเกียร จะตอบสนองเร็วขึ้น เร่งดีขึ้น ได้เห็น 8.xx วิ แน่
ถ้าอยากให้แรงมากกว่านี้ ไปต่อง่ายกว่า camry เครื่อง N/A
-
2รุ่นที่ว่ามาไม่หนีกันเท่าไหร่ครับ
ที่พักอยู่โซนสาทร เลยสนเครื่องเล็กเผื่อประหยัดหน่อยตอนอยู่ในเมืองครับ
แต่มีงานที่ต้องเดินทางไปกลับ 400 กม ทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์ไปกลับ 2 รอบ
เลยคิดหนักเลยครับ
1.5T ความร้อนไม่มีปัญหาครับ ผมก็ขับcivic กรุงเทพ-อุดรหลายรอบแล้ว
แต่ถ้าเดินทางไกลบ่อย+ขับในเมืองไม่ไกลผมว่าcamry hybrid น่าสนใจนะครับ
-
เทอร์โบ ขับมันกว่ามาก เครื่องเขาเสถียรแล้วครับ ทำมาหลายรุ้นแล้ว
-
พอกันแหละครับ 2 รุ่นนี้ แค่ถ้าขับ 1.5T แล้วเอากป remap ควรใช้น้ำมันเครื่องที่ดีกว่าของศูนย์ครับ
ผมใช้มา 62000 กว่าkm แล้ว ขับสนุกดีครับ
-
ในกลุ่มมีคนใช้g10ตัวนี้วิ่งไปแสนกว่าโลแล้วยังปกติไม่พบปัญหาใดๆ ดูความทนทานจากซีวิค1.5Tตัวที่แล้วที่เครื่องใกล้เคียงกันแต่ต่างที่ปลีกย่อยหลายคันก็ไมล์เยอะแต่ยังไม่มีปัญหาเว้นแต่ไปรีแมพแล้วจูนแบบโหดๆอันนี้เกียร์ไปก่อนเลย
ใช้ในเมืองแนะนำครับ ผมใช้ผสมในเมืองกับนอกเมืองขับยังไงก็กินเฉลี่ยสองหลักตลอด ถ้าใช้e20ได้13-14ถ้าe85อาจจะตกเหลือ10-11โลลิตร
-
Accord เครื่อง 1.5 T ถ้าขยันถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยๆ มันก็ใช้ได้นานแหละครับ ที่สำคัญคือเกียร์ CVT ต้องขยันถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆด้วยเช่นกัน
ถ้าเทียบกับ Camry 2.5 ยังไง Camry ก็ดูแลง่ายกว่าครับ เพราะเป็นเครื่องยนต์ N/A + เกียร์ออโต้ 8 สปีด ถ้ากะใช้ระยะยาว 10 - 20 ปี ขึ้นไป เหมาะเลยครับ ดูแลง่ายกว่าแน่นอน
-
ผมว่าพอนะครับ ถ้า จขกท ไม่ใช่ขาซิ่ง ลองหารีวิวดูอีกทีก็ได้ครับ และอย่าลืมไปลองเองด้วยนะครับ
-
ถ้าออฟชั่น เท่ากัน ราคาเท่ากัน ผมเลือก 1.5T
แต่ทีนี้ อยู่ว่า เจ้าของโพสต์ อยากได้อะไร จาก Accord 1.5T หรือ Camry 2.5 มากกว่ากัน คงอยู่ที่โจทย์ แล้วละ
-
ถ้าใช้ในเมือง แล้วคิดว่าเครื่อง 1.5 T จะประหยัด ผมว่าคิดใหม่ดีกว่าครับ เพราะอย่าลืมว่า ต้องเครือ่ง 1.5 ต้องแบกตัวถังที่หนักเกินตันครึ่ง แล้วขับในเมือง มันต้องอาศัยการออกตัวเรื่อยๆ เทอร์โบก็ต้องทำงานอีก มันไม่ได้ประหยัดเท่าไหร่หรอกครับ หลายๆคันใช้ในเมือง แอคคอร์ดตัวนี้เหลือ 9 กิโลลิตรก็มีครับ
-
แรงเหลือเฟือใช้งาน แต่กินน้ำมันนี่ผมยัง งงๆอยู่ ตอนนี้ 3 ถังละ ขับจากสุพรรณไปลำปาง ยังไม่พ้น 10 โลลิตรเลย คนอื่นบอก 10 กว่าๆหมด ขนาดผมเปิดครูชวิ่งเป็นระยะ วิ่ง 100-140 160 นานๆที