ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ  (อ่าน 16474 ครั้ง)

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,997
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2015, 16:39:06 »
ผมอยากรู้จริงๆถ้าปาตัวท๊อปปรับเป็นราคาเต็มแล้ว จะมีคนซื้อไหมครับ หรือว่าจะมีคนซื้อแค่ตอนราคาโปรเท่านั้น 5555

ราคาเต็มก็ยังมีคนซื้อเพราะความคุ้มค่าครับผม
อย่าลืมว่า Pajero sport ไม่ใช่ว่าเป็นรถที่ไม่ดีนะครับผม
ตัวเก่าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับผม ใช้ดีปัญหาน้อยมากครับ

ออฟไลน์ pjs6306

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,107
    • อีเมล์
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2015, 20:13:47 »
ท้ายฟอ เทียบกับปาตัวเก่าคือเฉยๆมากคับ

ออฟไลน์ veturilo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2015, 20:55:12 »
ผมไปลองนั่งมา ผมว่าบรรยากาศในห้องโดยสาร FTN ดูมีราคาว่าปาปอดนะครับ
ท่านั่งขับ ที่วางแขน leg room คนขับ สบายกว่าปาปอด วัสดุที่ FTN เลือกมาบุนุ่ม เดินด้าย
มันทำให้เหมาะกับราคามากกว่า (ยกเว้ณ FTN 2.8V อันนี้หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมมันราคานั้น)
ของปาปอดมันดูสวยล้ำยุคก็จริง แต่มันพลาสติกๆแข็งๆหมดเลย อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ

แต่ถ้าเอาของเล่น option เนี้ย ปาปอดกินขาด แต่ผมซื้อรถผมซื้อมาขับอ่ะนะ ไม่ได้มาเล่นของเล่น
ดังนั้น อันไหนนั่งขับสบายกว่าก็เอาอันนั้น ถ้าในพิกัด 2.4 ผมไป FTN ครับ นั่งขับสบายกว่า
บรรยากาศห้องโดยสารหรูหราดี ลายไม้ด้านสวยมาก ของจำเป็นมาให้ครบ...

ออฟไลน์ carenaruk

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 821
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2015, 21:56:26 »
ผมอยากรู้จริงๆถ้าปาตัวท๊อปปรับเป็นราคาเต็มแล้ว จะมีคนซื้อไหมครับ หรือว่าจะมีคนซื้อแค่ตอนราคาโปรเท่านั้น 5555
จำสมาชิกท่านนี้ได้แม่นเลย "ติ่งฟอร์"ใช่มั้ยครับ

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,997
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2015, 22:19:18 »
ผมพยายามหาข้อมูลเชิงลึกนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะหายังไงนะครับผม

ผมว่า เรื่องความน้่งสบาย คงไม่ต่างกันระดับ ฟ้ากับเหว ผมว่า สองคันนี้ผมรับได้
เรื่อง Option ไม่ว่า จะน้อยจะมาก สำหรับ ผมว่า มันก็พอรับได้ทั้งสองยี่ห้อครับ
ส่วนความสวย ก็แล้วแต่จะเลือกครับผม
For ก็เห็นมีปัญหาเรื่อง เกียร์ และก็ประตูท้าย  อันนี้รถใหม่เลยนะครับผม

และวันนี้ได้มีโอกาสดูคลิปที่เขาทดสอบ Revo แล้วพูดถึงเทคโนโลยีเครื่องยนต์
ไม่ได้บอกว่าอะไรดีกว่า หรือ ด้อยกว่านะครับผม  เครื่อง GD ของ Revo ใช้ระบบโซ่ราวลิ้น ละก็ระบบอะไรผมจำไม่ได้ว่า ไม่ต้องปรับตั้งตลอดเท่าอายุเครื่องยนต์
กรองน้ำมันก็ราคาถูกลงและระยะการเปลี่ยนเพิ่มขึ้นประมาณนั้นครับผม  บางอย่างผมไม่เข้าใจศัพท์ทางระบบเท่าไหร่
แต่เอาที่ เคยประสบมาก โซ่ราวลิ้น เขาโฆษณาว่า อย่างน้อยจะเปลี่ยนอีกครั้ง ก็ประมาณ 4 แสนกิโลเมต ซึ่งเป็นระยะที่น่าประทับใจครับ ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดา ผมว่า น่าจะ 10 ปีขึ้นไป
แต่เครื่องมิตซู ผมไม่แน่ใจว่า ใช้ สายพานไทม์มิ่งเหมือนเดิม หรือเปล่า ถ้าใช้เหมือนเดิม ก็จะเปลี่ยนกันประมาณ 1 แสน - 1.5 แสน กิโลเมตร โดยประมาณ ซึ่งถ้าเปลี่ยนทั้งชุด(ซึ่งควรเปลี่ยนทั้งชุด)
ก็เกือบหมื่นและผมมองว่ามันเป็นการซ่อมรถที่รื้อเยอะพอสมควร(มันทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจว่าเวลาที่ช่างทำแล้วจะเหมือนกับของเดิมหรือเปล่า แต่ ช่างก็ทำดีนะครับ555) แล้วยังมี Turbo ซึ่งปัจจุบัน
ที่ใช้ใน Revo และ Fortuner นั้น ชุด Turbo มีอะไหล่แยกชิ้นให้ซ่อมได้ ไม่ใช่ยกทั้งชุด แต่ของมิตซู ผมไม่รู้ว่า ต้องยกชุดหรือมีแยกชิ้นเหลือเปล่า(แต่ผมก็ไม่เคยซ่อมนะ) แต่ถ้าเข้าศูนย์มิตซู
ไม่ว่าซ๋อมอะไรทางศูนย์จะพยายาม ยังไงก็ได้ให้เราเปลี่ยนทั้งหมด ถามว่าดีไหม ได้ของใหม่หมด ดีครับ แต่ว่า รวมๆ แล้ว มันหลายเงินเหลือเกินในบางครั้ง ควรจะเป็นเลือกเปลี่ยนเฉพาะ
คือใส่ใจให้เรามากขึ้นหน่อย และหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าหน่อย ไม่ใช่ เอะอะ ทั้งชุดๆ ประมาณนั้นครับ  ไอ้ที่เปลี่ยนนะ มันเงินผมนะ ไม่ใช้เงินศูนย์

คือ ถ้าเป็นผม ถ้า ซื้อ Fortuner แล้วรู้สึกสบายใจกว่าและต้องบำรุงรักษาน้อยกว่า จ่ายแพงกว่า 2 แสน ผมก็ซื้อครับ  สุดท้าย อาจจะคุ้มกว่าตอนซื้อถูกกว่าก็ได้ครับ
เพราะความสบายใจ ความสุขในการใช้  บางครั้งมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้ครับ

แต่ ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่เลือกนะครับผม ผมขอรอดูสถานะการณ์ไปก่อน แม้ปีหน้าจะขึ้นราคา ก็ยอมครับ  ก็เพราะเหตุผลเดิมครับ ผมไม่อยากหงุดหงิด ไม่อยากจะไปเถียงหรือต้องไปต่อรองกับศูนย์
หรือต้องรอให้เขาแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้วิธีแก้ไขมันทำให้ผมเหนื่อย ผมยอมจ่ายเพิ่ม และใช้รถคันเก่าไปก่อน เมื่อรถพร้อม ปัญหาน้อย ก็ค่อยว่ากันว่าจะเอารุ่นไหนครับผม

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับผม อย่าว่าผมนะครับผม :)

ออฟไลน์ taxi-meter

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2015, 00:09:09 »
ใช่ครับ ผมติ่งฟอร์ 555(ขอบคุณที่จำได้) ผมพูดตรงๆนะครับที่ผมซื้อฟอร์ก็เพราะว่าผมไม่เห็นว่าปากับEVจะมีอะไรดีไปมากกว่าฟอร์เลย เพราะว่าไอที่ดีกว่าก็มี แต่ไอที่ไม่ดีก็มี คือว่าถ้าจะเอามาแข่งกันจริงๆก็น่าจะทำมาให้ดีขาดกันไปเลย ไหนๆก็สู้เรื่องหลังการขายไม่ได้อยู่แล้ว จะได้ชนะฟอร์แบบใสๆกันไปเลย ปาก็โดนบ่นเรื่องภายในเยอะมากกกก EVก็ขายตัวรถอย่างเดียวแต่หลังการขายไม่เห็นจะมีดีอะไรเลย อะไรๆก็พูดแต่เรื่องความคุ้มค่าเงิน ผมไม่เห็นว่าฟอร์จะไม่คุ้มค่าเงินตรงไหน มันอยู่ที่คนเลือกรถครับ ว่าชอบแบบไหน ชอบที่ตัวรถ หรือชอบที่บริการหลังการขาย เอาไว้มิตซูกับฟอร์ดไปพัฒนาเรื่องศูนย์บริการให้มีเท่ากับโตโยก่อนนะครับ แล้วค่อยมาดูกันว่าจะทำรถได้ดีกว่าโตโยอีกมั๊ย  :P :P :P

ออฟไลน์ porcupine

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 247
    • อีเมล์
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2015, 07:57:42 »
ใช่ครับ ผมติ่งฟอร์ 555(ขอบคุณที่จำได้) ผมพูดตรงๆนะครับที่ผมซื้อฟอร์ก็เพราะว่าผมไม่เห็นว่าปากับEVจะมีอะไรดีไปมากกว่าฟอร์เลย เพราะว่าไอที่ดีกว่าก็มี แต่ไอที่ไม่ดีก็มี คือว่าถ้าจะเอามาแข่งกันจริงๆก็น่าจะทำมาให้ดีขาดกันไปเลย ไหนๆก็สู้เรื่องหลังการขายไม่ได้อยู่แล้ว จะได้ชนะฟอร์แบบใสๆกันไปเลย ปาก็โดนบ่นเรื่องภายในเยอะมากกกก EVก็ขายตัวรถอย่างเดียวแต่หลังการขายไม่เห็นจะมีดีอะไรเลย อะไรๆก็พูดแต่เรื่องความคุ้มค่าเงิน ผมไม่เห็นว่าฟอร์จะไม่คุ้มค่าเงินตรงไหน มันอยู่ที่คนเลือกรถครับ ว่าชอบแบบไหน ชอบที่ตัวรถ หรือชอบที่บริการหลังการขาย เอาไว้มิตซูกับฟอร์ดไปพัฒนาเรื่องศูนย์บริการให้มีเท่ากับโตโยก่อนนะครับ แล้วค่อยมาดูกันว่าจะทำรถได้ดีกว่าโตโยอีกมั๊ย  :P :P :P

ไม่ใช่ติ่งยี่ห้อไหน แต่เท่าที่ใช้รถมาหลายยี่ห้อเจ้าตลาดมีปัญหาน้อยสุดครับ แล้วแก้จบ ผมเชื่อว่ารถขายดียังไงต้องมีจุดแข็งที่ยี่ห้อรองลงมาสู้ไม่ได้ สรุปถ้าให้เลือกก็คงซื้อเจ้าตลาดครับ ขับ เข้า 0 ขับ เข้า 0 ไม่ต้องซ่อมให้ปวดหัว

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2015, 08:48:22 »
ผมพยายามหาข้อมูลเชิงลึกนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะหายังไงนะครับผม

ผมว่า เรื่องความน้่งสบาย คงไม่ต่างกันระดับ ฟ้ากับเหว ผมว่า สองคันนี้ผมรับได้
เรื่อง Option ไม่ว่า จะน้อยจะมาก สำหรับ ผมว่า มันก็พอรับได้ทั้งสองยี่ห้อครับ
ส่วนความสวย ก็แล้วแต่จะเลือกครับผม
For ก็เห็นมีปัญหาเรื่อง เกียร์ และก็ประตูท้าย  อันนี้รถใหม่เลยนะครับผม

และวันนี้ได้มีโอกาสดูคลิปที่เขาทดสอบ Revo แล้วพูดถึงเทคโนโลยีเครื่องยนต์
ไม่ได้บอกว่าอะไรดีกว่า หรือ ด้อยกว่านะครับผม  เครื่อง GD ของ Revo ใช้ระบบโซ่ราวลิ้น ละก็ระบบอะไรผมจำไม่ได้ว่า ไม่ต้องปรับตั้งตลอดเท่าอายุเครื่องยนต์
กรองน้ำมันก็ราคาถูกลงและระยะการเปลี่ยนเพิ่มขึ้นประมาณนั้นครับผม  บางอย่างผมไม่เข้าใจศัพท์ทางระบบเท่าไหร่
แต่เอาที่ เคยประสบมาก โซ่ราวลิ้น เขาโฆษณาว่า อย่างน้อยจะเปลี่ยนอีกครั้ง ก็ประมาณ 4 แสนกิโลเมต ซึ่งเป็นระยะที่น่าประทับใจครับ ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดา ผมว่า น่าจะ 10 ปีขึ้นไป
แต่เครื่องมิตซู ผมไม่แน่ใจว่า ใช้ สายพานไทม์มิ่งเหมือนเดิม หรือเปล่า ถ้าใช้เหมือนเดิม ก็จะเปลี่ยนกันประมาณ 1 แสน - 1.5 แสน กิโลเมตร โดยประมาณ ซึ่งถ้าเปลี่ยนทั้งชุด(ซึ่งควรเปลี่ยนทั้งชุด)
ก็เกือบหมื่นและผมมองว่ามันเป็นการซ่อมรถที่รื้อเยอะพอสมควร(มันทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจว่าเวลาที่ช่างทำแล้วจะเหมือนกับของเดิมหรือเปล่า แต่ ช่างก็ทำดีนะครับ555) แล้วยังมี Turbo ซึ่งปัจจุบัน
ที่ใช้ใน Revo และ Fortuner นั้น ชุด Turbo มีอะไหล่แยกชิ้นให้ซ่อมได้ ไม่ใช่ยกทั้งชุด แต่ของมิตซู ผมไม่รู้ว่า ต้องยกชุดหรือมีแยกชิ้นเหลือเปล่า(แต่ผมก็ไม่เคยซ่อมนะ) แต่ถ้าเข้าศูนย์มิตซู
ไม่ว่าซ๋อมอะไรทางศูนย์จะพยายาม ยังไงก็ได้ให้เราเปลี่ยนทั้งหมด ถามว่าดีไหม ได้ของใหม่หมด ดีครับ แต่ว่า รวมๆ แล้ว มันหลายเงินเหลือเกินในบางครั้ง ควรจะเป็นเลือกเปลี่ยนเฉพาะ
คือใส่ใจให้เรามากขึ้นหน่อย และหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าหน่อย ไม่ใช่ เอะอะ ทั้งชุดๆ ประมาณนั้นครับ  ไอ้ที่เปลี่ยนนะ มันเงินผมนะ ไม่ใช้เงินศูนย์

คือ ถ้าเป็นผม ถ้า ซื้อ Fortuner แล้วรู้สึกสบายใจกว่าและต้องบำรุงรักษาน้อยกว่า จ่ายแพงกว่า 2 แสน ผมก็ซื้อครับ  สุดท้าย อาจจะคุ้มกว่าตอนซื้อถูกกว่าก็ได้ครับ
เพราะความสบายใจ ความสุขในการใช้  บางครั้งมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้ครับ

แต่ ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่เลือกนะครับผม ผมขอรอดูสถานะการณ์ไปก่อน แม้ปีหน้าจะขึ้นราคา ก็ยอมครับ  ก็เพราะเหตุผลเดิมครับ ผมไม่อยากหงุดหงิด ไม่อยากจะไปเถียงหรือต้องไปต่อรองกับศูนย์
หรือต้องรอให้เขาแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้วิธีแก้ไขมันทำให้ผมเหนื่อย ผมยอมจ่ายเพิ่ม และใช้รถคันเก่าไปก่อน เมื่อรถพร้อม ปัญหาน้อย ก็ค่อยว่ากันว่าจะเอารุ่นไหนครับผม

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับผม อย่าว่าผมนะครับผม :)

ชอบใจ คห. นี้ครับ อธิบายด้วยเหตุผลอย่างมีตรรกะ ไม่ใช่เอาอารมณ์ส่วนตัวมาเป็นหลัก
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
Re: ถ้าไม่ใช่ตัว top ระหว่าง Pajero sport กับ Fortuner คันไหนดีครับ
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2015, 09:31:30 »
คิดแบบคนจะซื้อจริง ไม่ใช่เอามัน คือ ถ้ากูไม่ซื้อคิดเล่นๆ พิมพ์มันๆ มันก็ง่าย เอาสนุก
แต่สำหรับคนจะซือจริงนี่ จะซื้อสดหรือผ่อนก็ตามถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับครอบครัวเลย
ยิ่งพวกที่มี bias หรือ brand loyalty มาแล้วนี่มันจบ ตั้งแต่ brand แล้ว

ถ้าไม่ใช่ตัว Top ตามที่ จขกท.ว่า
PJS 1,250,000
FTN 1,369,000

ส่วนต่าง 119,000 แต่ FTN ไม่แถม ป.1 น่าจะประมาณ 28,000 บาท = ต่างกัน 147,000
ส่วนเรื่อง ด/บ ผมไม่แน่ใจว่าต่างกันมากน้อย

คุ้มไหม อปก. ทั้ง 2 ตัวใกล้เคียงกัน
แต่ passive safety PJS มี 2 airbags แต่ FTN 7 airbags
แต่ active safety PJS มีให้มากกว่า

เรื่องสายพานราวลิ้นเครื่องใน กท. ด้านบนให้ คห. ไว้น่าสนใจ
เรื่องเกียร์ ความทนทานนี่ ไม่น่ามีใครทราบ นอกจากคาดเดา เพราะถ้าผู้ผลิตเดียวกัน ความทนทานก็น่าจะเท่ากัน
หรือมันมีหลายเกรด
เครื่องยนต์ ใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ไม่ยืนยันความทนทาน แต่ FTN น่าจะเหนือกว่านะ
ช่วงล่าง น่าจะใกล้เคียงกัน ราคาอะไหล่ ผมเคยเป็นเจ้าของมาทั้ง Triton และ Vigo ผมว่าใกล้เคียงกัน
เบรค ดูจากพื้นฐาน ผมให้ PJS เหนือกว่า FTN

ราคาขายต่อ FTN น่าจะเหนือกว่า แต่ถ้านำเอาราคาตอนซื้อมาคำนวนเป็น % ด้วย ผมว่าห่างกันไม่มาก
เช่น FTN 550,000 PJS 450,000 ในระยะ 10 ปี
แต่ถ้า FTN ตัวไมเนอร์ นี้มีดิสค์เบรคหลัง เบาะไฟฟ้าข้างคนขับ ราคาปรับขึ้นนิดหน่อย ตัวที่ออกมาตอนนี้น่าจะ
ตกลงมาก

ถ้าถามให้ผมเลือก ตอนนี้ ผมก็ยังเลือกไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ลองสัมผัสจริงๆ จังๆ เลย และตอนนี้ ปห.ของคุณ
กับของผม คือ ปห.เดียวกัน คิดจะออกเหมือนกัน แต่ถ้าอ่านตาม K.Jimmy
ผมว่า PJS น่าสนใจมาก ผมจะไปนั่งคิดในรถโชว์นานๆ แล้วตัดสินใจครับ
แต่คงตัดสินใจก่อน สิ้น กย.นี้ เพราะปีหน้าภาษีปรับอีก อย่างน้อย +50,000 - 80,000 เท่ากับว่า
FTN 1,449,000 PJS2wd 1,330,000 PJS4wd 1,530,000 ช่างโหดร้าย
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"