Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Oldcaroldguys ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2023, 13:29:54
-
อยากให้"มาตรฐาน"หรือ"กฏหมาย"อะไรก็ตามแต่ให้รถทุกคันที่มีเด็กรุ่นต่ำกว่า12ปีมีcar seatแบบที่usครับ จากเหตุการณ์ที่เป็นข่าวถ้าผู้ปกครองไม่มีcar seat ให้ลูกนั่งอาจจะมีการเสียชีวิตของเด็กเพิ่มขึนอีกครับ
-
กฎหมายมีแล้วนี่ครับ (แม้ว่าพาดหัวจะบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่โดยนัยยะก็คือใช่แหละครับ)
https://www.thansettakij.com/general-news/524909
-
ไม่ต้อง Car Seat หรอกครับ
ทุกวันนี้ คนขับรถแท้ๆ ยังไม่คาดเข็มขัดเลย
บางคนก็เอาที่เสียบ เสียบหลอกบ้างละ
แต่รถบางคันไม่ยอม นั่งเบาะ แล้วเสียบหลอก มันยังร้อง เพราะมีน้ำหนักกดทับ เลยต้องทำใจคาด(สำหรับบางคนที่ไม่ชอบคาด)
รถผมก็เป็น ร้องเตือนทั้งฝั่งคนขับ ทั้งคนนั่ง เสียบหลอกไม่ได้
แต่ผมให้คาดทุกคน ทั้งคัน เป็นสิ่งแรกที่ขึ้นรถ และ ทำเสมอมาถึงทุกวันนี้
Car Seat ผมก็ติดให้ลูกนั่ง ด้วยเช่นกัน มันเหมือนห่วงตัวเองก่อน คนในครอบครัว ก่อนที่จะให้กฏหมายมาบังคับจะดีกว่า (กฏหมายมีอยู่นะ แค่เขาไม่ได้เข็มงวด)
-
กฎหมายมีแล้วนี่ครับ (แม้ว่าพาดหัวจะบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่โดยนัยยะก็คือใช่แหละครับ)
https://www.thansettakij.com/general-news/524909
เราจะทำยังไงได้บ้างครับเพื่อลดเหตุสลดแบบนี้
-
ไม่ต้องคิดแทนพวกเขาหรอกครับ
ผมเคยไปเถียงคนพวกนี้ในเฟสแล้ว ดูไร้ประโยชน์มากๆครับ
เหมือนห้ามนั่งหลังกระบะและห้ามนั่งแค็ปนี่แหละครับ
สุดท้ายและท้ายสุด พวกเขาจะใช้ไพ่ไม้ตายสุดท้ายคือ
พวกเขาจน ออกกฏหมายมารังแกพวกเขา
ผมว่านะ ในเมื่อออกกฏมาบังคับพวกเขาไม่ได้
กฏหมายควรออกกฏคุ้มครองคนทำถูกให้มีกำลังใจจะใช้ชีวิตและไม่เดือดร้อนจากความมักง่ายของพวกเขาดีกว่า
เช่น กรณีเฉี่ยวชนคนขี่ที่ไม่สวมหมวกกันน๊อค แล้วเสียชีวิต หรือ เฉี่ยวชนตามปกติแล้วคนนั่งหลังกระบะ/แค็ป ตกออกมานอกรถเสียชีวิต ผู้เฉี่ยวไม่ถือว่าประมาท และเป็นความประมาทของฝ่ายตรงข้ามแทน
เหมือนกฏหมายที่สิงคโปร์ ข้ามถนนผิดที่ ก็ใช่ว่าฝ่ายชนจะผิดเสมอไป สุดท้าย คนข้ามจะไม่กล้าข้ามผิดที่เอง
แต่เมืองไทยไม่ใช่ คนชนมักเดือดร้อนก่อนเลย คนข้ามมั่วก็ไม่กลัว
-
กฏหมายออกมาแล้ว
ภาษีนำเข้าก็ยกเว้นให้แล้ว
คงไม่ต้องเรียกร้องอะไรแล้วหล่ะครับ
เหลือแค่ไปหาซื้อมาใส่เท่านั้นเองครับ
ร้านขายมีเยอะแยะ ไม่ได้ขาดตลาดเหมือนหน้ากากอนามัยตอนโควิดเริ่มระบาด
-
ไม่ต้องคิดแทนพวกเขาหรอกครับ
ผมเคยไปเถียงคนพวกนี้ในเฟสแล้ว ดูไร้ประโยชน์มากๆครับ
เหมือนห้ามนั่งหลังกระบะและห้ามนั่งแค็ปนี่แหละครับ
สุดท้ายและท้ายสุด พวกเขาจะใช้ไพ่ไม้ตายสุดท้ายคือ
พวกเขาจน ออกกฏหมายมารังแกพวกเขา
ผมว่านะ ในเมื่อออกกฏมาบังคับพวกเขาไม่ได้
กฏหมายควรออกกฏคุ้มครองคนทำถูกให้มีกำลังใจจะใช้ชีวิตและไม่เดือดร้อนจากความมักง่ายของพวกเขาดีกว่า
เช่น กรณีเฉี่ยวชนคนขี่ที่ไม่สวมหมวกกันน๊อค แล้วเสียชีวิต หรือ เฉี่ยวชนตามปกติแล้วคนนั่งหลังกระบะ/แค็ป ตกออกมานอกรถเสียชีวิต ผู้เฉี่ยวไม่ถือว่าประมาท และเป็นความประมาทของฝ่ายตรงข้ามแทน
เหมือนกฏหมายที่สิงคโปร์ ข้ามถนนผิดที่ ก็ใช่ว่าฝ่ายชนจะผิดเสมอไป สุดท้าย คนข้ามจะไม่กล้าข้ามผิดที่เอง
แต่เมืองไทยไม่ใช่ คนชนมักเดือดร้อนก่อนเลย คนข้ามมั่วก็ไม่กลัว
ถูกต้องที่สุดครับ ผมก็คิดแบบนี้.
-
กฏหมายมีตามที่ด้านบนว่าครับ และก็เห็นด้วยกับคุณ kiwiwi ว่าเลย
หลายครอบครัวให้ความสำคัญความปลอดภัยไม่เท่ากัน บางบ้านก็ยินดีจ่ายแบบพรีเมียมให้ลูกนั่ง บางบ้านก็อุ้มเอาก็มีมากมาย
ส่วนคนไม่มีรถ พาลูกไปโรงพยาบาล ผัวขี่เมียอุ้ม ขี่มอไซด์ตากแดดผมเห็นเยอะมาก แต่ก็นั้นแหละครับ มันคือชีวิต
ดังนั้น เราดูแลในส่วนของเราให้ดีที่สุด ถึงไม่มีกฏหมายบังคับ แต่ถ้าเห็นความสำคัญมันก็เซฟตัวเราเองนั่นแหละครับ
-
เจอพับเบาะแล้วเอาที่นอนเป่าลมมาวางให้ลูกนอนเล่น รถชนทีนึงนี่ลูกไม่พุ่งเป็นจรวดเลยหรอครับ
สำหรับผมน่ะ แย่สุดๆคืออย่างน้อยเอาเข็มขัดนิรภัยรัดพาดหน้าตักน้องไว้หน่อย(แบบบนเครื่องบิน)ส่วนสายพาดหน้าอกมันจะรัดคอน้องก็ยอมเอาอ้อมหลังไป
-
เรื่อง safety สำหรับคนทั่วไป คงไม่มีใครคิดถึงแรงกระชาก แรงเหวี่ยงกันหรอกครับ
คิดว่าเป็นเรื่องขาดประสบการณ์เป็นหลัก
ถ้ามีเครื่องแบบนี้ ให้ความรู้คนทั่วไปก็คงดี เริ่มจากให้เรียนรู้ สัมผัสกันตั้งแต่เด็กเลย
https://www.youtube.com/watch?v=Fh9y3Ubn2H8
-
กฎหมายมีแล้วนี่ครับ (แม้ว่าพาดหัวจะบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่โดยนัยยะก็คือใช่แหละครับ)
https://www.thansettakij.com/general-news/524909
เราจะทำยังไงได้บ้างครับเพื่อลดเหตุสลดแบบนี้
ตามความเห็นคุณ kiwiwi เลยครับ ชีวิตใคร ดูแลกันเอง ... ที่น่าแก้จริงๆจะเป็นอย่างที่คุณ kiwiwi ว่ามาเช่นกัน คือ เอ็งทำไม่ถูกแล้วมาทำเราซวยแบบช่วยไม่ได้นี่มันสมควรแก้จริงๆนะครับ ประเภทเบียดกันเล็กน้อยแค่ล้มแปะแต่ดันไม่ใส่หมวกกันน๊อคแล้วเกิดตายขึ้นมานี่มันไม่ควรเป็นความผิดเราเลยจริงๆ
-
ไม่ต้องคิดแทนพวกเขาหรอกครับ
ผมเคยไปเถียงคนพวกนี้ในเฟสแล้ว ดูไร้ประโยชน์มากๆครับ
เหมือนห้ามนั่งหลังกระบะและห้ามนั่งแค็ปนี่แหละครับ
สุดท้ายและท้ายสุด พวกเขาจะใช้ไพ่ไม้ตายสุดท้ายคือ
พวกเขาจน ออกกฏหมายมารังแกพวกเขา
ผมว่านะ ในเมื่อออกกฏมาบังคับพวกเขาไม่ได้
กฏหมายควรออกกฏคุ้มครองคนทำถูกให้มีกำลังใจจะใช้ชีวิตและไม่เดือดร้อนจากความมักง่ายของพวกเขาดีกว่า
เช่น กรณีเฉี่ยวชนคนขี่ที่ไม่สวมหมวกกันน๊อค แล้วเสียชีวิต หรือ เฉี่ยวชนตามปกติแล้วคนนั่งหลังกระบะ/แค็ป ตกออกมานอกรถเสียชีวิต ผู้เฉี่ยวไม่ถือว่าประมาท และเป็นความประมาทของฝ่ายตรงข้ามแทน
เหมือนกฏหมายที่สิงคโปร์ ข้ามถนนผิดที่ ก็ใช่ว่าฝ่ายชนจะผิดเสมอไป สุดท้าย คนข้ามจะไม่กล้าข้ามผิดที่เอง
แต่เมืองไทยไม่ใช่ คนชนมักเดือดร้อนก่อนเลย คนข้ามมั่วก็ไม่กลัว
+1 ครับ
-
ประเทศเรากฏหมายมี ผู้บังคับกฏหมายใช้
แต่ผู้ปฏิบัติไม่ทำครับ
กฏหมายมีเพื่อความปลอดภัยก็ชอบแหก อ้างทุกอย่างบลาๆๆๆ
-
ไม่ต้องคิดแทนพวกเขาหรอกครับ
ผมเคยไปเถียงคนพวกนี้ในเฟสแล้ว ดูไร้ประโยชน์มากๆครับ
เหมือนห้ามนั่งหลังกระบะและห้ามนั่งแค็ปนี่แหละครับ
สุดท้ายและท้ายสุด พวกเขาจะใช้ไพ่ไม้ตายสุดท้ายคือ
พวกเขาจน ออกกฏหมายมารังแกพวกเขา
ผมว่านะ ในเมื่อออกกฏมาบังคับพวกเขาไม่ได้
กฏหมายควรออกกฏคุ้มครองคนทำถูกให้มีกำลังใจจะใช้ชีวิตและไม่เดือดร้อนจากความมักง่ายของพวกเขาดีกว่า
เช่น กรณีเฉี่ยวชนคนขี่ที่ไม่สวมหมวกกันน๊อค แล้วเสียชีวิต หรือ เฉี่ยวชนตามปกติแล้วคนนั่งหลังกระบะ/แค็ป ตกออกมานอกรถเสียชีวิต ผู้เฉี่ยวไม่ถือว่าประมาท และเป็นความประมาทของฝ่ายตรงข้ามแทน
เหมือนกฏหมายที่สิงคโปร์ ข้ามถนนผิดที่ ก็ใช่ว่าฝ่ายชนจะผิดเสมอไป สุดท้าย คนข้ามจะไม่กล้าข้ามผิดที่เอง
แต่เมืองไทยไม่ใช่ คนชนมักเดือดร้อนก่อนเลย คนข้ามมั่วก็ไม่กลัว
ผมเกลียดประโยคนี้มากครับ อะไรๆก็อ้างรังแกคนจน รังแกคนจะทำหากินตลอด
กฎหมายมีแล้วนี่ครับ (แม้ว่าพาดหัวจะบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่โดยนัยยะก็คือใช่แหละครับ)
https://www.thansettakij.com/general-news/524909
เราจะทำยังไงได้บ้างครับเพื่อลดเหตุสลดแบบนี้
ถ้าเขาไม่ทำตามก็คงต้องให้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเองครับ
บางคนไม่เจ็บไม่จำ
-
กฎหมายออกตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และครบ 90 วันไปเมื่อ 5 ก.ย. 65 ครบ 120 วันไปเมื่อ 5 ธ.ค. 65 แต่ก็ยังไม่มีการบังคับใช้ เพราะกฎหมายนี้จะกล่าวว่าให้ทุกที่นั่งต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามนั่งท้ายกระบะ
ผมก็เป็นพ่อค้าคาร์ซีท มันขายดีอยู่ช่วงเดียวคือ พ.ค. 65 ครับ หลังจากนั้นก็เงียบ
-
ขนาดหลอดไฟท้ายมอเตอร์ไซค์
ราคาไม่เกิน 25 บาท แลกกับชีวิตตัวเอง
ยังไม่สนใจ
เรื่องอื่น อย่าได้หวังครับ
-
หลายคนไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพราะกลัวเสื้อยับ
หลายคนไม่ใส่หมวกกันน๊อก เพราะกลัวผมเสียทรง
หลายคนไม่ใส่คาร์ซีท เพราะเด็กไม่ชอบ งอแง
แต่พอเกิดอุบัติเหตุแล้วตุยขึ้นมา โทษฟ้าโทษฝน โทษรถ โทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โทษดวงชะตา บลาๆๆๆ
-
มีกฎหมายบังคับก็ยังไม่ค่อยใช้
ผมเสนอให้บริษัทที่ขาย car seat ออกแคมเปญให้คนที่ถูกตำรวจออกใบสั่งไม่มี car seat เอาใบสั่งมาแลกส่วนลดมูลค่าเท่ากับค่าปรับตำรวจไปเลย
-
ขนาดหลอดไฟท้ายมอเตอร์ไซค์
ราคาไม่เกิน 25 บาท แลกกับชีวิตตัวเอง
ยังไม่สนใจ
เรื่องอื่น อย่าได้หวังครับ
หลอดไฟมอเตอร์ไซค์นี่ ผมเข้าใจว่าส่วนนึงไม่สนใจจะซ่อม กับส่วนนึงไม่รู้ตัวว่าขาด
ถ้ารถมอเตอร์ไซค์มีไฟเตือนเวลาไฟเบรคกับไฟหน้าขาดแบบรถยนต์นี่จะดีมาก พลบค่ำนี่น่ากลัวสุดๆ
-
ไม่ต้องคิดแทนพวกเขาหรอกครับ
ผมเคยไปเถียงคนพวกนี้ในเฟสแล้ว ดูไร้ประโยชน์มากๆครับ
เหมือนห้ามนั่งหลังกระบะและห้ามนั่งแค็ปนี่แหละครับ
สุดท้ายและท้ายสุด พวกเขาจะใช้ไพ่ไม้ตายสุดท้ายคือ
พวกเขาจน ออกกฏหมายมารังแกพวกเขา
ผมว่านะ ในเมื่อออกกฏมาบังคับพวกเขาไม่ได้
กฏหมายควรออกกฏคุ้มครองคนทำถูกให้มีกำลังใจจะใช้ชีวิตและไม่เดือดร้อนจากความมักง่ายของพวกเขาดีกว่า
เช่น กรณีเฉี่ยวชนคนขี่ที่ไม่สวมหมวกกันน๊อค แล้วเสียชีวิต หรือ เฉี่ยวชนตามปกติแล้วคนนั่งหลังกระบะ/แค็ป ตกออกมานอกรถเสียชีวิต ผู้เฉี่ยวไม่ถือว่าประมาท และเป็นความประมาทของฝ่ายตรงข้ามแทน
เหมือนกฏหมายที่สิงคโปร์ ข้ามถนนผิดที่ ก็ใช่ว่าฝ่ายชนจะผิดเสมอไป สุดท้าย คนข้ามจะไม่กล้าข้ามผิดที่เอง
แต่เมืองไทยไม่ใช่ คนชนมักเดือดร้อนก่อนเลย คนข้ามมั่วก็ไม่กลัว
ใช่ครับ ทำอะไรไม่ได้ แต่พอมีปัญหามันมาเดือดร้อนเราหน่ะสิครับ
ต้องเริ่มที่ระบบการศึกษาดี ปลูกจิตสำนึก... ยากจังเลยครับ ย้ายประเทศเถอะ
ตั้งแต่ผมย้ายมาทำงาน based uk แล้วสุขภาพจิตดีขึ้นเยอะมากๆครับ สังคมไม่ได้สวยหรู คนกักขละเยอะไม่ต่างจากไทย แต่การจัดการเค้าดีกว่าไทยหลายขุม
-
ที่น่าเบื่ออีกอย่างคือ มาขอเงินเยียวยา ทั้งๆที่ตัวเองไม่ทำตามกฏหมาย จริงๆ การทำตามกกหมาย ก็เพื่อความปลอดภัยและผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น
-
ไม่เฉพาะแต่ Carseat เท่านั้นครับ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่ชอบรัดเข็มขัด โดยให้เหตุผลกลับมาว่าใส่แล้วอึดอัด, ร้อน