Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: DiKiBoyZ ที่ มกราคม 22, 2023, 20:43:50
-
รถที่มี Paddle น่าจะมีการใช้งานกันบ้าง แล้วแต่บุคคล แล้วแต่สถานะการณ์
สำหรับผม ในกรุงเทพฯ ผมขับโหมด D แทบจะตลอด
แต่พอวิ่งทางไกล หรือต่างจังหวัดใช้งาน Paddle Shift สำหรับผมเป็นของคู่กันเลย ค่อนข้างใช้บ่อย แทบจะใช้ Paddle Shift หรือ โหมด S/M แทบจะตลอด หรือ ตลอดเส้นทางการวิ่งเลยก็ว่าได้
เวลา แซง มันทำได้มั่นใจ และ ทันใจกว่าให้รถคลิกดาวน์เอง ผมจะ คิกดาวน์ หรือ เชนเกียร์ลงไว้รอ ให้รอบเครื่องยนต์อยู่ใน power band ที่พร้อมจะพุ่ง จังหวะแซง แล้วกดคันเร่งแซงทันที
เวลา วิ่งไหลๆ ลอยๆ ก็ใช้ Paddle Shift ตบ + ขึ้นเกียร์สูง (จากโหมด D มันอาจจะลงไม่ขึ้นเกียร์สูง เพราะอาจจะทำให้รถไม่มีแรง)
เช่น ขับที่ 80-90km/h มันจะอยู่เกียร์ 7 ผมก็ตบ + ขึ้นเกียร์ 8 โดยตั้งใจตบลงเกียร์สูง เพื่อให้มันใช้รอบต่ำ มันก็จะอมๆ อืดๆ หน่อย แต่ประหยัดน้ำมันกว่าขับโหมด D (ผมพิสูจน์มาแล้ว)
คำถามคือ
เวลาเชนเกียร์ลง หรือ Down Shift บางจังหวะ หรือ หลายจังหวะ ผมจะ Down Shift เอง(ปกติ แค่เหยียบเบรค มันก็ Down Shift เองอยู่แล้ว) เพื่อใช้เป็น Engine Brake รอบก็จะฟาดขึ้นเป็นจังหวะๆ ด้วย เช่น เวลาถึงไฟแดง หรือ มีรถคันข้างหน้า ขวางอยู่ เป็นต้น
ไม่แน่ใจว่า ระยะยาว จะมีผลเสียหรือไม่ อย่างไร
ปล.รถเป็นเกียร์ ZF ครับ
-
ใช้ไปเถอะ อย่า shift จนรอบฟาดสูงเกินไปก็พอ
เล่นเกียร์บ่อยๆ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เร็วกว่าปกติ
-
ใช้รถ cvt อยู่ในเมืองไม่เคยได้กดชิฟเลย
เคยใช้แค่ตอนลงเขาพอกดซิฟลงรอบตีไป 4000 แล้วยังหน่วงนิดเดียวเอง
จังหวะนั้นคิดถึงรถเครื่องดีเซลเลย :P
-
ผมเคยลองเล่น แบบลองใช้ Paddle Shift ตลอดแบบ จากบ้านไปที่ทำงาน บอกเลยว่า โคตรลำบากเลยครับ คือลำบากต้องคอยมองรอบเครื่อง มองเลขเกียร์ตลอดเลย เพราะเสียงเครื่องมันเงียบจนเราไม่รู้ว่ารอบมันไปอยู่ที่เท่าไรแล้ว
ถ้าการใช้ที่ได้ผลจริงๆสำหรับผมก็ตอนขึ้นเขาลงเขานี่แหละครับ ถ้าทางปรกตินี่ไม่ได้ใช้เลย
ส่วนเร่งแซงหรือจังหวะซิ่งจังหวะมุด mazda เค้ามีโหมด sport ครับเปิดตรงนี้แล้วคล่องตัวกว่าใช้ Paddle Shift อีก
-
แทบไม่เคยใช้เลยครับ นอกจากอยากลากรอบเล่น แต่ก็แค่ช่วงสั้นๆไม่กี่กิโลก็ขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์เองแล้ว
เคยใช้เครื่อง 20d ขึ้นเขาลงเขาทางเหนือ แทบไม่รู้สึกต่างจากพื้นราบ ชิลสุดๆ เครื่อง 20i ก็แทบไม่ต่าง คา D ไว้ยาวๆ สบายสุด
สำหรับผม จังหวะแซง มีบ้างที่หงุดหงิดกับการรอเกียร์ตอน kick down แต่ถ้าให้ใช้ paadle shift ตลอดทาง ผมว่าจะไม่ผ่อนคลายหนักกว่า
ส่วนถ้ากังวลเรื่องการสึกหรอ ผมคงถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆครับ แต่ถ้าเปลี่ยนเกียร์ตามจังหวะ ความเร็ว-รอบเครื่องเหมาะสม เหมือนขับเกียร์ธรรมดา คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะครับ
-
ใช้ไปเถอะ อย่า shift จนรอบฟาดสูงเกินไปก็พอ
เล่นเกียร์บ่อยๆ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เร็วกว่าปกติ
ผมเปลี่ยนทุก 5 หมื่น แบบดูดออก เพราะไม่มีรูเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ครับ
ผมเคยลองเล่น แบบลองใช้ Paddle Shift ตลอดแบบ จากบ้านไปที่ทำงาน บอกเลยว่า โคตรลำบากเลยครับ คือลำบากต้องคอยมองรอบเครื่อง มองเลขเกียร์ตลอดเลย เพราะเสียงเครื่องมันเงียบจนเราไม่รู้ว่ารอบมันไปอยู่ที่เท่าไรแล้ว
ถ้าการใช้ที่ได้ผลจริงๆสำหรับผมก็ตอนขึ้นเขาลงเขานี่แหละครับ ถ้าทางปรกตินี่ไม่ได้ใช้เลย
ส่วนเร่งแซงหรือจังหวะซิ่งจังหวะมุด mazda เค้ามีโหมด sport ครับเปิดตรงนี้แล้วคล่องตัวกว่าใช้ Paddle Shift อีก
จริงๆ ใช้โหมด S ก็ได้ครับ แต่เหมือนยังชอบการเปลี่ยนเกียร์มากกว่าครับ
แทบไม่เคยใช้เลยครับ นอกจากอยากลากรอบเล่น แต่ก็แค่ช่วงสั้นๆไม่กี่กิโลก็ขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์เองแล้ว
เคยใช้เครื่อง 20d ขึ้นเขาลงเขาทางเหนือ แทบไม่รู้สึกต่างจากพื้นราบ ชิลสุดๆ เครื่อง 20i ก็แทบไม่ต่าง คา D ไว้ยาวๆ สบายสุด
สำหรับผม จังหวะแซง มีบ้างที่หงุดหงิดกับการรอเกียร์ตอน kick down แต่ถ้าให้ใช้ paadle shift ตลอดทาง ผมว่าจะไม่ผ่อนคลายหนักกว่า
ส่วนถ้ากังวลเรื่องการสึกหรอ ผมคงถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆครับ แต่ถ้าเปลี่ยนเกียร์ตามจังหวะ ความเร็ว-รอบเครื่องเหมาะสม เหมือนขับเกียร์ธรรมดา คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะครับ
ผมเปลี่ยนทุก 5 หมื่น แบบดูดออก เพราะไม่มีรูเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ครับ(ถึงแม้เขาจะบอกว่า Life-time ก็เถอะนะ)
ผมใช้ Paddle Shift จนชินแล้ว รู้สึกว่ารถมันกระฉับกระเฉงดี ในการแรงแซง กับ เหตุผลวิ่งทางไกล พยายามเลี้ยงรอบให้รอบต่ำเข้าไว้ เพื่อความประหยัดครับ
ส่วนลงเขา(เน้น Engine Brake) กับ ขึ้นขา (เน้น แรงฉุด รอบกลางถึงสูง) อันนี้ผมก็ใช้ตลอดเหมือนกันครับ
-
แทบไม่เคยใช้เลยครับ นอกจากอยากลากรอบเล่น แต่ก็แค่ช่วงสั้นๆไม่กี่กิโลก็ขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์เองแล้ว
เคยใช้เครื่อง 20d ขึ้นเขาลงเขาทางเหนือ แทบไม่รู้สึกต่างจากพื้นราบ ชิลสุดๆ เครื่อง 20i ก็แทบไม่ต่าง คา D ไว้ยาวๆ สบายสุด
สำหรับผม จังหวะแซง มีบ้างที่หงุดหงิดกับการรอเกียร์ตอน kick down แต่ถ้าให้ใช้ paadle shift ตลอดทาง ผมว่าจะไม่ผ่อนคลายหนักกว่า
ส่วนถ้ากังวลเรื่องการสึกหรอ ผมคงถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆครับ แต่ถ้าเปลี่ยนเกียร์ตามจังหวะ ความเร็ว-รอบเครื่องเหมาะสม เหมือนขับเกียร์ธรรมดา คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะครับ
ผมเปลี่ยนทุก 5 หมื่น แบบดูดออก เพราะไม่มีรูเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ครับ(ถึงแม้เขาจะบอกว่า Life-time ก็เถอะนะ)
ผมใช้ Paddle Shift จนชินแล้ว รู้สึกว่ารถมันกระฉับกระเฉงดี ในการแรงแซง กับ เหตุผลวิ่งทางไกล พยายามเลี้ยงรอบให้รอบต่ำเข้าไว้ เพื่อความประหยัดครับ
ส่วนลงเขา(เน้น Engine Brake) กับ ขึ้นขา (เน้น แรงฉุด รอบกลางถึงสูง) อันนี้ผมก็ใช้ตลอดเหมือนกันครับ
[/quote]
เปลี่ยนทุก 50,000 ผมว่าใช้ได้อยู่ครับ เผลอๆบางคนบอกเร็วไปด้วยซ้ำ ถ้าชินกับ paddle shift ก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ
-
เคยใช้รถที่มีแพดเดิ้ลชิฟแล้วรู้สึกว่ามันวุ่นวาย สงสัยผมไม่ชิน
คันปัจจุบันไม่มีแพดเดิ้ลชิฟ แต่มี mode sport ซึ่งก็ไม่เคยใช้อีกเช่นเดิม ลงอินทนนท์ก็เกียร์ D นี่แหละ เกียร์รถปัจจุบันผมว่าฉลาดมากๆแล้วครับ
-
เคยขับเกียร์ธรรมดามา 10 ปี
มีออโต้คันแรก เห็นเขามีทริปโทนิคก็อยากได้
พอมีแล้วใช้แป๊บๆก็เบื่อ
เห็นมีแพดเดิ้ล ก็อยากได้อีก พอได้มาก็แทบไม่ใช้
แถมรถบางคันที่ใช้ก็มีทั้งแพดเดิ้ลและทริปโทนิค
ก็แทบไม่ได้ใช้
มีได้ใช้เต็มที่ก็ ตอนลงเขาชันๆ
หรือใช้ตอนมาเร็วมากๆ แล้วใช้เกียร์ช่วชะลอ
-
ถ้าเป็นพวก CVT ขับสี่อย่าง Subaru xv , Forester ปกติการตอบสนองมันจะค่อนข้างช้า ผมก็ใช้ paddle shift นี่ล่ะช่วยให้มันกระฉับกระเฉงขึ้นนิดนึงคับ
ถ้าเป็นโหมด D ปกติ เวลาเราจะ Kick down เร่งแซง รอบมันจะดีดขึ้นไปรอแต่ไม่สูงมาก แล้วเกียร์ถึงค่อยดึงรถให้ทะยานตามไป
แต่พอตอบ paddle มันจะเข้า M ชั่วคราวแล้วเราก็เลือกเอาว่าจะเอาเกียร์ไหน (ปกติผมจะเลือกไปเกียร์ที่ได้รอบ 3-4 พัน) ถ้ากด kick down ได้ตรงจังหวะพอดีรถมันจะไปได้เร็วกว่าโหมด D ปกติ
แต่ขับทางปกติ ถนน Highway ผมก็ใช้ D ตลอดคับ การกด paddle นี่เอาจริงไม่ได้ใช้บ่อยอะไร (แม้ไปขับต่างจังหวะเร่งแซงถนน 2 เลน ผมก็ไม่ได้ใช้เทคนิคนี้บ่อย ยกเว้นมันจำเป็นจริงๆ)
หรือตอนขึ้นเขา ผมว่าใช้ D ของเกียร์ CVT มันขับง่ายกว่าโหมด M อีกคับ เพราะเกียร์มันทดรอบได้ละเอียด มันเลยหารอบเครื่องที่สัมพันธ์กับแรงฉุดขึ้นเขาทำให้ขับง่ายขึ้น
แต่ถ้าใช้เกียร์ต่ำเพื่อเป็น Engine brake ตอนลงเขาก็ใช้ได้คับ.... แต่ตอนชะลอรถเพื่อรอจอดติดไฟแดงเนี่ยผมไม่เห็นความจำเป็นอะไร สู้เหยียบเบรคชะลอไปตรงๆเลยดีกว่า แถมไฟเบรคด้านหลังจะได้ติดให้คันหลังเห็นว่าเราชะลอรถด้วย จะปลอดภัยกว่า (ผ้าเบรคมันสึกก็เดี๋ยวค่อยเปลี่ยน)
-
Paddle shift รถรุ่นใหม่ๆเครื่อง turbo หรือ hybrid นี่ผมแทบไม่ได้ใช้เลยครับยกเว้นไปขับบนแทร็กหรือถนนตามเขาเน้นเอาความสะใจ แต่มีรถ na รอบจัดที่แรงบิดแทบไม่มีอันนั้นได้ใช้งานตลอดครับ
-
ผมนานๆใช้ทีครับ ตอนแซงถนนเลนเดียวต่างจังหวัดที่ต้องลุ้นหน่อยถึงจะใช้ครับ
ปกติผมไม่ชอบแซงแบบลุ้น เลยกดคันเร่งหนักเบาแล้วรอเกียร์มันเชนเองครับ ผมว่าต่างกันไม่เกิน 1 วิเวลาแซง
-
คิดว่าเกียร์น่าจะโปรแกรมไว้กรณีเผลอชิฟลงเร็วเกินจนรอบที่อาจจะเป็นอันตรายทั้งเครื่องและล้อ เช่น ล้ออาจหมุนไม่ทัน ผลเสียอื่นๆผมว่าก็ระบบขับเคลื่อนคงสึกหรอเพิ่มขึ้น เพราะใช้บ่อยๆรอบเฉลี่ยเพิ่มขึ้นแน่นอนโดยเฉพาะการใช้แบบเอนจินเบรค แต่ก็ไม่น่าจะมากขึ้นมากนัก ใช้บ่อยๆก็ชินจนไม่ค่อยจะแตะเบรคไปเลยครับนอกเมืองในเมือง
-
ผมใช้บ่อยกับ Focus EcoBoost Turbo ครับ เนื่องจากเป็นเกียร์ AT 6 speed บทบู้ถ้ารอให้ เกียร์คิดเองจะช้าไม่ทันกิน ไม่เหมือนพวก zf8 กับ dual-clust 7 spped ของอีก 2 คันครับ
อีกข้อดีของการ shift เองผมว่าขับสนุกกว่า zf8 กับ s-tronic dual clust ครับ ได้ฟิล MT ที่เราต้องคอย เชนเกียร์เองด้วยครับ
อีกทั้ง เจ้าเครื่อง EcoBoost จะทรงพลังที่สุดตอนเข้าเกียร์ S และ shift เกียร์เองครับ กลายเป็นว่ารถที่แรงน้อยสุด ขับสนุกสุดครับ แต่ อีก 2 คัน จริงๆ เล่น paddle ก็ขับสนุกได้นะครับ
แต่ผมว่าเกียร์น้อย เล่น paddle สนุกกว่าเกียร์เยอะๆครับ
-
ถ้า วิ่งอยู่ 5000-6000 แล้วDownshift ขึ้น 7000- Redline ผมว่าอันนั้นอาจเสี่ยง
แต่ถ้าวิ่งๆ อยู๋ 2000-3000 Downshift ขึ้น 4000 ผมว่าน่าจะยังไหวอยู่
เข้าใจว่า จขกท น่าจะแบบ วิ่งมาชิลๆ ปล่อยไหล Downshift ให้มี Engine Brake ช่วยดึง แบบนี้ไม่น่าเป็นอะไรมากครับ
รถหลายๆคันที่เคยขับ มันก็ไม่ยอมให้กดลงเยอะๆ เวลาเราอยากทรมานมันนะ ถ้าใช้รอบสูงๆ มันไม่ยอมลงให้เลย แต่ถ้าเป็นพวก ตัวแรง หรือเปิด Sport+ อะไรแบบนั้น อาจยอมให้เราพังมันได้
ส่วนใหญ่ Paddle ใช้แค่ UpShift ให้รอบเครื่องลดลง เวลาแช่ 120
กับ DownShift เวลาลงสะพานยาวๆ หรือวิ่งคลานๆมาแล้วต้องชิงจังหวะออก
รถสมัยนี้ อัตราเร่งค่อนข้างดี เกียร์ฉลาด แทบไม่ได้ปรับเองเลย
-
เมื่อก่อนขับc350eที่ใช้บ่อยๆจะดีดแป้นเชนเกียร์ลงเพื่อเอาเอนจิ้นเบรค ใช้เวลาขับขวามาเร็วๆแล้วเจอกองรถติดข้างหน้าบนทางด่วน ขับพื้นราบแทบไม่ได้ยุ่งเลย
หลังๆเปลี่ยนมาขับบีเอ็ม ไปเปลี่ยนเบรคMคาลิเปอร์แดงมา ใช้เบรคเท้าเบรคได้นุ่มมาก วิ่งเร็วระดับ200กดให้ลง80ยังไงก็อยู่และสมูสมาก
ปล.ชุดเบรคMแต่งมีbsiใช้ๆไปเถอะ คุ้ม แล้วเชนเกียร์บ่อยๆต้องเปลี่ยน นมก.ทุกๆ5-7หมื่นโลไม่งั้นเสี่ยงเกียร์พัง
ซึ่งเปลี่ยนผ้าเบรคมันถูกกว่าเปลี่ยนนมก.ศูนย์บีเอ็ม 8)
-
อยากลอง Shift เองตอนใช้ Engine เบรค แต่ใช้ไปใช้มาเปิด Adaptive Cruise Control ตามคันหน้ามันใช้ Engine Brake ให้ดีกว่า Shift เองอีก =='
-
เคยไปขับรถที่ใช้ Paddle Shift ในโหมด Auto ปกติได้เพื่อใช้เปลี่ยนเกียร์ต่ำแค่ในจังหวะสั้นๆ ตามต้องการแล้วติดใจเลยครับ รู้สึกดีกว่าโหมด Sport อีกเวลาต้องการกำลังหรือ engine brake จากเกียร์ต่ำจริงๆ
-
ผมนานๆใช้ทีครับ ตอนแซงถนนเลนเดียวต่างจังหวัดที่ต้องลุ้นหน่อยถึงจะใช้ครับ
ปกติผมไม่ชอบแซงแบบลุ้น เลยกดคันเร่งหนักเบาแล้วรอเกียร์มันเชนเองครับ ผมว่าต่างกันไม่เกิน 1 วิเวลาแซง
ใช่ครับ เดี๋ยวนี้เกียร์ถือว่าฉลาดกว่าเดิมเยอะมากแล้ว
แต่บางจังหวะ รถมันคิด และ รอจะฟาดกลับขึ้นมา ผมว่า เชนเกียร์รอ รอบมารอ มันทันใจกว่าครับ ยิ่งวิ่งต่างจังหวัด จะแซงบางจังหวะ มันต้องมั่นใจจริงๆ ครับ
คิดว่าเกียร์น่าจะโปรแกรมไว้กรณีเผลอชิฟลงเร็วเกินจนรอบที่อาจจะเป็นอันตรายทั้งเครื่องและล้อ เช่น ล้ออาจหมุนไม่ทัน ผลเสียอื่นๆผมว่าก็ระบบขับเคลื่อนคงสึกหรอเพิ่มขึ้น เพราะใช้บ่อยๆรอบเฉลี่ยเพิ่มขึ้นแน่นอนโดยเฉพาะการใช้แบบเอนจินเบรค แต่ก็ไม่น่าจะมากขึ้นมากนัก ใช้บ่อยๆก็ชินจนไม่ค่อยจะแตะเบรคไปเลยครับนอกเมืองในเมือง
เกียร์มันฉลาดครับ ถ้ามันรู้ว่ารอบสูงเกินไป มันจะไม่ให้ shift down ครับ การ shift down จนล้อหลังลาก เกิดขึ้นได้ยากกับรถทั่วไปครับ ไม่ใช่เกียร์ด๊อก เกียร์ซีเควนเชี่ยล ครับ
ผมใช้บ่อยกับ Focus EcoBoost Turbo ครับ เนื่องจากเป็นเกียร์ AT 6 speed บทบู้ถ้ารอให้ เกียร์คิดเองจะช้าไม่ทันกิน ไม่เหมือนพวก zf8 กับ dual-clust 7 spped ของอีก 2 คันครับ
อีกข้อดีของการ shift เองผมว่าขับสนุกกว่า zf8 กับ s-tronic dual clust ครับ ได้ฟิล MT ที่เราต้องคอย เชนเกียร์เองด้วยครับ
อีกทั้ง เจ้าเครื่อง EcoBoost จะทรงพลังที่สุดตอนเข้าเกียร์ S และ shift เกียร์เองครับ กลายเป็นว่ารถที่แรงน้อยสุด ขับสนุกสุดครับ แต่ อีก 2 คัน จริงๆ เล่น paddle ก็ขับสนุกได้นะครับ
แต่ผมว่าเกียร์น้อย เล่น paddle สนุกกว่าเกียร์เยอะๆครับ
ใช่ครับ ผมว่า มันมั่นใจกว่า เวลาแซง วิ่งวิ่งทางไกล บางจังหวะแค่เสี้ยววินาที รถคอก รถบรรทุก รถเยอะ ต้องแซงแบบมั่นใจ
ความสนุกก็ส่วนหนึ่งครับ
อยากลอง Shift เองตอนใช้ Engine เบรค แต่ใช้ไปใช้มาเปิด Adaptive Cruise Control ตามคันหน้ามันใช้ Engine Brake ให้ดีกว่า Shift เองอีก =='
ผมใช้ ACC บนทางด่วนรอบนอก หรือ วิ่งแบบตามคันหน้าไปเรื่อยๆ ครับ
แต่เวลาเจอรถวาง ACC มันจะเบรคค่อนข้างแรง และทิ้งระยะค่อนข้างไกล (ปรับเช้าไกล้คันหน้าไกล้สุดแล้ว) มันเสียจังหวะ แต่จุดประสงค์คือ เรายากเรียบแซงๆ ไป ไม่อยากต่อท้าย
เมื่อก่อนขับc350eที่ใช้บ่อยๆจะดีดแป้นเชนเกียร์ลงเพื่อเอาเอนจิ้นเบรค ใช้เวลาขับขวามาเร็วๆแล้วเจอกองรถติดข้างหน้าบนทางด่วน ขับพื้นราบแทบไม่ได้ยุ่งเลย
หลังๆเปลี่ยนมาขับบีเอ็ม ไปเปลี่ยนเบรคMคาลิเปอร์แดงมา ใช้เบรคเท้าเบรคได้นุ่มมาก วิ่งเร็วระดับ200กดให้ลง80ยังไงก็อยู่และสมูสมาก
ปล.ชุดเบรคMแต่งมีbsiใช้ๆไปเถอะ คุ้ม แล้วเชนเกียร์บ่อยๆต้องเปลี่ยน นมก.ทุกๆ5-7หมื่นโลไม่งั้นเสี่ยงเกียร์พัง
ซึ่งเปลี่ยนผ้าเบรคมันถูกกว่าเปลี่ยนนมก.ศูนย์บีเอ็ม 8)
เปลี่ยนทุก 5 หมื่นโลครับ ศูนย์ไม่เปลี่ยนให้ บอก life-time (น่าจะเกือบ 2 แสนโล) ผมก็เปลี่ยนข้างนอก แต่น้ำมันใช้ของแท้ศูนย์
ปล.เบรค M ฟ้า บางทีผมก็ว่ามันเบรคไม่ค่อยอยู่นะครับ ไม่รู้คิดไปเองหรือป่าว
เคยไปขับรถที่ใช้ Paddle Shift ในโหมด Auto ปกติได้เพื่อใช้เปลี่ยนเกียร์ต่ำแค่ในจังหวะสั้นๆ ตามต้องการแล้วติดใจเลยครับ รู้สึกดีกว่าโหมด Sport อีกเวลาต้องการกำลังหรือ engine brake จากเกียร์ต่ำจริงๆ
ใช่ครับ ผมว่าโหมด S มันก็สนุกและกระฉับกระเฉิงขึ้นมาระดับ แต่โหมด M มันก็ได้ตามสั่งครับ บางทีผมก็ชินกับการตัดสินใจเอง
ใช้ในกรุงเทพฯ ผมก็ใช้ D ตลอดครับ มันสบายดี แต่พอต่างจังหวัด รถเยอะ มันต้องแซงๆ หยุดๆ เบรคๆ หาจังหวะใช้ ACC ยาว ยังไม่มีเลย
กลายเป็นว่า จริงๆ ขับเกียร์ MT อาจจะทันใจกว่าด้วยซ้ำนะ แต่เกียร์ AT มีโหมด S/M ให้ใช้ มันก็ดีอีกแบบครับ
-
Paddle ปกติผมใช้กับทางขึ้นลงเขาครับ
ใช้แค่เกียร์ 1-2 นี่ไปแบบสบายๆเลย แตะเบรคแค่ช่วงที่โค้งหักซอกแบบ u-turn
ในขณะที่คันข้างหน้าผมเป็น City น่าจะไม่มี paddle shift
ต้องเหยียบเบรคแทบจะตลอดทางที่ลงเขา จนได้กลิ่นไหม้จากเบรคเลย (ตอนนั้นผมเปิดกระจกขับ)
ส่วนทางราบปกติ ได้ใช้บ้างนานๆครั้งตอนขับทางไกลแล้วต้องแซงเยอะๆ
บางทีใช้โหมด auto แล้วมันชอบเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงก่อนในบางจังหวะ
-
Paddle shift รถรุ่นใหม่ๆเครื่อง turbo หรือ hybrid นี่ผมแทบไม่ได้ใช้เลยครับยกเว้นไปขับบนแทร็กหรือถนนตามเขาเน้นเอาความสะใจ แต่มีรถ na รอบจัดที่แรงบิดแทบไม่มีอันนั้นได้ใช้งานตลอดครับ
รถ turbo ครับ กำลังรถ กำลังเครื่อง ผมโอเคกับมันนะครับ แต่เวลาจะกระฉับกระเฉง หรือ ความคล่องตัว ผมว่ามันสู้โหมด S/M+ ไม่ได้ เหมือนเกียร์มันสู้ความคิดเรากำหนดเองไม่ได้ครับ
บางทีเราจะแซง ขับตามๆ รถคันหน้า ตอนเราตีออกเลนขวา แล้วกดคันเร่ง รถมันจะมีหยึ๊กๆๆ เปลี่ยนเกียร์ ก่อนค่อยพุ่ง บางที บางจังหวะ
ต้องแซงและต้องแซงให้ขาด ในระยะที่ไม่ได้มาก ผมจะมันมั่นใจกว่าครับ
ถ้า วิ่งอยู่ 5000-6000 แล้วDownshift ขึ้น 7000- Redline ผมว่าอันนั้นอาจเสี่ยง
แต่ถ้าวิ่งๆ อยู๋ 2000-3000 Downshift ขึ้น 4000 ผมว่าน่าจะยังไหวอยู่
เข้าใจว่า จขกท น่าจะแบบ วิ่งมาชิลๆ ปล่อยไหล Downshift ให้มี Engine Brake ช่วยดึง แบบนี้ไม่น่าเป็นอะไรมากครับ
รถหลายๆคันที่เคยขับ มันก็ไม่ยอมให้กดลงเยอะๆ เวลาเราอยากทรมานมันนะ ถ้าใช้รอบสูงๆ มันไม่ยอมลงให้เลย แต่ถ้าเป็นพวก ตัวแรง หรือเปิด Sport+ อะไรแบบนั้น อาจยอมให้เราพังมันได้
ส่วนใหญ่ Paddle ใช้แค่ UpShift ให้รอบเครื่องลดลง เวลาแช่ 120
กับ DownShift เวลาลงสะพานยาวๆ หรือวิ่งคลานๆมาแล้วต้องชิงจังหวะออก
รถสมัยนี้ อัตราเร่งค่อนข้างดี เกียร์ฉลาด แทบไม่ได้ปรับเองเลย
ผมเคยลองแล้วครับ ตอนจะ down shift หรือ up shift ไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่อง อาจจะทำให้รองต่ำ หรือ รอบสูง เกินไป
เกียร์มันไม่ยอมครับ น่าจะเป็นโหมดป้องกันความเสียหายของเกียร์มันอยู่แล้ว
การ up shift หรือเชนเกียร์ขึ้นเกียร์สูง ให้รอบต่ำ อันนี้ละครับ ที่ผมชอบทำ เวลาวิ่งลอยๆ
เพราะถ้าวิ่งเกิน 120km/h จริงๆ มันก็อยู่เกียร์สุดท้ายแล้วอยู่แล้ว แต่เวลาเราวิ่ง 90-100km/h ก็อยากให้ไปอยู่เกียร์สุดท้าย แต่ถ้าโหมด D มันไม่ยอม
เลยต้องการให้เหมือยเวลาเราขับเกียร์ธรรมดา ที่วิ่งลอยๆ ก็ยัดเกียร์ 6 เลย มันจะได้รอบต่ำๆ ประหยัดน้ำมันดีครับ
Paddle ปกติผมใช้กับทางขึ้นลงเขาครับ
ใช้แค่เกียร์ 1-2 นี่ไปแบบสบายๆเลย แตะเบรคแค่ช่วงที่โค้งหักซอกแบบ u-turn
ในขณะที่คันข้างหน้าผมเป็น City น่าจะไม่มี paddle shift
ต้องเหยียบเบรคแทบจะตลอดทางที่ลงเขา จนได้กลิ่นไหม้จากเบรคเลย (ตอนนั้นผมเปิดกระจกขับ)
ส่วนทางราบปกติ ได้ใช้บ้างนานๆครั้งตอนขับทางไกลแล้วต้องแซงเยอะๆ
บางทีใช้โหมด auto แล้วมันชอบเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงก่อนในบางจังหวะ
ลงเขาก็ใช้โหมด M แทบจะตลอดนะครับ ผมขับลงเขาบ่อย (ไปต่างจังหวัด อ.ภูเรือ บ่อยแทบจะเดือนละ 1-2 ครั้ง)
จนมันเป็นเรื่องคุ้นชินแล้วว่า ถ้าขับลงเขา ขึ้นเขา ผมจะใช้โหมด S หรือ M
เคยเป็นไหมครับ เวลาเราวิ่งดันขึ้นเขา โหมด D แล้วพอเรากดๆ ขึ้นเขา รอบมันเริ่มกวาดสูง แล้วมันเปลี่ยนเกียร์ช่วงกำลังขึ้นเขาพอดี เสียจังหวะไปเลย
-
Paddle Shift จะใช้เฉพาะ ทางราบปกติเป็นบางครั้งเท่านั้น แต่ถ้าเป็นทางคดเคี้ยว หรือขึ้นลงเขาจะใช้โยก Manual ที่คันเกียร์ เอาจะสะดวกและปลอดภัยกว่าในการเปลี่ยนเกียร์ระหว่างอยู่ในโค้ง ซึ่งบางสถานการณ์จำเป็นต้องใช้