Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: methus zaa ที่ ธันวาคม 22, 2010, 11:49:13
-
สวัสดีครับ พี่ๆผู้อ่าน headlightmag ทุกท่าน วันนี้เนื่องจากโรงเรียนของผมได้หยุดแล้วเปิดอีกทีก็วันที่ 4 มกราคม 2554 ซึ่งเป็นเวลาที่ผมว่างและไม่มีอะไรอะไรทำ
เอาละผมก็ได้เกริ่นมามากแล้ว ดังนั้น เริ่มรีวิว กันเลยดีกว่า
-
รูปเริ่มต้น
-
มาดูที่รูปทรงกันดีกว่าครับ รถคันนี้มีตัวถังที่แข็งมากและมีความโค้งมนในตัวเองสูงมาก
-
ด้านหน้า
กระจังหน้าเป็นแบบคู่ตามสไตล์ของบีเอ็ม ไฟหน้าแบบกลมคู่ ไฟเลี้ยวแบบสีส้ม มีเลนส์คล้ายๆ โปรเจคเตอร์อยู่ด้านใน
กันชนหน้า มีสีดำคาดกับสีตัวรถทำให้ดูดีมีระดับเวลามอง
-
ด้านข้าง
มือจับประตูแบบสีดำ เปิดยากนิดนึงเพราะประตูค่อนข้างที่จะหนัก
-
กระจกมองข้าง มีปรับไฟฟ้า แต่ต้องพับด้วยมือ ก็แหงล่ะ รถอายุ จะ 20 ปี แล้ว ทำได้ขนาดนี้ถือว่าดีมากแล้วล่ะครับ
-
มาดูที่ล้อแม็กกันบ้างครับ
เป็นแบบ 205/65 R15 เป็นยางยี่ห้อ deestone ล้อแม็กล้างยากมาก ต้องเอาผ้ายัดเข้าไปในรูถึงจะล้างได้
-
ด้านหลัง ไฟท้าย เป็นแบบ แดงเหลืองครับ ดูมีมิติในตอนกลางคืน
กันชนจะเหมือนกับด้านหน้า คือ มีสีดำคาดอยู่กับสีของรถครับ ซึ่งผมเคาะแล้วเจ็บมือมากครับเพราะมันแข็งมาก
-
มาดูภายในกันบ้างครับ
เริ่มที่เบาะหนังเป็นเบาะปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ปรับสูงต่ำ ได้ และที่พิเศษมากในรถคันนี้ก็คือ สามารถปรับพนักพิงหัวด้วยระบบไฟฟ้า อันนี้สุดยอดมาก
-
มาดูที่พวงมาลัยครับ วงใหญ่มาก เวลานั่งเข่าชอบชน บริเวณพวงมาลัยจะมีปุ่มกดแตร 4 ปุ่ม คือ ด้านบน 2 ข้าง และด้านล่าง 2 ข้าง
ด้านหลังพวงมาลัยก็จะมีสวิตซ์ปรับใบปัดน้ำฝนและปรับสัญญาณไฟเลี้ยว
-
คอนโซลกลางครับ
แอร์แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า สามารถเลื่อนขึ้นลงไปมาได้
ปุ่มปรับแอร์เป็นหมุน มีเบอร์ให้เลือก 1-4 และอุณหภูมิตั้งแต่18-26 แอร์เย็นค่อนข้างที่จะช้า และมีปัญหามากในเรื่องระบบแอร์ ต้องเปลี่ยนคอมหลายครั้ง
ระบบเครื่องเสียง คันนี้ใช้ ยี่ห้อ sony ใส่ซีดีได้ 1 แผ่น เสียงก้อโอเคครับ แต่ไม่ถึงกับดีมากเท่าไหร่
ด้านข้างเกียร์ มีแผงลายไม้พลาสติกทำให้ดูดี มีราคาครับ
-
ส่วนที่เห็นทางด้านซ้ายเป็นเก๊ะใส่ของ แต่ว่ารถโดนงัดกระจกครับ ทำให้ลิ้นชักพัง และน็อตหลุดหมดเลย ตอนนี้กำลังเอาไปซ่อมครับ
-
แผงหน้าปัด เป็นรูปทรงคล้ายๆหกเหลี่ยม
มีมาตรวัดรอบและมาตรวัดความเร็ว
ที่วัดระยะเป็นแบบดิจิตอลครับ
กลางคืนไฟหน้าปัดแบบสีส้ม ทำให้สบายตาเวลานั่งหรือขับ
-
ด้านหลังครับ ค่อนข้างที่แคบนิดนึงต้องปรับเบาะหน้าขึ้นไปนิดนึงถึงจะนั่งได้
และตอนนี้เป็นปัญหาสำหรับผมก็คือ ศีรษะติดหลังคา ผมสูง171
-
เบาะนั่งด้านหลังค่อนข้างจะแข็งครับ นั่งไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่
-
ช่องแอร์ด้านหลัง สามารถปรับความเย็นได้ แต่ให้ผมพูดตรงๆนะครับ ไม่มีความเย็นเลย ปิดไปเลยดีกว่า
ด้านบนนิดนึง เป็นที่ปรับแผงบังแดดด้านหลังครับ ใช้ระบบไฟฟ้า
-
รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์แบบ 2.5 ลิตร หรือ 2,494 ซีซี 192 แรงม้า
อัตราเร่ง0-100 9วิปลายๆ
ความเร็วสูงสุดเคยทำอยู่ที่ 230 กม/ชม
-
อัตราการสิ้นเปลือง เฮ้อ ไม่อยากจะพูดเลย แต่จำเป็น 555
ในเมืองอยู่ที่ 5-7.0 กม/ลิตร
นอกเมือง อยู่ที่9-10กม/ลิตร
เฉลี่ย 7.5-8.0 ลิตร
แต่ว่ารถคันนี้ได้ผ่านการติดแก๊ส lpg มาเรียบร้อยเพราะสู้ค่าน้ำมันไม่ไหว 55
กิโลนึง ก็ 1.70 บาท ก็ถือว่าประหยัดมากขึ้นครับ วิ่งได้ระยะทางประมาณ 300 กม./ถัง
-
การขับขี่
โดยรวมแล้วน่าประทับใจมากครับ เพราะว่ามันไม่โคลง นั่งแล้วไม่เวียนหัว ในความเร็วสูงๆ
อัตราเร่งเร้าใจมากครับ เร่งแซงอะไรดีมาก
เกียร์เป็นแบบ 4 สปีด ครับ การตอบสนองถือว่าดี ครับ
-
สรุป รถมันก็จะ20 ปี แล้ว แต่ยังมีความสวยงามในตัวเองสูง แต่ก็มีปัญหามากๆเป็นธรรมดาครับ เช่น คอมแอร์เสีย ลูกปืนล้อแตก เครื่องสั่นบ่อยๆเป็นเจ้าเข้า
เครื่องชอบดับเวลาถอยหลัง แต่ว่าตอนนี้ก็ได้ซ่อมแซมเกือบหมดแล้วครับ โดยรวมแล้วใช้คันนี้แล้วประทับใจครับ เพราะมันดีกว่ารถเบนซ์คันเก่าของแม่ ที่เร่งไม่ขึ้นเอาซะเลย
ปล. ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณครับที่ติดตามชม
-
ขอบคุณมากครับสำหรับ Review
กินนอกเมือง 9-10 กม./ล. นี่ก็ถือว่าสมกับตัวรถอยู่นะครับ (อาจจะไม่สมกับเงินในกระเป๋าไปบ้าง)
ปล. กางเกงน่ารักจริงๆ อิอิ
-
55 ขอบคุณครับ
-
รถ20ปีที่แล้วนี่ ถ้าขนาดนี้เจ๋งโคตร เมื่อก่อนตอนที่เป็นรถใหม่ ราคาเท่าไหร่เนี่ย
-
ประมาณ 2 ล้านปลายๆ ครับผม
-
รถรุ่นนี้ดีมากๆครับ ที่บ้านผมใช้มาแล้ว 2 คัน แต่อาผมก็คว่ำมันทั้งสองคัน
ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาเป็น E39 กับ E60 ทั้ง 2 คนและ
แต่ผมงงนิดนึง 2500cc 0-100 นี่ 9วิ ตาม spec หรือจับเองครับ
-
ตามสเปกครับ
-
ขอบคุณมากครับน้องแทน
รีวิวอ่านง่ายๆ สั้นๆ จบเร็วดีครับ
-
F10 ต้องเรียกปู่และคันนี้ :o
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครั้งนี้ครับ ผมว่าตัวนี้มันดูยังไงก็ยังสวยนะครับแถมแต่งขึ้นด้วย ฮ่าฮ่า
-
เห็นอัตราการบริโภคน้ำมันแล้วตกใจเลยครับ
-
ผมก็ตกใจเหมือนกันครับ
ปล. เข้ามาดูและติชมกันเยอะๆนะครับ จะได้ปรับปรุง อยากให้ลงรูปส่วนไหนบอกมาได้เลยครับ ถ่ายมาเยอะ
-
ขอบคุณครับ สภาพยังสวยอยู่เลย
-
รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกันกับที่บ้านผมเคยมี ตอนนั้นมีคนมายืมเงินพ่อแล้วเอารุ่นนี้ แบบนี้ สีนี้เลย
มาจำนองไว้กับพ่อผม ช่วงนั้นเลยได้มีโอกาสเทียบกันระหว่าง W124 กับ E34 ชัดๆ แล้วก็
ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมวัยรุ่นมีแนวโน้มจะชอบ BMW มากกว่า
อัตราเร่งสเป็คบอกประมาณ 9.1 แต่ลองของจริง ได้ประมาณ 10.2 ซึ่งต้องเข้าใจว่า
ตอนที่ลองนั่นรถก็อายุ 8-9 ปีได้ แต่ความเร็วปลายนั้นไหลจริง E34 525i ตัวนี้ยังมีเฟืองท้าย
ที่ทดต่ำแต่เฟืองเกียร์ทดเกียร์ 4 เท่ากับ 1.00 รวมแล้วความเร็วปลายหลัง 200 ไหลดีกว่า
525iA 2.4 รุ่นหลังปี 93 ซึ่งใช้เฟืองท้ายทดจัด 4.1 แต่เกียร์ 4 เป็น overdrive
ขนาดมาอยู่แค่ไม่นาน ยังหมดเงินซ่อมมันไปเสียเยอะ โดยเฉพาะกับแอร์
อัตราการกินน้ำมันในเมืองก็ 6 โลลิตร กินไม่ต่างจากรถ 124 ของผมที่เป็นเครื่อง 2.6 ลิตร
หัวฉีดกลไกกึ่งไฟฟ้าเก่าๆ
-
ดูแลรถดีจังครับ ;D ;D ;D
-
ขอบคุณครับผม :D
-
ชอบรุ่นนี้มากๆเลยครับ ตัวถังดูบึกบึนดี เหมือนรถถังเลย
เคยนั่งของเพื่อน กดบนโทลล์เวย์ 160 ยังนิ่ง ไม่มีส่าย ขนาดรถอายุมากแล้ว
ตัวรถหน้ายาวมากกกก แต่เบาะหลังแคบไม่สมขนาดรถเลย
ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ทั้งช่วงล่างปีกนกเฉียง เลยเอาเนื้อที่ไปหมด
แต่โดยรวมประทับใจครับ ถึงจะเก่าแต่ก็เก๋า ทุกวันนี้ก้ยังอยากได้อยู่
-
เด๋วผมจะรีวิวเจ้า 39 ใว้เปรียบเทียบละกันคับ
แต่แทบจะคล้ายกับ อี34เลยคับ
แต่อี34 แรงม้าเยอะกว่าอี39ครับ 39ตัวปี2002 184 ตัวเองคับ แต่เครื่องหายไป100ซีซี 5เกียร์อีกต่างหาก ผมว่าขับไม่มันเลยคับเรื่องอัตราเร่งด้อยกว่า e34 คันเก่าพอผมเยอะเลย
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะน้อง อ่านเสร็จแล้วกลับมาดูรถเราเอง ปี 93 อีก ไม่ถึง 2 ปี อายุก็จะครบ 20 ปีละ มันจะมีอายุถึงไม่น้อ
-
กินแก๊ส 8 กิโลลิตร เท่าๆกับ nv ของผมเลย ;D(จะวางเครื่องใหม่แล้ว)
-
ผมว่ากินไม่จุมากหรอกคร้าบบบ เทียบกับเครื่อง 2,500 cc 192 แรงม้ากับตัวรถอันใหญ่โตและหนัก ผมว่าตาเพชรที่บ้าน(ซึ่งเป็นอดีตไปเมื่อไม่นาน)ปี 92 หัวฉีด 135 แรงม้าในเมือง 6-7 โล/ลิตรนอกเมือง 10-11 โล/ลิตรผมว่าตาเพชรดกินกว่าเยอะเลยแต่ผมที่บ้านก็รักมันสุดๆ(จนไม่กล้าไปกินแก๊ส)เลยขายไป ให้คนรู้จักตอนนี้เอาไปติดแก๊สแล้วประมาณ 1.30-1.50 บาท/กม.(เขาบอกมานะครับ)
ปล.ว่าแต่ดีจังนะครับโรงเรียนปิด ผมโรงเรียนเปิดไม่ได้แตะคอมมาตั้งหลายวัน
-
ผมว่ากินไม่จุมากหรอกคร้าบบบ เทียบกับเครื่อง 2,500 cc 192 แรงม้ากับตัวรถอันใหญ่โตและหนัก ผมว่าตาเพชรที่บ้าน(ซึ่งเป็นอดีตไปเมื่อไม่นาน)ปี 92 หัวฉีด 135 แรงม้าในเมือง 6-7 โล/ลิตรนอกเมือง 10-11 โล/ลิตรผมว่าตาเพชรดกินกว่าเยอะเลยแต่ผมที่บ้านก็รักมันสุดๆ(จนไม่กล้าไปกินแก๊ส)เลยขายไป ให้คนรู้จักตอนนี้เอาไปติดแก๊สแล้วประมาณ 1.30-1.50 บาท/กม.(เขาบอกมานะครับ)
ปล.ว่าแต่ดีจังนะครับโรงเรียนปิด ผมโรงเรียนเปิดไม่ได้แตะคอมมาตั้งหลายวัน
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมโรงเรียนพี่ชอบปิดเร็ว โรงเรียนเอกชนที่มีคาทอลิกด้วย ยังปิดช้ากว่านี้เลย แต่ก็ดีครับ ได้หยุดยาวเลย 2 อาทิตย์ สบายแฮ 55 :D
-
สวยมากครับ ;D
-
ขอบคุณครับพี่ ;D
-
ผมว่ากินไม่จุมากหรอกคร้าบบบ เทียบกับเครื่อง 2,500 cc 192 แรงม้ากับตัวรถอันใหญ่โตและหนัก ผมว่าตาเพชรที่บ้าน(ซึ่งเป็นอดีตไปเมื่อไม่นาน)ปี 92 หัวฉีด 135 แรงม้าในเมือง 6-7 โล/ลิตรนอกเมือง 10-11 โล/ลิตรผมว่าตาเพชรดกินกว่าเยอะเลยแต่ผมที่บ้านก็รักมันสุดๆ(จนไม่กล้าไปกินแก๊ส)เลยขายไป ให้คนรู้จักตอนนี้เอาไปติดแก๊สแล้วประมาณ 1.30-1.50 บาท/กม.(เขาบอกมานะครับ)
ปล.ว่าแต่ดีจังนะครับโรงเรียนปิด ผมโรงเรียนเปิดไม่ได้แตะคอมมาตั้งหลายวัน
ไม่หนักเท่าไหร่ ครับ ตันสามกว่าๆเอง หนักพอๆกะ ตาเพชรของน้องแทนแหละครับ ปล.ตาเพชรนี่ซดเยอะจริงๆ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับพี่ Tan
อีกไม่นาน ห้อง User's Voice เราก็คงจะมีทั้ง E34, E39 (จากคุณ teerapote), E60 (พี่ Ox เราทำไว้แล้ว) แล้วก็ F10 แล้วสินะ อิอิ <-- อันนี้ รอรับกลับมาบ้าน แล้วก็ขาดเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง รายละเอียดทางเทคนิค อุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลาย ก็พร้อมแล้วล่ะครับ
โดยส่วนตัว สัมผัสมาแล้ว 3 Gen. ติดต่อกันครับ (คุณอาเป็นแฟน 5-Series เลยล่ะครับ)
-
ขอบคุณมากครับ รถรักษาดีมากเลยครับ
หน้าปัดวัดความเร็วของBMWจะอายุเยอะยังไงก็ยังดูง่าย+ทันสมัยตลอดเลยครับ
สำหรับบ้านผมก็เคยเล่น525 V-NOSEเหมือนกันครับ เพราะตอนนั้นพ่อผมครั่งBMWมากๆแล้วก็เล่นV-NOSEเป็นคันสุดท้าย พ่อผมชอบมันมากเพราะว่า
ขับสนุก มากในสมัยนั้น :D
-
ผมว่ากินไม่จุมากหรอกคร้าบบบ เทียบกับเครื่อง 2,500 cc 192 แรงม้ากับตัวรถอันใหญ่โตและหนัก ผมว่าตาเพชรที่บ้าน(ซึ่งเป็นอดีตไปเมื่อไม่นาน)ปี 92 หัวฉีด 135 แรงม้าในเมือง 6-7 โล/ลิตรนอกเมือง 10-11 โล/ลิตรผมว่าตาเพชรดกินกว่าเยอะเลยแต่ผมที่บ้านก็รักมันสุดๆ(จนไม่กล้าไปกินแก๊ส)เลยขายไป ให้คนรู้จักตอนนี้เอาไปติดแก๊สแล้วประมาณ 1.30-1.50 บาท/กม.(เขาบอกมานะครับ)
ปล.ว่าแต่ดีจังนะครับโรงเรียนปิด ผมโรงเรียนเปิดไม่ได้แตะคอมมาตั้งหลายวัน
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมโรงเรียนพี่ชอบปิดเร็ว โรงเรียนเอกชนที่มีคาทอลิกด้วย ยังปิดช้ากว่านี้เลย แต่ก็ดีครับ ได้หยุดยาวเลย 2 อาทิตย์ สบายแฮ 55 :D
หยุด 2 อาทิตย์เลยอ่ะ อิจฉามากมาย
-
ขอบคุณมากครับ รถรักษาดีมากเลยครับ
หน้าปัดวัดความเร็วของBMWจะอายุเยอะยังไงก็ยังดูง่าย+ทันสมัยตลอดเลยครับ
สำหรับบ้านผมก็เคยเล่น525 V-NOSEเหมือนกันครับ เพราะตอนนั้นพ่อผมครั่งBMWมากๆแล้วก็เล่นV-NOSEเป็นคันสุดท้าย พ่อผมชอบมันมากเพราะว่า
ขับสนุก มากในสมัยนั้น :D
ขับสนุก นี่เห็นด้วยเลยครับ ตอนนั้นพี่ชายคนโตของผมนี่แหละที่เป็นคนลองท็อปสปีด และเร่งแซง แทรกไปแทรกมา ได้มันส์ดีครับ
-
คนดูน้อยจังครับ ช่วยๆดูกันเยอะๆหน่อย ภาพมีเพียบครับ ถ่ายมาเยอะ อยากได้ภาพไหนจัดให้ครับ
-
ถึงเก่าแล้วBMWก็ยังดูสวยอยู่นะคับ รุ่นบอดี้นี้พ่อผมก็เคยใช้ ดีจริงๆคับ เสียแต่ตอนนั่นยังอยู่ภายใต้ยนตระกระค่าซ่อมแพงมากๆ ขนาดพ่อผมใจรัก BMW ยังบ่นว่าแพงเลยคับ ดีที่ตอนนี้มีBSIนะคับไม่งั้นคงไม่ได้ใช้รถดีๆแบบนี้อีก
-
อัพเดทครับ ล่าสุด เบาะด้านนหน้าซ้ายพังแระครับ ผมปรับเอนทีเดียว เบาะกระชากเลย และก็พอปรับเบาะขึ้นมาเบาะเบี้ยวเลย ตอนนี้เอาไปซ่อมอยู่ครับ คงเสียหลายตังค์แน่ๆ แงๆ
-
เจ้าบีเอ็มงานเข้าแล้วครับ
ระบบไฟเบรกทั้งหมดเสียหมด
พวงมาลัยเริ่มไม่สมดุล ร่อนไปร่อนมา
เบาะหน้าเบี้ยว คือผมเอนธรรมดา เสร็จแล้ว ได้ยินเสียงดังพึ่บ ผมก็ตกใจพอดันเบาะขึ้นมาดันเบี้ยวผิดรูปซะงั้น
ตอนนี้เอาไปซ่อมแล้วครับ ช่างของพ่อพึ่งมาวันนี้ครับ เซ็งเลย
ว่าจะให้แม่จะใช้สักหน่อย
-
เสียซะน่ากลัวเลยนะครับ...........ยังดีที่เสียแค่รายละเอียดปลีกย่อย
ถ้าเครื่องยนต์เสีย คงน่ากลัวกว่าครับ
ขอให้แก้ปัญหาผ่านไปได้ด้วยดีครับ
-
ขอบคุณครับผม
-
อัพเดต กันอีกรอบครับ ตอนนี้เจ้าคันแดงของผมถูกได้รับการซ่อมทุกอย่างให้ดีกว่าเดิมแล้ว
พวงมาลัยเสถียรไม่แกว่งแล้ว
ระบบไฟเบรกเรียบร้อย
ไฟท้ายเรียบร้อย แล้วก็อื่นๆอีกหลายจุดซ่อมได้ดีกว่าเดิมแล้ว อิอิ ;D
-
สรุปเลยละกัน
ค่าซ่อมทั้งหมด 7600 บาท
- ไดชาร์จ
-คอมแอร์
เบาะ
ระบบไฟเบรกทั้งหมด
พวงมาลัย
ซ่อมเกียร์
นี่ถ้าไม่ใช่คนรู้จักของพ่อผม ทำงานอยู่ที่อู่นะ แล้วถ้าเข้าศูนย์แม่เจ้าเฉียดๆหลักแสนเลยทีเดียว
-
ฮือๆ เศร้าต้องซ่อมรถอีก 12000 รถโดนชน ซ่อมยาวเลยงานนี้
อีกไม่นาน ก็มี User Review c-class ให้ชมแน่นอนครับ
-
เคยจะซือ้รุ่นนี้นะครับ มือ2 ตัว big-nose แต่อายุมันเยอะแล้วแต่สวยนะๆ
เลยไปเล่น แอคคอรดงูเห่า และตอนนี้ขายไปแล้ว
มาใช้ w202 คันนี้ มีนานแล้วแต่จอดไว้เลยเอามาใช้
ขอบคุณสำหรับรีวิว ครับๆ รุ่นนี้ผมว่าสวย ดีนะ ล้อล้างยากน่าดู 55
ค่าซ่อม bmw เจอไปที อึ้งเลยครับ 55 ขนาด benz ว่าแพงแล้วนะเนี่ย