Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Pattarapon ที่ พฤษภาคม 21, 2022, 16:48:05
-
หาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมในไทย พบว่ามีเพียงเเค่ ปตท.กับ บางจาก ที่เป็นน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยม Euro 5 ไม่ทราบว่าจริงไหมครับ เเล้ว 2 ปั๊มนี้ควรเติมปั๊มไหนดีครับ อยู่ต่างจังหวัดมีเเต่ ปตท.เยอะครับ
-
จริงครับ
ผมเติมบางจาก เพราะแถมน้ำ
-
ปตท ดีเซลพรีเมี่ยมเลยครับ
-
ผมเติม v power แล้วรู้สึกต่างมากครับ ทั้งๆที่ Euro4
เติม ปตท Euro 5 รู้สึกเหมือน B7 ธรรมดา
หรือรถผมมันไม่ชอบ ของดี555
-
ดีเซลของบางจากกลั่นมาได้น่าจะสักพักแล้วล่ะครับ เพิ่งจะวางขายตอนปลายปี 62 นู่น (ทราบตั้งแต่สมัยยังฝึกงานอยู่)
ของปตท. นี่ผมไม่แน่ใจเขากลั่นเองผ่านไทยออยล์หรือซื้อที่กลั่นที่บางจากไปเติม Additive เอง
ส่วนเติมปั๊มไหน ได้หมดแหละครับ มันลดเรื่องมลพิษที่ปล่อยออกมาเป็นหลัก ไม่ได้เน้นแรงหรืออะไร
-
จากที่ใช้มาหลายชนิดตลอด 5 ปี
ดีเซล Euro 5 ที่รู้สึกต่างคือระยะทางที่จะเผาเขม่า PM ใน DPF 1 รอบตอนใช้รถใหม่ๆ ครับ รู้สึกได้จริง
แต่ทุกวันนี้ ไม่ต่างล่ะ
สมรรถนะ แบรนด์น้ำมันเห็นผลความต่างมากกว่า
และผมเห็นผลการตอบสนองที่ดีกับตราเสือพรีเมี่ยมซูพรีมพลัสกับคราดาวธรรมดา ว่าตอบสนองดีกว่าตราหอยพรีเมี่ยมวีเพาเวอร์ซะอีก
แต่ทั้ง 3 ตัวก็ดีกว่าลูกไฟธรรมดา น่าเสียดายที่ด้วยสภาวะตอนนี้ผมได้เติมแต่ลูกไฟธรรมดามาหลายถังติดแล้ว
-
น้ำมัน Euro 5 มันก็แค่น้ำมันกำมะถันต่ำ เป้าหมายคือการลดค่า PM และ Nox เป็นหลัก มันไม่ได้วิเศษอะไรเลยในเรื่องของความแรงหรือการเผาไหม้
แต่ถามว่ามีจริงไหม ก็คงมีจริงแหละ แต่ถ้าน้ำมันเป็น Euro 5 แต่เอามาเติมรถที่ไม่ใช่ Euro 5 มาตรฐานการปล่อยไอเสียก็คงไม่ต่างจากเติมน้ำมันธรรมดา ...
เพราะมาตราฐาน Euro 5 จะกำกับที่ตัวรถด้วย
ดังนั้นที่ผมเข้าใจคือ ถ้ารถเป็น Euro 5 และไปเติมน้ำมัน Euro 5 อันนี้ได้ประโยชน์คือปล่อย PM น้อยลง
แต่ถ้ารถที่ไม่ใช่ Euro 5 แล้วไปเติม Euro 5 ผลก็ไม่น่าต่างในเรื่องการปล่อย PM (เพราะรถไม่มีระบบกรองไอเสียตามมาตรฐานEuro 5 )
และรถที่เป็น Euro 5 แต่ไปเติมน้ำมันที่ไม่ใช่ Euro 5 ผลที่ออกมาก็ DPF ตัน ระบบกรองไอเสียตามมาตรฐาน Euro 5 จะเสื่อมสภาพไว เพราะน้ำมันที่มีกำมะถันเยอะ ระบบจึงต้องทำงานหนักกว่า
ดังนั้น จากที่ทราบกันว่าอยู่ๆ mazda เครื่องดีเซลจึงลดมาตราฐานรถตัวเองเหลือ Euro 4 เพราะมันไม่ต้องใช้ DPF ที่เป็นปัญหา
ป.ล.สำหรับเครื่องดีเซล ในส่วนประกอบเครื่องยนต์ Euro 4 จะมีแค่ระบบ EGR ก็เพียงพอ ... ส่วน Euro 5 จะมี EGR+DPF ช่วยในการลด PM และ Nox
(https://www.img.in.th/images/97872077a12a6a6c23bc2946aeb6b793.png)
-
มีครับ ตามท่านบนๆ บอก เขาไม่มาโม้หรอก โดนฟ้องตาย
แต่คุณให้ความสำคัญกับ Euro5 ไปในมุมไหนต่างหาก
ถ้าคิดว่าแรงกว่า Euro4 หรือ ต้องเร่งดีกว่า หรือ วิ่งดีกว่า คุณคิดผิด
เพราะมันเป็นมาตรฐานได้น้ำมัน ส่วนผสม ความสะอาด ไอเสีย มลพิษ เป็นหลัก
ผมเติม v power แล้วรู้สึกต่างมากครับ ทั้งๆที่ Euro4
เติม ปตท Euro 5 รู้สึกเหมือน B7 ธรรมดา
หรือรถผมมันไม่ชอบ ของดี555
ต่างคืออะไรครับ
ถ้าเรื่องอัตราเร่ง หรือ อัตราการน้ำมัน ไม่เกี่ยวกับตัวเนื้อน้ำมัน แต่มันเกี่ยวกับพวก Additive ที่ใส่เข้าไป อย่างพวก ออกเทนบูสเตอร์ หรือ อื่นๆ
ค่า Euro น้ำมัน มันเป็นเรื่องของ ค่าส่วนผสม กำมะถัน ไอเสีย มลพิษ และ อื่นๆ ในน้ำมัน ซึ่งผลมันคือ เรื่องความสะอาด ค่าไอเสีย มากกว่า เรื่องความแรง
ที่ชัดเจนที่สุด คือ กลิ่นไอเสีย สังเกตุได้
-
เท่าที่ทราบคือมีแต่ของ ปตท บางจาก ที่เป็นยูโร 5 ส่วนเจ้าอื่นไม่ใช่
ส่วนเรื่องการเป็นยูโร 5 แล้วแรงขึ้น ไม่น่าจะเกี่ยว เพราะ ยูโร 5 คือมาตรฐานการปล่อยมลพิษ
ที่ส่งผลจริงๆ คือพวก additive มากกว่า ซึ่งตัวของทาง ปตท นี่เห็นทดสอบกันตั้งแต่แรกๆ คือดีกว่าเพื่อน แถมราคาไม่ได้แพงกว่าด้วย
อีกส่วนคือเรื่องการเติมพวก ไบโอดีเซลเข้าไป คือช่วยพวกเรื่องการปล่อยกำมะถันกับฝุ่นลดลง
-
ผมเติมได้หมด ถ้า จขกท. สะดวก ปตท. ก็นั่นแหละครับ ทำบลูการ์ดไปด้วยเลย สะสมคะแนนไป ตจว. สาขาเยอะจริง
-
มาตรฐานไอเสียยูโร ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความแรงเลย ทุกวันนี้รถเครื่องยนต์ดีเซลในเมืองไทยส่วนใหญ่ควันดำมาก ส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศหนักอยู่พอสมควร ค่า ยูโร เนี่ย ปัจจุบันบางประเทศก็เป็น ยูโร 6 กันแล้ว มาตรฐานน้ำมันดีเซลที่เหมาะกับรถยนต์ดีเซลในไทย อยู่ ยูโร 5 ซึ่งปั๊มน้ำมันที่ได้มาตรฐานยูโร 5 ก็มี 2 เจ้า คือ ปตท.และบางจาก มาตรฐานคล้ายๆกัน ถ้าตามต่างจังหวัดปั๊ม ปตท. พบเยอะกว่า แล้วแต่ความสะดวกเลยครับจริงๆ
-
น้ำมัน Euro 5 มันก็แค่น้ำมันกำมะถันต่ำ เป้าหมายคือการลดค่า PM และ Nox เป็นหลัก มันไม่ได้วิเศษอะไรเลยในเรื่องของความแรงหรือการเผาไหม้
แต่ถามว่ามีจริงไหม ก็คงมีจริงแหละ แต่ถ้าน้ำมันเป็น Euro 5 แต่เอามาเติมรถที่ไม่ใช่ Euro 5 มาตรฐานการปล่อยไอเสียก็คงไม่ต่างจากเติมน้ำมันธรรมดา ...
เพราะมาตราฐาน Euro 5 จะกำกับที่ตัวรถด้วย
ดังนั้นที่ผมเข้าใจคือ ถ้ารถเป็น Euro 5 และไปเติมน้ำมัน Euro 5 อันนี้ได้ประโยชน์คือปล่อย PM น้อยลง
แต่ถ้ารถที่ไม่ใช่ Euro 5 แล้วไปเติม Euro 5 ผลก็ไม่น่าต่างในเรื่องการปล่อย PM (เพราะรถไม่มีระบบกรองไอเสียตามมาตรฐานEuro 5 )
และรถที่เป็น Euro 5 แต่ไปเติมน้ำมันที่ไม่ใช่ Euro 5 ผลที่ออกมาก็ DPF ตัน ระบบกรองไอเสียตามมาตรฐาน Euro 5 จะเสื่อมสภาพไว เพราะน้ำมันที่มีกำมะถันเยอะ ระบบจึงต้องทำงานหนักกว่า
ดังนั้น จากที่ทราบกันว่าอยู่ๆ mazda เครื่องดีเซลจึงลดมาตราฐานรถตัวเองเหลือ Euro 4 เพราะมันไม่ต้องใช้ DPF ที่เป็นปัญหา
ป.ล.สำหรับเครื่องดีเซล ในส่วนประกอบเครื่องยนต์ Euro 4 จะมีแค่ระบบ EGR ก็เพียงพอ ... ส่วน Euro 5 จะมี EGR+DPF ช่วยในการลด PM และ Nox
(https://www.img.in.th/images/97872077a12a6a6c23bc2946aeb6b793.png)
เครื่อวงเดียวกัน ผลิตในไทย ส่งขาย ต่างประเทศ ใส่ตัวกรอง ผ่าน Euro 5 6 แต่ในไทยตัดออก ขายแพงกว่า รองรับแค่ Euro 4 แค่อ้างว่าไม่มีน้ำมัน Euro 5 แล้วก็เตะถ่วงมากี่ปีแล้ว ที่จะบังคับใช้ Euro 5 นี่ 2565 แล้วนะครับ