Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Fong ที่ พฤษภาคม 29, 2023, 14:03:26
-
ตอนนี้เริ่มไม่อยากได้ไฟหน้าแบบ Day Time Running Light ละครับ
ผมว่ามันแยงตาคนเดินถนนมาก เวลาจอดรอ เวลาโพล้เพล้
เวลาผ่านทางเข้าหมู่บ้าน เวลาเข้าสถานที่ราชการ เวลาเข้าที่จอดรถ
สงสารเจ้าหน้าที่ที่ต้องยืนมองแสงไฟ DRL เหล่านี้มาก
รถเก่าไม่มี เวลาผ่านทางผมก็จะปิดไฟหน้าไม่ให้แยงตาคนเหล่านี้
เวลารถที่มี DRL ตามท้ายก็แสบตาเช่นกัน
เฮ่อ อยากให้เป็นแบบปิดได้จังครับ
-
ลองปรับเป็นไฟหรี่แทนได้มั้ยครับ อาจช่วยได้ครับ
-
ไฟ DRL จุดประสงค์ของมันก็คงเพื่อให้แยงตาคนคับ เพื่อให้สังเกตุรถสวนบนถนนได้ง่ายขึ้น ต้นกำเนิดมันน่าจะมาจากรถที่ขายแถบยุโรปบางประเทศที่ฟ้าครึ้ม แดดน้อย
เรื่องใครจะชอบไม่ชอบ หรือควรมีไหม อันนี้ก็ว่าไปตามความเห็นส่วนบุคคลคับ
ส่วนผมติดใจแค่ว่า... ค่าความสว่างของ DRL ในรถหลายๆรุ่นมันได้ตามมาตรฐานสากลหรือไม่ โดยเฉพาะมาใช้กับรถบ้านเราที่แสงแดดจ้ามากๆในตอนกลางวัน ส่วนตอนใกล้ค่ำหรือโพล้เพล้ มันจะกลายเป็นว่าแยงตารถสวนมากเกินไปหรือเปล่า
-
ลองปรับเป็นไฟหรี่แทนได้มั้ยครับ อาจช่วยได้ครับ
รถผม หรี่ลงน้อยมากครับ
-
ให้แยงดีแล้วครับ เพื่อให้เห็นว่ามีรถมา
เปิดไฟหรี่ช่วยเบาลงนิดนึงแค่นั้นเพียงพอแล้วครับ
-
อยากให้ DRL ทุกค่ายทำเหมือน Mazda เลยครับ
- ตั้งค่าเปิดปิดจากในเมนูการตั้งค่ารถได้
- เปิดแล้ว ไฟทำงานเมื่อเคลื่อนรถออกไปเกิน 3 km/h
- แล้วไฟจะดับอีกทีตอนดึงเบรกมือหรือเข้า P
อันนี้แหละเวิร์ค จอดสตาร์ทไฟไม่รบกวนชาวบ้าน ตอนวิ่งก็ทำงานมองเห็นไฟชัดปกติ
เพราะ DRL หน้าที่มันคือ ให้รถคันอื่นมองเห็นเราชัดขึ้นในตอนกลางวัน ไฟมันเลยสว่างและฟุ้งให้สู้แดด
ออก Almera Turbo มาตอนแรกก็ไม่พอใจที่ไม่เปิด DRL มาให้ ไฟทำมาซะสวย ดันต้องมาปิดเพราะไอเสียไม่ผ่าน คิดไว้เลยว่าออกมาแล้วจะไปปลดไฟ DRL
สุดท้าย 0 ที่ออกรถบอกทำไม่เป็น พอใช้รถไปก็มีโอกาสสตาร์ทรถเดินเบาใช้ชีวิตอยู่ในรถบ่อยเหมือนกัน เลยไม่ปลดล่ะ
-
มันจะเห็นประโยชน์มากๆของ DRL ก็ยามโพล้เพล้นี่แหล่ะครับ
บางคันแทบไม่เปิดไฟหน้า ถ้าไม่มืดจริงๆ สุดท้ายมันก็ทำให้คนอื่นไม่เห็น
ความเสี่ยงอาจเกิดอุบัติเหตุก็มากขึ้น
-
ผมเห็นด้วยนะครับ
จะโดยตั้งใจ หรือ ไม่ก็แล้วแต่
บางคนใช้ DRL เป็นไฟหน้า ไฟส่องถนน ด้วยซ้ำไป ตอนโพล้เพล้ๆ ไฟหน้าไม่เปิด(รถอาจจะไม่มีระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เดา)
วิ่งสวนกันในซอย โครตส่องตาเลย ถ้าเปิดไฟหรี่ มันจะหรี่ลงประมาณ 15-30% ได้อยู่
ถ้ากลางวัน มันโดนแสงแดดกลืน โอเคอยู่ แต่ตอนหัวค่ำ ไม่ไหวจริงๆ
-
ใช้ฟิวส์แท็ปต่อจากแผงฟิวส์ภายในรถ ตำแหน่งไฟ DLR แล้วไปผ่านสวิตซ์ ปิด-เปิดได้ครับ หรือจะใช้ฟิวส์แท็ป แล้วเดินสายไฟไปต่อกับเบรคมือ เพื่อให้ดึงเบรคมือแล้วไฟ DLR ดับ ก็ทำได้ โดยเพิ่ม รีเลย์ อีกหนึ่งตัว รถผมใช้แบบดึงเบรคมือแล้วไฟ DLR ดับอยู่ อันนี้ผมทำเอง ไม่แน่ใจว่ามีช่างที่รับทำหรือเปล่า
-
ใช้ฟิวส์แท็ปต่อจากแผงฟิวส์ภายในรถ ตำแหน่งไฟ DLR แล้วไปผ่านสวิตซ์ ปิด-เปิดได้ครับ หรือจะใช้ฟิวส์แท็ป แล้วเดินสายไฟไปต่อกับเบรคมือ เพื่อให้ดึงเบรคมือแล้วไฟ DLR ดับ ก็ทำได้ โดยเพิ่ม รีเลย์ อีกหนึ่งตัว รถผมใช้แบบดึงเบรคมือแล้วไฟ DLR ดับอยู่ อันนี้ผมทำเอง ไม่แน่ใจว่ามีช่างที่รับทำหรือเปล่า
น่าสนใจครับ :) :)
-
มันออกแบบมาให้แยงตาอยู่แล้วนิครับ ...
เทรนต่อไป มันจะไม่มีแค่ไฟ DRL แล้ว ตอนนี้ค่ายยุโรปเค้าให้ไฟท้ายติดในเวลากลางวันด้วยแล้วนะตอนนี้
-
รถยุ่นทำได้
ถ้ายุโรปทำ ผมว่ามันจะฟ้องว่าไฟดวงนั้นเสีย ขึ้นจอทันที
-
ไฟ Day Time Running Light ไม่เหมากับประเทศไทยครับ ทั้งสภาพอากาศ
และ จะสตาร์ทรถตากแอร์ แปปนึงไฟก็ติด
ตอนกลางวันแดดร้อนๆ สว่างๆ ไฟติด ดูแปลกๆ
-
มันควรจะดีไซน์ให้ปิดได้
อีกอย่าง รถหลายรุ่นสมัยนี้ ทั้งพวก HONDA / BMW นี่ ไม่กี่ปี เหลืองเป็นแถวเลย แบบนี้ อย่ามีเลยดีกว่า
-
มันจะเห็นประโยชน์มากๆของ DRL ก็ยามโพล้เพล้นี่แหล่ะครับ
บางคันแทบไม่เปิดไฟหน้า ถ้าไม่มืดจริงๆ สุดท้ายมันก็ทำให้คนอื่นไม่เห็น
ความเสี่ยงอาจเกิดอุบัติเหตุก็มากขึ้น
มืดแล้วยังไม่เปิดไฟด้วยสิครับ ข้างหน้าเป็นDRL ติดสว่างแสบตา ข้างหลังมืดมิด จะชนท้ายอยู่ละครับ
-
DLR มันแยงตาเพราะต้องสว่างให้คนเห็น ในเวลากลางวัน
เหตุผลเดียวกับ รถมอเตอร์จะปลอดภัยกว่า เมื่อเปิดไฟหน้า
-
มาสด้าcx30 ตอนกลางคืน ติดเครื่องจอดอยู่กับที่ ปิดได้นะครับ เจนลาสุดเป็นแค่หลอดเล็กๆ แต่เห็นได้ในระยะไกล พอเปิดไฟหนี่ ดรอปลงมาเยอะเลย แต่จะชอบไฟหน้าอัตโนมัติมากกว่า ไฟสูงหลบหลีกรถข้างหน้าได้ และไฟหน้าสว่างมากๆ
-
มันไม่ได้แสบตาขนาดนั้นนะครับ
ผมตาแพ้แสง ขับสวนรถที่มี DRL ก็ไม่ได้แสบตาเท่าพวกคุกกี้ หรือพวกรถกระบะแต่งซิ่ง
-
เค้าทำให้คนเห็นน่ะครับ มันถูกแล้ว แต่เวลามืดไฟหน้าออโต้ต้องทำงานดีซึ่งส่วนใหญ่ที่ไม่ดีคือติดเร็วไปมากกว่า นอกจากรถคันนั้นจะไม่มีไฟหน้าออโต้ หรือทำงานไม่ดีจนเจ้าของรถรำคาญปิดไปเลย
ผมนี่รำคาญไฟหน้ามอเตอไซค์มากกว่า ทั้งแรงและคุมองศาไม่ได้
-
รถบางยี่ห้อพอกลางคืน DRL ยังสว่างกว่าไฟหรี่อีก :P
-
คิดว่าตอน Design คงไม่ได้คำนึงเรื่องคนเดินถนนเท่าไร่
มองอีกแง่คือมันทำให้คนสังเกตุได้ง่ายโดยเฉพาะ เวลาโพล้โพล้ ช่วงที่คนยังไม่เปิดไฟหน้า / ช่วงที่ไฟหน้าออโต้อาจยังไม่ติด หรือเวลาวิ่งในที่จอดรถในห้าง
-
ผมถอดออกเลยครับ หรืออีกวิธีติดสวิทซ์เปิดปิมันครับ ไฟเดย์ไบ์ผมว่ามมันไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่ที่จำเป็นคือตัดหมอกที่ช่วยให้มองเห็นตอนวิ่งเวลาฝนตกหรือตอนที่ถนนมืดสนิทไม่ไฟข้าทางและลาดยางดำปี๋ครับ
-
ส่วนตัววิธีการแก้คือ บริษัทที่ผลิตรถไม่ควรตัด Function หรือ สวิสซ์ปิดระบบเปิดไฟอัตโนมัติ เพื่อลดต้นทุน เป็นทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถปิดไฟ DRL และหลอดไฟหลักได้ เพราะไอ้ปัญหาที่เกิดขึ้นเนี่ยมันมี 2 แบบเลย คือ
1 รถที่มีฟังก์ชั่นเปิดไฟอัตโนมัติแต่ไม่มีให้ปิด พออยู่ในลานจอดอยากสตาร์รถ ไฟก็ส่องคนอื่น โดยเฉพาะพวกรถไฟฟ้าที่มักเป็นแบบนี้
2 รถที่ต้องเปิดเองแบบแมนนวล มักมีปัญหาว่าพอตกกลางคืนไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรดันไม่เปิดไฟหลักแต่ใช้ DRL แทนแล้วมันแยงตาคนอื่นบนถนน ถ้ามีฟังก์ชั่นอัตโนมัติก็ช่วยเรื่องนี้ไป แต่สุดท้ายก็เป็นที่นิสัยคนขับแหละ
แต่เหตุผลหลักที่ผมไม่ชอบคือค่าเปลี่ยนและดูแลรักษาแพง เสียทีต้องเปลี่ยนทั้งโคม
-
อ่านหลายความเห็นด้านบนก็เข้าใจ และผมคิดว่า ไฟ DRL อะมันดีมีประโยชน์ แต่ที่มันดูเป็นการรบกวนคนอื่น ก็เพราะ"ความใส่ใจในการออกแบบ" ของแต่ละยี่ห้อต่างหากที่หายไป
ยกตัวอย่างมาสด้า(อย่าหาว่าอวยนะครับ) หลายท่านด้านบนอธิบายไว้แล้วว่า มันสามารถเปิดปิดได้ จากคำสั่งในการตั้งค่ารถยนต์
แต่ความใส่ใจในการใช้งาน ของไฟ DRL มาสด้าคือ
1.เมื่อจอดรถ ใส่เกียร์ P หรือดึงเบรคมือ ไฟ DRL ดับทันที ซึ่งตรงนี้เป็นประโยชน์สำหรับการที่เราสต๊าทรถรอใครสักคนในเวลากลางคืน หรือ สถานที่ใดก็ตามที่ไม่อยากให้ไฟไปรบกวนคนอื่น
2.เมื่อสต๊าทรถแล้ว เครื่องติด ไฟ DRL จะไม่ติดทันที เราต้องใส่เกียร์และรถเคลื่อนตัวไปก่อนไฟถึงติด
3.ไฟหน้า auto ของมาสด้าทุกรุ่น สามารถตั้งค่าความเข้มของการรับแสงได้ ซึ่งทำให้เราสามารถตั้งค่าให้ไฟหน้าติดที่ความมืดระดับใดได้
และนี่คือความใส่ใจในการออกแบบของการใช้งานที่รถญี่ปุ่นในระดับเดียวกันไม่มี
-
เราเฉยๆ นะ แต่ตอนกลางคืน บางคันใช้ drl วิ่งปกติ อันนี้โคตรแยงตา เราว่ารถที่มี drl ควรมีระบบเปิดปิดไฟออโต้มาด้วย
-
8) 8) 8)......Day light วัตถุประสงค์หลัก ที่ DOT กับ OSHA รับรองผลวิจัยให้ใช้กับ street car เพื่อลดอุบัติเหตุที่กระตุ้นเตือนรถคันที่ขับสวนทางมาครับ :-X
-
DRL ต้องใช้คู่กับไฟหน้าAuto พอมืดไฟหน้าติด DRL ก้ดับ แก้ปัญหาง่ายๆ
แต่มีรถหลายรุ่นใส่มาเท่ๆแต่ไม่คิดถึงจุดนี้ ไม่มีไฟหน้าออโต้ให้ รวมถึงพวกไปติดDRL เพิ่มเอง พอกลางคืนเปิดไฟหน้าก็ยังไม่ดับ
-
CRV G6 ปิด daylight ได้ครับ
อันนี้ผมชอบมาก
เพราะเวลาจอดรอในห้าง รถที่กำลังวนหาที่จอด ไม่ต้องชลอข้างหน้า เพราะคิดว่าเรากำลังจะออกจากที่จอด
-
ผมใช้ Accord G10 ไฟ DRL ไม่มีปุ่มให้ปิด บางทีจอดติดเครื่องอยู่รู้สึกเกรงใจคนอื่นครับ
และอีกประเด็นอยากให้เอาไฟ DRL ไปไว้ตำแหน่งตัดหมอกเหมือนช่วงแรกๆมากกว่า ถ้าแบบปัจจุบันต้องเปลี่ยนทั้งโคมเลย
-
ผมใช้ Accord G10 ไฟ DRL ไม่มีปุ่มให้ปิด บางทีจอดติดเครื่องอยู่รู้สึกเกรงใจคนอื่นครับ
และอีกประเด็นอยากให้เอาไฟ DRL ไปไว้ตำแหน่งตัดหมอกเหมือนช่วงแรกๆมากกว่า ถ้าแบบปัจจุบันต้องเปลี่ยนทั้งโคมเลย
บางรุ่นเอาไปใส่ในตำแหน่งไฟตัดหมอกแล้ว แล้วตัดไฟตัดหมอกออกอันนี้ผมไม่โอเคครับ เช่นนิสสันมาร์ช ขับตอนกลางคืนฝนตก ไฟตัดหมอกจำเป็นมากๆครับ เดย์ไล์ไม่มีประโยชน์กับผมเลยครับ
-
ถ้าฮอนด้าชักฟิวส์ออกตัวเดียวจบเลยครับ ไม่เกี่ยวกับไฟหรี่ด้วย
-
ผมใช้ Accord G10 ไฟ DRL ไม่มีปุ่มให้ปิด บางทีจอดติดเครื่องอยู่รู้สึกเกรงใจคนอื่นครับ
และอีกประเด็นอยากให้เอาไฟ DRL ไปไว้ตำแหน่งตัดหมอกเหมือนช่วงแรกๆมากกว่า ถ้าแบบปัจจุบันต้องเปลี่ยนทั้งโคมเลย
บางรุ่นเอาไปใส่ในตำแหน่งไฟตัดหมอกแล้ว แล้วตัดไฟตัดหมอกออกอันนี้ผมไม่โอเคครับ เช่นนิสสันมาร์ช ขับตอนกลางคืนฝนตก ไฟตัดหมอกจำเป็นมากๆครับ เดย์ไล์ไม่มีประโยชน์กับผมเลยครับ
จริงครับ ขออนุญาตเสริม ผมเคยใช้ Jazz GK สีเหลืองโฉมก่อน M/C มีช่องติดไฟ DRL เพิ่มข้างๆไฟตัดหมอกติดรถเลยครับ แต่ขายรถไปละ
ถ้ารถยังอยู่ผมคงไปติดสวิตช์ปิดเปิดเพิ่มครับ เพราะติดเองทีหลังตอนเปิดไฟหรี่หรือไฟหน้ารถ ไฟ DRL นี้ไม่ได้หรี่ลงเลย คงจะไปรบกวนเพื่อนร่วมทางมากๆ
-
ผมใช้ Accord G10 ไฟ DRL ไม่มีปุ่มให้ปิด บางทีจอดติดเครื่องอยู่รู้สึกเกรงใจคนอื่นครับ
และอีกประเด็นอยากให้เอาไฟ DRL ไปไว้ตำแหน่งตัดหมอกเหมือนช่วงแรกๆมากกว่า ถ้าแบบปัจจุบันต้องเปลี่ยนทั้งโคมเลย
บางรุ่นเอาไปใส่ในตำแหน่งไฟตัดหมอกแล้ว แล้วตัดไฟตัดหมอกออกอันนี้ผมไม่โอเคครับ เช่นนิสสันมาร์ช ขับตอนกลางคืนฝนตก ไฟตัดหมอกจำเป็นมากๆครับ เดย์ไล์ไม่มีประโยชน์กับผมเลยครับ
จริงครับ ขออนุญาตเสริม ผมเคยใช้ Jazz GK สีเหลืองโฉมก่อน M/C มีช่องติดไฟ DRL เพิ่มข้างๆไฟตัดหมอกติดรถเลยครับ แต่ขายรถไปละ
ถ้ารถยังอยู่ผมคงไปติดสวิตช์ปิดเปิดเพิ่มครับ เพราะติดเองทีหลังตอนเปิดไฟหรี่หรือไฟหน้ารถ ไฟ DRL นี้ไม่ได้หรี่ลงเลย คงจะไปรบกวนเพื่อนร่วมทางมากๆ
ตอนกลางวันแยงตาเลยนะครับไฟ daytime running แสบตามากครับ ยิ่งแดดร้อนๆยิ่งแสบตาครับ
-
เห็นด้วยเลย ไฟสมัยนี้แยงตามากๆ แสงขาวๆนี่อันตรายต่อสายตามาก อาจทำให้คันอื่นเกิดอบ.ได้