Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NoName__??? ที่ พฤศจิกายน 13, 2010, 12:46:57
-
1. ทำไมรถยุโรปถึงเงียบ นุ่มกว่ารถญี่ปุ่น เพราะว่าน้ำหนักรถรึเปล่า หรือ การเซตระบบช่วงล่างมา สังเกตุดูรถยุโรปมักจะทำเป็นขับเคลื่อนล้อหลังเกี่ยวข้องกันมั้ยคะ
2. อย่าง Teana Camry ใหม่ๆยัง เงียบ นุ่ม แต่ถ้า 6-7 ปีขึ้นไป รถจะเริ่มรู้สึกหลวมไม่เก็บเสียงไม่นุ่ม เหมือนเดิมหรือไม่คะ
3. ปกติใช้ Honda อยู่ (new Accord) ทำไมรู้สึกว่าเสียงถนน เสียงล้อมันเข้ามาเยอะกว่ารถญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นๆใน segmentเดียวกัน แถมไปนั่ง New altis ยังเงียบกว่า
4. อย่างCLK 240 ปี 04 เทียบกับ New teana ตัวไหนจะเงียบ นุ่ม เก็บเสียงได้ดีกว่ากันคะ
-
ไม่ค่อยแน่ใจ นะคะ เคยเห็นรถ ที่บ้านตอนไปซ่อมรางกระจกหรืออะไรไม่มั่นใจ ตอนที่เค้าแกะมันมี"ที่ซับเสียง"ด้วยนะค่ะ แล้วกระจก 2 ชั้น กันทั้งเสียง และความร้อนด้วย รอท่านอื่นมาตอบอีกนะคะ(ที่บ้านเราใช้รถยุโรปตลอดค่ะมั่นใจสมรรถนะ กับเทคโนโลยีค่ะ เ่กาสุดที่บ้าน ปี 97 ยังดูดีอยู่เลย ตัวใหม่สุดก็ไม่ต้องพูดถึงแทบกอดแทนลูกกันเชียว) เรื่องอื่นๆรอท่านตอไปค่ะ
-
1. นน น่าจะมีส่วนครับ แต่ผมว่าเป็นเพราะระบบช่วงล่างมากกว่า พวกจุดยึด จุด Joint และจำนวนชิ้นช่วงล่าง รถญี่ปุ่นจะน้อยกว่า
2. เป็นเรื่องแปลกที่รถญี่ปุ่นใช้ได้ 7 ปีแล้ว รู้สึกหลวมกว่ารถยุโปรที่ใช้ไป 10 ปีแล้วซะอีก ทั้งๆที่ซ่อมถึงเหมือนๆกัน
3. ผมว่ารถญี่ปุ่นสมัยใหม่มันนิ่มนะ แต่ทำไมมันไม่เกาะก็ไม่รู้ ลอยๆแปลกๆ
4. Benz ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลอยู่แล้วครับ ขนาดใส่ ล้อ 19 ยังนิ่มไม่สะเทือนมากเท่าไหร่
ที่ผมเห้นมาคือ รถญี่ปุ่นในไทย option และระบบต่างๆ ใกล้เคียงกับรถยุโรปเมื่อ 7-10 ปีที่แล้วมาก บางทีอาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ
เหตุผลนึง ผมว่าน่าจะดูที่ราคาขายตอนมือหนึ่งนะครับ รถยุโรปมันราคาแพงกว่าเยอะ ก็ต้องได้อะไรที่มันดีกว่ามั้งครับ
-
คุณภาพวัสดุของชิ้นส่วนต่างๆครับ
ซึ่งก็เป็นที่มาของราคาแพง
-
ยุโรปไม่ทั้งหมดครับ น่าจะแบ่งเป็นพรี่เมี่ยมแบรนด์กับธรรมดามากกว่า ราคนต้นทุนแพงกว่าก็คงได้อะไรที่ดีกว่ามาบ้างล่ะครับ
-
1. น้ำหนักนิดหน่อยนะครับ จริงๆก็ไม่ได้หนีกันเลย เพียงแต่ยุโรปเค้าใช้วัสดุลดน้ำหนักมากกว่า จริงๆแล้วไม่หนีกัน อีกส่วนผมว่ากระจกมันก็ต่างกันนะครับยุโรปน่าจะเก็บตรงนี้ได้ดี
2. มีบ้างครับ ถ้าใส่ใจกันตรงนี้อาจจะต้องมีการเปลี่ยนยางขอบประตูกันบ้างแล้ว ถึงจะดีใกล้เดิม
3-4. no comment
-
1. ทำไมรถยุโรปถึงเงียบ นุ่มกว่ารถญี่ปุ่น เพราะว่าน้ำหนักรถรึเปล่า หรือ การเซตระบบช่วงล่างมา สังเกตุดูรถยุโรปมักจะทำเป็นขับเคลื่อนล้อหลังเกี่ยวข้องกันมั้ยคะ
2. อย่าง Teana Camry ใหม่ๆยัง เงียบ นุ่ม แต่ถ้า 6-7 ปีขึ้นไป รถจะเริ่มรู้สึกหลวมไม่เก็บเสียงไม่นุ่ม เหมือนเดิมหรือไม่คะ
3. ปกติใช้ Honda อยู่ (new Accord) ทำไมรู้สึกว่าเสียงถนน เสียงล้อมันเข้ามาเยอะกว่ารถญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นๆใน segmentเดียวกัน แถมไปนั่ง New altis ยังเงียบกว่า
4. อย่างCLK 240 ปี 04 เทียบกับ New teana ตัวไหนจะเงียบ นุ่ม เก็บเสียงได้ดีกว่ากันคะ
ผมใช้ New Altis อยู่ และได้นั่ง Accord ใหม่รุ่น 2.0 ของพี่ที่รู้จักอยู่บ่อยๆ ก็รู้สึกครับว่าเสียงมันจะตึงตังกว่าถ้าเทียบกับรถผมเอง เท่าที่ทราบมาจากตอนหาข้อมูลก่อนซื้อ Altis ตัวนี้ รุ่นนี้เค้ามีการเน้นพัฒนาที่เรื่องการเก็บเสียงมากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกจะหุ้มจะบุวัสดุซับเสียงเพิ่มเติมในหลายๆจุดมาให้ครับ เสียงจะค่อนข้างเงียบในระดับที่น่าพอใจ ทำให้เครื่องเสียงดูไพเราะขึ้นนิดๆ
ในระดับเดียวกันกับแอคคอร์ด คู่แข่งคันอื่นๆผมลองนั่งเทียน่ามาแล้วชอบสุดครับ เงียบ และสบาย ใกล้เคียงรถยุโรปมาก ช่วงล่างดีขึ้นผิดหูผิดตา (ที่บ้านมีเทียน่า 2003 อยู่คันนึง เทียบแล้วคนละเรื่องเลย)
ความจริงผมว่าเรื่องรถยุโรปดีกว่ารถญี่ปุ่นนี่พูดไปแล้วก็เหมือนกับความเชื่อคนเราอะครับ
ถ้าถามว่า Lexus กับ Benz BMW พวกนี้ไม่ได้ทิ้งห่างกันมากมายเลยครับ แถม Lexus ยังดูจะมีเทคโนโลยีล้ำสมัยใส่มาให้มากกว่าเสียอีก แต่นั่นก็เป็นเพราะราคาที่ต่างกันไม่มากเช่นกัน
ถ้าคุณนำของราคาไม่ถึงล้าน ไปเทียบกับของราคาสองสามล้าน มันย่อมมีความแตกต่างแน่นอนครับ
แฟนผมใช้แคมรีตัวก่อนหน้า รุ่นปี 2003 ใช้มาจนปัจจุบันวิ่งไปใกล้ๆจะสองแสนโลแล้ว มันก็เริ่มมีเสียงก๊อกๆแก๊กๆตามประสารถญี่ปุ่นเริ่มเก่าน่ะครับ แต่ถามว่า แล้วค่าดูแลรักษาอะไรของมันมากมั้ย? ก็ไม่ได้มากมายไปกว่าเพื่อนฝูงจากแดนปลาดิบเลย
กลับกัน ถ้าคุณใช้รถยุโรป ราคาผิดกันสองสามเท่า ค่าดูแลก็ผิดกันจม ไหนตอนขายต่อ ราคาหายไปมากกว่า 70% ในบางรุ่น
แบบนี้รับได้ไหมครับ? ถ้าคำตอบคือได้แล้วคุณมีเงินเพียงพอ รถยุโรปที่ราคาแพงกว่า ย่อมดีกว่าในความคิดคุณแน่นอนครับ แต่ถ้าถามผม รถญี่ปุ่นสักคันแล้วเอาเงินไปดาวน์บ้านดีๆสักหลังดีกว่าครับ ;D ;D
ดังนั้น คำถามเหล่านี้จึงเหมือนเป็นเรื่องของการใช้ชีวิต และความชอบของแต่ละบุคคลน่ะครับ มันพูดยาก เหมือนอย่างที่กฎของเว็บบอกไว้ว่า ไม่ฟันธงน่ะครับ 55
-
เมื่อวานได้มีโอกาส นั่ง Peugeot 605 เก่าๆ ของพี่ที่รู้จักคันนึง
ที่ความเร็วต่ำ สัก 40 ก็เฉยๆ แต่วิ่งลอยเกินจากนั้นแล้วล่ะก็
โอ้วมายก๊อดดดดด
อยากเป็นเจ้าของในทันทีทันใด
-
1.น้ำหนักน่าจะไม่เกี่ยวนะครับ เคยอ่านเจอพี่แพน(มั้ง) MB W124 น้ำหลักใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่น(รุ่นไหนไม่ทราบ) แต่เกาะและนุ่มต่างกันมาก
ส่วนความเงียบพอกันครับ
2.6-7 ปียังไม่ค่อยเปลี่ยนไปนะครับ
3.ใครบอก Accord เก็บเสียงไม่ดีครับ Accord ผมเก็บเสียงดีมากๆ เลยล่ะครับ
เก็บเสียงจากถนนขึ้นมาหมดเลยครับ :'( :'( ผมใช้ยางเดิมติดรถนะครับ Michelin Energy :-\
4.No comment แต่คิดว่า Teana นุ่มกว่า เก็บเสียงดีกว่า
-
ขอบคุณนะคะสำหรับคำตอบ โดยส่วนตัวคิดลังเลระหว่างยุโรปมือ2+Teana ซึ่งอยากได้ความนุ่มเงียบ แน่นเป็นหลักเลย (เพื่อนพี่ชายทำอู่ซ่อมรถยุโรปในซอยโชคชัย)
ก็เลยลังเลระหว่าง คชจ.ในการดูแลรักษาของรถยุโรป+ ความเปลี่ยนแปลงของรถญี่ปุ่นที่เก่าๆไปแล้วจะก๊องแก๊ง(ปกติเป็นคนใช้รถนานค่ะ 7-8ปี) เลยยังตัดสินใจไม่ถูก
ตอนนี้ก็พอได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นแล้วค่ะ คงนำรายได้ กับค่าใช้จ่าย และเงินเก็บ มาคำนวนว่าสมควรเลือกแบบไหนดี อิอิ
-
อันนี้ผมมองในแง่การตลาดล้วนๆ นะครับ
ต้องอย่าลืมว่ารถยุโรปโดยมากที่เราพูดถึง มักจะเป็น Mercedes หรือ BMW ซึ่งพวกนี้ มันเป็นรถระดับ Luxury ถ้าไปเทียบกับรถญี่ปุ่น Mass Market อย่าง Honda Toyota หรือ Nissan มันย่อมเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็น ญี่ปุ่น Luxury อย่าง Lexus, Acura, Infiniti หรือแม้กระทั่ง รถหรูในตลาดญี่ปุ่นอย่าง Toyota Mark-X, Crown, Majesta มันก็ไม่แน่ รถพวกนี้อาจจะดีกว่า Benz ก็ได้
ผมว่าคุณภาพไม่ได้อยู่ที่สัญชาติ มันอยู่ที่ราคามากกว่าครับ