ผู้เขียน หัวข้อ: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)  (อ่าน 7502 ครั้ง)

ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 15:16:03 »
สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนครับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ลงกระทู้ Toyota Crown 60th celebration ไป วันนี้จะมาลงรูปรถยนต์ที่จัดแสดงใน TAM กันนะครับ โดยตัวพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงเป็น 2 ชั้นนะคับ ชั้นแรกเป็นรถอเมริกา และรถยุโรป  ส่วนอีกชั้นจะเป็นรถญี่ปุ่นครับ  กระทู้นี้จะลงส่วนรถยุโรปก่อนนะครับ พร้อมแล้วมาดูกันเลยครับ

หลังจากลงสถานีรถไฟสาย LINIMO สถานี Geidaidori ให้เดินย้อนมาทางแยกไฟแดงเล็กน้อย จะเจอกับ TAM ครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 15:24:56 »
หลังจากเดินเข้ามาในอาคาร ซื้อบัตรเข้าชมแล้ว ก็จะเจอ เจ้าคุณปู่ Toyota Model AA รอต้อนรับครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 15:35:34 »
หลังจากนั้นจะเข้าสู่โซนแรกครับ เป็นโซนประวัติของรถยุโรป และอเมริกา โดยจะแบ่งการจัดแสดงตามแต่ละช่วงปี ค.ศ.ครับ  โดยในยุคแรก จะเป็นช่วงปลายยุค ค.ศ. 1800 ครับ โดยตัวแทนของรถในยุคนี้คือ Benz Motorwagen ซึ่งเป็นรถสามล้อครับ และเชื่อกันว่าเป็นรถเครื่องเบนซินคันแรกของโลกครับ ผลิตในปี ค.ศ. 1886 ควบคุมด้วยก้านควบคุม (sterring stick). และมี top speed ที่ 15 km/h ครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 15:51:14 »
ต่อมาเข้าสู่ยุค 1900 ครับ
Isotta-Fraschini Tipo I เป็นรถหรูจากอิตาลีครับ ผลิตในปี 1908 วางเครื่องยนต์กำลังแรง 85 แรงม้า และรุ่นนี้ยังเข้าลงแข่งขันได้แชมป์มาหลายสนามด้วยครับ






ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 16:21:05 »
Hispano-Suiza Alfonso XIII รถจากสเปนครับ ผลิตในปี 1912 ครับ วางเครื่องยนต์กำลัง 65 แรงม้า โดยชื่อของรถรุ่นนี้ได้มาจากชื่อของ สมเด็จพระเจ้าอัลฟอนโซ ที่ 13 แห่งสเปนครับ ซึ่งพระองค์ได้รับรถรุ่นนี้เป็นของขวัญจากพระราชินีแห่งสเปนครับ




ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 18:01:45 »
Stutz Bearcat Series F จากประเทศสหรัฐอเมริกาครับ  ผลิตในปี 1914 เครื่องยนต์ 6,394 cc 60 แรงม้า ครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 18:08:00 »
Cadillac Model Thirty ผลิตในปี 1912 ครับ เป็นรถรุ่นแรกๆ ที่มีอุปกรณ์อย่าง self starting motor, กระจกกันลม, electric headlamps เป็นอุปกรณ์มาตรฐานครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 18:15:23 »
Cadillac Model A ปี 1902 รถยนต๋รุ่นแรกของคาดิลแลคครับ  ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการง่ายต่อการซ่อมบำรุงครับ เครื่องยนต์ 1600 cc 9.7 แรงม้า ครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 18:25:40 »
Baker Electric car ปี 1902 สหรัฐอเมริกาครับ บรรจุมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 1 แรงม้า top speed 40 km/h และวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 80 km ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 18:40:16 »
Bugatti Type 35B ปี 1926 ครับ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความสวยงาม และด้านการเป็น racing car ในยุคนั้นครับ



Bentley 4 1/2 Litre รุ่นนี้มีชื่อเสียงอย่างมากจากการชนะการแข่งขัน Le Mans ในช่วงยุค 1920 ครับ เครื่องยนต์ 4,398 cc 110 แรงม้า และด้วยเครื่องยนต์ และตัวถังที่ใหญ่และแข็งแรง จึงทำให้รุ่นนี้เป็นที่นิยมในการขับทางไกลครับ




ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 18:56:24 »
Alfa Romeo 6C 1750 Gran Sport ปี 1930 ครับ จุดเด่นคือ ตัวถังน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ DOHC supercharged 6 สูบ และรุ่นนี้ยังชนะการแข่งขัน Mille Miglia ด้วยครับ



Peugeot BeBe ปี 1913 ครับ ออกแบบโดย Ettore Bugatti ครับ บรรจุเครื่องยนต์ 855 cc 10 แรงม้าครับ



Austin Seven ปี 1914 ครับ บรรจเครื่องยนต์ 747 cc 10 แรงม้าครับ ผลิตขายทั้งหมด 250000 คัน ในระยะเวลา 17 ปี ครับ เป็นที่รุ้จักกันดีในอีกชื่อหนึ่งว่า Britain's Ford Model T ครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 19:21:44 »
Citroën 5CV ปี 1925 รุ่นนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการออกแบบ และได้รับความนิยมทั่วโลกเลยครับ



Daimler Type 45 ปี 1920 รุ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่ราชวงศ์ และชนชั้นสูงครับ เนื่องจากการออกแบบที่หรูหรา ใหญ่โต และเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบเมื่อเทียบกับรถยนต์ในยุคนั้นครับ



Minerva 30CV Type AC ปี 1925 รถยนต์จากเบลเยี่ยมรุ่นนี้ เป็นที่นิยมมากในหมู่ชนชั้นสูงและดาราฮอลลีวูดครับ



Duesenberg Model J รุ่นนี้เป็นคู่แข่งของ racing cars ของยี่ห้อต่างๆในยุคนั้นครับ บรรจุเครื่องยนต์ 6882 cc 265 แรงม้า ครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 19:47:53 »
ต่อมาในช่วงปี 1930 ได้มีการเปลี่ยนปลงเรื่องของการออกแบบครับ โดยเป็นยุคของ Streamlining design ซึ่งได้รับความนิยมมากในสหรัฐอเมริกาครับ ซึ่งรถยนต์ในช่วงนี้จะถูกออกแบบตามแนวทางนี้เป็นส่วนใหญ่ครับ

DeSoTo Airflow Series SE ปี 1934 ครับ รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นแรกๆ ในการนำเทรนด์ Streamlining นอกจากนี้ยังบรรจุ features ต่างๆที่ถือว่าทันสมัยในยุคนั้น แต่น่าเสียดายที่มันไฮเทคเกินไปในยุคนั้น จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมครับ



Citroën 11B ปี 1937 แหวกเทรนด์ ด้วยการเป็นรถ mass รุ่นแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าครับ



Fiat 500 Topolino ปี 1936 เป็นรถเล็กที่บรรจุเทคโนโลยีชั้นยอดในสมัยนั้นครับ เช่น ระบบกันสะเทือนคู่หน้าแบบอิสระ หรือ ระบบเบรกไฮโดรลิคทั้ง 4 ล้อครับ


ออฟไลน์ pisaa

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 90
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2015, 21:02:19 »
 ;D สวยๆทั้งนั้น ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 915
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 10:25:12 »

Bentley 4 1/2 Litre รุ่นนี้มีชื่อเสียงอย่างมากจากการชนะการแข่งขัน Le Mans ในช่วงยุค 1920 ครับ เครื่องยนต์ 4,398 cc 110 แรงม้า และด้วยเครื่องยนต์ และตัวถังที่ใหญ่และแข็งแรง จึงทำให้รุ่นนี้เป็นที่นิยมในการขับทางไกลครับ


จริงๆจะเสริมว่ามันมีชื่อเสียงจากนิยายของ Ian Fleming เจมส์บอนด์ด้วยนะครับ

ถ้าใครเคยอ่านตัวต้นฉบับของ Casino Royale จะรู้ว่ารถที่เจมส์บอนด์ขับในตอนนั้นคือ Bentley 4 1/2 Litre คันนี้

ปล รูปสวยมากขอบคุณครับ

ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 11:06:11 »

Bentley 4 1/2 Litre รุ่นนี้มีชื่อเสียงอย่างมากจากการชนะการแข่งขัน Le Mans ในช่วงยุค 1920 ครับ เครื่องยนต์ 4,398 cc 110 แรงม้า และด้วยเครื่องยนต์ และตัวถังที่ใหญ่และแข็งแรง จึงทำให้รุ่นนี้เป็นที่นิยมในการขับทางไกลครับ



จริงๆจะเสริมว่ามันมีชื่อเสียงจากนิยายของ Ian Fleming เจมส์บอนด์ด้วยนะครับ

ถ้าใครเคยอ่านตัวต้นฉบับของ Casino Royale จะรู้ว่ารถที่เจมส์บอนด์ขับในตอนนั้นคือ Bentley 4 1/2 Litre คันนี้

ปล รูปสวยมากขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ ;D ;D

ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 11:22:54 »
ต่อกันที่ Lincoln Zephyr Series HB ปี 1937 ครับ รุ่นนี้มีจุดเด่นที่มีการฝังโคมไฟหน้าเข้ากับตัวถังรถ  ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในยุคนั้นครับ อีกทั้งดีไซน์ของรุ่นนี้ก็ยังเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ VW Beetle ครับ  รุ่นนี้ใข้เครื่องยนต์ 4,380 cc 110 แรงม้าครับ



Cadillac Series 60 Special ปี 1938 รุ่นนี้มีจุดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ โดยใช้หลัก 3 box design ร่วมกับ Streamlined design ครับ ทำให้ตัวรถมีความโอ่โถง เหมาะแก่การใช้งานครับ  ใช้เครื่องยนต์ 5670 cc 135 แรงม้าครับ



ฺBugatti Type 57C ปี 1938 รุ่นนี้มีจุดเด่นเรื่องของการดีไซน์ที่ดูหรูหรา ปราดเปรียว และใช้เครื่องยนต์แบบ twin cam ผลิตจากอะลูมีเนียมคุณภาพสูงครับ



และก็มาถึง รถขวัญใจมวลมหาประชาชนครับ VW Beetle ออกแบบโดย Dr.Ferdinand Porsche ซึงรถรุ่นนี้ถูกออกแบบตามนโยบายของ Hitler ที่ต้องการให้มีรถราคาย่อมเยาว์ คุณภาพดี ที่ประชาชนเข้าถึงได้ครับ  รุ่นนี้มีจุดเด่นที่ การออกแบบแบบ Streamlined การใช้ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ และเครื่องยนต์วางหลังครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 11:45:14 »
Cisitalia 202 Coupe ปี 1948 รุ่นนี้มีจุดเด่นในเรื่องของความสวยงามครับ ออกแบบโดย Pininfarina และได้รับการยกย่องจาก Museum of Arts ว่าเป็น 1 ใน 8 รถยนต์ที่มีความสวยงามที่สุดในยุคนั้นครับ



Cadillac Series 60 Special ปี 1948 มีจุดเด่นในเรื่องของการดีไซน์กระจกบังลมหน้าแบบโค้ง และการออกแบบแพนหางด้านหลัง ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบครับ



Cord Front Drive Model 812 ปี 1937 ครับ มีจุดเด่นที่ใช้ไฟหน้าแบบพับเก็บได้ ( Retractable Headlamps ) และใช้ระบบส่งกำลังแบบ Vacuum shift gearbox ครับ



Rolls Royce Phantom III ปี 1937 อัครยานยนต์จากเกาะอังกฤษ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ที่พัฒนามาจากเครื่องยนต์อากาศยานครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 12:51:42 »
Mercedes Benz 500K ปี 1935 บรรพบุรษของ S class ครับ มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ OHV supercharged 8 สูบ ครับ



Tucker ปี 1948 รุ่นนี้เป็นที่ฮือฮาอย่างมากในช่วงเปิดตัว เนื่องจากดีไซน์ที่แหวกแนว ล้ำสมัยในยุคนั้น และมีระบบความปลอดภัยล้ำหน้าเมื่อเทียบกับรุ้่นอื่นๆในยุคนั้นครับ  แต่น่าเสียดายที่รถรุ่นนี้ผลิตได้เพียง 51 คัน เนื่องจากบริษัท Tucker ได้ถูกฟ้องล้มละลายครับ



Jaguar XK 120 ปี 1951 รถรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม และราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งยังเป็นรุ่นสำคัญที่ทำให้แบรนด์จากัวร์ เป็นที่ยอมรับและรู้จักทั่วโลกครับ


ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 13:48:38 »
Citroën 2CV Type A ปี 1953 รถรุ่นยอดนิยมของซีตรองในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ จุดเด่นคือระบบกันสะเทือนที่เคลมว่า นุ่มนวลจนสามารถทำให้ไข่ในตะกร้าไม่แตกถึงแม้จะวิ่งบนถนนที่พื้นผิวขรุขระครับ



รถยอดนิยมของมหาชนอีกรุ่นหนึ่งครับ Morris Mini-Minor ปี 1959 ออกแบบโดย Sir Alec Issigonis โดยออกแบบให้เป็นรถเล็กที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง ผู้ใหญ่ 4 คนสามารถนั่งได้อย่างสบายครับ  วางเครื่องยนต์แบบวางขวางครับ  และรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วครับ เนื่องจากราคาถูก นอกจากนี้ยัวงเป็นที่นิยมในหมู่ดารา นักร้อง เช่น จอห์น เลนนอน แห่งเดอะบีทเทิล ครับ ว่ากันว่า ต้นทุนในการพัฒนารุ่นนี้สูงมาก ไม่ว่าจะขายดีเท่าไหร่ ทาง British Leyland ( หรือ BMC ไม่แน่ใจนะครับ เพราะเปลี่ยนชื่อบ่อยเหลือเกิน ) แทบจะไม่ได้กำไรเลยครับ



Porsche 356 Coupe ปี 1951 ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ระบบช่วงล่าง และเครื่องยนต์จาก VW ครับ  แกนนำสำคัญในการพัฒนารถรุ่นนี้คือ Ferry Porsche บุตรชายของ Dr.Ferdinand Porsche ครับ




ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 17:48:10 »
ต่อกันที่ต้นตระกูลของ Corvette Chevrolet Corvette ปี 1953 ครับ ถูกผลิตมาเพื่อต่อสู้กับรถสปอร์ตจากเยอรมัน ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ



คู่แข่งจากเพื่อนร่วมชาติครับ Ford Thunderbird ปี 1955 ณ ตอนที่วางจำหน่ายถูกวาง position ให้เป็น Sporty and High quality personal car ใช้เครื่องยนต์ V8 OHV 4785 cc 195 แรงม้าครับ



Mercedes 300SL Coupe ปี 1955 มีจุดเด่นที่ประตูแบบปีกนก ( gull wing doors ) ใช้เครื่องยนต์ 3.0 L 6 สูบ OHC ครับ



Austin Healey Sprite ปี 1958 รถสปอร์ตขนาดเล็ก ราคาถูกจากเกาะอังกฤษครับ




ออฟไลน์ saintokung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • อีเมล์
Re: ตะลุย Toyota Automobile Museum (TAM) ใน 1 วัน (part1)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2015, 18:06:36 »
Ford Mustang ปี 1964 รถสปอร์ตในตำนานอีกคันหนึ่งจากอเมริกาครับ  รุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Ford Falcon และเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงครับ



Jaguar E-Type ปี 1965 รถสปอร์ตรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากมีจุดเด่นในเรื่องความสวยงาม ราคาย่อมเยาว์ครับ ใช้เครื่องยนต์ 4,235 cc DOHC 6 สูบครับ



ปิดท้ายที่ Alfa Romeo 1300GT ปี 1968 ครับ รุ่นนี้ถูกพัฒนามาจากรุ่น Giulia ครับ ใช้เครื่องยนต์ 1.3L twin cam 4 สูบ 90 แรงม้า



จบแล้วนะครับสำหรับโซนจัดแสดงรถยุโรปและสหรัฐอเมริกา  สำหรับโซนรถญี่ปุ่นจะแบ่งเป็น part ต่อไปครับ ขอบคุณที่ติดตามชมครับ