Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Altima ที่ กรกฎาคม 30, 2022, 23:19:00
-
ในช่วงเวลาหลายๆปีที่ผ่านมาเราก็เห็นใครอยากวางเครื่อง V8 มักจะใช้เครื่อง UZ กัน สำหรับผมอันนี้ไม่แปลก เพราะเครื่องมันเก่าแล้วราคามือสองจากซากรถต่างๆจะมีราคาถูก และ หาได้ง่าย
แต่ในเวลาเดียวกันรถที่มีเครื่อง UR เริ่มจะอายุเกิน 15 ปีกันแลัวนะ ก็น่าจะเริ่มหาได้ง่ายขึ้นและราคาไม่แรงแล้วนะ (เดา) ได้เครื่องสดใหม่กว่า ทนพอๆกัน และได้ 380 กว่าม้าแบบไม่ต้องผูกโบหรือ supercharger เลย
ก็เลยสงสัยครับ ทำไมถึงในปี 2022 เรายังไม่เห็นร้านแต่ง ร้านทำรถในไทยเอา UR มาวางกัน ยังคงใช้แต่ UZ กับ JZ
-
ให้เดาน่าจะเรื่องของเครื่องฉีดตรงวายริ่งสายไฟยากหรือติดแกซลำบากหรือเปล่านะครับ สมัยนิยมวางเจ 2jzfseตัวที่เป็นเครื่องฉีดตรง ตัวเครื่องใหม่กว่าปีใหม่กว่าด้วยแต่คนไม่ค่อยวางกัน เคยได้ยินช่างบอกวายริงสายไฟจบยาก แล้วก็เครื่องฉีดตรงคนติดแกซยังน้อยนะครับค่าติดก็แพงกว่าด้วย
ถ้าเอามาลงนี่รถขับหลังเก่าๆ benz bmw volvo a31 กระบะ คงสนุกอะครับ น่าจะแซบกว่า
์
-
ก็เพราะเครื่องเดิมๆติดรถมามันแรงพอแล้วไงครับ
คือเมื่อก่อนในยุค 90 เนี่ย รถที่นิยมวางเครื่องกันก็ กระบะซะส่วนใหญ่ ซึ่งสมัยนั้นเครื่องดีเซลรถกระบะมันแสนอืด ถูกไหมครับ ...
ทีนี้ก็กลุ่มรถซื่งก็ยกเครื่องเดิมลง JZ และมันแรงถูกใจสายซิ่งมากๆ
ส่วนเครื่อง UZ ก็เหมือนกัน นิยมวางในรถที่มีแรงน้อย เช่นรถตู้ ที่ไม่ชอบเครื่องเทอร์โบ แต่ชอบ NA เอาไปติดแก็สวิ่งงานกัน แรงประหยัด
และเมื่อมาถึงกระบะคอมมอนเรล ที่มีแรงบิดและแรงมากระดับ 180ม้า+ เนี่ย แถมทำเพิ่มนิดหน่อย ไม่เสียรถ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องยกเครื่องดีเซลลงแล้วไปวางเบนซินเลย ...
และที่คนไม่เล่น UR ผมว่าจริงๆคนเล่นรถวางเครื่องน้อยลงมากกว่า มันก็เลยไม่นิยม
-
เพราะมันเก่าแล้วไงครับ เทคโนโลยีต่างกันหลายเจนละ
เครื่องติดรถจูนดีๆ ทั้งแรงทั้งประหยัด จะไปเทคเก่าๆมาใส่ทำไมให้เสียรถ
-
เห็นในคลิปนึง อู่แถวระยอง วางเครื่องกระบะใส่ทั้ง audi a8 และ คาเยน
เครื่องดีเซลวางดีๆจูนแบบคลีนๆ มันก็ได้แรงบิดพอขับรถคัยใหญ่ๆแล้ว วางง่ายจบง่าย
ใช้ต่อยาวๆ
วาง v8 มันจะจบยากนรงช่วงล่างหรือเปล่าครับ
แถมอัตราสิินเปลืองก็เอาเรื่อง
-
น่าจะเพราะยุ่งยากหากมาวางรถใช้งานกัน โดยเฉพาะเรื่องวายริ่ง แถมน่าจะต้องแก้เรื่อง Immo.
รถที่จะมาวางกันก็ไม่ค่อยจะมี กระบะเองเครื่องเดิมก็ทำซิ่งกันไปได้ไกล พังแบบไม่ยับเยินก็ยังซ่อมได้ ประเภททิ้งเครื่องทั้งตัว ค่าซ่อม (หรือซื้อท่อนตรงใหม่ๆ) อาจจะไม่แตกต่างจากยกเครื่อง วี8 เบนซินเซียงกงสักเท่าไหร่
พวก UZ ราคาน่าจะไม่ถูกแล้ว เช่นเดียวกับ JZ ที่น่าจะไม่ค่อยมีของแล้วครับ UR เองผมว่าราคาก็น่าจะไม่ถูกเช่นกัน เดาว่าค่าของอย่างเดียวก็น่าจะมี 5 หมื่นแล้ว กว่าจะจบงานได้คงใกล้แสน ;)
-
เท่าที่ผมรู้จัก ตั้งแต่สมัยน้ำมันแพงรอบก่อน ไปวาง JZ UZ ติดแก็สกัน มาจนถึงวันนี้
UZ กว่าจะทำจบ (ทุกวันนี้บางอู่ยังวางไม่จบเลย) มันต้องใช้เวลาเรียนรู้หลายปี เพราะโดยส่วนมาก คนที่ทำจบ คือ อู่ที่ทำกับรถตัวเอง เรียกว่า R&D เอง เล่นเอง ทำเอง เจ็บเอง ก็ว่าได้ จนหาสูตรสำเร็จได้ว่า จุดแข็ง จุดอ่อน จุดแก้ไข คืออะไร และมีแค่ไม่กี่อู่เท่านั้นที่วางจบจริงๆ ด้วย
UR จริงๆ ความยาก มันไม่ได้ยากเรื่องการวาง แต่มันยากตรงระบบรายล้อม ระบบไฟฟ้า ระบบอิเล็กทรอนิกส์ กล่อง วายริ่ง ฉีดตรง และ การที่ยังไม่ได้ลองวางกัน เลยยังไม่รู้จัดแข็ง จุดอ่อน จุดเป็น จุดตาย ของมันมากกว่า และ UR เอง เครื่องก็ยังแพงกว่า UZ อยู่ แค่ต้นทุนเครื่องยนต์ก็แพงกว่า มองภาพไกลๆ เลยว่า ราคาวางจบ ก็แพงกว่าแน่นอน ตามที่บอกๆ ไว้
ตราบใดที่ UZ ค่าเเครื่อง+วาง+จบ ยังถูกกว่า ดูแลรักษาง่ายกว่า ผมว่า มันก็เป็นตัวเลือก V8 ที่ดีอยู่ ณ วันนี้
แต่สุดท้าย การจะเลือก "ความแรง" แบบ V8 NA แบบนี้ ผมว่า คนจะเลือกคบ V6 Turbo หรือ Inline6 Turbo หรือแม้กระทั้ง Inline4 Turbo กันแล้วละ มันเลยทำให้ V8 NA ความนิยม มันสวนทางกับราคาน้ำมันครับ ขนาดค่ายรถเอง ยกจะเลิกผลิตแล้วเลย
น่าจะมีแค่กลุ่มที่เสี้ยน และ อยากลอง เท่านั้นละ ที่ยังเล่นอยู่ครับ แต่มันน้อยมากแล้ว