Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jiraiyax ที่ พฤศจิกายน 08, 2010, 07:33:16
-
พอดีช่วงปีใหม่นี้จะขึ้นเหนือ (เชียงใหม่ - เชียงราย) และปรกติผมจะใช้เกียร์ธรรมดา เวลาเข้าโค้ง ขึ้น - ลง เขา ผมจะใช้การเปลี่ยนเกียร์เพื่อลด รักษา และ ควบคุมความเร็ว
พอคราวนี้ จำเป็น ต้องใช้เกียร์ A/T เลยไม่รู้ว่าจะใช้เกียร์อย่างไรดี ขอคำแนะนำด้วยครับ
ปล. เกียร์ A/T แบบไม่มีการ Shift เกียร์เองครับ
ขอบคุณครับ
-
ผมมักใช้แต่เกียร์ 3 อะครับ เปลี่ยนจาก D ลงมาตำแหน่งถัดไปอะครับ หรือถ้าที่เกียร์มี + - ก็สับมาเป็นลบหนึ่งครั้งแบบนั้น ถ้าชันมากๆก็ตบลง 2 หรือ 1 (บางคันใช้ S และ L แล้วแต่ยี่ห้อ) เพื่อรักษารอบเครื่องไม่ให้รถไหลลงเร็วเกินไป หรือให้เครื่องมีกำลังเพียงพออะครับ
ไม่รู้คนอื่นขับกันยังไง แต่ผมขับแบบนี้อะครับ ;)
-
ผมเคยขับขึ้นลงเขาประเภท ขันๆ วกๆ วนๆ (เชียงราย เชียงใหม่ (ฝาง) พระเยา ...) ผมเคยขับ AT อยู่ 2 คัน
1. space wagon มี + - ทำให้ขับง่าย engine break ดี ขับแล้วไม่เครียด คุมจังหวะง่ายมากๆ ชันมากๆ ก็ลดเหลือ 2 , 1 เอา มันส์ดี แถมเร่งแซง ในจังหวะคันหน้าช้า (รถบรรทุก) ได้ดีกว่า
2. hyundai sonata 2.0 ไม่มี + - engine break ไม่ดี ทางชันมากๆ ก็ลดเกียร์มาเป็น 2,L แต่รอบก็ยังสูงอยู่ดี ขับแล้วเครียดกว่า
แถมลากเกียร์ ยาวๆ กรณีทางชันมากๆ ยาวๆ และโค้งมากๆ ใช้เกี่ยร์ต่ำ ความร้อนขึ้นอีกด้วย (เคยขึ้นดอยอินทนน์ แล้วเครื่องฮีท แต่น่าจะเป็นที่รถเก่าด้วย)
หากขับลงทางชันมากๆ แล้วรถมีความเร็วเกินไป อย่าเหยียบแช่เบรค ให้เหยียบเบรคจนรถลดระดับความเร็วที่ต้องการแล้วปล่อย กลัวน้ำมันเบรคเดือด กับ เบรคใหม้น่ะ
-
ถ้าจะเอาให้เป๊ะ ต้องบอกก่อนครับว่าขับรถยี่ห้อและรุ่นอะไร
เพราะตำแหน่งบนคันเกียร์ แต่ละคัน/รุ่น มีไม่เหมือนและไม่เท่ากัน
แต่ถ้าว่ากันตามหลักการ ใช้แนวคิดเดิมเหมือนกับขับเกียร์ธรรมดาได้เลยครับ
-
เท่าที่เคยขับมา ผมใช้หลักการเดียวเกียร์ ธรรมดาเลยครับ
ลงเขาชันๆ ก็เริ่มจากกด OD off ก่อน จากนั้น ก็ลง 2 ถ้ายังเอาไม่อยู่ ก็ 1 หรือ L เลยครับ
คนส่วนใหญ่คิดว่าเปลี่ยนออโต้ไปมาไม่ได้ อันที่จริงเปลี่ยนได้เหมือนเกียร์ธรรมาดาเลยครับ
แต่ต้องให้รอบเครื่่องสัมผัสกับเกียร์ที่จะเปลี่ยนนะครับ ;D
-
ถ้าจะเอาให้เป๊ะ ต้องบอกก่อนครับว่าขับรถยี่ห้อและรุ่นอะไร
เพราะตำแหน่งบนคันเกียร์ แต่ละคัน/รุ่น มีไม่เหมือนและไม่เท่ากัน
แต่ถ้าว่ากันตามหลักการ ใช้แนวคิดเดิมเหมือนกับขับเกียร์ธรรมดาได้เลยครับ
Tiida latio ครับ
-
จริงๆแล้วเกียรอะไรก็ขึ้น-ลงได้หมดแหละครับ
แต่ระวังแค่เรื่องเบรคร้อนก็พอครับ
อย่าเลียเบรค
ถ้าจะเบรค ให้กดลงไปเต็มๆเลย
แล้วปล่อยเบรคให้ได้ระบายความร้อนด้วย จะดีมากๆครับ
ส่วนของเกียร
ใช้เกียรต่ำๆก็พอครับ ดูตามระดับความชัน
น้ำมัน ก่อนขึ้น ก่อนลง ดูด้วยครับ ถ้าหมดกลางทาง ซวยหนัก
ที่สำคัญ ตอนจอดรถ ดูให้ดีๆครับ เบรคมือดึงไว้ก็ดี
เด๋วรถจะไหลลงเขา
-
ผมเกียร์ D รูดยาวเลยครับเบรคให้ช้าก่อนถึงโค้งก็พอหรือไม่ก็สาดโค้งเลย แต่ส่วนใหญ่จะเบรคให้ช้าตอนก่อนลงเข้า
ปล อย่าทำตามผม ถ้าไม่มันใจช่วงล่างครับ
-
ถ้าจะเอาให้เป๊ะ ต้องบอกก่อนครับว่าขับรถยี่ห้อและรุ่นอะไร
เพราะตำแหน่งบนคันเกียร์ แต่ละคัน/รุ่น มีไม่เหมือนและไม่เท่ากัน
แต่ถ้าว่ากันตามหลักการ ใช้แนวคิดเดิมเหมือนกับขับเกียร์ธรรมดาได้เลยครับ
Tiida latio ครับ
งั้นขอเล่าในฐานะ ที่ใช้ latio เหมือนกันนะครับ
เพิ่งไป ลำพูน เชียงใหม่ ปาย ย้อนกลับมาที่ สุโขทัย โดยวิ่งเส้นไปแพร่ แล้ววกเข้าสุโขทัย
เพราะฉะนั้น ภูเขาเยอะ โค้งเยอะ
ตัว latio นั้น ผมว่า เกียร์โง่ไปหน่อย เวลาขึ้นเขา ช่วงประมาณความเร็วที่ 30-40 จะแซงรถบรรทุกในเส้นไปปาย
เหยียบลึกมาก แต่ไม่มิด ปรากฏว่า ไม่ลงเกียร์ 1 ให้ ลุ้นแถบตายเลยครับ
เพราะงั้น ถ้าจะแซงช่วงขึ้นเขา แล้วเจอความเร็วช่วงนี้ เต็มตีนเท่านั้น ถึงจะยอมลงเกียร์ 1 ครับ
ส่วนลงเขา ผมจะกด o/d off บางทีชันมาก ก็ลง 2 อะครับ
ส่วนลง 1 นี่เราต้องหยุดรถก่อนนะ แล้วถึงจะลงมา 1 ได้ เคยใช้ช่วงเดียวครับ
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณทุกคำตอบครับ ตอนนี้คงต้องพยายามทำตัวให้ชินกับมัน (Tiida คันนี้) เพราะมันไม่ใช่รถผมเป็นรถของอาน่ะครับ
ไอ้ครั้นจะเอา Dmax Cab ไปก็สงสารผู้โดยสารที่ต้องนั่งใน Cab ส.ว. กันทั้งนั้น
-
ขอบคุณทุกคำตอบครับ ตอนนี้คงต้องพยายามทำตัวให้ชินกับมัน (Tiida คันนี้) เพราะมันไม่ใช่รถผมเป็นรถของอาน่ะครับ
ไอ้ครั้นจะเอา Dmax Cab ไปก็สงสารผู้โดยสารที่ต้องนั่งใน Cab ส.ว. กันทั้งนั้น
ถ้าไม่ใช่รถของตัวเอง ก็เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นครับ ช่วงล่างยางเบรค ของไม่คุ้นไม่เคย พลาดไปจะไม่งาม
รถเกียร์ออโตเมติกทั่วไปจะมีช่วงเกียร์เดินหน้า (กรณีรถเกียร์ออโต้ สี่สปีด)
D - 3 - L
D - 3 - 2 - 1
D - 2 - 1 พร้อมปุ่ม Overdrive (o/d)
ปุ่ม (Overdrive: O/D) ใช้เพื่อไม่ให้รถวิ่งด้วยเกียร์สูงสุด (กรณีเกียร์สี่สปีด ก็คือไม่ให้ใช้เกียร์ 4 นั่นเอง)
คร่าวๆ ง่ายนะครับ
ปกติขับขี่ในเมือง ก็จะใช้ D กันซะ 99.99% ของรถเกียร์ออโตเมติกทั้งเมือง
และเวลาขับรถต่างจังหวัด ทางเรียบธรรมดา เวลาเร่งเซง ถ้าไม่ กดปุ่ม O/D ให้เป็น Off ก็ใช้วิธีคิกดาวน์ (กดคันเร่งลึกๆ แรงๆหน่อย) เพื่อเพิ่มความเร็วโดยการ ลดเกียร์ลง เหมือนเชนเกียร์แบบธรรมดาครับ จาก 5 แล้วเปลี่ยนลงเกียร์ 4 หรือ 3 โดยที่เกียร์ออโตเมติกนั้นไม่มีคลัชท์เข้ามาเกี่ยวข้องให้วุ่นวายใจ
คราวนี้ อ่านหัวกระทู้บอกว่า ใช้วิธีลดเกียร์ เพื่อลดความเร็วก่อนเบรค
การขึ้นเขา
ถ้าขึ้นเขาแล้วต้องกดคันเร่งลงเพิ่มบ่อยๆ เปลี่ยนเกียร์เยอะๆ ที่ตำแหน่ง D นั้น แสดงว่ากำลังเครื่องกับเกียร์ที่ความเร็วขับ ณ ขณะนั้น ไม่สัมพันธ์กัน ทำให้รถต้องเปลี่ยนเกียร์เองบ่อยๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ให้เลือกเกียร์ที่ต่ำลงมา เช่น กด O/D off หรือ เลื่อนเกียร์ลงในต่ำแหน่งที่ต่ำกว่า ในคันเกียร์ ก็จะทำให้รถอยู่ในเกียร์ต่ำตลอดเวลา เครื่องยนต์สามารถส่งกำลังเพื่อพาตัวรถยนต์ขึ้นเขาได้อย่างต่อเนื่อง (เหมือนค้างเกียร์ 3 ขึ้นเขาในรถเกียร์ธรรมดาครับ)
การลงเขา
ถ้าต้องการลดความเร็วลง ก็ใช้หลักการเดียวกันกับเกียร์ธรรมดาครับ กด O/D off หรือเลื่อนคันเกียร์ลง เพื่อนกำหนดให้เกียร์ใช้งานอยู่ในช่วงเกียร์ต่ำ และใช้ผลประโยชน์จาก Engine Brake ในการหน่วงความเร็วรถยนต์ ให้ลดลง (เหมือนเข้าเกียร์ 2 หรือ 3 แล้วปล่อยคันเร่ง ให้เครื่องมันตื้อๆครับ)
เพื่อลดภาระให้กับเบรค ที่ต้องใช้เยอะ ในการลงทางชันครับ ลดความเสี่ยงเบรคไหม้ ที่เกิดจากการใช้เบรคเยอะ ทำให้ความร้อนสะสมในจานเบรค และผ้าเบรค ส่งผลให้ความเสียดทานของผ้าเบรคลดลง หรือ เฟด ครับ
ขอให้โชคดี และปลอดภัย ครับ
-
คุณ Birm@Productive ตอบซะเกลี้ยงเลยครับ
ฮ่าฮ่า ผมไม่มีอะไรเพิ่มเติม ตามนั้นล่ะครับ