Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sixmund35 ที่ มกราคม 28, 2023, 11:42:05
-
ผมสนใจออกรถ EV ครับ แต่ตอนนี้เช่าบ้านอยู่ และคงจะไม่ต่อเติมอะไร เลยน่าจะไม่สามารถชาร์จที่บ้านเองได้
แต่ใกล้บ้าน ประมาณ 2 กม. จะมีที่สถานีชาร์จอยู่
เลยอยากทราบว่าถ้าประมาณนี้จะใช้ชีวิตลำบากมากมั้ยครับ
-
ต้องดูข้อมูลของตัวเราเองเพิ่มเติมครับ ว่าปกติใช้รถวันละกี่กิโลเมตร ถ้าแค่ไปกลับที่ทำงานเฉลี่ยวันละไม่เกิน 100 km ใช้ตัวชาร์จฉุกเฉินมาชาร์จทุกวันก็ได้ครับ
ซึ่งตัวชาร์จฉุกเฉินใช้ไฟ 10A ถ้าที่บ้านใช้มิเตอร์ 15/45 ผมว่า OK อยู่นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูว่าในบ้านใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้างนะครับ ถ้าคำนวนแล้ว
ว่ามีไฟพอให้ชาร์จ 10A แน่นอนแล้วก็ขอเจ้าของบ้านเดินไฟจาก Main MCB ในบ้านออกมาติดกล่องชุด RCD type B กับ MCB 16A และตัวเต้าเสียบที่โรงรถได้เลยครับ
-
ถ้าอยู่ใจกลางเมืองไม่ลำบากเลย คนอยู่คอนโดในเมืองมีหลักพันคันแล้ว ในเมืองมีทั้ง AC DC เยอะมากๆๆๆ
ถ้าชานเมือง AC เยอะมากแล้วแต่ต้องมีเวลา เพราะ DC ยังน้อยส่วนใหญ่แต่ละจุดมี combo แค่หัวเดียว คิวเยอะ ชอบปิดซ่อมด้วย
ภายในสิ้นปีนี้จุดชาจน์จะเพิ่มแบบจับต้องได้อีกเยอะมาก คงไม่มีปัญหาสำหรับคนไม่มีหัวชาจน์ที่บ้านแล้ว
ผมนึกถึงร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ที่วันนี้เป็นเรื่องปกติมากๆที่คนขนเสื้อผ้าออกมาซักนอกบ้าน และแน่นอนร้านซักผ้าหยอดเหรียญต้องมีเครื่องชาจน์รถหยอดเหรียญคู่กัน
-
ลำบากไหมหรอ ..
ก่อนเข้าบ้าน ก็แวะชาร์จ ก่อน 1-2 ช.ม. ทุกวัน (ทุกวันที่ใช้รถ)
มองยาวๆกว่านั้น ถ้าหน้าฝน ฝนตกหนัก ตอนที่เรากำลังกลับบ้าน จะยังอยากขับรถไปชาร์จ ที่จุดชาร์จไม่มีหลังคาบังฝนให้เลย
สภาพจะเป็นยังไง
-
อยู่ที่ว่า week นึงใช้รถเยอะแค่ไหน ของเราไม่เกิน300โล/week ชาจweek ละครั้ง ส่วนมากเป็นช่วงศุกร์ เสาร์หลัง 22.00 แถวบ้านมี ของPTT รถไม่ค่อยเยอะ หรือจองเวลาก้ไปทัน แล้วหาซื้อของเข้าบ้านด้วยไปในตัว
-
ถ้าอยู่บ้านเช่าเป็นหลังๆ ที่ไม่ใช่หอพัก สามารถต่อสายพ่วงขนาด 3x2.5mm2 ที่มีกราวด์ เสียบจากปลั้กในบ้าน ออกมาชาร์จรถได้ครับ
ใช้ EVSE adaptor เลือกกระแสไฟ 6A จะชาร์จได้ประมาณ 1.3 kW ต่อชั่วโมง
ถ้าชาร์จวันละ 10 ชั่วโมง (กลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม ออกจากบ้าน 6 โมงเช้า) จะวิ่งได้อย่างน้อยวันละ 50กม. ซึ่งอาจจะครอบคลุมระยะทางไปกลับจาก บ้าน-ที่ทำงาน ได้ครับ
-
อย่าเลยครับ ถ้ายัง Condition นี้ ผมมองว่ายังไม่พร้อมใช้รถ EV ครับ
-
ถ้าอยู่บ้านเช่าเป็นหลังๆ ที่ไม่ใช่หอพัก สามารถต่อสายพ่วงขนาด 3x2.5mm2 ที่มีกราวด์ เสียบจากปลั้กในบ้าน ออกมาชาร์จรถได้ครับ
ใช้ EVSE adaptor เลือกกระแสไฟ 6A จะชาร์จได้ประมาณ 1.3 kW ต่อชั่วโมง
ถ้าชาร์จวันละ 10 ชั่วโมง (กลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม ออกจากบ้าน 6 โมงเช้า) จะวิ่งได้อย่างน้อยวันละ 50กม. ซึ่งอาจจะครอบคลุมระยะทางไปกลับจาก บ้าน-ที่ทำงาน ได้ครับ
ตอนผมรอคิวติดเครื่องชาจน์ที่บ้าน ก็ใช้สายชาจน์ที่แถมมาทุกวันหลังกลับบ้านอยู่ 2-3สัปดาห์ ใช้วันละ 50กม. เต็มที่ไม่เกิน 100กม. มีออกไปชาร์จ DC ที่ปล่อยไฟได้จริง 70-100kWขึ้นไป ใช้เวลา 15นาที-ครึ่งชม. แค่ไม่กี่ครั้งเอง
ปล.ถ้าไม่ชาจน์บ้านเน้น DC ต้องซื้อรถที่รับ 80-100kW ขึ้นไปชีวิตจะง่ายขึ้นมาก ถ้ารับได้แค่ 40-50kW เหมาะกับมีบ้านชาจน์ครับ หรือมีเวลาว่างเยอะหน่อย
-
มือใหม่เพิ่งรับรถ EV มา ที่บ้านยังไม่ได้ติดตั้ง Wall Charge แต่ปั๊ม PTT หน้าหมู่บ้านมีสถานีชาร์จ เราก็ฝากความหวังไว้ที่นั่น เมื่อวานลองออกมาตอน 7โมง เห็นมี Haval กับ MG จอดเสียบสายอยู่ แต่เหมือนจะชาร์จไม่ได้ เจ้าของรถโทรคุยกับ call center แจ้งอาการบลาๆๆ เราก็เลยวนรถไปอีกจุดนึง ไม่ไกลกันมาก
ค่าย SHARGE จอดใต้อาคาร มีรปภ.มาคอยอำนวยความสะดวก เลือกชาร์จแค่ 30นาทีพอ แค่อยากลองฝึกชาร์จหลายๆค่าย ครบกำหนด สแกนเช็คเอาท์ไม่ได้ ลองหลายรอบก็ไม่ได้ โทรหา call center เค้าแจ้งว่าระบบขัดข้อง พอมาดูปริมาณแบตในรถ อ้าวเหลือเท่าเดิมเลย ไฟไม่เข้า เฮ้อ!! ก็เลยไปทำงานดีกว่า ช่วงเที่ยงกว่าๆเปิดเข้าแอพ ตัวเลขเวลายังรันอยู่ ขึ้นว่าชาร์จไปแล้ว 4ชั่วโมง 20กว่านาที ลองกดล็อคเอาท์แอพแล้วล็อคอินเข้าใหม่ เวลาก็ยังอยู่ โทรหา call center อีกครั้ง กลัวจะโดนค่าปรับชม.100 บาท หลังครบเวลา เจ้าหน้าที่เลยทำการปิดระบบให้ เค้าแจ้งว่าอาจจะเกิดจากสัญญาณอินเตอร์เน็ตของจุดที่เราชาร์จไม่เสถียร
วันนี้ลองตั้งหลักใหม่ กดจอง DC ช่วง 06.00 ในแอพ EV Staion Pluz ผ่านไป 15 นาทียังชาร์จไม่ได้ ไฟที่ตู้ตรงหัว DC ขึ้นสีแดง ตอนสแกนจับคู่ในแอพ ก็เหมือนว่าลิงค์กันเรียบร้อย มีเครื่องหมาย ✅ เด้งมาอีกหน้านึง ขึ้นว่ากำลังจ่ายไฟ มีวงกลมหมุนวน ด้านในเขียนว่า N/A โทรคุยกับ call center เค้าลองรีเซ็ตระบบ ก็ชาร์จไม่ได้ ให้เราลองรีเซ็ตเองที่ตู้ กดปุ่มแดงหมุนขวาจนปุ่มเด้งกลับก็ยังชาร์จไม่ได้ สรุปคือระบบจ่ายไฟของตู้มีปัญหา ตอนนี้ ติดต่อนายสถานีมาสับคัทเอาท์ไม่ได้ด้วย เอิ่ม!! เสียเวลาเปล่าไป 40 นาที ในแอพมีคนจองต่อจากเรารอบ 07.00 กับ 08.00 ด้วยสิ
แล้วเราจะฝากความหวังไว้ที่สถานีชาร์จจุดไหนได้บ้าง ยังดีนะที่แบตรถเราเหลืออยู่เกินครึ่ง ว่าจะฝึกชาร์จให้คล่องๆ แล้วลองไปเที่ยวทะเลสักหน่อย แอบกังวลเลยเรา ตอนยังไม่ใช้รถ EV ก็เห็นมีคนมาชาร์จที่ปั๊มตลอด พอเราลองใช้บ้างก็เจอแจ็คพอตเลยน๊า (ขออภัยที่เขียนยาวนะคะ แวะมาเล่าประสบการณ์ที่เจอให้เพื่อนๆได้รับฟังค่ะ)
จาก Facebook ของผู้มี EVคันหนึ่งครับ
-
ไฮบริดตอบโจทย์กว่าครับ
-
อยู่ที่ว่า ใช้รถเยอะไหม ถ้าวันละ สัปดาห์ละ 100 ผมว่าพอไหมอยู่ สองวีคหาที่ชาร์จที ทั้งนี้อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ ตารางชีวิตของแต่ละคนอีก
ถ้ามีที่จอดรถในบ้านอยู่แล้ว ผมว่าขอติด wallcharge ค่าเดินสาย เก็บสีเก็บงานฝ้าน่าจะคุ้มกว่า หรือแย่สุดที่ชาร์จแบบเสียบปลั๊กเอา
แต่ถ้าไม่มีที่จอดในรั้วบ้าน ผมคงไม่เอา ev
-
ลำบากครับ สำหรับผมนะ
แค่คิดว่าต้องสละเวลาทุกอาทิตย์อาทิตย์ละ1ชม.เพื่อไปชาร์จรถที่ปั๊ม(หรือห้าง) ก็เซงแย่แล้ว
ไม่นับว่าชาร์จตามปั๊มค่าน้ำมันที่ประหยัดได้อาจจะพอๆกับใช้อีโคคาร์อีกนะ
แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบไปทำงาน อ่านหนังสือที่ร้านกาแฟอะไรงี้คงเฉยๆ
-
ถามว่าไม่มีที่ชาร์จที่บ้านใช้ได้ไหม
ตอบว่าได้ แต่ไม่สะดวกและไม่ประหยัดเท่ามีบ้านนะครับ
ยังไม่รวมไปต่างจังหวัด อันนี้รถน้ำมันก็ยังสะดวกกว่าพอสมควร
ลองดูข้อมูลตามนี้
ชาร์จ DC ของ PTT PEA
On peak ส่วนใหญ่ 7.5 บาท อัตราสิ้นเปลือง 1.25 บาท/กิโล
Off peak ส่วนใหญ่ 4.5 บาท อัตราสิ้นเปลือง 0.75 บาท/กิโล
ชาร์จบ้าน Meter TOU ของ Mea
On peak หน่วยละ 5.2674 บาท อัตราสิ้นเปลือง 0.8779 บาท/กิโล
Off peak หน่วยละ 2.1827 บาท อัตราสิ้นเปลือง 0.3637 บาท/กิโล
อัตราสิ้นเปลืองคำนวณจากการใช้ในเมือง 6 km/kWh
รถไฮบริดส่วนใหญ่จะได้ประมาณ 20 โล/ลิตร
น้ำมัน E20 35 บาท อัตราสิ้นเปลืองเท่ากับ 1.75 บาท/กิโล
เรื่องความถี่ในการชาร์จ
1.ชาร์จข้างนอกอย่างเดียว
สมมุติว่าใช้ Ora Good cat 500 ultra ระยะทางที่ใช้ได้ประมาณ 302.4 กิโล ((ความจุแบต 63.3 kw * 0.8 ) * 6 km/kWh ) ชาร์จถึง 80%
ถ้าขับวันละ 50 กิโลเมตร เท่ากับ ขับได้ 5-6 วัน ชาร์จ 1 ครั้ง
ชาร์จถึงประมาณ 80% ใช้เวลา 40 - 50 นาที ยังไม่รวมรอคิว(ถ้าเจอ)
2.ใช้ที่ชาร์จฉุกเฉิน
ชาร์จฉุกเฉินจะชาร์จได้ชม.ละ 2 Kw
ถ้ามีเวลาชาร์จวันละ 10 ชม เท่ากับได้วันละ 20 KW
20kw จะขับได้ประมาณ 120 km ต่อวัน
แต่รถบางคันไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้เพราะอาจจะทำให้แบต 12V หมดได้เจอมากับตัว
สรุป ข้อมูลเป็นแบบนี้ก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าโอเคที่จะซื้อรถไฟฟ้าไหม
-
ผมอยู่คอนโด ไม่มีที่ชาร์จ wfh เป็นหลัก ขับรถระยะทางรวมๆ สัปดาห์ละ 50-80 กิโล
ที่ออฟฟิส มีจุดชาร์จ AC 22kw ไม่เคยเห็นมีคนมาใช้ ก็เลยสบายครับ เข้าออฟฟิสทีนีงก็ชาร์จไว้ตั้งแต่สายๆ ตอนเที่ยงออกไปทานข้าวก็เอารถออกไปเลยแล้วก็วนกลับขึ้นไปจอดบนตึก
ผมว่า มันอยู่ที่ระยะทางที่จะใช้ต่อวันและจุดชาร์จรอบๆ ที่ทำงานและที่บ้านครับ
ความจุแบตของรถอย่างมากก็ 75kwh ชาร์จ AC ประมาณ 3-4 ชม ก็ได้ประมาณ 50% แล้วนะครับ น่าจะพอใช้งานในเมืองภายใน 1 สัปดาห์สำหรับคนทั่วไปได้สบายๆ เลย
-
ผมคิดเป็นข้อๆดังนี้ครับ
1. ระยะวิ่งต่อสัปดาห์ น่าจะต้องไม่เกินครึ่งหนึ่งของระยะทางที่วิ่งได้เมื่อชารจ์เต็ม (จากการใช้จริง ไม่ใช่หน้าสเปค)
2. สถานที่ชาร์จแถวที่พัก ต้องมีมากเพียงพอต่อการใช้งาน เผื่ออนาคตที่กระแสรถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นด้วย อย่างน้อยก็ควรไปสำรวจความหนาแน่น ในช่วงเวลาที่เราคิดจะใช้บริการเป็นประจำ
3. มีเหตุให้ต้องใช้รถขับไปที่ไกลๆแบบไม่ได้วางแผน บ่อยไหม ถ้าไม่บ่อยก็พอได้ครับ
ของผมหลักๆมีแค่นี้ครับ ถ้าผ่าน 3 ข้อนี้ส่วนตัวผมคงซื้อได้
-
ถ้าวิ่งวันละสัก 70-80โล
ใช้ชาร์จฉุกเฉินก็ได้ครับ
ชม ละ 2kwh
10ชม ก็ได้ 20kwh
เหลือเฟือ
-
ชาร์จบ้านใช้ Portable Charger ได้ครับ บ้านผมทาวน์เฮ้าส์ จอดหน้าบ้านผมต่อปลั๊กพ่วง แล้วชาร์จที่ 8A ปลั๊กพ่วงผมทำเอง ใช้สาย 2.5 sq.mm ทำสายมาพอดีๆ ไม่ม้วนสาย
-
เหมือน ซื้อมือถือแต่ ที่บ้านยังไฟไม่เข้าอ่ะครับ
-
8) 8) 8).......ไม่ลำบากครับ ซื้อไปเถอะ เจ้าของ EV เยอะแยะที่ใช้บริการจากสถานีช๊าร์จ ขอเพียงอย่าวิ่งจนประจุไฟต่ำกว่า 15 % เท่านั้นแหละ นึกเสียว่าคุณขับใข้งานตามต่างจังหวัดอยู่ อย่างไรก็ต้องพึ่งสถานีชาร์จ :-X
-
ส่วนใหญ่มีอแดปเตอร์เสียบชาทไฟบ้าน 220 ได้ไม่ใช่เหรอครับ ?
ถ้าเป็นผมจะทำปลัํ๊กดีๆ เดินสายไว้สำหรับชาทที่บ้าน ชาทช้าหน่อยแต่สะดวกกว่าครับ
ไปชาทที่ปั๊มไกล้ๆ ถ้าแท่นว่างก็รอดไป ถ้ามีคิว ก็วัดดวง ผมไม่ชอบวัดดวง ขอชัวร์ไว้ก่อน
-
บ้านเป็นตึกแถว จอดหน้าบ้านไม่มีหลังคา ก็ยังไม่กล้าซื้อ EV เหมือนกันครับ รู้สึกลำบาก อย่างมากก็คง Hybrid
-
โจทย์นี้ดูเข้ากับตัวผมน่ะ ถ้าเป็นผม
เช้าผมแวะกินข้าวที่ ปตท. แถวบ้าน ซึ่งมี EV Charger กินข้าวกินกาแฟ 30นาที น่าจะได้ 50-70%
ที่ออฟฟิศก็มีที่ชาร์จ แต่ดันอยู่กลางแจ้ง วันไหนจำเป็นๆ ตอนพักเที่ยงลงไปชาร์จ กินข้าวเสร็จก็วนรถกลับไปจอด น่าจะได้ 100%
แถมเสาร์-อาทิตย์ ต้องพาหมาไปอาบน้ำตัดขน ที่ห้างตรงนั้นหน้าร้านอาบน้ำหมาเลย มี EA ตู้นึง
-
ผมมองว่าถ้าระหว่างบ้านกับที่ทำงาน หรือจุดที่คุณต้องเดินทางประจำ มีจุดให้ชาร์จไฟ รวมถึงมีเวลาว่างพอที่จะนั่งรอได้ ก็ซื้อได้ครับ
มันก็เหมือนรถน้ำมันแหละ เราก็ไม่ได้มีปั๊มน้ำมันที่บ้านกัน เพียงแต่ว่ารถไฟฟ้าคุณต้องให้เวลากับการเติมพลังงานมากกว่าหน่อย
แต่ส่วนตัว ถ้าเป็นผมนะ ผมจะซื้อรถไฟฟฟ้า เมื่อมีจุดชาร์จที่บ้านครับ เพราะผมไม่ชอบรออะไรนานๆ
-
ไฮบริด จะสะดวกกว่า
ถ้าอยากจะซื้อจริงๆ คงต้องปรับตัวพอสมควร โดยเฉพาะการหาที่ชาร์ตไฟข้างนอก เพราะที่บ้าน หรือที่ทำงาน ไม่มี