Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: =TUM= ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 23:48:24
-
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0182_resize.jpg)
เมื่อทาง Headlightmag.com ได้เปิดโอกาสให้บุคคลที่เป็นสมาชิกของเวปทำ Review รถของตัวเองขึ้นมา ผมจึงขอใช้โอกาสนี้เป็นเวทีฝึกหัดที่จะทำบททดสอบรถให้บุคคลทั่วไปได้อ่านกัน ซึ่งเป็นงานที่คนที่คลั่งใคล้รถยนต์อย่างผมมองว่า การที่ได้มีโอกาสไปทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่ออกสู่ตลาดหลายๆรุ่น แล้วนำมาทำ Review ให้บุคคลทั่วไปได้อ่านกันอย่างเช่นคุณจิมมี่และนักทดสอบรถอีกหลายๆคนนั้น ช่างเป็นงานที่น่าอิจฉามาก แต่ในขณะนี้ผมยังไม่มีโอกาสไปทดสอบรถรุ่นใหม่ๆ จึงมีอยู่ทางเดียวคือ การไปขอยืมรถคนรู้จักมาฝึกทำ Review ไปก่อนละครับ ^^
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0336_resize.jpg)
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0350_resize.jpg)
รีวิวแรกของผมนี้ขอเริ่มต้นด้วยยานยนต์จากค่ายดาวสามแฉก หนึ่งในตระกูล E-Class นั้นก็คือ Mercedes-Benz 300D รหัสตัวถังเป็นเลขเรียงครับ นั้นคือ W123 รถยนต์คันนี้เป็นรถของเพื่อนสนิทผมคนหนึ่งซึ่งเพื่อนคนนี้เล่าให้ผมฟังว่า เขาได้ซื้อเจ้า 300D คันนี้ต่อมาจากนายทหารคนหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เป็นรถที่มีสภาพดีมากๆคันหนึ่งเลยทีเดียว มันวิ่งมาเพียง 8 หมื่นกว่ากิโลแท้ๆ และเป็นรถที่ไม่เคยมีอุบัติเหตุด้วย และการที่เพื่อนผมเป็นคนหลงใหลในรถยนต์ยี่ห้อที่มีดาวติดอยู่หน้าฝากระโปรง อันที่จริงเขาอยากได้ W124 มาก แต่ด้วยราคาที่เกินงบประมาณที่เขาตั้งไว้และการยุยงจากผมว่า ?ไอรถยี่ห้อนี้เนี่ยนะ ต่อให้ซื้อหลังจากนี้ไปอีก 50ปี จนเมียคุณหนีตามพนักงานขายตรงไป รูปแบบกระจังหน้ามันก็ไม่เปลี่ยนหรอก? เมื่อเขามาเจอเจ้า 300D สภาพดีคันนี้ เขาจึงตกลงซื้อมันทันที
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0185_resize.jpg)
E-CLASS รหัสตัวถัง W123 นี้ เป็น E-CLASS ที่พัฒนาต่อมาจากรุ่น W114 และ W115 หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ?เบนซ์ทับ8? นั้นเอง W123 นั้นเริ่มเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจากการนำเข้ารถมาจากประเทศอังกฤษและญี่ปุ่น ปัญหาที่เจอสำหรับ W123 ยุคแรกๆที่นำเข้าก็คือ สนิม ครับ เนื่องมาจากส่วนมากเป็นรถมือสองที่จอดจนสนิมขึ้นแล้วนำมาทำใหม่เพื่อมาขายในไทย จะมีแต่รุ่นปีท้ายๆที่ประกอบในไทยโดยธนบุรีประกอบรถยนต์ จึงจะไม่มีปัญหาเรื่องสนิมครับ
W123 ที่วิ่งอยู่ในไทยนั้น คนไทยเรียกกันว่า ?เบนซ์โหล? มีจำหน่ายทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลครับ รุ่นเครื่องเบนซินได้แก่ 200E 230E 230CE 230TE 280E 280CE 300TE ครับ ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้นก็จะมีด้วยกัน 3 รุ่น 2เครื่องยนต์ ด้วยกันคือ 240D 300D และ 300TD ครับ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0368_resize.jpg)
เจ้า 300D W123 คันนี้เป็นรถที่ประกอบในประเทศอังกฤษ ผมได้ขอมูลมาจาก 1 ในแฟนพันธุ์แท้ MERCEDES-BENZ ว่า W123 คันนี้เป็นรถปลายๆปี1970-1983 นั้นก็หมายความว่ารถยนต์คันนี้ได้ผ่านหิมะที่อังกฤษขึ้นเรือมาฝ่าน้ำท่วมในประเทศไทยมาเกือบ30 ปีแล้ว แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซลแสนอึด และระบบช่วงล่างเดิมๆนั้น ไม่ได้ทำให้เราเชื่อเลยว่า นี่หรอ! รถอายุ 30 ปี เครื่องยนต์ดีเซลสมัยเก่ายังไม่มี TURBO ที่ต้องเผาหัวก่อน start 1ครั้งยังคงทำงานได้เต็มสูบ ไม่มีควันดำออกมาให้เห็น จะมีก็เฉพาะขวัญเทาจางๆออกมาตอนเร่งรอบสูงๆเท่านั้น ช่วงล่างที่ยังคงให้ความหนักแน่นและความมั่นคงได้สูง ห้องโดยสารที่ใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยม ทำให้เข้าใจเลยว่า รถที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้งานได้ตลอดไปอย่างที่พี่แพนพูดนั้นมันเป็นอย่างไร
ภายนอก
เริ่มจากไฟหน้าที่เปลี่ยนจากของเดิมเป็นแบบ US SPEC 4 ดวง
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0349_resize.jpg)
เส้นสายที่โค้งมนเหมือนกับMercedes-Benz รุ่นก่อนๆในยุคนั้น
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0357_resize.jpg)
ข้อมูลบนฝาถังน้ำมันยังคงอยู่ครบ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0337_resize.jpg)
ห้องโดยสาร
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0373_resize.jpg)
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0382_resize.jpg)
หนังแผงประตูที่ยังคงสภาพดีแม้จะผ่านมากว่า 30ปีแล้วก็ตาม
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0340_resize.jpg)
คอลโซลกลาง ไล่จากกระปุกเกียร์ 4 จังหวะ ปุ่มเปิดกระจกทั้ง 4 บานและปุ่มไฟฉุกเฉิน
ห้องโดยสารของเจ้า 300D 30ยังแจ๋วนี้ ยังแจ๋วจริงๆครับ ดูได้จากภาพที่เจ้าของรถคอนเฟิรมว่า ตั้งแต่ซื้อมาเครื่องหนังทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นแผงประตู รวมถึงขอบเบาะยังไม่เคยได้ซ่อมแซมเลย ยังคง ?เดิมๆ? อย่างที่ท่านเห็นในรูป แต่เขาดูแลรักษานะครับ ถ้าไม่ดูแลรักษาต่อให้รถที่ทนแค่ไหนก็คงไม่ได้สภาพอย่างที่เห็น
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0344_resize.jpg)
เครื่องมือปฐมพยาบาลยังอยู่ครบ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0341_resize.jpg)
แพดานเดิมๆพร้อมไฟอ่านแผนที่
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0338_resize.jpg)
มาตรวัดของ VDO มีอยู่ 3 วงด้วยกันครับ ซ้ายสุดจะบอกปริมาณเชื้อเพลิง ความร้อนและแรงดันน้ำมันเครื่อง ส่วนตรงกลางเป็นมาตรวัดความเร็ว ขวาสุดจะเป็นนาฬิกาครับ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0339_resize.jpg)
พวงมาลัยไม่ใช้ของเดิมครับ เปลี่ยนเป็นของใหม่ จะเห็นได้ใน 190E และอีกหลายรุ่น
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0329_resize.jpg)
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0346_resize.jpg)
ตำแหน่งท่านั่งคนขับอยู่ในตำแหน่งที่สูงครับ สามารถมองเห็นดาวบนฝากระโปรงใช้กะระยะได้สบาย ความกว้างของตัวเบาะหน้านั่งได้เต็มก้น
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0379_resize.jpg)
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0345_resize.jpg)
เบาะหลังนั่งสบายครับ ขอติที่ต้องชันเข่ามากไปหน่อย เบาะเป็นเบาะสปริงครับ เวลาผ่านไป 30 ปีทำให้สปริงใต้เบาะเสื่อมอายุไปตามกาลเวลา
ที่เท้าแขนมีมาให้พร้อม เดินทางไกลๆอาจจะมีอากาสปวดคอได้ เหตุก็เพราะรุ่นนี้ Low Option ครับ ยังไม่มีที่หนุนหัวหลังมาให้
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0375_resize.jpg)
ที่เขียบุหรี่หรือไว้วางของจุกจิก
เครื่องยนต์
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0354_resize.jpg)
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0355_resize.jpg)
ลองมาดูสเป็คเครื่องของเจ้า 300D คันนี้ตอนเพิ่งออกมาใหม่ๆกันครับ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0356_resize.jpg)
Mercedes Benz W123 300 D
(1981 - 1984)
Engine: I 5 (5สูบแถวเรียง)
Engine Code : -
Fuel (เชื้อเพลิง) : Diesel
Fuel System : Injection Pump Bosch
Engine Alignment : Longitudinal
Drive : RWD
Displacement : 2998 cm3
Bore x Stroke : 90.9 x 92.4 mm
Type : 10 Valves
Aspiration : N/A
Compression Ratio : 21.0
Output : 88 cv (64 kW) @ 4400 rpm
Torque : 172 Nm (126 lb.ft) @ 2400 rpm
Gearbox : 5 speed Manual
Wheelbase : 279.5 cm
Length : 472.5 cm
Width : 178.6 cm
Height : 143.8 cm
Cx : -
Front Brakes : Discs ( mm)
Rear Brakes : Discs ( mm)
Front Tyres : 175/ R14
Rear Tyres : 175/ R14
Kerb Weight : 1450 kg
Weight/Output Ratio : 16.48 kg/cv
Front Suspension : -
Rear Suspension : -
Top Speed : 155 km/h (96 Mph)
0 to 100 km/h : 17.8 s
0 to 400m (1/4 mile) : -
0 to 1000m : -
Fuel Consumption* : 7.0L / 9.5L / 9.7L / 9.3L (25 mpg)
Range : 698 km
Fuel Tank : 65 L
Trunk : L
CO2 emissions : 216 g/Km
สมรรถนะต่างๆ
นี่คือข้อมูลสมัยเครื่องยังฟิตปั๋งอยู่นะครับ เมื่อระยะเวลาผ่านเลยมา 30 ปี ม้าบางตัวก็วิ่งกลับเยอรมนีไปบ้าง เราจึงคิดจะลองจับ 0- 100 ดูสิว่า ตัวเลขจาก 17.8 วิเมื่อก่อน เมื่อผ่านมา 30 ปีแล้วมันจะได้ตัวเลขเท่าไร ผมทำนายว่า ต้องมี 18วิ ตี้ แฟนพันธุ์แท้เบนซ์บอกว่าให้18-19เลย แต่ไม่เกิน 20วิแน่ ส่วนเจ้าของรถบอก 20ขึ้นแน่นอนฟันธงและคอนเฟริม ผลที่ได้ออกมาก็คือ
อัตราเร่ง 0-100
0-100 เสียเวลาไป 20 วินาทีนิดๆ โดย 80กว่าจะถึง100 นี่รอเหงือกบานครับ สรุปแล้วเจ้าของรถทำนายไว้ใกล้เคียงที่สุด
ความเร็วสูงสุด
140กม./ชม. (อันนี้ไม่ได้ลองเองนะครับ เป็นข้อมูลจากเจ้าของรถลองเอาไว้ บอกว่าสุดที่ 140 ไม่ไหลต่อแล้ว)
ดูจากตัวเลขแล้วยอมรับครับว่ารถอืด เร่งแซงเหนื่อยหน่อยต้องเผื่อรถข้างหลังไว้ไกลๆหน่อย (นี่ขนาดเป็นเกียร์ธรรมดานะ ถ้าเป็นออโต้ผมว่าไม่ต้องสืบละครับ)
ตัวเลขต่างๆอาจจะไม่ละเอียดมากนะครับ เนื่องจากรถมันแก่แล้วอีกทั้งยังเกรงใจเจ้าของรถครับ
ช่วงล่าง
สมรรถนะของระบบช่วงล่างนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจมากๆเข้าโค้งระดับ 80 กม./ชม. ในโค้งจากสุขาภิบาล 3 ไปโพล่ตรงหมู่บ้านนวธานี สุขาภิบาล2นั้นนิ่งมากๆ Honda civic dimension คันเก่าผมที่เปลี่ยนช่วงล่างของ Bilstein ยังเข้า 80 ไม่มั่นใจขนานนี้เลยครับ วิ่งความเร็ว 120 ขึ้นไปก็ยังนิ่งอยู่ จะเสียแต่พวงมาลัยที่ระยะฟรีมากเกินไป และพอความเร็ว 100ขึ้นไปจะมีอาการพวงมาลัยเบา พอความเบาของพวงมาลัยมาพร้อมกับระยะฟรีที่มากทำให้เสียความมั่นใจไปบ้างครับ แต่ช่วงล่างนั้นให้ความมั่นใจได้ดีมากๆ ผ่านเนินสะพานต่างๆไม่ต้องชะลอมากครับ ใส่ขึ้นไปเลยไม่มีกระเด้งกระดอนแต่อย่างใด การตอบสนองของระบบช่วงล่างนั้น จะไปทางหนึบนุ่มแต่ไม่ได้นิ่มจนย้วยครับ เป็นเรื่องที่น่าประทับใจสำหรับช่วงล่างที่เรียกได้ว่าเดิมๆหมดทั้งโช๊คอัพและสปริง จะมีเปลี่ยนก็เฉพาะลูกหมากตามอายุเท่านั้น
ทัศนวิสัย
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0380_resize.jpg)
เรื่องทัศนวิสัยโดยรอบนั่นดีมากครับ มองได้ทะลุปรุโปรงไม่ว่าจะถอยหลังคุณสามารถมองกระจกหลังจนเห็นสุดฝากระโปรงหลังที่ช่วยกะระยะได้อย่างชัดเจน และด้วยตำแหน่งการขับที่สูงด้วยจึงทำให้คนขับรู้สึกผ่อนคลายไม่เครียดมาก แต่จะเครียดก็คือเวลาจะเปลี่ยนเลนครับ เนื่องจากกระจกมองข้างที่มีมุมอับมากเหลือเกิน ทำให้บ่อยครั้งที่จะเปลี่ยนเลนนั้นต้องใช้บริการกระจกมองหลังช่วยด้วย
สิ่งที่เสื่อมไปเมื่อคุณทวด 300D ผ่านมา 30 ปี
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0362_resize.jpg)
เจ้าของรถเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ซื้อรถมาสิ่งที่เสียนั้นเป็นสิ่งที่มันต้องเสียตามกาลเวลาครับ ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องระบบเครื่องยนต์กลไก ระบบเกียร์ เฟืองท้าย ยังไม่เคยพบปัญหาตั้งแต่ซื้อมาครับ ส่วนของที่เสียแต่ได้ทำการซ่อมไปแล้วก็มี
-กระจกไฟฟ้าที่ซ่อมไปแล้วและตอนที่กำลังทดสอบอยู่กระจกด้านคนขับเปิดลงได้ แต่ดันเอาขึ้นไม่ได้ซะงั้น ต้องรอประมาณ 10 นาทีครับ ถึงจะสามารถเอาขึ้นได้
-ปะผุตัวถัง เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับรถอายุปูนนี้ ที่ปะผุไปแล้วก็จะมีบริเวณหลังบังโคลนหลังที่ผุทะลุมาถึงห้องเก็บของท้ายรถและบริเวณที่วางเท้าผู้โดยสารด้านหน้าของทั้งคนนั่งและคนขับ และตอนนี้ก็พบว่าเวลาฝนตกนั้น น้ำจะหยดบริเวณที่วางเท้าทั้งด้านคนนั่งและคนขับโดยไม่ใช่ที่ผุเดิม ก็ต้องหากันต่อไปครับว่ามันรั่วมาจากไหน!?!
การบำรุงรักษา
การบำรุงรักษาเจ้า 300D นั้นไม่มีอะไรยุ่งยากหรือสลับซับซ้อนเลยครับ เครื่องยนต์ที่แสนทนของมันที่ฝรั่งบอกว่า เจ้าเครื่องตัวนี้นะ ตัวรถพังเครื่องมันยัง start ติดอยู่เลย ก็ต้องการเพียงแค่การถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะธรรมดาที่อู่ BENZ ทั่วไปทำได้หมด ส่วนช่วงล่างนั้น เปลี่ยนลูกหมากครั้งเดียวใช้กันลืมเลยครับ
เรื่องของอะไหล่นั้นตอนนี้เริ่มหายากบ่างแต่ก็ไม่ถึงกับเลือดตากระเด็นครับ อะไหล่ตัวถังต่างๆยังมีวางเกลือนอยู่หลังวัดโสมครับ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0367_resize.jpg)
MERCEDES-BENZ 300D W123 นี่ถือเป็นเบนซ์อีกรุ่นหนึ่งที่ยังคงความเป็นเบนซ์ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งในเรื่องของคุณภาพในทุกๆด้านที่ Mercedes-Benz ควรจะเป็น ความทนทานที่ตกจากรุ่นพ่อมาสู่ลูกและยังใช้งานได้ดีอยู่เหมือนคันนี้ หากใครกำลังมองหารุ่น 300D ที่ขนาดนี้ถือว่าเป็น W123 เดิมๆที่มีมูลค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆที่มีจำหน่ายในประเทศไทยคืออยู่ที่หลัก1แสนนิดๆ สำหรับรถที่มีสภาพสวยๆนั้นเจ้าของคงไม่ปล่อยอยู่แล้ว แต่ที่ยังมีสภาพที่ยังรับได้ก็ยังมีให้เห็นกันอยู่หลายคันครับ ผู้ที่สนใจต้องมีงบที่จะฟื้นฟูสภาพตัวถัง ทำสีใหม่ ปะผุ น่าจะเตรียมเงินไว้สัก 2 แสน หากันชนใหญ่(Big Bumper) มาใส่ก็ดูดีไปอีกแบบ หรือวัยรุ่นที่อยากจะนำมาวาง 1หรือ2เจโบไว้อัดหลังจากโมโหที่แม้ไม่ให้เงินค่าขนมแต่บอกให้ไปหางานทำซะ ก็สามารถทำได้ครับ เดี๋ยวลองดู W123วางเจที่แต่งกำลังสวย ดูดี ดุขึ้นแต่ยังคงความสง่า ไม่ออกอวกาศมากเกินไป ที่กำลังจะมีผู้ทำ Review ต่อไปครับ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0192_resize.jpg)
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0359_resize.jpg)
ขอขอบคุณ
เจ้าของรถที่เอื้อเฟื้อรถให้ทดสอบ >>>>>>>นายมหาโชค อวนกลิ่น(โชค)
ภาพสวยๆบางส่วน>>>>>>>Tee ณ ถลุง
ข้อมูลทางเทคนิค>>>>>>>http://www.ultimatespecs.com
By?TUM_COWBOY เกรียนนน
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0385_resize.jpg)
ผมเองครับ
(http://i563.photobucket.com/albums/ss77/cowboy_tum/DSC_0387_resize.jpg)
เจ้าของรถ
-
ขอแก้ไขสำหรับข้อมูลที่ผิดนะครับ
-200 250 230E 230CE 230TE 280E 280TE 280CE นี่คือรุ่นที่มีจำหน่ายในไทย ส่วน 300TE ไม่มีครับ
-รถเป็นรถปี 1976-1983 ที่ผมเขียนว่าปลายๆปี 1970 หมายถึง 1975+นะครับ (ทำไมไม่เขียนว่าปลายๆยุคฟระเรา เกรียนอีกแล้ว!!!)
ช่วยวิจารณ์กันเยอะๆหน่อยนะครับ
ข้อมูลที่ผมนำมาเขียนคือข้อมูลที่ได้จากเวปไซด์ที่เค้าโพสต์กัน รวมทั้งคนใช้เบนซ์บอกมา หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใดที่นอกเหนือจากข้อมูลที่แก้แล้วในข้างต้น รบกวนผู้รู้ช่วยเข้ามาแก้ให้ด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง
-
แหร่มคับเพื่อน จารีบไปไหนคับ ผมเอง คิดไว้ก่อนยังทำไม่เสร๊จเร้ยยย ^^
-
ผมชอบนะครับ ถือว่าโอเคใช้ได้ แม้ว่า จะ สั้นๆ แต่ ภาพรวม รีวิวนี้ ถือว่าดีครับ
แพนว่าไง?
-
อันนี้ต้องขอบคุณ ตี้แฟนพันธุ์แท้มากที่เข้ามาอ่านแล้วกรุณาบอกผมว่า เลขตัวถังไปเซ็คแล้วพบว่าเป็นรถปี 1976-1979 ครับ
ส่วนเรื่องป้ายทะเบียนผมลืมพรางครับ แต่เจ้าของรถบอก "ไม่เป็นไร ตรูกำลังยื่นขอทะเบียนใหม่อยู่"
-
ขอบคุณมากครับพี่จิมมี่ ต้องบอกว่าหาข้อมูลยากจริงๆครับ อีกทั้งยังต้องทำรายงานส่งอาจารย์ที่มหาลัยไปพร้อมๆกันข้อมูลจึงมีไม่มากพอครับ ^^
-
ขอบคุณครับ สุดยอดจริงๆ สั้นๆแต่เข้าใจได้ครับ
-
สมัยก่อนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ที่บ้านเคยใช้รุ่นนี้เหมือนกัน เป็นรุ่น 230E รถประจำตำแหน่ง
แต่ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นรถปีอะไร แต่ทะเบียนขึ้นต้นเป็นหมวด 4จ-xxxx
คันนั้นเป็นเกียร์ธรรมดา 4 สปีด หน้าตาเหมือนในรูปข้างบน
ภายในเป็นเบาะหนังสีครีม แต่ถ้าผมจำไม่ผิด จะไม่มีเข็มขัดนิรภัยของเบาะหลังมาให้
วิทยุรถก็หน้าตากึ่งๆ จะเป็นแนว built in ซักเล็กน้อย
กระจกประตูยังคงเป็นมือหมุน แต่ตอนหลังเอามาทำเป็นแบบไฟฟ้า
ความเร็วสูงสุดนั้น ก็ไม่ต่างกับตัวที่มา review เท่าไหร่ ได้ที่ 140-150km/h เช่นเดียวกัน
-
สุดยอดครับ
Benz ยังไงก็งาม ไม่ว่าจะผ่านมานานขนาดไหน
ถ้าเจ้าออสผมไปถึง30ปีมั่ง(แค่15ปีคงพอ)
ไม่รู้สภาพจะเป็นยังไง ฮ่ะๆ
-
benzรุ่นเก่าๆนี่ทนจริงๆครับ
-
ผมชอบนะครับ ถือว่าโอเคใช้ได้ แม้ว่า จะ สั้นๆ แต่ ภาพรวม รีวิวนี้ ถือว่าดีครับ
แพนว่าไง?
รีวิวไม่จำเป็นต้องยาวมากก็ได้ครับ สิ่งที่ตั้มเขียนมาตอบโจทย์ให้กับคนรักรถเก่าได้ดี และเป็นจุดเริ่มต้นในการหาข้อมูลดีๆของรถรุ่นเก่าที่นับวันจะหาคนตั้งใจรักษาสภาพให้ดีได้
รีวิวนี้ Recommend!
-
รีวิวค่อนข้างละเอียดนะครับ
รถก็สภาพดีมากๆครับ น่าใช้มากๆครับ
-
สำหรับเมืองไทย รถเบนซ์ไม่ใช่แค่รถเก่านะครับ ถึงรถจะเก่าแต่แต่ถ้ารักษาสภาพได้เนี๊ยบๆ เบนซ์ก็ยังคือเบนซ์!!!!
ลองขับรถญี่ปุ่นรุ่นล่าสุด กับเบนซ์รุ่น W123 เอาคันที่ เจ้าของกระทู้รีวิวก็ได้
ไปโรงแรมหรูที่ไหนสักแห่ง จอดคู่กันเลย แล้วดูว่า พนักงานเปิดประตูจะมาเปิดคันไหนก่อน!!!
-
สำหรับเมืองไทย รถเบนซ์ไม่ใช่แค่รถเก่านะครับ ถึงรถจะเก่าแต่แต่ถ้ารักษาสภาพได้เนี๊ยบๆ เบนซ์ก็ยังคือเบนซ์!!!!
ลองขับรถญี่ปุ่นรุ่นล่าสุด กับเบนซ์รุ่น W123 เอาคันที่ เจ้าของกระทู้รีวิวก็ได้
ไปโรงแรมหรูที่ไหนสักแห่ง จอดคู่กันเลย แล้วดูว่า พนักงานเปิดประตูจะมาเปิดคันไหนก่อน!!!
ตอบ
มันไม่เปิดให้ทั้งคู่เลย
-
สำหรับเมืองไทย รถเบนซ์ไม่ใช่แค่รถเก่านะครับ ถึงรถจะเก่าแต่แต่ถ้ารักษาสภาพได้เนี๊ยบๆ เบนซ์ก็ยังคือเบนซ์!!!!
ลองขับรถญี่ปุ่นรุ่นล่าสุด กับเบนซ์รุ่น W123 เอาคันที่ เจ้าของกระทู้รีวิวก็ได้
ไปโรงแรมหรูที่ไหนสักแห่ง จอดคู่กันเลย แล้วดูว่า พนักงานเปิดประตูจะมาเปิดคันไหนก่อน!!!
ตอบ
มันไม่เปิดให้ทั้งคู่เลย
โฮ๊ยยยยย แพนกวน
-
ยังไง BENZ ก็คือ BENZ ไม่ว่าจะเก่าสักแค่ไหน
-
รถอังกฤษน่าจะเป็นพวงมาลัยขวาตามรีวิว แต่ดูจากเพลทระบุว่าเป็นพวงมาลัยซ้ายนะครับ ( WDB 123 130 10 ..............ดูจากตัวเลขตัวที่ 7 ถ้าเป็นเลข 1 จะเป็นพวงมาลัยซ้าย ส่วนพวงมาลัยขวาจะเป็นเลข 2 ครับ )
-
รุ่นนี้ Classic มาก ผ่านมาอีก 10 ปีแล้ว จะเป็นยังไงน้อ