ผู้เขียน หัวข้อ: มือสอง 2002-2004 BMW X5 E53 4.4i ปัญหาและลักษณะการใช้งาน  (อ่าน 7907 ครั้ง)

ออฟไลน์ octo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
พอดีดูมือสอง X5 E53 4.4i ปี 2002-2004 วิ่งมาเกินแสนโล อยากสอบถาม การซ่อมแซม ปัญหารถ สมรรถนะรถ อัตราการกินน้ำมัน อัตราเร่ง แล้วอะไหล่อู่นอกจะยังมีไหมครับ ผมจะเอาไว้ใช้ขับเข้าไซค์งานก่อสร้าง ต่างจังหวัด เป็นรถสำรอง

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,782
    • อีเมล์
Re: มือสอง 2002-2004 BMW X5 E53 4.4i ปัญหาและลักษณะการใช้งาน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2015, 12:51:50 »
ที่บ้านใช้ E53 3.0i ปี 2005 ครับ วิ่งมาเกือบจะสองแสนโลแล้ว


ปัญหาหลักๆที่ซ่อมใหญ่ไปก็มีแค่ พัดลมหม้อน้ำ แค่นั้นเองครับ นอกนั้นไม่มีอะไรจุกจิกให้กวนใจเลย

สมรรถนะตัว 3.0 ก็ต้องบอกไปทางที่อืดหน่อย แต่ถ้า 4.4 ผมว่าเรี่ยวแรงอาจจะใช้ได้เลย...

อัตราการกินน้ำมัน.... ทำใจหน่อยนะครับ 3.0 วิ่งในเมืองสลับฟรีเวย์ยังได้ไม่ถึง 9 โลลิตร
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,609
    • อีเมล์
Re: มือสอง 2002-2004 BMW X5 E53 4.4i ปัญหาและลักษณะการใช้งาน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2015, 21:28:17 »
เคยใช้แค่ตัว 3.0i ครับ

ทนดีนะครับไม่ค่อยมีเสีย ถ้าคุณไม่ไปจุกจิกกับมันเอง
กินน้ำมันในเมืองวิ่งแถวๆเพชรบุรี สุขุมวิท 4-5 โลลิตรครับ แต่รับได้ครับเมื่อเทียบกับขนาดรถ
วิ่งยาวๆ 8-9 โลลิตร  ขับทางไกลมั่นใจดี ไม่เหนื่อยครับ

ออฟไลน์ Numerargentique

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
Re: มือสอง 2002-2004 BMW X5 E53 4.4i ปัญหาและลักษณะการใช้งาน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2015, 15:29:03 »
ปัญหาใหญ่ของ 4.4i คือ Self Leveling Suspension อาจจะเกิดจากการรวนของโช๊คถุงลมครับ อีกทั้งโช๊คถุงลมก็รั่วบ่อยครับ ถ้าได้คันที่เปลี่ยนเป็นสปริงค์แล้วจะลดการปวดหัวไปได้เยอะเลยครับ ยิ่งถ้าขับเข้าไซค์งานน่าจะต้องเป็นสปริงค์ครับ ข้อจุกจิกอื่นๆก็เหมือน BMW ทั่วไปครับ อะไหล่อาจจะแพงกว่ารุ่นอื่นๆอยู่บ้างครับ อะไหล่ยังมีอยู่ทั้งมือหนึ่ง มือสองครับ แต่บางตัวอาจจะต้องรอสั่งหน่อยครับ

สมรรถนะ อัตราเร่งดีมากครับ ถึงจะไม่หวือหวาเหมือนเทอร์โบรุ่นใหม่ๆที่กำลังมาตั้งแต่รอบต่ำๆ แต่ V8 4.4L ก็มีกำลังให้ใช้เยอะครับ
ถึงจะนน.ตัวค่อนข้างมากแต่เร่งแซงเหลือๆไม่ต้องลุ้นครับ เกียร์เป็นรุ่นที่ปรับ Sport - Eco ไม่ได้เพราะฉะนั้นอัตราเร่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยผู้ขับครับ
ช่วงล่างอาจจะมีกระเด้งกระดอนบ้างถ้าเจอคอสะพานชันๆ ตามประสา SAV แต่โดยรวมถือว่าดีมากเหมือนขับรถซีดานครับ ขับแล้วมั่นใจว่าเกาะถนนกว่าซีดานหลายๆรุ่นครับ
180-200 ยังมั่นใจ แต่เกิน 200 เริ่มหวิวๆครับอาจจะเนื่องมาจากรถที่ค่อนข้างสูง พวงมาลัยอาจจะไม่แม่นยำ และเบาเท่าพวกที่เป็นไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ
แต่ถ้าชินแล้วก็ไม่หนักมือมากนักครับ

กินน้ำมันค่อนข้างจุนิดนึงครับ โดยรวมถือว่าคุ้มค่ากับราคาในปัจจุบันครับ อาจจะต้องดูแลมากหน่อยเพราะรถอายุค่อนข้างมากแล้วครับ