ผู้เขียน หัวข้อ: เกี่ยวกับเรื่อง ราคาขายต่อ vs สภาพการใช้งานรถยนต์  (อ่าน 4625 ครั้ง)

ออฟไลน์ Na

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
ผมเอง ใช้ Jazz mc v at ราคาซื้อ 660,000 ใช้งานในเมือง ขับแบบธรรมดา 60-120 เฉลี่ย 12-14 km/l วิ่งประมาณปีละ 12,000 โล เข้าศูนย์เช็คสภาพโดยตลอด
อยากจะขอความเห็นครับ

1. ถ้าผมใช้รถ ไปสัก 4 ปี วิ่งไป 48,000 โล แล้วขายต่อ?
2. ใช้ไปสัก 5 ปี วิ่งไป 60,000 โล แล้วขายต่อ?
3. ใช้ไปสัก 6 ปี วิ่งไป 72,000 โล แล้วขายต่อ?
4. ใช้ยาว ไปสัก 7-8 ปี วิ่งไป 84,000 - 100,000 โล แล้วขายต่อ?

แบบไหน คุ้มค่ากว่ากันครับ ถ้าวัดความคุ้มค่า จากการได้ขับรถในสภาพที่ดี, ค่าเสื่อม และ ราคาขายต่อ แล้วไปซื้อคันใหม่???

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,486
    • อีเมล์
น่าจะซัก 7 ปีมั้งครับ
หลังปีที่ 6-7 ก็คงเริ่มมีซ่อมกันบ้าง ขายตอนนั้น อาจจะคุ้มค่า
ต้องดูว่าเราดูแลรักษารถแค่ไหนด้วยมั้งครับ

ผมใช้มากำลังจะครบปีที่ 10 วิ่งมา 180,000 โลกว่าๆ ยังไม่เคยซ่อมใหญ่เลย
มีแค่เปลี่ยนยาง เปลี่ยนสายพาน เปลี่ยนผ้าเบรค
รวมๆแล้วก็ไม่เกิน 4,000-5,000 บาทต่อปี

แต่ B-segment ราคาตกต่อปีไม่เยอะอยู่แล้วครับ
ถ้าเทียบกับ segment อื่นๆ จริงๆอยู่ที่ความอยากเรามากกว่า
อยากซื้อใหม่รึเปล่า 5555

ออฟไลน์ Disk™

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,153
  • High Society Sallon Gallery
ถ้าขายตอนที่โฉมยังไม่เปลี่ยน จะได้ราคาดีกว่า
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,548
รถยิ่งใช้นาน ยิ่งคุ้ม ราคาตกตอนแรกจะเยอะกว่าตอนหลัง ยกเว้นจะพังเกือบทั้งคันซื้อใหม่ดีกว่าซ่อมศูนย์ เช่นเปลี่ยนเครื่อง เกียร์จากศูนย์

ออฟไลน์ simcity

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,371
 ถ้าหารเฉลี่ยต่อปีออกมา ข้อ 4 คุ้มสุด ครับ

คิดเล่นๆ ว่า ถ้าราคารถลงปีละ 10% ของมูลค่าของมัน

 (ไม่รู้มีใครคิดแบบนี้รึเปล่า แต่ผมมักจะคิดแบบนี้)


มือ 1   660,000 บาท

ผ่านไปปีแรก ราคาลง 66,000 บาท  เหลือ 594,000 บาท

ปีที่สอง ราคาลง 59,400 บาท เหลือ 534,600 บาท

ปีที่สาม ราคาลง 53,460 บาท เหลือ 481,140 บาท

ปีที่สี่ ราคาลง 48,114 บาท เหลือ  433,026 บาท

ปีที่ห้า ราคาลง 43,302 เหลือ 389,724 บาท


คิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะเห็นว่า ปีหลังๆ ราคาจะลงน้อย คิดหารเฉลี่ยการใช้รถทั้งหมด กับราคาที่หายไป

ยิ่งใช้นาน ก็ยิ่งคุ้ม 

ปล. % ของราคาที่ตกลง ขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถ ถ้ารถตลาดอาจจะลงน้อยกว่า 10% เช่น Toyota อาจจะลงปีละ 7-8 %

ส่วนรถยุโรป หรือ รถที่ราคาตกเร็ว อาจจะลงมากกว่า 15% ต่อปี ครับ  และขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด

รวมถึงเต๊นท์ก็มีส่วนในการกำหนดราคาครับ
 

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,085
ต้องเอาราคาซื้อรถใหม่มาคิดด้วยครับ ว่าขายไปจะใช้อะไร ผ่อนเดือนเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไรต่อ 

แล้วค่อยคำนวณรวมๆกับที่คุณ simcity บอกเรื่องราคาขายไว้ด้วยกันครับ

ออฟไลน์ Action

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,667
ใช้ 5 ปี คิดตามเหมาจ่ายแบบคร่าว ๆ ราคารถส่วนมากจะตกไปประมาณ 40% กรณีรถตลาดบ้าน ๆ ตามที่เต้นท์รถประเมินนะหรืออาจจะต่ำกว่านี้ตามสภาพ

ขอยกตัวอย่างกรณีผมละกันนะครับ ;D

     รถคันเก่าของอดีตแฟน(ปัจจุบัน ผบ.ทบ.) Honda Civic Top 2.0 ปี 2006 โฉม FD ตัวแรก
     แต่งมูเก้เต็มจากศูนย์ ซื้อมาป้ายแดงตอนนั้นล้านเอ็ดกว่า ๆ มั้งถ้าจำไม่ผิด
     ผมพึ่งขายไปเมื่อต้นปีที่แล้ว เอาไปให้เต้นท์ประเมิน(เล่นๆ)เขารับแค่ 620,000 บาท(อันนี้ราคาสูงสุดนะ ยังมีต่ำกว่านี้แบบว่าเจ็บปวดเลย)
     แต่เอาเข้าจริงขายให้กับคนธรรมดาทั่วไปได้ 690,000 บาท(แถมน้ำมันให้ไปเต็มถังอีกแหนะ)
     เลขไมล์ก็เก้าหมื่นนิด ๆ ไม่มากไม่น้อย กลาง ๆ ที่ปีละประมาณ 20,000 โล
ถึงรถผมจะไม่แรง แต่ก็ยังแซงทุกคันไม่เว้น...
Honda Civic 3dr. '96
Chrysler Neo '98
BMW 320i '01
Honda Civic FD 2.0 '06 > Sold
Mazda BT-50 Pro '12

ออฟไลน์ Chris Evn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,155
รถ ยิ่งใช้ยาวยิ่งคุ้มครับ เพราะราคาตกน้อยลง
แต่ต้องดูค่าบำรุงรักษาประกอบ

ส่วนตัวคิดว่าใช่ยาวดีกว่า เพราะ Jazz ก็ไม่ได้ จุกจิก

ออฟไลน์ Korn Coconut

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 145
รักษาสภาพให้กิ๊บๆ แล้วขายเอง จะได้ราคา

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,486
    • อีเมล์
http://showroom.one2car.com/carDetail.aspx?car_id=c08550390

ยกตัวอย่างคันบน คงคุ้มค่าที่สุดละมั้งครับ
ขายต่อราคาดีที่สุดตอนนี้

ปี 2010 > ใช้รถมา 2 ปี
ซื้อมา รุ่น 1.2V 507,000 ขายได้ 489,000
(ส่วนใหญ่ที่ดูก็ราคาประมาณ 450,000+ สำหรับรถปี 2010-2011)

ขาดทุนไป 18,000-40,000 ในระยะเวลา 1-2 ปี

ออฟไลน์ Cool Runner

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
ช่วงแรกราคาตกเยอะ
ถ้าจะให้คุ้มก็ใช้ให้นานที่สุดพอเริ่มซ่อมบ่อยค่อยขาย
ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา

ว่าแต่ทำไมถึงคิดว่าจะขายต่อตั้งแต่แรก
สำหรับผทรถซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาขายต่อ ตอนนี้รถผมใช้มา 8 ปีกว่าวิ่งไปสองแสนเจ็ดแล้ว ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร
แค่ดูแลตามระยะทาง เปลี่ยนยาง โช้ค แบต แค่นั้น ยังใช้ต่อไปได้อีกนาน

ออฟไลน์ Na

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
ช่วงแรกราคาตกเยอะ
ถ้าจะให้คุ้มก็ใช้ให้นานที่สุดพอเริ่มซ่อมบ่อยค่อยขาย
ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา

ว่าแต่ทำไมถึงคิดว่าจะขายต่อตั้งแต่แรก
สำหรับผทรถซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาขายต่อ ตอนนี้รถผมใช้มา 8 ปีกว่าวิ่งไปสองแสนเจ็ดแล้ว ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร
แค่ดูแลตามระยะทาง เปลี่ยนยาง โช้ค แบต แค่นั้น ยังใช้ต่อไปได้อีกนาน

ที่คิดเรื่องขายต่อ ไม่ใช่ว่า Jazz ไม่ดีนะครับ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นรถที่คุ้มราคามากเลย
แต่ที่ถามเผื่อไว้เพราะว่ามี Plan จะ up เป็น C Segment ในอนาคตน่ะครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,085
ผมเคยคำนวณคร่าวๆแล้ว ถ้าจะให้คุ้มจริงๆคือ ใช้จนถึงช่วงที่ต้อง Overhaul ใหญ่เลยอ่ะครับ  หรือบางที ถ้าไม่ได้วิ่งเยอะ ใช้คันเก่าไปก็ยังคุ้มกว่าอยู่ดีครับ
อ้างจาก Mighty-X ถ้าขายเอาแบบง่ายๆ ก็น่าจะ 150000  แต่ผมทำเครื่อง+สีไปก็ราวๆแสนกว่าๆ  รวมๆแล้วเกือบๆสามแสน 
ไปซื้อคันใหม่ก็ไม่คุ้มอยู่ดี เพราะวิ่งน้อย เดือนนึงวิ่งไม่กี่ร้อยกิโล  +  กับ มันก็ไม่ได้กินน้ำมันเท่าไร เพราะเสียงเครื่องดัง ทำให้ชอบขับที่80-90มากกว่า 
ตอนนี้ขับมาสด้า 2  อารมณ์มันพาไปแถวๆ 110-130 ตลอด สรุปแล้ว กินไม่ค่อยต่างกัน 55+