ผู้เขียน หัวข้อ: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?  (อ่าน 11449 ครั้ง)

ออฟไลน์ matthew_unlimitedneeds

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2015, 23:55:24 »
ผมอยากรู้เรื่องความคุ้มค่าในการซื้อ
1.ความสบาย
2.ระบบความปลอดภัย
3.ค่า maintenance ความจุกจิกของเครื่อง
4. Image ของคนขับ ( อายุ 25 ปี )

แล้วถ้า 528i m sport กะดีกว่า diesel ไหมคับ??

ออฟไลน์ turbo_light

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2015, 23:58:53 »
เรื่องอื่นรู้ไม่มาก แต่ image อายุ 25 ปี ผมชอบ E300 AMG

ออฟไลน์ โอมายวาโมะชินเดริว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,282
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 00:20:01 »
1.ความสบาย -> E300 ครับพื้นที่ leg room ด้านหลังเยอะกว่า 528i
2.ระบบความปลอดภับ -> เท่ากันทั้ง2รุ่น
3.ค่า Maintenance -> อันนี้ถ้าเป็น E300 Hybrid น่าจะจุกจิกกว่า 528i ที่เป็นเครื่องเบนซินธรรมดาน่ะครับแถม BMW ได้เป็น BSI 5ปีอีกด้วย
4.Image คนขับอายุ 25 -> ถ้าเป็นวัยกำลังนี้ผมว่าไป 528i ดีกว่าน่ะครับเหมาะกับวัยคนหนุ่มๆชอบรถซีดานหรูซิ่งหน่อย

ส่วนเรื่อง 528i หรือ 525d นี้แล้วแต่ จขกท น่ะครับถ้าคิดว่าอยากประหยัดน้ำมันหน่อยและอยากได้อัตราเร่งกระชากๆติดเบาะไม่ลากปลายก็ไป 525d ครับแต่ถ้า จขกท ชอบเยียบ(ซิ่งจัด)เน้นความเร็วปลายไป 528i ครับ

ออฟไลน์ View

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,889
  • -SIXFLOOR-
    • อีเมล์
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 05:30:01 »
525d ดีกว่าครับความสบายสู้ไม่ได้ แต่ความสนุกบีเอ็มมันกว่า ค่าบำรุงรักษาน่าจะถูกกว่าเพราะเป็นดีเซลธรรมดา ไม่ใช่ดีเซลไฮบริด
2013 Honda City 1.5V
2013 Chevrolet Trailblazer 2.8 LTZ 4WD

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,805
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 07:58:37 »
1.ความสบาย - MB สบายกว่าแน่นอนครับ กว้างกว่า ช่วงล่างนุ่มกว่า แต่หากขับเอง BM จะกระชับกว่า ซิ่งกว่า
2.ระบบความปลอดภัย - น่าจะพอๆ กัน
3.ค่า maintenance ความจุกจิกของเครื่อง - BMW มากับ BSI ก็สบายใจไปมากนะครับ MB หากรถ 0 เข้าใจว่าก็มีประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะ แต่ไม่รวมจุกจิก บวกไม่ใช่รับผิดชอบทุกค่าใช้จ่าย อาจจะต้องดูดีๆ จุดนี้
4. Image ของคนขับ ( อายุ 25 ปี ) - อายุยังน้อย ไป BMW ได้ image ของความสำเร็จมากกว่านะผมว่า หากขับ MB เหมือนเอาของที่บ้านมาขับ (อันนี้ผมรู้สึกเอง)

ส่วน 528i หรือ 525d บอกเลยว่า ฟิลต่างกันเยอะ ชอบเนียนๆ เร่งเรื่อยๆ ลากรอบมันส์ๆ เสียงเพราะหน่อย ก็เบนซิน ชอบกระชาก ชอบเร่งๆ รับเสียงได้ และอยากประหยัด ไปดีเซลครับ ฟิลต่างกันมาก ผมใช้ทั้งคู่ ชอบเบนซิน BMW มากกว่าดีเซล น้ำมันลงมาเยอะละ เบนซินไม่แพงละครับ
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 08:24:29 »
เรื่องอายุตลาดเหลือเวลาพอๆกันไม่ต่างกันมาก
ถ้าผมเองเลือก 525d m sport ครับ E300 Hybrid ต้องลองขับเลยครับขับทั้งคู่ได้ยิ่งดีเลือกง่ายเลย

E300 มีบางอย่างในการขับขี่ที่ผมลองแล้วไม่ค่อยประทับใจความลื่นไหลเวลากดผมชอบ 525d มากกว่ารวมทั้งโดยรวมของตัวรถด้วย
ส่วนเรื่องความสวยงามอันนี้แล้วแต่ชอบแล้วครับส่วนลดเยอะทั้งคู่ช่วงนี้เช็คราคาหลายๆที่ครับ

ออฟไลน์ [email protected]

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 173
  • New X4 --> Satin dark grey
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 10:27:32 »
ความคุ้มค่า น่าจะพอกัน ครับ
แต่เรื่องภาพลักษณ์ อายุ25 น่าจะเลือก BM มากกว่า นะครับ
วัยรุ่นดี
Black  Teana
Black X1
Black GLC coupe
Black X4 --> Satin dark grey

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 12:04:25 »
จำเป็นหรือไม่ครับว่าต้อง M-Sport ถ้าไม่จำเป็น 525d หรือ 528i Luxury ก็พอครับ
ผมใช้อยู่ทั้ง 2 รุ่นแต่เป็น E300 AMG กับ 525d Luxury นะครับคำตอบยาวหน่อยนะครับ ยังไงก็ลองอ่านดูครับ

ข้อดีของ E300
1. Legroom คนนั่งหลังดีกว่ามาก
2. เครื่องเสียงดีกว่าเล็กน้อยแต่ถ้าเป็นตัว M-Sport เครื่องเสียงน่าจะสูสีกัน
3. ขับในเมืองเยอะๆ ประหยัดน้ำมันกว่า
4. รวมๆ ดูสวยลงตัวกว่า ยิ่งถ้าเป็นตัว M-Sport ผมทำใจรับ Skirt ท้ายรถไม่ได้จนต้องเปลี่ยนจากที่จอง M-Sport มาเป็น Luxury แต่ส่วนนี้ นานาจิตตังครับ
5. ระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำดีกว่า ถ้าขับทางไกลมืดๆ บ่อยๆ ช่วยได้เยอะเลย และของ MB ที่ไฟสาดตามโค้งยาวๆ ได้ด้วยครับ
6. ช่วงล่างแบบปรับได้ที่เพิ่งใส่เข้ามา เห็นคุณแพนกล่าวไว้ในคลิป Lexus ES300h ข้อนี้ผมไม่รู้ว่ายังไงเพราะคันที่บ้านซื้อมา lot แรกชุดที่เป็น CBU
7. หน้าปัดเรือนไมล์ ดูหรูกว่าของ BMW
8. ท้ายรถปิดด้วยระบบไฟฟ้าไม่ต้องออกแรงปิดเอง
9. มี Panoramic Glass Roof (ส่วนตัวผมไม่ชอบนะเมืองไทยเมืองร้อนอะ)
10. วงเลี้ยวของ E300 สุดยอดมากครับ แคบมากๆ และพวงมาลัยก็เจ๋งมาก หมุนสุดลงเลี้ยวไม่ถึงรอบครึ่งด้วย ดังนั้นถ้าต้องขับในเมืองลัดเลาะบ่อยๆ ขับง่ายกว่า 525d มากๆๆๆ เวลาเข้าห้างถอยเข้าจอดก็สบายกว่า
11. กล้อง 360 องศา อันนี้ดีกว่าแน่นอน 525d ให้แค่กล้องมองหลัง

ข้อเสียของ E300
1. มีกระตุกบางเวลาปรับเปลี่ยนการขับขี่จากระบบไฮบริดไปเป็นเครื่องยนต์ แต่จะเกิดเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำๆ 0-20 กิโลเมตร
2. Hill Start Assist ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีผมจอดรถหน้าทางลาดเข้าบ้านทีไรพอจะออกตัวรถถอยประจำ
3. คันเร่งหน่วงมากๆ ประมาณ 1 วินาทีมันเป็นรถที่เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการขับขี่ให้เข้ากับมัน
4. ช่วงล่างงั้นๆ พอๆ กับ Camry เองอะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นปรับสูงต่ำได้อาจจะดีขึ้นแล้วก็ได้
5. นั่งแล้วไม่นิ่มตึงตังมากครับ เก็บความรู้สึกทุกรอยต่อของถนนมาถ่ายทอดสู่ก้นคุณ
6. ขับทางไกลไม่ได้ประหยัดกว่า 525d ยกเว้นคุณจะล๊อคความเร็วนิ่งๆ ยาวๆ ได้ตลอดจริงๆ ซึ่งในความเป็นจริงมันทำไม่ได้ครับ สาเหตุมาจากคันเร่งของ MB ไม่ได้ไล่ละเอียดเหมือน BMW ใน Eco Pro Mode ทำให้จังหวะเร่งสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า ถ้าจะขับให้ประหยัดจริงๆ เท้าคุณต้องละเอียดมากๆ ผมลองแล้วเหนื่อยเกินไปครับ
7. ค่าบำรุงรักษาเยอะกว่า BMW แน่นอนเพราะไม่มี BSI ส่วนต่างค่าซ่อมบำรุงช่วง BSI 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร ผมตีว่าประมาณ 300,000 บาทครับ ดังนั้นเรื่องราคา E300 ราคาแพงกว่าชัดเจน 4,190,000 ส่วนลดน่าจะราวๆ 100,000 ส่วนต่างตรง BSI อีก 300,000 ดังนั้นราคาที่จะนำมาเทียบกับ BMW คือ 4,390,000 บาทนะครับ

ลองมาดูข้อดีของ 525d กันบ้าง ขอเป็นตัว Luxury นะครับตัว
1. อัตราเร่งที่ดีกว่า
2. ช่วงล่างที่ผมบอกได้เลยว่ามั่นใจกว่ามากๆ คนละระดับแต่ตอนนี้ E300 มีช่วงล่างปรับสูงต่ำแล้วอาจจะดีขึ้นแล้ว
3. ช่วงล่างนุ่มนวลกว่าเยอะ
4. ห้องโดยสารเงียบกว่าอย่างชัดเจนครับ
5. เกียร์อยู่ในตำแหน่งปกติและดูจะทนทานกว่าของ MB ของ MB ผมซ่อมสวิทซ์เปลี่ยนเกียร์ไปแล้ว 1 ครั้งตอนป้ายแดงเลย
6. ผมว่าเบาะนั่งของ 525d luxury นั่งสบายกว่า E300 AMG เยอะนะ ยิ่งเวลาขับทางไกลนี้เห็นชัดมากเลยครับ ผมขับไปกลับ กทม-เชียงใหม่ มือเดียวรวดเดียว สบายมากไม่มีเมื่อยหรือปวดหลังเลย ในขณะที่ผมขับ E300 จาก กทม-ภูเก็ต ทรมานมากพอนั่งขับไปซัก 1 ชั่วโมงขาผมจะเริ่มชาเพราะเลือดเดินไม่สะดวกเลยทีเดียว ปล. ผมเป็นคนก้นใหญ่ขาใหญ่นะ แต่ไม่เท่าคุณแพนแน่นอน
7. Eco Pro Mode จะทำให้คุณขับรถได้นิ่มนวลมากและประหยัดน้ำมันมากด้วยผมอยู่ประจำเส้น จรัญฯ 13 ไปกลับโรงงานแถว บางใหญ่ เฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 กิโลลิตร ครับ และเคยลองจับอัตราสิ้นเปลืองทริปไปเที่ยว ปากช่อง วังน้ำเขียว ได้ 19.37 กิโลลิตรครับ
8. เกียร์กับคันเร่งของ 525d ทำอัตราสิ้นเปลืองช่วงความเร็ว 40-80 ได้ดีกว่า E300 ครับชัดเจนยกเว้นคุณจะขับ E300 ด้วย Cruise Control ตลอดช่วงความเร็วดังกล่าว
9. ช่วงเร่งแซงขับง่ายกว่าแม้ว่าจะอยู่ใน Eco Pro Mode เพราะคุณแค่ดันหัวเกียร์ไปทางซ้ายก็จะเป็น Mode Sport แล้ว
10. ราคา 525d ส่วนลดมาแน่ๆ 300,000 บาท แถมฟิล์ม ต่อดีๆ แถมประกันอีกและมี BSI ดังนั้นเมื่อจะเทียบราคาที่จะใช้เปรียบเทียบรถ 2 คันนี้คือ
3,690,000 กับ 4,390,000 ครับหรือง่ายๆ ต่างกันกัน 600,000 บาทยิ่งถ้าเป็นรุ่น Luxury ก็เป็น 700,000 บาท
11. ถ้าเป็นรุ่น Luxury ล้อ 4 ล้อเท่ากันผมว่าประหยัดเงินเรื่องการเปลี่ยนยางและราคายางด้วย นอกจากนั้นล้อเล็กกว่าทำให้อัตราเร่งดีขึ้นและอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นด้วยครับ
** 12. เพิ่มเติมอีกข้อครับประตูของ F10 LCI รุ่น 525d หรือ 528i จะเป็นประตูดูดนะครับ

สุดท้ายข้อเสียของ 525d
1. Legroom ที่นั่งหลังมันน้อยไปนะสำหรับรถขนาดนี้ถ้าคุณมีคนตัวใหญ่นั่งหลังประจำบอกได้เลยว่าอย่าซื้อ
2. ลัดเลาะในเมืองไม่ค่อยสะดวก
3. Auto Hold ของ BMW มันเป็นปุ่มเปิดการทำงาน บางครั้งจะถอยจอดหรือขับไหลๆ ในเมืองใช้งานไม่สะดวกเลยต่างกับของ MB ที่ใช้การย้ำแป้นเบรคแทนซึ่งเราสามารถเลือกเวลาที่เราต้องการใช้ได้สะดวกกว่ามาก
 **4. เพิ่มเติมครับ ห้ามลืมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เองครับเพราะ BSI ไม่เปลี่ยนให้แล้วเกียร์จะไปพังหลังหมด BSI ซึ่งแพงมาก
ตอนนี้นึกออกประมาณนี้ครับลองพิจารณาดูแล้วกันครับว่าคันไหนเหมาะกับตัวคุณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 18:17:43 โดย Pat.Lee »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,539
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 13:08:39 »
จำเป็นหรือไม่ครับว่าต้อง M-Sport ถ้าไม่จำเป็น 525d หรือ 528i Luxury ก็พอครับ
ผมใช้อยู่ทั้ง 2 รุ่นแต่เป็น E300 AMG กับ 525d Luxury นะครับคำตอบยาวหน่อยนะครับ ยังไงก็ลองอ่านดูครับ

ข้อดีของ E300
1. Legroom คนนั่งหลังดีกว่ามาก
2. เครื่องเสียงดีกว่าเล็กน้อยแต่ถ้าเป็นตัว M-Sport เครื่องเสียงน่าจะสูสีกัน
3. ขับในเมืองเยอะๆ ประหยัดน้ำมันกว่า
4. รวมๆ ดูสวยลงตัวกว่า ยิ่งถ้าเป็นตัว M-Sport ผมทำใจรับ Skirt ท้ายรถไม่ได้จนต้องเปลี่ยนจากที่จอง M-Sport มาเป็น Luxury แต่ส่วนนี้ นานาจิตตังครับ
5. ระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำดีกว่า ถ้าขับทางไกลมืดๆ บ่อยๆ ช่วยได้เยอะเลย และของ MB ที่ไฟสาดตามโค้งยาวๆ ได้ด้วยครับ
6. ช่วงล่างแบบปรับได้ที่เพิ่งใส่เข้ามา เห็นคุณแพนกล่าวไว้ในคลิป Lexus ES300h ข้อนี้ผมไม่รู้ว่ายังไงเพราะคันที่บ้านซื้อมา lot แรกชุดที่เป็น CBU
7. หน้าปัดเรือนไมล์ ดูหรูกว่าของ BMW
8. ท้ายรถปิดด้วยระบบไฟฟ้าไม่ต้องออกแรงปิดเอง
9. มี Panoramic Glass Roof (ส่วนตัวผมไม่ชอบนะเมืองไทยเมืองร้อนอะ)
10. วงเลี้ยวของ E300 สุดยอดมากครับ แคบมากๆ และพวงมาลัยก็เจ๋งมาก หมุนสุดลงเลี้ยวไม่ถึงรอบครึ่งด้วย ดังนั้นถ้าต้องขับในเมืองลัดเลาะบ่อยๆ ขับง่ายกว่า 525d มากๆๆๆ เวลาเข้าห้างถอยเข้าจอดก็สบายกว่า
11. กล้อง 360 องศา อันนี้ดีกว่าแน่นอน 525d ให้แค่กล้องมองหลัง

ข้อเสียของ E300
1. มีกระตุกบางเวลาปรับเปลี่ยนการขับขี่จากระบบไฮบริดไปเป็นเครื่องยนต์ แต่จะเกิดเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำๆ 0-20 กิโลเมตร
2. Hill Start Assist ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีผมจอดรถหน้าทางลาดเข้าบ้านทีไรพอจะออกตัวรถถอยประจำ
3. คันเร่งหน่วงมากๆ ประมาณ 1 วินาทีมันเป็นรถที่เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการขับขี่ให้เข้ากับมัน
4. ช่วงล่างงั้นๆ พอๆ กับ Camry เองอะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นปรับสูงต่ำได้อาจจะดีขึ้นแล้วก็ได้
5. นั่งแล้วไม่นิ่มตึงตังมากครับ เก็บความรู้สึกทุกรอยต่อของถนนมาถ่ายทอดสู่ก้นคุณ
6. ขับทางไกลไม่ได้ประหยัดกว่า 525d ยกเว้นคุณจะล๊อคความเร็วนิ่งๆ ยาวๆ ได้ตลอดจริงๆ ซึ่งในความเป็นจริงมันทำไม่ได้ครับ สาเหตุมาจากคันเร่งของ MB ไม่ได้ไล่ละเอียดเหมือน BMW ใน Eco Pro Mode ทำให้จังหวะเร่งสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า ถ้าจะขับให้ประหยัดจริงๆ เท้าคุณต้องละเอียดมากๆ ผมลองแล้วเหนื่อยเกินไปครับ
7. ค่าบำรุงรักษาเยอะกว่า BMW แน่นอนเพราะไม่มี BSI ส่วนต่างค่าซ่อมบำรุงช่วง BSI 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร ผมตีว่าประมาณ 300,000 บาทครับ ดังนั้นเรื่องราคา E300 ราคาแพงกว่าชัดเจน 4,190,000 ส่วนลดน่าจะราวๆ 100,000 ส่วนต่างตรง BSI อีก 300,000 ดังนั้นราคาที่จะนำมาเทียบกับ BMW คือ 4,390,000 บาทนะครับ

ลองมาดูข้อดีของ 525d กันบ้าง ขอเป็นตัว Luxury นะครับตัว
1. อัตราเร่งที่ดีกว่า
2. ช่วงล่างที่ผมบอกได้เลยว่ามั่นใจกว่ามากๆ คนละระดับแต่ตอนนี้ E300 มีช่วงล่างปรับสูงต่ำแล้วอาจจะดีขึ้นแล้ว
3. ช่วงล่างนุ่มนวลกว่าเยอะ
4. ห้องโดยสารเงียบกว่าอย่างชัดเจนครับ
5. เกียร์อยู่ในตำแหน่งปกติและดูจะทนทานกว่าของ MB ของ MB ผมซ่อมสวิทซ์เปลี่ยนเกียร์ไปแล้ว 1 ครั้งตอนป้ายแดงเลย
6. ผมว่าเบาะนั่งของ 525d luxury นั่งสบายกว่า E300 AMG เยอะนะ ยิ่งเวลาขับทางไกลนี้เห็นชัดมากเลยครับ ผมขับไปกลับ กทม-เชียงใหม่ มือเดียวรวดเดียว สบายมากไม่มีเมื่อยหรือปวดหลังเลย ในขณะที่ผมขับ E300 จาก กทม-ภูเก็ต ทรมานมากพอนั่งขับไปซัก 1 ชั่วโมงขาผมจะเริ่มชาเพราะเลือดเดินไม่สะดวกเลยทีเดียว ปล. ผมเป็นคนก้นใหญ่ขาใหญ่นะ แต่ไม่เท่าคุณแพนแน่นอน
7. Eco Pro Mode จะทำให้คุณขับรถได้นิ่มนวลมากและประหยัดน้ำมันมากด้วยผมอยู่ประจำเส้น จรัญฯ 13 ไปกลับโรงงานแถว บางใหญ่ เฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 กิโลลิตร ครับ และเคยลองจับอัตราสิ้นเปลืองทริปไปเที่ยว ปากช่อง วังน้ำเขียว ได้ 19.37 กิโลลิตรครับ
8. เกียร์กับคันเร่งของ 525d ทำอัตราสิ้นเปลืองช่วงความเร็ว 40-80 ได้ดีกว่า E300 ครับชัดเจนยกเว้นคุณจะขับ E300 ด้วย Cruise Control ตลอดช่วงความเร็วดังกล่าว
9. ช่วงเร่งแซงขับง่ายกว่าแม้ว่าจะอยู่ใน Eco Pro Mode เพราะคุณแค่ดันหัวเกียร์ไปทางซ้ายก็จะเป็น Mode Sport แล้ว
10. ราคา 525d ส่วนลดมาแน่ๆ 300,000 บาท แถมฟิล์ม ต่อดีๆ แถมประกันอีกและมี BSI ดังนั้นเมื่อจะเทียบราคาที่จะใช้เปรียบเทียบรถ 2 คันนี้คือ
3,690,000 กับ 4,390,000 ครับหรือง่ายๆ ต่างกันกัน 600,000 บาทยิ่งถ้าเป็นรุ่น Luxury ก็เป็น 700,000 บาท
11. ถ้าเป็นรุ่น Luxury ล้อ 4 ล้อเท่ากันผมว่าประหยัดเงินเรื่องการเปลี่ยนยางและราคายางด้วย นอกจากนั้นล้อเล็กกว่าทำให้อัตราเร่งดีขึ้นและอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นด้วยครับ

สุดท้ายข้อเสียของ 525d
1. Legroom ที่นั่งหลังมันน้อยไปนะสำหรับรถขนาดนี้ถ้าคุณมีคนตัวใหญ่นั่งหลังประจำบอกได้เลยว่าอย่าซื้อ
2. ลัดเลาะในเมืองไม่ค่อยสะดวก
3. Auto Hold ของ BMW มันเป็นปุ่มเปิดการทำงาน บางครั้งจะถอยจอดหรือขับไหลๆ ในเมืองใช้งานไม่สะดวกเลยต่างกับของ MB ที่ใช้การย้ำแป้นเบรคแทนซึ่งเราสามารถเลือกเวลาที่เราต้องการใช้ได้สะดวกกว่ามาก

ตอนนี้นึกออกประมาณนี้ครับลองพิจารณาดูแล้วกันครับว่าคันไหนเหมาะกับตัวคุณ


ชัดเจนมาก สุดยอดครับ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,400
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 13:53:39 »
1. ผมว่าพอๆกันครับ นั่งสบายพอได้แต่ไม่ได้สบายมากทั้งคู่ครับ

2. อันนี้ไม่ต่างกันครับแต่ถ้าสมรรถนะช่วงล่าง Series 5 น่าจะมั่นใจกว่าครับ

3. BMW มีBSI แต่ถ้าใช้จนหมดค่าอะไหล่จะแพงกว่า MB ครับ

4. ก้ดูดีพอๆกัน BMW อาจจะดู sport กว่านิดๆครับ

เรื่องนี้จากที่ผมใช้ ถ้าชอบดึงๆ และเป็นคนขับรถไม่ได้เร็วเกิน 180 บ่อยๆ 525d เวิคมากครับแต่ถ้าเน้นกดยาวๆ 528i ดีกว่าครับไม่ใช่ 525d มันปลายแย่นะครับแต่มันไม่สะใจอย่าง 528i แค่นั้นแหละ ถ้าไม่ห่วงค่าน้ำมัน 528i ดีกว่าผมเชียร์ แต่ถ้าห่วงก้ต้องดีเซลคับ

ออฟไลน์ KKOOB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 155
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 14:28:18 »
รบกวนสอบถามต่อนิดนึงครับ เห็นท่านข้างบนแจ้งว่า E300 ตอนนี้เป็นช่วงล่างแบบใหม่ ปรับสูงต่ำได้ แปลว่าตอนนี้เค้าให้ Airmatic มาเหมือน S-Class เลยหรอครับ เพราะ E-Class ช่วงล่างปรับได้มีแค่แบบเดียวคือ ช่วงล่างถุงลมแบบ Airmatic ไม่ใช่โช้คไฟฟ้าเหมือน BM เข้าไปดูในเวบก็ยังบอกว่าเป็นช่วงล่าง Direct Control เหมือนกันตั้งแต่ E200 ยัน E300 AMG

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,677
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 14:32:43 »
ไม่ได้ปรับสูงต่ำนะ
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดมันปรับแข็งอ่อนครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ KKOOB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 155
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 14:40:03 »
ปรับแข็งอ่อนของ MB ก็ต้องเป็น Airmatic เลยเหมือนกันนะครับ คือถ้าของ MB จะมีแต่ปรับไม่ได้เลย แล้วข้ามไปเป็น AIRMATIC เลย ปรับแข็งอ่อนด้วยโช้คไฟฟ้าเหมือน BMW นี่ E-Class ไม่มีนะครับ (หรือผมเข้าใจผิดมาตลอด)

ในเว็บเค้าจะเขียนว่าเป็น "Sporty Direct Control suspension with selective damping characteristics and 15mm lowered suspension" สำหรับรุ่น AMG
ส่วนรุ่นอื่นๆจะเป็น "Direct Control suspension with selective damping characteristics"

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 14:44:38 »
รบกวนสอบถามต่อนิดนึงครับ เห็นท่านข้างบนแจ้งว่า E300 ตอนนี้เป็นช่วงล่างแบบใหม่ ปรับสูงต่ำได้ แปลว่าตอนนี้เค้าให้ Airmatic มาเหมือน S-Class เลยหรอครับ เพราะ E-Class ช่วงล่างปรับได้มีแค่แบบเดียวคือ ช่วงล่างถุงลมแบบ Airmatic ไม่ใช่โช้คไฟฟ้าเหมือน BM เข้าไปดูในเวบก็ยังบอกว่าเป็นช่วงล่าง Direct Control เหมือนกันตั้งแต่ E200 ยัน E300 AMG

ขอบคุณครับ
ผมไม่แน่ใจนะครับว่าปรับ สูงต่ำหรือแข็งอ่อนกันแน่ แต่ได้ฟังคุณแพนกล่าวไว้ในคลิปของ Lexus ES300h ว่ามีการปรับเปลี่ยนเรื่องช่วงล่างของ E300 AMG ครับ เข้าใจว่าตอนที่ทาง MBTH ปรับราคาขึ้น 1 แสนบาทได้เพิ่ม Option กล้อง 360 องศากับตัวช่วงล่างนี้เข้ามามั้งครับ รบกวนผู้ที่ได้สอบถามจากทางศูนย์จริงๆ มายืนยันหน่อยก็ดีครับ

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 14:52:27 »
1. ผมว่าพอๆกันครับ นั่งสบายพอได้แต่ไม่ได้สบายมากทั้งคู่ครับ

2. อันนี้ไม่ต่างกันครับแต่ถ้าสมรรถนะช่วงล่าง Series 5 น่าจะมั่นใจกว่าครับ

3. BMW มีBSI แต่ถ้าใช้จนหมดค่าอะไหล่จะแพงกว่า MB ครับ

4. ก้ดูดีพอๆกัน BMW อาจจะดู sport กว่านิดๆครับ

เรื่องนี้จากที่ผมใช้ ถ้าชอบดึงๆ และเป็นคนขับรถไม่ได้เร็วเกิน 180 บ่อยๆ 525d เวิคมากครับแต่ถ้าเน้นกดยาวๆ 528i ดีกว่าครับไม่ใช่ 525d มันปลายแย่นะครับแต่มันไม่สะใจอย่าง 528i แค่นั้นแหละ ถ้าไม่ห่วงค่าน้ำมัน 528i ดีกว่าผมเชียร์ แต่ถ้าห่วงก้ต้องดีเซลคับ

ข้ออนุญาติขัดข้อ 3 นิดนึงครับ E300 AMG ค่าซ่อมผมว่าไม่เบาเหมือนเบนซ์รุ่นก่อนๆ แล้วครับถ้าเทียบศูนย์ต่อศูนย์ และ E300 AMG เป็นรถไฮบริดด้วยนะครับที่แน่ๆ ตอนป้ายแดงรถอายุประมาณ 4 เดือนสวิซท์เปลี่ยนเกียร์เสียรถวิ่งไม่ได้เลยนะครับต้องเรียกรถยก ต่อมารถยังไม่ถึง 2 ปีก็ต้องเปลี่ยนแบตที่ใช้ช่วยติดเครื่องไปแล้ว 1 ครั้งครับถ้าหมดประกันระบบไฮบริดท่าทางจะจุกจิกเอาเรื่องครับ ต่างกับของโตโยต้า AHV40 ใช้มา 6 ปีกว่าๆ แล้วยังไม่มีงอแงเลยครับ สุดท้ายค่าตัวต่างกัน 600,000 บาทนะครับถ้าใช้จนครบอายุสมมุติ 10 ปีผมว่าค่าบำรุงรักษา 525d ไม่น่าจะแพงกว่า E300 นะครับถ้าไม่ลืมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์

ส่วนเรื่อง 525d หรือ 528i ผมเห็นด้วยกับคุณ Ake ครับ ยิ่งตอนนี้ราคาน้ำมันแบบนี้ ค่าน้ำมันที่ประหยัดได้จะไม่คุ้มกับส่วนต่างค่าตัว 200,000 บาทเอาครับอาจจะต้องใช้ถึง 200,000 กิโลเมตรถึงจะคุ้มแต่ว่าราคาน้ำมันจะอยู่แบบนี้ตลอดไปรึเปล่า (ผมว่าไม่)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 14:58:41 โดย Pat.Lee »

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2015, 17:40:24 »
อิมเมจนี่ อายุ25 ผมว่าเบ้นหรือบีเอ็มก็ได้ครับ

ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องการประหยัด 528i M sport เข้าท่ามากกว่า

ออฟไลน์ tonph079

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2015, 11:37:43 »
2 ตัวนี้ถ้าขับเองชอบ 525D ครับ

แต่ถ้า อายุ 25 ผมแนะนำ 420D M sport เทห์ สุดๆๆ

ออฟไลน์ Harem

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,818
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2015, 12:50:58 »
ผมว่า E300 AMG น่าจะตอบความต้องการของคุณได้มากกว่าครับ

ออฟไลน์ ChiLun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
  • F10 525d M sport
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2015, 14:22:41 »

ถ้าเป็นผมตอนนี้อยากได้528i แล้วเอาไปปลดล๊อกแรงม้า เหตุเพราะถูกกว่าต่อรองได้เยอะกว่า คิดกับส่วนต่างที่ดีเซลแพงกว่าแต่น้ำมันถูกกว่าแล้วถ้าขับทางไกลไม่ค่อยเข้าเมืองรถติดมากๆเบนซินเกินพอ

ช่วงล่างบีเอ็มขับเร็วจะนุ่มหนึบ ขับช้าจะแข็งตึงตัง แต่ให้ความมั่นใจในการควบคุมได้ดีมากครับ

ออฟไลน์ despinaauto lci

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 418
  • MONEY
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2015, 18:09:06 »
    คุณ Pat Lee พูดถูกต้องมากครับ

    แนะนำ E200 ขับสบาย

    แต่ถ้าอายุเท่านี้ขับ บีเอ็ม แล้วจะชอบ
Last id: despinaauto
2003-ACCORD 3.0 gen 7(2008 sold)
2006-CIVIC FD 1.8(2012 sold)
2008-ACCORD 2.4 gen 8(2013 sold)
2012-E250 CGI
2013-520i F10
2013-E200 coupe sport facelift
2014-528i F10 lci M Sport
2014-320d F30 upgrade m performance power

ออฟไลน์ Sinplug

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 425
    • https://www.facebook.com/groups/4G64Club
    • อีเมล์
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2015, 20:35:29 »
อ่านเพลินเลย ไม่รู้จะแนะนำอย่างไร ไม่มีขับทั้ง 2 รุ่น
"ผมก็แค่กะบะเบนซิล''4G64 Turbo  แรงม้า XXX Max. Torque 618 N/m''  
Facebook: 4G64 Club Thailand/4G64T Club Thailand

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,549
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 00:20:06 »
5 ดีกว่าครับ นุ่มกว่า เนียนกว่า
E300 เบรคแปลกๆ แข็งๆ กระเทือนมากด้วย เร่งเฉยๆ ดูมีคนเจอปัญหาจุกจิกเยอะมาก อยากขายทิ้งก็หลายคัน

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 00:59:17 »
    คุณ Pat Lee พูดถูกต้องมากครับ

    แนะนำ E200 ขับสบาย

    แต่ถ้าอายุเท่านี้ขับ บีเอ็ม แล้วจะชอบ
E200 นุ่มจริงครับได้อารมณ์รถเบนซ์ที่นั่งแล้วนุ่มสบาย ผมเคยลองเอา E200 W212 facelift ของคุณอามาขับเสร็จแล้วมาต่อ E300 AMG รู้ซึ้งเลย E200 ถ้าขับชิลๆ นุ่มนิ่มชวนฝัน แต่พอนั่ง E300 ปั๊บนึกว่าขับรถแต่งซิ่งโหลดต่ำเลยครับ แต่ถ้าไป E200 ผมว่าไป 528i luxury ดีกว่าครับราคาพอๆ กันแต่อัตราเร่งทิ้งกันเยอะเลยผมว่า 0-100 และ 80-120 น่าจะต่างกันร่วม 2 วินาทีได้

ออฟไลน์ Nighthawk

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 481
  • Petrophysics & Formation Evaluation Consultant
    • bmwx3clubthailand
Re: E300 AMG กับ 525d m sport คันไหนดี?
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2015, 22:51:50 »
@ Khun Pat.Lee
ตอบได้สุดยอดมากครับ ใครได้มาอ่านตัดสินใจได้เลย โดยอาจไม่ต้องลองขับด้วยซ้ำ  :)